ล้มสวนทำนา รุ่น ๑๒– ข้าวหอมกระดังงา ปัตตานี กก.ละ 500

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6

ปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่
ตอนที่ 6– ข้าว 38 วัน

(45)

(46)

(47)

(48 )

(45 – 48 ) ข้าวในกระถางที่บางใหญ่อายุ 38 วัน แตกกอดีพอสมควร ผมยังไม่ได้นับว่า มากที่สุดกี่ต้น น้อยที่สุดกี่ต้น….ใบเขียวปี๋ ข้าวในกระถางรุ่นนี้ 46-0-0 กับ 16-20-0 ไม่รู้จัก เพราะไม่เคยให้...ใส่แต่ระเบิด 30-10-10 ตอนหมักดินครั้งเดียว ต่อจากนั้น ฉีดพ่นด้วย 3 in 1 (ไบโออิ + ไทเป + ยูเรก้า) + แมกนีเซี่ยม + สังกะสี + ธาตุรอง/ธาตุเสริม อีกนิดหน่อย แบบ จิบ ๆ ทุก 10 วัน นี่ก็ฉีดพ่นไป 3 ครั้ง ...ปุ๋ยที่เหลือก้นถัง ก็เติมน้ำให้เจือจางลงอีก เอาไปพ่นผัก พริก มะเขือ กล้วย ....

(49) หน้าดินไม่เปียก ไม่แฉะ ไม่แห้ง แค่ชื้น ๆ หมาด ๆ

(50) อันนี้ แฉะ แช่ เนื่องจากเวลารดน้ำต้นไม้ น้ำก็กระเซ็นตกลงมาบ้าง ก็แค่นิดหน่อย ได้แดดเข้าหน่อย เดี๋ยวก็จะแห้งไปเอง

(51)

(52)

(51 – 52) เมื่อมันอยากติดลูก ก็ปล่อยให้ติด เศษปุ๋ยที่เหลือจากพ่นข้าว ก็เอามาพ่นต้นนี้ด้วย ….มีกูรู ที่เห็นบอกว่า .

..ต้นนิดเดียวปล่อยให้ติดลูก เดี๋ยวต้นก็โทรมหรอก....ผมก็ตอบได้แค่ว่า...

...ครับ.....(ในใจคิด...เอ็งดูใบมันซะก่อนเด้...ว่ามันเขียว เต่งตึงแค่ไหน.).
.ใบที่เห็นแห้งบางส่วนนั้น เป็นตอนที่เอาปลูกลงดิน มันโทรมอยู่ชั่วระยะหนึ่ง แต่ลูกมันไม่หล่นเมื่อพ่นปุ๋ย ตาคิม เข้าไป มันก็ค่อย ๆ ฟื้น แล้วในรูป 52 ดูขั้วที่มันติดกับลูกซีครับว่ามันใหญ่แค่ไหน ผมรอลุ้นอยู่ว่า เมื่อไรลูกจะโตซักที

(53) ร่วมด้วยช่วยกัน เปรียบเสมือนว่า เว็ปสีสันชีวิตไทย คือเว็ปที่มีสีสัน เป็นเว็ปที่มีการแบ่งปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน.....แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่า สมาชิกแต่ละคน จะทำตัวเป็น แก้วเนื้อบางและปิดกั้นตัวเองแค่ไหน....โดนลุงคิม มาม่าหมูสับ หรือไม่ก็โดน ยำยำ จัมโบ้เข้าหน่อย หายเข้ากลีบเมฆไปกันหมด..

..ผมน่ะโดนตั้งแต่วันแรกที่เจอ ที่วัดท่าตำหนัก ตอนนั้นได้แต่ฟังทางวิทยุ ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกด้วยซ้ำ และจากนั้น ก็โดนเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ โดนแต่ละครั้ง จัดหนัก ๆ ทั้งนั้น .

.

Phinyo · ตอบ: 29/04/2014 11:36 am ชื่อกระทู้:

สวัสดีครับ

อาแดงจะให้ผมพูดเจาะลึกเรื่องโรงสีข้าว ผมก็ต้องบอกว่าผมไม่มีความรู้ ความรู้ผมน้อยในเรื่องนี้ พ่อผมเขาถ่ายทอดไม่เป็น อีกอย่างพ่อก็อยากให้ลูกเรียนสูงๆ เพื่อทีจะมาบริหารโรงสีต่อ แต่ตอนที่ลูกจะมาสานต่อมันก็เกิดปัญหาเสียแล้ว กลายเป็นผมมารื้อโรงสีขายทิ้ง

เอาเป็นว่าผมจะเล่าแบบการคาดการณ์ของผมเองแล้วกัน ซึ่งมันอาจจะไม่ได้เป็นจริงจากที่ผมคาดการณ์ก็ได้ แต่อาจเป็นแนวทางให้กับกลุ่มคนทำนาก็ได้ไม่มาก็น้อย

พ่อผมเคยเล่าว่า โรงสีในประเทศไทย ถ้ารวมตัวสีไม่หยุด 24 ชม.ประมาณ 1 เดือน ข้าวในประเทศที่เป็นข้าวเปลือกจะหมดทันที โรงสีเดิมผมเป็นโรงสีขนาดกลาง กำลังการผลิต 50 เกวียน/ต่อวัน ซึ่งก็น้อยครั้งที่จะสีแบบ 24 ชม. ตรงนี้บอกอะไรเราได้บ้างก็ต้องบอกว่า โรงสีในประเทศไทยเราเยอะมาก แล้วที่ผ่านๆมาในช่วงยุคจำนำข้าวโรงสีเกิดใหม่เยอะมาก เพราะอะไรก็ต้องบอกว่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกที่เป็นคนกลางรับซื้อข้าวเปลือก(ลานข้าวเปลือกต่างๆ) ผันตัวเองไปเป็นโรงสี เพราะพวกนี้ไม่มีโควต้าในการรับซื้อข้าวเปลือกจำนำก็ต้องไปขอโควต้าจากโรงสีอีกที โรงสีทีตายในลักษณะผมก็ไม่ใช่น้อยส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกขนาดกลาง เท่าที่ทราบเฉพาะในจังหวัด พิจิตร เป็น 10ๆ รายที่เลิกกิจการ(ธนาคารบอกเอง)

ลองมามองถึงผู้ประกอบการอีกประเภทที่เราอาจมองข้ามกันนั้นคือ ผู้ประกอบการด้านอุปกรณ์โรงสี ผู้ประกอบการประเภทนี้ก็จะเป็นพวกโรงกลึงต่างๆ บางโรงงานก็ทำเพียงแค่อุปกรณ์บางประเภท บางโรงงานก็สามารถสร้างได้ทั้งโรงสี จากการที่ผมเฝ้าติดตามผู้ประกอบการประเภทนี้ ผมเห็นว่าเขาเริ่มมุ่งเน้นไปพัฒนาโรงสีระดับชุมชนและระดับล่างมากขึ้น ก็ต้องบอกว่าเทคโนโลยีการสีเดียวนี้ เรียกได้ว่าโรงสีชุมชนสีได้ไม่แพ้โรงสีขนาดใหญ่ๆ เลยก็ว่าได้อาจจะแพ้ก็แค่เรื่องการยิงสี แต่ถ้าเราควบคุมผลผลิตที่จะเข้าโรงสีชุมชนหรือสีได้รูปแบบข้าวกล้องก็เรียกได้ว่าไม่แพ้เลยโรงสีขนาดใหญ่เลยล่ะครับ

จากที่ผมอธิบายไปผมก็คาดการณ์ว่าโรงสีใหญ่กำลังจะลำบากในการหาผลผลิตเข้าโรงสี ผมเคยถามเจ้าของโรงสีที่ว่าใหญ่ๆ ในเขตนี้เขาก็บอกว่าต้องไปแย่งซื้อข้าวทางเขตเหนือ แล้วยิ่งจำนำข้าวมามีปัญหา โรงสีใหญ่ๆ ก็มีปัญหาแน่นอนถ้าโครงการครั้งต่อๆไปไม่สามารถทำได้ แม้แต่โรงสีที่ผมรู้จักกันพอโครงการจำนำมีปัญหา เขาประกาศบอกขายโรงสีทันที แล้วยิ่งเกษตรอินทรีย์เริ่มมาแรง ข้าวพื้นเมืองต่างๆ เริ่มมีการสนใจมากขึ้น ชาวนาเริ่มรวมกลุ่มผลิตขึ้นเอง

จบ แค่...นี้ ไม่อยากคาดการณ์ต่อ เดี๋ยวเศร้าไม่เป็นจริงอยากที่คาดการณ์ผมจะหงายเงิบเอง ก็ลองไม่คิด วิเคราห์กันเอาเองว่ามันน่าจะเป็นจริงไหม
_________________

โปรแกรมPhotoscape(Free)รองรับภาษาไทย โปรแกรมตกแต่งภาพ

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6

ปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่
ตอนที่ 7– 21 - เมย.57 ข้าว 50 วัน

(54)

(55)

(56)

(57)

(54 – 57 ) ข้าวในกระถางที่บางใหญ่อายุ 50 วัน จะออกรวง ติดเมล็ดหรือเปล่า ยังบอกไม่ได้ครับ แต่ ใบเขียว ต้นแข็ง มันชวนมองดีจังเลย.....

การที่ผมไม่มั่นใจว่า จะออกรวงติดเมล็ดหรือเปล่าเนื่องจาก
1. อากาศร้อนมาก
2. น้ำที่ใช้เป็นน้ำประปา กลิ่นคลอรีนฉุนมาก เปิดใส่แทงค์ทิ้งไว้สองสามวันวัน กลิ่นยังมีจาง ๆ ต่อมาก็ทิ้งไว้เป็นอาทิตย์จึงดูดน้ำในแทงค์มารดต้นไม้

พักสายตาเรื่องข้าว ไปดูอย่างอื่นกันบ้างครับ

(58 )

(59)

(60)

(61)

(62)

(63)

(58 – 63) มะเขือยาวสีม่วง จากคุณณัฐพล พนักงานบริหารของ เจียไต๋ เป็นเพื่อนกับลูกสาว เอามาฝากให้ปลูกไว้ดูเล่น 2 ต้น .

