-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-2-3-4 ก.ค.ไป Learning by Doing ด้วยกัน
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ด่วน...เชิญร่วมเรียนรู้ที่ไร่กล้อมแกล้ม
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ด่วน...เชิญร่วมเรียนรู้ที่ไร่กล้อมแกล้ม

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
Aorrayong
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009
ตอบ: 869

ตอบตอบ: 18/03/2010 8:15 pm    ชื่อกระทู้: ด่วน...เชิญร่วมเรียนรู้ที่ไร่กล้อมแกล้ม ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)


ขอแจ้งสมาชิกที่ติดตามข่าวสารทางเว็บไซต์ให้ทราบว่า สมาชิกท่านใดมีความ
ประสงค์เข้าร่วมอบรมเรียนรู้ (LEARNING BY DOING) ที่ไร่กล้อมแกล้มใน


วันอังคารที่ 23 ถึง วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2553


เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ร่วมกับ นศ.วิทยาลัยเกษตรกรรมสิงห์บุรี จำนวน 8 คน.....
แจ้งความประสงค์ได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ (082) 210-0188 (อ้อ)
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ott_club
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009
ตอบ: 718

ตอบตอบ: 18/03/2010 8:50 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

พี่อ้อครับ เล่นเกมส์จับผิดหรือครับ

วันที่ 23 มีนาคม 2553 เป็นวันอังคารครับ ไม่ใช่วันจันทร์
อ๊อด
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11566

ตอบตอบ: 18/03/2010 8:52 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แก้ไขแล้ว...... เป็น อังคารที่ 23 - ศุกร์ที่ 26 นอกนั้นคงเดิม (แต่ไม่เหมือนเดิม....แหง่ววว)

อ๊อดนี่รวดเร็วปานกามนิตหนุ่มเลยนะ
ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Aorrayong
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009
ตอบ: 869

ตอบตอบ: 18/03/2010 9:03 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

หรือว่าเรา...จะแก่แล้วจริงๆ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11566

ตอบตอบ: 18/03/2010 9:06 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

"จะแก่" คำว่า "จะ" เป็น FUTURE นั่นหมายความว่าวันนี้ยังไม่แก่ ไงล่ะ


ลุงคิม (แก่ปัจจุบัน) ครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ott_club
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009
ตอบ: 718

ตอบตอบ: 18/03/2010 9:11 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
แก้ไขแล้ว...... เป็น อังคารที่ 23 - ศุกร์ที่ 26 นอกนั้นคงเดิม (แต่ไม่เหมือนเดิม....แหง่ววว)

อ๊อดนี่รวดเร็วปานกามนิตหนุ่มเลยนะ
ลุงคิมครับผม


"กามนิตหนุ่ม"
คืออะไรครับ ดีหรือไม่ดี หรือลุงมีเรื่องเล่า อยากฟัง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11566

ตอบตอบ: 18/03/2010 10:26 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

วรรณกรรอมตะนิยายรักอินเดีย เรื่อง "กามนิต - วาสิฎฐี" เหมือน "โรมิโอ - จูเลียต" ยังไงยังงั้น



วาสิฎถี. สาวสวยรวยทรัพย์ ฐานนันดรสูงส่ง
กามนิต. หนุ่มรูปงาม แต่ยากจน เอาชนะสาวสวยด้วยพรสวรรค์

ครั้งแรกที่กามนิต.ได้มีโอกาสพบหน้าสาวสวยอย่างวาสิฎฐี. ท่ามกลางหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่ล้วนร่ำรวย ระดับ 75,000 ล้าน ทุกคนได้ใกล้ชิดกับสาวสวย จนสัมผัสกลิ่นกายได้ ส่วนกามนิต.นั้นต้องอยู่ห่างด้านหลังสุด แม้ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับสาวสวยแต่ก็ยังได้ยินสุ้มเสียงอันไพเราะ

สาวสวยเอ่ยปากกับบรรดาชายหนุ่มว่า ประสงค์สิ่งนั้น ประสงค์สิ่งนี้ ชายหนุ่มทุกคนต่างรับปากจะหามาให้ ให้มากกว่าที่ประสงค์ บางหนุ่มว่าพรุ่งนี้จะนำมาให้ บางหนุ่มก็ว่าเดือนหน้าจะนำมาให้

หนุ่มกามนิตย์.ได้ยินเท่านั้นแหละ ลุกจากที่แล้วไปนำสิ่งที่สาวสวยประสงค์มาให้ทันที ให้ต่อหน้าหนุ่มๆ ทั้งหลาย

เท่านั้นเอง สาวสวยถึงเอ่ยปากบอก นี่คือชายที่ผู้เป็นพ่อต้องการ มาเถอะกามนิต เข้าไปหาท่านพ่อกับเรา แล้วเราจะได้แต่งงานกัน (ประเพณีอินเดีย...ผู้หญิงเป็นฝ่ายขอผู้ชายแต่งงาน)

บรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างตลึงงัน ตาค้าง เผลอเอ่ยอุทานออกมาพร้อมกัน เป็นเสียงเดียวกัน "โอ....รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม"


เรื่องนี้ยังอีกยาว เพราะมีองคุลีมาลย์เข้ามาเกี่ยวด้วย
ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ott_club
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009
ตอบ: 718

ตอบตอบ: 19/03/2010 10:59 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อ๋อ...เป็นอย่างนี้นี่เอง

ตกลงมันเรื่องเดียวกันหรือครับกามนิต-วาสิฎฐี และองคุลีมาลย์ มันแป่งๆ ชอบกล
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
Aorrayong
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009
ตอบ: 869

ตอบตอบ: 19/03/2010 1:11 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ที่มา http://www.oknation.net/blog/wunwarinya07/2009/05/17/entry-2

โศลกรำพัน กามนิต วาสิฏฐี (ตอนกามนิตหนุ่ม)
Posted by วรรณ , ผู้อ่าน : 430 , 14:33:40 น.
หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้



“โศลกรำพัน กามนิต วาสิฏฐี”(ตอนกามนิตหนุ่ม)



มานพหนุ่ม รูปงาม “กามนิต”

พรหมลิขิต พาเชยชิด “วาสิฏฐี”

