-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ฝาก เนื้อ+ตัว เป็น สชม.(ใหม่เอี่ยม)ค่ะ...
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ฝาก เนื้อ+ตัว เป็น สชม.(ใหม่เอี่ยม)ค่ะ...
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ฝาก เนื้อ+ตัว เป็น สชม.(ใหม่เอี่ยม)ค่ะ...
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
catcaty
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 13/08/2010
ตอบ: 525

ตอบตอบ: 18/02/2011 6:40 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

................................ Exclamation Exclamation Exclamation Exclamation Exclamation Exclamation
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
mebun
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 05/02/2011
ตอบ: 50
ที่อยู่: คนเมืองลับแล

ตอบตอบ: 21/02/2011 10:54 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

...................................!!!!!!


...แล้วมันคือ...? ?...ละพี่ อย่างนี้มี "งง" นะ...


...มีบุญจ้า...
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
mebun
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 05/02/2011
ตอบ: 50
ที่อยู่: คนเมืองลับแล

ตอบตอบ: 25/02/2011 8:20 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

...ลุงคิม พี่หมึก พี่ยุ้ด และทุกคนค่ะ...

ต้องขอบอกว่า มีบุญคนนี้ ความรู้น้อย และซื่อ (จนบื่อเป็นบางครั้ง) มาก ดังนั้นจึงตามใครไม่ค่อยทัน ความจริงที่มีในตัวก็คือ
ความจริงใจสุดๆกับทุกคน จนบางครั้ง มีบุญก็มีภัยมาถึงตัว โดยไม่รู้ตัวบ่อยๆ ค่ะ แต่ก็ไม่เลิกห่วงคนอื่นซักทีนะค๊ะ ก็แบบว่า
"มีบุญรักทุกคน" ค่ะ +++ 5 5 5 5 5 +++



...มีบุญ (ถ้ามีบุญทำอะไรผิด) หวังว่าทุกคนคงให้อภัยนะคะ...
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Sita
สาวดี่
สาวดี่


เข้าร่วมเมื่อ: 22/10/2010
ตอบ: 452

ตอบตอบ: 25/02/2011 9:27 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

mebun บันทึก:
...ลุงคิม พี่หมึก พี่ยุ้ด และทุกคนค่ะ...
ต้องขอบอกว่า มีบุญคนนี้ ความรู้น้อย และซื่อ (จนบื่อเป็นบางครั้ง) มาก ดังนั้นจึงตามใครไม่ค่อยทัน ความจริงที่มีในตัวก็คือ
ความจริงใจสุดๆกับทุกคน จนบางครั้ง มีบุญก็มีภัยมาถึงตัว โดยไม่รู้ตัวบ่อยๆค่ะ แต่ก็ไม่เลิกห่วงคนอื่นซักทีนะค๊ะ ก็แบบว่า
"มีบุญรักทุกคน" ค่ะ +++55555+++



...มีบุญ (ถ้ามีบุญทำอะไรผิด) หวังว่าทุกคนคงให้อภัยนะค๊ะ...




มีอะไรกันเหรอคุณบุญ ? ? ?...
เกี่ยวอะไรกับความรู้น้อย ตามอะไรใครไม่ค่อยทัน ..... ใครทำอะไรผิด ?
ที่ไหน ? เมื่อไหร่ ? ยังงัย ? อภัยเรื่องอะไร ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

หายไปไหนมาคะคุณบุญ ลุงคิมคิดถึงแน่ะบอกลุงคิมว่าแป้งตามคุณบุญมานะ
เผื่อมีรางวัล เราสองคนแบ่งกันเนาะ


แป้ง...
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
mebun
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 05/02/2011
ตอบ: 50
ที่อยู่: คนเมืองลับแล

ตอบตอบ: 25/02/2011 9:59 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

...555...
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
mebun
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 05/02/2011
ตอบ: 50
ที่อยู่: คนเมืองลับแล

ตอบตอบ: 25/02/2011 10:05 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

...ก็ไม่ได้มีใครทำอะไรผิดค่ะแป้ง เพียงแต่บ่นคนเดียว (ดังๆ) ว่าจะมีใครสนใจมั๊ย

ประมาณว่า เรียกร้องความสนใจ แบบว่าเหงาอยู่คนเดียว ไม่มีใครคุยด้วย ไม่มีใครคบ ไงล่ะ ......
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 25/02/2011 11:41 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

mebun บันทึก:
...ลุงคิม พี่หมึก พี่ยุ้ด และทุกคนค่ะ...

ต้องขอบอกว่า มีบุญคนนี้ ความรู้น้อย และซื่อ (จนบื่อเป็นบางครั้ง) มาก ดังนั้นจึงตามใครไม่ค่อยทัน ความจริงที่มีในตัวก็คือ
ความจริงใจสุดๆกับทุกคน จนบางครั้ง มีบุญก็มีภัยมาถึงตัว โดยไม่รู้ตัวบ่อยๆ ค่ะ แต่ก็ไม่เลิกห่วงคนอื่นซักทีนะค๊ะ ก็แบบว่า
"มีบุญรักทุกคน"
ค่ะ +++ 5 5 5 5 +++



...มีบุญ (ถ้ามีบุญทำอะไรผิด) หวังว่าทุกคนคงให้อภัยนะคะ...


การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ในประเทศนี้ ในสังคมนี้ ถึง ในหมู่บ้านนี้ ต้องมี "ความรู้" ด้วยเรอ ?

ถ้างั้นลุงคิมขอถามย้อนนี้ดดด นึง....
- ความรู้ คืออะไร ?
- ความรู้วัดด้วยอะไร ?
- ความรู้ ตัวตน รูปร่าง เป็นอย่างไร ?
- ฯลฯ

ลุงคิมถามแล้วมองตัวเอง เอ้.....เรานี่ไม่มีความรู้เลยนี่ (หว่า....)

เรื่องทำผิด ทำถูก อาจจะวัดที่ตัวคนหรือแค่ที่ทำไม่ได้ บางคราวต้องเอาทั้ง "คนทำ-คนรับ" มาหารกัน เรียกว่าพบกันครึ่งทาง แล้วจึงทำ

เพราะธรรมชาติของคนบางคน "ดีใส่ตัว ชั่วให้คนอื่น.....กูถูก มึงผิด" อยู่เสมอ

แนวทางแก้ปัญหานี้สำหรับลุงคิม คือ "เรื่องของมึงเรื่อของมึงเรื่องของมึงเรื่องของกู..." ไงล่ะ

ในชีวิต GIVE มากกว่า TAKE ..... ให้ทุกคนทั้งๆ ที่ไม่ได้ถามชื่อ รักทุกคนทั้งๆที่ไม่ได้ถามชื่อ ..... สุดท้าย "โดนด่ากลับ (ว่ะ....)"