.ไม่ได้อาบรังสี ปลูกได้หลายรุ่นครับพ่อ....

ออกลูกดก และดูสวยดีเหมือนกัน ....ถ้าเป็นพันธุ์เปิด ปลูกได้หลายรุ่น ก็จะลองเก็บเมล็ดพันธุ์ดู ..

...สมาชิกกลุ่ม คนไม่บ้า ไม่กล้าทำ เตรียมรอรับแจกเมล็ดพันธุ์เอาไปปลูกไว้ดูเล่น กินได้อีกด้วย ......คุณณัฐพล บอกว่า พืชที่มีผิวสีม่วงแทบทุกชนิด จะมีสารที่ต้านอนุมูลอิสระ แบบเดียวกับข้าวสีดำ จริงหรือไม่จริง ผมไม่ยืนยันนะครับ

(64) กล้วยเล็บมือนาง เจ๊รองแกแอบไปขุดมาจากไร่กล้อมแกล้ม สองคนกับยายเฉิ่ม เห็นท้าปลูกแข่งกันว่า ใครจะออกลูกก่อนกัน... แกเกรงว่าปลูกที่นครปฐม จะไม่มีใครรดน้ำให้แก ก็เลยหอบหิ้วมาปลูกที่บางใหญ่ เพื่อจะได้ดูแลใกล้ชิด....ก็งามดีละครับ....ของยัยเฉิ่มโตแค่ไหนแล้ว ไม่ได้ถามเหมือนกัน

(65) นี่เป็นกล้วยน้ำว้า ปั่นตา สายพันธุ์ มะลิอ่อง เกษตรอำเภอเอามาแจก บ้านละ 3 ต้น แกก็อุตส่าห์หอบหิ้วมาปลูกที่บางใหญ่ต้นนึง งามดีเหมือนกันแฮะ ไม่ยอมตัดใบเบี้ยด้านล่าง ๆ ออกเลย

(66) นี่เป็นมะละกอโกโก้ก้านดำ ผมตอนตะเกียงมาให้แก เพื่อที่ได้ต้นที่ไม่กลายพันธุ์ ยังชำอยู่ในกระถาง

.

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6

บทที่ 1 – ตอนที่ 1 – 22 มีค.57 หลังเกี่ยว

ผมเกี่ยวข้าวไปเมื่อวันที่ 11 มีค.57 ปรากฏว่า ฟ้าดินลงโทษหรืออย่างไรไม่รู้....อากาศวิปริต หนาวผิดปกติอย่างที่ไม่เคยเป็น ข้าวออกไม่สุดรวง ข้าวลีบแยะมาก

คนทำนาหลายคนรอบ ๆ บ้านสะบักสบอมไปตาม ๆ กัน ของผมยังดีที่ได้ไร่ละเกือบ 70 ถัง ผลแห่งอินทรีย์นำเคมีเสริมโดยแท้.....บางคนได้ไร่ละ 15 ...20 ถังก็มี

ผ่านไปเดือนกว่า อากาศร้อนจนเลือดในกายแทบจะเดือด น้ำในบ่อร้อนจนปลาแทบจะสุก ต้องเอาซาแรนบังร่มพอให้ปลาได้มีที่ร่มเงา ....มีเรื่องคลายเครียดมาให้อ่านครับ

เรื่องที่ 1....มิสเตอร์ แอ่น แอ๊นท์ ..
..ผมชื่อ อนันต์ A n a n t อ่านว่า อนันต์ !!

มีชายคนหนึ่ง เดินเล่น ช๊อปปิ้ง รอขึ้นเครื่องอยู่ที่สนามบิน จนกระทั่งเห็นว่าเวลาล่วงเลยมานานเกินเหตุ นึกแปลกใจทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่องซะที

และเมื่อเลยเวลาเดินทางตามกำหนด เกินกว่า 30 นาที เค้าจึงเดินไปสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าเที่ยวบินที่เขาจะไป ทำไมถึงดีเลย์เกินเหตุ ??

หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสักพักก็แจ้งกลับว่า เที่ยวบินดังกล่าวออกไปนานแล้ว !!
เค้าโมโหสุดๆ โวยวายยกใหญ่ว่า ทำไมไม่เห็นประกาศเรียก

เจ้าหน้าที่แย้งกลับด้วยท่าทีสุภาพ

" คุณคะ เราได้ประกาศ เรียกคุณถึง 6 ครั้งแล้วนะคะ "

ชายคนนั้น เถียงสวนทันควัน
" ผมสาบานได้ ผมไม่ได้ยิน !! คุณประกาศยังไง ?? ไหนลองทวนให้ผมฟังสิ !! "

เจ้าหน้าที่ :
" ประกาศ เที่ยวบิน .xxx.... กำลังจะออก มิสเตอร์แอ่นแอ๊นท์คะ มิสเตอร์แอ่นแอ๊นท์ กรุณามาขึ้นเครื่องด่วนค่ะ "
.....
แอ่นแอ้นท์ ..???
ผมชื่อ อนันต์ สะกดเป็นกันไหม ??
A n a n t อ่านว่า อนันต์ !! อนันต์ อนันต์ อนันต์ !! ไม่ใช่ แอ่น แอ๊นท์ "

กร๊ากกกกกก......คุณ Anonsoneel…ระวังเน๊อ....ถ้าสะกดว่า Anon…..เวลาขึ้นเครื่องจ๊า เปิ้นจะฮ้องว่า
คุณแอ่นออน เจ๊า....เครื่องจะออกแล้วเจ๊า..

.แล้วจะใจ๊จะใดดีเจ๊า....A-nont หรือ R-nont ดีเจ๊า ...

เรื่องที่ 2 อีกไม่นานก็จะเปิดประตู(ตาย)สู่อาเซียนแล้ว.....ไปดูความน่ารักของภาษาลาววันนี้กันดีกว่า

หนูน้อยพเนจร : บักหำน้อยบ่มีหม่องอยู่

12 เดนตาย : หนึ่งโหลโซ่ถิ่ม

รักจริง ๆ ให้ดิ้นตาย : ฮักคัก ๆ ซักแง๊ก ๆ

ผ้าเย็น : ผ้าอนามัย

ร้านถ่ายรูป : ร้านแหกตา

ลูกกำพร้า : ลูกบ่มีพ่อมีแม่

เมียน้อย : เมียเพิ่ม, เมียบุญธรรม

ตั๋วเครื่องบิน : ปี้ยนต์

แบดมินตัน : กีฬาดอกปีกไก่

ฟุตบอล : หมากบาน

กระทรวงมหาดไทย : กระทรวงพัวพันภายใน

กระทรวงการต่างประเทศ : กระทรวงพัวพันภายนอก

กระทรวงยุติธรรม : กระทรวงบ่เข้าข้างไผ

ตึกกองบัญชาการทหารสูงสุด : ตึกกองบัญชาการทหารสูงลิ่ว

แค่นี้พอนะครับ....ยังมีอีกแยะ....

ไปทำนารุ่นที่ 6 กับผมกันดีกว่า

(1) เวลาเก็บมะละกอสุก ต้องหาอะไรรองพื่อกันผิวช้ำ....ส่วนมากผมจะใช้ใบตองแห้งรองครับ

(2) ระหว่างที่เก็บมะละกอ......บังเอิญผมไปเจอกระสอบปุ๋ยเข้าใบหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนเอามาเป็นกระสอบปุ๋ยอินทรีย์....มีรูปสะดุดตา.....

(3) มีรูปทหารสวมหมวกไบล์เล่ย์ ใส่แว่นตา หน้าถุงปุ๋ย เขียนว่า พ.ท. วีระ ใจหนักแน่น คิม ซากัสส์....ประกันคุณภาพ ควบคุมการผลิต..... และผมติดตามไปที่ร้านขายปุ๋ยเจ้าประจำ....ล้ง ห้วยพลู...ปุ๋ยยี่ห้อนี้ มีขายจริง ๆ ด้วย ....ทำไมมีรูปลุงผู้พันไปติดอยู่....

(4)

(5)

(6)

(4 – 6) ก่อนปล่อยน้ำเข้า ผมขอเก็บฟางเอาไว้ใช้ก่อน

(7)

(8 )

(7 – 8 ) บางส่วนที่เหลือ เจ๊ใหญ่บอกว่า ....

....หญ้าข้าวนกแยะ เผาเถอะวะไอ้ทิด...

....ตัดสินใจ เผาก็เผาวะ....ทดลองว่าถ้าเผาแล้ว หญ้าข้าวนกมันจะขึ้นไหม ไม่ลองก็ไม่รู้....เนอะ

(9)

(10)

(9 – 10) ไอ้ทิดหรั่ง ลูกชายเจ๊ใหญ๋ มาช่วยเผา เรื่องของเรื่อง มาหาไข่เต่าด้วยน่ะครับ ..

.นาใช้สารเคมี อย่าหวังว่าเต่าจะขึ้นไข่ นาผมไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ...จตุบท ทวิบาท เพียบ มีทั้ง พังพอน เต่า ตัวเห้...ตะกวด หนูพุก หนูตะเภา...นกกวัก นกเป็ดน้ำผี ....และ ฯลฯ .