จากอุชเชนี เดินทางสู่ โกสัมพี

ร่วมฉลอง งานเดาะคลี ฤดีดล



สื่อประสาน สายตา เพียงคราแรก

รักก็แทรก ซุกทรวง ทุกห้วงหน

ก็นี่แหละ ความรัก ประจักษ์ยล

เสน่หา ก็ร่ายมนต์ สะกดตรึง



กามนิต ร้อนรุ่ม ดั่งสุมไฟ

วันทั้งวัน หวั่นไหว ใฝ่คิดถึง

ฝากกวี สื่อบทใจ หวังให้ซึ้ง

วาสิฏฐี ชื่นรำพึง ซึ่งน้ำคำ



สื่อสาส์นรัก ด้วยกานท์กลอน อันอ่อนหวาน

ชื่นดวงมาน ปลาบปลื้ม แสนดื่มด่ำ

ลิ้มรักรส ทรวงซ่าน หวานลึกล้ำ

ทุกคืนค่ำ ลานอโศก โชคนำทาง



สุขอื่นใด ไหนเล่า จะเท่ารัก

ทุกข์ใดกัน จะหน่วงหนัก เท่ารักห่าง

ระหว่างรัก เริงรื่น ชื่นไม่จาง

ระหว่างร้าง เศร้าแสน แน่นอกตรม



กามนิต จำใจ ต้องไกลห่าง

วาสิฏฐี หมองหมาง นางขื่นขม

“สาตาเคียร” ศัตรูร้าย ทำลายล้ม

สร้างเหตุการณ์ ตรอมตรม ระทมใจ



มั่นสัญญา ก่อนจาก ฝากรับขวัญ

กลับพลิกผัน เปลี่ยนแปร แก้ไม่ได้

ออกจากกรุง โกสัมพี มิทันไร

ถูกโจรไพร เข้าย่ำยี “องคุลิมาล”



ดวงยังดี “วาชศรพ” ช่วยหนุนส่ง

ชีพจึงคง เปล่าปลอด รอดประหาร

กว่าจะหลุด พ้นห้วง บ่วงภัยพาล

ก็ล่วงกาล ค่าไถ่ถอด จึงปลอดภัย



แล้วคืนเมือง เพื่อเรื่องร้าย ได้คลายคลี่

โกสัมพี อยากคืนหวน ทบทวนใหม่

ถูกทักท้วง ห้ามไว้ มิให้ไป

กามนิต วุ่นวายใจ คิดไกลลา



เฝ้าแต่คิด ถึงครั้ง ยังชื่นรัก

ลานอโศก ซึ้งสลัก เสน่หา

วาสิฏฐี เคยชวนดู คู่ธารา

ยมุนา คงคา จุฬาตรีคูณ



ครวญหานาง ยอดดวงใจ ไห้สะอื้น

หวั่นรักร้าง ไม่หวนคืน เป็นอื่นสูญ

กลัวสัญญา มั่นหมาย คลายอาดูร

รักเกื้อกูล ยังอยู่ หรือรู้คลาย



ลานอโศก งดงาม ยามรำลึก

แนบสำนึก ทรวงกลาง มิจางหาย

วาสิฏฐี ถวิลนาง มิวางวาย

ยามเดียวดาย กามนิต ครุ่นคิดครวญ



กรรมหรือบุญ นำทาง ระหว่างภพ

ยังไม่จบ เรื่องร้ายแรง แกล้งให้หวน

โกสัมพี ย้อนมาพบ เพื่อทบทวน

เพื่อโศกศัลย์ ร้าวรัญจวน ปั่นป่วนใจ



ณ รุ่งเช้า ปลอดโปร่ง โล่งสะอาด

สูดอากาศ ก่อนเข้ากรุง รุ่งสางใส

โกสัมพี ณ ยามนี้ ที่กลับไป

รอต้อนรับ หรืออย่างไร งานใหญ่โต



คนเนืองแน่น รอบประตู ทั่วคูเมือง

ขบวนแห่ รองเรือง เรื่องอักโข

เฟื่องดอกไม้ ช้างม้า ทั้งวัวโค

งานวิวาห์ ใหญ่โต ของผู้ใด



แทบวางวาย ใจตก สะทกหนัก

วาสิฏฐี ยอดรัก ใยผลักไส

หลังกูบช้าง คือเจ้าสาว เจ้าบ่าวใคร

ลูกมนตรี ยิ่งใหญ่ “สาตาเคียร”



ร้าววิญญาณ พิษสวาท ประหลาดร้าย

ระกำหนัก ปางตาย มิคลายเปลี่ยน

เช้าก็เจ็บ เย็นก็ช้ำ ซ้ำวนเวียน

โอ้บทเรียน รักระทม ขื่นขมจริง



วาสิฏฐี เจ้าคงลืม เคยดื่มด่ำ

คำพรอดพร่ำ ครั้งภิรมย์ ก็จมดิ่ง

อันดวงใจ ฝากไว้ให้ คงหน่ายทิ้ง

รักไม่จริง ดั่งคำเอ่ย ที่เคยวอน



ลานอโศก โยกย้อน ก็ห่อนหาย

อยู่ก็เหมือน ตรมตาย วางวายก่อน

จมน้ำตา เศร้าสาหัส ถูกรัดร้อน

ด้วยไฟฟอน เสน่หา พร่าผลาญทรวง



นี่น่ะหรือ ที่ว่ารัก มักมีทุกข์

สุขดั่งฝัน น้อยนิด ปลิดปลิวร่วง

วาสิฏฐี รักเจ้ายิ่ง ชีวาดวง

สุดท้ายรัก ที่ห่วงหวง ก็ล่วงลา



ใจสลาย เสียแล้ว แก้วชีวิต

โกสัมพี เศร้าจิต ผิดปรารถนา

ลับเลือนแล้ว รักเก่า เศร้าชีวา

ร่อนน้ำตา อาลัย ไห้อาวรณ์



กว่าจะสร่าง ซาเศร้า เฝ้าครวญหา

บอกอำลา หนีหน้า ขอลาก่อน

วาสิฎฐี โกสัมพี ไม่มีย้อน

กามนิต ตัดรอน เที่ยวร่อนไป



อานุภาพ ความรัก ประจักษ์แล้ว

เปลี่ยนทางแนว ชีวิต จึงคิดใหม่

ทุกแห่งหน เดินทาง อย่างว่องไว

จนใครๆ เรียกขาน ปานกามนิต



……………………………..



