-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - เน็ตไปวิทยุ-วิทยุมาเน็ต...ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

เน็ตไปวิทยุ-วิทยุมาเน็ต...ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 03/12/2012 12:27 pm    ชื่อกระทู้: เน็ตไปวิทยุ-วิทยุมาเน็ต...ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สมช.เน็ต ส่งคำถามไปที่รายการวิทยุ ..... ตอบทั้งเน็ตและวิทยุ.....O.K. ?


3 DEC.

จาก : (081) 727-44xx
ข้อความ : เห็นรูปแตงกวาเป็น รูปดาว รูปหัวใจ ในเน็ต ที่ สมช.แดงศาลายา โพสต์ไว้ อยากรู้ว่าเขาทำอย่างไรครับ.....
ตอบ :
นานหลายปีจนจำไม่ได้แล้ว ตอนนั้นลุงคิมออกชายแดนอรัญญประเทศ คราวหนึ่งต้องออกภารกิจ "ปจว." ที่ต้องไป
พบปะประชาชน ได้มีโอกาสเห็นญี่ปุ่นทำแตงโมสี่เหลี่ยม แคนตาลูปปิรามิด ที่ จ.สระแก้ว

(....ที่นั่นปลูกแตงกวาญี่ปุ่นส่งญี่ปุ่นโดยเฉพาะ มีนักวิชาการญี่ปุ่นมาควบคุมการผลิตโดยตรง เน้นมากเรื่องสารอาหาร
และสารกำจัดโรคแมลงศัตรูพืช เขาใช้ผลิตภัณท์จากญี่ปุ่นเท่านั้น ดูแล้วของไทยน่าจะดีกว่า แต่ที่ต้องใช้ของญี่ปุ่น
เพราะ "ชาตินิยม" ซะมากกว่า....นึก นึก ม....ก็หลอกได้แต่ตาสียัยสาแหละว้า หลอก ก...น่ะยากส์....)

เขาใช้บล็อคอะคีริค แข็ง ใส รูปทรงตามต้องการ เมื่อแตงโมหรือแคนตาลูปโตได้ประมาณ 50% +/- ได้นิด
หน่อย ไม่มีระยะหรือขนาดตายตัว ใส่เข้าไปบล็อคอะคีริค แล้วจัดที่วางลูกใหม่ เขาใช้อะคีริคใสก็เพื่อให้แสงแดด
ผ่านเข้าไปถึงผิวของผลได้ วันดีคืนดีก็จะพลิกผลกลับให้อีกด้านหนึ่งของผลในบล็อคได้รับแสงแดดบ้าง สีผลก็จะ
เท่าเสมอกันทั่วผล.....หลักการก็คือ บังคับให้ผลโตในบล็อคนั้น เมื่อผิวด้านข้างของผลชนผนังบล็อคแล้วจะโต
ต่อไม่ได้ แต่ผิวด้านหัวท้ายที่ยังไม่โดนผนังบล็อคจะโตต่อ โตต่อไปเรื่อยๆ จนสุด ขอบ-มุม ของบล็อค เขากะ
ขนาดบล็อคให้พอดีกับขนาดผล เมื่อผลโตเต็มบล็อค ผลก็จะแก่เต็มที่ให้เก็บเกี่ยวได้พอดี.....รู้มั้ย ทำ 100 ผล
ได้เกรดตามต้องการจริงๆแค่ 30 ผลเท่านั้นแหละ ทำอยู่ปีสองปีแล้วเลิก ไม่ใช่ทำยากแต่เพราะขายยากต่าง
หาก แตงโมปกติลูกละ 50 บาท แต่แตงโมสี่เหลี่ยม 3,000 (คิดเป็นเงินไทย) เศรษฐีจริงๆยังกินแค่ลูก
เดียวในชีวิต แล้วคนไม่ใช่เศรษฐีจะกล้าซื้อกินเหรอ เพราะถึงยังไง ผ่าออกมาแล้ว แตงโมก็คือแตงโม....ว่ามั้ย

คุณภาพกับนอกฤดู ต่างหากที่เป็นอมตะด้านตลาด.............ญี่ปุ่นพูดนะ

----------------------------------------------------------------------------




จาก : (084) 318-36xx
ข้อความ : อ่านในเน็ตกระทู้ นาข้าว ก.ทำกับมือ อ่าน 3-4 ครั้ง ปริ๊นท์ออกมาไว้อ่านตอนว่างอีก ถามลุงคิมว่า
ถ้าผมทำตามแบบ ก๊อปปี้กันเลย จะได้ผลตามนั้นไหมครับ ขอเหตุผลด้วยครับ....นับถือ

ตอบ :
เข้ามาตอบหลัง "แดง ศาลายา" เพราะเจตนาให้โอกาสคนอื่นบ้าง (....เก่งคนเดียว คือ ไม่เก่ง...เก่ง 2-3-4 คน
คือ เก่งด้วยกัน เก่งจริง เก่งแท้....) ตามสไตล์สังคมแห่งการแบ่งปัน.....ออกความเห็นเถอะ อย่ากลัวผิดเลย
ความผิดพลาด คือ ความสำเร็จ เพราะเมื่อทำใหม่จะไม่ผิดเหมือนเดิม ไงล่ะ

ธรรมชาติมี 1 เดียวเท่านั้น ใครจะกี่คนก็สุดแท้ ถ้าพูดความจริงจะพูดได้เหมือนกันหมด แม้วลีจะต่างกันแต่นัย
ไม่ต่างกัน

ขอบอกว่าแดง ศาลายา พูด "ถูกต้อง" แล้ว.....ลุงคิมไม่ต้องพูดก็ได้...ว่ามั้ย



เรื่องจริงไม่ใช่อิงนิยาย :
คำรณ มะลิทอง (086) 175-9545 นิวาสสถานอยู่ ใกล้โรงสีเส็งพานิช บ้านทึง สามชุก สุพรรณบุรี อาชีพหลัก
ทำนาข้าว 20 ไร่.....อดีตเคยทำได้ 80 ถัง/ไร่ วันหนึ่งหยุดคิดถึงตัวเอง จาก.....


- ทำแบบเดิม ได้เท่าเดิม-ทำแบบเดิม ได้น้อยกว่าเดิม..... แล้วคิดใหม่
- ทำแบบเดิม ต้นทุนเท่าเดิม แต่ได้เพิ่ม-ทำแบบใหม่ ต้นทุนต่ำ แต่ได้เพิ่ม
..จะได้ไหม ? ทำอย่างไร ?


ทอดสายมองไปยังท้องทุ่งแล้วตั้งโจทย์ให้กับตัวเอง
- ต้นทุน "จาก 6,000 /ไร่ ลงมาเป็น 5,000/ไร่ จาก 5,000/ไร่ ลงมาป็น 3,000/ไร่..." ได้หรือไม่ ?
ทำอย่างไร ?

กับผลผลิต "จาก 80 ถังให้เป็น 100 ถัง จาก 100 ถังให้เป็น 120 ถัง จาก 120 ถังให้เป็น 140 ถัง....ได้หรือไม่ ?
ทำอย่างไร ?

ราว 10 (+) ปีมาแล้ว คำรณ มะลิทอง กับผลผลิตที่เพิ่มบอกว่า "ทำได้เพราะ ใจ...ใจจริงๆ ใจเท่านั้น" เริ่มจากนา
ข้าวรุ่นนั้น รุ่นต่อมาผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก 80 ถัง ขึ้นเป็น 100 ถัง แล้วขึ้นเป็น 120 ขึ้นเป็น 137 ถัง/ไร่ .... หลายปี
แล้วที่ไม่ได้เจ๊อะเจอกัน จึงไม่รู้ว่าจากสถิติ 137 เปลี่ยนเป็น เพิ่มขึ้นหรือลดลง



ประเด็นที่จะนำเสนอ (เล่า) วันนี้ คือ "กำจัดวัชพืช สูตร คำรณ มะลิทอง" ....
เริ่มกำจัดวัชพืชในนาข้าว 20 ไร่
ด้วยวิธีย่ำเทือกแบบประณีต หลายๆรอบ หลายๆครั้ง ทุกกระทง.....

- นารุ่นแรก ข้าวระยะกล้าจนถึงเกี่ยว มี หญ้า/วัชพืช ไม่เกิน 10% เมื่อเทียบกับก่อนเริ่มปฏิบัติการครั้งแรก
- นารุ่นสอง ย่ำเทือกแบบประณีตอีกครั้ง คราวนี้มี หญ้า/วัชพืช ไม่เกิน 10% เมื่อเทียบกับนารุ่นแรก
- นารุ่นสาม ย่ำเทือกแบบประณีตอีกครั้ง วิเคราะห์แล้วเห็นชัดว่า หญ้า/วัชพืช ยังคง 10% เหมือนเดิม ตัดสินใจ
"จ้างคนถอน" นา 20 ไร่ คนรับจ้างขอ 200 บาท เพราะเห็นชัดแล้วว่า หญ้า/วัชพืช ไม่มากมายอะไร.....
เดินถอนหญ้าจนทั่ว เอามาแล้วนับ ได้ไม่ถึง 100 ต้น จ้างให้ถอนต่อ ถ้าถอนมาได้ 200 ต้น จะเพิ่มค่าจ้าง
ให้อีก 100 .... คราวนี้คนจ้างพิถีพิถัน หวังเอาเงินเพิ่ม ขนาดขึ้นไปยืนบนคันนา ขึ้นที่สูงมองไปที่ต่ำในแปลง
แล้วเดินไปถอนก็ต้องทำ.....งานนี้ได้ หญ้า/วัชพืช มาเพิ่มแต่ก็ยังไม่ถึง 200 ต้น กระนั้่นก็ต้องจ่ายค่าจ้าง
เพิ่มเพื่อเป็นสินน้ำใจ

- จากนารุ่นสาม ถึงวันนี้น่าจะกว่ารุ่น 20 เพราะที่นั่นย่านนั้นทำนาปีละ 2 รุ่น รุ่นปัจจุบันในนา 20 ไร่
มี หญ้า/วัชพืช ไม่ถึง 0.1% คาดว่าเกิดจากเมล็ด หญ้า/วัชพืช ที่นกขี้่ใส่ไว้ซะมากกว่า


เกือบ 20 ปี กับนาข้าว 20 ไร่ ใม่เคยใช้ ยาฆ่า/ยาคุม ใดๆทั้งสิ้น.....




.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 30/12/2012 7:46 pm, แก้ไขทั้งหมด 13 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 03/12/2012 2:36 pm    ชื่อกระทู้: แตงร้าน แตงกวา ทรูปดาว รูปหัวใจ ทำอย่างไร ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ลุงคิมครับ

กราบขออภัย ขออนุญาตชี้แจงก่อนที่ลุงจะ Comment ครับ



คำถาม..
จาก : (081) 727-44xx
ข้อความ : เห็นรูปแตงกวาเป็น รูปดาว รูปหัวใจ ในเน็ต ที่ สมช.แดงศาลายา โพสต์ไว้ อยากรู้ว่าเขาทำอย่างไรครับ.....

ที่คุณถามลุงคิม แสดงว่าคุณดูแต่รูป ไม่ได้อ่าน ฉะนั้น คุณต้องอ่านคำอธิบายประกอบรูปด้วย





รูปที่ 7 แตงกวา หรือแตงร้าน ทำพิมพ์ให้ดูแปลก สวย ๆ สวมเข้าไปตั้งแต่ลูกยังเล็ก พอลูกมันโต
ได้ขนาด มันก็จะมีรูปไปตามพิมพ์ที่สวมเข้าไป หั่นแล้วก็ออกมาแบบนี้




ชัดเจนนะครับว่า คุณต้องทำพิมพ์หรือทำแบบตามรูปที่คุณต้องการ สวมเข้าไปตั้งแต่ลูกมันยังเล็ก พอมันโตคับพิมพ์ก็จะได้
รูปทรงตามที่ต้องการ ....หรือคุณอยากจะทำผลไม้อย่างอื่น เช่น แตงโมตามรูปข้างล่างนี้ก็ทำได้



ทำออกมาครับ ที่ญี่ปุ่นขายลูกละ 5,000 บาท



ผมไม่แน่ใจว่า พิมพ์รูปต่างๆ จะมีขายตามร้ายขายอุปกรณ์ปลูกต้นไม้หรือเปล่า เคยเห็นที่ญี่ปุ่นมาจ้างคนไทยปลูกแตงกับมะ
เขือม่วงที่เชียงใหม่ เค้าทำสำเร็จรูปของเค้ามาเลย

แต่ถ้าจะทำเอง คุณก็ต้องหาท่อพลาสติคสีขุ่นๆ หรือสีทึบๆ หน่อย ความหนาก็ประมาณถ้วยกาแฟเย็น กลมประมาณ
ขวดยาหม่องตราลิงฉีกทุเรียนหรือโตกว่านิดหน่อย ถ้าเป็นแตงกวาก็ยาวประมาณ 3 นิ้ว ถ้าเป็นแตงร้านก็ประมาณ 6 นิ้ว
เอาไปรนไฟจากเตาแก๊สให้พลาสติคมันอ่อนตัว

ถ้าจะทำรูปหัวใจก็ง่ายหน่อย พอพลาสติคมันอ่อนตัว สวมถุงมือผ้าจับเพราะมันร้อน เอาไม้บรรทัดฟุตเหล็กสอดเข้าไป มือหนึ่ง
จับฟุตเหล็กวางตั้งกับขอบโต๊ะ อีกมือลูบที่หลอดพลาสติค แล้วกดค้างเอาไว้ พอพลาสติคมันเย็น มันก็จะเป็นสันแหลมขึ้นมา
ก็เอาด้านตรงข้ามรนไฟ ให้อ่อนตัวมากหน่อย พอได้ที่เอาขึ้นมาจับตั้งเอาสันแหลมวางข้างล่าง เอาฟุตเหล็กกดลงให้มันตรง
ข้ามกับสันแหลม พอพลาสติคแข็งตัว คุณก็จะได้หลอดหรือท่อที่เป็นรูปหัวใจ เอาสวมที่ลูกแตงแล้วเอามัดติดกับเถา มัน
จะได้ไม่หลุด ประมาณ 7-10 วันลูกมันก็โตคับพิมพ์ ลูกก็จะเป็นรูปตามที่ต้องการ

....เสร็จแล้วจะเอาลูกออกจากพิมพ์ได้ยังไง ใช้กรรไกรปลายสั้นๆ สอดเข้าไป ตัดพิมพ์ออก...ครับพิมพ์เค้าใช้แค่ครั้งเดียว
และเวลาเค้าขนส่ง เค้าขนไปทั้งพิมพ์ ลูกแตงอยู่ข้างในมันก็จะไไม่กระทบกระเทือน


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------




ส่วนคำถามที่ถาม
จาก : (084) 318-36xx
ข้อความ : อ่านในเน็ตกระทู้ นาข้าว ก.ทำกับมือ อ่าน 3-4 ครั้ง ปริ๊นท์ออกมาไว้อ่านตอนว่างอีก ถามลุงคิมว่า
ถ้าผมทำตามแบบ ก๊อปปี้กันเลย จะได้ผลตามนั้นไหมครับ ขอเหตุผลด้วยครับ.