สังคมเว้บนี้ ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่ต้องขออภัย ไม่ต้องขอโทษ....
สังคมเว้บนี้ ทำเถอะ ทำอะไรก็ได้ ที่ตัวเองสบายใจ แล้วไม่เดือดร้อนคนอื่น...

O.K. ....... ?



ลุงคิม (รักนะ เด็กโง่) ครับผม


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 26/02/2011 7:18 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
mebun
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 05/02/2011
ตอบ: 50
ที่อยู่: คนเมืองลับแล

ตอบตอบ: 25/02/2011 12:44 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

...555+++ขอบคุณค่ะ...


...รัก(คนแก่ ฉลาด)เจ้าค่ะ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
catcaty
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 13/08/2010
ตอบ: 525

ตอบตอบ: 25/02/2011 6:03 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

หุ หุ หุ ...

ความรู้ตัวคดๆงอๆ มีสภาพเป็นสสารรูปร่างไม่คงที่

เดี๋ยวรู้มาก เดี๋ยวรู้น้อย เดี๋ยวอยากรู้ เดี๋ยวไม่อยากรู้

เรื่องของหมึก เรื่องของแป้ง เรื่องของมีบุญ เรื่องของลุง เรื่องของนายยู้ด เรื่องของนายซุป
เรื่องของนาย k500 เรืองของพี่เกียรติ เรื่องของ อ.มงคล เรื่องของคุณนกขุนทอง ........
เรื่องของฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ


หมึกคร้าบบบบบบบบ Laughing Laughing
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
mebun
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 05/02/2011
ตอบ: 50
ที่อยู่: คนเมืองลับแล

ตอบตอบ: 25/02/2011 6:19 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

...เรื่องอะไร ของใคร ใครถูก ใครผิด เดี๋ยวอยากรู้ เดี๋ยวไม่อยากรู้ จะเอางัยดี จะไม่เอางัยดี...????????...


...โอ้ย...นอนไม่หลับแหงๆ...มีกรรมแน่ๆงานนี้...มีบุญเอ้ย...
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 25/02/2011 6:27 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

catcaty บันทึก:
หุ หุ หุ ...

ความรู้ตัวคดๆงอๆ มีสภาพเป็นสสารรูปร่างไม่คงที่

เดี๋ยวรู้มาก เดี๋ยวรู้น้อย เดี๋ยวอยากรู้ เดี๋ยวไม่อยากรู้

เรื่องของหมึก เรื่องของแป้ง เรื่องของมีบุญ เรื่องของลุง เรื่องของนายยู้ด เรื่องของนายซุป เรื่องของนาย k500
เรืองของพี่เกียรติ เรื่องของ อ.มงคล เรื่องของคุณนกขุนทอง ........ เรื่องของฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ


หมึกคร้าบบบบบบบบ Laughing Laughing




หมึก.....
เว้บนี้มีคนแค่นี้เหรอ ?


ลุงคิมครับผม


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 26/02/2011 7:20 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 25/02/2011 6:30 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

mebun บันทึก:
...เรื่องอะไร ของใคร ใครถูก ใครผิด เดี๋ยวอยากรู้ เดี๋ยวไม่อยากรู้ จะเอางัยดี จะไม่เอางัยดี...????????...

...โอ้ย...นอนไม่หลับแหงๆ...มีกรรมแน่ๆงานนี้...มีบุญเอ้ย...




นอนไม่หลับเหรอ....แก้ง่ายนิดเดียว

สกิดผู้ปกครองซี่ สกิดแล้วถาม....ถ้าสกิดแล้วไม่ตืน หรือถามแล้วไม่ได้คำตอบ......โครม

รับรองคราวนี้ตอบไม่หยุด



ลุงคิม (มีแต่ปัญ ไม่มีหา) ครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
mebun
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 05/02/2011
ตอบ: 50
ที่อยู่: คนเมืองลับแล

ตอบตอบ: 26/02/2011 3:26 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

Embarassed Embarassed Embarassed ...แหม...ขอบคุณค่ะ (ไม่น่าหลุดให้รู้ว่ามีผู้ปกครองเล้ยยยยยยยย) ลุงคิมคนเก่งสอนได้ทุกเรื่องจริงๆ

...ลุงคิมค๊ะ เรื่องปลูกกล้วย แต่ไม่กล้วย บุญเอาจริงอยู่นะ แต่ยังไม่ได้ตั้งใจถามซะที่ มัวแต่สนใจเรื่องอื่น 555

วันนี้ทำสมองตัวเองให้ว่างแล้ว รบกวนลุงคิมช่วยสอนได้มั๊ยค๊ะ เอาอย่างที่ลุงบอกว่า ออกตรงช่วงออกพรรษาเลยค่ะ ...แจ่มค่ะ...

...อ้อ...ที่ 2 ไร่นะคะไม่ใช่ 2 ไร่ค่ะ เอากล้วยน้ำว้านั่นแหละค่ะ เทวดาจะได้ช่วยมีบุญดูแลได้บ้างค่ะ...


...มีบุญ (ขอบคุณลุงคิม) ล่วงน่าค่ะ...
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 26/02/2011 3:35 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

mebun บันทึก:
Embarassed Embarassed Embarassed ...แหม...ขอบคุณค่ะ (ไม่น่าหลุดให้รู้ว่ามีผู้ปกครองเล้ยยยยยยยย) ลุงคิมคนเก่งสอนได้ทุกเรื่องจริงๆ

...ลุงคิมค๊ะ เรื่องปลูกกล้วย แต่ไม่กล้วย บุญเอาจริงอยู่นะ แต่ยังไม่ได้ตั้งใจถามซะที่ มัวแต่สนใจเรื่องอื่น 555

วันนี้ทำสมองตัวเองให้ว่างแล้ว รบกวนลุงคิมช่วยสอนได้มั๊ยค๊ะ เอาอย่างที่ลุงบอกว่า ออกตรงช่วงออกพรรษาเลยค่ะ ...แจ่มค่ะ...