...สำหรับเต่า ชอบขึ้นไข่เป็นประจำ.....กินไข่เต่าซะไม่รู้เท่าไหร่... ถ้าเจอตัว ผมจับปล่อยลงคลองหมด เพราะถ้าทิดยอมมาเจอแกจะจับไปแกงกินครับ

(11) มะม่วงกะล่อน อยู่ในที่มานาน 20 กว่าปีได้มั๊ง รอดตายจากน้ำท่วม ปีนี้ออกลูกดกมาก ได้กวนกันมือบวมละน่า

(12)

(13)

(12 - 13) เขียวเสวย ที่รอดตายจากน้ำท่วม ....ยังมีพิมเสน กับโชคอนันต์อีกอย่างละ 1 ต้น ที่รอดตายจากน้ำท่วม ....200 กว่าต้น เหลือรอดเพียง 4 ต้นเท่านั้น...

ที่ผมปลูกแทนใหม่ตอนนี้ ผมปลูกอกร่องทองล้วน ๆ .ใครว่าผมบ้าก็ช่าง ....เคยเห็นที่ร้านขายข้าวเหนียวมะม่วงชื่อดัง....อกร่องทอง กิโลละ 120 – 150 บาท

(14)

(15)

(14 – 15) ผักชีฝรั่งสวนข้างบ้าน(ญาติ ยัยถนอม)......ถ้าจะพันธุ์ดอก ....ดอกตรึมไปทั้งแปลงเลย

(16) ใบยาวแค่นิ้วมือ ประมาณ 2.5 นิ้วเอง

(17) ลองถอนต้นขึ้นมาดู รากยาวแค่องคุลี ใบสั้นจู๋ ไม่รู้จะจัดเข้า ไซส์ ไหนได้ ปลูกทำไมวะเนี่ย....

ระหว่างนี้ ผมปล่อยน้ำเข้านา หมักดิน แช่ฟาง ไปพลาง ๆ ก่อนครับ....

.

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6

บทที่ 1 – ตอนที่ 2 – 1 เมย.57 ปั่นดิน

หลังจากแช่ฟางได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ... วันที่ 1 เมย.57 นัดทิดศักดิ์ ให้เอารถตีนตะขาบมาปั่นดิน ผมติดธุระเลยไม่ได้อยู่คุยกับทิดศักดิ์ ..

อยู่หรือไม่อยู่ ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องคอยคุม เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า จะต้องทำยังไงบ้าง เตรียมไว้ให้เรียบร้อย ....หากสงสัย...โทรศัพท์มีไว้ใช้งาน ก็ใช้โทรศัพท์คุยกันได้นี่ครับ

สิ่งที่เตรียมไว้ให้ ..ถัง 200 ลิตร 1 ใบ
ปุ๋ยสูตร รวมมิตร อันประกอบด้วย ระเบิด 30-10-10 ...2 ลิตร, ปุ๋ยปลาหมักเอง 1 ลิตร, ปุ๋ยปลายัยเฉิ่ม 1 ลิตรกว่า ๆ (หมดพอดี รุ่นหน้าไม่มีใช้แล้ว) น้ำหมักหน่อกล้วย 1 ลิตร รวม 5 ลิตร + 18-8-8 ...15 กิโล ละลายน้ำไว้ให้เรียบร้อย

เวลาจะใช้งานก็เอาถัง 200 ลิตรขึ้นรัดติดท้ายรถตีนตะขาบ เอาปุ๋ยทั้งหมดเทใส่ สูบน้ำเข้าใส่เต็มถัง จากนั้นก็เปิดก๊อกที่ถังให้ไหลออกจ๊อก ๆๆๆๆ น้ำ 200 ลิตร ใส่นา 7 ไร่.....คุณทำไม่ได้ แต่ทิดศักดิ์ทำได้ เพราะเคยทำมาแล้ว...

เมื่อรถวิ่งปั่นดินไป น้ำปุ๋ยมันก็หยดตามไปเรื่อย ๆ เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ใส่ปุ๋ยตอนเตรียมดินแค่นี้เอง จะใส่อะไรกันนักกันหนา ของแพง และต้องประหยัดต้นทุน......

.....ใส่แค่นี้พอเหรอ....
....พอมั๊ยพอไม่รู้ เพราะจับดินขึ้นมาดมแล้ว.. กลิ่นหอมคล้ายกลิ่นเห็ดโคน.แสดงว่า ดินมันดี จะใส่อะไรกันนักกันหนา ใส่แค่นี้น่าจะพอ...อีกอย่าง.ใส่พอเป็นพิธี.ใส่มากกลัวรถเกี่ยวจม คนรถเกี่ยวมันจะด่าเอา......

สรุป
ค่าปั่นดิน ไร่ละ 150 + ค่าน้ำมัน 50 รวม ไร่ละ 200….7 ไร่ 1,400 ค่าข้าวกล่อง หากินเอง ..รุ่นนี้ไม่มี เพราะไม่อยู่

ค่าตีเทือก ลูบแปลง ชักร่อง(ทำ 2 วัน) ไร่ละ 150 +ค่าน้ำมัน 50 รวมไร่ละ 200 ....7 ไร่ 1,400 ค่าข้าวกล่องไม่มีอีกนั่นแหละ เพราะทิดยัง บอกว่า
....ข้าเกียมของข้ามาเอง เผื่อเอ็งด้วยก่องนึง เป็นข้าวขาหมู เบื่อข้าวกะเพาไข่ดาว ไปบ้านไหน เจอทุกบ้าน....
งั้นก็เอาสไปรท์ไปขวด น้ำแข็ง 1 กระติก.....

(ทิดยังแกจะพูดแบบชาวบ้าน คำว่าเตรียม แกพูดว่า เกียม...คำว่า กล่อง แกพูดว่า ก่อง คำว่า กระเพรา แกพูดว่า กะเพา)

สรุปค่าเตรียมดิน 2,800 ตกไร่ละ 400 ....ค่าน้ำมันเครื่องสูบน้ำ เตรียมไว้ 20 ลิตร ๆ ละ 30 ก็เป็นเงิน 600.....รวม 7 ไร่ ค่าเตรียมดิน 3,400

(18 )

(19)

(20)

(18 – 20) ปั่นดินเสร็จ วันรุ่งขึ้นก็ตีเทือก ลูบแปลง ช้กร่องเลย จากนั้นก็ปล่อยน้ำเข้า แช่ทิ้งไว้อีกวันสองวัน

(21) ใครมีปัญหาเรื่องหญ้า...ลองใช้เครื่องกำจัดหญ้ารุ่นใหม่นี้ดูนะครับ ติดต่อสั่งจองคิวล่วงหน้าได้ ถ้าต้องการด่วน บอก จะจัด คิวโดด ให้ …..

ลุงคิมพูดถึง เครื่องย่อยเศษพืชของนิมุตเอนจิเนียริ่ง อันนั้น ของเค้าชัวร์อยู่แล้ว….แต่ทว่า ....ลองดูนี่ก่อน

เครื่องย่อยเศษไม้ เจ๋งมั๊ยเจ๋ง ดูเอาเอง ทำเองก็ได้ ถ้าคุณมี กึ๋น.....

https://www.facebook.com/photo.php?v=775056689180093&set=vb.162434670442301&type=2&theater

.

kimzagass

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม

ข้อความยกมา....

(1)
สิ่งที่เตรียมไว้ให้ ..ถัง 200 ลิตร 1 ใบ
ปุ๋ยสูตร รวมมิตร อันประกอบด้วย ระเบิด 30-10-10 ...2 ลิตร, ปุ๋ยปลาหมักเอง 1 ลิตร, ปุ๋ยปลายัยเฉิ่ม 1 ลิตรกว่า ๆ (หมดพอดี รุ่นหน้าไม่มีใช้แล้ว) น้ำหมักหน่อกล้วย 1 ลิตร รวม 5 ลิตร + 18-8-8 ...15 กิโล ละลายน้ำไว้ให้เรียบร้อย

COMMENT :
จากจุลินทรีย์หน่อกล้วย เปลี่ยนเป็น จุลินทรีย์จาวปลวก หรือ จุลินทรีย์หน่อกล้วย + จุลินทรียบ์จอมปลวก = จุลินทรีย์หน่อกกล้วย ซุปเปอร์
- จุลินทรีย์หน่อกล้วย มี "แอ๊คติโนมัยซิส" เป็นจุลินทรีบย์กลุ่มจับไนโตรเจนจากอากาศ
- จุลินทรีย์จาวปลวก มีจุลินทรีย์ (ไม่ทราบชื่อ) กลุ่มย่อยสลายลิกนิน คือ เศษซากพืชที่ปลวกผลิตขึ้นมาด้วยน้ำลายปลวก....เศษซากพืชในนาคือ "ฟางข้าว-วัชพืช" เป็นหลัง

ขอบคุณครับลุง....ขออภัยที่ลืมทำ ว่าจะทำแล้วก็ลืม....ทั้ง ๆ ที่ลุงบอกแล้วไว้ใน.....กระทู้....เนี๊ยะ

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=4123&highlight=%A8%D2%C7%BB%C5%C7%A1

(ถ้าจะใส่รอบสองคู่กับระเบิด 30-10-10 ตอนข้าวใกล้จะ 50 วัน หมักทันมั๊ยครับลุง.....)

กระทู้ข้างต้นบอกว่า.............

