น้ำบาดาลกับนาข้าว....

[niracha]

เรียนลุงคิม

จัดให้ครับ



ก่อนใช้งานต้องอุดทางน้ำออกก่อน เพื่อปิดช่องอากาศและทางน้ำก่อนการล่อน้ำ
ป้าเขาจะใช้ฝาพลาสติกที่พอดีมาปิด แล้วใช้ดินเหนียวในนานั่นแหละพอกปิด



กรอกน้ำใส่ให้เต็มกระบอกของตัวโยก ตัวโยกนี้ใช้เป็นตัวดึงน้ำจากบ่อบาดาลให้ขึ้นมาที่หน้าปั๊ม



เริ่มโยกเพื่อดึงน้ำ ระหว่างโยกก็จะกรอกน้ำเพื่อให้กระบอกโยกไม่มีอากาศ เดี๋ยวจะดึงน้ำไม่ขึ้น



ขึ้นมาแล้ว



เอารถอีแต๊กมารอ เอาสายพานมาคล้องพอหย่อนๆ แล้วติดเครื่อง



พอเครื่องติดก็ดึงรถถอยหลังเพื่อให้สายพานตึงพอดีๆ แล้วใช้ไม้ขัดเพื่อล็อคเกียร์ เหมือนดึงเบรคมือในรถยนต์แหละ
ตอนที่ดึงสายพานให้ตึงนั้น แรงดันน้ำก็จะดันฝาปิดทางออกของน้ำที่ปิดไว้ตอนล่อน้ำหลุดออกไปเอง



อันนี้เป็นภูมิปัญญา เอาสายพายที่ขาดหรือไม่ใช้แล้วมาพาด เพื่อกันไม่ให้สายพานเด้งขึ้นลง เนื่องจากเมื่อเบาเครื่องยนต์แล้ว
แรงดึงจากเครื่องยนต์ลดลง ความตึงของสายพานจะน้อย ส่งผลให้เกิดการเด้งหรือสะบัดของสายพาน บางเจ้าก็ใช้ก้านกล้วย
มาพาดแทน




น้ำใสดีไหมครับ ลองชิมดูแล้วก็จืดๆ ส่วนกลิ่นก็เหมือนน้ำคลองน้ำบ่อดีๆ นี่เอง

ตอนแรกที่ไปถึงลุงเขากำลังขึ้นน้ำ (สูบน้ำเข้านา) จากคลองด้านหน้า ก็บอกลุงไปว่าจะขอถ่ายรูปเอาตั้งแต่เริ่มเลย ลุงเขาก็ใจดีมากๆ
ย้ายรถมาทำให้ดู พอดีว่าน้ำในคลองก็มีน้อยอยู่แล้ว ลุงจะขึ้นน้ำจากคลองพักเดียวแล้วย้ายมาใช้บาดาล ก็เป็นจังหวะดีที่ไม่ต้องไปเสียเที่ยว

ตอนนี้เป็นหน้านา ลุงก็จะนอนที่ห้าง ข้าวของต่างๆ ก็ไม่ต้องเก็บ หลังจากเกี่ยวข้าวแล้ว ก็จะกลับไปอยู่บ้าน ปั๊มโยกและปั๊มหอยโข่งก็
ถอดกลับบ้านด้วย เหลือแต่ท่อแป็บโด่ๆ

[niracha]

นี่เป็นของอีกเจ้าหนึ่ง ซึ่งเจ้าของเขาขุดอยู่บนคันนากลางทุ่งเลยครับ

[Yuth-Jasmine]

[niracha]

ค่าแรงเจาะ 9,000 บาท ใช้แรงคน
ค่าตัวโยก 3,000 บาท
ค่าปั๊ม 3,000 บาท
ค่าท่อ (ลุงจำไม่ได้) ลึก 20 ม.

