-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 4 OCT *ปลูกข้าวทำพันธุ์
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 4 OCT *ปลูกข้าวทำพันธุ์

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 03/10/2021 4:57 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 4 OCT *ปลูกข้าวทำพันธุ์ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 4 OCT
AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
***********************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

ผู้สนับสนุนรายการ :
*** ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส ธันเดอร์แคล.... ออร์เดอร์จาก ออสเตรเลีย แคนนาดา อเมริกา +Mg. Zn. เคมี, .... ออร์เดอร์จากเกาหลี ให้ +Cu เคมี อย่างละ 5% .... ยิบซั่มเพื่อการเกษตรที่ทั่วโลกยอมรับ คือ ยิบซั่มจากประเทศไทย นี่แหละ

เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า

ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม(ขาล่อง) แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ไปที่วัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก
** ถึงจุดนี้ เกษตรกรที่ไหนอยากให้งานสัญจรไปลงที่นั่น ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด

- วันนี้วันจันทร์ที่ 4 ต.ค. เฉพาะวันจันทร์ ทุกวันจันทร์ สมช.สีสันชีวิตไทย “คุณล่า” (081) 944-8494 ไปที่ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสะดวก ราชบุรี พร้อมกับ ระเบิดเถิดเทิง. ไบโออิ. ไทเป. ยูเรก้า. ยาน็อค. กับหนังสือหัวใจเกษตรไทย มินิ ไปจำหน่าย...ด้วยประสบการณ์เกือบ 20 ปี พบเห็นทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวมามากมาย ใครสนใจใคร่รู้ก็ไปคุยกัน แล้วจะรู้ว่า อ้อออ เป็นอย่างนี้นี่เอง...

- งานสีสันสัญจรวันเสาร์ วันที่ 9 ต.ค. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน ไปวัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี....


- งานสัญจรระยะนี้ต้องร่วมกันป้องกัน COVID หลีกเลี่ยงจับกลุ่ม คนมากๆ แนะนำ สมช. สั่งปุ๋ยลุงคิม สั่งยา อ.ณัฐ โทรติดต่อโดยตรงแล้วได้นัดหมายรับส่งของกัน รับของแล้วแยกกันเลย มีปัญหาอะไรโทรศัพท์คุยกันก็ได้....

*******************************************************
*******************************************************


จาก : (065) 172-60xx
ข้อความ : เมล็ดพันธุ์ข้าว กข.47 ข้าวคอป 1 อยากปลูกทำพันธุ์ ขอสูตรนาข้าวแบบประณีตด้วย ขอบคุณครับ
ตอบ : ทำเอง .... คุณบังอรฯ ได้เมล็ดพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่แท้มา ๙ เมล็ด ปลูกแล้วบำรุงประณีตเพื่อเอาเมล็ดพันธุ์ จากเริ่มต้น 9 เมล็ดได้เมล็ดพันธ์ปลูกต่อได้ 1 ไร่ ปลูกแล้วบำรุงประณีตเพื่อเอาเมล็ดพันธุ์ปลูกต่อได้ 20 ไร่

จาก : (096) 172-83xx
ข้อความ : ซื้อข้าวปลูกจากร้านขายข้าวปลูกโดยเฉพาะ ไม่ใช่ซื้อจากชาวนา ได้ข้าวเปลือกไปขาย โรงสีบอกข้าวปนเยอะ
ตอบ : ทำเอง .... จับหลักคุณบังอรฯ หรือ คุณบังอรฯ + ลุงคิม + ตัวเอง .... ก.ทำกับมือ ม.อย่าเถียง

บ่น :
2 ทศวรรษ 20 ปี กับงานเกษตรได้พบสัจจธรรมหลายอย่าง เกษตรกรไทยทำการเกษตร แบบ “กลับหัว กลับหาง” .... ลุงคิมพูดบ่อยๆว่า สมมุติว่าวิชาเกษตรมี 100 บท เรียน บทที่ 1 สำคัญที่สุด ถ้าสอบผ่านบทที่ 1 ได้แล้ว เหลืออีก 99 บทเรียน ใช้ เวลาเรียนเพียงครึ่งชั่วโมงก็บรรลุ บทเรียนที่ 1 ที่ว่าสำคัญที่สุดนั้นคือ “ทัศนคติ” หรือ “ใจ” นั่นเอง ....