ขอตอบ ถ้าคุณจะ Copy ตามนั้นเป๊ะ ๆ ตอบได้เลยว่า ทั้งได้ และไม่ได้ครับ ...เหตุผลคือ ลุงคิมพูดย้ำอยู่
บ่อยมาก ดินบ้านคุณ ดินบ้านผม อินทรีย์วัตถุในดินไม่เหมือนกัน ไม่เหมือนกัน ที่สำคัญ คุณจะบ้าพอที่จะ
ทำเทือก 5 ครั้งอย่างคนในรูปนั้นหรือเปล่า ...คุณต้องประยุกต์เอาแนวไปทำในที่นาของคุณครับ (อยู่ที่ไหนก็
ไม่รู้ ดินเหนียว หรือดินทราบก็ไม่รู้อีก) .

คุณจะเห็นว่า ย่ำรอบแรกเข่าแทบอ่อนแล้ว หญ้าขึ้นตรึมเลย ย่ำครั้งแรก ปล่อยให้หญ้ามันจม ทิ้ง ล่อให้หญ้ามัน
ขึ้น พอหญ้าขึ้น ย่ำครั้งที่สอง พอขึ้นมาอีก ย่ำครั้งที่สาม จนถึงครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้า ถ้าจะถามว่า แล้วมีหญ้าขึ้นมั๊ย
ตอบว่า มีครับ ....ผมน่ะภาวนาว่า เมื่อไหร่นักวิชาการจะวิจัยว่า หญ้าเป็นยาโด๊ป รับรองว่า ตัดหญ้าขายจะ
ดีกว่าปลูกข้าวนะครับ


หลังจากตีเทือกเสร็จก็ลูบเทือก ชักร่อง พอเสด็จน้ำ (น้าแห้ง) คุณจะหว่าน จะดำ จะหยอด จะโยน ก็เรื่องของ
คุณแล้ว ....และการทำนาตามแนวลุงคิม น้ำในนาแค่เจ๊าะแจ๊ะ แบบน้ำแห้งๆ และถ้าจะดำ ก็ดำแบบห่างๆ
ตามแบบกะเหรี่ยงปลูกข้าวบนดอยนั่นแหละ แตกกอดีเป็นบ้า



ขอให้ลุงกรุณา Comment ต่อด้วยครับ ผมก็จะพยายามหารูปมาลงตามที่ลุงจะ วิสัชชนาละครับ




ขอบคุณครับ



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 03/12/2012 2:49 pm    ชื่อกระทู้: ข้าวในน้ำเจ๊าะแจ๊ะ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

มีรูปข้าวแห้งน้ำ หรือมีน้ำเจ๊าะแจ๊ะให้ดูครับ



1 เมล็ด แตกกอ 23 ต้น ยังครับยังแยกอีกเพราะต้นยังเล็ก





ดินเริ่มแตกระแหง ข้่าวยังไม่เหี่ยวเลยครับ





ปล่อยน้ำเข้าเท่าที่จำเป็น หอยไม่มา เพลี้ยไม่มี ...ลองเอาไปประยุกต์กับนาของคุณนะครับ

ขอบคุณครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
songpon03122526
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 22/11/2012
ตอบ: 99

ตอบตอบ: 03/12/2012 3:38 pm    ชื่อกระทู้: ที่ไหน ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีลุงคิม และ สมช. ทุกท่าน

ดูรูปข้าวทนแล้ง แตกกอดี แล้วดีใจ สบายใจ
คุณแดงครับ ข้าวนี้อยู่จังหวัดอะไร ? พันธ์ข้าวอะไร ?


ขอบคุณครับ




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 04/12/2012 3:56 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

4 DEC






จาก : (081) 477-29xx
ข้อความ : ดูภาพนาข้าวในเน็ต ในนามีหญ้าสูงมาก เขาย่ำเทือกเลยโดยไม่ต้องไถก่อน อย่างนี้คงต้องย่ำหลายรอบ แต่ถ้า
ไถก่อนอาจะต้องย่ำรอบเดียว ลุงคิมคิดว่า อย่างไหนได้ประโยชน์ต่อต้นข้าว กับประหยัดต้นทุนกว่ากัน.....ขอบคุณครับ

ตอบ :
หลักการคิด :
- ภาพถ่าย 1 ภาพแทนคำพูด 1,000 คำ (เซอร์ วิลตัน เชอร์ชิล / รัฐบุรุษอังกฤษ)
- คำอธิบายภาพนี้มีแล้ว 1) ในเว้บนี้และเว้บอื่น 2) แปลงข้างเคียง ในอดีต-ปัจจุบัน 3) แปลงตัวเอง ในอดีต-ปัจจุบัน

เลือกจุดปักธง :
- ต้นทุน.....ระหว่าง "ค่าไถ 1 รอบ + ค่ำย่ำเทือก 1 รอบ" กับ "ไม่ไถ + ค่าย่ำเทือก 4 รอบ"
- เลือกใช้ "เทคโนโลยีวิชาการ" หรือ "เทคโนโลยีชาวบ้าน" อย่างมีวิจารณญาน หรือตามความเหมาะสม
- มองภาพให้ครบทุกมิติ
- วิเคราะห์ความคุ้มทุน : ระหว่่าง.....

"ค่าไถ 1 รอบ + ย่ำเทือก 1 รอบ" 1) การไถ คือ การพรวนดืน ช่่วยให้วัชพืชเจริญเติบโต
ดียิ่งขึ้น 2) ต้องใช้ยาฆ่าหญ้า สิ้นเปลือง แรงงาน เงฺิน เวลา ภาพพจน์ 3) ต้นข้าวชงักการ
เจริญเติบโตจากฤทธิ์ยาฆ่าหญ้า 4) มีเวลาน้อยสำหรับจุลินทรีย์ปรับสภาพโครงสร้างดิน
5) ระบบวงจรธรรมชาติเสียหาย 6) ก่อให้เกิดปัญหาประเภท "เรื่องไม่เป็นเรื่อง" ตามมา
ไม่สิ้นสุด

กับ.....

"ไม่ไถ + ย่ำเทือก 4 รอบ" 1) ไม่ไถ คือ ไม่พรวนดืน ช่่วยให้วัชพืชเจริญเติบโตไม่ดี 2) ไม่
ต้องใช้ยาฆ่าหญ้า ไม่สิ้นเปลืองแรงงานเงฺิน เวลา ภาพพจน์ 3) ต้นข้าวไม่ชงักการเจริญเติบ
โตจากฤทธิ์ยาฆ่าหญ้า 4) มีเวลามากสำหรับจุลินทรีย์ปรับสภาพโครงสร้างดิน 5) ระบบวง
จรธรรมชาติไม่เสียหาย 6) ไม่เกิดปัญหาประเภท "เรื่องไม่เป็นเรื่อง" ตามมา กระทั่งหมดไป
ในที่สุด



ผลรับ ระยะสั้น-ระยะกลาง-ระยะยาว :
1) ครั้งแรก....ต้นทุนต่ำลง ผลผลิตลดลงหรือเท่าเดิม แต่ขายแล้วตัวเลขกำไรเพิ่ม
2) ครั้งต่อมา.....ต้นทุนต่ำลงจากเดิม หรือเท่าเดิม แต่ผลผลิตเพิ่มขึ้น
3) ครั้งต่อมา ต่อมา และต่อมา....ต้นทุนต่ำลงจากเดิม แต่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งคุณภาพ
ปริมาณ และอนาคต


หลักการและเหตุผล จากผลรับ :
- ดินดีขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา
- หญ้าวัชพืชไม่มี
- วัฏจักรธรรมชาติกลับคืนมา
- โรคแมลงศัตรูพืชน้อย กระทั่งหมดไปในที่สุด
- ผลผลิต ปริมาณ-คุณภาพ ดีขึ้น มูลค่าสูงขึ้นตาม


ปัญหาและข้อขัดข้อง :
- ใจ
- ใจ
- ใจ

----------------------------------------------------------------------------




http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3155#21816

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 12/12/2012 9:06 am, แก้ไขทั้งหมด 3 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 05/12/2012 6:59 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

5 DEC



จาก : (086) 839-24xx
ข้อความ : คุณตาครับ ผมปริ๊นท์กระทู้คำถามทางรายการวิทยุ ในเน็ต รวมระยะเวลา 2 เดือน แล้วซีร็อกซ์ 10 ชุด เอามาให้
เพื่อนช่วยกันตอบคำถามนั้น เพื่อเป็นการทดสอบความรู้ของตัวเอง ปรากฏว่าได้คำตอบรวมกันทุกคนไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์
อยากปรึกษาคุณตาว่า พวกผมควรปรับปรุงวิธีการเรียนในวิทยาลัยอย่างไร จึงจะเป็นผู้รู้ได้.....รักและนับถือคุณตามากครับ

ตอบ :
- เธอมี "ความรู้" แต่ไม่มี "ประสบการณ์"
- เธอเรียนโดยการ อ่าน อ่าน อ่าน....อ่าน 1 ครั้ง เรียกว่า "อ่าน" อ่าน 100 ครั้งเรียกว่า "ท่อง" .... แม้ทั้งอ่านและท่อง
เธอก็ยังรู้เท่าเดิม

- หลายสถาบันให้ความสำคัญในการเรียนที่ "อ่านท่อง-ท่องอ่าน" เป็นหลัก ผู้ศึกษาจึงไม่ต่างจาก "นกแก้วนกขุนทอง" ....
ผู้สอนอยู่ในกรอบ แล้วดึงผู้เรียนเข้าไปอยู่ในกรอบด้วย....ฉนี้ หากจะเรียกว่าผู้สอนว่า "ดอกเตอร์กรอบศักดิ์" เรียกผู้ศึกษา
ว่า "นายขุนทอง นาวงสาวนกแก้ว" คงไม่ผิด

- หัวใจนักปราชญ์....อดีต "ฟัง-คิด-ถาม-เขียน" ....ปัจจุบันต้องปรับเพิ่มด้วย "ดู-ทำ-เปรียบเทียบ-ฟันธง"
- หลักการเรียนรู้.....อดีต "วิชาการ + ประสบการณ์ + แรงบันดาลใจ + เป้าหมาย + บ้าบ้า" ในโลกของงความเป็น
ต้องกลับเปลี่ยน "บ้าบ้า + เป้าหมาย + แรงบันดาลใจ + ประสบการณ์ + วิชาการ"

ภาษิต 10 ล้อ เขียนไว้ว่า....
ฟัง 100 ครั้ง ไม่เท่าอ่าน 1 ครั้ง
อ่าน 100 ครั้ง ไม่เท่าดู 1 ครั้ง
ดู 100 ครั้ง ไม่เท่าทำเอง 1 ครั้ง
ทำสำเร็จ 100 ไม่เท่าทำพลาด 1 ครั้ง


@@ เป้าประสงค์หลักของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในการส่ง นศ.มาฝึกงานที่ไร่
กล้อมแกล้ม คือ วิชาการที่ได้มาจากประสบการณ์ (ทำกับมือ) 3 ใน 4 ส่วน กับที่ นศ.ทำด้วยมือ 1 ใน 4 ส่วน
ของเนื้อหาในการฝึกงานทั้งหมด.....ที่สถาบันฯ มีวิชาการในตำราเพื่อให้เรียนรู้จากการอ่าน แต่ไม่มีของจริงสำ
หรับ นศ.ปฏิบัติกับมือเพื่อให้เกิดประสบการณ์ ที่ไร่กล้อมแกล้มมีวิชาประสบการณ์ตรง

@@ วิทยาลัยเกษตรกรรมสิงห์บุรี แบ่งเวลาเรียน 3 ใน 4 ส่วนเรียนโดยการปฏิบัติจริง กับ 1 ใน 4 ส่วนเรียน
วิชาการ และการเรียนวิชาการก็ต้องเรียนในแปลงด้วย เพื่อให้ นศ.เห็นของจริงแทนจินตการ หรือรูปในตำรา

@@ บริษัท ศรแดง จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ ได้ไปสัมมนาให้ นศ.คณะเทคโนโลยการเกษตรที่สถาบันเทคโนโลยี
พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้ฟังถึงความต้องการบุคคลากรเข้าทำงานในบริษัท.....นศ.ที่เคยไปฝึก
งานที่ไร่กล้อมแกล้ม มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับลุงคิมอยู่ก่อน เล่าให้ฟังว่า "ฟังแล้ว รู้ตัวเองเลยว่าทำงานให้บริษัท
เขาไม่ได้ ไปสมัครเขาคงไม่รับแน่ๆ" งานนี้ลุงคิมจึงต้อง "สอนยาว" สอนให้ "คิดเป็น" มากกว่า "ทำเป็น"
ประมาณนี้


การที่เธอตอบโจทย์ไม่ได้เพราะเธอขาดประสบการณ์ที่ปฏิบัติจริงกับมือ + เธอยังไม่แตกฉานในตำเรียนที่อ่าน...
จงใช้หลักการ "เฉลียวใจ-ช่างสังเกตุ" เป็นหลักสำคัญ .... อ่านวัฏจักรธรรมชาติให้ออก ในธรรมชาติไม่มีคำ
ตอบตายตัว ความถูกต้องหรือผิดพลาด ตัดสินจากวัตถุประสงค์..... เรื่องเกษตรต้องวิเคราะห์ "6 ปัจจัยพื้น
ฐานเพื่อการเพาะปลูก" ให้ชัดเจน .... จงหมกมุ่นกับมัน จริงจังกับมัน แล้วจะประสบความสำเร็จดังตั้งใจ

เกษตรกรไทยไม่ชอบ "คิด-วิเคราะห์" บอกว่า "ยุ่งยาก" เมื่อปัญหาเกิดขึ้นมักแก้ปัญหานั้นตามคนอื่นๆ
แม้แต่คนที่แนะนำที่ประสบความล้มเหลว (เป็นหนี้) ก็ยังเชื่อแล้วทำตาม

เกษตกรไทยพูดอยู่เสมอว่า "วิชาการสูง-วิชาการสูง" ทั้งๆที่ความรู้วิชาการมันสูงเท่าเดิม แต่เกษตกรไทย
ไม่ยอมเรียนรู้ให้สูงขึ้นเอง เหมือคนเรียนระดับประถมมัธยม ก็ว่าระดับปริญญาสูง.....เกษตรกรไทยคิดว่า
"การเรียน" คือ เรียนในห้องเรียนแล้วมีอาจารย์มาสอนหน้าห้องเรียนเท่านั้น ไม่เข้าใจและไม่ยอมรับว่า
"การอ่าน" ก็คือการเรียนอย่างหนึ่ง เรียนด้วยตัวเอง นี่เป็นเพราะโดยนิสัยคนไทยไม่ชอบการอ่าน ซึ่งเคย
มีงานวิจัยว่า คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 6 บันทัด ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 12 บันทัด....ขณะที่เธอเรียน
ในห้องเรียน มีอาจารย์ระดับ ศ.ดร.เป็นผู้สอน แต่อีกคนหนึ่งเรียนวิชkเดียวกันโดยการอ่านหนังสือเองที่บ้าน
อ่านหนังสือที่ ศ.ดร.ท่านนั้นเขียนเช่นกัน แถมอ่นหนังสือวิชาเดียวกันที่ ศ.ดร.คนอื่นเขียนอีกด้วย ......
ระหว่างคนเรียนที่ห้องเรียนสอนโดย ศ.ดร.คนเดียว กับคนเรียนด้วยวิธีอ่านหนังสือเองที่บ้าน ทั้งหนังสือ
ที่ ศ.ดร.ท่านนั้นเขียน กับหนังสือที่ ศ.ดร.ท่านอื่นเขียน ถามว่า สองคนเรียนนี้ ใครจะรอบรู้กว่ากัน.....