ขอขอบคุณบทประพันธ์ เรื่อง กามนิต วาสิฏฐี

ของท่าน เสถียรโกเศส และ นาคะประทีป

ที่ดลบันดาลใจเสมอมา /วรรณ วริญญา ๑๖ พฤษภา ๕๒
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11566

ตอบตอบ: 19/03/2010 3:31 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

โถ โถ โถ....พูดเรื่องจริง หาว่าอำ....เวลาอำจริงๆ กลับเชื่อ....อภิโธ่ อภิถัง น้องนางบ้านนา...


ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11566

ตอบตอบ: 19/03/2010 3:37 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธ. ราชินีแห่งอังกฤษองค์ปัจจุบัน

ทรงตรัสถาม........ระหว่างสุนทรภู่ กับ เชคเปียร์....ใครเกิดก่อนกัน
มหาดเล็กตอบ......สุนทรภู่ เกิดก่อน พุทธเจ้าค่ะขอรับ


ปุจฉา - วิสัชนา :
สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงตรัสตอบว่าอย่างไร ?


อ๊อดตอบ !
ลุงคิมครับผม


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 19/03/2010 8:50 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
loongtui
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 11/10/2009
ตอบ: 5

ตอบตอบ: 19/03/2010 8:37 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

กามนิต วาสิฏฐี http://www.4shared.com/file/160720355/6d6f609f มีศักด์ นาครัตน์
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ott_club
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009
ตอบ: 718

ตอบตอบ: 19/03/2010 9:45 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
สมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธ. ราชินีแห่งอังกฤษองค์ปัจจุบัน

ทรงตรัสถาม........ระหว่างสุนทรภู่ กับ เชคเปียร์....ใครเกิดก่อนกัน
มหาดเล็กตอบ......สุนทรภู่ เกิดก่อน พุทธเจ้าค่ะขอรับ


ปุจฉา - วิสัชนา :
สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงตรัสตอบว่าอย่างไร ?


อ๊อดตอบ !
ลุงคิมครับผม


นั่งคิดอยู่นานสองนาน คิดไม่ออกครับ ไม่รู้ลุงมามุขไหน

ใครตามลุงทันช่วยเฉลยหน่อยเร็ว


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
ott_club
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009
ตอบ: 718

ตอบตอบ: 20/03/2010 9:00 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

มหาดเล็กมีเหตุผลอะไรถึงบอกว่า"สุนทรภู่เกิดก่อนเชคเปียร์" ครับ

งองอ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11566

ตอบตอบ: 20/03/2010 9:09 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

งอ งอ หมายถึง งง. หรือว่า หงุด หงิด หรือว่า ง่าย ง่าย.... แปลได้หลาย ง.

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะ ไม่งั้นโดนข้อหา หมิ่นพระบรมเดชานุภาพนอกราชอาณาจักร


ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11566

ตอบตอบ: 21/03/2010 10:19 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

วิลเลียม เชคสเปียร์ (William Shakespeare)

วิลเลียม เชคสเปียร์ เป็นชาวอังกฤษ เกิดที่เมือง สเตรตฟอร์ด อัพพอน เอวอน แคว้นวอร์วิคไชว์ และเข้าพิธีตั้งชื่อที่โบสถ์โฮทรินิติ้ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 1564 (นักวิชาการจึงอนุมานให้วันที่ 23 เมษายน เป็นวันเกิดของเขา เพื่อให้พ้องกับวันตายของเขา คือ 23 เมษายน ค.ศ.1616) เชคสเปียร์มีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1564 - 1616 ในรัชสมัยของพระนางเจ้าเอลิซาเบทและพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ

วิลเลียม เชคสเปียร์ (William Shakespeare)
วิลเลียม เชคสเปียร์ มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน เชคสเปียร์เป็นบุตรคนที่ 3 มารดาชื่อ แมรี่ อาร์ เคน และบิดาชื่อ จอห์น เชคสเปียร์ เป็นช่างทำถุงมือ ซึ่งภายหลังได้ไต่เต้าขึ้นมาจนได้รับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของเมือง หรือเทียบเท่ากับตำแหน่งนายกเทศมนตรีในปัจจุบัน

ในยุดนั้นสเตรตฟอร์ด มีโรงเรียนประจำที่มีชื่อเสียง และถือว่าได้มาตรฐานน่าเชื่อถือ แต่ว่าหลักฐานเกี่ยวกับนักเรียนที่เข้าเรียนสูญหายไปหมดสิ้น จึงไม่สามารถจะยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่า เชคสเปียร์ได้เข้าเรียนที่นี่หรือไม่ แต่บางเอกสารก็บอกว่า เชคสเปียร์ ได้เข้าเรียนเมื่ออายุ 7 ขวบ ทำให้เขาได้รับการอบรมสั่งสอน ในเรื่องระเบียบวินัยอันเข้มงวด ได้เรียนภาษาละตินอันเป็นภาษาของชาวโรมันโบราณ ดังนั้น เชคสเปียร์จึงได้มีโอกาสศึกษางานสำคัญๆ ของนักคิด นักเขียน นักปรัชญาชาวโรมัน ซึ่งเป็นพื้นฐานอย่างดีสำหรับเขา

เชคสเปียร์ แต่งงานเมื่ออายุ 18 ปี กัน แอนน์ แฮธาเวย์ ซึ่งมีอายุมากกว่าเขา 8 ปี ทั้งคู่มีลูกด้วยกันสามคน ลูกสาวคนแรก เกิดในปี ค.ศ.1583 ชื่อ ซูซานนา และอีกสองคนเป็นฝาแฝดชายหญิง เกิดในปี ค.ศ.1585 ชื่อ แฮมเนอร์และจูดิธ

สันนิษฐานกันว่าเชคสเปียร์เดินทางเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในลอนดอน โดยยึดอาชีพเป็นนักแสดงและนักเขียนบทละคร ระหว่างปี ค.ศ.1585 - 1592 แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดเกี่ยวกับชีวิตของเชคสเปียร์และครอบครัว แต่หลังจากปี 1592 ชื่อเสียงของเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

