-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ยางพาราพันธุ์ใหม่ กรีดได้นาน 30 ปี
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ยางพาราพันธุ์ใหม่ กรีดได้นาน 30 ปี

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 22/04/2010 10:27 pm    ชื่อกระทู้: ยางพาราพันธุ์ใหม่ กรีดได้นาน 30 ปี ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ยางพาราพันธุ์ใหม่ กรีดได้นาน 30 ปี

แนะรัฐเร่งต่อยอดเตรียมรับราคายางพุ่ง
ยางพารา เป็นไม้ยืนต้นที่ทรงคุณค่าทางเศรษฐกิจ มีอายุยืนยาว เมื่อปลูกเป็นสวน ก็จะมีสภาพคล้ายป่า เสมือนกับการปลูกป่าที่สามารถโอบอุ้มความชื้น และนำพาให้สภาพแวดล้อมบริเวณนั้นมีความชุ่มชื้น เต็มไปด้วยความเขียวขจี ขณะเดียวกันถือเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ มีอนาคตทางการตลาดที่ก่อให้เกิดอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย ตลอดจนมีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องกับยางพาราถึง 6 ล้านคน ขณะเดียวกันความต้องการยางในตลาดโลกก็ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งในประเทศจีน อินเดีย และยุโรปตะวันออก

นอกจากนี้ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยยังสามารถเดินทางเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคอินโดจีน ด้วยเส้นทางการค้าสายใหม่ เส้นทางอาร์ 9 จากมุกดาหาร และ อาร์ 12 จากนครพนม ซึ่งธนาคารพัฒนาเอเชีย เรียกเส้นทางสาย นี้ว่า “เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจอินโดจีน” เพื่อใช้เป็นเส้นทางกระจายสินค้าสู่ประเทศในอินโดจีน ด้วยต้นทุนค่าขนส่งที่ต่ำกว่า และมีระยะเวลาที่สั้นกว่าเส้นทางเดิม จึงเป็นอีกช่องทางสำคัญที่ไทยจะส่งยางพาราไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้ายางพารารายใหญ่ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

ยางพารา จึงนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่ควรได้รับการส่งเสริมอย่างยิ่ง และขณะนี้ราคาซื้อขายยางแผ่นดิบ ณ ตลาดกลางยางพารา อยู่ที่กิโลกรัมละ 67-69 บาท โดยมีการคาดการณ์ว่า ปลายปี พ.ศ. 2552 นี้ ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 80 บาท จากความต้องการของตลาดโลกที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว ว่าเกษตรกรจากโครงการยางพารา 1 ล้านไร่ มีความพอใจกับต้นยางที่เติบโตดีได้มาตรฐาน และยางพาราก็สามารถทำให้เกษตรกรไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือและอีสานมีรายได้ที่ดีกว่าการปลูก พืชไร่ หรือไม้ผลเดิม ๆ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่จะขยายพื้นที่ปลูกยางในภาคอีสานให้มากขึ้น กระทรวงเกษตรฯได้เตรียมนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การดำเนินโครง การไทยเข้มแข็ง

การขยายพื้นที่ปลูกยางพาราเป็นเรื่องสำคัญ แต่การเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น ก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน และการเลือกใช้ “ยางพันธุ์ดี” ก็ถือเป็น 1 ในหัวใจสำคัญของการเพิ่มผลผลิตดังกล่าว

น่าดีใจที่ประเทศไทยมีบริษัทเกษตรชั้นยอดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และทุ่มทุนวิจัยพัฒนาสายพันธุ์ยางที่ดีอย่างต่อเนื่อง อย่าง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด จนในที่สุดสามารถพัฒนาพันธุ์ยาง เจวีพี 80 ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงถึง 500 กิโลกรัมต่อปี

นายชิ้ม ชาวสวนยางใน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เล่ายืนยันว่า ได้ปลูกยางพาราพื้นเมือง พันธุ์เจวีพี 80 นี้มาแล้ว 36 ปี ถือเป็นสวนยางแห่งแรกที่ เจวีพี 80 มีอายุ 36 ปี และปัจจุบันยังกรีดได้ตามปกติและให้ น้ำยางสม่ำเสมอ โดยสามารถกรีดได้ตั้งแต่ยางมีอายุ 6 ปี จึงไม่อยากโค่นปลูกใหม่ เพราะยังให้ผลผลิตดีอยู่

นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธาน กรรมการที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย บอกว่า จากที่นำชาวสวนยางเดินทางไปพิสูจน์ยางพาราพันธุ์ดังกล่าวของนายชิ้ม ก็มั่นใจในพันธุ์ยางนี้ว่ามีคุณสมบัติดีจริง จึงขอฝากหน่วยงานรัฐและนักวิจัยว่าถึงเวลาแล้วที่จะนำพันธุ์ยางดีของชาวบ้านมาต่อยอด ซึ่งนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของชาวสวนยางพาราที่จะได้เลือกยางสายพันธุ์ใหม่.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Biot_11
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 15/02/2010
ตอบ: 38

ตอบตอบ: 23/04/2010 1:38 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ปลูกยางพาราพันธุ์ดี JVP80 คุ้มเกินใคร ในระยะยาว