----------------------------------------------------------------------------



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 12/12/2012 9:17 am, แก้ไขทั้งหมด 5 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 06/12/2012 6:48 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

6 DEC


จาก : (085) 839-81xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ ผมดูหม้อปุ๋ยในเน็ต ผมสนใจ ถามว่า จำเป็นต้องไล่อากาศด้วยหรือ แล้วเราใช้วาวล์ตัวไหนเปิด
สำหรับไล่อากาศในหม้อปุ๋ยครับ....

ตอบ :
- ถ้าไม่ไล่อากาศในหม้อปุ๋ยออกก่อน ปุ๋ยจะไม่ไป
- ไล่อากาศในหม้อปุ๋ยโดยเปิดวาวล์ระบายอากาศ หรือวาวล์กรวยเติมปุ๋ย ตัวใดตัวหนึ่ง หรือทั้งสองตัวก็ได้

----------------------------------------------------------------------------





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 08/12/2012 4:21 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

8 DEC


จาก : (084) 184-02xx
ข้อความ : มีที่ 30 ไร่ ติดชายทะเล จ.ตราด ปล่อยที่ว่างไว้ รอบบ้านเขาทำสวนไม้ผลกัน ตั้งใจปีหน้าจะไปบุกเบิก
ทำสวน ไว้กิน รับแขก เหลือจึงขาย เลือกไม้ผลไว้ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง มะม่วง จากคนไม่มีความรู้ควรเลือก
ไม้ผลอะไรดี ผู้พันช่วยแนะนำด้วยค่ะ อย่าเพิ่งปิดเน็ตนะคะ สมช.ใหม่เยอะค่ะ...จาก สมช.เน็ต

ตอบ :
ไม้ผลที่ 4 อย่างที่คุณว่ามานี้ ล้วนเป็นไม้ผลยอดนิยมในตลาด ที่จริงยังมี "มะยงชิด" อีกอย่างนะที่น่าเล่น แต่ทั้ง 4-5
อย่างนี้ ผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกัน คนกินชอบใจเพราะเลือกกินอะไรก็ได้ แต่คนทำซี่แทบตาย เพราะแต่ละอย่าง
บำรุงไม่เหมือนกัน ไม่พร้อมกัน สารพัดสารพรรณปัญหาการบำรุง ยิ่งถ้าเจ้าของ "ไม่แม่นสูตร ไม่แม่น
หลักการ" แถม "เชื่อข้างบ้าน เชื่อคนงาน" เข้าไปอีก มันจะไม่ได้กินดีเอาแน่ะ เอาเถอะ ถึงยังไงก็ยังเชียร์ ไม่รู้
ต้องเรียน ไม่เคยเห็นต้องไปดู ไม่เป็นก็ต้องหัด อยู่แต่ว่า จะเรียนจะหัดจะดู ยังไง ที่ไหน เท่านั้นแหละ.....หา
ตำรามา เปิดตำราบำรุงเลยยังได้ มึคนทำสำเร็จมาแล้ว


ใจลุงคิมอยากเชียร์ให้เล่นหมอนทอง เพราะเจ้าตัวนี้ตอบสนองต่อสูตรสหประชาชาติดีมากๆ ยิ่งบำรุงประจำๆ สม่ำ
เสมอจนต้น "สะสมความสมบูรณ์" เต็มที่ คราวนี้จะออกดอกติดลูกแบบไม่มีรุ่นเลยเชียวแหละ กับ "ชะนี" เจ้าตัว
นี้ออกปีละรุ่นก็จริง แต่ออกก่อนพันธุ์อื่นๆ ให้เป็นทุเรียนก่อนฤดู เอาไว้รับแขก ส่วนทุเรียนพันธุ์อื่นก็ว่าไป
ตามอัทธยาศรัย....อืมมม์ น่าจะพิจารณา "นกกระจิบ" ของสวน "ไพบูลย์ระยองดอทคอม" ดูบ้างนะ ตัวนี้
รับรองไม่ผิดหวัง


ส่วนมะม่วง ถ้าเขียวเสวย น้ำดอกไม้ ฟ้าลั่น โชคอนันต์ อกร่อง ทองดำ ทั้ง 6 ตัวนี้เป็นมะม่วงตลาด หาซื้อ
กินที่ไหน เมื่อไหร่ ก็ได้ แต่ถ้าเป็นมะม่วงอื่น เช่น มันขุนศรี มันศาลายา แก้วลืมคอน หนองแซง สุดยอด
มะม่วงกิน ดิบ-ปากตะกร้อ-สุก ที่นักชิมมืออาชีพยอมรับ มะม่วงพวกนี้หากินยาก เพระไม่ค่อยมีคนปลูก หลุด
จากนี้ก็ "ขาวนิยม" แชมป์ประเทศไทย 4 ปีซ้อน ยักษ์ใหญ่ลูกละ กก.ขึ้น ดิบ-ปากตะกร้อ-สุก ดีทั้งนั้น....แม้
แต่ "ทะวายใหญ่ (แม่ลูกดก)" ที่แตกยอดเป็นออกดอก ออกทั้งปี ไม่มีรุ่น ออกจนข้างบ้านอิจฉา ก็เล่นได้

ถ้าสนใจมะม่วงกินสุกแนะนำ ยายกล่ำ พราห์มขายเมีย น้ำตาลปากกะบอก รับรองอร่อยกว่า อกร่อง-น้ำดอก
ไม้-พิมเสน

ไม้ผลอย่างอื่นที่น่าจะปลูกไว้บ้าง อย่างเช่น สละ ฝรั่ง ชมพู่ อย่างละซัก 20-30 ต้น ก็พอ

กล้วยไข่ กล้วยหอม กล้วยเล็บมือนาง กล้วยน้ำว้า ขายก็ได้แจกก็ดี ช่วยบำรุงดินได้อีกด้วย

จัดโซนให้ดีๆ ออกแบบตั้งแต่แรก ที่อยู่ต้นไม้ ที่อยู่คน ที่พักรับรองแขก ติดสปสริงเกอร์ซี่ช่วย
ประหยัดเวลา แรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลของเนื้องาน

สำคัญสุด คือ "แหล่งน้ำ" ขุดสระ มีน้ำจากแหล่งธรรมชาติหรือบาดาล คอยเติมน้ำให้บ่อ ในบ่อมีศาลา
ในน้ำมีปลา.....แค่นี้ก็สุโขสโมสรแล้ว

อย่าลืม เตรียมรับมือปวดหัวกับ "คนงาน" เพราะมะเร็งจะกินอารมย์ไว้ด้วย

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (085) 839-23xx
ข้อความ : ฟังการบรรยายของ ดร.แสวง ในเน็ต เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ ด้วยการพึ่งพาธรรมชาติร้อยเปอร์
เซ็นต์ ผมฟังหลายรอบ ยอมรับว่า ยังจับจุดไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เพราะทุกอย่าง ทุกขั้นตอน ต้อง
ใช้เงินและเวลาในการลงทุนมาก อยากให้คุณลุงอธิบายเพิ่มเติมตามสไตล์ของลุงคิมด้วยครับ....ขอบคุณครับ

ตอบ :
เทคนิคส่งเสริมการเกษตรแบบ "พูด" ให้ฟังเฉยๆ เหมือนเขียนหนังสือบนอากาศให้คนอ่าน ที่บางครั้งเรียก
ว่า TALK SHOW" นั่นน่ะ ลุงคิมเคยทำมาแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2540 ตะลอนตระเวนไปทั่วประเทศ เรียกว่า
"โครงการสีสันสัญจร" นับจำนวนครั้งได้ 100 (+) ครั้ง ทุกคนมาฟังฟรี ไม่ต้องลงทะเบียน ไม่ถามชื่อ
ไม่ถ่ายรูป ส่วนตัวลุงคิม ค่าตัว-ค่าที่พัก-ค่าอาหาร-ค่ายานพาหนะ ออกเองทั้งสิ้น ถ้าตายก็ตายฟรี ไม่ใช่ตาย
ในหน้าที่ราชการด้วย ไปเอง ไปแนะนำให้ทำการเกษตรแบบ "อินทรีย์ นำ - เคมีเสริม - ตามความ
เหมาะสมของพืช.....พร้อมทำเองสอนวิธีทำ-พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ" ..... ทุกครั้งเมื่อขึ้นเวที ต้องสวมวิญญาน
"คิม ดอกสะเดา" ไม่งั้นคนฟังหลับกันหมด บ่อยครั้งตลกจนคนฟังขำกลิ้ง ตกโต๊ะลุกขึ้นมาได้ ลืม ! .....
ถึงวันนี้ พ.ศ.2555 ต่อ 2556 ได้พบกับคนที่เคยสัมผัสด้วยเมื่อครั้งแรกๆ เขาจำเราได้แต่เราจำเขาไม่ได้
โถ คนเป็นแสน ครั้นสอบถามถึงแนวทางทำการเกษตร คำตอบที่ได้รับ คือ "เหมือนเดิม" เคยทำอย่างไร
ก็ยังคงทำอย่างนั้น หนี้สินที่เคยมีก็ยังอยู่ บางรายไม่เคยมีหนี้สินก็กลับมีหนี้ มากบ้างน้อยบ้างตามอัตต
ภาพ.....สรุปผลงานที่ลุงคิมเคยทำ เทคนิคการส่งเสริมแบบ TALK SHOW ไม่ได้ผล ในขณะที่คน
อื่นทำ ได้ผล/ไม่ได้ผล อันนี้ไม่รู้....รู้อย่างเดียว ที่ตัวเองทำ "ไม่ได้ผล" เท่านั้น

สมัยก่อนการค้าการขายว่ากันเป็น "บาท เฟื้อง สลึง ตำลึง ชั่ง" มาสมัยนี้ว่ากันเป็น "บาท ดอลลาร์"
มันเทียบกันไม่ได้

โลกยุคปัจจุบัน ขายไม่ได้-ขายไม่ออก เศรษฐกิจครัวเรือน ไม่โต....
โลกยุคปัจจุบัน ส่งออกไม่ได้ เศรษฐกิจชาติ ไม่โต.....

ปลูกพืชผักไว้กินในบ้าน ไม่ได้ขาย ถามว่า ถ้าไม่ขาย ไม่มีเงินเข้าบ้าน แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าไฟฟ้า
ค่าโทรศัพท์ ค่าเทอมลูก ค่าลูกไปโรงเรียน.....เมื่อปลูกแล้วก็ต้องให้ขายได้ ให้ได้เงินเข้าบ้าน มันถึงจะ
อยู่ได้ เมื่อจะขายก็ต้องขายให้กำไรมากๆ เมื่อเทียบกับต้นทุน ขายได้แล้วต้องขายได้อีก คนซื้อเคยซื้อ
แล้วต้องมาซื้ออีก มันถึงจะถูกต้อง...ชั่ยหมัย

สมัยก่อน สมัยนี้ สมัยหน้า...........ถามหน่อยเถอะ ใครไม่อยากรวย

เกษตรอินทรีย์-เกษตรอินทรีย์-เกษตรอินทรีย์.....อินทรีย์แบบไหน ? ในอินทรีย์มีสารอาหารพืชไหม ? มีตัว
ไหน ? มีเท่าไหร่ ? มีได้อย่างไร ? .....

พืชต้องการกิน 5 ให้แค่ 2 เขาจะโตเหรอ....
พืชต้องการกิน 5 ให้ 20 เขาจะตายไหม....

พืชต้องการกินไนโตรเจน แต่ให้โปแตสเซียม....
พืชต้องการกินจิ๊บฯ แต่ให้ไซโตฯ มันถูกต้องเหรอ....

พัฒนาที่พืชเพื่อเอาผลผลิต (ปริมาณ+คุณภาพ) ควบคู่กับการตลาด ใช่หรือไม่.....
การอนุรักษ์น่ะดี แต่อนุ
รักษ์ต้องควบคู่กับพัฒนา นี่นา.....


คุณปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมือง เช่น สังข์หยด ได้ผลผลิตไร่ละ 25 ถัง คงไม่มากไปกว่านี้เพราะมันเป็นเรื่องของ
ธรรมชาติสายพันธุ์ แนวทางพัฒนาข้าวสังข์หยด คือ แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำ "ข้าวสังข์หยดกล้อง-ขายปลีก"
แล้วได้ BIPRODUCT อย่าง จมูกข้าว น้ำมันรำข้าว แกลบ เป็นตัวสร้างรายได้เพิ่ม โดยอาศัยชื่อเสียงของ
สังข์หยดเป็นจุดขาย

ข้าวหอมมะลิ กข105 อิสาน รัฐบาลประกันราคารับซื้อเกวียนละ 20,000 มองเผินๆเหมือนได้มาก แต่จะ
มีใครสักคนคิดบ้างว่า ต้องใช้เนื้อที่ถึง 3 ไร่ จึงจะได้ข้าว 1 เกวียน นั่นเท่ากับมีรายได้ไร่ละ 6,000 เท่านั้น
ในขณะที่ทำนาข้าว 1 ไร่ต้องลงทุน 3,000 จึงเท่ากับรายได้จริงๆ 3,000 บาท/ไร่/รุ่น (4 เดือน) ถ้านาไร่
นั้นใช้แรงงาน 2 คนก็เท่ามีรายได้คนละ 1,500 บาท/คน/รุ่น (4 เดือน) หรือ 375 บาท/เดือน/คน เท่านั้น.
....นี่คือสภาวะจำยอม ตราบใดที่ยังคิดแค่ขายข้าวให้โรงสี จำนอง ธ.ก.ส.ก็ต้องเป็นแบบนี้ แต่หากนำข้าว
หอมมะลิสีเป็น "ข้าวกล้องหอมมะลิงอก" กับได้ BIPRODUCT เข้ามาอีก จึงจะมีรายได้เพิ่มขึ้น

โครงการหลายโครงการเป็นเหมือนกระดาษเปื้อนหมึก ไม่รู้เหมือนกันว่าหัวข้อต่างๆในแบบฟอร์มโครงการนั้น
มีหัวข้อ "การประเมินผล หรือ ปัญหาอุปสรรค หรือ แผนการในอนาคต" หรือไม่

ความรู้ขั้นพื้นฐานของเกษตรกรที่สูงอายุค่อนข้างต่ำ ทักษะในการเรียนรู้ค่อนข้างน้อย ในเมื่อภาษาวิชาการ
เกษตรมีแต่ภาษาอังกฤษ แล้วท่านผู้สูงอายุเหล่านั้นจะรู้เรื่อง เข้าใจได้อย่างไร

