-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-เมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกปลอมปน
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - เมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกปลอมปน
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

เมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกปลอมปน

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 09/12/2011 12:28 pm    ชื่อกระทู้: เมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกปลอมปน ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

พิจิตรอายัดเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกปลอมปน 1,000 กระสอบ





นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สารวัตรพันธุ์ข้าว กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และตำรวจ สภ.เมืองพิจิตร เข้าสุ่มตรวจร้านจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวในพื้นที่ อ.เมืองพิจิตร

จากการสุ่มตรวจเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูก พันธุ์สุพรรณบุรี 1 และพันธุ์ กข 29 หรือชัยนาท 80 ซึ่งเป็นข้าวที่นิยมเพาะปลูกใน จ.พิจิตร

พบว่ามีเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกที่ไม่ได้มาตรฐานและมีการปลอมปน จึงทำการอายัดเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกทั้ง 2 พันธุ์ จำนวน 1,000 กระสอบไว้ตรวจสอบ โดยติดป้ายห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาด พร้อมกับทำบันทึกตักเตือนและให้ผู้ประกอบการส่งคืนเมล็ดพันธุ์ข้าวดังกล่าวกลับไปยังแหล่งผลิตภายใน 7 วัน

จากนั้นจะมีการตรวจซ้ำในร้านจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ที่ถูกอายัดในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า หากพบว่าทำผิดซ้ำอีก จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.- สำนักข่าวไทย



http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/300302.html
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 09/12/2011 12:31 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ชาวนาโพทะเล ร้องศูนย์วิจัยฯ ตรวจสอบพันธุ์ข้าว - หวั่นปลอมปน


นางวิไล ปาละวิสุทธิ์ นักวิชาการชำนาญการศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวพิษณุโลก เปิดเผยว่า ชาวนาในเขต อ.โพทะเล จ.พิจิตร จำนวน 22 ราย ได้ร้องขอให้ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวพิษณุโลกตรวจสอบพันธุ์ข้าวหลังทำการเพาะ ปลูก หลังข้าวออกผลผลิตมีข้าวอายุสั้นชนิดต่างๆ ปนในแปลงนา กว่า 300 ไร่ ทำให้ชาวนาเสียเวลาและเงินลงทุน

โดยหลังจากที่ชาวนาซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวอายุยาว กข. 31 มาจาก เขต อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มาทำการเพาะปลูกแล้วพบว่า มีผลผลิตมีข้าวอายุสั้นปนในพื้นนา และจากการตรวจสอบในพื้นที่ 1 ตารางเมตร พบข้าว 7 กอ จากจำนวน 25 ก่อ มีข้าวอายุสั้นปน ในอัตราเกินมาตรฐาน

จากการตรวจสอบพบว่า มีการปนของเมล็ดพันธุ์ที่เกินที่กำหนด โดยพบมีข้าวอายุสั้นปนถึง 3 ชนิด และมากเกินกำหนดมาตรฐานถึง 1 ใน 4 ของพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงทำเก็บตัวอย่างตรวจ ดีเอ็นเอ ข้าวพันธุ์ปนไปตรวจสอบพันธุ์ข้าวปลอมปนต่อไป

ด้านนายวันชัย เสือขำ ชาวนา อ.โพทะเล จ.พิจิตจร เปิดเผยว่า ได้นำพันธุ์ข้าวมาทำการปลูก หลังจากอยู่ที่แปลงกล้า 20 วัน และนำมาลงแปลงนา ในพื้นที่ 17 ไร่ หลังจากที่ทำการปักกล้า ได้ 15 วัน ข้าวเริ่มออกรวงแล้วจึงรู้ว่าเป็นการปนพันธุ์ข้าว ตนเองอยากจะทำการไถทิ้งแต่ทางบ้านบอกให้เก็บไว้ก่อน จึงได้ทำการร้องขอให้ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวพิษณุโลกมาตรวจสอบ และให้ทางเกษตรและสหกรณ์โพทะเลช่วยเหลือด้วย เนื่องจากมีการลงทุนในการทำนาอย่างมาก



http://www.food-resources.org/news/26/03/11/11130
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 09/12/2011 12:39 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผู้ว่าฯ พิจิตร เปิดโปงขบวนการปลอมปนพันธุ์ข้าว เต้นเหตุทำชาวนาหายนะ


เจ้าเมืองชาละวันอนุมัติงบ 2 ล้านให้ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา เร่งสร้างชาวนาต้นแบบผลิตพันธุ์ข้าวหลักเพื่อขยายพันธุ์ข้าวปลูก เปิดโปงเมล็ดพันธุ์ข้าวปลอมปนขายเกลื่อนเมือง ประกาศชัดแจ้ง ต่อไปใครปลูกข้าวพันธุ์ที่รัฐไม่ส่งเสริมจะเข้าโครงการประกันรายได้ไม่ได้เพราะส่งออกไม่ได้ข้าวสารที่ได้ก็ด้อยคุณภาพตามไปด้วย


นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ร่วมกับ นางวิไล ปาละวิสุทธิ์ นักวิชาการเกษตร 8 ว. จากศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวพิษณุโลก จัดการประชุมตัวแทนเกษตรกร , สหกรณ์การเกษตร และร้านค้าผู้ประกอบการที่ขายพันธุ์ข้าวจากทั่ว จ.พิจิตร กว่า 300 คน ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.พิจิตร โดยมีนายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ให้นโยบายการผลิตและเพาะปลุกข้าวของ จ.พิจิตร ในปี 2554 ว่า...จะให้ชาวนา จ.พิจิตร เป็นผู้ผลิตข้าวที่มีคุณภาพเพื่อการส่งออกและบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเน้นปลอดสารพิษ เพราะ จ.พิจิตร มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปีในลุ่มแม่น้ำพิจิตรเก่า , แม่น้ำน่าน ,แม่น้ำยม ทำนากันมากถึง 1.4 ล้านไร่ และปลูกข้าวนาปรังในเขตชลประทาน 7.7 แสนไร่รวมพื้นที่ทำนามากว่า 2 ล้านไร่ มีผลผลิตปีละกว่า 2 ล้านตันเศษ เงินรายได้ 38% ของประชาชนมาจากภาคการเกษตร


แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือ เรื่องพันธุ์ข้าวปลูก ปรากฏว่าดินดำน้ำชุ่ม,นาดี, น้ำดี คนขยัน แต่ได้พันธุ์ข้าวปลูกไม่ดี แถมมีของปลอมที่ด้อยคุณภาพ, ไม่ต้านทานโรค, เปอร์เซ็นต์ความงอกต่ำ, มีข้าวดีดข้าวเด้งปลอมปนเกินมาตรฐานมาหลอกขายชาวนา

จากการสำรวจในท้องตลาดพันธุ์ข้าวปลูกที่ขายอยู่ 210 ตัวอย่างเอาไปวิจัยพบ 168 ตัวอย่าง หรือ 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นของไม่มีคุณภาพ, โตช้า, กินปุ๋ย สารพัดความอ่อนแอจนทำให้แมลงศัตรูพืชทำลายต้นข้าวได้ง่าย ชาวนาต้องเพิ่มต้นทุนค่าปุ๋ย ค่ายา แถมเมื่อเก็บเกี่ยวส่งขายโรงสี ๆก็ไม่รับซื้อ หรือถ้าซื้อก็ให้ราคาต่ำ เอาไปสีเป็นข้าวสารก็ขายไม่ออก รัฐบาลก็ต้องถูกมัดมือชกรับประกันราคาเพื่อช่วยชาวนา หรือ ซื้อเอาไปทิ้งหรือไปเป็นอาหารสัตว์ เหตุเพราะพันธุ์ข้าวที่ด้อยคุณภาพจาการเริ่มต้นปลูกก็ล้มเหลวซะแล้ว


ดังนั้น ต่อไปนี้นโยบายของจังหวัดพิจิตร จะเปิดยุทธศาสตร์แบ่งชาวนาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกทำนาปลูกข้าวขายโรงสี กลุ่มสำคัญ คือ กลุ่มที่ 2 คือ ชาวนาคุณภาพปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าวขาย ซึ่งชาวนาพิจิตรมีความต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูก 4 หมื่น 2 พันตัน แต่ทุกวันนี้ผลิตใช้ได้เองเพียง 7 พันตัน ส่วนอีก 3,600 ตัน ซื้อมาจาก 12 จังหวัดรอบข้าง จึงได้แต่ของปลอมปน ดังกล่าว



โดยสรุปแนวทางการแก้ไขจะให้งบประมาณ CEO ปี 2554 เป็นเงิน 2 ล้านบาท ให้ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนาการเกษตรสิรินธร บางมูลนาก พิจิตร เป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์หลัก มอบให้ชาวนาที่รวมกลุ่มเข้าโครงการไปปลูกเป็นเมล็ดพันธุ์ขยาย จากนั้นก็จะให้เข้าสู่ขบวนการธุรกิจเพื่อขายข้าวปลูกพันธุ์ดีให้กับเพื่อนชาวนา ซึ่งจะได้ราคาดีกว่าขายเถ้าแก่โรงสีถึง 2 เท่าตัว

ตั้งเป้าปี 2554 จะมีแปลงปลูกข้าวพันธุ์ดี 1,400 ไร่ และจะเพิ่มขึ้นเช่นนี้ทุกๆปีจนกว่าจะสามารถผลิตพันธุ์ข้าวปลูกได้ครบ 4 หมื่น 2 พันตัน ซึ่งจะเป็นต้นกำเนิดการผลิตข้าวคุณภาพ เพื่อป้อนสู่ตลาดโลกและแข่งขันกับตลาดการค้าเสรีอาเซียนให้ได้ต่อไป


สำหรับพันธุ์ข้าวปลูกที่ไม่ได้คุณภาพ 168 ตัวอย่าง หรือ 80% ที่ขายอยู่ทั่วไปเจ้าเมืองชาละวันได้สั่งให้สารวัตรเกษตร จากกรมวิชาการเกษตรให้เข้าตรวจยึดจากร้านค้าต่างๆ และขอร้องผู้ประกอบการให้เลิกขาย ซึ่งก็พบว่าขบวนการปลอมปนพันธุ์ข้าวปลูกมีวิธีแยบยลหลาย 10 วิธี รวมถึงการไปหาถุงเปล่าที่บรรจุข้าวพันธุ์ดีเป็นที่นิยม แล้วมาใส่ข้าวที่ด้อยคุณภาพไปหลอกขายชาวนาก็เจอมาแล้ว

