-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ข้าว
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ข้าว
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ข้าว

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
viriya
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 10/09/2010
ตอบ: 5

ตอบตอบ: 12/10/2010 9:56 am    ชื่อกระทู้: ข้าว ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข้าว "อัคนีโพลา" เป็นข้าวของประเทศอินเดีย เป็นข้าวไม่ต้องหุงแค่แช่น้ำก็นำมากินได้ อายุประมาณ 145 วัน - เก็บเกี่ยว ได้ไร่ละ 4,000-4,500 ต่อไร่

ลุงคิมพอมีข้อมูลข้าวอันนี้หรือไม่
viriya
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11559

ตอบตอบ: 12/10/2010 7:38 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ของไทยก็มีครับ.....

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=2211


"ข้าวไม่ต้องหุง" แช่น้ำ 20 นาที รับประทานได้

กรมการข้าวโชว์ผลงานวิจัย "ข้าวไม่ต้องหุง" ฝีมือศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ เผยแค่แช่น้ำก็รับประทานได้ทันที ไม่ต้องยุ่งยากหุง ประหยัดพลังงาน-ใช้อุปกรณ์น้อยชิ้น เหมาะสมหรับนักเดินทาง หรือชั่วโมงเร่งรีบ

นางสำลี บุญญาวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า กรมการข้าวโดยศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ ได้ดำเนินการศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าว โดยใช้ข้าวเปลือก 4 พันธุ์ ได้แก่ ขาวดอกมะลิ105 กข39 ข้าวหลวงสันป่าตอง และขาหนี่ ภายใต้กระบวนการแปรรูปเป็นข้าวนึ่งที่ทำให้สุกด้วยไอน้ำ ลดความชื้น และนำไปสีให้เป็นข้าวสาร เมื่อต้องการบริโภคจะนำมาทำให้คืนตัวเป็นข้าวสุกพร้อมบริโภคเรียกว่า "ข้าวไม่ต้องหุง" ซึ่งเหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก รวดเร็วในการบริโภคข้าว เนื่องจากสามารถพกพาติดตัวไปในสถานที่ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อาทิ นักเดินป่า หรือกรณีรถติดบนถนนเป็นเวลานานๆ เพราะใช้อุปกรณ์การหุงน้อยชิ้นและที่สำคัญประหยัดพลังงานในการทำให้สุกด้วย

รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีการบริโภคข้าวไม่ต้องหุง ไม่มีความยุ่งยากแถมยังสะดวกและรวดเร็วอีกด้วย เพียงแค่แช่น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิ 100 องศาเซลเชียส หรือน้ำเดือดอัตราข้าว 1 ส่วนต่อน้ำ 1 ส่วน หรือมากกว่าเล็กน้อย แต่ไม่ควรเกิน 1.5 ส่วน ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ผู้บริโภคสามารถนำไปรับประทานได้ทันที เหมือนกับข้าวสุกที่ผ่านวิธีการหุงตามปกติ แต่หากไม่มีน้ำร้อนสามารถแช่ในน้ำเย็นอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสได้โดยต้องแช่น้ำทิ้งไว้นาน 45 นาทีสามารถรับประทานได้เช่นกัน

"หากผู้บริโภคที่ไม่มีความคุ้นเคยในการบริโภคข้าวไม่ต้องหุงที่ใช้วิธีการแช่น้ำ เพราะข้าวจะมีลักษณะร่วน ผู้บริโภคยังสามารถนำข้าวไม่ต้องหุงนี้ มาหุงด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้าในอัตราข้าว 1 ส่วนต่อน้ำ 1.25 ส่วน ใช้เวลา 15 นาทีซึ่งจะได้ข้าวสุกที่มีความนุ่มเช่นเดียวกับข้าวสุกทั่วไป" นางสำลี กล่าว

ที่มา : แนวหน้า


กว่าจะเป็น ข้าวไม่ต้องหุง

ก้าวอีกขึ้นความสำเร็จงานวิจัยกรมการข้าว เชียงใหม่

ด้วยคุณประโยชน์ของข้าวที่มีอยู่มากมายทั้งเป็นอาหาร และเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ จากที่ผ่านมาได้มีการศึกษาวิจัยพัฒนาข้าวในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

