-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 24 DEC.. * ชมพู่
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 24 DEC.. * ชมพู่

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 24/12/2019 5:28 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 24 DEC.. * ชมพู่ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 24 DEC
AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม

ผลิตรายการโดย :
กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ :
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

สนับสนุนรายการโดย :
*บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช .... (02) 322-9175-6
http://www.nimut.com/

* ยิบซั่มธรรมชาติ ---- เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์แมกซ์, .... ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ .... (089) 144-1112
http://www.bkgmax.com/kaset/product.html


กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

เช่นเคย รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ที่ (081) 913-4986 โทรศัพท์เข้ารายการคุยกันสดๆ ออกอากาศ สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน (02) 888-0881 และอินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิมดอทคอม เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

----------------------------------------------------------------------------------


สายตรง : (087) 163-95xx
สรุปคำถาม : ปัญหาชมพู่ทับทิมจันทร์ใน ทีวี. ชมพู่พันธุ์อื่นมีปัญหานี้ไหม ?...
ตอบ : มีครับ....ชมพู่ คือ ชมพู่

สายตรง : (097) 510-23xx
สรุปคำถาม : ข่าว ทีวี. ชมพู่ทับทิมจันทร์ ทรงลูกเอวคอด กับทรงลูกเอวตรง จะแก้ไขยังไง ?....
ตอบ : นี่คือผลจาก ทำ... ทำถูก = ได้----ต่อยอด, ทำผิด = เสีย---แก้ไข

จาก : (060) 612-47xx
ข้อความ : ชมพู่ทูนเกล้าเจอแล้ง ลูกเล็กแกร็น แก้ไขยังไง ...
ตอบ : ลูกเล็กแกร็นเพราะแล้ง แล้งคือไม่มีน้ำ ร้องเรียนนายกก็ไม่ได้ เพราะนายกไม่ใช่น้ำ...

บ่น :
นักเศรษฐศาสตร์การเกษตร บอกว่า การเกษตรวันนี้ 90% สูญเสียไปเพราะ “คุณภาพ” ไม่ได้เกรดซูพรีม แปลว่า ได้เกรดซูพรีม 10% ได้กรดฟุตบาธ 90% เหตุเพราะปฏิบัติบำรุง “ผิด” นั่น เอง ....

ปรัชญา ..... ผลมาจากเหตุ หรือ เหตุทำให้เกิดผล :
ทำการเกษตรปลูกพืชต้องใช้ป๋ย ปุ๋ยคืออาหารของพืช มี 2 อย่าง คือ ปุ๋ยอินทรีย์กับปุ๋ยเคมี จะเป็นอย่างไหนก็ตาม ต้องมีเนื้อปุ๋ย 14 ตัว ได้แก่ N.P. K. Ca. Mg. S. Fe. Cu. Zn. Mn. Mo. B. Si. Na ที่จริงมีอีก 80-90 ตัว แต่จำไม่ได้เพราะไม่ได้ท่องมา ....

ทั้ง 14 ตัวแยกเป็น ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ทุกตัวต่างมีความสำคัญและจำเป็นต่อพืชทั้งสิ้น การจะใช้ธาตุอาหารตัวไหนนำ ธาตุอาหารตัวไหนเสริมขึ้นอยู่กับพืช (ชนิด ระยะพัฒนาการ) ปัจจัยพื้นฐาน (ดิน-น้ำ/แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สายพันธุ์-โรค) เปรียบเทียบกับอาหารคน คือ นอกจากครบ 5 หมู่แล้วยังต้อง ความจำเป็นหรือความเหมาะสมของคนกินด้วย เช่น คนป่วยกับคนแข็งแรง คนต้องการเพิ่มน้ำหนัก ต้องการลดน้ำหนัก ยังกินอาหารต่างกันเลย

สมการปุ๋ย :
ปุ๋ยถูก + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล
ปุ๋ยผิด + ใช้ถูก = ไม่ได้ผล
ปุ๋ยผิด + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล ยกกำลังสอง
ปุ๋ยถูก + ใช้ถูก = ได้ผล ยกกำลังสอง