อีกทั้งพวกรับจ้างดำนาก็สักแต่ว่าเอาต้นกล้าสีเขียวๆ ไปปลักดำเป็นใช้ได้ กว่าชาวนาจะรู้ว่าถูกหลอก ก็อีก 30 วันต่อมา เห็นข้าวไม่โต, กินปุ๋ย, ข้าวดีด ก็อัดปุ๋ยอัดยาเข้าไป สุดท้ายก็ขาดทุน จนเป็นเหตุต้องปิดถนนประท้วงเรียกร้องขอราคาข้าวสูงๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงจุดเริ่มต้นล้วนมาจากการใช้พันธุ์ข้าวปลูกที่ไม่ดีนั่นเอง

ซึ่งเรื่องดังกล่าว จ.พิจิตร จึงได้ถือเป็นยุทธศาสตร์หลักด้านการเกษตร ดังกล่าว โดยล่าสุดได้ขึ้นบัญชีดำ 168 พันธุ์ข้าวที่ด้อยคุณภาพห้ามร้านค้านำมาจำหน่าย ซึ่งถ้าผู้ใดฝ่าฝืนขายเมล็ดพันธุ์ข้าวปลอมปนต้องมีโทษตาม พรบ.พันธุ์พืช พ.ศ.2518 ที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



http://www.phichittoday.com/news/06.53/news22065301.html
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 09/12/2011 1:33 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ใช้พันธุ์ข้าวปลูกแต่น้อย ต้นทุนลด โรคแมลงไม่รบกวน ผลผลิตเพิ่ม


การปลูกข้าวโดยวิธีการหว่านน้ำตม ชาวนาโดยทั่วไปมักจะนิยมใช้ปริมาณพันธุ์ข้าวในปริมาณที่มากโดยเฉลี่ยประมาณ 3 ถัง ถึง 3 ถังครึ่งต่อไร่ โดยบางท่านอ้างว่าเพื่อเป็นการเผื่อความสูญเสียจากการทำลายโดย นก หนู แมลงซึ่งเข้ามากัดกินทำลายเมล็ดพันธุ์ หรือบางท่านก็ต้องการให้มีปริมาณของจำนวนต้นให้มาก ๆ เข้าไว้ เพื่อจะได้นำมาซึ่งปริมาณของรวงข้าวเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยคิดว่าต้นข้าวยิ่งมากก็ยิ่งดี

แต่ในความเป็นจริงการใช้เมล็ดพันธุ์ที่มากและหนาแน่นเกินความจำเป็น กลับทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ เพราะจะต้องสิ้นเปลืองเงินทองเพิ่มขึ้นจากการซื้อพันธุ์ข้าว จะทำให้การแตกกอของต้นข้าวในแปลงนาลดน้อยลงหรือไม่แตกกอเลยจากการที่ต้นข้าวเบียดเสียดกันอย่างหนาแน่นมากเกินไป ในสาเหตุดังกล่าวนี้ยังส่งผลทำให้ต้นข้าวผอมสูง ใบธงเล็ก รวงเล็ก เปลืองปุ๋ยและฮอร์โมนในการบำรุงเร่งการเจริญเติบโต เพราะมีจำนวนต้นที่กินอาหารอยู่มาก ในการที่มีปริมาณใบมากและแออัดยัดเยียดกันจนเปื่อยผุพันกันจนเป็นที่สะสม และพักอาศัยของบรรดาเจ้าเชื้อรา และเพลี้ยกระโดด เพลี้ยจักจั่น และแมลงอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้ต้องสิ้นเปลืองยาฆ่าแมลงในปริมาณที่มากกว่าปรกติ เพราะจะต้องทำการฉีดพ่นอย่างพิถีพิถันโดยการฉีดจี้ซ้ำ ๆ อย่างชุ่มโชก เพื่อให้ตัวยาเข้าถึงเชื้อโรคและแมลง มิฉะนั้นก็จะไม่ได้ผล ทำให้สิ้นเปลืองยาโดยใช่เหตุ

ปริมาณพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมในการนำไปหว่านในแปลงนาควรอยู่ที่ประมาณ 1 ถัง หรือ 1 ถังครึ่งต่อไร่ เพื่อหลีกเลี่ยงการเบียดเสียดแออัดยัดเยียดกันมากจนเกินไป การใช้ปริมาณของเมล็ดพันธุ์ที่พอเหมาะพอดีจะช่วยทำให้เมล็ดพันธุ์ข้าวมีพื้นที่ว่างและระยะห่างกันพอดี ช่วยทำให้การแตกกอเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คือการแตกกอจะดีขึ้น และกอจะใหญ่ แสงแดดสามารถที่จะสอดส่องเข้าถึงลำต้นได้อย่างทั่วถึง ทำให้เชื้อราและแมลงต่างๆ เข้าทำลายและพักอาศัยจนเป็นที่สะสมเชื้อโรคได้ยากขึ้น เมื่อโรคและแมลงรบกวนน้อยและการแตกกอดีก็จะทำให้มีปริมาณรวงเพิ่มขึ้น ผลผลิตก็เพิ่มขึ้น ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงก็ใช้น้อยลง ขายข้าวได้ราคาดี มีเงินหรือรายได้ที่หักค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้วจนเพียงพอที่จะนำไปชำระหนี้สินและมีเหลือจนสามารถเก็บสะสมไว้ใช้ยามจำเป็นได้ไม่ยากเกินไปนัก โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ราคาข้าวค่อนข้างที่จะสูงกว่าในอดีต