ในปี ค.ศ. 1593 และ ค.ศ. 1594 เชคสเปียร์ ได้เขียนบทกวีขนาดยาว ชื่อ Venus Adonis และ The Rape of Lucrece ซึ่งเขียนอุทิศให้เอิร์ล แห่งเซาท์แธมตัน และเข้าร่วมก่อตั้งคณะละคร Lord Chamberlain's Men เป็นทั้งผู้เขียนบทละครและนักแสดง ในคณะผู้ร่วมก่อตั้งคณะละครมีริชาร์ด เบอร์เบจ นักแสดงละครโศกนาฎกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุดร่วมอยู่ด้วย ในปี ค.ศ. 1599 ได้ย้ายคณะละครมาแสดงประจำอยู่ที่ โรงละคร GLOBE THEATRE ในย่านเซาทาร์ก ประสบความสำเร็จจนได้รับพระราชูปถัมภ์ในปี ค.ศ. 1603 และรู้จักกันในนามThe King's Men

ความสำเร็จในอาชีพ ส่งผลให้เชคสเปียร์ สามารถซื้อบ้านหลังใหญ่ในสเตรตฟอร์ด และได้ย้ายกลับมาใช้ชีวิตหลังเกษียณ ในราวปี ค.ศ.1612 ที่นี่ จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 เมษายน ค.ศ.1616 เชคสเปียร์ได้ทิ้งพินัยกรรมไว้หนึ่งฉบับ โดยยกมรดกส่วนใหญ่ให้แก่ลูกชายและลูกสาวทั้งสองคน และภรรยาของเขา เชคสเปียร์ได้ยกเพียงเตียงนอนสำรอง (second - best bed) ให้ ซึ่งจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครเข้าใจปริศนาเตียงนอนตัวนี้ นอกจากนี้เขายังได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้แก่ เบอร์เบจ, เฮมมิงส์ และคอนเดล หุ้นส่วนเพื่อนร่วมอาชีพที่อยู่ในคณะละครเดียวกัน

ผลงานบทประพันธ์ของวิลเลียมเชคสเปียร์บทละครของเชคสเปียร์ จะแสดงออกถึงความเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ เป็นแนวความคิด และอารมณ์ การดิ้นรนต่อสู้ของมนุษย์ทุกประเภท ตั้งแต่กษัตริย์ นักรบ โจร คนโง่ นักฆ่า และเรื่องของความรัก เชคสเปียร์ได้แสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงความรู้อันเชี่ยวชาญในหลายวิชาของเขา เช่น ด้านดนตรี ด้านกฎหมาย การทหาร การเมือง และคัมภีร์ไบเบิล

ผลงานของเชคสเปียร์แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่: เรื่องเศร้า เรื่องตลกขบขัน และเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ รายการข้างล่าวนี้แยกงานตามแบบที่เรียกว่า "First Folio" หรือโฟลิโอแรก ซึ่งเป็นงานจัดรวบรวมงานของเชคสเปียร์ครั้งแรก ปัจจุบันนิยมแยกงานประเภทตลกขบขันออกเป็นหมวดย่อย ได้แก่: โรมานซ์ (romances) หรือ เรื่องตลกเศร้า (tragicomedies) งานประเภทนี้จะมีเครื่องหมายดอกจันท์* แสดงไว้


เรื่องตลกขบขัน
เรื่องหลัก: เรื่องขบขันของเชกสเปียร์
The Tempest*
The Two Gentlemen of Verona
The Merry Wives of Windsor *Measure for Measure
The Comedy of Errors
Much Ado About Nothing
Love's Labour's Lost
A Midsummer Night's Dream
The Merchant of Venice
As You Like It
Taming of the Shrew
All's Well That Ends Well
Twelfth Night, or What You Will
The Winter's Tale*
Pericles, Prince of Tyre* (ไม่รวมไว้ในโฟลิโอแรก)
The Two Noble Kinsmen* (ไม่รวมไว้ในโฟลิโอแรก)
Cymbeline*


ประวัติศาสตร์
เรื่องหลัก: เรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเชกสเปียร์
King John
Richard II
Henry IV, part 1
Henry IV, part 2
Henry V
Henry VI, part 1
Henry VI, part 2
Henry VI, part 3
Richard III
Henry VIII

เรื่องเศร้า
เรื่องหลัก: เรื่องเศร้าของเชกสเปียร์
Romeo and Juliet
Coriolanus
Titus Andronicus
Timon of Athens
Julius Caesar
Macbeth
Hamlet
Troilus and Cressida
King Lear
Othello
Antony and Cleopatra

บทกวี
เรื่องหลัก: เรื่องบทร้อยกรองซอนเนตของเชกสเปียร์
Venus and Adonis
The Rape of Lucrece
The Passionate Pilgrim
The Phoenix and the Turtle
A Lover's Complaint

งานสูญหาย
Love's Labour's Won
Cardenio

งานเคลือบแคลง
เรื่องหลัก: งานเคลือบแคลงของเชกสเปียร์
Edmund Ironside (play)
Edward III
Sir Thomas More
Arden of Faversham

แต่ผลงานบทประพันธ์ของเชคสเปียร์ ยังมีข้อถกเถียงกันในหมู่ผู้ศึกษาบทละครของเชคสเปียร์ ว่าผลงานของเขาอาจเป็นการเขียนโดยกลุ่มนักเขียน ในยุคเอลิซาบีธัน และอาจเป็นผลงานของนักเขียนคนอื่นๆ เช่น ฟรานซิส เบคอน หรือ คริสโตฟอร์ มาร์โลว์ ซึ่งปัจจุบันก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยังคงเชื่อว่าผลงานเหล่านี้เป็นของเชคสเปียร์

Anne Hathaway เป็นภรรยาของ William Shakespeare นักเขียนบทละครชื่อดังย่าน Stratforf ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาทั้งคู่ บ้านของเขาทั้งสองอยู่ไม่ห่างจากกันมากนัก เล่ากันว่าครอบครัวของ Anne Hathaway ปลูกพืชผักทำไร่ ส่วนครอบครัวของ Shakespeare นั้นทอผ้าขนสัตว์บริเวณโดยรอบบ้านของ Anne Hathaway จึงร่มรื่นด้วยไม้ดอกนานาชนิด

แหล่งข้อมูลจาก http://majorplays.blogspot.com/2007/10/william-shakespeare.html

โดย นาราด้า
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11566

ตอบตอบ: 21/03/2010 10:20 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

26 มิถุนายน วันสุนทรภู่


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ถ้าเอ่ยชื่อ "สุนทรภู่" เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักกวีชาวไทยที่มีชื่อเสียงก้องโลก โดยเฉพาะกลอนนิทานเรื่อง "พระอภัยมณี" จนได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้านงานวรรณกรรม หรือ “มหากวีแห่งรัตนโกสินทร์" หรือ “เชกสเปียร์แห่งประเทศไทย" และคงเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า "วันที่ 26 มิถุนายน" ของทุกปีคือ "วันสุนทรภู่" ซึ่งมักจะมีการจัดนิทรรศการ ประกวดแต่งคำกลอน เพื่อแสดงถึงการรำลึกถึง เพราะฉะนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมจึงไม่พลาด ขอพาไปเปิดประวัติ "วันสุนทรภู่" ให้มากขึ้นค่ะ...


