นวตกรรม ช่วงวิกฤติน้ำท่วม...

ยุคนี้ถ้าไม่พูดถึงเรื่องลดโลกร้อนก็ต้องพูดถึง CSR ถึงจะ อินเทรนด์ ไม่ตกยุค การ
ประปานครหลวง หรือ กปน. ก็เช่นกัน เพราะ กปน. ได้คิดค้นวิธีที่จะช่วยลดการใช้
พลังงานลดโลกร้อน ซึ่งสามารถนำมาใช้ให้เกิดผลสำเร็จและวัดผลได้อย่างชัดเจน
ทั้งยังเป็นการกระตุ้นการพัฒนาความคิดใหม่ๆที่จะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ (แต่เราไม่ได้
ใส่ใจนัก) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะในเรื่องการประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็น
ทั้ง CSR และการลดโลกร้อนอีกด้วย

สมัยเด็ก ๆ เราคงจำได้ว่าได้เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องเครื่องกำเนิดกระแสไฟฟ้า ที่
ไมเคิล ฟาราเดย์ ประดิษฐ์ขึ้นที่เรียกว่า ไดนาโม (Dynamo) ซึ่งเป็นต้นแบบของ
เครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้า ปัจจุบันกระแสไฟฟ้าผลิตขึ้นได้จากพลังงานหลายรูป
แบบ ทั้งน้ำมัน น้ำ ลม และปรมาณู ในการทำงานให้บริการของ กปน. ในแต่ละวัน
จะมีการสูบส่งน้ำปริมาณมหาศาลจากโรงงานผลิตน้ำ ไปยังสถานีสูบจ่ายน้ำในพื้นที่
ต่างๆ ซึ่งการส่งน้ำจะเป็นการสูบส่งเข้าอุโมงค์ขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5-
3.5 เมตร ลองหลับตาจินตนาการนึกภาพเอาเองก็แล้วกันว่าเป็นท่อขนาดใหญ่ที่รถ
สามารถลงไปวิ่งได้สบายๆ แต่ฝังอยู่ใต้ดิน ลึกประมาณ 16–20 ม. การที่จะส่ง
น้ำปริมาณมหาศาลเข้าไปในท่อขนาดที่ว่านี้ ต้องใช้แรงสูบส่งเป็นจากเครื่องปั๊มน้ำ
ยักษ์ เพื่อส่งน้ำให้ไปถึงสถานีสูบจ่ายน้ำทุกแห่งที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆของเมือง เมื่อ
ถึงสถานีสูบจ่ายน้ำก็ต้องมีการปรับลดแรงดันน้ำลง เพื่อให้สามารถสูบจ่ายน้ำไปยัง
บ้านผู้ใช้น้ำที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง โดยที่ระบบท่อส่งน้ำไม่เกิดความเสียหาย

การที่ กปน. ต้องลดแรงดันน้ำที่ว่านี้ จึงทำให้วิศวกรของ กปน. เกิดความคิดขึ้นมา
ว่า ทำไมเราไม่เอาแรงดันน้ำมหาศาลนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ แทนที่จะไปลดและ
ทิ้งแรงดันน้ำให้เสียเปล่า น่าที่จะเอาแรงดันน้ำนี้มาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ จึงได้
หารือกับทีมผู้เชี่ยวชาญจาก กฟผ. ให้มาทดลองติดตั้งเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดย
ใช้การขับเคลื่อนจากพลังน้ำ หรือที่เรียกว่า Micro Hydro Turbine Generator
นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจาก กฟน. ในการเชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้าที่ได้ไป
เดินเครื่องจักรภายในสถานีสูบจ่ายน้ำ ซึ่งขณะนี้ กปน. ได้ติดตั้งเครื่องผลิตกระแส
ไฟดังกล่าวและใช้งานแล้ว ที่สถานีสูบจ่ายน้ำลาดพร้าว และสถานีสูบจ่ายน้ำเพชร
เกษม ซึ่งเป็นสถานีสูบจ่ายน้ำที่มีแรงดันน้ำในอุโมงค์ส่งน้ำสูงมากพอ เนื่องจากอยู่
ใกล้สถานีสูบส่งน้ำต้นทาง นอกจากนี้ในบางช่วงเวลายังมีไฟเหลือไว้ขายให้ การ
ไฟฟ้านครหลวงอีกด้วย ซึ่งช่วยให้ กปน. ประหยัดค่ากระแสไฟได้ปีละ 3.6 ล้าน
บาท และขายไฟให้ กฟน. ปีละ 2.4 แสนบาท อีกด้วย