...อ้อ...ที่ 2 ไร่นะคะไม่ใช่ 2 ไร่ค่ะ เอากล้วยน้ำว้านั่นแหละค่ะ เทวดาจะได้ช่วยมีบุญดูแลได้บ้างค่ะ...


...มีบุญ (ขอบคุณลุงคิม) ล่วงน่าค่ะ...






ตอบ :

เนื้อที่แค่ 2 ไร่เอง โถ...งานเด็กๆ ไม่พอให้อั้ยตัวเล็ก 2 คนวิ่งเล่นหรอก

ใครว่าเรื่องกล้วย ไม่กล้วย งานนี้เถียงใจขาด.....ก. ทำกับมือ มาแล้ว ง่ายกว่า
ปอกกล้วยเข้าปากอีกแน่ะ (กล้วยสุกนะ ไม่ใช่กล้วยดิบ)

ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเคมีซักกะแหมะ ต้นงี้ใหญ่ขนาดคนโอบ ก้านเครือใหญ่เท่าขา จำนวน
18 หวี ๆละ 20-21 ลูก แม้ค้ากล้วยแขกงี้ช้อบชอบ บอกว่าลูกนึงเฉือนได้ 4 ชิ้น
บางๆแต่ยาว คนซื้อก็ชอบ ประมาณนั้น

กล้วยทุกอย่างตอบสนองต่อน้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิงดีสุดๆ ลูกค้าหลายคน
ซื้อยกเครือไปแขวนที่บ้าน แล้วค่อยๆเด็ดกินทีละลูกๆ


เอางี้ซี่....
เตรียมแปลง :
1. ปรับพื้นเรียบ เวลาเข้าไปทำงานจะได้เดินสดวก
2. ตัดญ้าให้เลี่ยนเตียนโล่ง
3. ใช้ "น้ำหมักชีวภาพ สูตรระเบิดเถิดเทิง 2 ล./ไร่ ผสมน้ำเท่าไหร่ก็ได้ โชกๆ
หน่อยดี สาดทับหญ้าที่ตัดแล้วให้ทั่วแปลง แล้วทิ้งไว้ 1 เดือน เพื่อบ่มดินก่อนปลูก
4. หมายจุดปลูกให้เป็นแถวเป็นแนว ระยะห่างระหว่างต้น ระหว่างแถว ตาม
จินตนาการ หรือตามคำสั่งของผู้ปกครอง
5. ลงมือปลูกตามจุดที่หมายไว้ก่อนแล้ว ตามหลักการปลูกกล้วยทั่วๆไป

บำรุง :
1. ให้น้ำเปล่าอาทิตย์ละครั้ง ให้โชกๆ ไม่ต้องกลัวแฉะ เพราะน้ำว้าชอบ
2. ให้ "น้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง 1 ล./ไร่/เดือน" ผสมน้ำเท่าไหร่ก็ได้
แต่ขอให้โชกๆ เท่ากับเป็นการให้น้ำไปในตัว

เทคนิคเฉพาะ :
1. เลือกหน่อที่เหง้าใหญ่ๆ เพราะเหง้าใหญ่จะได้เครือใหญ่ หวีใหญ่ ลูกใหญ่
2. ถ้าเป็นหน่อเหง้าเล็ก ให้ตัดหน่อเลี้ยงเหง้าก่อน 1-2 รอบ
3. ตัดใบแห้งทิ้งเสมอ
4. ตัดหน่อตามเสมอ อย่าให้แข่งกับหน่อชิด

หมายเหตุ :
- ส่วนผสมในน้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง มีชนิดและปริมาณสารอาหารสำหรับ
กล้วยน้ำว้าอย่างพอเพียงแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเคมี หรือฮอร์โมนใดๆเพิ่มอีก
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกล้วยน้ำว้ามากๆ อ่านหลายๆเที่ยว เดี๋ยวเก่งเอง
- ไปเอาน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงที่ไร่กล้อมแกล้ม (แปลงเด็กๆ ไม่กี่ลิตรหรอก
ใส่ถุงโอเลี้ยงไปก็ได้) แถมหน่อกล้วยน้ำว้า 100 หน่อ ไปขุดเองนะ


ลุงคิม (ไม่ใช่กล้วยๆ) ครับผม



แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 26/02/2011 7:16 pm, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 26/02/2011 3:42 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

กล้วยน้ำว้า


คุณลักษณะเฉพาะ
- สายพันธุ์แนะนำได้แก่ มะลิอ่อง. ไส้แดง. นวลจันทร์.

- กล้วยน้ำว้าปลูกได้ทุกพื้นที่และทุฤดูกาล ชอบดินเหนียวมีอินทรีย์วัตถุมากๆ เจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินที่มีความชื้นสูงจนถึงแฉะ
มีลักษณะทางสายพันธุ์ใกล้เคียงกับกล้วยป่า ถ้าได้รับการผสมเกสรกับกล้วยป่า ผลของกล้วยน้ำว้าต้นนั้นจะมีเมล็ด

- ปลูกลึกให้เหง้าต่ำกว่าผิวดิน 20-30 ซม.จะช่วยให้โตเร็วได้เหง้าและโคนต้นขนาดใหญ่

- ก่อนนำลงปลูกให้ตัดรากที่ติดมากับเหง้าทิ้งทั้งหมด เพราะรากเดิมไม่งอกต่อแต่จะเน่าแล้วแทงรากใหม่ออกมาแทน

- แช่เหง้าที่ตัดรากและทำความสะอาดแล้วในสารไคตินไคโตซานนาน 6-12 ชม.ก่อนนำลงปลูกในแปลงจริง นอกจากเป็นการช่วย
ให้ต้นได้สะสมสารอาหารไว้ในเหง้าก่อนแล้วยังส่งผลให้ต้นสมบูรณ์แข็งแรงโตเร็วและให้ผลผลิตดีอีกด้วย

- นำหน่อลงปลูกแล้วกดดินให้แน่น พูนโคนต้นด้วยดินข้างหลุม และคลุมหลุมปลูกหนาๆกว้างเต็มพื้นที่ทรงพุ่มด้วยเศษหญ้าแห้ง

- กล้วยน้ำว้าต้องการน้ำมากและสม่ำเสมอจึงไม่ควรให้หน้าดินถูกแดดจนแห้ง ถ้าต้นขาดน้ำหรือมีความชุ่มชื้นน้อยจะชะงักการเจริญเติบโต

- คุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่ง คือ ทนทานต่อน้ำขังแฉะได้นาน

- อายุตั้งแต่เริ่มปลูกถึงตัดเครือ 14 เดือนครึ่ง (เริ่มปลูกถึงแทงปลี 250-260 วัน และแทงปลีถึงตัดเครือ 110-120 วัน)
สภาพอากาศหนาวจะแทงปลีและตัดเครือช้ากว่าสภาพอากาศร้อน

- อายุต้นหลังปลูก 3-4 เดือนจะเริ่มแทงหน่อ เมื่อหน่อสูง 50-80 ซม.ให้ตัดหน่อเหลือตอสูงจากพื้น 15-20 ซม. และตัดซ้ำทุก
ครั้งที่หน่อสูง 50-80 ซม. โดยให้รอยตัดครั้งหลังสูงกว่ารอยตัดครั้งก่อน 5-10 ซม.เสมอ จนกระทั่งต้นแม่อายุ 7-8 เดือนให้
เลือกหน่อชิด 1-2 หน่อเพื่อแทนต้นแม่หลังจากตัดเครือและล้มต้นแม่แล้ว หน่อที่เลือกไว้นี้ไม่ต้องตัดต้น ส่วนหน่อตามหรือหน่อ
อื่นๆให้ตัดตามปกติ

- การไว้หน่อเพื่อแทนต้นแม่สำหรับเป็นกล้วยรุ่นปีต่อไปนั้น หน่อแต่ละรุ่นควรมีอายุห่างกัน 4-5 เดือนเสมอ

- ช่วงที่ยังไม่แทงปลีให้เลี้ยงใบไว้ทั้งหมด เมื่อถึงช่วงแทงปลีและออกเครือแล้วให้มีใบ 10-12 ใบ

- ก่อนแทงปลีจะมีใบธงชูตรงขึ้นมาให้เห็น จังหวะนี้ควรให้ปุ๋ยทางรากด้วย 8-24-24 ควบคู่กับให้ ทางใบด้วย 0-42-56 +
ธาตุรอง/ธาตุเสริม 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน จะช่วยให้ดอก (ปลี) สมบูรณ์ส่งผลให้ได้จำนวนหวีและจำนวนผล/
หวีมากขึ้น

- ระหว่างที่ต้นแม่กำลังแทงปลี ตกเครือ จนถึงตัดเครือ ห้ามขุดแยกหน่อเด็ดขาดเพราะจะทำให้ต้นแม่กระทบกระเทือน แต่ถ้า
หน่อสูงใหญ่มากใช้วิธีตัดต้นหน่อให้สั้นลงแทน หลังจากตัดเครือแล้วจึงขุดแยกหน่อได้

- กล้วยน้ำว้าปลูกลึก มีรากมากและอยู่ลึก โคนลำต้นจะค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบขนาดกับกล้วยสายพันธุ์อื่น ช่วงที่ต้นมีเครือ
ขนาดใหญ่ ถ้าต้นตั้งตรงปกติก็ไม่จำเป็นต้องใช้ไม้ค้ำต้น แต่ถ้าต้นเอียงก็อาจจะต้องมีไม้ค้ำต้นเพื่อป้องกันต้นล้ม

- กล้วยน้ำว้าแจ็คพอต หมายถึง กล้วยน้ำว้าที่แก่จัดใกล้สุก (ห่าม) หรือสุกพอดีตรงหรือก่อนเล็กน้อยกับช่วงวันเข้าพรรษา ออก
พรรษา หรือในพรรษาพอดี การปลูกกล้วยน้ำว้าให้ได้ผลผลิตตรงกับช่วงเทศกาลดังกล่าวทำได้โดย นับระยะอายุจากวันตัดเครือ
ย้อนหลังมาถึงวันที่หน่อเริ่มยืนต้นได้ 14 เดือนครึ่ง ให้ลงมือปลูกหน่อกล้วยที่เตรียมไว้พร้อมแล้วก่อนวันที่หน่อเริ่มยืนต้นได้ 10-15 วัน
จากนั้นปฏิบัติบำรุงตามขั้นตอนปกติ กล้วยน้ำว้าต้นนั้นก็จะมีเครือให้ตัดได้ในอีก 14 เดือนครึ่งต่อมาพอดี

วิธีปลูกหน่อก่อน 2-3 เดือนแล้วตัดต้น 1-2 รอบเพื่อสร้างเหง้าให้ใหญ่ ซึ่งการตัดต้นครั้งสุดท้ายตรงกับวันเริ่มนับอายุปลูก (ยืนต้น) ก็ได้




*************************************************************************************



กล้วยน้ำว้า

กล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยที่นิยมบริโภคในประเทศมีคุณค่าทางอาหาร เหมาะสมสำหรับการรับประทานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ปลูกค่อนข้างง่าย

การปลูก
วิธีปลูก:
- ปลูกในช่วงฤดูฝน
- ปลูกด้วยหน่อใบแคบ หรือต้นพันธุ์ที่ได้จากการเพาะปลูกเลี้ยงเนื้อเยื่อ
- เตรียมหลุมปลูกขนาด 50x50x50 ซม.
- ผสมดินปุ๋ยคอกจำนวน 5 กิโลกรัม และปุ๋ยร็อคฟอสเฟส จำนวน 50 กรัม เข้าด้วยกันใน หลุมให้สูง ประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม
- ยกถุงกล้าต้นไม้วางในหลุมโดยระดับของดินในถุงสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อย
- ใช้มีดที่คมกรีดถุงจากก้นถุงขึ้นมาถึงปากหลุมทั้ง 2 ด้าน (ซ้ายและขวา)
- ดึงถุงพลาสติกออกโดยระวังอย่าให้ดินแตก
- กลบดินที่เหลือลงในหลุม
- กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น
- คลุมดินบริเวณโคนต้นด้วยฟางข้าว หรือหญ้าแห้ง
- รดน้ำให้ชุ่ม

ระยะปลูก:
2.5 x 3 เมตร , 2.5 x 2.5 เมตร
จำนวนต้นต่อไร่:
จำนวนต้นเฉลี่ย 200 ต้น/ไร่ , 250 ต้น/ไร่