ทำไมจึงไม่ "แปลงโครงการ เป็น การปฏิบัติ" ภายใต้รูปแบบ FARMER CENTER ต้องการส่ง
เสริมให้เกษตรกรปลูกอะไร ระยะไหนบำรุงอย่างไร ทุกอย่าง ทุกขั้นตอน สอนด้วยการปฏิบัติกับมือไปเลย
ว่ากันตั้งแต่เริ่มต้นถึงจบว่าต้องทำอะไร ทำอย่างไร แบบ "การปฏิบัติ นำ วิชาการ" แม้แต่การรวมกลุ่ม การแปร
รูปสร้างมูลค่าเพิ่ม การตลาด การขยายผลเริ่มจากแปลงเล็กๆ แล้วขยายเป็นแปลงใหญ่ จากหมู่บ้าน
เป็นตำบล โดยให้เกษตรกรุ่นแรกสอนเกษตรกรรุ่นหลังกันเอง....ก็น่าจะทำได้

ผลงานส่งเสริมโดยนักวิชาการระดับดอกเตอร์มิใช่มีเพียงเท่านี้ ขอให้ติดตามผลงานส่งเสริมโครงการ "1
ดอกเตอร์ 1 ตำบล" ของ ม.สุรนารี ซิว่า วันนี้พัฒนาไปถึงไหนแล้วบ้าง


ใครๆส่งเสริม ได้ผลทั้งนั้น มากบ้างน้อยบ้างก็ว่ากันไป....คนที่ส่งเสริมแล้ว "ไม่ได้ผล"
เอาจริงๆจังๆ คือ ลุงคิม นี่แหละ



ฉนี้ไงเล่า ลุงคิมถึงเลิกวิธีสอนแบบ บรรยายพูด-พูดบรรยาย....เขียนหนังสือบนอากาศให้คนอ่าน แล้ว
มาสอนแบบให้ทำกับมือ LEARNNING BY DOING ยังไงล่ะ ให้ทำซ้ำหลายๆรอบ หลายๆครั้ง ทำจน
กว่าจะปล่อยเดี่ยวได้ หรือจนกว่าคนเรียนจะพอใจ.....ดีกว่ามั้ย



----------------------------------------------------------------------------





.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 19/12/2012 6:54 pm, แก้ไขทั้งหมด 8 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 12/12/2012 7:44 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

12 DEC


จาก : (081) 717-02xx
ข้อความ : ผู้พันครับ ผมเป็น สมช. เน็ต+วิทยุ ถึงผมจะถามทางวิทยุก็จะไปลงที่เน็ตเอง อันนี้ขอบคุณผู้พันครับ..
วิเคราะห์คำถามทางวิทยุแล้ว ทำให้รู้เลยว่า เกษตรกรไทยไม่น้อยเริ่มเปลี่ยนทัศนคติในการทำการเกษตร เมื่อคำ
ถามแรกได้คำตอบไปแล้ว เขาจะรู้จักการวิเคราะห์ปัญหา แล้วแก้ปัญหาได้เอง...ขอเป็นกำลังใจให้นักรบครับ

ตอบ :
ฟูกูโอกะ ส่งเสริมในแปลงจริง, สื่อวิทยุ, สื่อโทรทัศน์, สื่อสิ่งพิมพ์ ใช้เวลาร่วม 20 ปี จึงสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติ
ของเกษตรกรญี่ปุ่นได้.....


ลุงคิมจับงานเกษตรครั้งแรก 27 มี.ค. 2537 ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนจึงจะครบ 20 ปีเทียบเท่าฟูกูโอกะ แล้วจะต้อง
ต่อไปอีก 20 ปี เพราะลุงคิมไม่ใช่ฟูกูโอกะ.....ประมาณนั้น


----------------------------------------------------------------------------





.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 17/12/2012 5:47 am, แก้ไขทั้งหมด 3 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 14/12/2012 9:16 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

13 DEC



จาก : (089) 362-46xx
ข้อความ : จาก สมช.เน็ต อยากให้ผู้พันสอนวิธีทำปุ๋ย โดยทำเป็น วีดิโอ แล้วลงไว้ในเน็ต ให้เปิดดูกันเลย
มีทางทำได้ไหมครับ....ขอบคุณครับ

ตอบ :
ทำไม่เป็น .... ไม่มีกล้องถ่ายทำ วิดีโอ แล้วโพสลงเน็ตได้ด้วย
เคยเห็นคนมาเรียน (ดู) แล้วถ่ายเป็น วิดีโอ ไป สงสัยไว้ดูคนเดียว หรือไม่ก็ดูแล้วไม่รู้เรื่อง เลยไม่โพสลงเน็ตก็ได้

----------------------------------------------------------------------------




จาก : (084) 339-02xx
ข้อความ : ผมเป็น สมช.เน็ต แต่เจตนาฝากข้อความผ่านวิทยุ เพื่อให้ข้อความนี้ผ่านสื่อทั้งวิทยุและเน็ต จะได้
มีคนรับสื่อเยอะขึ้น เดือนนี้คนไทยแห่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ไปดูดอกซากุระ ผู้พันว่า เมืองไทยเราที่มีดอกไม้สวยเทียบ
เท่าซากุระบ้างไหม เพื่อให้คนญี่ปุ่นแห่มาเที่ยวเมืองไทยบ้างไง.....ขอบคุณครับ

ตอบ :
ที่รู้ๆ พญาเสือโคร่ง. คูน. นกยูง. ไม้พวกนี้ออกดอกได้ทั้งปี ถ้าบำรุงเขาบ้าง ปลูกแล้วจัด "ภูมิทัศน์ + ประชาสัมพันธ์"
ให้ดี ขี้คร้านคนจะแห่ไปดู แถมส่งเสริมเศรษฐกิจ "ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง" ได้อีกตั้งหลายอย่าง

"ซากุระ" บานให้ดูได้แค่ 3 วันเท่านั้น แต่ของเราบานให้ดูได้ครั้งละนานนับเดือน...

ญี่ปุ่นมอบต้นซากุระให้สหรัฐ แลกกับปรณูที่ฮิโรชิม่า. นางาซากิ. สหรัฐปลูกไว้ที่ไวท์เฮาส์ ทุกวันนี้ออกดอกบาน
สะพรั่ง.....ญี่ปุ่นบอกว่า คนอเมริกันมีศิลปะในการดูดอกซากุระน้อยกว่าคนญี่ปุ่น นี่แหละผลของ "ประชาสัมพันธ์"
โถ...ดอกไม้เป็นเรื่องของธรรมชาติ ในธรรมชาติน่ะ คือ ศิลปะทั้งนั้นแหละ ดีหรือไม่ดี สวยหรือไม่สวย อยู่ที่คน
พูดต่างหาก....ว่ามั้ย

- ทำไมเชียงรายจึงไม่สร้างสวนพญาเสือโคร่ง แข่งกับซากุระ....
- ทำไมขอนแก่น เมืองแห่งเสียงแคนดอกคูน จึงไม่สร้างสวนคูน แล้วมีงานเสียงแคน....
- ไม่รู้เหมือนกันว่า หางนกยูงเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดไหน ทำไมจังหวัดนั้นไม่สร้างสวนหางนกยูงขึ้นมา.....
- จ.ตรัง มีต้นศรีตรังเป็นไม้ประจำจังหวัด แล้วทำไมไม่สร้างสวนศรีตรัง....

เรายังมีต้นไม้ดอกยืนต้นขนาดใหญ่ ปลูกครั้งเดียวอยู่ได้นานนับร้อยๆ ๆๆ ปี นอกจาก สุพรรณิการ์, ทองกวาว,
ชัยพฤกษ์, ฯลฯ อีกหลากหลาย เดินทางไปไหนๆก็เห็นไม้พวกนั้นเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง

ไหนว่า คนไทยรักธรรมชาติหรือว่ารักต้นไม้มาก เลยพับใส่กระเป๋าเก็บไว้ ยังงั้นใช่ไหม ?

----------------------------------------------------------------------------






ต้นพญาเสือโคร่ง.....

http://www.google.co.th/imgres?hl=th&sa=X&tbo=d&biw=1093&bih=514&tbm=isch&tbnid=c-Y1s5ni1OQKUM:&imgrefurl=http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2006/12/E4981846/E4981846.html&docid=xOrA9YxF24VS3M&imgurl=http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2006/12/E4981846/E4981846-2.jpg&w=512&h=335&ei=lPrKUKSyKcqOrgfRu4GoCQ&zoom=1&iact=hc&vpx=775&vpy=136&dur=405&hovh=181&hovw=278&tx=183&ty=87&sig=104361430694441649256&page=1&tbnh=131&tbnw=205&start=0&ndsp=16&ved=1t:429,r:15,s:0,i:132




ต้นสุพรรณิการ์....

http://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.yeltec.com/wp-content/uploads/2012/08/%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C1.jpg&imgrefurl=http://www.yeltec.com/2012/08/30/%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2593%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258Cyellow-silk-cotton-tree/&h=450&w=600&sz=60&tbnid=syr63jvnTm89fM:&tbnh=90&tbnw=120&zoom=1&usg=__vMyVJWNXqUikHSM32qgG9GxCPiM=&docid=HrQXFBS56zb3LM&hl=th&sa=X&ei=LPzKULrGNY-zrAfWyIHYCA&sqi=2&ved=0CDEQ9QEwAA&dur=34





ต้นชัยพฤกษ์....

http://www.google.co.th/imgres?hl=th&sa=X&tbo=d&biw=1093&bih=514&tbm=isch&tbnid=YFv18pcLYMFjYM:&imgrefurl=http://tonmaingam.blogspot.com/2012/04/blog-post_24.html&docid=HlDPwYs0eGsjzM&imgurl=http://2.bp.blogspot.com/-zgU7JdDubrY/T5au-KfWlZI/AAAAAAAAADQ/K6UWsJ_-7ds/s1600/b4747504.jpg&w=700&h=525&ei=PR3LUP3tM4m8rAetgIGoDA&zoom=1&iact=hc&vpx=630&vpy=128&dur=3987&hovh=194&hovw=259&tx=136&ty=120&sig=104361430694441649256&page=1&tbnh=145&tbnw=189&start=0&ndsp=18&ved=1t:429,r:4,s:0,i:99






ต้นศรีตรัง....

http://www.google.co.th/imgres?hl=th&sa=X&tbo=d&biw=1093&bih=514&tbm=isch&tbnid=yN3TAiVVqDWXvM:&imgrefurl=http://www.oknation.net/blog/print.php%3Fid%3D374899&docid=tjwmf2DcDU380M&imgurl=http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/546/23546/images/BB1/BB2/BB3/BB4/BB5/BB6/BB7/BB7.jpg&w=450&h=360&ei=jh7LUNaGA8LprQeh24HIBA&zoom=1&iact=hc&vpx=802&vpy=122&dur=8497&hovh=201&hovw=251&tx=145&ty=112&sig=104361430694441649256&page=1&tbnh=141&tbnw=191&start=0&ndsp=17&ved=1t:429,r:4,s:0,i:99







ต้นทองกวาว.....
http://www.google.co.th/imgres?hl=th&sa=X&tbo=d&biw=1093&bih=514&tbm=isch&tbnid=j14dNQZ6ja4YvM:&imgrefurl=http://www.pb-travelthailand.com/index.php%3Fname%3Dtravel%26file%3Dreadtravel%26id%3D122&docid=Yd047uVubG7RMM&imgurl=http://www.pb-travelthailand.com/UserFiles/Image/AI-feb2.jpg&w=600&h=398&ei=EzLLUJruNoTMrQeM6IGgAg&zoom=1&iact=hc&vpx=777&vpy=217&dur=3379&hovh=183&hovw=276&tx=200&ty=135&sig=104361430694441649256&page=1&tbnh=147&tbnw=231&start=0&ndsp=20&ved=1t:429,r:12,s:0,i:123






ต้นทองกวาว....
http://www.google.co.th/imgres?hl=th&sa=X&tbo=d&biw=1093&bih=514&tbm=isch&tbnid=ZjZtC5Idg-4bzM:&imgrefurl=http://www.bullchill.com/tag/%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7/&docid=3VPLELo88IJd_M&imgurl=http://www.bullchill.com/wp-content/uploads/2012/10/%2525E0%2525B8%252595%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%252599%2525E0%2525B8%252597%2525E0%2525B8%2525AD%2525E0%2525B8%252587%2525E0%2525B8%252581%2525E0%2525B8%2525A7%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%2525A7-Flame-of-th-Forest-1.jpg&w=600&h=399&ei=XjPLUPzwMorVrQfEm4HoCg&zoom=1&iact=hc&vpx=285&vpy=127&dur=3643&hovh=183&hovw=275&tx=158&ty=95&sig=104361430694441649256&page=1&tbnh=133&tbnw=206&start=0&ndsp=20&ved=1t:429,r:2,s:0,i:93


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 19/12/2012 6:48 pm, แก้ไขทั้งหมด 4 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 15/12/2012 5:11 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

15 DEC



จาก : (081) 717-02xx
ข้อความ : ผม สมช. เน็ต+วิทยุ อ่านกระทู้ของคุณ jukgree เรื่องราาคาข้าวปลูก กส.ละ 650-680 บาท ตก
กก.ละ 26-27 บาท 1 เกวียนก็ 26,000-27,000 ราคาต่างกับที่โรงสีรับซื้อลิบลิ่ว เรื่องนี้ชาวนาไม่มีสิทธิ์
โวย ผมแนะนำ 2 ทางเลือก 1) ทำแล้วขายเป็นข้าวปลูกให้โรงสี หรือขายให้ชาวนาในหมู่บ้าน 2) เลิก
ซื้อพันธุ์ข้าวปลูกแต่ปลูกข้าวทำพันธุ์เอง ลุงคิมมีความเห็นอย่างไรครับ....ขอบคุณครับ

ตอบ :
กรณีจะค้าขายกับโรงสีก็น่าจะลองไปพูดคุยกับเขาก่อน ถ้าเราจะทำขายให้เขา ต้องรู้ว่าเขาต้องการสเป็คแบบไหน ?
มีเงื่อนไขอย่างไร ? หรือเขาอาจจะมีข้อมูลบางอย่างที่มีประโยชน์แนะนำเราก็ได้ แต่ถ้าเจอโรงสีประเภทเถ้า
แก่เส็ง รับซื้อข้าวปลูกในราคาข้าวทั่วไปแล้วเอาไปขายเป็นข้าวปลูก แบบนี้ก็ไม่ต้องคบ.....เรื่องอย่างนี้ต้อง
"เจรจาการค้า" ให้แน่นอนมั่นคง

กรณีจะขายให้กับชาวนาแปลงข้างเคียง อันนี้ใช้ความสัมพันธุ์ส่วนบุคคลเป็นหลัก ที่สำคัญต้องมีแปลงข้าวให้
เขาเห็น ให้เห็นตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ คนทำนาเป็นอาชีพแค่เห็นเท่านั้น เขาก็รู้แล้วว่า ข้าวแปลงนี้ทำพันธุ์ได้
เขาก็จะซื้อ ยิ่งถ้าราคาถูกกว่าโรงสี หรือร้านค้า แค่ถังละ 100 เขาก็เอาแล้ว.....เรื่องขายให้ชาวนาด้วยกันนี้
ลุงคิมมีประสบการณ์ เพราะเคยขายมาแล้ว สอบถามคนที่รับซื้อ เขาก็พูดอย่างนี้นี่แหละ

เมื่อฟ้าลิขิตให้ชีวิตต้องเกิดมาทำนาเป็นอาชีพหลัก ทำมาตั้งแต่ยุคพระเจ้าฟีล่อโก๊ะ โก๊ะล่อฝง จนถึงป่านนี้
ก็น่าจะจัดสรรพื้นที่ออกมาซักแปลง 1-2-3 ไร่ ตามความจำเป็น แล้วปลูกข้าวสำหรับทำพันธุ์โดยเฉพาะ
นอกจากประหยัดต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์แล้ว ยังได้คุณภาพของเมล็ดข้าวที่ดีกว่าอีกด้วย.....เหนืออื่นใด
หากแบ่งขายให้แปลงข้างเคียงบ้าง ก็จะได้สัมพันธ์ไมตรีอันดีต่อกันตามประสาเพื่อนบ้านร่วมอาชีพเดียวกัน

งานนี้จะมีแต่ได้กับได้....