จาก : (084) 823-94xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ ขอความรู้เรื่องจุลินทรีย์ย่อยสลายฟางข้าวโดยเฉพาะ ที่ชาวนาทำเองได้ แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน มาตรฐานโรงงาน มีหลักวิชา การรองรับ อยากให้ลุงคิมสรุปข้อมูลมาไว้ในที่เดียวกันเลย....ขอบคุณครับ ชาวนาชัยนาท

ตอบ :
- ความรู้เบื้อต้นเกี่ยวกับจุลินทรีย์ :

คลิก :
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=1848
จุลินทรีย์เพื่อการเกษตร :

** เตรียมจุลินทรีย์เริ่มต้น (กลุ่มย่อยสลายเศษซากพืช) :
- จาวปลวก ......................... อยู่ในใจกลางจอมปลวก รูปร่างเหมือนรังผึ้ง
- พด. .............................. ใช้ พด.1 สำหรับย่อยสลายเศษซากพืชโดยตรง
- ฟางเปื่อยยุ่ยในแปลงนา ............ เลือกแปลงนาของตัวเอง
- ดินนา ............................. หน้าดินแปลงตัวเอง บริเวณที่ต้นข้าวเจริญ เติบโตดี
- ใบไม้แห้งเปื่อยยุ่ยในป่า ............. จากป่าธรรมชาติ ไร้เคมีทุกชนิดปนเปื้อน
- น้ำหมักชีวภาพ .................... จากผักผลไม้ หมักข้ามปี ไม่มีหนอน ไม่เหม็น พร้อมใช้งาน
– มูลสัตว์กินหญ้าสดใหม่ ............ วัว ควาย แพะ

** วิธีทำ :
- ใช้ “น้ำ 50 ล. + จุลินทรีย์เริ่มต้น (อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทุกอย่าง มากอย่างดีกว่าน้อยอย่าง ปริมาณมาก/น้อยตามความเหมาะสม ได้มาก่อนใส่ก่อน ได้มาทีหลังใส่ตามหลัง) + น้ำมะพร้าว 10 ล. + กากน้ำตาล 5 ล. + 21-0-0 (100 กรัม)” คนให้เข้ากันดี เติมอ๊อกซิเจน (ปั๊มปลาตู้) ตลอด 24 ชม. นาน 5-7 วัน ได้ “หัวเชื้อจุลินทรีย์” เข้มข้น พร้อมใช้งาน

** ตรวจสอบ
- ใส่น้ำจุลินทรีย์ขยายเชื้อแล้วลงในขวด เอาลูกโป่งสวมปากขวด ทิ้งไว้ 1-2-3-4 วัน สังเกตุอาการลูกโป่งพอ ถ้าพองเร็วใหญ่ แสดงว่าดี ถ้าพองไม่ดี ช้า แสดงว่าไม่ดี

- สี กลิ่น กาก ฝ้า ฟอง วุ้น .... ทุกอย่างต้องเหมือนเดิม หรือต่างจากเดิมเล็กน้อยตั้งแต่เริ่มทำ

หมายเหตุ :
- เป็นจุลินทรีย์กลุ่มต้องการอากาศ อยู่ผิวดินไม่ลึกนัก
- ไม่แพ้แสงแดด (อุลตร้า ไวโอเร็ต)

- ปั๊มออกซิเจนแรงงๆ ดีกว่าอ็อกซิเจนเบาๆ
- ขณะขยายเชื้อ อากาศร้อน ใช้ได้เร็ว .... อากาศเย็น (หน้าหนาว) ใช้ได้ช้า

- ใช้ใหม่ๆ ดีกว่าเก็บไว้นานแล้วจึงใช้
- จุลินทรีย์ที่ดีที่สุด คือ จุลินทรีย์ประจำถิ่น (อ้างอิง : มาซาโอะ ฟูกูโอกะ) ในดินแปลงไหนแปลงนั้น ต้นพืชต้นไหนต้นนั้น

– การพิสูจน์ด้วยสายตาว่า จุลินทรีย์ประจำถิ่นตรงไหนดีหรือไม่ดี ดูจากการเจริญเติบโตของพืช
– จุลินทรีย์กินสารรสหวาน (กากน้ำตาล นมสด น้ำมะพร้าว)

@@ บทบาทของจุลินทรีย์เพื่อการเกษตร
1. ย่อยสลาย (กิน) อินทรียวัตถุและอนินทรีย์วัตถุ แล้วถ่ายมูลออกมาเรียกว่า "กรดอินทรีย์ หรือ ฮิวมัส" ส่วนที่เป็นธาตุอาหารพืชซึ่งอยู่ใน "รูป" ที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันที ได้แก่ โพลิตินอล. ควินนอยด์. อโรเมติค. ซิลิลิค. ออแกนิค. ส่วนที่เป็นฮอร์โมนพืช ได้แก่ ออกซิน (ไซโตคินนิน. จิ๊บเบอเรลลิน. เอทธิลิน. อีเทฟอน. อีเทรล. แอบซิสสิค. เอบีเอ. ไอเอเอ. เอ็นเอเอ. ฯลฯ) และส่วนที่เป็นท็อกซิก. ซึ่งมีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อโรคพืชได้
2. ปรับค่าความเป็น กรด-ด่าง ของดิน ทำให้ดินเป็นกลาง

3. จับยึดธาตุอาหารพืชจากอากาศไปไว้ในตัวเอง แล้วปลดปล่อยให้แก่ต้นพืช
4. ปลดปล่อยปุ๋ยเคมีที่ถูกดิน (กรดจัด) ตรึงไว้ ให้ออกมาเป็นประโยชน์แก่ต้นพืช

5. ตรึงปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ที่ใส่ลงไปไว้แล้วปลดปล่อยให้ออกมาช้าๆ เพื่อ ให้พืชได้มีเวลาดูดซับไปใช้งานได้ทันทีและสม่ำเสมอ
6. สลายฤทธิ์สารที่เป็นพิษต่อพืชให้เจือจางลงๆ จนกระทั่งหมดไปในที่สุด

7. กำจัดจุลินทรีย์ประเภทที่ไม่มีประโยชน์หรือเป็นโทษ (เชื้อโรค) ต่อต้นพืช
8. เกิดได้เองตามธรรมชาติภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

@@ ประโยชน์ของฮิวมัส :
1. ป้องกันการชะล้างหน้าดิน
2. ป้องกันเม็ดดินอัดตัวกันแน่นจนเป็นดินเหนียวจัด

3. รักษาความชุ่มชื้นของเม็ดดิน (ปุ๋ยอินทรีย์ 10 กก.เก็บน้ำได้ 19.66 ล.)
4. ลดและสลายสารพิษในดิน

5. กระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช
6. เสริมประสิทธิภาพของธาตุอาหารพืชที่ได้จากการสังเคราะห์แสง
...................

รูปที่ 22 ผมมีข้ออ้างอิงจากหนังสือ เกษตรกรรมธรรมชาติ ฉบับที่ว่าด้วย จุลินทรีย์จาวปลวก..

..คนที่อ้างอิง(ไม่ใช่ผม) เค้าเขียนไว้ว่า

จุลินทรีย์จากจาวปลวกกับการเพาะเห็ดโคน

ผมเป็นสมาชิกหนังสือเกษตรธรรมชาติ เจอคอลัมน์หนึ่งโดนใจมาก คือจุลินทรีย์จากจาวปลวกกับการเพาะเห็ดโคนโดยนักปราชญ์ จักรกฤต ชาวนา พิจิตร 081 – 041-5883
เลยคว้าจอบแบกกระบุงไปหาขุดเลย ไม่บาปหรอกครับใช้จอบขุดเบาๆ ไม่ต้องลึกมาก จะเจอจาวปลวกอยู่จำนวนมาก เราเก็บมาแค่เล็กน้อยไม่ถึงขั้นต้องทำลายจอมปลวกทั้งหมักตามสูตรคุณ
จักรกฤต สุดยอดเลยครับ ผมไปราดใบไม้ฟางข้าวย่อยสลายทันใจ รดต้นไม้ที่หงิกงอหายครับผมเรียกน้ำหมักตัวนี้ว่า น้ำหมักโป๊ยเชียนเลยครับ

การนำไปใช้
ใช้จุลินทรีย์จาวปลวกเอาใส่นา รดผัก ผลไม้ ให้ผสมน้ำให้ไก่กิน ก็ได้ผลดีใช้อัตราส่วนประมาณ 1 ลิตร /น้ำ 10 ลิตรใช้ฉีดพ่นเพื่อย่อยสลายเศษวัชพืช(หมักทำปุ๋ยหมัก) หรือย่อยสลายตอซังข้าวก่อนทำการไถประมาณ 7 วัน หลังจากนั้นไถกลบ และหากจะนำไปรดโคนต้นเพื่อบำรุงพืชผลอื่นๆก็ได้เช่นกัน ในอัตราส่วนข้างต้น ไม่ตายตัวสามารถปรับได้ตามความเหมาะสมกับการใช้งาน

การเพาะเห็ดโคนจากจุลินทรีย์ปลวก
นำน้ำจุลินทรีย์จาวปลวกนี้ ไปราดที่จอมปลวก คลุมด้วยฟางข้าวหรือใบไม้ รดน้ำพอชื้น ประมาณ ๑๐ วัน ก็จะมีเห็ดโคนขึ้น นำไปประกอบอาหารที่เป็นเห็ดโคนธรรมชาติไร้สารเคมี เป็นเมนูอาหารที่วิเศษมากครับ

นอกจากนี้ยังมีวิธีการปลูกเห็ด7ชั่วโคตรอีกหาซื้ออ่านได้นะครับหนังสือเขาดี ผมไม่ได้ค่าโฆษณาเลยซักบาทนะครับแต่อยากให้คนที่เป็นเกษตรธรรมชาติต้องอ่าน

จาก ครูบ้านนอก
.................

(2) เวลาจะใช้งานก็เอาถัง 200 ลิตรขึ้นรัด ติดท้ายรถตีนตะขาบ เอาปุ๋ยทั้งหมดเทใส่ สูบน้ำเข้าใส่เต็มถัง จากนั้นก็เปิดก๊อกที่ถังให้ไหลออกจ๊อก ๆๆๆๆ น้ำ 200 ลิตร ใส่นา 7 ไร่.....คุณทำไม่ได้ แต่ทิดศักดิ์ทำได้ เพราะเคยทำมาแล้ว...