สนใจวิธีการ ผลิตข้าวปลอดสารพิษผลผลิตสูงต้นทุนต่ำ หรือต้องการศึกษาดูงานจากแปลงนาที่เป็นสถานที่ผลิตจริงๆ ได้โดยติดต่อมาที่ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ โทร. 0-2986-1680-2

มนตรี บุญจรัส



ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=greenagro&date=12-08-2009&group=4&gblog=4
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 09/12/2011 1:37 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

นักวิชาการแนะชาวนา ตรวจฉลากก่อนซื้อข้าว


นางวิไล ปาละวิสุทธิ์ นักวิชาการชำนาญการ ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวพิษณุโลก ได้เปิดเผยว่า หลังจากน้ำลดขณะนี้ ชาวนาพิจิตร เริ่มที่จะลงมือทำนากันแล้ว ดังนั้น จึงขอเตือนให้ชาวนาให้ระมัดระวังการเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว เพราะพันธุ์ข้าวปลูกจะขาดแคลนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมล็ดพันธุ์ดี และพันธุ์ข้าวปลูกที่มีขายอยู่ในท้องตลาด ก็จะมีการปลอมปนกันมากขึ้น ซึ่งเคยมีผลจับกุมอยู่เป็นประจำ

ดังนั้น ก่อนซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวทุกครั้ง ขอให้ชาวนาตรวจสอบฉลากและคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าวก่อนซื้อ โดยดูฉลากที่ปากถุง ต้องมีการระบุชื่อพันธุ์ข้าวปลูกที่ชัดเจน เลขที่แปลงผลิตพันธุ์ข้าว (Lot No.) ระบุคุณภาพ วันรวบรวม วันทดสอบ วันสิ้นอายุในการทำพันธุ์ข้าวปลูกที่ชัดเจน ที่สำคัญต้องระบุชื่อและที่อยู่ของผู้รวบรวมเมล็ดพันธุ์ข้าว พร้อมเบอร์โทรศัพท์ด้วย และเมื่อซื้อมา

ก่อนที่จะลงมือปลูกในแปลงนา ควรที่จะทดลองสุ่มตัวอย่างด้วยการนำเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกมา 3 กำมือเพื่อบดดู หากพบว่ามีข้าวแดง ติดมาเกิน 2 เมล็ด แสดงว่าเป็นพันธุ์ปลอมปน อย่าซื้อมาทำพันธุ์เด็ดขาด เพราะขณะนี้มีข้อมูลรายงานว่า กำลังมีพันธุ์ข้าวปลอมระบาดแล้วใน จ.พิจิตร



http://news.sanook.com/1073151/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%89%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7/
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 09/12/2011 1:57 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข้าววัชพืช "weedy rice" หรือข้าววัชพืช (ข้าวดีด)


โดย ดร.จรรยา มณีโชติ
กลุ่มวิจัยวัชพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร





ข้าววัชพืช
ปัจจุบัน ชาวนาในเขตภาคกลางจนถึงเหนือตอนล่าง กำลังประสบกับวัชพืชชนิดใหม่ที่มีลักษณะเหมือนต้นข้าวจนแยกไม่ออกในระยะต้นกล้า วัชพืชชนิดนี้มีชื่อเรียกต่างๆกันในแต่ละท้องถิ่นตามลักษณะภายนอกที่ปรากฏว่า “ข้าวหาง ข้าวนก ข้าวดีด ข้าวเด้ง ข้าวลาย หรือ ข้าวแดง” ซึ่งข้าวเหล่านี้จัดเป็นวัชพืชร้ายแรงในนาข้าว มีชื่อสามัญ ว่า “ข้าววัชพืช” ตรงกับภาษาอังกฤษว่า “weedy rice” ในระยะเริ่มต้นของการ ระบาด ข้าววัชพืชจะแฝงตัวเข้ามาในนาข้าวเพียงไม่กี่ต้น หากไม่มีการกำจัดในระยะเวลา 2-3 ฤดู เท่านั้น ข้าววัชพืชสามารถเพิ่มจำนวนเป็นหลายล้านต้นปกคลุมจนมองไม่เห็นต้นข้าว


ประวัติการระบาดของข้าววัชพืช
พบการระบาดรุนแรงครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2544 ในนาหว่านน้ำตม ที่ตำบลเขาสามสิบหาบ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี และในนาหว่านข้าวแห้ง ในเขตจังหวัดนครนายกและปราจีนบุรี พื้นที่การระบาดเริ่มต้นเพียง 500 ไร่ และขยาย
วงกว้างออกไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันปี พ.ศ. 2549 ข้าววัชพืชกลายเป็นปัญหาร้ายแรงที่พบในพื้นที่ทำนาหว่านน้ำตมจำนวนหลายแสนไร่ ทั่วเขตภาคกลางจนถึงเหนือตอนล่าง รวม 21 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง ชัยนาท อยุธยา นครนายก ปราจีนบุรี สระบุรี นครสวรรค์ พิจิตร กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก นอกจากนั้น ยังแพร่กระจายไปสู่แหล่งปลูกข้าวคุณภาพ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และหนองคาย