ชีวประวัติ "สุนทรภู่"
สุนทรภู่ กวีสำคัญสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เกิดวันจันทร์ เดือน 8 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช 1148 เวลา 2 โมงเช้า หรือตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 เวลา 8.00 น. นั่นเอง ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ณ บริเวณด้านเหนือของพระราชวังหลัง (บริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อยปัจจุบัน) บิดาของท่านเป็นชาวกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ชื่อพ่อพลับ ส่วนมารดาเป็นชาวเมืองฉะเชิงเทรา ชื่อแม่ช้อย สันนิษฐานว่ามารดาเป็นข้าหลวงอยู่ในพระราชวังหลัง เชื่อว่าหลังจากสุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าร้างกัน บิดาออกไปบวชอยู่ที่วัดป่ากร่ำ ตำบลบ้านกร่ำ อำเภอแกลง อันเป็นภูมิลำเนาเดิม ส่วนมารดาได้เข้าไปอยู่ในพระราชวังหลัง ถวายตัวเป็นนางนมของพระองค์เจ้าหญิงจงกล พระธิดาในเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ ดังนั้น สุนทรภู่จึงได้อยู่ในพระราชวังหลังกับมารดา และได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลัง ซึ่งสุนทรภู่ยังมีน้องสาวต่างบิดาอีกสองคน ชื่อฉิมและนิ่ม อีกด้วย

"สุนทรภู่" ได้รับการศึกษาในพระราชวังหลังและที่วัดชีปะขาว (วัดศรีสุดาราม) ต่อมาได้เข้ารับราชการเป็นเสมียนนายระวางกรมพระคลังสวน ในกรมพระคลังสวน แต่ไม่ชอบทำงานอื่นนอกจากแต่งบทกลอน ซึ่งสามารถแต่งได้ดีตั้งแต่ยังรุ่นหนุ่ม เพราะตั้งแต่เยาว์วัยสุนทรภู่มีนิสัยรักแต่งกลอนยิ่งกว่างานอื่น ครั้งรุ่นหนุ่มก็ไปเป็นครูสอนหนังสืออยู่ที่วัดศรีสุดารามในคลองบางกอกน้อย ได้แต่งกลอนสุภาษิตและกลอนนิทานขึ้นไว้ เมื่ออายุราว 20 ปี

ต่อมาสุนทรภู่ลอบรักกับนางข้าหลวงในวังหลังคนหนึ่ง ชื่อแม่จัน ซึ่งเป็นบุตรหลานผู้มีตระกูล จึงถูกกรมพระราชวังหลังกริ้วจนถึงให้โบยและจำคุกคนทั้งสอง แต่เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. 2349 จึงมีการอภัยโทษแก่ผู้ถูกลงโทษทั้งหมดถวายเป็นพระราชกุศล หลังจากสุนทรภู่ออกจากคุก เขากับแม่จันก็เดินทางไปหาบิดาที่ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง และมีบุตรด้วยกัน 1 คน ชื่อ “พ่อพัด” ได้อยู่ในความอุปการะของเจ้าครอกทองอยู่ ส่วนสุนทรภู่กับแม่จันก็มีเรื่องระหองระแหงกันเสมอ จนภายหลังก็เลิกรากันไป

หลังจากนั้น สุนทรภู่ ก็เดินทางเข้าพระราชวังหลัง และมีโอกาสได้ติดตามพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ในฐานะมหาดเล็ก ตามเสด็จไปในงานพิธีมาฆบูชา ที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2350 และเขาก็ได้แต่ง “นิราศพระบาท” พรรณนาเหตุการณ์ในการเดินทางคราวนี้ด้วย และหลังจาก “นิราศพระบาท” ก็ไม่ปรากฏผลงานใดๆ ของสุนทรภู่อีกเลย

จนกระทั่งเข้ารับราชการในปี พ.ศ. 2359 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 2 สุนทรภู่ได้เข้ารับราชการในกรมพระอาลักษณ์ และเป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จนแต่งตั้งให้เป็นกวีที่ปรึกษาและคอยรับใช้ใกล้ชิด เนื่องจากเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงแต่งกลอนบทละครในเรื่อง "รามเกียรติ์" ติดขัดไม่มีผู้ใดต่อกลอนได้ต้องพระราชหฤทัย จึงโปรดให้สุนทรภู่ทดลองแต่ง ปรากฏว่าแต่งได้ดีเป็นที่พอพระทัย จึงทรงพระกรุณาฯ เลื่อนให้เป็น "ขุนสุนทรโวหาร"

ต่อมาในราว พ.ศ. 2364 สุนทรภู่ต้องติดคุกเพราะเมาสุราอาละวาดและทำร้ายท่านผู้ใหญ่ แต่ติดอยู่ไมนานก็พ้นโทษ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงติดขัดบทพระราชนิพนธ์เรื่อง "สังข์ทอง" ไม่มีใครแต่งได้ต้องพระทัย ทรงให้สุนทรภู่ทดลองแต่งก็เป็นที่พอพระราชหฤทัยภายหลังพ้นโทษ สุนทรภู่ได้เป็นพระอาจารย์ถวายอักษรสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอาภรณ์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 2 และ เชื่อกันว่าสุนทรภู่แต่งเรื่อง "สวัสดิรักษา" ในระหว่างเวลานี้ ซึ่งในระหว่างรับราชการอยู่นี้ สุนทรภู่แต่งงานใหม่กับแม่นิ่ม มีบุตรด้วยกันหนึ่งคน ชื่อ "พ่อตาบ