COMMENT :
เปลี่ยนตำแหน่งวางถัง "ท้ายรถ" มาเป็น "หน้ารถ" เพื่อว่าน้ำปุ๋ยหยดลงพื้นแล้ว ถูกตีนตะขาบย่ำ น้ำปุ๋ยก็จะกระจุยกระจายกระเจิดกระเจิงเตลิงเปิงเปิดไปทั่วทุก ตร.มม. ได้เอง

ลุงคิมไม่เคยทำ แต่ "ฝัน" ว่า ไม่มีรถตีนตะขาบ ใช้รถไถเดินตามก็ได้เหมือนกัน

ผมอาจจะพูดผิดไปนิดนึงครับลุง ความจริงจุดวางถัง วางบนแทรค ซึ่งอยู่หลังที่นั่งคนขับ .....
อธิบายคงยาก เพราะไม่ได้อยู่เลยไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ ....ดูจากรูปเก่านะครับ

รูปที่ 23 บริเวณท้ายรถหลังคนขับ จะมีแทรค ซ้ายและขวา จุดนี้คือจุดที่เอาไม้กระดานหน้า 8 - 2 แผ่นวางห่าวกันประมาณ 3 นิ้ว ความกว้างเลยแทรคออกมาประมาณ 7 นิ้ว ตีประกบด้วยไม้หน้า 3 เพื่อวางคร่อมลงพอดีร่องแทรค ใช้ลวดมัด โยงไปมัดติดกับก้านแทรคทั้งสองข้างกันไม้หลุด

(24)

(25)

รูปที่ 24 – 25 เมื่อเอาไม้พาดบนแทรคแล้ว เอาถัง 200 ลิตรวาง ยึดถังติดกับที่นั่งหลังคนขับ เพื่อป้องกันถังไหล ก็ตีไม้หน้าสามกับไม้กระดานด้านบน ล๊อกก้นถังกันไหลลื่น...

..ที่ตัวถัง เจาะรูเอาท่อ PVC 4 หุนใส่ยึดเกลียวขันน๊อตติดกับถัง ใช้ก้อนขี้หมา(ที่ใช้ปิดท่อแอร์) ปิดนอก - ในกันน้ำรั่ว

…ท่อด้านนอก ติดวาล์ว ปิด – เปิด น้ำ ขนาด 4 หุน ต่อกับท่อสามทาง ปลายท่อสามทางติดท่อ PVC 4 หุนออกไปทั้งซ้ายและขวา จะเป็นรูปตัว ที หรือเป็นแขนออกสองข้าง ยาวข้างละประมาณ 1.25 เมตร ตัวท่อนี้เจาะรูเล็ก ๆ โตประมาณ 1/8 นิ้ว ห่างกันประมาณ 30 ซม. เพื่อให้น้ำปุ๋ยหยด จิ๊ก ๆๆๆๆ ใช้ที่อุดท่อปิดกันน้ำปุ๋ยไหลออกปลายท่อทั้งสองข้าง

ในรูปที่ 25.....น้ำปุ๋ยก็จะหยดลงหน้าใบมีดปั่นดินพอดี ๆ .......ทำง่าย ๆ แค่นี้แหละครับ

แล้ว(ถามแบบคนบ้า ๆ) แบบนี้จุลินทรีย์มันโดนใบมีดปั่นดิน มันจะตายมั๊ยครับลุง.....อิอิ....

..หลังจากเลิกใช้งานก็ถอด Option ชุดนี้ออก เก็บไว้ใช้งานคราวหน้าต่อไป......

ตอนแรกที่ติดตั้ง ทิดศักดิ์บอกว่า.....แกจะทำบ้าอะไรของแกอีกวะเนี่ย....

หลังทำงานครั้งหลังเสร็จ.....เจ๊ใหญ่ บอกทิดแดงมันด้วยว่า ฉันขอยืมเอาไปใช้ที่นาของฉันมั่ง จะลองบ้ากะมันดูซักตั้ง....

.....เออน่ะ ไหนว่าข้าบ้า แบบนี้ก็มีด้วยว่ะ...จนป่านนี้แล้ว ยังไม่เห็นเอามาคืนเลย ..ได้แต่โทรมาบอกว่า ขอยืมไว้ก่อน.....
..ทิดศักดิ์เป็นช่าง อาจจะทำไอ้เจ้าที่หยดปุ๋ยอันนี้เป็นเรื่องเป็นราวดีกว่าของคนบ้าอย่างผมที่ดูแล้วแสนจะทุเรศ ทำก็เป็นได้ ....

รูปที่ 26 เมื่อเช้า ปู่มาบอกว่า ทิดเปีย น๊อคยา(อบาเม็คติน + แลนเนท) เดินตกคันนาดิ้นพราด ๆ แล้วก็สงบนิ่ง ไปโรงหมอไม่ทัน .....กุศลา อีก 1 ราย ...แบบนี้ก๊อ มีข้าวต้มรอบดึกกินอีกหลายราตรีซินี่..... .....ใครจะเป็นคนต่อไป.....

(3) ลุงคิมบอกว่า
อย่าทำเชียวนา ยิ่งมีคนเขาว่า "อย่าบ้า ตามตาคิม" หน่อยเลย อยู่ด้วย....
ด้วยความปรารถนาดี จาก เกษตรลุงคิมดอทคอม

ก็เพราะคำ ๆ ด้วยความปรารถนาดี นี้แหละ......บ้าหรือไม่บ้า ก็ทำตามตาคิม เข้ารุ่นที่ 6 นี่ไงครับ ......และ เจ๊ใหญ่กำลังจะตามมาติด ๆ ..

..ไอ้ทิด ไอ้พวกกะนั้นเค้าว่า ข้าทำบ้า ๆ อย่างเอ็งว่ะ ....
...ไอ้พวกกะไหนล่ะ แล้วเจ๊ใหญ่ทำอะไรบ้า ๆ อย่างฉัน...

....ก็ทำอย่างที่เอ็งทำไง......
....ฉันทำท่าพิสดารอะไร ท่าฤาษีดัดตนรึไง.....

.....ฮี๊ย์....ก็ทำอย่างที่เอ็งทำนั่นแหละ.... พักนี้ข้ารู้สึก หายใจหายคอโล่งขึ้น น้ำลายเคยเหนียวติดคอไม่ค่อยมี....เอ็งได้ข่าวทิดเปียแล้วไม่ใช่เรอะ เสือกฉีดอบาผสมแลนเนท แถม เบอร์ดี้กระป๋องเขียวอีก 2 ป๋อง กินข้าวต้มอีกหลายวันละเอ็ง....
....เจ๊ใหญ่น่ะนะกินข้าวต้ม...ฉันเห็นงานศพทีไร ไม่พ้นวงกำถั่ว....

....นานทีปีหน ไม่ได้มีบ่อย ๆ .....
....อยากให้มีบ่อย ๆ ก็ลองทำอย่างทิดเปียซีเจ๊.....

....ไอ้เวร ปากเอ็งนี่ฮิ ....(Go Ahead) เอ็งจะไปไหนก็ไปไป๊.......
…บาย ฉันไปก่อนละเจ๊....หล่า ลา ล่า ล้า....

รายการสีสันชีวิตไทย ต้องมีสีสันแบบนี้แหละครับ และรายการคนบ้า มันก็ต้องบ้าแบบนี้แหละ..

..ใครเป็นผู้ดี กลัว ๆ กล้า ๆ ก็อยู่ในกระบอกไม้ อยู่คนเดียวต่อไปเต๊อะ.....อีกไม่นานก็จะกลายเป็น โดดเดี่ยวผู้น่าสงสาร

หลายคนอาจจะว่าผมไม่สุภาพใช้คำพูด ...เอ็ง ข้า มึง กู ....
คำว่า มึง กู ผมใช้กับคนสนิท....เอ็ง ข้า ใช้กับ คนใกล้ชิด คุณ ท่าน ฉัน เธอ ตามกาลเทศะ

ใครเป็นคนพูดคำนี้ในหลักศิลาจารึก.......พ่อกูชื่อศรีอินทราทิต....แม่กูชื่อนางเสือง....มันผิดตรงไหนที่พ่อของพ่อ ปู่ของปู่ ทวดของทวด ใช้มาแต่เก่าก่อน....

ใครเป็นคนเปลี่ยนอะไร ๆ เพื่อให้ทันโลกสมัยใหม่ ที่ให้คนไทยเลิกกินหมากน่ะ ผมลืมชื่อไปซะแล้ว ....

.

kimzagass

DangSalaya

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6

บทที่ 1 – ตอนที่ 2 – 2 ปุ๋ยที่มีรูปผู้พันคิมข้างกระสอบ

มีสมาชิกถามหลังไมค์ ถามว่า รูปผู้พัน ที่ไปติดอยู่บนกระสอบปุ๋ย ที่ผมลงในกระทู้น่ะมันคืออะไร เป็นมาอย่างไร....ผมก็จะขอชี้แจงเท่าที่ผมได้รับรู้มา

(27) เป็นรูป ลุงคิม ซึ่งเป็นจุดขายที่ติดอยู่บนกระสอบปุ๋ย

(28 ) เป็นปุ๋ยอินทรีย์ ตรา ร่มทอง ความเป็นมาเช่นไร ไม่รู้เหมือนกันครับ บอกได้แค่ว่า เป็นปุ๋ยอินทรีย์ ตราร่มทอง ตามที่เขียนบนกระสอบ.....รูปผู้พันคิม คือจุดขาย เพราะถ้าไม่มีรูปนี้ก็คือ ไม่มีจุดขาย .