“ปุ๋ยถูก” หมายถึง ถูกสูตร-ถูกประเภท-ถูก พีเอช.-ถูกปริมาณ-ถูกทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวปุ๋ย อาหารที่ครบ 5
“ใช้ถูก” หมายถึง ถูกพืช-ถูกดิน-ถูกน้ำ-ถูกอุณหภูมิ-ถูกเครื่องมือ-ถูกทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวพืช



ว่าด้วยชมพู่ :
ลักษณะทางธรรมชาติ :

- เป็นไม้ผลประเภทตอบสนองต่อ ปุ๋ยและฮอร์โมน เร็วมากไม่ว่าจะให้ทางรากหรือทางใบ ช่วงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวหากให้ 13-13-21 (ทางราก) ควบคู่กับให้ 0-0-50 หรือ 0-21-74 (ทางใบ) จะทำให้รสหวานจัดราวกับแช่ในขันทศกร เมื่อรับประทานถึงกับแสบคอเลยทีเดียว

- ดอกชมพู่เป็นดอกสมบูรณ์เพศ (กระเทย) ที่มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน ผสมกันเองหรือผสมกับต่างดอกได้

- เกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่าง ไม่สมบูรณ์เกิดจากขาด สารอาหาร/ฮอร์โมน หรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม (อากาศร้อนหรือฝนตกชุก) แล้วผสมกันแล้วพัฒนาเป็นผลจะเป็นผลไม่สมบูรณ์ ไม่โต รูปทรงบิดเบี้ยว

- ช่วงเริ่มแทงช่อดอกออกมาให้บำรุงด้วยฮอร์โมนจิบเบอเรลลิน. เพื่อเตรียมขยายขนาดผลให้มีขนาดใหญ่ยาวและสมส่วน โดยฉีดพ่น 3 รอบ

รอบแรก ..... ช่วงตาดอกเริ่มโผล่ออกให้เห็น
รอบสอง ..... ช่วงหลังดอกบาน
รอบสาม ...... ช่วงติดผลขนาดเล็ก ( หมวกเจ๊ก ) ฉีดพ่นให้ทั่วทั้งต้นและเน้นที่ดอก/ผลโดยตรง

การผสมอัตราส่วน จิบเบอเรลลิน สำคัญมาก เพราะแต่ละยี่ห้อกำหนดความเข้มข้นในการใช้ไม่เท่ากัน ดังนั้น ต้องอ่านรายละเอียดแล้วใช้ให้ตรงตามเกณฑ์กำหนดของแต่ละยี่ห้อจริงๆ การใช้ในอัตราน้อยเกินไปจะทำให้ไม่ได้ผล การใช้ในอัตราเข้มข้นเกินทำให้รูปทรงผลบิดเบี้ยวและไม่โต

- ช่วงดอกตูม หากพื้นดินโคนต้นเปิดไว้ หรือนำเศษพืชคลุมหน้าดินออก (ช่วงงดน้ำ) ก็ให้นำกลับเข้าคลุมโคนต้นอย่างเดิม พร้อมกับให้น้ำโดยเริ่มจากให้น้อยๆ พอหน้าดินชื้นก่อนแล้วจึงค่อยๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้นเมื่อผลมีขนาดใหญ่ขึ้นตามลำดับ

- ธรรมชาติของชมพู่เมื่อดอกรุ่นแรกออกมาแล้วมักจะมีดอกรุ่นที่สอง-สาม-สี่-ออกตามมาเรื่อยๆ จนมีดอกหลายรุ่นแล้วกลายเป็นผลหลายรุ่นหลายขนาดในต้นเดียวกัน ทำให้ค่อนข้างยุ่งยากต่อการปฏิบัติบำรุง โดยเฉพาะการให้ฮอร์โมนสำหรับผลต่างระยะหรือต่างอายุกัน .... แนวทางแก้ไข คือ