"สุนทรภู่" รับราชการอยู่เพียง 8 ปี เมื่อถึงปี พ.ศ. 2367 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคต หลังจากนั้นสุนทรภู่ก็ออกบวชที่วัดราชบูรณะ (วัดเลียบ) อยู่เป็นเวลา 18 ปี ระหว่างนั้นได้ย้ายไปอยู่วัดต่างๆ หลายแห่ง ได้แก่ วัดเลียบ, วัดแจ้ง, วัดโพธิ์, วัดมหาธาตุ และวัดเทพธิดาราม ซึ่งผลจากการที่ภิกษุภู่เดินทางธุดงค์ไปที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ปรากฏผลงานเป็นนิราศเรื่องต่างๆ มากมาย งานเขียนชิ้นสุดท้ายที่ภิกษุภู่แต่งไว้ก่อนลาสิกขาบท คือ รำพันพิลาป โดยแต่งขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม พ.ศ. 2385 ทั้งนี้ ระหว่างที่ออกเดินทางธุดงค์ ภิกษุภู่ได้รับการอุปการะจากพระองค์เจ้าลักขณานุคุณจนพระองค์ประชวรสิ้นพระชมน์ สุนทรภู่จึงลาสิกขาบท รวมอายุพรรษาที่บวชได้ประมาณ 10 พรรษา สุนทรภู่ออกมาตกระกำลำบากอยู่พักหนึ่งจึงกลับเข้าไปบวชอีกครั้งหนึ่ง แต่อยู่ได้เพียง 2 พรรษา ก็ลาสิกขาบท และถวายตัวอยู่กับเจ้าฟ้าน้อย หรือสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ พระราชวังเดิม รวมทั้งได้รับอุปการะจากกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพอีกด้วย

ในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ครองราชย์ ทรงสถาปนาเจ้าฟ้า กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ เป็นพระบาทสมเด็จพระปิ่นกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับอยู่วังหน้า (พระบวรราชวัง) สุนทรภู่จึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "พระสุนทรโวหาร" ตำแหน่งเจ้ากรมพระอาลักษณ์ฝ่ายบวรราชวังในปี พ.ศ. 2394 และรับราชการต่อมาได้ 4 ปี ก็ถึงแก่มรณกรรมใน พ.ศ. 2398 รวมอายุได้ 70 ปี ในเขตพระราชวังเดิม ใกล้หอนั่งของพระยามนเทียรบาล (บัว) ที่เรียกชื่อกันว่า "ห้องสุนทรภู่"

สำหรับทายาทของสุนทรภู่นั้น เชื่อกันว่าสุนทรภู่มีบุตรชาย 3 คน คือ"พ่อพัด" เกิดจากภรรยาคนแรกคือแม่จัน "พ่อตาบ" เกิดจากภรรยาคนที่สองคือแม่นิ่ม และ "พ่อนิล" เกิดจากภรรยาที่ชื่อแม่ม่วง นอกจากนี้ ปรากฏชื่อบุตรบุญธรรมอีกสองคน ชื่อ "พ่อกลั่น" และ "พ่อชุบ" อย่างไรก็ตาม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ทรงตราพระราชบัญญัตินามสกุลขึ้น และตระกูลของสุนทรภู่ได้ใช้นามสกุลต่อมาว่า "ภู่เรือหงส์"


ผลงานของสุนทรภู่
หนังสือบทกลอนของสุนทรภู่มีอยู่มาก เท่าที่ปรากฏเรื่องที่ยังมีฉบับอยู่ในปัจจุบันนี้คือ…



ประเภทนิราศ

- นิราศเมืองแกลง (พ.ศ. 2349) - แต่งเมื่อหลังพ้นโทษจากคุก และเดินทางไปหาพ่อที่เมืองแกลง

- นิราศพระบาท (พ.ศ. 2350) - แต่งหลังจากกลับจากเมืองแกลง และต้องตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรีในวันมาฆบูชา

- นิราศภูเขาทอง (ประมาณ พ.ศ. 2371) - แต่งโดยสมมุติว่า เณรหนูพัด เป็นผู้แต่งไปนมัสการพระเจดีย์ภูเขาทองที่จังหวัดอยุธยา

- นิราศสุพรรณ (ประมาณ พ.ศ. 2374) - แต่งเมื่อครั้งยังบวชอยู่ และไปค้นหายาอายุวัฒนะที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผลงานเรื่องเดียวของสุนทรภู่ที่แต่งเป็นโคลง

- นิราศวัดเจ้าฟ้า (ประมาณ พ.ศ. 2375) - แต่งเมื่อครั้งยังบวชอยู่ และไปค้นหายาอายุวัฒนะตามลายแทงที่วัดเจ้าฟ้าอากาศ (ไม่ปรากฏว่าที่จริงคือวัดใด) ที่จังหวัดอยุธยา

- นิราศอิเหนา (ไม่ปรากฏ, คาดว่าเป็นสมัยรัชกาลที่ 3)

- แต่งเป็นเนื้อเรื่องอิเหนารำพันถึงนางบุษบา

- รำพันพิลาป (พ.ศ. 2385) - แต่งเมื่อครั้งจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม แล้วเกิดฝันร้ายว่าชะตาขาด จึงบันทึกความฝันพร้อมรำพันความอาภัพของตัวไว้เป็น "รำพันพิลาป" จากนั้นจึงลาสิกขาบท

- นิราศพระประธม (พ.ศ. 2385) –เชื่อว่าแต่งเมื่อหลังจากลาสิกขาบทและเข้ารับราชการในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปนมัสการพระประธมเจดีย์ (หรือพระปฐมเจดีย์) ที่เมืองนครชัยศรี

- นิราศเมืองเพชร (พ.ศ. 2388) - แต่งเมื่อเข้ารับราชการในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เชื่อว่าไปธุระราชการอย่างใดอย่างหนึ่ง นิราศเรื่องนี้มีฉบับค้นพบเนื้อหาเพิ่มเติมซึ่ง อ.ล้อม เพ็งแก้ว เชื่อว่า บรรพบุรุษฝ่ายมารดาของสุนทรภู่เป็นชาวเมืองเพชร



ประเภทนิทาน

เรื่องโคบุตร, เรื่องพระอภัยมณี, เรื่องพระไชยสุริยา, เรื่องลักษณวงศ์, เรื่องสิงหไกรภพ



