ทดสอบสารโพแทสเซียมคลอเรตจากเยอรมันและจีน

[BooZagass]

รูปภาพด้านซ้ายคือสาร KClO3 ที่สร้างจากห้องแล็ปที่ทำงาน ส่วนทางขวาคือสาร KClO3 จากจีน โดยใช้สารวัดความเข้มข้นของคลอรีน เป็นตัวทดสอบ เราใช้สารทั้งสองในปริมาณที่เท่ากัน และใช้สารทดสอบ ถ้าเกิดว่าน้ำมีสีเหลืองก็หมายถึงมีปริมาณของคลอรีนอยู่ มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสี ตอนนี้เกษตรกรก็ได้เห็นแล้วว่า สินค้าที่วางขายตามท้องตลาดนั้น มีคุณภาพมากน้อยเพียงใด

1.เกลือโพแทสเซียมคือสารที่ใช้สร้างความเค็มให้กับพืช ถ้าใช้่มากไปพืชก็จะได้รับความเสียหาย
2.คลอรีนมีความจำเป็นอย่างมากในการรักษาความเค็มของเกลือไว้ได้นานเพื่อสร้างความเครียดแก่พืช บังคับให้พืชออกดอก

ถ้าเกิืดว่าสารที่เราใช้มีปริมาณคลอรีนที่่น้อยหรือแทบไม่มี พืชก็จะไม่ออกดอกหรือออกดอกน้อย เพราะว่าไม่มีสารที่ไปรักษาระดับความเครียดให้อยู่ได้นาน ลำไยจะออกดอกได้ดีต้องมีอากาศหนาวราว 10 องศา เป็นเวลา สิบกว่าวันติดต่อกัน ฉะนั้นก็เหมือนกับคลอรีนที่จะเป็นตัวรักษาความเค็ม(ความเครียด) กับลำไยให้ได้นานราว 7-10 วัน ถ้าไม่มีคลอรีนลำไยก็จะไม่เครียดและไม่ออกดอก แต่จะแตกใบขึ้นมาแทน

ของแบบนี้ทดสอบโดยให้เกษตรกรไปซื้อน้ำยาทดสอบคลอรีนที่ร้านเคมีทั่วไปครับ
ปล. ไม่ได้ดิสเครดิตแต่อยากให้เกษตรกรรับรู้ความจริงที่เกิดขึ้นครับ เพราะเราเสียหายมาเยอะแล้ว

[spyman]

แสดงว่า สาดราดลำไย ทำมาจาก เกลือโพแทสเซี่ยม+คลอลีน ใช่ไหมครับ
เราสามารถทดสอบความเข้มข้นของคลอลีนเพื่อให้รู้ว่า ตัวสารมีคลอลีนผสมมามากน้อยแค่ไหน ใช่ไหมครับ
เป็นการทดสอบเบื้องต้นหรือว่าเป็นการทดสอบที่สามารถระบุถึงคุณภาพตัวสารครับ
สมมติ สารยี่ห้อ A มีความเข้มข้นกว่า ยี่ห้อ B แสดงว่าสาร ยี่ห้อ A ดีกว่าหรือปล่าวครับ
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เราก็สามารถเลือกซื้อสารที่มีคุณภาพได้ใช่ไหมครับ

ยังมีอีกหลายคำถามครับ คุณ Boo รีบมาต่อเลยนะครับ

[BooZagass]

โพแทสเซียมคลอเรตมีสูตรทางเคมี KClO3 ก็คือ มี K(โพแทสเซียม)+Cl(คลอรีน)+O3(ออกซิเจน 3 หน่วย) โดยทั่วไปแล้วโพแทสเซียมคลอไรด์มีสูตรคือ KCl คือมีโพแทสเซียมและคลอรีนเป็นอนุพันธ์(K ประมาณ 60 % Cl ประมาณ 37 % ที่เหลือคือแร่ธาตุที่สกัดออกไม่หมดอีก 3 %) KCl ไม่ได้ช่วยให้ติดไฟ แต่ KClO3 ช่วยให้ติดไฟ ก็เท่านั้นเองเพราะมีออกซิเจนเป็นองค์ประกอบของอนุพันธ์