----------------------------------------------------------------------------




.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 19/12/2012 6:46 pm, แก้ไขทั้งหมด 4 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 16/12/2012 5:37 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

16 DEC



จาก : (086) 922-45xx
ข้อความ : จาก สมช.วิทยุ+เน็ต (2) ขอบคุณนิยามคำว่า ปุ๋ยอินทรีย์มีสารอาหารอะไร ปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ชาวบ้าน
ทำกันเอง เทียบกับระเบิดเถิดเทิงของผู้พันแล้วจึงรู้ว่า สารอาหารที่ได้นั้นมาจากชนิดของส่วนผสมและวิธีการทำ
แต่ปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ชาวบ้านทำ มีเพียงสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์เท่านั้นเอง นำไปใช้แล้วไม่ได้ผลเพราะไม่มีสาร
อาหารนั่นเอง.....ขอบคุณนิยามครับ

ตอบ :
คำถามนี้ต้องตีโจทย์ให้แตกก่อน เริ่มจาก สารอาหารพืชประกอบด้วย N. P. K. Ca. Mg. S. Fe. Cu. Zn.
Mn. Mo. B. Si. Na. HOMONE VITAMIN PROTINE ฯลฯ สารอาหารเหล่านี้ ถ้ามีอยู่ในอินทรีย์วัตถุ เรียกว่า
"สารอินทรีย์" การที่จะรู้ว่า อินทรีย์วัตถุใดมีสารอินทรีย์ตัวใด คำตอบแบบวิชาการแปลงเป็นภาษาชาวบ้านที่ง่าย
ที่สุด คือ "งานวิจัย"


สรุปแบบฟันธง ดังนี้.....
- ผักผลไม้ มีสารอินทรีย์ น้อยกว่าหอยเชอรี่
- หอยเชอรี่ มีสารอินทรีย์ น้อยกว่าปลาน้ำจืด
- ปลาน้ำจืด มีสารอินทรีย์ น้อยกว่าปลาทะเล
- ปลาทะเล มีสารอินทรีย์มากที่สุด ทั้งชนิดและปริมาณ นั่นเอง

ในปลาทะเลมี Mg. Mn. Zn. Na. OMEGA. ซึ่งสารอาหารกลุ่มนี้ใน ปลาน้ำจืด-หอยเชอรี่-ผัก-ผลไม้ ไม่มี
หรือมีน้อยมากเมื่อเทียบกับปลาทะเล

ปลาทะเลที่ผ่านกระบวนการหมัก (เน้นย้ำ....กระบวนการ) อย่างถูกวิธีแล้ว ยังมี ฟลาโวนอยด์. ควินนอยด์.
โพลิตินอล. ไซโตไคนิน. อ็อกซิน. จุลินทรีย์ประเภทต้องการอากาศและไม่ต้องการอากาศ. ซึ่งใน ปลาน้ำจืด-
หอยเชอรี่-ผัก-ผลไม้ ไม่มี หรือมีน้อยมากเมื่อเทียบกับปลาทะเล

การทำ "ปุ๋ยอินทรีย์-ปุ๋ยชีวภาพ" ทั้งชนิดน้ำและชนิดแห้ง เป้าประสงค์หลัก คือ ให้ได้สารอาหารสำหรับพืช
ในเมื่อวัสดุที่นำมาเป็นส่วนผสมหลักในการทำไม่มีสารอาหารอยู่ในตัวมันเองตามธรรมชาติมาก่อน แล้วปุ๋ย
อินทรีย์-ปุ๋ยชีวภาพที่ทำขึ้นมานั้นจะเป็นปุ๋ยหรือสารอาหารสำหรับพืชได้อย่างไร

หลักการวิเคราะห์ที่มาของสารอาหารพืชอย่างง่ายๆ แบบชาวบ้าน-ชาวบ้าน เยี่ยงนี้ คนที่ออกไปสอนเกษตร
กร ซึ่งล้วนแต่ความรู้พื้นฐานสูงๆทั้งนั้น ไม่รู้ได้อย่างไร.....หรือสอนแบบ "ต่อต้าน" วางแผน 3 ชั้น
ดั่งขงเบ้ง กล่าวคือ สอนผิดๆ ให้ทำแล้วใช้ ใช้แล้วไม่ได้ผล คนก็จะเลิกใช้ แล้วหันไปหา
สารสังเคราะห์ (ปุ๋ยเคมี) เอง กระนั้นหรือ
..... แม้แต่ประเทศที่เจริญสูงสุดด้วยเทคโนโลยี อย่างอเมริกา
เขายังใช้แต่ปลาทะเล ใช้เศษซากเครื่องในสัตว์เลย

สารอาหารพืชในอินทรีย์วัตถุ (เศษซากพืชและสัตว์) แต่ละอย่างมีสารอาหารไม่มาก อาจจะ พอ/ไม่พอ ต่อความ
ต้องการที่แท้จริงของพืช ไหนๆจะทำทั้งที ก็ควรเลือกใช้เฉพาะวัสดุส่วนผสมตัวที่มีสารอาหารมากกว่า มิดีกว่าหรือ

หลายคนบอกว่า อินทรีย์ไม่ได้ผล-ชีวภาพไม่ได้ผล ก็อยากถามย้อนว่า
"อินทรีย์แบบไหน-ชีวภาพแบบไหน" ที่ทำๆกันนั้นล้วนแต่อินทรีย์ที่ไม่มีสารอาหาร ชีวภาพที่ไม่มีจุลินทรีย์ แทบ
ทั้งนั้น


เพื่อแก้ข้อกังขาต่อแนวทางที่ลุงคิมส่งเสริม ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการรณรงค์....
- จากคำว่า "ปุ๋ยอินทรีย์" เพิ่มเป็น "ปุ๋ยอินทรีย์มีสารอาหารไหม ?
มีสารอาหารตัวไหน ? มีปริมาณ
เท่าไหร่ ? และอื่นๆ" เพื่อให้คนทำคนใช้ถามตัวเอง หรือถามคนที่ไปส่งเสริม

- จากคำว่า "ชีวภาพ" เพิ่มเป็น "ชีวภาพมีจุลินทรีย์ไหม? มีจุลินทรีย์ชื่ออะไร ? มีปริมาณเท่าไร่ ? และอื่นๆ"
เพื่อให้คนทำคนใช้ถามตัวเอง หรือถามคนที่ไปส่งเสริม

เมื่อรู้ว่าในปุ๋ยอินทรีย์ ทั้งชนิดน้ำและชนิดแห้ง ทำมาจากปลาทะเลแท้ๆ ยังมีสารอาหารพืชที่เรียกว่า "สารอินทรีย์"
ในปริมาณที่ไม่มากนัก หรืออาจกล่าวได้ว่า "น้อยมาก" เมื่อเทียบกับความต้องการของพืชในการพัฒนาไปสู่
เกรด เอ. จัมโบ้. ก็แก้ไขด้วยการเพิ่ม "สารสังเคราะห์ หรือ ปุ๋ยเคมี-ฮอร์โมนเคมี" ลง ตามความจำเป็น ....
นี่คือที่มาของคำว่า "อินทรีย์ นำ - เคมี เสริม - ตามความเหมาะสมของพืช"

วันนี้มั่นใจสุดๆ "อินทรีย์ นำ - เคมี เสริม - ตามความเหมาะสม" คือ แนวทางที่เกษตรกรอเริกาทำอยู่ทุก
วันนี้ และทำมานานกว่า 70 ปีแล้วด้วย

จึงให้ สงสัย สงสัย และสงสัย ว่า อั้ยคนเคยไปเรียนที่อเมริกามาน่ะ มันส์ไปเรียนอะไรกัน ในเมื่อวันนี้ พ่อ-
แม่-ญาติ-พี่-น้อง-เพื่อน-ตัวมันส์เอง แท้ๆ ก็ยังเผาฟาง ยังใส่ปุ๋ยเคมีผิดสูตร ยังใส่ปุ๋ยเคมีบ้าเลือด.....แล้ว
ดร.ทั้งหลายแหล่เต็มบ้านเต็มเมือง แทบเดินชนกันตายอยู่ทุกวันนี้ แม้ไม่ได้ไปเรียนที่อเมริกา แต่ไม่มีข้อมูล
เรื่องการทำการเกษตรของเกษตรกรอเมริกาเลยรึ....ในเน็ตก็มี

มาที่พวกเรา ชาวรากหญ้า (หญ้าสูงแค่ไหนก็ยังต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้าวันยังค่ำ) แค่อ่านออกเขียนได้ คุณ
วิเคราะห์อะไรด้วยตัวเองไม่เป็นเลยเหรอ ว่าอะไรเป็นอะไร อะไรใช่หรือไม่ใช่

ใครจะต่อต้านลุงคิมก็ต่อต้านไปเถอะ (ปล่อยตาคิมบ้าไปคนเดียว อย่าบ้าตามลุงคิมหน่อยเลย)
แต่คุณต่อต้านธรรมชาติไม่ได้หรอกนะ ยิ่งต่อต้านธรรมชาติ คุณจะยิ่งเจ็บ

อย่าลืม สังคมวันนี้ ยามคุณหัวเราะสังคมจะหัวเราะกับคุณ ยามคุณร้องไห้สังคมจะปล่อยให้คุณร้องไห้คนเดียว
(เชคเปียร์ / อังกฤษ)


----------------------------------------------------------------------------





.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 19/12/2012 6:44 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 17/12/2012 5:37 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

17 DEC



จาก : (089) 044-29xx
ข้อความ : จาก สมช.วิทยุ+เน็ต (3) อ่านกระทู้ มือใหม่ ทำนาปรัง ของคุณ jukgree ที่ลุงคิมแนะนำให้หา
เมล็ดพันธุ์ข้าวรุ่น 1 จากหน่วยผลิตเมล็ดพันธุ์ กรมการข้าว ขอถามลงุคิมว่า ช่องทางติดต่อทำอย่างไร หน่วยงาน
นี้อยู่ที่ไหน ....ขอบคุณครับ

ตอบ :

สถานที่จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว

คลิก....
http://brs.ricethailand.go.th/data_seeds/seed2.htm
ศูนย์จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ทั่วราชอาณาจักร


คลิก....
http://nrm-rsc.ricethailand.go.th/index1.html
ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครราชสีมา

----------------------------------------------------------------------------


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 19/12/2012 2:37 pm, แก้ไขทั้งหมด 6 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
cherm
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 17/11/2011
ตอบ: 237

ตอบตอบ: 17/12/2012 2:30 pm    ชื่อกระทู้: ขออนุญาตแจม ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง และ สมช.สายเน็ต -วิทยุ

ประสบณ์การตรง :

ยัยเฉิ่ม ซื้อพันธุ์ข้าวปลูก สุพรรณ1 ที่รับรองโดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกรมส่งเสริมการข้าว จากร้านค้าแถวบ้าน
ข้างถุงระบุ ใช้ปลูกฤดูกาลนาปรัง ปี 2555


ยัยเฉิ่ม เทเพื่อแช่ข้าว สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดก็คือ
1. ข้าวลีบเป็นจำนวนมาก
2. มอดยั่วเยี้ยเต็มไปหมด

เสียดายที่ย้ยเฉิ่ม ไม่ได้ถ่ายรูปไว้


ถ้าคุณต้องการที่จะหาพันธุ์ข้าว เพื่อเป็นข้าวรุ่นที่ 1 ก็แนะนำให้ไปหาเกษตรตำบลที่คุณอยู่ เค้าจะมีคำตอบ
ให้คุณค่ะ หรือไม่ก็ที่ศูนย์ส่งเสริมการปลูกข้าวในตำบลเจ้าค่ะ

ทิดแดงล่ะคะ มีอะไรแนะนำคนที่อยากได้พันธุ์ข้าวรุ่น 1 บ้าง


ยัยเฉิ่ม ขอแจม



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 18/12/2012 12:27 pm    ชื่อกระทู้: หางานให้ข้าอีกแล้ว ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

[quote="cherm"]สวัสดีค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง และ สมช.สายเน็ต -วิทยุ

ประสบณ์การตรง :

ยัยเฉิ่ม ซื้อพันธุ์ข้าวปลูก สุพรรณ1 ที่รับรองโดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกรมส่งเสริมการข้าว จากร้านค้าแถวบ้าน
ข้างถุงระบุ ใช้ปลูกฤดูกาลนาปรัง ปี 2555


ยัยเฉิ่ม เทเพื่อแช่ข้าว สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดก็คือ
1. ข้าวลีบเป็นจำนวนมาก
2. มอดยั่วเยี้ยเต็มไปหมด


เสียดายที่ย้ยเฉิ่ม ไม่ได้ถ่ายรูปไว้
ตอบ...ไม่ถ่ายไว้น่ะดีแล้ว เพราะเดี๋ยวจะแยกแยะวิจัยไม่ออกว่า มอด หรือ หมัด



ถ้าคุณต้องการที่จะหาพันธุ์ข้าว เพื่อเป็นข้าวรุ่นที่ 1 ก็แนะนำให้ไปหาเกษตรตำบลที่คุณอยู่ เค้าจะมีคำตอบ
ให้คุณค่ะ หรือไม่ก็ที่ศูนย์ส่งเสริมการปลูกข้าวในตำบลเจ้าค่ะ
ตอบ..... ฝันกลาง
แดดไปเถอะเอ็ง เสียเวลาไปตามที่เอ็งบอก ไม่มีทางได้ขนาดเอ็ง ซื้อพันธุ์ข้าวปลูกสุพรรณ1 ที่รับรอง
โดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกรมการข้าว จากร้านค้าแถวบ้าน เอ็งยังโดนหลอกเล๊ย


ทิดแดงล่ะคะ มีอะไรแนะนำคนที่อยากได้พันธุ์ข้าวรุ่น 1 บ้าง
ตอบ.... ช้าอยู่ของข้าสบาย ๆ เอ็งดึงข้ามาแจมทำไมเนี่ย....ไหน ๆ ก็ไหน ๆ จัดให้ได้เลย....ตามทิดมา


มีชาวนาคนไหนรู้จักหรือเคยได้ยิน ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว ของกรมการข้าว ซึ่งมีศูนย์เมล็ดพันธุ์อยู่ในจังหวัด
ต่าง ๆ ที่เค้าผลิตและจำหน่ายเมล็ดข้าวพันธุ์แท้ สายพันธุ์ต่าง ๆ กันบ้างไหมครับ....หลายคนอาจจะรู้ แต่
ไม่เคยไปติดต่อขอซื้อ และอีกหลายคนไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยินชื่อซะด้วยซ้ำ …ลุงคิม แปะ ลิงค์ให้แล้ว คลิก
เข้าไปดู คุณอยู่ใกล้ที่ไหน ติดต่อไปที่นั่น

แต่ก็มีบางคนนะครับ ยกตัวอย่าง...
...อย่างเพื่อนสาว (แก่) คนสวยโพธารามนางหนึ่ง(จะใช้นางสาวหนึ่งก็ไม่ได้ เพราะมีครัวครอบแล้ว) อยู่ใกล้
ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ราชบุรีนิดเดียว ยังไม่รู้จัก ดันไปแนะนำให้ไปหาเกษตรตำบล หรือเกษตรอำเภอ แต่ผม
อยู่ศาลายา ดันผ่าไปรู้จัก........ใกล้เกลือกินแกลบจริง ๆ เอ็ง

...แล้วคุณ จักรี อยู่เชียงราย ซึ่งน้องชายของผมบอกว่าคุณ อยู่ อ.พาน ก็อยู่ใกล้ศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย อ.พาน
อยู่เลย รพ.พานไปหน่อยเดียว แต่ผมอยู่ นครปฐมยังรู้จัก เพราะเคยซื้อพันธุ์ข้าว กข.15 ไปให้น้องชายที่
เชียงรายเมื่อปีที่ผ่านมา

ทีนี้ ผมโทร.ไปสอบถามทั้งศูนย์ทั้งสองแห่งเมื่อ 11.00 น วันนี้(18 ธันวาคม 2555) ได้ความดังนี้....