ข้าววัชพืช..มาจากไหน ?
ข้าววัชพืช เกิดจากการผสมข้ามระหว่างข้าวป่าที่พบทั่วไปในธรรมชาติ กับข้าวปลูก เกิดเป็นลูกผสมที่มีการกระจายตัวของลูกหลาน ออกเป็นหลายลักษณะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่ชาวนาไม่ต้องการ คือ เปลือกเมล็ดสีดำหรือลายน้ำตาลแดง เมล็ดข้าวสารมีสีแดง ปลายเมล็ดมีหางและเมื่อสุกแก่เมล็ดจะร่วงก่อนเก็บเกี่ยวข้าว


ชนิดของข้าววัชพืช
ข้าววัชพืชสามารถจำแนกตามความแตกต่างทางลักษณะภายนอกเป็น 3 ชนิด คือ ข้าวหาง ข้าวดีด และข้าวแดง ชนิดที่เป็นปัญหาร้ายแรงของชาวนาคือ ข้าวหาง และ ข้าวดีด เพราะเป็นข้าววัชพืชชนิดร่วงก่อนเกี่ยว เจริญเติบโตได้รวดเร็ว และสูงข่มข้าวปลูก

ในระยะแตกกอ ข้าวหางและข้าวดีดจะออกดอกและเมล็ดจะสุกแก่ก่อนก่อนปลูกข้าวประมาณ 2 สัปดาห์ ชาวนาไม่สามารถเก็บเกี่ยวได ้เพราะเมล็ดร่วงเกือบหมด ทำให้ผลผลิตข้าวเสียหาย 10-100 % ขึ้นอยู่กับความหนาแน่น ของข้าวหาง และข้าวดีด บางแปลงที่มีความหนาแน่นมาก ใน 1 ตารางเมตร มีข้าวหาง 800 ต้น เหลือต้นข้าวจริงเพียง 2 ต้น ชาวนาไม่สามารถ เก็บเกี่ยวได้ ทำให้ผลผลิตเสียหาย 100% ส่วนข้าวแดงนั้นเป็นข้าววัชพืชชนิดเมล็ดไม่ร่วง ชาวนาสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ผลผลิตจึงไม่เสียหาย แต่คุณภาพ

ข้าวลดลง เพราะเมล็ดขาวสารแดงที่ปนอยู่ ชาวนาถูกโรงสีตัดราคาเกวียนละ 200-800 บาท ตามเปอร์เซ็นต์ของข้าวแดงที่ปน เพื่อชดเชยผลผลิตที่จะต้องเสียไปบางส่วน เพื่อจะขัดเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงออก ให้เป็นเมล็ดข้าวสารสีขาว ซึ่งบางครั้งในรายที่มีข้าววัชพืชปนเป็นจำนวนมาก โรงสีจะไม่รับซื้อ ชาวนาต้องนำไปขายเป็นข้าวเลี้ยงเป็ด และไก่ ในราคาถูกถังละ 30-50 บาท



http://www.kubotakhl.com/board/viewtopic.php?f=4&t=20
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 09/12/2011 6:47 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ชาวนาไทยยุคใหม่ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว





ปลูกและแปรรูปครบวงจรที่คลองกล้วย
ในช่วงนี้นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่ราคาข้าวได้ขยับตัวสูงขึ้น ทำให้ชาวนาไทยมีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากยิ้มรับกับความสุขที่แลกมาจากความอดทนตรากตรำขยันต่อสู้ด้วยหยาดเหงื่อและแรงงาน รวมทั้งประสบการณ์ภูมิปัญญาที่สะสมมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยเห็นได้จากผลงานความสำเร็จของกลุ่มชาวนาที่บ้านคลองกล้วย ต.คอรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

ศูนย์ส่งเสริมผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนบ้านคลองกล้วย
คุณชุมพร ภิญโญ เกษตรอำเภอพิชัย เล่าว่า ที่บ้านคลองกล้วย ต.คอรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์มีพื้นที่ทำนา 33,645 ไร่ เมื่อปี 2549 ชาวนาบ้านคลองกล้วยกว่า 900 ครอบครัวประสบการระบาดของข้าวดีด ข้าวเด้ง ข้าววัชพืช ทำให้ผลผลิตข้าวลดลง บางแปลงไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เลยเพราะที่นี่ตลอดทั้งปีมีการทำนาไม่หยุดและมีการซื้อเมล็ดพันธุ์จากแหล่งต่างๆที่ไม่มีการรับรองพันธุ์ ดังนั้นทางคุณจำเริญ จันทร์รุ่งเรือง เกษตรกรผู้นำจึงได้รวบรวมชาวนาในพื้นที่ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนบ้านคลองกล้วยขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้เองในกลุ่ม ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ลดการพึ่งพาภายนอกให้มากที่สุด