ข้าวไม่ต้องหุง อีกความสำเร็จของการพัฒนาผลิต ภัณฑ์ข้าว ที่ศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ กรมการข้าว คิดค้นขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวก เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้ รับประทานข้าวสุกด้วย วิธีการแช่น้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดา ซึ่งกว่าจะเป็นข้าวไม่ต้องหุง อีกก้าวความสำเร็จครั้งนี้ สำลี บุญญาวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า งานวิจัยพัฒนาข้าวมีมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้นำประโยชน์ข้อดีของสายพันธุ์ข้าวที่มีออกมาเผยแพร่อย่างข้าว พื้นเมืองต่าง ๆ อีกทั้งพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีความ โดดเด่นในด้านต่าง ๆ เช่น การทนต่อโรคแมลง เป็นต้น

การศึกษาวิจัยของศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ถือเป็นอีกความสำเร็จที่มีความหมาย ทั้งต่อผู้บริโภคและเกษตรกรซึ่งไม่เพียงเพิ่มทางเลือกการบริโภค แต่ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวเป็นอีกรูปแบบของการถนอมอาหารเพิ่มความ สะดวกให้กับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศ การเดินป่าหรือแม้แต่ผู้ประสบภัย ฯลฯ ซึ่ง เมื่อจะนำมาทานจะไม่ยุ่งยาก โดยการแช่น้ำเปล่าซึ่งสามารถแช่ได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำธรรมดาโดย ยังคงรสชาติ อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานในการทำให้ข้าวสุกอีกด้วย

ขณะที่ข้าวไม่ต้องหุงเป็นอีกทางเลือกเพิ่มความสะดวกในการบริโภคข้าว แต่กว่าที่ข้าวสารเม็ดสวยจะสุกพร้อมรับประทานกับอาหารหลากหลายเมนูโดยไม่ ต้องหุงต้มแบบที่คุ้นเคย สกุล มูลคำ นักวิชาการชำนาญการศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ สำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว หัวหน้าทีมวิจัยเล่าย้อนถึงการศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวไม่ต้องหุงว่า จากการพัฒนาพันธุ์ ข้าวที่มีคุณสมบัติพิเศษนำ มารับประทานได้โดยไม่ต้อง หุงของอินเดียตามที่มีข่าวนั้น ประกอบกับภูมิปัญญาการเตรียมข้าวนึ่งสำหรับเดินป่าของพรานพื้นบ้านที่นำข้าว เปลือกมาแช่น้ำ นึ่ง ตากให้แห้ง ตำเป็นข้าวสารติดตัวไปสำหรับรับประทาน เมื่อต้องการทานข้าวก็จะนำไปใส่กระบอกไม้ไผ่แล้วเติมน้ำ ฯลฯ อีกทั้งจากที่เราส่งข้าวขายเป็นอันดับต้น ๆ มีข้าวหลากหลายพันธุ์ จากแนวคิดดังกล่าวจึงนำมาศึกษาวิจัย โดยทำงานร่วมกับทีมวิจัยมี จุดหมายสร้างมูลค่าให้กับ ข้าว เพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภค และประหยัดพลังงานในการหุงหรือทำให้สุก

การพัฒนาข้าวไม่ต้อง หุงได้นำข้าวขาว 4 พันธุ์มาทำการทดลอง ได้แก่ ข้าว ดอกมะลิ 105 กข 39 ข้าวหลวงสันป่าตองและขาหนี่ โดยนำข้าวเปลือกที่ทำความสะอาดแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 8-12 ชั่วโมง จากนั้นนำข้าวที่แช่น้ำไปนึ่งเพื่อลดความชื้นป้องกันเชื้อรา ผึ่งแดดให้แห้งแล้ว นำไปคั่ว จากนั้นนำข้าวนึ่งที่คั่วไปสีก็จะได้ข้าวสารที่พร้อมนำไปบริโภคโดยการแช่น้ำ หรือหุงในวิธีการบริโภคทำได้ไม่ยุ่งยาก เมื่อจะนำมารับประทานหากนำไปแช่น้ำ ร้อนเดือด ๆ จะใช้เวลาน้อยประมาณ 15-20 นาที ส่วนถ้าแช่น้ำเย็นก็อาจใช้เวลานานขึ้นประมาณ 45 นาทีข้าวก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกับการแช่ในน้ำร้อนเหมือนกับข้าวที่หุงทานกัน ปกติ

