paebsc หนาวดึ่ง
เข้าร่วมเมื่อ: 29/10/2010 ตอบ: 2
|
ตอบ: 29/10/2010 4:41 pm ชื่อกระทู้: สปริงเกอร์ บนยอดต้นไม้ |
|
|
ลุงคิมครับ
ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับระบบการให้น้ำ ปุ๋ยทางใบ ฮอร์โมน สมุนไพร สารเคมี
โดยผมจะแล้วสเปรย์ลงมาเหมือนระบบน้ำไร่กล้อมแกล้มนะครับแต่ผมมีข้อส่งสัยว่า
1.จะติดสปริงเกอร์บนยอดต้นไม้แบบไหนดี
แบบคว่ำ น้ำกระจายคลายรูปตัว Vคว่ำ
แบบหงาย น้ำกระจายคลายรูปตัว Vหงาย
คอบ :
หัวสปริงเกอร์ที่อยู่เหนือยอดไม้ (ทรงพุ่ม) ถ้าเป็นไม้ต้นเล็กใช้แบบ "วี.คว่ำ" ถ้า
เป็นไม้ต้นใหญ่ใช้แบบ "วี.หงาย" ทั้ง 2 แบบอยู่สูงกว่ายอดประมาณ 50 ซม.
แบบ วี.คว่ำ รัศมีพ่นน้ำประมาณ 2 ม. แบบ วี.หงาย รัศมีพ่นน้ำประมาณ 4 ม. ด้วย
ปั๊มไฟฟ้า 3 แรงม้า
2.สปริงเกอร์ต้องเป็นแบบสเปรย์ที่ให้น้ำเป็นละอองฝอยเล็กที่สุดใช้ไหมครับ
เคยได้ยินว่าละอองฝอยจะกระจายทั่วถึงและดูดซึมได้ดีกว่า
ตอบ :
อยู่ที่วัตถุประสงค์ ถ้าต้องการให้ปุ๋ย/ฮอร์ทางใบ หรือสารสมุนไพร ให้ใช้หัวแบบ
ละอองฝอย ละอองน้ำนอกจากปลิวด้วยแรงดันน้ำแล้วยังปลิวลมตอนที่มีลมพัดได้
อีกด้วย ข้อเสียของหัวแบบละอองฝอยมากๆ ก็คือ "ตันบ่อย" ต้องมีระบบกรองที่ดี
และต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน เปลืองไฟฟ้า
ของลุงคิมใช้หัวแบบ "ละออง + เม็ดน้ำ" อย่างละครึ่ง (ราคาหัวละ 2 บาท) ละออง
น้ำก็ยังปลิวลมม้วนเข้าในทรงพุ่มได้ ใช้เวลาน้อยกว่าแบบละอองฝอยหลายเท่าตัว
สปริงเกอร์ที่ไร่กล้อมแกล้มไม่มีระบบกรอง เพราะออกแบบให้มันล้างตัวเองได้
3.พืชจะดูดซึม ปุ๋ยทางใบ ฮอร์โมน สมุนไพร สารเคมีได้ดีสุดช่วงเวลาไหนครับ
เช้า เย็น
ตอบ :
เวลาที่เหมาะแก่การพ่นทางใบ ควรพ่นในช่วงที่มีอุณหภูมิต่ำ แดดไม่จัด และความ
ชื้นสัมพัทธ์สูง เพื่อให้คงสภาพเป็นสารละลายนานที่สุด เนื่องจากพืชจะได้รับ
ประโยชน์จากปุ๋ยที่ให้ทางใบก็ต่อเมื่อปุ๋ยนั้นอยู่ในรูปของสารละลาย การดูดซึมปุ๋ย
ทางใบจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะเมื่อปุ๋ยยังอยู่บนผิวใบในรูปของสารละลาย
ปัญหาความชื้นในอากาศ ลุงคิมแก้ปัญาหาโดยใช้วิธี "ปล่อยน้ำเปล่า" จากสปริง
เกอร์ไปก่อน กระทั่งเห็นว่าทั้งต้นเปียกน้ำทั่วทรงพุ่มดีแล้ว ทิ้งไว้ 5-10 นาที