แล้วถามว่า ปริมาณความเข้มข้นของคลอรีนมีส่วนวัดคุณภาพของสินค้าหรือป่าวก็คือใช่
ถูกต้องครับ เพราะตามสูตรโมเลกุลแล้วก็ต้องเป็นเช่นนั้นเสมอ ถ้าไม่เป็นตามสูตรแล้วจะเรียกว่าของแท้ได้ไงใช่ไหมครับ เปอร์เซ็นต์หายไปแทบไม่มีเลยมันก็แปลก ๆ นะครับ แล้วมาบอกว่า 99.99 เปอร์เซ็นต์มันหมายถึงอะไร น่าคิด

อาจจะมีบางคนคิดในใจว่างั้นก็ใช้ไฮเตอร์ผสมเพิ่มเข้าไปสิ จะได้มีคลอรีนเยอะๆไม่เห็นยากเลย ใช่ครับในไฮเตอร์มีคลอรีน แต่เป็นในรูปของก๊าซ(ก๊าซคลอรีนกลิ่นฉุน) ทุกครั้งที่ไฮเตอร์ผสมกับน้ำ ไฮเตอร์จะแตกตัวเป็น HOCl เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกทันที ทำให้ปริมาณของคลอรีนที่จะไปมีผลกับลำไยแทบไม่เหลือเลย ยิ่งน้ำที่มาผสมก่อนพ่นเป็นน้ำคลองยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะเหลือครับ

[kimzagass]

[spyman]

จากลักษณะเนื้อสาร คือ เป็นผงละเอียดละลายน้ำได้
ตามที่เข้าใจ คือ จะมีประมาณ K 6 ส่วน cl 4 ส่วน
และถ้าสาร cl มีน้อย หมายความว่า ราคาต่อหน่วยแพงกว่า หรือว่า คุณภาพไม่ดี
หรือเขาไม่รู้ว่าควรใส่อัตราส่วนเท่าไดครับ

แล้วจะหาทางแก้ด้วยวิธีไหนดีครับ


สำหรับหลายท่านที่ไม่รู้ (เช่นผม) กระทู้แบบนี้ถือเป็น ประโยชน์มากครับ



.

[BooZagass]

ตามที่ลุงคิมเข้าใจมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดและไม่ใช่เรื่องที่ถูกทั้งหมดนะครับ
ผมเคยเล่าเรื่องกล้วยไม้ไปแล้วที่กระทู้ที่แล้ว ไม่มีการใส่ปุ๋ยใด ๆ เลย
ทำไมกล้วยไม้นั้นถึงออกดอกอีกครั้งทั้งที่ไม่เคยออกดอกเลย(รดแต่น้ำ N ล้วนๆ)

ก่อนที่ผมจะมาทำงานแล็ป ผมเคยเดินทางไปทั่วประเทศกับงานเอกชนแห่งหนึ่ง
สงขลาผมก็เคยไปครับลุงคิม ลำไยที่สงขลาทำลำบากมาก เพราะฝน 8 แดด 4
เขาก็เลยใช้สารโซเดียมคลอเรตราด (เมื่อก่อนไม่มีสารคลอเรต ลำไยไม่ค่อยออกดอกแต่หลังมีสารคลอเรตก็เริ่มนำลำไยมาปลูกมากขึ้น ส่วนมากปลูกยาง ปลูกปาล์ม) เพื่อให้ดอกออก ที่ออกเดือน ก.ค ไม่แปลกหรอกครับ ที่ อ.พร้าว ก็ออกราว มีนา เมษา เช่นกัน เพราะสภาพดินแต่ละที่ อากาศแต่ละที่แตกต่างกัน