ประเภทสุภาษิต

- สวัสดิรักษา- คาดว่าประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 2 ขณะเป็นพระอาจารย์ถวายอักษรแด่เจ้าฟ้าอาภรณ์

- สุภาษิตสอนหญิง - เป็นหนึ่งในผลงานซึ่งยังเป็นที่เคลือบแคลงว่า สุนทรภู่เป็นผู้ประพันธ์จริงหรือไม่

- เพลงยาวถวายโอวาท - คาดว่าประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 ขณะเป็นพระอาจารย์ถวายอักษรแด่เจ้าฟ้ากลางและเจ้าฟ้าปิ๋ว



ประเภทบทละคร

- เรื่องอภัยณุรา ซึ่งเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เพื่อถวายพระองค์เจ้าดวงประภา พระธิดาในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว



ประเภทบทเสภา

- เรื่องขุนช้างขุนแผน (ตอนกำเนิดพลายงาม)

- เรื่องพระราชพงศาวดาร



ประเภทบทเห่กล่อม
แต่งขึ้นสำหรับใช้ขับกล่อมหม่อมเจ้าในพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ กับพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เท่าที่พบมี 4 เรื่องคือ เห่จับระบำ, เห่เรื่องพระอภัยมณี, เห่เรื่องโคบุตร เห่เรื่องพระอภัยมณี, เห่เรื่องกากี



ที่มาของวันสุนทรภู่
องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO) ซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่ส่งเสริมและเผยแพร่ผลงาน ด้านวัฒนธรรมของประเทศสมาชิกต่างๆ ทั่วโลก ด้วยการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก ในวาระครบรอบ 100 ปีขึ้นไป ประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณและผลงานของผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมระดับโลกให้ปรากฎแก่มวลสมาชิกทั่วโลก และเพื่อเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองร่วมกับประเทศที่มีผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ

ในการนี้ รัฐบาลไทยโดยคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ กระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นผู้สืบค้นบรรพบุรุษไทยผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม เพื่อให้ยูเนสโกประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติและได้ประกาศยกย่อง "สุนทรภู่" ให้เป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก โดยในวาระครบรอบ 200 ปีเกิด เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ต่อมาในปี พ.ศ. 2530 นายเสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการจัดตั้งสถาบันสุนทรภู่ขึ้น เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับชีวิตและงานของสุนทรภู่ ให้แพร่หลายในหมู่เยาวชนและประชาชนชาวไทยมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ทางรัฐบาลจึงได้กำหนดให้ วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปีเป็น "วันสุนทรภู่" ซึ่งนับแต่นั้น เมื่อถึงวันสุนทรภู่ จะมีการจัดงานรำลึกถึงสุนทรภู่ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ที่พิพิธภัณฑ์สุนทรภู่ "วัดเทพธิดาราม" และ ที่จังหวัดระยอง และมีการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติคุณและส่งเสริมศิลปะการประพันธ์บทกวีจากองค์กรต่างๆ โดยทั่วไป

ทั้งนี้ ผลงานของสุนทรภู่ยังเป็นที่นิยมในสังคมไทยอย่างต่อเนื่องตลอดมาไม่ขาดสาย และมีการนำไปดัดแปลงเป็นสื่อต่างๆ เช่น หนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์ เพลง รวมถึงละคร มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์สุนทรภู่ ไว้ที่ ตำบลบ้านกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบิดาของสุนทรภู่ และเป็นกำเนิดผลงานนิราศเรื่องแรกของท่านคือ นิราศเมืองแกลง



กิจกรรมที่ควรปฏิบัติ ในวันสุนทรภู่

1. มีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติชีวิตและผลงาน
2. มีการแสดงผลงานประเภทนิทานฯ ของสุนทรภู่
3. มีการประกวด แข่งขัน ประชันสักวา ตอบคำถามเกี่ยวกับประวัติชีวิต และผลงานของสุนทรภู่

สามารถติดตามอ่าน บท กลอนสุนทรภู่ ผลงานสุนทรภู่ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- thaigoodview.com
- hlib.ru.ac.th
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11566

ตอบตอบ: 21/03/2010 11:06 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ไม่มีใครตอบแน่นะ..... งั้นเฉลย


เกริ่นกล่าว (ยาวหน่อยนะ....)
- พ.ศ. 2525 กรุงเทพฯ ครบ 200 ปี แสดงว่ากรุงเทพเกิดเมื่อ พ.ศ. 2525 - 200 = 2325 และเมื่อสุนทรภู่. มีอายุอยู่ช่วง ร.1 - ร.2 ก็น่าจะราวๆ พ.ศ. 2325 (+/-) 20 ถึง 30 ปี พอเป็นไปได้ไหม ?

- อังกฤษออกล่าอาณานิคม (เมืองขึ้น) เมื่องช่วง ร.5 - ร.6 นี่เอง คราวนี้วิเคราะห์ซิว่า ตั้งแต่ ร.1 จนถึง ร.6 นับเวลาได้กี่ปี เกือบ 100 ปีไหม ? ..... การที่อังกฤษออกล่าอาณานิคม ทำให้อังกฤษได้พบของดีในดินแดนต่างๆ ทั่วโลก (อาณานิคมมากจนได้สมญา อังกฤษไม่มีพระอาทิตย์ตกดิน) สิ่งหนึ่งที่อังกฤษปฏิบัติต่อประเทศอาณานิคม คือ ไม่แตะต้องระบบผู้นำและวัฒนธรรมประเพณี

- ของดีสิ่งหนึ่งในดินแดนทั่วโลกที่อังกฤษพบ คือ วรรณกรรม การตัดสินว่าวรรณกรรมใดดีที่สุดในโลก ตัดสินโดยคนอังกฤษซึ่งแตกฉานภาษาอังกฤษ แม้จะได้แปลวรรณกรรมต่างชาติเป็นภาษาอังกฤษก็ต้องแปลโดยคนของชาติวรรณกรรมนั้น แล้วคนแปลจะแตกฉานภาษาอังกฤษสักเท่าใดเชียว แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วให้คนอังกฤษอ่าน มันจะเกิดอรรถรสในวรรณกวีได้ยังไง ผลการตัดสิน คือ "วรรณกรรมอังกฤษ เขียนโดย เชคเปียร์ ดีที่สุดในโลก"