ปลูกน้อยได้ผลผลิตมาก ดีกว่าปลูกมากแต่ได้ผลผลิตน้อย
เลือกปลูกยางพาราทั้งที ต้องเลือกปลูกพันธุ์ JVP 80

1. ทำไมต้องปลูกยางพันธุ์ JVP80
จากราคาพืชผลทางการเกษตรในท้องตลาดมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกเพาะปลูกพืชในภาคการเกษตรของเกษตรกรไทยยุคใหม่เนื่องมาจาก ปัจจุบันเกษตรกรมีพื้นที่อันจำกัด จึงจำเป็นต้องนึงถึงปัจจัยในการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูกให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น นำมาซึ่งความคุ้มค่ากับการลงทุนได้ผลตอบแทนสูงสุด ดังนั้นการใช้ “พันธุ์ดี”จึงถือเป็นหัวใจสำคัญที่เกษตรกรต้องพิจารณาเป็นอันดับแรก ๆ


2. ความจำเป็นที่ต้องเลือกปลูกยางพันธุ์ JVP80
ยางพาราพันธุ์ JVP80 เป็นยางพาราพันธุ์ใหม่ที่บริษัทเจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ ร่วมกับเกษตรกรคนเก่งในการพัฒนาแสวงหาสายพันธุ์ยางพาราใหม่ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก ยางพาราพันธุ์ JVP80 จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ดี และมีความสำคัญต่อการเพิ่มผลผลิตของเกษตรกรชาวสวนยางยุคใหม่ในระยะยาว


3. ยางพันธุ์ JVP80 ดีอย่างไร
ด้วยลักษณะเด่นเป็นพิเศษสร้างความแตกต่างจากพันธุ์ทั่วไปจึงส่งผลลัพธ์บั้นปลายให้เกษตรกรที่ปลูกยางพาราพันธุ์ JVP80 ได้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ทั่วไปเนื่องจากยางพาราพันธุ์ JVP 80 มีลักษณะเด่นคือ

1.ใบใหญ่ เขียวเข้ม ทำให้เจริญเติบโตเร็ว
2.ผิวใบมีลักษณะพิเศษมีแว๊กเคลือบเป็นมันวาวทำให้ต้านทานโรคที่เกิดจากเชื้อรา
3. เปิดกรีดไวเพราะเจริญเติบโตดี
4.ให้ผลผลิตสูงมีปริมาณน้ำยาง 450 -500 กิโลต่อไร่ต่อปี ขึ้นอยู่กับสภาพการดูแลและการปฏิบัติของเกษตรกร
5. มีเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแผ่นแห้งสูง ถึง 42- 48% ซึ่งสูงกว่าพันธุ์ที่เกษตรกรปลูกทั่วไปในปัจจุบันเกือบ 1 เท่าตัว
6. อัตราการสร้างเปลือกทดแทนได้ดี และเร็ว เปลือกหนามีความสมบูรณ์จึงช่วยยืดอายุการกรีดได้นานกว่า 35 ปี
7.ทนทานต่อการกรีดถี่สามารถกรีดต่อเนื่องได้หลายวันเพราะต้านทานต่อโรคหน้าแห้ง
8.ปรับตัวได้ดีสามารถปลูกได้ดีทุกสภาพพื้นที่
9.ต้านทานโรคที่สำคัญ คือโรคใบร่วง หน้าแห้ง และโรคหน้าเน่า
10.ทรงพุ่มมีความหนาแน่นสูง ทำให้วัชพืชขึ้นน้อย


4. ยางพาราพันธุ์ JVP80 คือคำตอบสุดท้ายของผู้ปลูกยางพาราไทยยุคใหม่

ยางพาราพันธุ์ JVP80 จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรผู้สนใจปลูกยางพารา ดังนั้นหากเกษตรกรใช้ยางพาราพันธุ์ดีจะช่วยเพิ่มผลผลิตแทนการขยายพื้นที่ปลูก ซึ่งมีความสำคัญถือเป็นรากฐานของการเพิ่มผลผลิตของเกษตรกรชาวสวนยางยุคใหม่ในระยะยาว เพราะถือเป็นการปรับเปลี่ยนจากการผลิตมากแต่ให้ผลตอบแทนน้อย ก้าวสู่การผลิตน้อยแต่ให้ผลตอบแทนมาก เพราะการใช้พันธุ์ดีที่ได้ผลผลิตสูงนั้นหากเปรียบเทียบทั้งต้นทุน แรงงาน กับเวลาที่เสียไปเท่า ๆ กันแต่ผลผลิตได้มากกว่ากัน ย่อมเกิดความคุ้มค่ากว่า

5. ซื้อกล้าพันธุ์ JVP80 ได้ที่ไหน
บริษัทเจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธ์ กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี ดำเนินการผลิต ขณะนี้มีผู้สนใจและสั่งจองมาเป็นจำนวนมาก ท่านผู้สนใจสามารถติดต่อสั่งจองล่วงหน้าได้ ที่คุณศิริลักษณ์ โทร 02-6758800 ต่อ 1518-19 หรือ 084-0750318 ของดีมีจำนวนจำกัด
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©