การดูแลรักษา
การใส่ปุ๋ย:
ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 หรือ 15-15-15 อัตรา 1 กิโลกรัม ต้น/ปี โดยแบ่งใส่ 4 ครั้ง ๆ ละ 250 กรัม ดังนี้
ครั้งที่ 1 ใส่หลังปลูก 1 สัปดาห์ ใช้สูตร 15-15-15
ครั้งที่ 2 ใส่หลังจากครั้งที่ 1 ประมาณ 3 เดือน ใช้สูตร 15-15-15
ครั้งที่ 3 ใส่หลังจากครั้งที่ 2 ประมาณ 3 เดือน ใช้สูตร 15-15-15
ครั้งที่ 4 ใส่หลังจากครั้งที่ 3 ประมาณ 3 เดือน ใช้สูตร 13-13-21

การให้น้ำ:
ปริมาณของน้ำนั้นขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ ความชุ่มชื้นของดิน ปริมาณลมที่พัดผ่านจะทำให้การคายน้ำมาก จึงไม่ควรปล่อยให้ผิวหน้าดิน
แห้งติดต่อกันเป็นเวลานาน เนื่องจากรากจะหาอาหารอยู่บริเวณผิวดิน จึงทำให้หยุดชะงักการเจริญเติบโต

การตัดแต่งหน่อ:
ตัดแต่งหน่อหลังจากปลูกประมาณ 3-4 เดือน จะมีหน่อขึ้นมารอบ ๆ โคนให้ตัด ไปเรื่อยจนกว่าจะเริ่มออกปลี หรือหลังปลูกแล้วประมาณ
7-8 เดือน ควรมีการไว้หน่อทดแทน 1-2 หน่อ โดยหน่อที่ 1 และที่ 2 ควรมีอายุห่างกันประมาณ 4 เดือน เพื่อให้ผลกล้วยมีความ
อุดมสมบูรณ์ โดย เลือกหน่อที่อยู่ในทิศทางที่ตรงกันข้าม

การตัดแต่งใบ:
ควรตัดแต่งใบช่วงที่ต้นเริ่มโตจนถึงเก็บเกี่ยว โดยเลือกใบแก่ และใบที่เป็นโรคออก ตัดให้เหลือประมาณ 7-12 ใบ เพื่อป้องกันต้นกล้วย
โค่นช่วงออกปลี เพื่อใช้ใบปรุงอาหาร และเพิ่มความเจริญเติบของผลกล้วย

การเก็บเกี่ยว
การเก็บเกี่ยวกล้วยระยะใดขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการขนส่ง หากขนส่งไปขายไกล ๆ อาจตัดกล้วยเมื่อความแก่ประมาณ 75% การดู
ลักษณะความอ่อนแก่ของกล้วย อาจดูจากลักษณะผล เช่น ดูขนาดลูกกล้วย เหลี่ยมกล้วย หรือใช้วิธีการนับอายุจากวันแทงปลี หรือวัน
ตัดปลีในการตัดจะต้องพิจารณาถึงต้นสูงหรือเตี้ย ถ้าสูงก็ให้ตัดบริเวณโคนต้น เพื่อให้ต้นเอียงลงมา โดยให้อีกคนหนึ่งจับหรือรับเครือ
กล้วยไว้ จะต้องเหลือก้านให้ยาวพอสมควร นำไปยังโรงเรือนเพื่อคัดขนาดบรรจุต่อไป

การปฏิบัติหลังเก็บเกี่ยว
นำเครือกล้วยแขวนไว้บนราว ปล่อยให้ยางไหลจนแห้ง
ทำความสะอาดถูกผลหรือบริเวณปลายผลที่มีกลีบแห้งติดอยู่ออกให้หมf แยกเครือกล้วยออกเป็นหวี ๆ อย่างระมัดระวังอย่าให้รอยตัดช้ำ
คัดเลือกผลที่มีรอยตำหนิ หวีที่ไม่ได้ขนาดออก จุ่มในน้ำผสมสารไธอาเมนตาโซล แล้วผึ่งลมหรือเป่าให้แห้ง บรรจุหีบห่อ/บรรจุลงเข่ง
โดยมีใบตองรอง เพื่อป้องกันบอบช้ำ


ที่มา : กรมวิชาการเกษตร

****************************************************************************************



พันธุ์กล้วยที่ปลูกเป็นการค้า

๑. กล้วยน้ำว้า
เป็นกล้วยที่มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วทุกภาคของประเทศ ไทยสามารถทนทานสภาพดินฟ้าอากาศได้ดีกว่ากล้วยพันธุ์อื่น ๆ
การดูแลรักษาง่ายใช้ประโยชน์จากผล ต้น ใบ ดอก มากกว่ากล้วย ชนิดอื่น ๆ ลำต้นสูงปานกลาง เมื่อสุกรชาติหวาน เนื้อแน่นสีเหลือง
อ่อน กล้วยน้ำว้าสามารถจำแนก เป็นพันธุ์ต่างๆ ดังนี้

๑.๑ กล้วยน้ำว้าแดง สีเนื้อของผลมีไส้กลางสีแดง
๑.๒ กล้วยน้ำว้าขาว สีเนื้อของผลมีไส้กรองสีขาว
๑.๓ กล้วยน้ำว้าเหลือง สีเนื้อของผลมีไส้กลางสีเหลือง
๑.๔ กล้วยน้ำว้าค่อม เป็นกล้วยที่ลำต้นเตี้ยหรือแคระ


**************************************************************************************



หน่อพันธุ์กล้วยสำหรับการเพาะปลูก

หน่อกล้วยที่เกิดจากต้นกล้วยต้นแม่สามารถจำแนกตามรูปร่างและลักษณะต่างๆ ดังนี้

๑. หน่ออ่อน
เป็นหน่ออายุน้อย ขนาดเล็กมีเพียงในเกล็ดอยู่เหนือผิวดิน ซึ่งไม่นิยมนำไปเพาะปลูก

๒. หน่อใบดาบ
เป็นหน่อที่เกิดจากตาของเหง้า ใบเลี้ยงเล็กขนาดสูงประมาณ ๗๕ เซนติเมตรมีเหง้าขนาดประมาณ ๑๕ เซนติเมตร เหมาะสำหรับการ
แยกไปเพาะปลูก

๓. หน่อแก่
เป็นหน่อที่เจริญมาจากหน่อใบดาบใบเริ่มแผ่กว้างขึ้น อายุประมาณ ๕-๘ เดือนมีเหง้าขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒๕ เซนติเมตร
เหง้าของหน่อแก่อาจมีตาที่สามารถเจริญ เป็นหน่อใหม่ได้หลายหน่อ