สังเกตุไหม สำนักเรียนไหนๆ มักสอนแต่ความสำเร็จ สอน แต่สูตรสำเร็จ ราวกับว่าทุกอย่างไม่มีปัญหาเลย ทั้งๆที่ในโลกแห่งความเป็นจริงมีแต่ ปัญหา ปัญหา และปัญหา จึงไม่สอนให้รู้จักกับปัญหา ....

แต่สำนักนี้ สำนักไร่กล้อมแกล้มกลับสอนว่า หากจะกระทำการสิ่งใด จงศึกษาส่วนที่เป็นปัญหาก่อน แล้วจึงศึกษาส่วนที่เป็นความสำเร็จภายหลัง ทั้งนี้เมื่อรู้ว่า อะไรจะเป็นปัญหาก็ให้ป้องกันปัญหานั้นล่วงหน้าในลักษณะ “กันก่อนแก้” แล้วจึงลงมือทำ เมื่อลงมือทำแล้วไม่เกิดปัญหา การกระทำนั้นๆ ย่อมประสบความสำเร็จ ในทางกลับกัน หากลงมือกระทำการใดๆแล้วมีแต่ปัญหา ปัญหา และปัญหา ปัญหาเรื่องไม่เป็นเรื่อง ปัญหาโลกแตก ปัญหาสภาวะจำยอม ปัญหาไม่คาดคิด การกระทำนั้นย่อมประสบแต่ความล้มเหลว

ถึงยุคสมัยแล้วที่ชาวนาต้องสร้างแนวคิดใหม่ :
- เลิก....มุ่งแต่เอาปริมาณผลผลิตให้ได้มากๆ แต่ให้ระวังต้นทุน ลดต้นทุนให้ได้ทุกรูปแบบ
- เลิก....ทุ่มทุนซื้อทุกอย่าง แต่ให้ทำเองทั้งหมด หรือทำเองครึ่งหนึ่ง ซื้อครึ่งหนึ่ง
- เลิก....กะรวยคนเดียว แต่ให้กะรวยด้วยกันทั้งกลุ่ม ทั้งหมู่บ้าน
- เลิก....คิดคนเดียว ทำคนเดียว แต่จงระดมแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน
- เลิก....ทำแบบเดิมๆ แต่จงเปลี่ยนมาทำตามแบบคนที่ประสบความสำเร็จ แล้วต่อยอด
- เลิก....ทำตามคนที่ล้มเหลว แต่จงเป็นตัวของตัวเอง ด้วยความมั่นใจ มีหลักวิชาการ
- เลิก....กลัวเสียเหลี่ยม เลิกมิจฉาทิฐิ แต่จงยอมรับความจริง แล้วแก้ไข ปรับเปลี่ยนประยุกต์
- เลิก....ปิดกั้นตัวเอง แต่จงเปิดโลก รับรู้ข้อมูลใหม่ๆ เสมอ
- เลิก....ตามใจคน แต่จงตามใจข้าว ข้าวต้องการอะไรให้อันนั้น ต้องการเท่าไหร่ให้เท่านั้น
- เลิก....ปล่อยวิถีชีวิตไปวันๆ แต่จงมุ่งรุ่นหน้าต้องดีกว่า ยิ่งทำยิ่งดีขึ้น ดีขึ้น และดีขึ้น
- เลิก....ทำตามประเพณี ทำตามกระแส แต่จง แม่นสูตร-แม่นหลักการ
- เลิก....เชื่อคนขายปุ๋ย-ขายยา แต่จงเชื่อซึ่งกันและกัน
- รูปแบบการทำนา จากดีที่สุด ไปหาดีน้อยที่สุด ดังนี้... นาหยอดเมล็ด - นาดำด้วยมือ - นาดำด้วยเครื่อง - นาโยน - นาหว่านด้วยเครื่องพ่นเมล็ด - นาหว่านด้วยมือ

- น้ำมากทำให้ข้าวสูง แตกกอน้อย สุดท้ายก็ล้ม....น้ำน้อย เจ๊าะแจ๊ะหน้าดิน ถึงแห้ง ระดับแตกระแหง ต้นข้าวไม่สูง แตกกอมาก ต้นไม่ล้ม