"สาเหตุที่เลือกข้าว4 พันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น ขาวดอกมะลิ 105 กข 39 ข้าวหลวงสันป่าตอง และขาหนี่มาทดลอง เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่หาได้ในพื้นที่เป็นพันธุ์ที่อยู่ในกลุ่มข้าวอ่อนหรือ ข้าวที่มี อมิโลสต่ำซึ่งก็น่าจะทำเป็นข้าวไม่ต้องหุงได้ดี อีกทั้งในสองพันธุ์แรกเป็นตัวแทนของข้าวเมล็ดยาว และสองพันธุ์หลังเป็นข้าวพื้นเมืองของชาวเขาเป็นตัวแทนของข้าวเมล็ดสั้น"

ขาวดอกมะลิเป็นที่ทราบกันถึงคุณภาพการหุงต้ม ขณะที่ กข 39 มีความโดดเด่นทางพันธุ์สามารถปลูกได้ทั้งนาปีและนาปรังอีกยังมีความทนต่อโรค ส่วนอีกสองพันธุ์คือ ข้าวหลวงสันป่าตองและขาหนี่เป็นข้าวที่ปลูก บนพื้นที่สูงสามารถทนต่ออากาศหนาวได้ จากความโดดเด่นเหล่านี้จึงเลือกมาศึกษาโดยเฉพาะข้าวพื้นเมือง เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวและยังช่วยเกษตรกรในพื้นที่สูงให้สามารถปลูก และขายข้าวได้นอกเหนือจากการปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือน

ส่วนการศึกษาเริ่มมา ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาโดยทำการทดลองพร้อมกันทั้ง 4 ชนิด เมื่อก่อนจะศึกษาเคยทดลองทำ ในข้าวเหนียว แต่ไม่ได้ผลเนื่องจากข้าวไม่เป็นก้อนและร่วน แต่สำหรับข้าวไม่ต้องหุงของศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ เมื่อทำเสร็จแล้วข้าวสุกจะมีลักษณะร่วนไม่จับกันเป็นก้อน

เมื่อคืนตัวเป็นข้าวสุกโดยการแช่น้ำ (ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น) สีของข้าวจะเป็นสีขาว การคืนตัวข้าวสุกมีอัตราการยืดตัวอยู่ที่ 1.2-1.3 เท่าของข้าวสาร ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ยังคงความหอมนุ่ม ขณะที่ กข 39 และทุกพันธุ์ยังคงความนุ่มอยู่ใกล้เคียงข้าวที่หุงจากหม้อหุงข้าวและทุก พันธุ์ไม่มีกลิ่นของรำหรือข้าวเปลือกเมื่อนำมารับประทาน

"กระบวนการต่าง ๆ เริ่มจากการตั้งสมมุติฐาน ทดลองผิดถูกเรื่อยมาจนมาพบวิธีการดังกล่าวซึ่งก็ยินดีที่จะเผยแพร่ความรู้ ให้กับผู้ที่สนใจ อีกทั้งการศึกษาวิจัยเรื่องข้าวไม่ต้องหุงคงต้องศึกษาเรื่องพันธุ์ที่เหมาะ สม ลดเวลาการคืนตัวให้สั้นลงกว่าที่เป็นอยู่ อย่างเช่นให้เหลือการคืนตัวเป็นข้าวสุก ที่ต่ำกว่า 20 นาทีเพื่อให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น"

ข้าวไม่ต้องหุงเท่าที่มีการพูดถึงนอกจากจะไม่มี กลิ่น ในความโดดเด่นยังสามารถเก็บไว้ได้หรือหากจะนำมาทานทันทีก็สามารถทำ ได้ อีกทั้งหากต้องการนำไปหุงก็สามารถทำได้โดยข้าวจะสุกเร็วขึ้นไม่ต้องใช้เวลา นานเหมือนกับการหุงข้าวด้วยวิธีปกติ