...ถึงจิ้งหรีดจะอกหัก แต่จิ้งหรีดไม่เคยกัดใคร…. กูโหดไม่ลง ...นั่นคือคำพูดของลุงครับ ก็แค่นั้นแหละ

(29) แร่ธาตุอาหารมีอะไรบ้าง แม้กระทั่งกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ บอกไว้หมด ...แต่นั่นคือตัวหนังสือที่บอกไว้ ไม่บอกปริมาณสารอาหารแต่ละอย่างว่ามีกี่ % จึงไม่อาจรู้ได้ว่า มีจริงหรือไม่ และมีมากน้อยแค่ไหน

คนที่ซื้อปุ๋ยนี้มาทดลองใช้ คือคนแถวบ้าน แกไปตลาดห้วยพลู แวะไปซื้อที่ร้านขาประจำ....สะดุดตาตรงที่มีรูป ผู้พัน คิม ซากัสส์ ซึ่งเป็นจุดขาย จึงเกิดความสนใจ และมั่นใจในรูปผู้พัน จึงซื้อมาลองใช้...

.สุดท้ายมีใครไม่รู้อีกนั่นแหละ ยกเอามาวางไว้ที่หน้าบ้านผม มีปุ๋ยอยู่ประมาณ 1 / 3 กระสอบ จะเอามาให้ผมใส่อะไร ผมก็ยังไม่รู้อีกนั่นแหละ และผมก็ไม่รู้ว่าจะไปถามใคร ว่าปุ๋ยของใคร .....

ผมลองเอาละลายน้ำดู น้ำขุ่นเหมือนน้ำโคลน ทิ้งไว้ให้ตกตะกอน เทน้ำออกมา ก้นถังก็เป็นขี้โคลนดี ๆ นี่เอง ถ้ามองโลกในแง่ดี ก็อาจเป็นว่า เค้าอาจเอาดินมาหมักเป็นปุ๋ยอินทรีย์แล้วปั้นเป็นเม็ดออกมาขาย

ถ้าจะถามว่าใช้ดีหรือไม่ ผมยังไม่เคยลองใช้ ตอบยากครับ ใช้บ้านหนึ่งอาจจะไม่ดี แต่ใช้อีกบ้านหนึ่งอาจจะดี ทั้งนี้ก็ขอให้อยู่ในดุลยพินิจ เชื่อมั่นในตัวเอง ก่อนซื้อมาใช้ก็แล้วกันครับ....

.

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6

บทที่ 1 – ตอนที่ 3 – 8 เมย.57 หว่านน้ำ

ก่อนเริ่มรายการมีของสนุก ๆ มัน ๆ มาฝากครับ

เป็นงานที่ แหร่ม มาก ๆ เพลง ขอใจซะด้วย เสียดาย สั้นไปหน่อย กำลังมัน จบซะแล้

https://www.facebook.com/photo.php?v=685399941507015&set=vb.199289656784715&type=2&theater

ถ้ายังไม่หายมัน ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร มีของแถม...โคตรมันจริง ๆ . .ใครดูแล้วไม่มันก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

https://www.facebook.com/photo.php?v=687573887956287&set=vb.199289656784715&type=2&theater

วันที่ 8 เมย. น่าจะเป็นวันดี ได้ฤกษ์ซะที หว่านข้าวรุ่น 6

(30) คุณแจ้ กับคุณสายชลมารอ เตรียมตัวพร้อมที่จะ หว่าน

(31) ตรวจสอบความพร้อมของเครื่องพ่น

(32) ติดเครื่อง เตรียมพร้อมที่จะ ลุย

(33)

(34)

(33 – 35) นักหว่านมืออาชีพ......รู้งาน รู้หน้าที่ ไม่ต้องพูดบอกกันมาก ....หว่านบางนะเว๊ย .....บอกกันแค่นี้เอง นาแค่ไร่ ตดยังไม่ทันหายเหม็นก็หว่านเสร็จแล้ว ค่าหว่านไร่ละ 50 บาท 7 ไร่ 350 ให้ไป 400 จะได้แบ่งเท่า ๆ กัน ....

..

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6

ปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่
ตอนที่ 8 (1) – 9 พค.57 ข้าว 68 วัน

ไปดูการปลูกข้าวในกระถางกันต่อครับ

(67)

(68 )

(69)

(70)

(71)

(72)

(67 – 72) เผลอแป๊บเดียว ข้าวในกระถางอายุ 68 วัน เริ่มออกรวงแล้วครับ คุณภิญโญ เคยถามว่า จะได้กินข้าวหรือเปล่าหนอ ....ผมก็ยังสงสัยอยู่ครับ เสียว ๆ กลัวจะลีบเหมือนกัน ....

(73 ) รวงข้าวยามอาทิตย์ใกล้จะอัสดง.....เห็นลักษณะรวงแล้ว มันดูเบา ๆ ยังไงก็ไม่รู้ รวงชี้โด่เด่...ไม่ก้ม....ไม่โค้ง

(74)

(75)

(74 – 75) รวงข้าวในยามราตรีครับ ....ไม่ใช่อะไรหรอก ส่องไฟหาดูว่ามีตัวแมลงอะไรมาเยี่ยมชมข้าวในกระถางของผมในยามค่ำคืนบ้าง เพื่อเก็บเป็นข้อมูลสำหรับใช้กับข้าวในนาแปลงใหญ่

ข้าวชุดนี้ไม่ต้องใช้สารลมเบ่งก็ออกรวงดีพอสมควรครับ ผมนับวันดูแล้ว สิ้นเดือน พค. ข้าวอายุ 90 วัน น่าจะใกล้เกี่ยวได้แล้วละครับ

.....การลงรูปในเว็ป แต่ก่อนผมเคยใช้ Image.Ohozza.com ต่อมาพอย้อนกลับไปเปิดดู รูปมันหายบ่อย ขี้เกียจตามไปซ่อม เลยเปลี่ยนมาใช้ Upic.me …แต่ก็ใช้สลับกัน คือในกรณีที่ อันหนึ่งใช้งานไม่ได้ ก็มาใช้อีกอันหนึ่งแทน อย่างวันนี้ Upic.me ใช้งานไม่ได้ ก็ต้องใช้ Image.Ohozza.com แทน....

ยังมีต่อครับ.....ต่อเลยละกันครับ เพราะมันต่อเนื่องกัน(แค่วันเดียวเอง)

ตอนที่ 8 (2) – 10 พค.57 ข้าว 69 วัน

เมื่อคืน(9 พค.)ฝนตก และวันนี้นัดกับลูก ๆ ไว้ว่าจะเดินทางไปศรีสะเกษ กับอุบลฯ ระหว่างรอการมาตามนัด 8.00 น. (ลูกเค้าบอกว่า ตรงเวลานะพ่อ แต่ตอนนี้ 9.15 น.แล้ว ยังเสด็จมากันไม่ถึง..)เลยนำรูปข้าวในกระถางหลังฝนตกมาให้ดูครับ….

เพื่อน ๆ ที่อยากปลูกข้าวไว้เป็นไม้ประดับหน้าบ้าน ผมว่าลองทำดูครับ ทำไม่ยาก สวยงามไปอีกแบบ ที่สำคัญ ราคาถูกมาก ๆ และสวยงามมาก ๆ ด้วย ผมปลูกไว้ประดับหน้าร้านให้ลูกเค้า 20 กระถาง ใช้ข้าวเปลือก 20 เมล็ด ไม่น่าเชื่อว่า ข้าวแตกกอ ออกรวง ได้ข้าวไม่รู้กี่รวง ไม่รู้กี่เมล็ด เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่หาคำตอบไม่ได้

เรากินข้าวมาตั้งแต่เกิด ลองปลูกดูเล่นเป็นไม้ประดับ ผมว่ามันคลายเครียดดีครับ มันได้ลุ้นตอนข้าวกำลังจะออกรวงนี่แหละ

(76) เมื่อคืนฝนตก พื้นดินชุ่มฉ่ำ ต้นไม้ใบหญ้า และต้นข้าวได้รับน้ำฝน น้ำมหัศจรรย์จากธรรมชาติ ใบเขียวขจี

(77)

(78 )

(79)

(80)

(81)

(82)

(77 – 82) ความอ่อนช้อยของรวงข้าวที่ได้รับน้ำฝน ยามที่ต้องสายลม มันแกว่งไกว ผมว่า เป็นต้นไม้ที่ดูสวยงาม โดดเด่น และสง่างามสมกับเป็นพืชชนิดเดียวที่มีเทพนารีประจำอยู่ คือ แม่โพสพ ครับ

(83) ใครจะเชื่อว่า จากข้าวเปลือก 1 เมล็ด แตกเป็นกอได้มากขนาดนี้ นี่ขนาดจำกัดเนื้อที่อยู่แค่ในกระถางขนาด 12 นิ้วเท่านั้นนะครับ

(84) น้ำฝนใสปิ๊ง เจอกับ ปุ๋ยทั้งทางใบ และทางดิน ของลุงคิมในสภาพที่ไม่เหมาะสม(เพราะน้ำฝนล้นกระถาง ปุ๋ยส่วนหนึ่งก็ไหลตามน้ำที่ล้นไปด้วย) + ขี้วัว ....แต่ว่า.....

(85) แต่ว่า....ตอนเตรียมดิน และดำปลูกเมื่อต้นเดือนมีค.57 ลุงบอกว่า ...มีหวังข้าวมึงงามตายห่ะ.....ลุงให้พรแบบนี้ ข้าวถึงได้งามไงล่ะครับ....

และขออภัยต่อเพื่อนสมาชิกบางคนที่บอกว่า ผมเชียร์แต่ปุ๋ยลุงคิม....เปล่าเชียร์ครับ อะไรที่ว่าดี ผมใช้แล้วมันดีผมก็ว่าดี และอีกอย่าง ผมนิยมของดีราคาถูก...