- ยูเรีย ทำให้ข้าวเขียวตองอ่อน เขียวไม่ทน ใบบาง ต้นหลวม อ่อนแอ โรคแมลงมาก เมล็ดลีบมาก เป็นท้องปลาซิวมาก ข้าวป่นมาก น้ำหนักไม่ดี ทำพันธุ์ข้าวปลูกไม่ดี

- แม็กเนเซียม สร้างคลอโรฟีลด์ ทำให้ข้าวเขียวทน ใบหนา สังเคราะห์แสงดีสมบูรณ์แข็งแรง ต้นไม่ล้ม โรคแมลงน้อย

- สังกะสี สร้างแป้ง ช่วยให้ข้าวไม่เป็นเมล็ดลีบ ไม่เป็นท้องปลาซิว เมล็ดแกร่งใส น้ำหนักดี บดแล้วไม่ป่น ทำพันธุ์ข้าวปลูกดี

- ช่วงเวลา 7-9 โมงเช้า ใบธงจะอ่อนลู่ลง แสดงว่ายูเรียเกิน แต่ขาด ธาตุรอง/ธาตุเสริม อย่างรุนแรง

- ข้าวต้องการสารอาหารทั้งสิ้น 14 ตัว (หลัก/รอง/เสริม) การใส่ยูเรีย 1 กส. (50 กก.) หรือ 2 กส. (100) /ไร่ เท่ากับได้สารอาหาร N. เพียงตัวเดียวเท่านั้น .....

นาข้าวบางแปลงใส่ยูเรีย 2 กส. (100 กก.) + 16-20-0 อีก 1 กส. (50 กก.) รวมใส่ปุ๋ย 150 กก./ไร่ แต่ข้าวได้ปุ๋ยเพียง 2 ตัว คือ N. กับ P. เท่านั้น

- ข้าวต้องการปุ๋ยครบสูตร (N-P-K) อัตราส่วน 3 : 1 : 1 (30-10-10) 2 : 1 : 1 (16-8- 8 ) อัตรา 10-20 กก./ไร่/รุ่น แล้วต้องการ ธาตุรอง/ธาตุเสริม ฮอร์โมน

- ข้าวต้องการและตอบสนองต่อปุ๋ยทางใบกับปุ๋ยทางรากเท่าๆกัน นั่นคือ ควรให้ปุ๋ยทางใบมากครั้ง หรือ 7-10/ครั้ง จะได้ผลดีกว่าการใส่ปุ๋ยทางรากอย่างเดียว

สรุป : ลดปุ๋ยทางราก เพิ่มปุ๋ยทางใบ - ลดปุ๋ยธาตุหลัก เพิ่มปุ๋ยธาตุรอง/ธาตุเสริม และฮอร์โมน....ต้นทุนลดลง แต่ประโยชน์เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ ยูเรีย + 16-20-0



คนถามใหม่ คำถามเก่า คำตอบเดิม :
ปลูกข้าวทำพันธุ์
เตรียมเมล็ดพันธุ์ :

- นำเมล็ดที่คัดเลือกไว้แล้วแช่ใน “น้ำ + ไบโออิ + ยูเรก้า + แคล เซียม โบรอน” นาน 6-12 ชม. .... ในถาดแบนกว้าง น้ำที่ใช้แช่ลึกประ มาณ 1 ข้อนิ้วมือ เกลี่ยเมล็ดอย่าให้ซ้อนกัน เพื่อให้ออกซิเจนลงไปสัมผัสเมล็ดข้าวได้ทั่วถึง

- นำขึ้น “ห่มชื้น” ต่อ 12-24 ชม. ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำที่ใช้แช่ วางแผ่บนถาดแบน วางเมล็ดกระจายอย่าทับซ้อนกัน ตลบชายผ้าขึ้นปิดให้มิด กดเบาๆพอรู้สึกสัมผัสเมล็ด ทั้งนี้เพื่อให้อ๊อกซิเจนทะลุผ้าผ่านลงหาเมล็ดได้

- อ๊อกซิเจน ช่วยส่งเสริมการงอกของเมล็ด ห่มเมล็ดนานประมาณ 12 ชม. เปิดชายผ้าดูเมล็ด ถ้าเริ่มมีตุ่มรากโผล่ออกมาที่จมูกข้าวแล้ว ให้นำไปปลูกในแปลงเพาะกล้า ระดับอุณหภูมิ 30 องศา ซ. เมล็ดพันธุ์งอกได้ดีที่สุด....

อุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศา ซ. เมล็ดพันธุ์จะไม่งอก....

การทำให้เมล็ดพันธุ์อบอุ่น โดยหลังจากแช่น้ำ 24 ชม. แล้วนำขึ้นกองบนพื้นซีเมนต์ ปิดทับด้วยพลาสติกนาน 24 ชม. อุณหภูมิในกองจะสูงขึ้นส่ง ผลให้ได้เปอร์เซ็นต์งอกสูง

เตรียมแปลงตกกล้า :
- พรวนดิน กำจัดวัชพืช 100%, ใส่ยิบซั่ม. ปุ๋ยอินทรีย์, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (1 ล.) + 16-8-8 (5 กก.)

- บ่มดิน 15-20 วัน, ตรวจแปลงมั่นใจว่าฟางเปื่อยสลายดี ไม่มีท่าทางว่าเมื่อต้นข้าวโตขึ้นมาจะไม่เกิดอาการเมาตอซัง

- นำเมล็ดที่ผ่านการ “แช่+ห่ม” เรียบร้อยแล้ว โรยบนแปลงที่เตรียมไว้ โรยห่างๆ เพื่อเวลาถอนกล้าเอาไปปลูกรากจะได้ไม่พันกัน

บำรุงกล้าในแปลงตกกล้า :
- เมื่อต้นกล้าสูงประมาณ 1 ฝ่ามือ เริ่มบำรุงด้วย “น้ำ 20 ล. + ไบโออิ 5 ซีซี. + ยูเรีย จี. 2-3 ช้อนโต๊ะ” ฉีดพ่นบางๆ พอสัมผัสใบ 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน

- เลี้ยงต้นกล้าให้สูง 1 คืบมือ ก่อนถอนต้นกล้าไปปักดำ 3-5 วัน ให้แคลเซียม โบรอน 1 รอบ เพื่อให้ลำต้นของต้นกล้าแข็ง และเมื่อปักดำแล้วไม่ชะงักการเจริญเติบโต

ปลูกข้าวต้นเดียว :
- ดำกล้าด้วยกล้าต้นเดียว ช่วยให้ไม่สิ้นเปลงเมล็ดพันธุ์
- ระยะห่าง ระหว่างกอระหว่างแถว 30 x 30 ซม.

หมายเหตุ :
- การดำห่างช่วยให้แตกกอได้จำนวนมาก (1 กอ ได้ 30-50 ลำ)
- ระยะห่างทำให้ต้นข้าวได้รับแสงแดดดีทั่วทั้งกอ ช่วยให้โรคและแมลงน้อย
- หน่อที่แตกใหม่จะเป็นต้นใหญ่ ช่วยให้ผลผลิต (เมล็ด) ดี, การเข้าไปทำงานในแปลง เช่น ถอนวัชพืช ถอนข้าวปน ทำได้สดวก

บำรุงต้นข้าวแบบประณีต :
ระยะกล้า (เร่งแตกกอ) :

- ให้ “น้ำ 100 ล. + ไบโออิ 100 ซีซี. + 18-38-12 (500 กรัม) + ยูเรีย จี 250 กรัม + สารสมุน ไพร 1 ล.” เริ่มให้ครั้งที่ 1 หลังดำ 20 วัน, ให้ครั้งที่ 2 หลังดำ 30 วัน, ให้ครั้งที่ 3 หลังดำ 40 วัน ถ้ามีโอกาสพิจารณาให้ครั้งที่ 4 ด้วยจะดีมากๆ

ระยะ ต้นกลม-แต่งตัว-ตั้งท้อง :
- ให้ “ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.) + 16-8-8 (5 กก.)” สำหรับพื้นที่ 1 ไร่ ฉีดลงดิน ปรับหัวฉีดให้เม็ดใหญ่ๆ .... ให้แคลเซียม โบรอน 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน จะช่วยให้ต้นข้าวสมบูรณ์ดีมากๆ