1. จำนวนดอกทั้งหมดที่ออกไล่เลี่ยกันมาตลอดทั้งปีนั้น ตั้งเป้าเอาไว้เพียง 3 รุ่น/ปี เป็นอย่างมาก
2. สำรวจจำนวนดอกที่ออกมาแต่ละรุ่ในรอบ 7 วันว่า ปริมาณดอกระหว่าง 2 วันแรกกับ 2 วันท้ายของ 7 วันนั้น ช่วงไหนน้อยกว่ากัน ถ้าช่วง 2 วันแรกน้อยกว่าช่วง 2 วันท้ายให้เด็ดดอกชุด 2 วันแรกทิ้ง หรือถ้าช่วง 2 วันท้ายน้อยกว่า 2 วันแรกก็ให้เด็ดชุด 2 วันท้ายทิ้ง ให้เหลือดอกที่ออกติดต่อกัน 5 วันใน 1 รุ่นก็จะได้ผลที่มีขนาดและอายุใกล้เคียงกันหรือเรียกว่าพร้อมกันก็ได้ หลังจากได้ดอกรุ่นที่ต้องการให้เป็นผลรุ่นเดียวกันเรียบร้อยแล้ว ให้เด็ดดอกที่ออกต่อมาตลอดระยะเวลา 3 เดือนทิ้งทั้งหมด

ระหว่าง 3 เดือนที่เด็ดดอกทิ้งนี้ดอกรุ่นแรกจะพัฒนาเป็นผลโตขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อครบกำหนด 3 เดือนแล้วก็ให้เตรียมการเก็บดอกรอบใหม่อีกด้วยวิธีการเดิม

วิธีจัดรุ่นแบบ 3 เดือนเด็ดดอกทิ้งกับ 5 วันเก็บดอกไว้นี้ ปฏิบัติอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะทำให้อายุผลชมพู่แต่ละรุ่นที่อยู่บนต้นต่างกัน 3 เดือน หลักการเดียวกันนี้หากจัดรุ่นแบบ 1 หรือ 2 เดือนเด็ดดอกทิ้งกับ 5 วันเก็บดอกไว้ ก็จะได้อายุผลแต่ละรุ่นต่างกัน 1 เดือน สรุปก็คือ ช่วงระยะเวลาเด็ดดอกทิ้ง คือ ช่วงต่างอายุของผลบนต้นนั่นเอง ....

ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อ ต้นมีความสมบูรณ์อย่างแท้จริงเท่า นั้น ทั้งนี้เพราะธรรมชาติของชมพู่ออกดอกติดผลได้ตลอดปีแบบไม่มีรุ่นอยู่แล้ว

วงรอบบำรุงต่อชมพู่ (ทุกสายพันธุ์) :
1. เรียกใบอ่อน
2. เร่งใบอ่อนเป็นใบแก่
3. สะสมอาหารเพื่อการออกดอก
4. ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนปรับ ซีเอ็น เรโช
5. ปรับ ซี/เอ็น เรโช 6. สำรวจความพร้อมของต้น ก่อนเปิดตาดอก
7. ตรวจสอบสภาพอากาศ ก่อนเปิดตาดอก 8. เปิดตาดอก

9. บำรุงดอก
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 15- 45-15 (หน้าแล้ง) หรือ 0-52-34 (หน้าฝน) + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน ฉีดพ่นใบพอเปียกใบ

- ฉีดพ่นสารสมุนไพร ทุก 3 วัน
ทางราก :
- ยังคงเปิดหน้าดินโคนต้นเช่นเดิม
- ให้ 8-24-24 หรือ 9-26-26 สูตรใดสูตรหนึ่ง (ปริมาณตามขนาดต้น ) /ต้น
- ให้น้ำพอหน้าดินชื้น
หมายเหตุ :
- ให้ฮอร์โมนจิ๊บเบอเรลลินเดี่ยวๆ รอบที่ 1 เมื่อเห็นว่าดอกออกมามากจนพอใจแล้ว
- ถ้ามีดอกออกมาแล้วมีใบออกมาด้วย ให้ใช้ 0-42-56 แทน 15-45-15 เพื่อกดใบอ่อน
- ฉีดพ่นสารอาหารเพื่อบำรุงดอกด้วยเครื่องมือฉีดพ่นที่มีแรงลมพ่นเบาที่สุดตามความเหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อส่วนต่างๆของดอก ฉีดพ่นที่ช่อดอกโดยตรงพอเปียกหรือฉีดพ่นให้ทั่งทรงพุ่มพอเปียกใบก็ได้