ขั้นตอนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว

ศูนย์ส่งเสริมผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนบ้านคลองกล้วย มีสมาชิกทั้งหมด 126 ราย ในปี 2552 ที่ผ่านมาทำการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวสุพรรณบุรี 3 และข้าวพิษณุโลก 2 จำนวนทั้งหมด 89 ตัน เพื่อจำหน่ายให้กับสมาชิกและชุมชนต่างๆ คิดเป็นมูลค่า 1,780,000 บาท สำหรับขั้นตอนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวนั้น เริ่มจากการคัดเลือกเกษตรกรผู้ที่มีความพร้อม เป็นผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมตามแนวทางโรงเรียนเกษตรกรตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้เรียนรู้ตามกระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีของสำนักงานเกษตรอำเภอพิชัยและศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังจากนั้นจะคัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมไม่เสี่ยงต่อน้ำท่วมและฝนแล้ง ถ้าเป็นพื้นที่ใหม่จะใช้วิธีการปลูกโดยหว่านน้ำตม ในพื้นที่เก่าจะใช้วิธีนาดำ ในการจัดทำแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์นั้นจะใช้เมล็ดพันธุ์ชั้นพันธุ์ขยายของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดพิษณุโลกเป็นหลัก เพื่อผลิตให้ตรงกับต้องการของสมาชิกและตลาด สำหรับการปลูกและดูแลรักษาจะมีคณะกรรมการฝ่ายตรวจสอบการผลิตและควบคุมมาตรฐานเมล็ดพันธุ์ข้าว ออกไปติดตามตรวจสอบทุกระยะตั้งแต่การเตรียมดิน การตัดพันธุ์ปนทั้ง 5 ระยะจนถึงการเก็บเกี่ยวและหลังการเก็บเกี่ยวจะมีการสุ่มตัวอย่างให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวจังหวัดแพร่ตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานด้วยเครื่องมือมาตรฐานสากลและนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญก่อนการรวบรวมส่งให้สหกรณ์การเกษตรพิชัยพัฒนาและเอกชนที่ร่วมโครงการทำความสะอาดและบรรจุถุงเพื่อจำหน่ายต่อไป






การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ลดการพึ่งพาสารเคมี
ชาวนาที่บ้านคลองกล้วย เคยประสบปัญหาการระบาดของศัตรูข้าวโดยเฉพาะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล จนถึงขั้นเสียหายทางเศรษฐกิจเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้ มีการใช้สารเคมีแต่ต้องใช้เงินลงทุนสูงไม่คุ้มค่าการผลิต จึงได้หันมาใช้วิธีการควบคุมและกำจัดโรคแมลงศัตรูข้าวรวมถึงการเพิ่มผลผลิตโดยใช้สารชีวภัณฑ์เช่น บิวเวอร์เรีย ไตรโครเดอร์มา สารสกัดสะเดา ฮอร์โมนไข่และปุ๋ยอินทรีย์ เป็นต้น ซึ่งสมาชิกทุกคนได้ผ่านการฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้และสามารถผลิตเองได้ เพื่อนำไปใช้ในนาข้าวของตนและจำหน่าย ปัจจุบันมีการขยายผลสู่ชุมชนเพื่อลด ละ เลิกการใช้สารเคมีอย่างถาวรและสร้างระบบนิเวศน์ในนาข้าวให้มีความสมดุลมากขึ้นเพื่อคืนชีวิตให้พื้นดิน ในขณะมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 300 คน


ศูนย์ข้าวครบวงจรเกิดอาชีพมีรายได้ทุกวัย
คุณกำจร อยู่เจริญกิจ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรผู้รับผิดชอบตำบลคอรุมกล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากศูนย์ส่งเสริมผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนบ้านคลองกล้วยที่ได้ดำเนินการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ยังได้นำเอาเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ไม่ได้มาตรฐานหลังจากการคัดแล้วมาแปรรูปโดยโรงสีข้าวของกลุ่มเพื่อจำหน่ายเป็นข้าวสารปลอดภัยสารพิษ นอกจากนี้แล้วยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้การผลิตข้าวให้ได้คุณภาพดีของชุมชน รวมไปถึงผลตอบแทนคืนกำไรสู่ชุมชนและให้ลูกหลานชาวนามีอาชีพมีรายได้อย่างต่อเนื่องจากกิจกรรมต่างๆของศูนย์เช่น การเพาะและมัดกล้าข้าวจำหน่ายของแม่บ้านเกษตรกรและคนแก่เฒ่า การบรรจุถุงและผลิตเชื้อผลิตสารชีวภัณฑ์ของเยาวชน การรับจ้างปลูกข้าวโดยรถดำนาของพ่อบ้านเกษตกร เป็นต้น


ทุนและทรัพย์สินกว่า 3 ล้านบาท
คุณบรรเจิด นาคย่านยาว เกษตรกรดีเด่นสาขาทำนาระดับเขตของภาคเหนือปี 2551 และเลขาศูนย์ข้าวชุมชนกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่าจากการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบันทางศูนย์ฯมีเงินสดหมุนเวียน จำนวน 747,488 บาทและทรัพย์สินมูลค่า จำนวน 2,537,000 บาท ได้แก่โรงสีข้าวชุมชน อาคารเรียนรู้ อาคารชีวภัณฑ์พร้อมอุปกรณการผลิต โรงเรือนและเครื่องผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด รถดำนา อาคารเก็บเมล็ดพันธุ์ ที่ดินและแปลงเรียนรู้ รวมเป็นเงินทุนและทรัพย์สินกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นมรดกจากหยาดเหงื่อและแรงงาน ความสามัคคีขยันขันแข็งต่อสู้อดทน รวมถึงความคิดริเริ่มที่สร้างสรรคของสมาชิก โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐ เอกชนและท้องถิ่น