เรื่องความหนาวเย็นเป็นส่วนหนึ่งของการออกดอกเยอะ หรือน้อยตามธรรมชาติเท่านั้น ความเย็นมาก คาร์บอนในอากาศมาก ก็คือ C ที่ลุงคิมเข้าใจแหละครับ ไม่ต่างกัน ที่การไม่รดน้ำนั้น เป็นเพียงการทำให้รากไม่สามารถดูดซึมอาหารได้เท่านั้นส่งผลไปยังใบ ทำให้ใบเริ่มเหลืองและร่วง (ทำให้เกิดความเครียด พอฝนตกมาก็จบ)
อ.ป่าซาง ลุงผมทำลำไย 30 ไร่อยู่เหมือนกัน ราดสาร พ่นสารเพื่อให้ออกเดือน ก.ค. เพราะราคาจะดีกว่า แต่ถ้าไม่ราดสาร ก็ลำบาก เพราะที่ลำพูนฝนจะตกช่วงพฤษภา-กรกฎา พอดี (ทุนประมาณ 6 แสนบาททุกปี เพื่อให้ออกดอก)

ก่อนหน้านี้เรื่อง C/N ratio เป็นทฤษฎีของต่างชาติคนไทยไม่ค่อยรู้จัก
และไม่ค่อยสนใจ แต่หลังจากมีสารจำพวกเร่งดอกเข้ามาก็เลยกลับมาดังอีกครั้ง

งั้นผมฝากลุงคิมหาคำตอบให้หน่อยว่า ทำไมซากุระเมืองไทยถึงออกเฉพาะหน้าหนาว ปีไหนไม่หนาวไม่ออก ราดสารคลอเรตก็ไม่ได้ พ่นนมก็ไม่ออก

มีอะไรอีกเยอะที่ต้องศึกษาครับ ต้นไม้ทุกต้นไม่ได้มีฮอร์โมนการตอบสนองเหมือนกันหมด มะม่วงแค่หนาวนิดเดียวก็ออกดอกแล้ว ไม่ต้องพ่นสารอะไรเลยก็ออก ไม่ต้องสะสมอาหารหน้าบ้านผมออกทุกปี กระท้อนไม่ได้ใส่ปุ๋ยสะสมอาหาร ก็ออกทุกปี ออกก่อนลำไยออกประมาณ 2 เดือนได้ ยังมีอีกเยอะครับที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบไม่ได้ ........ มึน งง สรีระวิทยา





.

[BooZagass]

แล้วก็เคยมีท่านหนึ่ง ทำบล๊อกเกี่ยวกับการทำลำไยนอกฤดูโดยการบำรุง (C/N ratio) ไม่ใส่สารคลอเรต ผลที่ได้ คือ ต้นที่สมบูรณ์แตกใบกันระนาว ดูสวยงาม

หลังๆ มาใช้น้ำหมักปลา (น้ำปลานั้นแหละ ต่างอะไรกับโซเดียมคลอไรด์ครับ NaCl เกลือโซเดียม + คลอรีน) ลองเอาราดหญ้าดูว่าตายไหม ราดในอัตรา 1 ซีซี. ต่อน้ำหนึ่งลิตร ทำนอกฤดูที่สุรินทร์ ลำไยออกครับ ดีใจด้วย C/N ratio สำเร็จแล้ว



.

[BooZagass]

ทางแก้ของคุณ spyman ก็คงต้องเพิ่มปริมาณ หรือไม่ก็หาสารที่มีคุณภาพกว่า คือมีปริมาณคลอรีนต่อหน่อยเยอะกว่าไปใช้นะครับ เพราะสารที่ขายตามท้องตลาดก็อย่างที่เห็นแหละครับ ราคาถูกแต่ไม่ค่อยมีคลอรีนมีแต่เกลือ ^___^

[BooZagass]

ลำไยพ่นสารด้านบนอย่างเดียว (ไม่ใส่ด้านล่าง) ไม่ค่อยได้ใส่ปุ๋ย ได้จัมโบ้เกือบทั้งส่วนครับ ใหญ่กว่าเหรียญ 10 อีกนะครับ



.