- บำรุงดอกช่วงฝนชุกให้เน้น “สังกะสี และ แคลเซียม โบรอน” โดยให้เมื่อดอกออกมาแล้วหรือให้แบบสะสมล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเปิดตาดอก ด้วยวิธีให้เดี่ยวๆ หรือผสมรวมไปกับธาตุอาหารอื่นๆ ก็ได้

- การไม่ใช้สารเคมีมาเป็นเวลานานๆ จะทำให้มีผึ้งหรือแมลงธรรมชาติอื่นๆ เข้ามาช่วยผสมเกสร หรือมีสายลมช่วยพัดละอองเกสรตัวผู้ (ต่างต้น) ไปผสมกับเกสรตัวเมีย ก็จะช่วยให้ติดผลดกขี้น

- ต้นที่ได้รับ แม็กเนเซียม (จากไบโออิ). โบรอน (จากแคลเซียม โบรอน). สม่ำเสมอแบบสะสม ถึงช่วงออกดอกแล้วเจอฝน ดอกจะแข็งแรงไม่ร่วงง่ายๆ หรือติดเป็นผลได้ดีเหมือนปกติ

10. บำรุงผลเล็ก - กลาง
11. บำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยว :



ชมพู่ทับทิมจันทร์ :
บางคนเปรียบชมพู่พันธุ์ทับทิมจันทร์ว่าเป็นชมพู่ “ปราบเซียนหรือทับทิมจน” เพราะลักษณะทางธรรมชาติประจำสายพันธุ์หลายอย่างต่างจากชมพู่ทั่วไป คนที่จะปลูกทับทิมจันทร์ให้ประสบความสำเร็จจริงๆ นั้น ต้องเข้าใจถึงช่วงพัฒนาการแต่ละระยะอย่างแท้จริง โดยเฉพาะ “น้ำ-สภาพอากาศ-ธาตุอาหาร” ว่าชมพู่ทับทิมจันทร์ต้องการหรือไม่ต้องการอย่างไร จากนั้นจึงเตรียมการป้องกันไว้ล่วงหน้า

ปัญหาเฉพะของทับทิมจันทร์ที่ต่างจากชมพู่พันธุ์ทั่วๆไปพอสรุปได้ ดังนี้
ปัญหา :
เปิดตาดอกด้วย 13-0-46 แล้วใบแก่ร่วง หรือเปิดตาดอกด้วย "ไธโอยูเรีย" แล้วแตกใบอ่อนมาก แนวทางแก้ไข : ไม่ต้องเปิดตาดอกด้วยปุ๋ยทางใบทั้ง 2 ตัวนี้ แต่ให้ 0-42-56 เปิดตาดอกแทน โดยให้ตั้งแต่ระยะ "สะสมตาดอก" แล้วให้ไปเรื่อยๆ ติดต่อกันประมาณ 45-50 วัน ทับทิมจันทร์จะเริ่มแทงดอกออกมาเอง จากนั้นก็ให้ 0-42-56 ต่อไปอีกเพื่อใบอ่อนจนกระทั่งดอกพัฒนาเป็นผลขนาดเล็ก (ระฆัง) จึงเปลี่ยนมาเป็นสูตรบำรุงผลขยายขนาด

ปัญหา : ทับทิมจันทร์ช่วงที่เริ่ม ออกดอก-ติดผลเล็ก แตกใบอ่อนแล้วสลัดหรือทิ้งดอกและลูก
แนวทางแก้ไข :
1. ช่วงเริ่มออกดอกให้บำรุงทางใบด้วย 0-42-56 + ธาตุรอง/ธาตุเสริม (เน้น แคลเซียม โบรอน) 2-3 รอบ ห่างกันรอบละ 3-5 วัน จนเมื่อผลโตถึงระยะกระโถนและระยะระฆังให้สูตรเดิมนี้อีก 1 รอบเป็นรอบสุดท้าย