คุณยลวิไล ประสมสุข ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จ.เชียงใหม่ได้กล่าวสรุปว่าจากผลงานความสำเร็จและการพัฒนาที่ยั่งยืน สามารถสร้างงานและอาชีพให้กับคนทุกวัยในท้องถิ่นของศูนย์ส่งเสริมผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนบ้านคลองกล้วย หมู่ที่ 8 ต.คอรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ทางสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จ.เชียงใหม่ กรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้พิจารณาคัดเลือกเป็นศูนย์ส่งเสริมผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนดีเด่นระดับเขตประเภทข้าวอื่นๆ ประจำปี 2552 และเป็นตัวแทนของ 17 จังหวัดภาคเหนือเพื่อส่งเข้าประกวดในระดับประเทศต่อไป เกษตรกรที่สนใจศึกษาดูงานหรือซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพและมาตราฐานติดต่อที่สำนักงานเกษตรอำเภอพิชัย โทร.055-421420




คืนชีวิตให้แผ่นดินถิ่นกำเนิด..............ลุกขึ้นเถิดชาวนาไทยเพื่อเพียงพอ
แนวทางพ่อขอยึดไว้ให้เป็นหลัก..........อย่าใสผลักดูหมิ่นภูมิปัญญาไทย



http://www.ndoae.doae.go.th/news/news_0116.html
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 09/12/2011 8:43 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

วิธีเตรียมดินปลูกข้าว ให้ได้ผลผลิตสูงๆ


วิธีเตรียมดินปลูกข้าว How to prepare soil for planting rice. แบบใหม่ ที่สามารถเพิ่มผลผลิตข้าวได้มากกว่าไร่ละ 1,000 กิโลกรัม วิธีการปลูกข้าวแบบนี้เป็นวิธีการที่เรามักทำกันอยู่แล้ว แต่สภาพของการทำนาข้าว ซึ่งส่วนมากเป็นข้าว กข. หรือข้าวนาปรัง ทำให้เรามักเร่งรีบในการเตรียมการเรื่องดิน ซึ่งทำให้เราเสียโอกาสในการสร้างความสามารถในการหาอาหารให้กับต้นข้าว เนื่องจากเรามักจะทำการเตรียมดิน หรือทำเทือก ในนาข้าว กันแบบ ลวกๆ ทำให้หน้าดินที่เราใช้หว่านข้าวไม่ลึก รากของข้าวจึงหาอาหารได้แค่ผิวหน้าดิน กินได้แต่ปุ๋ยข้าว ที่เราใส่ให้เท่านั่นธาตุอาหารในดิน รากข้าวไม่สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ข้าวของเราจึงให้ผลผลิตไม่เต็มที่


เรามาดูวิธีการเตรียมดินในแปลงนาข้าวแบบปราณีต กัน ว่าทำอย่างไร
การเตรียมดินในนาก่อนหว่านข้าว หรือ ดำนา ไม่ว่าเราจะใช้รถไถนาเดินตาม หรือ รถไถนาแบบนั่งขับ แบบใช้โรตารี่ จอบหมุน เราควรทำการปรับความลึกให้ได้ความลึกของหน้าดินที่มากกว่าปกติ ถ้าเราสามารถเตรียมดินในแปลงนาข้าวในช่วงที่แปลงนาแห้งได้ก็จะเป็นการดีมาก ให้เราใช้ผาน 3 ในการไถครั้งแรก เพื่อทำการสลายหน้าดินให้ในนาให้มีความร่วนซุย หลังจากนั้นให้เราทำการหว่านปุ๋นเคมีสูตรเสมอ 15-15-15 ในอัตรา 4 ไร่ ต่อ กระสอบ พร้อมกับใส่ปุ๋ยคอกเช่นมูลไก่ไข่ มูลสุกร ให้หลีกเลี่ยงการใช้มูลจากสัตว์กินพืช เนื่องจาก มูลสัตว์กินพืชจะทำให้ต้นข้าวโตแต่ลำต้นเพียงอย่างเดียวทำให้ข้าวล้มง่าย หลังจากนั้นใช้ผาน 7 ไถอีกรอบ ก่อนไขน้ำเข้านา แล้วใช้รถไถเล็กทำเทือก เพื่อทำการหว่านแบบน้ำตรม หรือดำนาด้วยเครื่องดำนาต่อไป

ในการเตรียมดินในแปลงนาข้าวสิ่งสำคัญก็คือการปรับโครงสร้างของดินให้มีความลึกมากพอที่รากของข้าวจะแผ่ขยายลงไปได้ลึกมากที่สุด และสามารถหาอาหารได้มากโดยที่เราให้อาหารเสริม หรือปุ๋ยตามปกติ