๔. หน่อใบกว้าง
เป็นหน่อที่เกิดจากตาของเหง้าแก่หรือเหง้าที่ไม่แข็งแรง สมบูรณ์ลักษณะใบแผ่กว้างตั้งแต่ยังมีอายุน้อย ซึ่งไม่นิยมนำไปเพาะปลูก




การเลือกหน่อกล้วยเพื่อการเพาะปลูก

๑. ต้องเป็นหน่อทีเหง้าใหญ่สมบูรณ์ของหน่อไม่ มากเกินไปส่วนใหญ่อยู่ประมาณ ๗๕ เซนติเมตร
๒.เป็นหน่อที่ไดจากต้นแม่สมบูรณ์ ไม่เป็นโรคตายพราย หรือมีแมลงเข้าทำลาย โดยเฉพาะด้วงงวง เข้าทำลายมาก่อน
๓. ส่วนเหง้าต้องไม่ถูกโรคแมลงทำลาย
๔. เป็นแหล่งพันธุ์ที่เชื่อถือได้ซึ่งเกษตรกรได้มี การตรวจสอบประวัติของสวนแล้ว ไม่เคยมีโรคระบาดมาก่อน
๕. กรณีเป็นหน่อที่มีวางจำหน่าย ต้องพิจารณาความสดใหม่เหง้าใหญ่ไม่บอบช้ำอีกด้วย


การใส่ปุ๋ย
เนื่องจากกล้วยเป็นพืชที่มีอายุสั้นจึงทำให้การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากกล้วยตั้งตัวได้แล้วเกษตกรควรรีบใส่ปุ๋ยให้แก่กล้วย
เพื่อการเจริญเติบโตทางลำต้นและการตกแต่งเครือที่มีคุณภาพ ชนิดปุ๋ย มีดังนี้

๑. ปุ๋ยคอก ใส่ขณะเรียมหลุมปลูกแล้ว อัตรา ๕ กก./ต้น และ หลังกล้วยเจริญเติบโตเต็มที่ก่อนออกปลีอัตรา ๕-๑๐ กก./ต้น

๒. ปุ๋ยไนโตรเจน ที่นิยมใช้ คือโซเดียมไนเตรทหรือแอมโมเนียมซัลเฟต ใช้วิธีการหว่านลงดินปริมาณ ๖๐ กรัม / ตัน แล้วให้น้ำทันที
(การใช้ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟตบ่อย และมากเกินไปจะทำให้ดินเป็นกรด และ เป็นอันตรายต่อกล้วย)

๓. ปุ๋ยเคมี สูตร ๑๓-๑๓-๒๑ ปุ๋ยนี้ควรให้หลังติดผลแล้ว อัตรา ๕๐๐ กรัม / ต้น โดยแบ่งใส่ ๒ ครั้ง

- ครั้งแรกหลังตัดปลีแล้ว
- ครั้งที่ ๒ หลังจากครั้งแรก ๑ เดือน


การกำจัดวัชพืช
วัชพืชที่มาแย่งดูดอาหารในดินไปใช้เพื่อการเจริญเติบโตมีผล ทำให้กล้วยมีความเจริญเติบโตช้าลง บางชนิดอาจทำให้การปฏิบัติเป็น
ไปด้วยความยากลำบาก ที่อาศัยของโรคและแมลงบางชนิด เกษตรกรควรมีการกำจัดวัชพืชอย่างเหมาะสม และถูกวิธี ซึ่งสามารถ
แบ่งออกได้ ดังนี้

๑. วิธีกล ได้แก่ การถอน ดาย หรือ ถากาด้วยจอบ ควรทำการกำจัดขณะที่วัชพืชมีต้นเล็ก ก่อนที่วัชพืชนั้นจะออกดอก ถ้าเป็นพืชที่มี
ดอกต้องเก็บภาชนะที่ใส่เมล็ดวัชพืช ร่วงหล่นไปตามพื้นดิน มิฉะนั้นจะทำให้วัชพืชมีการระบาด และแพร่ระบาดกระจายมากยิ่งขึ้น ควร
เก็บวัชพืชออกมารวมกันแล้วทำการเผาหรือฝัง หากกอง ทิ้งไว้เฉย ๆ เมล็ดที่แห้งอาจถูกกลมพัดพาไปงอกเป็นต้นใหม่ได้ต่อไป

๒. วิธีเขตกรรม โดยการปลูกพืชแซม เลือกพืชที่มีระบบรากตื้นและสามารถ ใช้ลำต้นเป็นปุ๋ยได้อีกด้วย เช่น พืชตระกูลถั่วต่างๆ หรือ
พืชผักชนิดต่าง ๆนอกจากจะ ช่วยลดปริมาณวัชพืชในแปลงปลูกกล้วย ยังทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

๓. ใช้วิธีคลุมดิน หลังจากมีการตัดแต่งกิ่งใบหล้วยแล้วเกษตรกรก็นิยมใช ้ใบกล้วยช่วยคลุมหน้าดินไว้ นอกจากจะช่วยให้ลดปริมาณ
วัชพืชลงได้แล้ว ยังช่วยป้อง กันการชะล้างของหน้าดินอีกด้วย


การตัดแต่งหน่อ
หลังจากปลูกกล้วยไปแล้วประมาณ ๕-ต เดือน กล้วยจะเจริญเติบโตมากขึ้น ในช่วงนี้จะมีหน่อกล้วย เจริญขึ้นมาพร้อมกับต้นแม่ จำนวน
๔-๕ หน่อหรือมากกว่านั้น หน่อขนาดใหญ่ เป็นหน่อตาม อยู่ตรงข้ามต้นแม่จะแย่งอาหารจากต้นแม่ ทำให้เครือกล้วยที่ออกมาจากต้น
แม่มีขนาดเล็กเกษตรกรที่มีการดูแล สม่ำเสมอควรขุดแยกออกตั้งแต่ยังมีขนาดเล็กอยู่หากหน่อดังกล่าวมีขนาดใหญ่มากแล้ว จะไม่สามารถ
ขุดออกได้ ทำลายโดยใช้น้ำมันก๊าดหยอดลงที่ยอดประมาณ ๑/๒ ช้อนชา ส่วนหน่ออื่น ๆ เก็บไว้ได้ ๑-๒ หน่อ หากมีมากกว่านี้ควรขุดออก
บ้าง แต่ไม่ควรขุดหน่อในช่วงกล้วยออกเครือ เพราะอาจทำให้กล้วย ผลลีบเล็ก เครือเล็กหรือสั้นลงได้เกษตรกรควรใช้มีดปาดหน่อ
ที่เกิดช่วงตกเครือให้สั้นลงได้ จะช่วยลดการแย่งอาหารจากต้นแม่ ได้อีกครั้งยังสามารถชะลอการเจริญเติบโตของหน่อ และสามารถขุดหน่อมาใช้ปลูกต่อไป หลังจากที่ทำการตัดเครือกล้วยแล้ว