ส่วนทางรากให้ 8-24-24 ซ้ำอีก 1 รอบ กับให้น้ำพอหน้าดินชื้น เพื่อป้องกันการแตกใบอ่อน จากนั้นให้เข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงผลต่อไปตามปกติ นิสัยทับทิมจันทร์เมื่อผลใหญ่แล้วจะไม่ทิ้งลูกและแตกใบอ่อนน้อยลง

2. ให้ทางใบด้วยน้ำตาลทางด่วน (กลูโคส) ช่วงเริ่มออกดอกถึงติดเป็นผล 1-2 รอบห่างกันรอบละ 15-20 วัน จะช่วยกดใบอ่อนไม่ให้ออกมาได้เช่นกัน...และ

3. ไม่ควรเปิดตาดอกตรงกับช่วงที่มีฝนหรืออากาศปิด

ปัญหา : ทับทิมจันทร์ระบบรากไม่แข็งแรง
แนวทางแก้ไข :
1. ปลูกทูลเกล้าก่อน บำรุงเลี้ยงต้นทูลเกล้าจนได้ผลผลิตแล้วอย่างน้อย 1 รุ่น (อายุต้น 1-2 ปี) จากนั้นตัดต้นทูลเกล้าเหลือแต่ตอ นำยอดทับทิมจันทร์มาเสียบลงบนตอทูลเกล้า แล้วเลี้ยงยอดทับทิมจันทร์ตามปกติ 1-2 ปี ยอดทับทิมจันทร์ก็จะโตให้ผลผลิตได้

2. ทับทิมจันทร์ต้นโตให้ผลผลิตแล้ว นำต้นกล้าทูลเกล้าลงปลูกข้างต้นทับทิมจันทร์ 1-2 ต้น แล้วจัดการเสริมรากให้แก่ทับทิมจันทร์

3. ปลูกต้นกล้าทูลเกล้าลงไปก่อน บำรุงเลี้ยงจนกระทั่งต้นโตขนาดเท่าดินสอดำ แล้วจัดการเสียบยอดทับทิมจันทร์บนตอทูลเกล้านั้น ทับทิมจันทร์มีรากค่อนข้างน้อย และหาอาหารไม่เก่ง แต่ทูนเกล้ามีรากมากและหากินเก่ง

ปัญหา : ทับทิมจันทร์ผลเล็ก เมล็ดใหญ่ เนื้อบาง สีไม่จัด หรือสีจัดแต่ไม่เต็มผล
แนวทางแก้ไข :
1. ช่วงเริ่มติดผลอย่าให้ขาดน้ำและอย่าให้น้ำมากเกิน
2. ให้ฮอร์โมนจิ๊บเบอเรลลินอย่างถูกต้องตามอัตรา ตามกำหนด (3 รอบ) และตามสภาพอากาศ (อากาศร้อนให้ใช้น้อยลง หรือ อากาศหนาวใช้มากขึ้นจากอัตราใช้ในฉลาก)

3. ให้ยิบซั่ม ปีละ 2 ครั้ง และให้กระดูกป่นปีละ 1 ครั้งจะช่วยบำรุงคุณภาพเนื้อ เปลือก กลิ่น และสี
4. ไม่ใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพที่มีกากน้ำตาลเป็นส่วนผสม โดยเฉพาะการให้ทางใบซึ่งกาก น้ำตาลจะรัดลูกทำให้ลูกไม่โต หากต้องการใช้จริงๆ ก็ให้ใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพที่ใช้กลูโคสเป็นส่วนผสมแทน