วิธีการปลูกข้าวด้วยการเน้นการเตรียมดินแบบนี้ถ้าจะให้ผลดีควรเลือกพันธุ์ข้าวที่มีอายุประมาณ 120-140 วัน เช่น พันธุ์ข้าวหอมประทุม ซึ่งมีลักษณะพิเศษที่แตกกอดี และมีระแง้ถี่มาก ร่วมกับการใช้เทคนิคการให้ปุ๋ยทางใบสูตร 11-0-45 ฉีดพ่นเร่งการสร้างระแง้ในรวงข้าวเมื่อข้าวอายุ 55-65 วันด้วยก็จะช่วยให้ผลผลิตข้าวของเราเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย จากประสบการณ์ในการทำนาข้าวแบบนี้ แม้ว่าเป็นนาดินทราย ข้าวก็สามารถให้ผลผลิตมากกว่า 1,200 กิโลกรัม ลองเอาวิธีการปลูกข้าว แบบนี้ไปใช้ดูครับ


http://www.xn--22c8eyak8i.com/
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 09/12/2011 8:52 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ทำพันธุ์ข้าวของเราเอง

เมล็ดพันธุ์ข้าว คือ เมล็ดข้าวที่ใช้ในการเพาะปลูก ซึ่งเกษตรกรส่วนมากซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวมาใช้เพาะปลูกทำให้ ต้นทุนการเพาะปลูกสูงขึ้นมาก เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ข้าวมีราคาแพง โดยเฉพาะพันธุ์ข้าวที่ดียิ่งดียิ่งมีราคาแพง ดังนั้นแทนที่เราจะซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวในทุกฤดูการเพาะปลูก เราก็มาทำเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้เพาะปลูกเอง ไม่ต้องซื้อเพื่อเพิ่มต้นทุนการเพาะปลูกแต่อย่างใด ซึ่งการทำเมล็ดพันธุ์ข้าวก็ไม่ได้ยุ่งยากกว่าการทำนาปกติซักเท่าใด การทำนา เพื่อให้ได้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่บริสุทธิ์คุณภาพดีไว้ใช้เพาะปลูกตลอดไป




เมล็ดพันธุ์ข้าว



มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ คือ
1. เมื่อเกษตรกรได้รับเมล็ดพันธุ์ดีมาแล้ว ควรเลือกแปลงนาที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ โดยขนาดพื้นที่ขึ้นอยู่กับพื้นที่นาทั้งหมดที่มีอยู่ เช่น หากมีนา 50 ไร่ จำเป็นต้องใช้พันธุ์ข้าวประมาณ 350 กิโลกรัม สำหรับนาดำ หรือ 900 กิโลกรัมต่อไร่ สำหรับนาหว่าน ดังนั้น พื้นที่แปลงพันธุ์ที่ต้องการ คือ 1 ไร่ สำหรับนาดำ หรือประมาณ 3 ไร่ สำหรับนาหว่าน

2. การเตรียมแปลง ควรกำจัดข้าวเรื้อ(หรือ ข้าวปน)ในนาออกให้หมด โดยการไถพรวนแล้วไขน้ำเข้าให้ข้าวเรื้องอก แล้วไถคราดกำจัดข้าวเรื้อก่อน จึงทำการตกกล้า หรือหว่านข้าว

3. หลังจากข้าวงอกหรือปักดำ ควรทำการกำจัดข้าวปนที่ทำให้พันธุ์ข้าวไม่บริสุทธิ์ โดยควรทำทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกในระยะแตกกอ ให้ดูลักษณะการแตกกอ การชูใบ ความสูง สีของใบและลำต้น ถ้าพบลักษณะที่ผิดปกติ ให้ตัดกอหรือต้นข้าวทิ้ง ครั้งที่ 2 ในระยะออกดอก ให้ตัดกอข้าวที่ออกดอกผิดเวลากับต้นข้างเคียง อย่าเสียดายเหลือไว้แต่ข้าวที่ออกดอกพร้อมกัน ครั้งที่ 3 ในระยะที่เมล็ดข้าวส่วนใหญ่สุกเหลือง ก็ให้ตัดข้าวที่มีลักษณะเมล็ดผิดปกติทิ้งไป

4. ก่อนการเก็บเกี่ยว ควรตรวจดูในแปลงอีกครั้งหนึ่ง ถ้าเห็นว่ามีต้นข้าวบางต้นยังมีลักษณะผิดไปจากต้นข้าวส่วนใหญ่ เช่น ลำต้นสูงหรือต่ำผิดปกติ ให้เกี่ยวออกต่างหาก เมื่อเห็นว่าต้นข้าวในแปลงสุกแก่เสมอกันดีให้ทำการเก็บเกี่ยวแล้วนวดทันที ไม่ควรตากข้าวไว้ในนา เพราะอาจจะถูกฝน ทำให้คุณภาพข้าวเสื่อมไปได้ การนวดข้าว ควรแยกข้าวส่วนอื่น และแน่ใจว่าเครื่องนวดไม่มีเมล็ดข้าวอื่นตกค้างอยู่ แล้วนำมาตากแดด 1-2 แดด ฝัดให้สะอาดแล้วบรรจุกระสอบเก็บไว้ในที่แห้งร่มเย็น


http://thairice-farm.blogspot.com/2011/04/blog-post.html
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©