ตัวเลขนี้นานมาแล้วนะ

[Yuth-Jasmine]

คุณนิ ช่วยดูนี่หน่อยสิครับ ดูไม่ค่อยรู้เรื่องว่ะ



ในวงกลมสีแดง คือ ตัวเลขที่บอกว่ามีน้ำใต้ดินมากน้อยแค่ไหนใช่เปล่า
ในระแวกไร่มีตัวเลขมากที่สุดก็ หมายเลข ๕๔ บ้านห้วยดุกนี่แหละ

แต่ก็บอกตรง ๆ น่ะว่าไม่รู้ว่าตัวเลข หลวงมัน make เอาเองหรือเปล่า
ไปลองสอบถาม คนแถวนั้นมาแล้ว เขาบอกว่าถ้าขุดเจอน้ำบอกด้วย
เพราะหายากเหลือเกิน ไม่มีใครมีบ่อน้ำบาดาลเลย

แล้วลองดูระยะทางจาก วัดห้วยดุกน่ะถึงที่ไร่น่ะ เกือบ ๓ กม. วัดคร่าว ๆ จาก แผนที่ด้านล่างน่ะ
วงกลมสีเหลือง คือ จุดที่เราจอดรถดูไร่กัน วงกลมสีฟ้า ก็คลองชลประทานท้ายไร่น่ะ

ดูแล้วเป็นไงบ้าง พอจะไหวไหม หมายถึงพอจะขุดบ่อบาดาลไหวไหม
หรือข้อมูลต้องมากกว่านี้ ขาดอะไรบอกน่ะ จะไปหามาเพิ่มอีก



เออลองให้เพื่อนที่พันธ์ทิพย์เช็คดู มันบอกว่าเจ้าหน้าที่เกษตร
ใช้ตัวนี้กันเยอะมาก คล่องตัว ข่าวว่าเป็น Bluetooth ทำงานแบบไร้สาย
เวลาลิ้งค์กับดาวเทียมมันบอกเห็นภาพปัจจุบันเลยน่ะ เห็นราคารวม Vat
สามพันนิดๆ ว่ะ จริงเท็จยังไงไม่รู้



ได้เรื่องยังไงส่งข่าวด้วยน่ะเกลอ (เดี๋ยวเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นพยุหะ)

ขอบคุณเพื่อนมาก

ยุทธ ครับ

[ott_club]

ขอบคุณครับคุณนิรชา

เห็นแล้วทึ่งภูมิปัญญาชาวบ้านจริงๆ ยอมครับยอม ที่บอกไว้ว่าไม่มีไฟฟ้าใช้น้ำบาดาลไม่ได้ เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกในชีวิตเลยนะครับเนี่ย

ช่วยหาข้อมูลรถอีแต๊กให้นิ๊ดนึงนะครับ ช้อบชอบ ครั้งหน้าเจอคันนี้อีกเมื่อไหร่ถ่ายรูปให้ดูชัดๆ เลยนะครับ

อ๊อดครับ

[Yuth-Jasmine]

[kimzagass]

[kimzagass]

สองคนตากับยาย หรือยายกับตา

ยายชื่อ นางเจ๊ะโหน่ย.
ตาชื่อ นายเหม่ยเยาะ.
มีลูกสาว 1 คน ชื่อ น.ส.เม้ยเจิง.
เชื้อชาติเดิมกะเหรี่ปากะญอ (กะเหรี่ยงคอยาว)
ภูมิลำเนาเดิม เมืองเมาะตะมะ
การศึกษาสูงสุด วิศวกรรมชลประทาน จากมหาวิทยาลัยอัตตะปือ


จากศิษย์เก่า ม.อัตตะปือ
ลุงคิมครับผม

ปล.
งานเข้า คุณนิรชา....
ค่อยๆ กระซิบ(เน้นย้ำ....ค่อยๆ กระซิบ) ถาม 2 ตายายซิว่า วันนี้ยังมีหนี้สินเท่าไหร ? หนี้นั้นตากับยายได้แต่ไรมา ?