เมื่อมีความคิดดีๆจนเกิดผลสำเร็จเช่นนี้ เพื่อเป็นการเผยแพร่แนวคิดดังกล่าว ให้กับ
หน่วยงานทั่วไปที่อาจจะนำไปใช้หรือไปคิดต่อยอดไปใช้กับงานด้านอื่นๆอีก กปน.
จึงได้นำโครงการนี้ส่งเข้าประกวดในงาน Thailand Energy Award 2010 ซึ่ง
จัดโดยกรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน ซึ่งปีนี้มี
หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนส่งผลงานเข้าประกวดกว่า 1,000 โครงการ และ
คณะกรรมการได้คัดเลือกเข้ารับรางวัลในประเภทต่างๆ รวม 91 รางวัล โดย กปน.
ได้รับรางวัลชมเชยประเภทโครงการพลังงานสร้างสรรค์ ซึ่งคณะกรรมการจัด
งานมอบรางวัล โดยนายกรัฐมนตรีจะให้เกียรติเป็นประธานในปลายเดือนนี้

นอกจากนี้โครงการ Micro Hydro Turbine Generator นี้ยังได้รับเลือกให้เป็น
โครงการของประเทศไทยไปประกวดในงาน ASEAN Energy Award 2010 ที่
ประเทศเวียดนามซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้อีกด้วย

ความสำเร็จนี้นับเป็นความภูมิใจของพนักงานการประปานครหลวง และจะเป็นแรง
ผลักดันให้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กร ต่อประชาชน และโลก
ของเราต่อไป

http://www.mwa.co.th/mhtg_2010.html

kimzagass · ตอบ: 09/11/2011 9:35 am ชื่อกระทู้:

อุโมงค์ยักษ์ เร่งระบายน้ำ

อุโมงค์ยักษ์พร้อมจะใช้ระบายน้ำแล้ว 1 แห่ง คือ อุโมงค์พระราม 9-รามคำแหง
ส่วนอีก 3 แห่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ

อุโมงค์พระราม 9-รามคำแหง หรืออุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ-ลาดพร้าวเดิม
เป็นอุโมงค์ยักษ์เพียงแห่งเดียวที่พร้อมจะใช้งานในขณะนี้ โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่
ปี 2544 ใช้งบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เมตร ระยะ
ทาง 5 กิโลเมตร โดยมีจุดเริ่มต้นที่คลองลาดพร้าวเชื่อมคลองแสนแสบ ก่อนจะส่ง
ต่อไปยังคลองพระโขนง และไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา สามารถระบายน้ำได้ 60
ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตลาดพร้าว วังทองหลาง
บางกะปิ ห้วยขวาง และ สะพานสูง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้ คือ ขยะและสิ่ง
ปฏิกูลที่กีดขวางทางน้ำ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพการระบายน้ำลดลง

ส่วนอุโมงค์ยักษ์อีก3 แห่ง ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ คือ อุโมงค์รัชดาภิเษก-
สุทธิสาร มีจุดเริ่มต้นจากถนนรัชดาภิเษก ตัดถนนสุทธิสาร ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร
ไปสิ้นสุดที่แม่น้ำเจ้าพระยา หากอุโมงค์เสร็จสิ้นจะช่วยระบายน้ำในเขตพื้นที่
ห้วยขวาง ดินแดง จตุจักร พญาไท ดุสิต และบางซื่อ ขณะที่อุโมงค์ดอนเมืองเป็น
อุโมงค์ระบายน้ำที่ใหญ่ที่สุด ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 เมตร ระยะทาง 13.5
กิโลเมตร ช่วยระบายน้ำในเขตจตุจักร หลักสี่ ดอนเมือง บางเขน และบางส่วนของ
สายไหม ส่วนอุโมงค์สุดท้ายคืออุโมงค์สวนหลวง ร.9 หรือ อุโมงค์บึงหนองบอน -
เจ้าพระยา ซึ่งเป็นการปรับเนื้องานจากเดิมที่จะเป็นโครงการบึงหนองบอน-คลอง
ประเวศบุรีรมย์ ระยะทาง 3 กิโลเมตร ช่วยการระบายน้ำในเขตประเวศ พระโขนง
บางนา และสวนหลวง