สำหรับยัยเฉิ่ม.....ที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ราชบุรี...(032 – 370-273) เวลานี้ ขณะนี้ ปัจจุบันนี้
ที่ศูนย์ฯ มีข้าวเหลืออยู่ชนิดเดียว คือ สุพรรณบุรี 1 ....1 ถุง 25 กก. ราคา 575.- บาท (กก.
ละ 23.-บาท ) เกษตรกรซื้อครั้งละ 5,000 บาทขึ้นไป ได้ส่วนลดทันที 5 % และถ้าซื้อครั้ง
ละ 50,000 ขึ้นไป จะได้ส่วนลด 10 % ....เฮ๊ย ๆๆๆๆ ส่วนลดนี่ ทิดขอเป็นค่าดำเนินการ
(ติดต่อ) นะเว๊ย






อ้อ ที่ศูนย์ฯราชรี ปกติจะมีเมล็ดพันธุ์สองอย่าง คือ สุพรรณ1 กับ กข31 (ปทุม ซีโอ) และ ปทุม ซีโอ ก็ราคา
กก.ละ 23.- บาท ถุง 25 กก.ละ 575.- แต่จะออกจำหน่ายประมาณปลายเดือน ม.ค.56 ...

เอ็งก็รวมหลาย ๆ คนไปซื้อซีวะ 100 กระสอบก็เกิน 50,000 แล้ว จะได้ส่วนลด 10 % งานนี้ถ้าเอ็งยังต้อง
เสียค่าโง่อีกละก็ ไปอยู่กับไอ้ตุ๊ดตู่เหอะ ....โทรไปคุยก่อนที่ ร้านขายข้าวปลูกจะมาซื้อไปซะก่อน ของมี
จำนวนจำกัดว่ะ


สำหรับคุณจักรี นี่ก็อีกคน ใกล้เกลือกินแกลบ บ้านอยู่พาน น่าจะไปติดต่อที่ศูนย์วิจัย
ข้าว เชียงราย อ.พาน ขาขึ้นเชียงราย จะอยู่ซ้ายมือถึงก่อนโรงพยาบาลพาน แต่เสียใจ
ด้วย ที่เวลานี้ ข้าวของศูนย์ไม่มีพันธุ์ข้าวจำหน่ายแล้ว(หมด) จะมีก็ของศูนย์ข้าว
ชุมชน ซึ่งจะมี กข6, กข15, และมะลิ105 แต่ว่า ยังอยู่กลางทุ่งนะน้อง.......ก็เลย
ได้คำแนะนำว่า ให้ไปติดต่อที่ พะเยา


ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพะเยา คุณก็ต้องล่องลงมาพะเยาอีก 50 กม มาถึงบนเนินก่อนลงมอใกล้กว๊าน จะมีศูนย์
ราชการอยู่ซ้ายมือ โทรถามไปเลย 054 – 411-004

เสียงดุเป็นบ้า สงสัยว่าจะใช้ไม้คานทอง หรือไม่ก็เมื่อคืนทะเลาะกับผัว ...
..โหล นี่ศูนย์ข้าวพะเยา มีหยัง ..

..สวัสดีคร๊าบพี่สาวคนสวย .... ทีนี้หวานมาเลย ..
.ที่นี่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพะเยาค่า มีไรให้รับใช้ค๊า .

..ผมจะสอบถามเมล็ดพันธุ์เวลานี้มีพันธุ์อะไรอยู่บ้างคร๊าบ เอาที่เมล็ดมันสวยอย่างพี่สาวนะคร๊าบ....แหม..
เอ้อ มีข้าวนาปรัง พิษโลก 2 อย่างเดียวค่า (คงจะพิษณุโลก 2 ปลูกเพื่อทำแป้ง) กก.ละ 23.- บาท ถุงละ 575.-
ค่า ทานโทษ โทร.จากไหนค๊า...

.. อ๋อ ผมกระซิบอยู่ใกล้ ๆ หูพี่สาวนี่แหละคร๊าบ บ๊าย ๆ ขอบคุณนะคร๊าบ....


ขนาดว่า เมล็ดพันธุ์จากศูนย์ ราคายัง กิโลละ 23 บาท เกวียนหนึ่งก็ 23,000 บาท พยายามคัดเลือกเก็บเมล็ดพันธุ์
เองอย่างลุงคิมบอกเถอะน้องทั้งสองคนเลย .....


อยากเรียนรู้เรื่องข้าว ไปทดลองจากของจริง ที่บ้าน ตุ๊หล่าง (แก่นคำหล้า พิลาน้อย) ที่ อ.กุดชุม จ.ยโสธร
ไปกิน ไปนอน ไปเรียน ไม่ผิดหวัง และขอบอก ผมเป็นคนชอบกินข้าวกล้องหอมนิล กินมาเกือบทุกแห่งที่โฆษณา
ขาย ตั้งแต่ กิโลละ 75 – 120 บาท (ข้าวกล้องหอมนิลที่กุดชุม กก.ละ 120 บาท มีไม่พอจะขาย) จนกระทั่ง
กินของฟรีจากกะเหรี่ยงบนดอย ก็มีข้าวหอมนิลที่กุดชุมกับข้าวหอมนิลบนยอดดอย อร่อย นุ่มลิ้นที่สุด



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
jukgree
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 02/05/2011
ตอบ: 25

ตอบตอบ: 18/12/2012 9:57 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.


สวัสดีครับพี่ทิดแดง

ผมใกล้เกลือกินด่างตามที่พี่ว่าจริงๆครับ Very Happy

ผมได้พันธุ์ข้าวปลูกแล้วครับ พันธุ์พิษโลก 2 ซื้อที่สหกรณ์แม่ใจ จ.พะเยา ราคา 590 บาทต่อลูก

คิดแล้วถ้าไปซื้อที่ศูนย์เมล็ดข้าวพะเยาเสียค่าน้ำมันพอๆกับส่วนต่างราคาที่สหกรณ์รับมาจากที่ศูนย์เมล็ดข้าวพะเยา
ก็เลยซื้อที่สหกรณ์มา 10 ลูก

จนท.บอกว่า หว่าน 15 กก.ต่อไร่ ไม่น้อยไปเหรอ ปกติเขาหว่าน 25 กก.ต่อไร่นะ


ผมไม่รู้จะตอบยังไงก็เลยบอกว่าอยากลองดู ผมเป็นชาวนารุ่นใหม่ (มือใหม่)



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 19/12/2012 9:02 am    ชื่อกระทู้: ข้าวแท้จากศูนย์ - ข้าวปนจากสหกรณ์ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม - คุณจักรี

จากแม่ใจ ลงมาพะเยาอีกประมาณ 25 กม. ค่าน้ำัมันรถไปกลับไม่น่าจะถึง 150 บาทส่วนต่างข้าว 10 กระสอบ
150 บาท กับการที่จะได้ข้าวพันธุ์แท้ ๆ จากศูนย์ และได้รับคำแนะนำดี ๆ จากศูนย์ แล้วก็จะได้รู้ว่า ในเวลาที่ข้าวนา
ปีออกมา จะมีข้าวพันธุ์อะไรบ้าง

ปีที่ผ่านมา ผมอยู่นครปฐม พยายามที่จะหาเมล็ดพันธุ์จากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว ให้น้องชายที่เชียงราย

ได้เมล็ดพันธุ์ กข6 กับ กข15 ที่ศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย อ.พาน โทร.บอกน้องชาย....เอ็งลงมาเอาที่พาน ...จากพาน
ไป ชร. 46 กม.เข้าไปเวียงชัยอีก 12 กม ตีเสียว่า 60 กม ไปกลับ 120 กม. แต่ได้เมล็ดข้าวพันธุ์แท้ ซึ่งปลูกแล้ว
คัดเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ปลูกต่อได้อีก 3 รุ่น

ในรุ่นที่ 4 จะลองใช้หลักพันธุกรรมของเมลเดล 3 :1 จะประหยัดค่าเมล็ดพันธุ์ลงอีกหน่อย....ขนาดว่าได้พันธุ์แท้
จากศูนย์ ซึ่งเค้าบอกแล้วว่า จะต้องมีข้า่วปนบ้าง ซึ่งก็มี คุณไปดูได้ในกระทู้ สมบัติ ปลูกข้าวหอมที่เชียงราย มีข้าว
ปนเห็นชัด ๆ

สิ่งที่ผมอยากได้เพื่อให้น้องชายปลูกคือ เหนียวสันป่าตอง หลวงสันป่าตอง และ ซิวแม่จัน ซึ่งดั้งเดิมเคยมีปลูกที่
ต.หนองบัว อ.รอบเวียง จ.เชียงราย... หนองบัวอยู่ปากทางที่จะเข้า อ.เวียงชัย น้องชายบอก พยายามขี่รถวนหา
ตามแปลงนาบริเวณนั้น ก็ไม่มีใครปลูก บางคนไม่รู้จักซื่อเสียด้วยซ้ำ

ผลสุดท้ายไปได้ข้อมูลว่า ที่ตำบลหนองแซง อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น มีข้าว ซิวแม่จันปลูก จากเชียงราย
ไปปลูกที่ขอนแก่น ...แต่เป็นที่น่าเสียใจ เพราะเค้าบอกว่า ขายเมล็ดพันธุ์ไปหมดแล้ว ต้องรอปีหน้า(คือปีนี้)

ที่คุณซื้อมาจากสหกรณ์ ผมขอถามว่า คุณแน่ใจหรือว่า คุณได้ข้าวพันธุ์ พล.2 แท้ ๆ ที่ไม่มีปลอมปน ผมไม่
แน่ใจ ไม่เชื่อครับ.....ยัยเฉิ่ม บอกว่า

ยัยเฉิ่ม ซื้อพันธุ์ข้าวปลูก สุพรรณ1 ที่รับรองโดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกรมส่งเสริมการข้าว จากร้านค้าแถวบ้าน
ข้างถุงระบุ ใช้ปลูกฤดูกาล นาปรัง ปี 2555


ยัยเฉิ่ม เทเพื่อแช่ข้าว สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดก็คือ
1. ข้าวลีบเป็นจำนวนมาก
2. มอดยั่วเยี้ยเต็มไปหมด


คุณคิดอย่างไรครับ
จะบอกให้ว่า สหกรณ์ ก็เหมือนร้าค้าทั่วไปนั่นแหละ ตั้งขึ้นเพื่อหากำไรเพื่อจ่ายปันผลให้มวลสมาชิก และร้านค้า
ก็ต้องทำกำไรให้ตัวเองมากที่สุด ยังไง ๆ ก็ต้องทำทุกวิถีทางที่จะให้ได้มาซึ่งกำไร


กรรมวิธีในการทำกำไร เอาตัวอย่างเรื่องข้าวพันธุ์ ....
เค้าซื้อมาจากศูนย์ 1,000 กระสอบ @ 575.- = 575,000 ได้ส่วนลด 10 % = 57,500 ...ได้กำไรจาก
ส่วนนี้แล้ว 1 ละนะ



กลางดึกคืนวันหนึ่ง กรรมการสหกรณ์มาประชุมพร้อมกัน ช่วยกันแกะเชือกเย็บกระสอบข้าวพันธุ์แท้ออก ตักข้าว
พันธุ์แท้ออกกระสอบละ 1 หรือ 2 กก. แล้วก็เอาข้าว พล.2 จากของกลุ่มกรรมการเองใส่แทนเข้าไป เย็บ
กระสอบให้เหมือนเดิม

ไม่มีใครรู้นอกจากกรรมการ ผลประโยชน์ร่วมกัน ถ้าขัดผลประโยชน์กันเมื่อไหร่ ติดคุกทุกคน ไม่ว่าจะนานแค่
ไหน ทุกคนต้องเงียบ


ส่วนข้าว 1,000 หรือ 2,000 กก.ที่ตักออกจากถุงพันธุ์แท้ จะขายต่อหรือจะแบ่งกันในหมู่กรรมการก็ว่ากันไป .....


ร้านค้า โรงสี หรือสหกรณ์ที่ไหนใครเค้าทำกันแบบนี้ คุณอาจคิดว่า เค้าคงไม่ทำมั๊ง... ยัยเฉิ่มโดนมาแล้วหมาด ๆ
แล้วก็โดนในเรื่องปุ๋ยปลอมปน ใหม่ ๆ ซิง ๆ น้ำท่วมปาก พูดไม่ออก พูดไม่ได้ พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ จริงป่ะน้องเฉิ่ม

แล้วเรื่องการประกันราคาข้าว ผมก็เง็งว่า แต่ละแห่งให้ราคาไม่เหมือนกัน นครปฐมแถวบ้านผม ได้เกวียนหรือตันละ
12,000 ที่บ้านน้องชาย เชียงรายให้ 15,000 แถวบ้านยัยเฉิ่มให้ 13,000 อะไรกันว๊า สำนวนลุงคิม ...นี่แหละ
ประเทศไทย และ ...(อั๊ย) พวกนี้เพิ่งย้ายมาอยู่ประเทศไทยเหรอ (วะ)

และในการประกันราคา ผมเคยพูดในกระทู้ไหนไม่รู้ละ บอกว่า เค้าให้คุณในราคาประกันแค่ไร่ละไม่เกิน
688 กก.เท่านั้น ส่วนต่างที่เหลือเป็นราคาตามใจโรงสี ....งง...