สรุป.... วรรณกรรมอังกฤษ เขียนโดยคนอังกฤษ ใช้ภาษาอังกฤษ เมื่ออ่านโดยคนอังกฤษมันก็ต้องเกิดอรรถรสดีกว่า วรรณกรรมไทย เขียนโดยคนไทย แปลเป็นภาษาอังกฤษโดยคนไทย แล้วก็ให้คนอังกฤษอ่าน มันจะเกิดอรรถรสได้ไง..... ยกตัวอย่าง ภาษาอังกฤษว่า "กิน" มีเพียงคำเดียว คือ EAT แต่ภาไทยมี กิน. รับ. รับประทาน. เสวย. บริโภค. สวาปาม. ยัด. หม่ำ. กับอีกหลายๆ คำ แต่ละคำล้วนให้ความหมาย ให้ความรู้สึก และให้อารมย์ที่ต่างกันออกไป

- ปัจจุบันในการศึกษาระดับปริญญาโทของอังกฤษ ได้กำหนดให้มีการศึกษาวิจัยวรรณกรรมของสุนทรภู่

- สุนทรภู่เขียนเรื่องพระอภัยมณี มีการกล่าวถึงการเลี้ยงวัว แพะ แกะ ในเรือ นั่นคือจินตนาการ (วิสัยทัศน์) เกี่ยวกับเรือบันทุกเครื่องบิน..... เขียนถึงพราห์มโมรา.ที่ยิงธนูออกไปแล้วแตกออกเป็นหลายดอกได้ นั่นคือจินตนาการเกี่ยวกับจรวดแบบดาวกระจาย ในปัจจุบัน.....สุนทรภู่จินตนาการเรื่องนี้ออกมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่สิ่งนี้ยังไม่เกิดขึ้นในโลก



ตอบ
พระนางเจ้าอลิซาเบธ ตรัสถามว่าระหว่าง เชคเปียร์ กับ สุนทรภู่ ใครเกิดก่อนกันนั้น....คำถามนี้ผิดพลาด คำถามที่ถูกต้องคือ......

ทรงตรัสถามว่า วันที่สุนทรภูเกิดนั้น อังกฤษยึดมาเลเซีย-พม่า-อินเดีย ได้แล้วหรือยัง ? และสุทรภู่เคยมาอังกฤษหรือไม่ ? (ทรงวิเคราะห์ว่า สุนทรภู่อาจได้แนวคิดนี้มาจากชาวอังกฤษที่เข้ามาอยู่ในประเทศอาณานิคมก็ได้)

ครั้นทรงได้รับคำตอบจากมหาดเล็กว่า สุนทรภู่เกิดก่อนและตายก่อนที่อังกฤษจะยึดอาณานิคมเหล่านี้ได้

พระนางเจ้าอลิซาเบธ ทรงทราบแล้ว ทรงอึ้ง ตรัสเบาๆ ว่า "คนไทยนี่ฉลาดนะ" แล้วเสด็จเข้าข้างในทันที



เรื่องจริง (ไม่เกี่ยวถูก/ผิด) นะอ็อด ไม่ใช่อำ
ลุงคิมครับผม

ป.ล.
อย่าจริงจัง-1 กับเรื่องนี้มากเลยอ๊อด เอาว่าเรื่องการเรียน "วิธีทำปุ๋ย/ฮอร์โมน" ที่สามาชิกเว้บนี้บอกว่า "สนใจ -สนใจ และสนใจ" น่ะ จนป่านนี้แล้วยังไม่มีใครติดต่อมาเลยแม้แต่คนเดียว ดูจากจำนวนสมาชิกที่ผ่านเข้ามาในกระทู้นี้แล้วไม่ใช่น้อยเหมือนกันนะ....รึคุณว่าไงล่ะ ?
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ott_club
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009
ตอบ: 718

ตอบตอบ: 21/03/2010 3:47 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คำพูด:
ป.ล.
อย่าจริงจัง-1 กับเรื่องนี้มากเลยอ๊อด เอาว่าเรื่องการเรียน "วิธีทำปุ๋ย/ฮอร์โมน" ที่สามาชิกเว้บนี้บอกว่า "สนใจ -สนใจ และสนใจ" น่ะ จนป่านนี้แล้วยังไม่มีใครติดต่อมาเลยแม้แต่คนเดียว ดูจากจำนวนสมาชิกที่ผ่านเข้ามาในกระทู้นี้แล้วไม่ใช่น้อยเหมือนกันนะ....รึคุณว่าไงล่ะ ?


มันก็เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาแหละครับลุง มนุษย์จุดทศนิยม โอกาสอยู่ตรงหน้าแต่ไม่ไขว่คว้า

แต่ทำม้ายยย! ปราช์ญชาวบ้าน เกษตรกรดีเด่นแห่งเมืองสุพรรณบุรีเนี่ย เจ้าของจุลินทรีย์เจ็ดป่าช้า
คนถึงให้ความสนใจกันจัง ซึ่งตอนนี้ก็เปิดรับสมัครอบรมอยู่ใครสนใจก็สมัครไปได้นะครับ

ott_club


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ott_club เมื่อ 21/03/2010 3:51 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
ott_club
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009
ตอบ: 718

ตอบตอบ: 21/03/2010 3:50 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เอ๊ะ! เว้ปนี้มีเสียงน้ำตกกับเสียงนกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

งองอ (คือ"งง"ครับ)
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11566

ตอบตอบ: 21/03/2010 5:29 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เกษตรกรดีเด่น เปิดสอนไม่เก็บเงิน ตัวผัวไม่จับเงิน แต่เมียเป็นคนเก็บ หัวละ 500 - 1,000
ลงทุนเลี้ยงข้าวฟรีคนไปเรียนหัวละ 35 บาท
ขายน้ำยาล้างจาน สารสมุนไพรกำจัดแมลง น้ำหมักเหม็นเน่าแปดบ้าน จุลินทรีย์ห้วยขาแข้ง


เอาเข้าไป....พวกเรา ใจไม่ด้านพอ (ว่ะ)
ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11566

ตอบตอบ: 22/03/2010 5:49 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

xx
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 13/07/2013 7:30 am    ชื่อกระทู้: LEARNING BY DOING ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

..........END....Part 4
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©