ทั้งนี้คาดว่าอุโมงค์ยักษ์ที่เหลือทั้ง 3 แห่งดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 5 ปีนี้
และจะช่วยระบายน้ำได้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่วินาทีละ 95 ลูกบาศก์เมตร เป็นวินาทีละ
240 ลูกบาศก์เมตร หรือ เทียบเท่ากับการระบายน้ำจากสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐาน
4 สระ ภายใน 1 วินาที

http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3

kimzagass · ตอบ: 09/11/2011 9:40 am ชื่อกระทู้:

http://www.springnewstv.tv/th/news/4-10022.html

kimzagass · ตอบ: 09/11/2011 10:23 am ชื่อกระทู้:

นายกฯ โพสต์เฟสบุ๊ก แจงยุทธศาสตร์ป้องกันน้ำท่วมกรุง

&laquo ; เมื่อ : พฤศจิกายน 05, 2011, 05:18:04 PM »

นายกฯ แจงยุทธศาสตร์ป้องน้ำท่วมกรุง
ย้ำก่อนกลางเดือนต้องลดปริมาณน้ำไหลเข้าฝั่งตะวันตกให้ได้อย่างน้อย 60 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ขณะฝั่งตะวันออก ไม่เกิน
2 สัปดาห์ ดอนเมือง-วิภาวดีแห้ง

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. เฟสบุ๊ก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ในการป้องกัน
ผลกระทบของน้ำที่จะเข้าท่วมส่วนกลางของ กทม. โดยระบุว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันผลกระทบของน้ำ
ที่จะเข้าท่วมส่วนกลางของ กทม.ทั้งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ดังนี้

ฝั่งตะวันออก :
1. หัวใจสำคัญของการหยุดน้ำจากทางเหนือ คือ การสร้างคันกั้นน้ำบริเวณโลคัลโรด รังสิต-เมืองเอก ยาว 6 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อ
คืนวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม ชี้แจงว่าได้วางกระสอบยักษ์ หรือบิ๊กแบ็ก เหลือเพียง
การนำกระสอบทรายไปอุดตามรูรั่วให้แน่นขึ้น หากหยุดรอยรั่วได้ กทม.จะสามารถสูบน้ำที่ท่วมขังจากดอนเมือง และถนนวิภาว
ดีรังสิตได้ ส่วนนี้คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์

2. การชะลอน้ำบริเวณคลองหกวาสายล่าง ตั้งแต่คลอง 8 คลอง 10 และเร่งรัดระบายน้ำผ่านคลอง 13 ของรังสิต โดย
การตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่รวม 27 เครื่องให้ครบภายในวันนี้ เพื่อเร่งระบายน้ำผ่านคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตสู่ทะเล
โดยเร็ว

3. กองบัญชาการกองทัพไทย ได้จัดส่งกำลังช่วย กทม. เพื่อแก้อุปสรรคที่ขัดขวางน้ำบริเวณคลองบางเขน บางซื่อ คลอง
ลาดพร้าว และคลองแสนแสบ รวมทั้งหาเพิ่มเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำโดยเร็วที่สุด โดยสัปดาห์หน้าที่น้ำทะเลลดต่ำ เจ้าหน้า
ที่กรมอุทยานป่าไม้ รวม 500 นาย จะเข้าเสริมคันกั้นน้ำที่ขาดถึง 6 กิโลเมตร บริเวณถนนหทัยราษฎร์ ข้ามทางด่วนบางนา
บางปะอิน เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าชั้นในของ กทม.ตามที่สำนักการระบายน้ำร้องขอเข้ามา