การออกปลี
เมื่อปลูกกล้วยไปประมาณ ๖-๘ เดือน กล้วยจะมีลำต้นขนาดใหญ่พร้อมที่จะออกปลี โดยกล้วยจะแตกใบยอดสุดท้าย ซึ่งมีขนาดสั้น
และเล็กมาก ชูก้านใบขึ้นชี้ท้องฟ้า ซึ่งเรียกว่า "ใบธง" หลังจากนั้นกล้วยจะแทงปลีกล้วยสีแดงออกให้เห็นชัด และกาบปลีจะบานต่อ
ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผลกล้วยที่อยู่บนหวีเริ่มสั้นและเล็กลง อีกทั้งขนาดแต่ละผลไม่สม่ำเสมอกันซึ่งเรียกว่า "หวีตีนเต่า" ส่วนหวีที่ถัดหวี
จากหวีที่ตีนเต่า ลงมาก็จะมีขนาดเล็กมากเท่ากับก้านดอกในกาบปลีที่กำลังบานอยู่ ถ้าปล่อยให้หัวปลีบานต่อไป เรื่อย ๆ ก็จะเห็นเพียง
ก้านดอกกล้วยเล็ก ๆ เรียงกัน คล้ายหวีกล้วยขนาด จิ๋วการบานของหัวปลีจะทำให้การพัฒนาขนาดของผลกล้วยช้าลง ส่งผลให้ผลกล้วย
มีขนาดเล็ก ๆ ไม่โตเท่าที่ควร

การตัดปลี
หลังจากกล้วยออกปลีมาแล้วระยะหนึ่ง ก็จะเห็นผลกล้วยเล็กจำนวนมาก เป็นหวี ๆ อย่างชัดเจน โดยทุกหวีจะมีผลกล้วยขนาดเท่า ๆ กัน
ยกเว้นหวีตีนเต่า และหวีต่อไปก็จะเป็นผลกล้วยขนาดเล็กมาก ๆ ให้ทำการตัดปลีออกหลังจากปลีลานต่อไปจากหวีตีนเต่าอีก ๒ ชั้น
เพื่อไว้สำหรับมือจับปลายหรือ ขณะทำการตัดเครือกล้วยใน ช่วงเก็บเกี่ยวอีกทั้งสะดวกในการหยิบยกและแบกหาม

การห่อผล
หลังจากที่ได้ทำการตัดปลีกล้วยออกไปแล้ว ผลกล้วยก็จะเริ่มพัฒนาและขยายขนาดใหญ่ ในการผลิตกล้วยเป็น การค้าที่ต้องการ
ให้ผิวกล้วยสวยงามปราศจากโรคแมลงทำลาย สีผิวนวลขึ้น และน้ำหนักผลเพิ่มมากขึ้น ควรมีการห่อผล

การห่อผลนั้น อาจจะเลือกกระดาษถุงปูนซีเมนต์พับเป็นถุง แล้วเจาะรูระบาย อากาศ หรือใช้ถุงพลาสติกสีฟ้าเจาะรูหรือแบบก้นเปิดก็ได้
ปัจจุบันได้มีการผลิตถุงพลาสติกมาจำหน่ายพร้อมด้านห่อ

การค้ำกล้วย
ต้นกล้วยหลังตกเครือแล้ว จะมีการหักกลางต้น (หักคอ) ได้ง่ายเมื่อกล้วยใกล้จะแก่ ทั้งนี้เพราะน้ำหนักผลมีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่าง
ยิ่งในกล้วยหอมทอง ซึ่งจะมีการหักล้มได้ง่ายมาก เพื่อป้องกันการเสียหายจากหักล้ม เกษตรกรควรใช้ไม้ค้ำกล้วยหลังตกเครือแล้ว
ด้วยไม้รวกที่ ผ่านการแช่น้ำมาแล้วประมาณ ๑ เดือน โดยดำเนินการดังนี้

๑. นำไม้รวกเสี้ยมปลายด้านที่จะใช้ปักลงดิน ทั้ง ๒ อัน แล้วผูกเชือกปลายไม้ทั้งสองอันนี้ โดยให้เหลือส่วนปลายไม้ด้านบนอันละ
๓๐ เซ็นติเมตร เพื่อทำหน้าที่รับน้ำหนักต้นกล้วย จากนั้นให้ถ่าง ไม้ทั้งสองไขว้กันเป็นลักษณะคีมแล้วนำไปค้ำต้นกล้วยบริเวณที่ต่ำ
ลงมาจากตำแหน่งเครือกล้วย ประมาณ ๓๐-๕๐ เซนติเมตร

นอกจากใช้ไม้รวกแล้ว เกษตรกรอาจใช้ไม้ที่อยู่ในท้องถิ่นที่เป็นไม้ง่ามอยู่แล้วแทนก็ได้


การเก็บเกี่ยว
ปกติแล้วกล้วยจะแก่โดยใช้เวลาประมาณ ๓-๔ เดือน หลังจากเริ่มออกดอก การเก็บเกี่ยวความแก่ ๘๐-๑๐๐% ทั้งนี้แล้วแต่ความต้อง
การของตลาด

ลักษณะของผลที่นิยมเก็บเกี่ยวนั้น จะมีลักษณะผลกลมและเห็นเหลี่ยมเล็กน้อย ถึงผลกลมไม่มีเหลี่ยมเลย

การตัดเครือกล้วยให้มือที่ถนัดมากที่สุดจับมีด และมืออีกข้างหนึ่งจับที่ปลายเครือแล้วใช้มีดยาวซึ่งคมตัดก้านเครือ (งวง) เหนือกล้วย
หวีแรก ประมาณ ๒๐ เซนติเมตร ในสวนที่เป็นแบบยกร่อง จะล้างน้ำไปเลยช่วยให้น้ำยางไม่เปื้อนผลกล้วย แล้วนำไปผึ่งแห้งในที่ร่ม
การผึ่งควรตั้งให้ปลายเครืออยู่ด้านบน โดยวางพิงกันไว้