สมมุติว่า คุณผลิตข้าวออกมาได้ไร่ละ 1 เกวียนหรือ 1,000 กก. ราชการเค้าให้คุณในราคาประกันเพียง 688
กก. อีก 312 กก. เป็นราคาที่แล้วแต่โรงสีจะให้คุณ

....ยัยเฉิ่ม เพิ่งโดนมาหมาด ๆ อีกเหมือนกัน ได้ราคาส่วนเกินแค่ กก.ละ 8 บาท แทนที่จะได้ กก.ละ 13 บาท
หายไป 5 บาท ...(แม่งหักชิกหาย) ควางชื้งสูง ข้าวปงแยะ เม็กลีก ...(งั้นก็เอาซ่งตีงไปแหลกลีม๊าย) ....
คนที่ได้ 12,000, 15,000, 13,000 เต็ม ๆ คือ โรงสีกับ....เปรตเดินดิน ...

ผมขอลาออกจากการเป็นกรรมการหมู่บ้านทุกตำแหน่ง ด้วยเหตุประการระฉะนี้ และคำพูดของลุงคิมที่ประทับ
ใจผมมาก ๆ ที่ผมฟังจากรายการตอนสองทุ่มเมื่อวันที่ 16 พค.2554 ว่า ...โหดไม่ลงว่ะ....



อิทัง สัพพะ เปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงจงมีความสุข


เออ ผมอัดเสียงลุงคิมเอาไว้แยะมาก แรกทีเดียวอัดแล้วก็ส่งให้น้องชายที่เชียงราย อัดในรูปแบบ VLC Media
File อยากเอาลงเว็ปลุงเพื่อ แชร์ให้เพื่อน ๆ อัดเเสียงเอาไปฟังกันเอง... แต่... ทำไม่เป็นว่ะ ใช้โปรแกรมอะไร
ใครรู้ช่วยบอก จะได้เอาลงเว็ป เคยมีคนเค้าอัดเสียงลุงแล้วโฆษณา ขายแผ่น ซีดี ....ผมบอกตามตรงว่า ...โหด
ไม่ลงว่ะ...มันรู้สึกยังไงไม่รู้ ไม่ดีเลยอ่ะ ...ถ้าลงได้ อย่างน้อย ๆ คนที่อยู่ไกลเกินรัศมีคลื่นที่จะเปิดฟังรายการลุงคิม
ได้ แต่มีเน็ต จะได้ฟังเสียงลุงจากเน็ตได้ทั่วโลก โดยเฉพาะ เพื่อนชาวโคราชของผมที่ไปทำเกษตรอยู่ที่ออสเตรเลีย
จะได้ฟังเสียงของลุงได้ ....บรื๊อว์...เอาเสียงลุงมาขาย ...ถ้าดังอย่าง กังนัมสไตล์ ค่อยน่าสนหน่อย ....นี่แค่
คิม ซา กัสส์ หรือ คิม วา งซุก.. ยัยเฉิ่มว่าไง


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
songpon03122526
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 22/11/2012
ตอบ: 99

ตอบตอบ: 19/12/2012 9:42 am    ชื่อกระทู้: ขอไฟล์เสียงหน่อยครับ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.

สวัสดีลุงคิม คุณแดง และสมช.ทุกท่าน

คุณแดงเป็นคนรู้กว้างขวางหลายเรื่องเลยนะครับ ข้าว กล้วย การเดินทางและอื่นๆ น่านับถือ เห็นคุณแดงมีไฟล์เสียง
ลุงคิมที่อัดไว้ ผมขอเอาไว้ศึกษาหน่อยครับ คุณแดงต้องการแปลงไฟล์อย่างไร เป็นไฟล์สกุลอะไร บอกได้ครับ
เพื่อผมจะทำได้


ขอบคุณครับ


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 19/12/2012 10:06 am    ชื่อกระทู้: ต้องการโปรแกรมที่เอาไฟล์ VLC ลงเว็ป ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม คุณทรงพล

ผมอัดเสียงลุงในรูปแบบ VLC ที่เป็นรูปกรวยสามเหลี่ยมกั้นถนน เพื่อที่จะเอาลงเว็ปลุงคิม เพราะไฟล์มันเล็ก
ถ้าแปลงเป็น MP3 หรืออย่างอื่นไฟล์มันใหญ่เกินไป ถ้าลงในรูปแบบ VLC คุณก็ก๊อปเอาไปแปลงเป็น
WMA หรือ MP3 หรืออะไรต่อก็ตามใจ

อยากได้วิธีการที่จะเอาไอ้เจ้า ไฟล์ กรวยสามเหลี่ยมลงเว็ป ว่าใช้โปรแกรม หรือมีวิธีการลงเว็ปอย่างไร
เท่านั้นแหละครับ ถ้ารู้ กรุณาแนะนำด้วย ร่วมด้วยช่วยกัน เอาไฟล์รูปลงได้แล้ว จะเอาไฟล์เสียงลง
ทำไม่เป็น ถ้าเอาลงได้นะ ฟังเป็นปียังไม่หมดเลยคุณ ใครจะเอาไปอัดแผ่นขายก็เอาไปเถอะ อบต.ไม่ว่า
ตำรวจไม่จับ


ขอบคุณครับลุงคิม

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 20/12/2012 4:11 pm    ชื่อกระทู้: Re: ต้องการโปรแกรมที่เอาไฟล์ VLC ลงเว็ป ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

DangSalaya บันทึก:
สวัสดีครับลุงคิม คุณทรงพล

ผมอัดเสียงลุงในรูปแบบ VLC ที่เป็นรูปกรวยสามเหลี่ยมกั้นถนน เพื่อที่จะเอาลงเว็ปลุงคิม เพราะไฟล์มันเล็ก
ถ้าแปลงเป็น MP3 หรืออย่างอื่นไฟล์มันใหญ่เกินไป ถ้าลงในรูปแบบ VLC คุณก็ก๊อปเอาไปแปลงเป็น
WMA หรือ MP3 หรืออะไรต่อก็ตามใจ

อยากได้วิธีการที่จะเอาไอ้เจ้า ไฟล์ กรวยสามเหลี่ยมลงเว็ป ว่าใช้โปรแกรม หรือมีวิธีการลงเว็ปอย่างไร
เท่านั้นแหละครับ ถ้ารู้ กรุณาแนะนำด้วย ร่วมด้วยช่วยกัน เอาไฟล์รูปลงได้แล้ว จะเอาไฟล์เสียงลง
ทำไม่เป็น ถ้าเอาลงได้นะ ฟังเป็นปียังไม่หมดเลยคุณ ใครจะเอาไปอัดแผ่นขายก็เอาไปเถอะ อบต.ไม่ว่า
ตำรวจไม่จับ


แดง.....ข้อความตรงนี้หายไปหน่อยนึง เพราะเผลอใจ "กดปุ่มผิด" เลยเป็นเรื่อง ลงข้อความใหม่นะ น่าจะเป็น
ข้อความเกี่ยวกับแหล่งซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว ประมาณนี้ (ว่ะ).....ลุงคิม ซินโหลย



ขอบคุณครับลุงคิม

.




มีคนทำอยู่แล้ว เรื่องบันทึกเสียงแล้วไปออกในเน็ต
เว้บเรานี่แหละ กระทู้ไหนจำไม่ได้ หาก็ไม่เจอ ตาลาย (ว่ะ)
ใครว่าง ไม่มีงานทำ ตกงาน หงุดหงิดกับเมีย ก็ลองค้นหาดูหน่อยก็ได้


.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 20/12/2012 4:18 pm, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 20/12/2012 4:35 pm    ชื่อกระทู้: Re: ต้องการโปรแกรมที่เอาไฟล์ VLC ลงเว็ป ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
DangSalaya บันทึก:
สวัสดีครับลุงคิม คุณทรงพล

ผมอัดเสียงลุงในรูปแบบ VLC ที่เป็นรูปกรวยสามเหลี่ยมกั้นถนน เพื่อที่จะเอาลงเว็ปลุง
คิม เพราะไฟล์มันเล็ก ถ้าแปลงเป็น MP3 หรืออย่างอื่นไฟล์มันใหญ่เกินไป ถ้าลงในรูป
แบบ VLC คุณก็ก๊อปเอาไปแปลงเป็น WMA หรือ MP3 หรืออะไรต่อก็ตามใจ

อยากได้วิธีการที่จะเอาไอ้เจ้า ไฟล์ กรวยสามเหลี่ยมลงเว็ป ว่าใช้โปรแกรม หรือมีวิธี
การลงเว็ปอย่างไรเท่านั้นแหละครับ ถ้ารู้ กรุณาแนะนำด้วย ร่วมด้วยช่วยกัน เอาไฟล์
รูปลงได้แล้ว จะเอาไฟล์เสียงลง ทำไม่เป็น ถ้าเอาลงได้นะ ฟังเป็นปียังไม่หมดเลยคุณ
ใครจะเอาไปอัดแผ่นขายก็เอาไปเถอะ อบต.ไม่ว่า ตำรวจไม่จับ


แดง.....ข้อความตรงนี้หายไปหน่อยนึง เพราะเผลอใจ "กดปุ่มผิด" เลยเป็นเรื่อง ลง
ข้อความใหม่นะ น่าจะเป็นข้อความเกี่ยวกับแหล่งซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว ประมาณนี้ (ว่ะ)..
ลุงคิม ซินโหลย



ขอบคุณครับลุงคิม

.




มีคนทำอยู่แล้ว เรื่องบันทึกเสียงแล้วไปออกในเน็ต
เว้บเรานี่แหละ กระทู้ไหนจำไม่ได้ หาก็ไม่เจอ ตาลาย (ว่ะ)
ใครว่าง ไม่มีงานทำ ตกงาน หงุดหงิดกับเมีย ก็ลองค้นหาดูหน่อยก็ได้


.



ตอนนั้น เค้าบอกให้ LOAD ฟรี ผมเคย LOAD แล้วมัน LOAD ไม่ได้ครับ ต่อมาเค้า
เลยทำแผ่นขาย แล้วก็เงียบหายไป ผมก็ไม่ทราบว่ามีใครซื้อไปฟังบ้างหรือไม่

....ก็เมื่อผมอัดเสียงลุงได้เองแล้ว จะซื้อทำไม ที่อยากเก็บเพราะบางวัน (หลายวัน)
ไม่ได้ฟังจะได้เก็บรวบรวมเอาไว้ ทีนี้หากใครรู้วิธีที่จะเอาไฟล์เสียง ลงเว็ปก็กรุณาบอก
กัน ใครอยากฟังจะได้ LOAD เอาไปฟัง ฟรี ไม่ต้องซื้อต้องหา น่าจะเป็นประโยชน์กับ
เพื่อนสมาชิกหลาย ๆ ท่านที่สนใจนะครับ



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 24/12/2012 9:26 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

24 DEC


จาก : (091) 430-22xx
ข้อความ : อ่านเน็ตเรื่อง พันธุ์ข้าว ทำให้เข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงของประเทศไทย สมัยก่อนไม่มีนักวิชาการผสมสาย
พันธุ์ใหม่ ทุกพันธุ์เกิดเองตามธรรมชาติแท้ๆ พันธุ์ที่เกิดมาแล้วถ้าไม่ดีจะหายไปเอง แต่พันธุ์ดีก็จะมีคนปลูกต่อ ถ้าเรา
เอาข้าวพันธุ์โบราณมาทำธุรกิจ ลุงคิมว่าจะไปรอดไหม หรือมีความคิดเห็นอย่างไร.....สมช.สวพ.
ตอบ :
ดีซิครับ ดีมากๆด้วย คนกินนอกจากจะได้สารอาหารที่มากกว่าข้าวพันธุ์ลูกผสมใหม่แล้ว ยังได้ชื่อว่า ผู้อนุรักษ์
ธรรมชาติ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และยัง MAKE MONEY จากในและต่างประเทศอีกด้วย

ทำเถอะ ทำเลย มีแผนการดีๆ

ไม่รู้เหรอ คนยิ่งรวยมากยิ่งกลัวตายมาก เขาต้องการกินแต่ของดีๆ แพงเท่าไรไม่สน จ่ายเท่าไรไม่ว่า ว่าแต่
มีของดีๆขายให้เขาไหม ?

ได้ข้าวเปลือกมาแล้วต้องแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม "ต้นน้ำ - กลางน้ำ - ปลายน้ำ" จึงไปได้ หากคิดแค่เอาไปขาย
ให้โรงสี หรือจำนอง ธ.ก.ส. ก็จะไม่ได้อะไรเลย

หากจะทำจริงๆ งานเหนื่อยที่สุดชนิด "หืดขึ้นคอ" ก็คือ "โฆษณา ประชาสัมพันธ์" นี่แหละ

บอกแล้วไง เทคโนโลยีที่ยากที่สุด คือ "เทคโนโลยีการตลาด"



.

----------------------------------------------------------------------------



จาก : (080) 189-26xx
ข้อความ : ผมเป็น สมช.สายเน็ต ขอเสนอแนะ ให้ผู้พันเขียนเรื่อง ซี.เอ็น.เรโช เอาแบบ ภูมิปัญญาผสมผสานวิชาการ
ให้อ่านง่าย มีเหตุมีผลถึงความเป็นไปได้ แม้ว่าในธรรมชาติจะไม่มีตัวเลข สูตรสำเร็จ แต่ถ้าเราดัดแปลงประยุกต์ได้ ก็น่า
จะเอาชนะธรรมชาติได้ เพียงบางส่วนก็ยังดี ผู้พันมีความคิดเห็นอย่างไร ผมติดตามเน็ตทุกวัน........ขอบคุณครับ
ตอบ :

คลิก.
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=2337
ความรู้เบื้องต้น เรื่อง ซี/เอ็น เรโช....


----------------------------------------------------------------------------




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 27/12/2012 5:44 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

27 DEC


จาก : (087) 228-45xx
ข้อความ : อ่านในเน็ต เรื่องนาข้าวของสมบัติ เชียงราย คนไม่แพ้คนโว้ย
ประทับใจมาก อยากถามผู้พันว่า มีวิธีให้คำแนะนำอย่างไร.....

ตอบ :
อยากตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า "เบื้องหลัง (การถ่ายทำ) ของสัมบัติ" ก็กลัวจะเวอร์ไป ให้พิจารณาเอาเองก็แล้วกันว่า ถ้าคุณจะสื่อ
เรื่องนี้ให้คนอื่นได้รู้ แล้วผู้รับสื่อเกิดอาการตื่นตัวในการที่จะทำ ทำอย่างมีหลักการและเหตุบ้าง คุณสื่ออย่างไร ?

ลูกผู้ชายชื่อ "สมบัติ" (A MAN CALLED SOMBUTT) เป็นใคร หน้าตาเป็นฉันใด ไม่เคยเห็นตัวตน.....(แว่วๆว่า
วันข้างขึ้นเป็นตุ๊ด วันข้างแรมเป็นเกย์....ปีใดมีสองแปด แปดที่สองจะเป็นแมนเต็มตัว....)