ระยะออกรวง (เพิ่มลมเบ่ง หยุดความสูง ต้นแข็งไม่ล้ม) :
- ให้ “น้ำ 100 ล. + ไทเป 100 ซีซี. + 0-52-34 (500 กรัม.) + ยูเรีย จี 500 กรัม. + สารสมุนไพร 1 ล. ให้ 2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน

หมายเหตุ :
- ถ้าต้นข้าวออกรวงไม่พร้อมกันทั้งแปลง ให้เพิ่มสารลมเบ่ง “น้ำ 100 ล. + ยูเรีย จี 200 กรัม” 2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน จะช่วยกระ ตุ้นต้นที่ออกรวงช้าให้ออกมาเร็วขึ้น

- เมื่อจำนวนต้นประมาณ 1 ใน 4 ของทั้งแปลงเริ่มออกรวงเป็นหางแย้ หรือหางปลาทู ให้ เอ็นเอเอ. 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน ช่วยบำรุงเกสรให้สมบูรณ์ ทำให้ดอกเป็นเมล็ดมากขึ้น

- ช่วงข้าวเริ่มออกรวง (ตากเกสร) งดการฉีดพ่นทางใบทุกชนิดเพราะจะทำให้เกสรเปียก ผสมไม่ติดได้ .... การป้องกันศัตรูพืช แนะนำให้กระทำตั้งแต่ก่อนดอกบาน

ระยะน้ำนม (ป้องกันเมล็ดลีบ ไม่เป็นท้องไข่ เมล็ดใส แกร่ง นน.ดี) :
- ให้ “น้ำ 100 ล. + ไบโออิ 50 ซีซี. + ยูเรก้า 50 ซีซี. + สารสมุน ไพร 1 ล.” ให้ 3-4 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน

ระยะพลับพลึง :
- ก่อนเกี่ยว 5-7 วัน ให้ “น้ำ 200 ล. + นมสด 500 ซีซี.” 1 รอบ จะช่วยลดความชื้นหลังเกี่ยว

การกำจัดข้าวปน :
1. ระยะต้นอ่อน :
ดูสีของต้นว่ามีสีตรงตามลักษณะพันธุ์หรือไม่ และผิดแปลกไปจากต้นอื่นหรือไม่
2.ระยะเจริญเติบโตหรือระยะแตกกอ : ดูลักษณะทรงกอ การแตกกอ ความสูง สี ต้น กาบใบและใบ
3. ระยะออกดอก : กำจัดต้นที่ออกดอกไม่พร้อมกับต้นข้าวส่วนใหญ่ จนสังเกตุเห็นได้ชัด
4. ระยะข้าวแก่ : ดูลักษณะเมล็ด สีของเปลือกให้ตรงตามพันธุ์ ลักษณะต่าง ๆของต้น

ลักษณะข้าวปนหรือข้าวกลายพันธุ์ :
ทรงต้น :
ที่สังเกตง่ายๆ คือ ลักษณะการเจริญเติบโตของต้น ได้แก่ ทรงกอ ความสูงใบ ขนาดของใบ ลักษณะการชูใบ บางพันธุ์ใบตั้ง บางพันธุ์ใบแผ่ บางพันธุ์ใบตก

วันออกดอก : ข้าวพันธุ์เดียวกันควรมีการเจริญเติบโตสม่ำเสมอกันออกดอกพร้อมกัน ไม่ควรแตกต่างกันมากเกินกว่า 7 วัน เมล็ดที่มีหางมักจะปรากฎเสมอในต้นข้าวกลายพันธุ์

รวง : ลักษณะของรวงข้าวแต่ละพันธุ์แตกต่างกัน ความสั้นยาวของรวง ความถี่ห่างของระแง้

เทคนิคการคัดพันธุ์ข้าว
เทคนิคการคัดพันธุ์ข้าวที่จะเรียนรู้จากเอกสารเล่มนี้ประกอบด้วย การคัดพันธุ์ข้าวจากรวง การคัดพันธุ์ข้าวจากแปลงนา และการคัดพันธุ์ข้าวจากข้าวกล้อง .... แต่ละเทคนิคมีขั้นตอน ดังนี้ :
1. การคัดพันธุ์ข้าวจากรวง :
1.1 เกี่ยวพันธุ์ข้าวที่ต้องการในแปลงนา โดยเลือกต้นที่ห่างจากพันธุ์อื่นๆ 1-2 ม. ตามปริมาณที่ต้องการ