ผมจำที่ลุงคิมได้ว่า สุดยอดดของปุ๋ยคือปุ๋ยจากเยอรมัน ผมตามล่าหาความจริง หายากสุด ๆ ...แต่ก็ได้มา ฝุ่นจับอยู่ก้นร้าน

(86) ปุ๋ยน้ำทางใบสูตรเข้มข้นของเยอรมัน(บรรจุในเมืองไทย) สูตร 12-4-6 มีธาตุรอง / ธาตุเสริมครบถ้วนกระบวนยุทธ์ ใช้ได้กับพืชทุกชนิด 10 ซีซี / น้ำ 20 ลิตร มีคำบอกเขียนว่า ...Not use over dose and spray whit foggy...ห้ามใช้เกินลิมิต และพ่นให้เป็นหมอก...

แม่ของคนขายปุ๋ย(อายุ 80 มั๊ง)บอก(ตรงกับลุงคิมเด๊ะเลย)ว่า ...ปุ๋ยของเเยอรมันทุกยี่ห้อดีที่สุด ฉันชอบใช้ แต่คนรุ่นใหม่ไม่ชอบของดี เพราะสูตรมันต่ำแต่สารอาหารเกินร้อย คนรุ่นใหม่ชอบสูตรสูง ๆ แต่เต็มสูตรหรือเปล่าไม่รู้..

..และ ผมเอาผสมกับ BIOI ของลุงคิม....BIOI 15 + ปุ๋ยเยอรมัน 5 / น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นกล้วยไม้ ทุก 7 - 15 วัน / ครั้ง ที่สำคัญ ตามความเหมาะสมของกล้วยไม้ครับ

รอลุ้นก่อนเกี่ยวครับ.

.

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6

ปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่
ตอนที่ 9 (1) – 13 พค.57 ข้าว 72 วัน....รับขวัญข้าว

เจ๊รองบอกว่า ข้าวออกรวงแล้ว รับขวัญหน่อยดีมั๊ย....รับก็รับ ได้เลยเดี๋ยวจัดให้....

..ไปดูพิธีรับขวัญข้าวตามแบบฉบับของ แดงศาลายากันหน่อยดีมั๊ยครับ ....เรียบ ง่าย สบาย ๆ ทำด้วยใจ ด้วยความคาราวะ.....

(87) ของที่เป็นมงคล....ฟักทอง ชื่อเป็นมงคลมั๊ยล่ะ...ฟักแต่ทองอย่างเดียวอย่างอื่นไม่ฟัก....ฟักทองสายพันธุ์ญี่ปุ่นเชียวนะ มาไกลซะด้วย....ลูกนิดเดียว 60 บาท

(88 )

(89)

(88 – 89) มีอะไรอีก...ฟักทอง ลิ้นจี่ ของจักรพรรดิ กินเชียวนะ ...งา ของเป็นมงคลเจริญงอกงามทั้งนั้น

(90) แต่งเติมด้วยดอกไม้ให้ดูสวย ๆ หน่อย

(91)

(92)

(91 - 92) จากนั้นก็ผูกโบว์กันหน่อย จุดธูปแล้วก็บูชา...หลับตาว่าไปเรื่อย....

มานะแม่มา แม่โพสพคนสวย ลูกจะขอรับขวัญ...เชิญแม่มารับเครื่องเซ่นสังเวย ...

...ว่าไปเรื่อย ซักพัก เสียงดังแก็ก....เล่นเอาสะดุ้ง.....สงสัยแม่จะมาจริง ๆ กลางวันแสก ๆ นะแม่นะ ยังไงก็มาแบบสวย ๆ แบบไม่สวยไม่ต้องมา.....

(93) พอลืมตาขึ้นมา ชะอุ๊ย ....พ่อ..แม่โพสพติดประชุม ให้หนูมาแทน.......โอ้โฮ อินได้ใจจริง ๆ ลูกกูตะละคน.....เชื่อเลยว่ะ นึกว่าจะได้เลขเด็ดซะหน่อย.....

(94)

(95)

(96)

(97)

(98 )

(99)

(100)

(101)

(94 – 101) ดอกกำลังบาน เริ่มตากเกสรแล้วจ้า.....ติดฝักติดรวงเยอะ ๆ นะแม่นะ.....

(102)

(103)

(102 – 103) นึกว่าอะไรในกอข้าว เห็นขยุก ๆ ที่แท้ แม่อุทัยเทวี มาแอบอยู่ตรงนี้นี่เอง....มิน่ากลางคืนส่งเสียงดังนอนไม่ค่อยหลับ

(104)

(105)

(106)

(107)

(104 – 107) วัดความสูงกันหน่อย. นักวิชาเกินเค้าทำง่าย ๆ แบบนี้แหละครับ...สูงโดยประมาณก็ 70 ซม.

(108) ลำต้นก็ประมาณหลอดดูดกาแฟขนาด Big ...เล็กกว่าหลอดดูดเฉาก๊วย โตกว่าหลอดดูดยาคูลท์

(109)

(110)

(109 – 110) จาก 1 เมล็ด แตกกอในกระถางได้เท่านี้ก็ดีถมไปแล้ว

(111) ไหว้เสร็จ เจ๊รอง จัดการนึ่งฟักทอง แจกให้กินเป็นของมงคล....แกว่ายังงั้นนะ....เนื้อกินดี แต่เปลือก รสออก ขม ๆ ครับ สู้ฟักทองไทยไม่ได้ กินได้ทั้งเปลือก

(112) เมล็ดฟักทองญี่ปุ่น ป้อม ๆ สั้น ๆ ตามสไตล์คนญี่ปุ่น ก็เหมือนข้าวญี่ปุ่นนั่นแหละ เมล็ดป้อม ๆ สั้น ๆ เหมือนกัน

เป็นยังไงครับ พิธีรับขวัญข้าวของ แดง ศาลายา เรียบ ง่าย ไม่มากเรื่อง ทุกอย่างสำคัญที่ใจครับ .....

สำหรับการปลูกข้าวในกระถาง ก็ Update ถึงวันที่ 14 พค.57 แล้วครับ อีกซัก 20 กว่าวันน่าจะเกี่ยวได้

.

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6

บทที่ 1 – ตอนที่ 4 – 18 เมย.57 ข้าว 10 วัน

(36)

(37)

(38 )

(36 – 38 ) หว่านข้าวไปได้ 10 วันแล้วครับ ข้าวน้ำแห้งก็ดูหงอย ๆ แบบนี้แหละครับ

(39)

(40)

(39 – 40) บางจุดหน้าดินชื้น ๆ แต่ข้างล่าง เปียก

(41)

(42)

(41 – 42) บางจุดหน้าดินแห้งแตกระแหง แต่ข้างล่างเปียก

(43 ) มะม่วงกะล่อนครับ สุกกำลังกวนได้เลย.....เก็บไปกวนถ้าจะดีเนาะ

(44) พ่นปุ๋ยทางใบครั้งแรกเมื่อข้าวย่างเข้าวันที่ 14 .....

เนื่องจากเลขลำดับรูปประกอบ เรื่องปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่ กับรูป ล้มสวนทำนารุ่นที่ 6 เป็นคนละเรื่องเดียวกัน เลขที่ลำดับรูปก็เลยไม่ไหมือนกันครับ...

ปลูกข้าวรุ่นที่ 6 ยังไม่มีอะไรตื่นเต้นครับ

.

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6

บทที่ 1 – ตอนที่ 5 – 23 เมย.57 ให้น้ำข้าวอายุ 14 วัน

(45)

(46)

(45 – 46) เจ๊ใหญ่ เตรียมการ ให้น้ำแม่โพสพ..

.....เอ็งมีอะไรทำก็ไปทำ ไม่ต้องมายุ่ง...

ลูกชายเจ๊ใหญ่ กระซิบบอก..
..ทิด ๆ วันนี้แม่ อารมณ์บ่อจอย ฉันโดนตั้งกะเช้า โดนหวยจับยี่กีแหลก.....
….เออ เห็นหน้าบอกบุญไม่รับ ไม่พูดไม่จาข้าก็รู้แล้วละ ...

(47)

(48 )

(49)

(50)

(47 – 50) ก่อนให้น้ำข้าวอายุ 14 วัน พื้นหน้าดินแตกระแหง แบบนี้แหละครับ....

สำหรับวันนี้มีแค่นี้ ตัวใครตัวมัน ต่างคน ต่างไป ทางใครทางมัน ผมไปก่อนละครับ

(51)

(52)

(53)

(51 – 53) หลังให้น้ำ 1 วัน ปล่อยให้ท่วมแค่นี้พอแล้วครับ

.

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6

ปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่
ตอนที่ 9 (2) – มะม่วงออกลูกที่กิ่ง

การทำอะไรแบบคนบ้า มันได้ผลแบบบ้า ๆ

(113)

(114)

(113 – 114) มะม่วงออกลูกที่กิ่ง เรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ก็ว่ากันไป....

(115)

(116)

(115 – 116) มะม่วงต้นสูงแค่เลยหัวเข่า อยากออกลูกเทียบรัศมีแข่งกับรุ่นพี่ ...มันอยากออก ก็ปล่อยมัน ...คุณว่ามั๊ย

ใช้ปุ๋ยตามสูตรลุงคิม มันมีอะไรที่พิสดารไม่เหมือนชาวบ้านเค้าแบบนี้แหละครับ นี่ยังดีนะครับที่มะม่วงออกลูกเป็นมะม่วง ถ้าออกลูกเป็นอย่างอื่นละก็ ขายผ้าสามสี กับธูปเทียนทอง รวยอื้อเลยแหละ

.