สมบัติฯ เคยโทรศัพท์มาคัยกับลุงคิม 2-3-4 ครั้ง (ไม่เคยจำ) ก็คุยกันเรื่องสับเพเหเรอะทั่วๆไป ไม่มีคำถามเรื่อง "นาข้าว"
หรือใดๆที่เกี่ยวกับนาข้าวทิ้งสิ้น

สมบัติฯ เป็นน้องชาย คลานตามกันมาของ "แดงศาลายา" (รู้จากเน็ต) ในชีวิตจริง ลุงคิม กับ แดงศาลายา รู้จักกัน
เคยพบปะพูดคุยกัน 2-3 ครั้ง ด้วยเรื่องสับเพเหเรอะ ไม่มีเรื่องนาข้าว หรือเรื่องเกษตรใดๆทั้งสิ้น อีกนั่นแหละ

สมบัติฯ อยู่เชียงราย (รู้จากเน็ต) รับฟังรายการวิทยุไม่ได้ ไม่ได้อ่านหนังสือที่ลุงคิมเขียน เพราะเลิกเขียนไปนานแล้ว แต่
รู้เรื่องนาข้าวจากเน็ต

แดงศาลายาฯ ส่งข้อมูลเรื่องการเกษตรในรายการวิทยุ ผ่านโทรศัพท์มือถือไปให้สมบัติ ส่งบ้าง-ไม่ได้ส่งบ้าง แล้วแต่
สถานการณ์ชีวิตประจำวัน ข้อมูลจึงกระท่อนกระแท่น จับเรื่องราวเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ ข้อมูลที่ส่งไป บางครั้งเป็นเรื่อง
นาข้าว บางครั้งเป็นเรื่องผักกาด บางครั้งเป็นเรื่องทุเรียน เพราะลุงคิมทำรายการวิทยุแบบ "สดสด-ไม่มีโฉนด-ไม่มีคิว"
ลำดับเรื่องที่ออกอากาศจะว่าไปตามลำดับคำถามที่ผู้ฟังส่งมา นั่นคือ สมบัติฯ ไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่อง "นาข้าว"
จนครบถ้วน-ครบวงจร ได้เลย



ข้อสงสัยในความเป็นสมบัติฯ ....
- ได้คำแนะนำจาก แดงศาลายา หรือ ? ..... ในเมื่อแดงศาลายาก็ไม่เคยถามเรื่องนาข้าวโดยเฉพะจากลุงคิมเลย
- ข้อมูลที่ส่งทางโทรศัพท์มือถือ ไม่ครบถ้วน ..... เพราะบางครั้งแดงศาลายาส่งไปให้ บางครั้งไม่ได้ส่ง
- ข้อมูลในเน็ตไม่มีเรื่้องนาข้าวบนดอย .... แล้วสมบัติฯ ทำนาข้าวบนดอยได้ไง ?
- สมบัติฯ ใช้ปุ๋ยลุงคิม ที่แดงศาลายา (ซื้อ) ส่งไปให้ .... งวดหน้าไม่ต้องซื้อ จะใช้เท่าไหร่ เอาไปเลย ฟรี ! ฟรี ! ฟรี !



จากสงสัย สู่คำตอบ ....
- ทั้งแดงศาลายา และ สมบัติเชียงราย อ่าน LINE ธรรมชาติของต้นข้าวออก แล้วปฏบิติต่อต้นข้าวแบบ ตามใจข้าว
ไม่ใช่ตามใจคน....
- ธรรมชาติไม่มีตัวเลขและสูตรสำเร็จ, ข้าวคือข้าว ข้าวเหนือ-ไต้-อิสาน- เขมร -อเมริกา-อิสราเอล- ต้องการปัจจัยพื้นฐาน
เพื่อการเพาะปลูกทั้ง 6 เหมือนกันทั้งสิ้น พืชทุกชนิดทั่วโลกต้องการกินปุ๋ย 16 ตัวเหมือนกันทั้งหมด ต่างกันบ้างที่ที่ปัจจัย
ใดปัจจัยหนึ่งใน 6 ปัจจัย โดยเฉพาะ แสงแดด-อุณหภูมิ-ความชื้น-โซนภูมิศาสตร์โลก เท่านั้น

- ดิน คือ ดิน ไม่ว่าจะเป็น ดินเหนียว-ดินทราย-ดินแดง-ดินดำ-ดินร่วน-ดินโป่ง-ดินฯ คือ ดินเหมือนกัน

(....อิสราเอลไม่มีดิน ทั้งประเทศมีแต่ทราย เหมือนหาดทรายชายทะเลบ้านเรา แล้วเขาปลูกพืช
ถึงระดับเกรดส่งออกได้ไง.....)


ดินดี คือ ดินมีอินทรีย์วัตถุ....ดินไม่ดี คือ ดินไม่มีอินทรีย์วัตถุ....เพราะฉนั้นดินอะไรก็สุดแท้ ถ้ามีอินทรีย์วัตถุถือว่าเป็นดินดี
ทั้งนั้น เมื่อไม่มีอินทรีย์วัตถุก็ใส่ลงไป ใส่มากใส่น้อยแล้วแต่สภาพโครงสร้างเดิมของดินนั้นๆ เมื่อสภาพโครงสร้างดินดีซะแล้ว
สุดท้ายก็ใช้ปุ๋ยสูตรเดียวกัน (ตัวเลขเดียวกันเป๊ะๆ หรือ เรโช.ใกล้เคียงกัน) ได้ทั้งนั้น ..... สภาพโครงสร้างดินที่ต่างกัน
ทำให้ต้องใช้ "ปุ๋ยธาตุหลัก" ต่างกัน เพราะปุ๋ยทางดินต้องเกี่ยวข้องทางเคมีกับดิน แต่ "ปุ๋ยทางใบ" ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับดิน
จะเกี่ยวก็แต่ความสมบูรณ์ของต้นเท่านั้นที่เป็นปัจจับรองรับ .... ในเมื่อความสบูรณ์ของต้นมาจากดิน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้อง
ทำดินให้ดี ทำให้เหมาะสมกับพืชที่ปลูก นั่นคือ ใส่ "อินทรีย์วัตถุ" นั่นเอง


สรุป : ไม่ได้สอน-ไม่ได้แนะนำ-ใม่ได้บอก แบบตรงๆเฉพาะเรื่อง ใดๆทั้งสิ้น แต่วันนี้สมบัติมา
ถึงจุดนี้ได้เพราะ "วิเคราะห์" สิ่งที่เกิด (ปัญหา/ความสำเร็จ-ใช่/ไม่ใช่) ด้วยตัวเอง บนพื้นฐาน
"หลักการและเหตุผล" โดยมีต้นข้าวเป็นศูนย์กลาง นั่นเอง



---------------------------------------------------------------------------




.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 29/12/2012 6:31 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 28/12/2012 11:30 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

30 DEC


จาก : (089) 324-56xx
ข้อความ : อ่านในเน็ต เรื่องพันธุ์ข้าว บางพันธุ์ได้ผลผลิต 70-80 ถัง ถ้าเราจะปลูกบ้างต้องบำรุงตามนั้น
จึงจะได้ผลผลิตอย่างนั้นใช่ไหม หรือถ้าเราบำรุงตามแนวลุงคิม จะได้ผลผลิตตามนั้นไหม...ขอบคุณครับ

ตอบ :
- ไม่ได้หรอกครับ เพราะ "ปัจจัยพื้นฐาน" โดยเฉพาะ "ดิน-น้ำ" ไม่เหมือนกัน
- ทำตามแนวที่ลุงคิมแนะนำก็ยังไม่แน่ อาจจะได้ "น้อยกว่า" หรือ "มากกว่า" ก็ได้ เพราะ "ปัจจัยพื้นฐาน" ตัวเดิมอีกนั่นแหละ
- ค่านิยมของเกษตรกรไทย ส่วนใหญ่ยึดมั่นแต่ "ปุ๋ยเคมี" คิดแต่เพียงว่า ใช้สูตรเดียวกัน ใช้เท่ากัน ให้ระยะเดียวกัน อะไรๆอย่าง
เดียวกันทั้งหมดแล้ว จะต้องได้ผลเหมือนกัน

- เกษตรกรรม ไม่ใช่ อุตสาหกรรม.....

- อุตสาหกรรม ต้องการผลผลิตมากๆก็เร่งเครื่องจักรให้แรงขึ้น หรือต้องการ ไซส์/ทรง แบบไหน แก้ไขที่บล็อคหรือแม่พิมพ์....ในอุต
สาหกรรม มีคันเร่ง มีโวลลุ่ม อยู่ใน CONTROL ของมนุษย์

- เกษตรกรรม เป็นเรื่องของธรรมชาติแท้ๆ ไม่มีคันเร่ง ไม่มีโวลลุ่ม ทุกอย่างอยู่ใน CONTROL ของเทวดาฟ้าดินหรืออุ้งมือมารทั้งสิ้น

- อุตสาหกรรม COPY ได้ แต่เกษตรกรรม COPY ไม่ได้ อย่างดีก็แค่ APPLY เท่านั้น

- ในธรรมชาติไม่มีตัวเลข และไม่มีสูตรสำเร็จ แต่มี "หลักการแลเหตุผล" ทางเลือกที่ดี คือ ใช้เทคโนโลยีวิชาการ ผสมผสาน เทคโน
โลยีชาวบ้าน ทุกขั้นตอนอยู่ภายใต้ "ตามความเหมาะสม" นั่นและ จึ่งจะประสบผลสำเร็จโดยแท้


----------------------------------------------------------------------------


จาก : (086) 712-43xx
ข้อความ : สงสัย ลูกสะเดา รสไม่ขมเหมือนบอระเพ็ด ทำไมจึงฆ่าหนอนได้.....สมช.เน็ต แจมวิทยุ

ตอบ :
สารสำคัญในสะเดา ชื่อ azadirachtin ในเมล็ดสะเดามีรสขม
สารสำคัญในบอระเพ็ด ชื่อ tinoluberide มีรสขม

สารในรสขมนี่แหละที่เป็นพิษต่อหนอน....ลองชิมรสเมล็ดสะเดาแล้วจะรู้

---------------------------------------------------------------------------


จาก : (087) 822-10xx
ข้อความ : อยากให้ลุงคิม นำเสนอรายละเอียดเรื่องพันธุ์ข้าวในเน็ตให้ครบทุกพันธุ์เลย หนูอ่านแล้วหูตาสว่าง
มากเลย ข้อมูลแบบนี้หายากมาก คุณลุงอย่าเพิ่งเบื่อนะคะ....ลูกสาว เกษตร ปวช.ลพบุรี

ตอบ :
เหนื่อยแต่ก็คุ้ม เพราะลุงคิมก็เพิ่งรู้เหมือนกัน
รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม.................ว่ามั้ย

สรุปรวมให้แล้ว ปริ๊นท์ออกมา ทำเป็นเล่มเก็บไว้ศึกษาซี่ลูก

เชื่อเถอะ ตายแล้วเกิดใหม่อีก 100 ชาติ ก็ไม่มีเว้บไหนบ้าทำแบบนี้

----------------------------------------------------------------------------



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 31/12/2012 4:44 pm, แก้ไขทั้งหมด 12 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 31/12/2012 12:39 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

31 DEC


จาก : (089) 758-44xx
ข้อความ : สมช.เน็ต (4) เห็นรูปปุ๋ยน้ำหมักจากปลา สูตรของอเมริกา ที่ สมช.แดงศาลายา โพสไว้ ในเรื่องมี
รายละเอียดน้อยมาก ผมพยายามวาดภาพแต่ก็วาดไม่ออก ไม่รู้ว่าเริ่มต้นแล้วจะจบลงอย่างไร จึงอยากถามผู้พัน
ว่า ได้ลองทำสูตรนี้แล้วหรือยัง ถ้าทำแล้วได้ผลเป็นอย่างไร เล่าให้ฟังหน่อยนะครับ.....ขอบคุณครับ

ตอบ :
ทำแล้ว หลังจากเห็นภาพยืนยันที่ "แดงศาลายา" โพสลงได้ซัก 7 วัน ระหว่างที่รอ 7 วันนั้น ก็พยายามทบทวน
คำบอกเล่าจากเพื่อนทหารอเมริกัน (ครั้งสงครามเกาหลี) ผสมผสานกับ "หลักวิชาการ" ว่า ใช่/ไม่ใช่....แล้ว
ตัดสินใจทำ

ถึงวันนี้ อายุหมัก กี่วัน กี่อาทิตย์ ไม่ได้นับ แต่คงไม่กี่เดือนหรอกนะ

กุ้ง-หอย-ปู-หมึก-ปลา สดใหม่จากทะเลไทย รวมกัน 20 กก. บดด้วยโมลิเน็กซ์ยักษ์ 15 นาที ทุกอย่างละเอียด
เป็นวุ้น แล้วใส่กากน้ำตาล 5 ล., ใส่สับปะรด 2 หัว, ใส่น้ำมะพร้าว 10 ล., ใส่จุลินทรีย์ประเภทย่อยโปรตีนเนื้อ
สัตว์โดยเฉพาะ 1 ล.

ปั่นซ้ำด้วยโมลิเน็กซ์ยักษ์จนทุกอย่างเข้าเป็นเนื้อเดียวกันทั่วถึง.....สังเกตุ : กลิ่นคาวปลาแรงมาก เป็นกลิ่นคาวปลา
ดั้งเดิมแท้ๆไม่มีกลิ่นอื่นปนเลย, สีน้ำตาลอมดำ, ไม่มีแมลงวันตอม, ปริมาณส่วนผสมประมาณ 50 ล. (1 ใน 4 ของ
ถังขนาดจุ 200 ล.), ความเข้มข้นของส่วนผสมกับน้ำ ประมาณ 50/50,

ระหว่างการหมัก คนด้วยมือ 2-3 วัน/ครั้ง....สังเกตุ : สีเริ่มดำขึ้นๆ ๆๆ, กลิ่นคาวยังปรากฏ, ความเช้มข้นของส่วน
ผสมกับน้ำ ประมาณ 25/75 ความเหลวที่เพิ่มขึ้นเกิดจากน้ำออกมาจากเนื้อปลา เพราะในเนื้อปลามีน้ำเป็นส่วน
ประกอบ 75%

เพราะไม่ได้บันทึก "วันเริ่มทำ" ถึง ณ วันนี้ 31 DEC สีดำสนิท, กลิ่นฉุนแอลกอฮอร์แรงมาก, ไม่มีกลิ่นคาวปลา,
ไม่มีกากนอนก้นถัง, ไม่มีกากลอยหน้า, ไม่มีฝ้า, ไม่มีหนอน, ไม่มีแมลงวัน. ไม่มีแมลงหวี่, ในถังหมักมีแต่เศษ
เปลือกสับปะรด



เปรียบเทียบ "สูตรอเมริกา V.S. สูตรไร่กล้อมแกล้ม"
สูตรอเมริกา (เน็ต).....สารอาหารพืชได้จาก กุ้ง-หอย-ปู-หมึก-ปลาทะเล-น้ำมะพร้าว-กากน้ำตาล

สูตรไร่กล้อมแกล้ม.... สารอาหารพืชได้จาก กุ้ง-หอย-ปู-หมึก-ปลาทะเล-น้ำมะพร้าว-กากน้ำตาล-เลือด-ไขกระดูก-
นม-ขี้ค้างคาว

ฉนี้แล้ว สูตรไหนมีชนิดของสารอาหารมากกว่ากัน

ทำเถอะ นี่แหละ ก.....ทำกับมือ ม....อย่าเถียง

----------------------------------------------------------------------------





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©