ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11560
|
ตอบ: 02/06/2011 9:05 pm ชื่อกระทู้: การเก็บรักษาฮอร์โมนน้ำดำ .................... BBEAM |
|
|
จาก : BBEAM
ถึง : kimzagass
ตอบ : 02/06/2011 8:55 pm
ชื่อกระทู้ : เรื่องการเก็บรักษา
ลุงครับ คำถามการทำฮอร์โมนน้ำดำใช้เองเนี่ย ทำแล้วเก็บได้นานแค่ไหนครับ
อีกคำถามครับ มีวิธีที่ดีกว่าในการกำจัดวัชพืชประเภทแห้วหมูไหมครับ
ผมลองใช้สูตรที่ปรับ พีเอช น้ำของลุง แล้วใส่ยา 2,4-D เอมีน 500 cc.+ เวปาร์เค 300 กรัม เป็นอัตราครึ่งหนึ่งของที่ฉลากระบุ ดีมากเลยครับ จ่ายน้อยเพราะใส่ยาแค่ครึ่งแถมให้ผลเท่ากับใส่ยาเต็มจำนวนที่ฉลากระบุ แถมบางราย (แปลงข้างๆใส่มากกว่าที่ฉลากระบุอีก วัชพืชก้อเหี่ยวแห้งไปเหมือนของผมนี้แหละ แต่เสียเงินเยอะกว่า อิอิ ช่างไม่รู้เลย สม)
กลับมาที่วัชพืชครับ คือ เมื่อฉีดแล้ว พอระยะเวลาผ่านไปประมาณเดือนนึงมันก้อขึ้นมาอีก ตาย ยาก ตาย เย็น จังไอ้แห้วหมูเนี่ย ฉีดบ่อยๆก้อกลัวดินจะเสีย อุตสาห์บำรุงดินมา อยากให้ฉีดที สองทีแล้วตายไปเลย เพราะกว่าจะได้ไถปลูกเตรียมดินใหม่คงอีกหลายปีครับ เพราะผมทราบว่าการเตรียมดินที่ดีจะเป็นการกำจัดวัชพืชที่ดีเหมือนกัน
มีแค่สองคำถามนี้แหละครับ
ขอบคุณครับลุง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 02/06/2011 9:12 pm, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11560
|
ตอบ: 02/06/2011 9:07 pm ชื่อกระทู้: Re: การเก็บรักษาฮอร์โมนน้ำดำ............BBEAM |
|
|
kimzagass บันทึก: | จาก : BBEAM
ถึง : kimzagass
ตอบ : 02/06/2011 8:55 pm
ชื่อกระทู้ : เรื่องการเก็บรักษา
ลุงครับ คำถามการทำฮอร์โมนน้ำดำใช้เองเนี่ย ทำแล้วเก็บได้นานแค่ไหนครับ
ตอบ :
ตอบ :
กรณีที่เป็นสูตรของลุงคิม เก็บในอุณหภูมิห้องอยู่ได้ราว 6 เดือน - 1 ปี. สำหรับการให้ทางใบ ถ้าเก็บนานกว่านี้เปลี่ยนมาเป็นให้ทางรากแทนก็ยังได้ผลเหมือนเดิม.....แม้แต่ที่ทำเสร็จใหม่ๆ เอาไปให้ทางรากก็ได้ประสิทธิภาพไม่ต่างจากให้ทางใบมากนัก
ที่ไร่กล้อมแกล้มเคยทดสอบกับพืชบางอย่าง พบว่า สารอาหารทางใบเอาไปให้ทางรากแทน ปรากฏว่า ได้ผลดีกว่าให้ทางใบทางเดียว ขณะเดียวกันก็เอาสารอาหารทางใบทดลอง ให้ทั้งทางใบและทางรากคู่กันเลย ปรากฏว่า ได้ผลสูงสุด (พืชทดลอง : ข้าวโพดหวาน, ดอกขจร, ถั่วฝักยาว, โป๊ยเซียน. แก้ว.)