จึง "ปล่อยน้ำ + ปุ๋ย/ฮอร์โมน" ตามไป.....กับปัญหาพืชดูดซึมปุ๋ย/ฮอร์โมนเฉพาะ
เมื่อใบยังเปียกอยู่ ลุงคิมแก้โดย "ปล่อยน้ำ + ปุ๋ย/ฮอร์โมน" 2 รอบ เริ่มด้วยแบ่ง
ปุ๋ย/ฮอร์โมนที่จะให้เป็น 2 ส่วน ให้ส่วนแรกไปแล้ว ทิ้งไว้ 5-10 นาที กระทั่งเห็น
ว่าใบเริ่มแห้ง จึงให้ส่วนที่ 2 ตามใป
ดูเหมือนจะยุ่งยาก หลายขั้นหลายตอน แต่ก็ยังใช้เวลาน้อยกว่าลากสายยาง หรือ
สะพายถังเดินฉีดพ่นทีละต้นๆ นะ
4.ควรฉีดปุ๋ยทางใบ ฮอร์โมน สมุนไพร สารเคมี ใต้ใบหรือบนใบดีครับ เคยได้ยิน
ว่าปากใบของพืชจะอยู่ใต้ใบ
ตอบ :
ฉีดแต่บนใบไม่ให้โดนใต้ใบ หรือฉีดแต่ใต้ใบไม่ให้โดนบนใบ เลือกได้เหรอ ลุงคิม
ว่า อย่ากังวลเรื่องนี้เลย เอาแบบเหมาจ่าย ให้มันโคนทั้งใต้ใบบนใบนั่นแหละ
5.การปล่อยปุ๋ยทางใบ ฮอร์โมน สมุนไพร สารเคมี ให้ผสมกับน้ำ
ทางด้านดูดของปั้ม
ทางด้านส่งของปั้ม
แตกต่างกันอย่างไรในเรื่องของความสม่ำเสมอระหว่างปุ๋ยกับน้ำ
ตอบ :
ระยะทางจากปั๊มไปถึงหัวสปริงเกอร์ไม่ไกลนัก ซัก 10-20 ม. แล้วก็เป็นพืชชนิด
เดียวกันทั้งหมด ปล่อยปุ๋ยจากด้านตูด-ด้านส่ง (ตามที่คุณเรียก) ได้ทั้งนั้น แต่ถ้า
ระยะทางจากปั๊มถึงหัวสปริงเกอร์ที่ไร่กล้อมแกล้มกว่า 200 ม. พืชคนละชนิดกัน
แบบนี้ต้องใช้ "หม้อปุ๋ย" ประจำหน้าโซนของแต่ละโซนเท่านั้น
หมายเหตุ :
สปริงเกอร์ที่ไร่กล้อมแกล้มเป็น "ระบบกะเหรี่ยง" ไม่มีที่ไหนเขาทำ ของเรา "คิด
เอง-ทำเอง" อย่างที่บอก ระบบอิสราเอล ราคาไร่ละเป็นแสน แต่ระบบกะเหรี่ยงไร่
ละหมื่น ของเรา "ยาวตัด สั้นต่อ ไม่พอซื้อ ไม่ดีรื้อทำไม" สบายกว่ากันเยอะเลย
ในของจริงๆ ยังมีรายละเอีดที่ต้องศึกษาอีกมาก แต่ละพื้นที่แม้ว่าระบบการติดตั้งจะ
ไม่เหมือนกัน แต่หลักการเดียวกัน จึงบอกว่า COPY ไม่ได้แต่ APPLY ได้ไงล่ะ
และการที่จะ APPLY ได้ดีก็ต้องไปดูให้เห็นกับตา ทดสอบกับมือ จากหลายๆ
แหล่ง แล้วเลือกเอาเฉพาะส่วนที่เหมาะสมกับสวนตัวเองมาใช้ นั่นแหละ....
สปริงเกอร์ที่ไร่กล้อมแกล้ม ค่าอุปกรณ์ ไร่ละ 5,000 (ใช้ พีวีซี.ท่อน้ำไทย/ไม่รวม
ปั๊ม) แต่ค่าแรง ไร่ละ 10,000 เพราะฉนั้น ทำเองดีกว่าไหม ?
ขอบคุณลุงคิมและสมาชิกไร่กล้อมแกล้มทุกท่านล่วงหน้าครับ
มือใหม่ลองผิดลองถูก |
|