ส่วนลักษณะของเมล็ดข้าวมีลักษณะเช่นเดียวกับ ข้าวสาร สีจะออกเหลืองนวลไม่ขาวเหมือนกับข้าวสาร แต่เมื่อแช่ในน้ำร้อนก็จะเป็นข้าวสวยเหมือนข้าวที่หุงทั่วไป ส่วนคุณค่าทางโภชนาการจาก กระบวนการทำข้าวนึ่ง แป้งข้าวจะถูกทำให้สุกเนื้อแป้งจะเหนียวเป็นลักษณะเจลาติน สารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการจะถูกแรงดันที่เกิดจากการนึ่งดันให้กลับเข้า ไปอยู่ในแป้งเทียบกับข้าวกล้องก็จะมีคุณค่าทางโภชนาการคงเหลืออยู่ประมาณ ร้อยละ 80 แต่อย่างไรคงต้องทำการวิจัยต่อเนื่องต่อไปซึ่งแต่ละพันธุ์อาจมีคุณค่าทาง โภชนาการต่างกันไป

นอกเหนือจากความสะดวกในการรับประทานข้าวอาหารหลักของทุกครัวเรือน ข้าวไม่ต้องหุงในความสำเร็จที่เกิดขึ้นยังเป็นการเพิ่มทางเลือก ความสะดวกในการบริโภค อีกทั้งยังมีความหมายสร้างมูลค่าให้กับข้าวอีกด้วย




อินเดียวพัฒนาพันธุ์ข้าวสำเร็จรูป กินได้ไม่ต้องหุง

ศูนย์วิจัยข้าวกลางของรัฐบาลอินเดียแจ้งว่าได้พัฒนาพันธุ์ข้าวขึ้นมาพันธุ์ หนึ่ง หุงได้โดยไม่ต้องใช้ไฟเลย ชั่วเพียงแต่แช่น้ำเท่านั้น ก็กินได้

นาย ทาปาน กุมาร อัธยา ผู้อำนวยการสถาบัน เปิดเผยว่า ข้าวพันธุ์ใหม่มีเอนไซม์ย่อยแป้งต่ำ เพียงแต่ถูกน้ำก็อ่อนนุ่ม แม้ว่าอินเดียจะทำนาได้เป็นปริมาณมหาศาล อย่างเช่น เมื่อปีกลายปลูกข้าวได้ถึง 98.5 ล้านตัน แต่ข้าวพันธุ์ใหม่นี้ก็เหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะ ด้วยเหตุว่ามันไม่ต้องมาคอยหุงหาเลย "ชั่วเพียงแต่ แช่น้ำธรรมดาไว้นานสัก 45 นาที หรือในน้ำอุ่นเพียง 15 นาที ก็กินได้เลย ผิดกับข้าวพันธุ์อื่นๆ ที่ต้องหุงก่อน ช่วยประหยัดฟืนไฟ เบาแรงแม่บ้านไปได้แยะ อย่างไรก็ดี ข้าวพันธุ์นี้ เราคิดจะไว้ทำข้าวนึ่ง พอสีเสร็จก็ใช้กินได้เลย"

พันธุ์ ข้าวมีชื่อว่า "อัฟกัน-บอรา" จากการปลูกในแปลงสาธิต มันมีอายุ 145 วัน ปลูกในผืนนาขนาด 6.25 ไร่ จะให้ข้าวได้ 4-4.5 ตัน มากพอๆ กับข้าวพันธุ์ต่างๆ ที่ปลูกกันอยู่ในประเทศ.

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=620
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11559

ตอบตอบ: 12/10/2010 7:54 pm    ชื่อกระทู้: Re: ข้าว ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

viriya บันทึก:
ข้าว "อัคนีโพลา" เป็นข้าวของประเทศอินเดีย เป็นข้าวไม่ต้องหุงแค่แช่น้ำก็นำมากินได้ อายุประมาณ 145 วัน - เก็บเกี่ยว ได้ไร่ละ 4,000-4,500 ต่อไร่

ลุงคิมพอมีข้อมูลข้าวอันนี้หรือไม่
viriya




ไม่มีข้อมูลสายพันธุ์ที่ว่านี้......วานใครช่วยหาให้ที..........

ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
viriya
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 10/09/2010
ตอบ: 5

ตอบตอบ: 12/10/2010 8:31 pm    ชื่อกระทู้: ข้าว ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอบคุณลุงคิมมากครับที่ให้ข้อมูล ผมอาจจะฟังมาผิดก็ได้
อาจจะเป็นชื่อ "อ้ฟกัน-บอรา" ก็ได้คร้บ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©