ปัญหา : ทับทิมจันทร์ออกดอกน้อยทำให้ได้ผลไม่ดก
แนวทางแก้ไข :
ทับทิมจันทร์ต้องการใบจำนวนมากเพื่อสังเคราะห์อาหาร จึงจำเป็นต้องเรียกใบอ่อน 3 ชุด โดยมีวิธีทำดังนี้
วิธีที่ 1 ... ถ้าต้นสมบูรณ์ดี มีการเตรียมดินและปรับปรุงบำรุงดินสม่ำเสมอต่อเนื่องมาหลายๆปีแล้วหลังจากใบอ่อนชุดแรกเพสลาดให้เรียกใบอ่อนชุด 2 ต่อ ใบชุด 2 นี้อาจจะออกไม่พร้อมกันทั้งต้นเหมือนชุดแรกแต่ไม่ควรออกห่างกันไม่เกิน 7-10 วัน หลังจากใบอ่อนชุด 2 เพสลาดก็ให้เรียกใบอ่อนชุด 3 ต่อได้เลยอีกเช่นกัน การที่ใบอ่อนชุด 2 ออกไม่พร้อมกันนั้นจะส่งผลให้ใบอ่อนชุด 3 ออกไม่พร้อมกันทั้งต้นอีกด้วย และสุดท้ายเมื่อใบอ่อนชุด 3 เพสลาดก็ให้เข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงต่อไปตามปกติต่อไป

วิธีที่ 2
.... หลังจากใบอ่อนชุดแรกแผ่กางแล้วเร่งให้เป็นใบแก่ ได้ใบแก่แล้วงดน้ำให้ใบสลดจนใบแก่โคนกิ่งร่วง 1-2 ใบก็ให้ลงมือเรียกใบอ่อนชุด 2 เมื่อใบอ่อนชุด 2 แผ่กางให้เร่งเป็นใบแก่ เมื่อใบชุด 2 เป็นใบแก่แล้วงดน้ำให้ใบสลดจนใบแก่โคนกิ่งร่วง 1-2 ใบก็ให้ลงมือเรียกใบอ่อนชุด 3 และสุดท้ายเมื่อใบอ่อนชุด 3 เพสลาดก็ให้เข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงต่อไปตามปกติ

(วิธีที่ 1 ได้ผลดีกว่าวิธีที่ 2 เพราะต้นจะมีอาการโทรมน้อยกว่า......)

เทคนิคตัดแต่งกิ่งแบบเฉพาะตัวของทับทิมจันทร์ :
ก่อนลงมือเปิดตาดอกให้สำรวจผลจากการปฏิบัติบำรุงตั้งแต่เริ่มต้น (ตัดแต่งกิ่ง-เรียกใบอ่อน) จน กระทั่งถึงขั้นตอน งดน้ำ-ใบสลด ว่าแต่ละช่วงการบำรุงนั้น ต้นมีอาการตอบ สนองดังต่อไปนี้หรือไม่ ? อย่างไร ? และเพียงใด ?

- บำรุงต้นจนเริ่มแทงยอดอ่อนชุด 1 ก่อนแล้วจึงตัดแต่งกิ่งทั้งต้น เปิดหน้าดินโคนต้น พร้อมกับงดน้ำ 15-20 วัน เมื่อเห็นว่าใบแก่เขียวเข้มเริ่มสลดและใบแก่โคนกิ่งเริ่มร่วงแล้วให้ใส่ทางรากด้วย 25-7-7 ระดมให้น้ำวันเว้นวัน ประมาณ 7 วันจะแตกใบอ่อนออกมาเป็นใบอ่อนชุด 2

- ใบอ่อนชุด 2 เพสลาดให้ใส่ทางรากด้วย 8-24-24 หรือ 9-26-26 พร้อมกับเร่งใบให้ แก่เร็วโดยฉีดพ่นปุ๋ยทางใบด้วยสูตร 0-39-39 (2 รอบ) ห่างกันรอบละ 5-7 วัน เมื่อใบแก่จัดแล้วให้งดน้ำอีกครั้งประมาณ 15-20 วัน ระหว่างงดน้ำนี้ถ้าชมพู่เกิดอาการอั้นตาดอกก็ให้ลงมือเปิดตาดอกได้ แต่ถ้าไม่อั้นตาดอกให้บำรุงด้วยสูตรเดิมและวิธีเกิดอีก 1 รอบ

- หลังจากได้ดอกออกมาแล้วก็ให้บำรุงตามขั้นตอนปกติต่อไป

----------------------------------------------------------------------------------



.

กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©