ฝั่งตะวันตก :
1. การบริหารงานของกรมชลประทาน โดยการลดปริมาณน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา รวมทั้งการลดปริมาณน้ำที่ไหลผ่านประตูน้ำ
บรมธาตุและประตูน้ำพลเทพ ซึ่งภายในวันที่ 12 พ.ย.นี้ จะต้องลดปริมาณน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 60 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน
กรมชลประทานจะอุดรอยรั่วคันกั้นน้ำฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาอีก 14 จุดที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่งต้องรีบทำให้เสร็จภาย
ในวันที่ 13 พ.ย. ก่อนที่น้ำจะหนุนอีกครั้งช่วงกลางเดือนนี้ และจะเร่งระบายน้ำใน จ.นนทบุรีและอยุธยา ออกทางแม่น้ำ
ท่าจีนและเจ้าพระยาให้ได้มากที่สุด หากเป็นไปตามแผนน้ำจากฝั่งตะวันตกจะลดลงตั้งแต่ช่วงกลางเดือน พ.ย.

2. รัฐบาลสนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ให้กับ กทม. กองทัพเรือได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำคลอง
ทวีวัฒนา คลองมหาสวัสดิ์ และคลองภาษีเจริญ เพื่อออกแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยา 3. มอบหมายให้กรมชล
ประทานเร่งระบายน้ำบริเวณคลองมหาไชย สนามไชยลงสู่แก้มลิงโดยเร็วเพื่อระบายน้ำออกสู่ทะเลอีกทางหนึ่ง

มาตรการแก้ไขทั้งสองฝั่งนั้น เป็นการทำงานที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันทั้งฝ่ายวิชาการ และหน่วยปฏิบัติงาน ทั้ง
กรมชลประทาน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กทม. รวมทั้งต้องลงไปสื่อสารกับมวลชนให้
เข้าใจ โดยหลักการทำงานรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน กทม.เป็นส่วนใหญ่ ตามที่ กทม.แจ้งความจำนงและร้องขอมา

"สำคัญที่สุดคือ เราจะร่วมกันฟันฝ่าวิกฤติโดยทุกคนต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม และขอร้องผู้ที่เข้าขัดขวางการปฏิบัติ
งานของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะบางกลุ่มที่เข้าไปทำลายคันกั้นน้ำและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินของ ประชาชน ขอให้ผู้ว่า
ราชการจังหวัดทุกจังหวัด บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด" เฟสบุ๊กนายกรัฐมนตรีระบุ.

http://www.thairath.co.th/content/pol/214472

http://www.tfn5.info/board/index.php?topic=31045

kimzagass · ตอบ: 09/11/2011 10:28 am ชื่อกระทู้:

กทม. ผุดอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำ 1.6 หมื่นล้าน

http://hilight.kapook.com/view/53508

kimzagass · ตอบ: 09/11/2011 10:37 am ชื่อกระทู้:

กำแพงน้ำกั้นน้ำ...

วันนี้เราพาเพื่อนๆมาดู การป้องกันน้ำท่วมของต่างประเทศ เช่น มหาวิทยาลัย
Michigan กันที่นั้นเค้าไม่ได้ใช้ถุงทรายหรือ flood stop แต่อย่างใดเค้าใช้
flood barriers ถุงขนาดใหญ่ มันจะถูกใช้งานได้ดีขนาดไหนเพื่อนๆลองดูกันนะคะ

มันดีกว่าถุงทรายตรงที่เราไม่ต้องเสียเวลามา ตักทรายและยกกระสอบทราย แต่
flood barriers เพียง ใช้น้ำเติมเข้าไปในถุง หรือจะสูบน้ำที่ท่วมอยู่เข้าไปและหลัง
จากนั้นมันจะกลายเป็นกำแพงขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันน้ำflood barriers ถุงยักษ์
ต้านน้ำท่วม CedarRapidsflood barriers ถุงยักษ์ต้านน้ำท่วม commercial2ที่
สำคัญมันสามารถอยู่บนพื้นที่หยาบและไม่ได้เป็ระนาบเดียวกัน ได้อย่างบนพื้นดิน
หิน เมื่อน้ำสูงขึ้น Flood barriers จะมีระบบให้นำ้ในถุงอีกฝั่งถูกดันขึ้นมา คล้าย
กำแพงในรูป flood barriers ถุงยักษ์ต้านน้ำท่วม

http://www.clipmass.com/story/38396

kimzagass · ตอบ: 13/11/2011 10:03 am ชื่อกระทู้:

เครื่องเจ็ทดันน้ำผันน้ำพ้นลาดกระบัง

"ลาดกระบังเร่ง" ผันน้ำออกทะเล ผุดโมเดล “เครื่องเจ็ทดันน้ำ” มีประสิทธิภาพมากกว่านำเรือดันผิวน้ำ ไล่ดินโคลนออกให้หมด
แก้ปัญหาคลองตื้นเขิน ไม่จำเป็นต้องระเบิดถนน

นายคมสัน มาลีสี รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำ
ในฝั่งกทม.ตะวันออก ขณะนี้น้ำเคลื่อนตัวมาอยู่ที่คลองแสนแสบ บริเวณเขตมีนบุรี และเขตหนองจอก จากนั้นได้เคลื่อนที่ไหลลง
คลองประเวศ ตอนพระองค์ไชยานุชิต ส่งผลให้ถนนลาดกระบัง บางช่วงเกิดน้ำท่วมหนึ่งช่องเส้นทางสัญจร

ทั้งนี้ได้มีการประชุม ร่วมกันระหว่างสำนักงานเขตลาดกระบัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ และชุมชนบริเวณใกล้เคียง 61 ชุมชน
เพื่อร่วมกันเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด โดยแต่ละชุมชนจะช่วยกันเก็บกวาดขยะ และผักตบชวา ที่ลอยอยู่ในลำคลองขนาด
ใหญ่ทั้ง 5 คือ คลองลาดกระบัง คลองหนองงูเห่า คลองบางโฉลง คลองจระเข้ใหญ่ คลองพระองค์ไชยานุชิต

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบ คือ คลองทั้ง 5 เส้นทางมีลักษณะคอคอด ในบางช่วงที่มีสะพานข้ามถนน เช่น ถนนบางนาตลาด ที่ใต้
สะพานจะตื้นเขินด้วยดินโคลน โดยการแก้ปัญหาจะใช้รถดับเพลิงจากท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ นำท่อฉีดน้ำหย่อนลงไป
ใต้สะพานเพื่อไล่โคลนที่อยู่ข้างใต้ออก ให้เกิดการเคลื่อนตัวของน้ำคล่องตัว ไม่หยุดชะงัก

นอกจากนี้ยังมีโมเดลเครื่องเจ็ทดันน้ำจากใต้ผิวน้ำ ลักษณะเป็นท่อกลมแบบถังน้ำ 200 ลิตร มีใบพัดขนาดใหญ่ จัดวางในลำ
คลองระยะห่างกัน 100 เมตร เป็นการทำให้น้ำเคลื่อนที่ไปได้ด้วยกันทั้งลำคลอง ส่วนการนำเครื่องเจ็ทไว้ใต้น้ำเพื่อให้เกิด
แรงดันน้ำที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ใช้ใบพัดของเรือหางยางดันน้ำได้เพียงผิวน้ำด้านบนเท่านั้น

“สิ่งที่ต้องทำคือ การทำให้น้ำในลำคลองคลองลาดกระบัง คลองหนองงูเห่า คลองบางโฉลง คลองจระเข้ใหญ่ คลองพระองค์
ไชยานุชิต ไหลได้อย่างดีก่อนเพราะเป็นทางไหลของน้ำโดยตรง เพื่อให้น้ำไหลลงไปที่ปั๊มน้ำออกสู่ทะเล ซึ่งเครื่องปั๊มน้ำมีประ
สิทธิภาพมาก เพียงแต่หัวน้ำขณะนี้ยังไปไม่ถึง จะเป็นผลดีมากกว่าการระเบิดถนนเพื่อระบายน้ำ” รองคณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าว

http://www.ds-phathai.com/smf/index.php?topic=280.0