บอกแล้วไง ต้นพืชรับสารอาหารได้ 2 ทาง คือ ทางปากใบ กับ ทางปลายราก....สารอาหารประเภทให้ทางใบ มีโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถผ่านปากใบและปลายรากเข้าสู่ต้นได้ แต่สารอาหารทางราก มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ผ่านปากใบไม่ได้ ต้องผ่านปลายรากเท่านั้น
อันที่จริง สารอาหารทางรากใช่ว่า เมื่อใส่ลงไปแล้ว ปลายรากพืชสามารถดูดซับไปใช้ได้ทันทีเลย ก็หาไม่ ต้องผ่านกระบวนการจุลินทรีย์ให้เรียบร้อยเสียก่อน นั่นแหละ ปลายรากจึงจะดูดซับไปใช้ได้ ..... ผิดกับสารอาหารประเภทให้ทางใบ ซึ่งมีขนาดโมเลกุลเล็กกว่าสารอาหารประเภทให้ทางรากและมีโครงสร้างทางเคมีที่พร้อมให้พืชดูดซับไปใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการจุลินทรีย์ สังเกตุได้ที่สารอาหารพืชไฮโดรโปรนิกส์ นั่นไง
ถ้าเป็นสูตรที่คุณทำเอง บอกแล้วไง ออกจากปากลุงคิม-เขียนโดยลุงคิม-ทำกับมือลุงคิม นี่คือสูตรของลุงคิม แต่ถ้า ออกจากปากลุงคิม-เขียนโดยลุงคิม แต่คุณเป็นคนทำ นั่นคือ สูตรของคุณ
เหตุผล....ในความเหมือนมีความต่าง และในความต่างมีความเหมือน.... ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดเหมือนกัน อย่างดีก็แค่ "คล้าย" กันเท่านั้น....ตอนที่คุณทำ ดูซิ ชนิด/เกรดของส่วนผสม. เทคนิค/วิธีการ/ขั้นตอน. อุปกรณ์เครื่องมือ. อุณหภูมิ. เวลา. มือหนักมือเบา. ทุกอย่างเหมือนของลุงคิมไหม ? ถ้าเหมือน ผลที่ออกมาก็เหมือนกัน แต่ถ้าทุกอย่างหรือบางอย่างไม่เหมือน ผลที่ออกมาย่อมไม่เหมือนกัน.....เรื่องของเคมี มันมีอะไรๆ ปลีกย่อยอีกมาก ประสบการณ์เท่านั้น ที่จะสอนคุณได้.....รู้ไหม กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ลุงคิมเททิ้งมากี่ถังแล้ว
ปุ๋ยทุกสูตร ทุกยี่ห้อ ไม่ใช่ของวิเศษ สำคัญที่ สูตรนั้น ยี่ห้อนั้น ใส่อะไรเป็นส่วนผสม ถ้าใส่ก็ O.K. แล้วถ้าไม่ได้ใส่ล่ะ คืออะไร แม้แต่ สูตรถูกต้องแต่ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ไม่ได้ผล ใช่ไหม ? ..... สูตรที่ลุงคิมทำขาย เดือนละหลายร้อยลิตร ขายมาเป็นปีแล้ว เอามาสอนคน คนที่มาเรียนกลับไปแล้วทำเองไม่ได้ หรือทำได้แต่ใช้ไม่ได้ผลเพราะที่ทำน่ะมันผิด กลับมา "ด่า" ลุงคิม ..... เจ็บไหมล่ะ ?
อีกคำถามครับ มีวิธีที่ดีกว่าในการกำจัดวัชพืชประเภทแห้วหมูไหมครับ
ตอบ :
หญ้าแห้วหมูยิ่งอายุมาก หัวยิ่งใหญ่ แล้วก็ยิ่งอยู่ลึก ใช้มือถอนต้นขาด เหลือหัวอยู่ในดินงอกเป็นต้นใหม่ดีกว่าเก่า
ยาฆ่าหญ้าทุกชนิด ทุกยี่ห้อ ทั้งเคมีทั้งชีวภาพ ทำได้แค่ใบไหม้เท่านั้น อย่าว่าแต่แห้วหมูเลย วัชพืชทุกชนิดนั่นแหละ.....บอกแล้วไง ไม่มียาฆ่าหญ้าใดในโลก ที่ใช้ตามข้างฉลากแล้วกำจัดวัชพืชได้ 100% อย่างดีก็แค่ใบไหม้ชั่วคราวเท่านั้น แต่ถ้าใช้ข้มข้นขนาด 10 ล./น้ำ 20 ล. ละก็ นั่นแหละวัชพืชตายสนิทแน่ พืชทุกชนิดตายไม่เหลือ ตายตั้งแต่ปลายใบถึงปลายรากเลยเชียวแหละ เขาเรีกว่า "เน่า" ไงล่ะ แล้วทีนี้หละดินก็ตายปลูกอะไรไม่ได้ สุดท้ายเจ้าของดินก็ตายตามด้วย....เอาไหม ?
กำจัดแห้วหมู ตัดให้เตี้ยติดดินก่อน แล้วปล่อยห่านลงไปซัก 5 ตัว/ไร่ ห่านดินกินหญ้า ห่านฟ้ากินยุง (เคยได้ยินไหม ?) พอแห้วหมูแตกยอดขึ้นมาใหม่ ห่านกินยอด แตกยอดเป็นกิน แตกยอดเป็นกิน หนักๆเข้าแห้วหมูไม่มีใบสังเคราะห์อาหาร ไม่นานก็ตายไปเอง ของแถม คือ ได้ขี้ห่านเป็นปุ๋ยบำรุงดินแถมอีกด้วย
ผมลองใช้สูตรที่ปรับ พีเอช น้ำของลุง แล้วใส่ยา 2,4-D เอมีน 500 cc.+ เวปาร์ เค 300 กรัม เป็นอัตราครึ่งหนึ่งของที่ฉลากระบุ ดีมากเลยครับ จ่ายน้อยเพราะใส่ยาแค่ครึ่งแถมให้ผลเท่ากับใส่ยาเต็มจำนวนที่ฉลากระบุ แถมบางราย (แปลงข้างๆ ใส่มากกว่าที่ฉลากระบุอีก วัชพืชก้อเหี่ยวแห้งไปเหมือนของผมนี้แหละ แต่เสียเงินเยอะกว่า อิอิ ช่างไม่รู้เลย สม...)