1.2 นำรวงข้าวที่เกี่ยวมาแล้วมาผึ่งแดด 2-3 แดด
1.3 หลังจากนั้นนำมาคัดเลือกรวงที่มีลักษณะรวงใหญ่ ยาว เมล็ดสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยของโรคหรือแมลงรบกวน

1.4 นำรวงที่คัดเลือกแล้วมานวดรวมกัน ตากแดด 1-2 แดด แล้วจัดเก็บใส่ถุงเพื่อนำไปขยายพันธุ์ต่อไป

2. การคัดพันธุ์ข้าวในแปลงนา :
2.1 เลือกแปลงนาที่มีข้าวเจริญเติบโตดี ไม่มีโรค และแมลงรบกวน
2.2 ไม่มีข้าวพันธุ์อื่น ขึ้นมาปน
2.3 เลือกเก็บรวงที่มีการติดเมล็ดดี ตะแง้ถี่ รวงยาว คอรวงใหญ่ มีลักษณะตรงตามแต่ละพันธุ์ที่เลือกเก็บ

2.4 ในการเก็บเกี่ยวเพื่อทำพันธุ์นั้น ให้เกี่ยวรวงข้าวที่อยู่ห่างจากขอบแปลงข้างละ 1 ม. เพื่อป้องกันการปนกับข้าวอื่นๆ เก็บประมาณ 200 รวง ต่อหนึ่งพันธุ์ หรือให้เพียงพอกับความต้องการในแต่ละพันธุ์

2.5 นำรวงข้าวไปนวดหรือตากแดด ประมาณ 1-2 แดด หรือ ความ ชื้น ประมาณ 14% หลังจากนั้นบรรจุเมล็ดในภาชนะที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ถุงผ้า กระสอบ เป็นต้น

2.6 เขียนชื่อพันธุ์ อายุการเก็บเกี่ยว
* การทำเช่นนี้ 1-2 ฤดูการผลิต จะทำให้สามารถรักษาคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดีไว้ได้ หรืออาจได้ข้าวสายพันธุ์ใหม่จากการคัดเลือกเช่นนี้ได้

3. การคัดพันธุ์จากข้าวกล้อง :
3.1 การแกะข้าวกล้องด้วยมือ
- นำเมล็ดข้าวเปลือกสายพันธุ์ที่ต้องการมาประมาณ ครึ่ง กก. ฝัดทำความสะอาด เพื่อให้เมล็ดลีบออกไป

- แกะเปลือกด้วยมือ โดยแกะจากทางด้านหางของเมล็ดข้าวเพื่อไม่ให้จมูกข้าวถูกทำลาย
- เลือกข้าวกล้องเมล็ดสมบูรณ์ตรงตามสายพันธุ์ และเมล็ดมีความมันวาว ไม่เป็นโรค ไม่เป็นท้องไข่ ให้ได้จำนวนประ มาณ 100 เมล็ด

- นำเมล็ดข้าวกล้องที่คัดเลือกได้ไปเพาะเป็นต้นกล้า
3.2 การกะเทาะด้วยเครื่องสีข้าวกล้อง :
- นำเมล็ดข้าวเปลือกพันธุ์ที่ต้องการมาประมาณ 1-2 กก.
- ฝัดทำความสะอาดเพื่อให้เมล็ดลีบออกไป
- นำข้าวเปลือกไปสีด้วยเครื่องสีข้าวกล้อง
- นำข้าวกล้องที่สีได้มาฝัด
- เลือกข้าวกล้องเมล็ดสมบูรณ์ตรงตามสายพันธุ์ และเมล็ดมีความมันวาว ไม่เป็นโรค ไม่เป็นท้องไข่หรือท้องปลาซิว ให้ได้จำนวนตามที่ต้องการ
- นำเมล็ดข้าวกล้องที่คัดเลือกได้ไปเพาะเป็นต้นกล้า

http://www.gotoknow.org/posts/13872

------------------------------------------------------------------------------



.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©