การจัดการผลกล้วยหลังเก็บเกี่ยว
๑. ทำการชำแหละหวีกล้วยเป็นหวี ๆ แล้วบรรจุหีบห่อส่งตลาดปลายทางเพื่อนำไปบ่มขายในตลาดผู้บริโภคต่อไป ช่วงขณะชำแหละ
หวีกล้วยต้องระวังน้ำยางกล้วยจะเปื้อนผลกล้วยจะดูไม่สวยงาม อาจชำแหละลงในน้ำแล้วผึ่งให้แห้ง หรือเป่าด้วยพัดลม

๒. การคัดคุณภาพและการคัดขนาด หลังชำแหละกล้วยเป็นหวี ๆ แล้วอาจจะพบกล้วยบางหวีหรือบางผลมีตำหนิ หรือถูกโรคแมลง
ทำลายก็ให้คัดแยกออก ขณะเดียวให้ทำการคัดขนาดหวี และผลกล้วยไปในคราวเดียวกันเลย ตามขนาดใหญ่ กลาง เล็ก

๓. บรรจุหีบห่อลงในกล่อง หรือเข่งที่บุด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หรือใบตองสดก็ได้ เพื่อป้องกันมิให้กล้วยผิวช้ำหรือดำได้ ขณะบรรจุจะ
มีการนับจำนวนผลไว้แล้วกรณีจำหน่ายแบบนับผล แต่ถ้าจำหน่ายเป็นกิโลกรัมก็ทำชั่งน้ำหนักแต่กล่องหรือเข่ง แล้วเขียนบอกขนาด
และน้ำหนักไว้เลยด้วยป้ายกระดาษแข็ง

นอกจากบรรจุภาชนะแล้ว ในบางท้องที่อาจใช้วิธีบรรจุบนกระบะรถยนต์บรรทุก หรือตู้รถไฟแบบห้องเย็น โดยการเรียงหวีกล้วยคว่ำลง
ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ

การบ่มกล้วย
เป็นวิธีที่ทำให้กล้วยที่ตัดมานั้นสุกและเข้าสีสม่ำเสมอกันสะดวกในการจำหน่าย ในประเทศไทยนิยมบ่มกันได้แก่ กล้วยไข่ และกล้วย
หอมทอง โดยเรียงกล้วยในเข่งที่กล้วยกระดาษโดยรอบ หรือใส่กล้วยลงในอ่างแล้วใส่ถ่านแก๊ซแคลเซี่ยมคาร์ไบด์ ที่ทุบเป็นก้อนเล็ก ๆ
ห่อด้วยกระดาษ จะทำให้กล้วยสุกภายใน ๑-๓ วัน

นอกจากนี้แล้วยังมีการใช้สารละลายเอทธีลีน เช่น อีเธล (Ethel) ความเข้มข้น ๕๐๐ - ๑๐๐๐ ppm พ่นที่ผลกล้วยแล้วหุ้มด้วยถุง
พลาสติก ๑ วัน แล้วเปิดออกผึ่งไว้ให้อากาศถ่ายเท กล้วยจะสุกภายใน ๑-๓ วัน สิ่งที่ควรคำนึงในการบ่มนั้น ภาชนะที่ใช้บ่มต้องสะอาด
อุณหภูมิอยู่ระหว่าง ๑๒-๑๗ องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ ๙๐%

การชะลอการสุก
ในการส่งกล้วยไปจำหน่ายในตลาดปลายทางที่ค่อนข้างไกล หรือตลาดต่างประเทศที่ต้องการกล้วยดิบ ในกล้วยหอมทองมีปัญหาเพราะ
สุกง่าย แม้ไม่ต้องบ่ม การทำให้กล้วยสุกช้าโดยใช้อุณหภูมิต่ำในการขนส่งก็ จะช่วยชะลอการสุกได้ระยะหนึ่ง ทั้งนี้รวมถึงการใช้สาร
ละลาย โปแตสเซี่ยมเปอร์มังกาเนต (ด่างทับทิม) ใส่ลงไปในกล่องก็สามารถชะลอการสุกได้อีกวิธีหนึ่งด้วย


****************************************************************


http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=27
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
mebun
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 05/02/2011
ตอบ: 50
ที่อยู่: คนเมืองลับแล

ตอบตอบ: 27/02/2011 9:55 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

...โอ้ย...โอ้ย...ตาลาย...

...ลุงคิมบอกว่ามันเป็นเรื่องกล้วยๆ แต่บุญอ่านแล้ว ไม่ค่อยกล้วยเลยนะค๊ะ คงต้องอ่านอีกซั๊กสามรอบค่ะ ผู้ปกครองหนูไปดูสวนกล้วยที่
เพื่อนให้หน่อมาแล้ว ส่วนสวนของตัวเองที่จะปลูกก็กำลังทำให้เตียน ตอนนี้ข้าวกำลังออกรวง คิดไว้ว่าเกียวข้าวแล้วก็จะเก็บฟางมาทำปุ๋ย
และไว้รอคลุมโคนต้นด้วยคงดี กำลังค่อยเป็นค่อยไปค่ะ อีกหน่อยคงจะได้เอาสายวัดผ้า ไปวัดจำนวนหวีกล้วยอวดลุงคิมบ้างแหละค่ะ
กะว่า ถ้าต้นกล้วยโตดีแล้ว "จะไปปลูกกระท่อมน้อย เย็บผ้าไป คุยกับต้นกล้วยไป" กล้วยจะได้มีลูกเยอะๆงัยค๊ะลุงคิม...



...มีบุญยังคงต้อง (ขอบคุณลุงคิม) อีกหลายๆ ครั้งค่ะ...
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 27/02/2011 10:14 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

นี่แหละ "วิชาการเกิน" ละ

เอาเถอะ ปลูกเถอะ ทำตามลุงคิมว่าพอแล้ว ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น เดี๋ยวดีเอง


ลุงคิมครับผม

ปล.
วันนี้ท่องเน็ต ตามเรื่องยางพารา มาตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึงตอนนี้ 4 ทุ่มกว่า ไม่เห็นตาลายเลย......อย่างอื่นลายละไม่ว่า
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3
หน้า 3 จากทั้งหมด 3

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©