ตอบ :
ทบทวน..... ปรับ พีเอช น้ำที่จะใช้ผสมยาฆ่าหญ้าให้เป็นกรดจัดๆ (3.5-4.5) ก่อน โดยใส่น้ำส้มสายชูเยอะๆ หรือเยอะกว่าปกติ 2-3 เท่า จากนั้นใส่ยาฆ่าหญ้าแค่ "ครึ่งหนึ่ง" ของอัตราใช้ที่ระบุข้างขวด คนเคล้าเข้ากันดีแล้วใส่ "ยูเรีย จี." 0.2% ของน้ำที่ใช้ผสม (น้ำ 20 ล. ใส่ยูเรีย จี. 1 ช้อนโต๊ะ)
หลักการและเหตุผล..... โดยพื้นฐานแล้วยาฆ่าหญ้าทุกยี่ห้อเป็นกรดจัด เมื่อเอาไปผสมกับน้ำที่เป็นด่าง ยาฆ่าหญ้าก็เสื่อม (กรด + ด่าง = เกลือ + น้ำ.....วิชาเคมี ป.6) คนใช้จึงแก้ไขโดยการใส่ยาฆ่าหญ้ามากๆ มากจนกระทั่งน้ำนั้นเป็นกรด แบบนี้เรียกว่า ปรับกรดด่างของน้ำด้วยยาฆ่าหญ้านั่นเอง แทนที่จะใส่แค่ 20 ซีซี.(สมมุติ) กลับต้องใส่ถึง 100-200 ซีซี. สิ้นเปลืองไหม ?
วิธีการใช้.....ตัดหญ้าก่อน รอให้แตกใบอ่อนแล้วฉีดที่ใบอ่อน (ใบอ่อนภูมิต้านทานน้อยกว่าใบแก่) ช่วงสายๆ แดดจัดๆ ปากใบเปิดเต็มที่......ยูเรีย จี.จะเป็นตัวเร่งให้ใบดูดสารอะไรต่อมิอะไรที่ใบเข้าสู่ต้นเร็วขึ้น
หมายเหตุ.....คนขายยาฆ่าหญ้าเคยแนะนำให้ปรับน้ำเป็นกรดก่อนผสมไหม ? ...... คนซื้อยาฆ่าหญ้าเคยถามคนขายไหม ว่าควรทำอย่างไรบ้าง ? ..... คนขายไม่เคยบอก คนซื้อก็ไม่เคยถาม..... สรุป พอกันทั้ง คนขาย-คนซื้อ เหมือนขนมจีน ผสม น้ำยา-น้ำพริก-แกงเขียวหวาน-น้ำปลา-แม้แต่ส้มตำในครก อะไรก็ได้ ขนมจีนรับได้ทั้งนั้น.............ยังงั้น ใช่ไหม ?
กลับมาที่วัชพืชครับ คือ เมื่อฉีดแล้ว พอระยะเวลาผ่านไปประมาณเดือนนึง มันก้อขึ้นมาอีก ตายยาก ตายเย็น จังไอ้แห้วหมูเนี่ย ฉีดบ่อยๆก้อกลัวดินจะเสีย อุตสาห์บำรุงดินมา อยากให้ฉีดทีสองทีแล้วตายไปเลย เพราะกว่าจะได้ไถปลูกเตรียมดินใหม่คงอีกหลายปีครับ เพราะผมทราบว่า การเตรียมดินที่ดีจะเป็นการกำจัดวัชพืชที่ดีเหมือนกัน
ตอบ :
หลักการคิด และปฏิบัติ.....วัชพืช คือ พืชที่คนไม่ต้องการ ในความเป็นจริงแล้ว เขาก็คือพืช ย่อมต้องเจริญเติบโตงอกงาม เมื่อเขาได้ในสิ่งที่ต้องการ (ปัจจัยพื้นฐาน) เขาก็เจริญเติบโตงอกงาม ในทางกลับกัน ถ้าเขาไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการเขาก็ตาย เป็นธรรมดา เพราะฉนั้น ลองดูดีๆ พิจารณาให้รอบด้าน ซิว่า เขาต้องการอะไร หรือเขาไม่ต้องการอะไร แล้วทำตามนั้น แค่นี้ก็น่าจะ O.K. นะ
ลุงคิมครับผม
มีแค่สองคำถามนี้แหละครับ
ขอบคุณครับลุง |
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|