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6

บทที่ 1 – ตอนที่ 6 – 3 พค.57 ข้าวอายุ 25 วัน

(54)

(55)

(56)

(57)

(54 – 57) ต้นข้าวอายุ 25 วัน

(5

(59)

(60)

(58 – 60) หลังจากสูบน้ำเข้าผ่านไป 10 วัน น้ำก็แห้งลงติดหน้าดินเปียกชื้น

ผมขอต่อด้วย วันที่ 17 พค.57 ข้าวอายุ 39 วันเลยนะครับ

(61)

(62)

(63)

(64)

(61 – 64) ข้าวอายุ 39 วัน ได้รับน้ำฝนที่ตกเมื่อคืน น้ำชุ่มฉ่ำ ข้าวงามสดชื่น

(65) จุดที่เป็นทางระบายน้ำเข้า – ออกจากนา และเป็นจุดที่ นักหาปลาชอบมาตรงนี้ เพราะปลามันชอบมาอยู่ที่ตรงนี้....

(66)

(67)

(66 – 67) ระดับน้ำ พอดี ๆ ....แต่ตามความรู้สึกของผม น้ำมากไปซะด้วยซ้ำ

(68 ) ภาพปริศนาธรรมของเจ๊ใหญ่ ประมาณ สี่โมงเย็นของวันที่ 19 พค.57 ......

ทันทีที่เห็น.....ข้าขอไปทำธุระก่อน กะเดี๋ยวมา.....
ความสุขเล็ก ๆ ของแกครับ......วันที่ 19 วันจันทร์ ...หวยจับยี่กี

.

DangSalaya · ตอบ: 26/05/2014 3:52 pm ชื่อกระทู้:

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6

บทที่ 1 – ตอนที่ 7 – 24 พค.57 ข้าวอายุ 46 วัน

(69) ทางปิด – เปิด น้ำเข้านา

(70)

(71)

(72)

(73)

(74)

(75)

(76)

(77)

(70 – 77) ข้าวรุ่นนี้ ผมปล่อยให้เจ๊ใหญ่แกดูแล เรื่องข้าวแกเก่งกว่าผมเพราะแกทำมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ส่วนเรื่องปุ๋ย ผมพยายามให้แกเปลี่ยนแนว มาทำตามแนวลุงคิม เอาซัก 90 % ก็ยังดี

และโปรดสังเกต เจ๊ใหญ่แกชอบดู ลิเก ข้าวอายุแค่ 46 วัน ทั้ง นก และ ลิเก(หญ้า) เริ่มออกโรงกันเป็นดงแล้วละครับ .....
.....ไอ้ทิด เอายาเดินลูบซักรอบดีมั๊ย....
.....โน บอกแล้วตอนตีเทือก ให้ย่ำสามรอบ เจ๊ใหญ่อยากไม่เชื่อฉัน....

(7

(79)

(78 – 79) เริ่มจะแตกกอ ระดับน้ำ 1 ข้อนิ้วมือ

(80) ต้น ชมเลียง ตั้งแต่รอดตายจากน้ำท่วม ไม่เคยออกลูกอีกเลย สงสัยกินน้ำมากจนเป็นหมัน

เผลอแป๊บ ๆ ข้าวอายุได้ 46 วันแล้ว อีก 50 กว่าวันก็ลุถ้นเกี่ยวกันอีกรอบ แต่เงินจำนำข้าวของบางคน สองรุ่นแล้ว ยังไม่ได้ซักกะตังค์....

.

wit · ตอบ: 28/05/2014 2:15 pm ชื่อกระทู้:

.

สวัสดีครับ ลุงคิม และทิดแดง และสมาชิกทุกท่าน

พอดีช่วงนี้งานยุ่งๆ เลยไม่ค่อยได้เข้ามาครับ แต่ก้อแอบดูเรื่อยๆ ครับ

ข้าวทิดแดงงามไว้นะนี่ ข้าวผมเพิ่งหว่านแห้งรอน้ำฝนไปตอนสงกรานต์ ฝนไม่ตกเลยได้สูบน้ำสระราดแทนพอให้ข้าวงอก

นับจากวันที่งอกก้อได้เดือนนิด ๆ แล้วครับ ไว้ว่างๆ จะลงรูปให้ชมครับ

ปีนี้บางคนหว่านรอฝนแล้วฝนไม่ต่อเนื่อง ทำให้งอกไม่ดี ได้หว่านใหม่เยอะคับ ส่วนใครใกล้คลองชลประทานก้อดีหน่อย ได้หว่านน้ำตม

.

hans · ตอบ: 28/05/2014 7:33 pm ชื่อกระทู้:

.

อิจฉาข้าวเขียว งามจริงงามจัง

kimzagass · ตอบ: 28/05/2014 8:44 pm ชื่อกระทู้:

.

DangSalaya · ตอบ: 29/05/2014 2:27 am ชื่อกระทู้: Kimlism

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6

บทที่ 1 – ตอนที่ 8 – 27 พค.57 ข้าวอายุ 49 วัน เซ็ง....
..........ขายมะพร้าวเป็นค่าก๋วยเตี๋ยวกินดีกว่า

อยากจะบอกคุณ Wit และป้า Hans ว่า

ข้าวที่เขียวเพราะเจ๊ใหญ่ แอบเอา ยูเรียไปหว่านเมื่อวันที่ 17 พค.57 ตอนที่ข้าวอายุ 39 วัน โดยที่ผมไม่รู้ และมารู้ภายหลัง และแกกำลังจะหว่าน 16-20-0 แต่ผมเบรกซะก่อนทัน

จากวันที่ผมรู้ ผมก็เลยไม่เสวนา ไม่พูดกับแกมาหลายวันแล้วครับ..โกรธก็ไม่ได้ ว่าก็ไม่ได้เพราะแกเป็นญาติผู้ใหญ่ แต่การอุเบกขา ไม่พูดด้วยคงไม่เป็นไร มั๊ง.....ขอเล่าให้ฟังนิดนึง

ผมทำนารุ่นแรก ถือเป็นรุ่นบุกเบิก เพราะเคยทำแต่สวน ไม่เคยทำนา และไม่รู้อะไรเลยในเรื่องการปลูกข้าว ไม่รู้จะถามใครเพราะถามแล้วไม่มีใครเค้าก็ไม่บอก

เจ๊ใหญ่เข้ามาช่วยตอนแม่โพสพตั้งท้องแล้ว .....คนแถวบ้านผม ขนาดซื้อยามาฉีดผัก ฉีดข้าว กลัวคนจะรู้ ยังฉีกป้ายข้างขวดยาออก ถ่ายยาใส่ขวดยาธาตุน้ำแดง ... ตัวไม่ตายก็ลูกเมียตายเพราะปวดท้องคิดว่าเป็นยาธาตุน้ำแดง ตายมาหลายรายแล้วด้วย....

เปิดตำราอ่านก็ไม่ In จึงใช้วิธีแบบง่าย ๆ Encyclopedia มีชีวิต...ตำราเดินได้(บ่นได้ ด่าได้อีกต่างหาก)....ลุงครับ....ลุงครับ ....ลุงครับ ..และลุงครับ..คือ ลุงครับเกือบตลอดฤดูทำนา....

ส่วนลุงก็ มีอะไรว่ามา.... มีอะไร.....มึงมีอะไร..... และมึงมีอะไรอีกมั๊ย....(เปิดระดับเสียงไล่ตาม วอลลุ่ม)

ผมเกือบจะลุงโว๊ยหลายครั้ง แต่ไม่กล้า...พอเสียงดังมา..

....มึงมีอะไรอีกมั๊ย ....

ผมก็ตอบ
ไม่มีอะไร คิดถึงลุงครับ เสียงหรี่ทันที

...มีอะไรว่ามา........

(ลุงไม่ต้องมาหัวเราะเลย ผมพูดเรื่องจริงน่ะ – ใครว่าลุงคิมดุ ลองดูก็ได้....จากร้อน ๆ กลายเป็นหนาว ถามป้าห่านดูเอาเอง.....จัดให้เต็ม ๆ ....สุดปลื้ม.)

บอกตามตรงไม่รู้จะบ่นอะไรนักหนา วันละ สองรอบ แปดโมงเช้ารอบ เย็นสองทุ่มอีกรอบ ผมก็บ้า ดันอัดเสียงไว้อีกซีเอ้า ... บางวันมีเสียงหมาเห่าแซมอีกด้วย เรียกว่ามีครบทุกสูตร.... การบ่นเป็นธาตุหลัก + ธาตุรอง / ธาตุเสริม เสียงหมาเห่า เป็นธาตุแซม...

……โถลุงครับ..ก็มันไม่รู้จริง ๆ ถึงได้ถาม. ไม่งั้น สมองลุงจะฝ่อหมดนะครับ... วันไหนมีคนถามก็บ่น ไม่มีคนถามก็บ่น..... หนัก ๆ เข้า วันไหนโทรถามแล้วไม่มีเสียงบ่น วันนั้นคิดหนัก...(คิดในใจ –เฮ๊ยวันนี้ลุงเป็นไรไปวะ) เพราะมันผิดปกติจากที่เคยเป็น

ครั้งแรกที่ทำ ถามวิธีทำนา ไม่มีใครบอก แต่พอรู้ว่าผมจะทำแบบอินทรีย์ ชีวภาพ ...อาจารย์มา(คอยสมน้ำหน้า)เพียบเลย ..
..เฮ๊ย มึงไม่ใส่ยูเรียไม่ได้ แด่......ก.... ทำแบบนี้เค้าเจ๊งกันมาแยะแล้วนามึงนา ไร่นึงมันต้อง ยูเรีย 2 ...16-20-0 - 1 ตามสูตรเว๊ย... (ผลที่สุด ข้าวของอาจารย์ โดนลมแรงเข้าหน่อยเดียว ล้มระเนระนาด กันเป็นแถว

ดูรูปในกระทู้ 3353 กระทู้นี้ อ่านแล้วสนุก มันได้อารมณ์ และ สะใจนิด ๆ คลิกเลยครับพี่

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3353&highlight=%A2%E9%D2%C7%E4%C1%E8%E3%CA%E8%C2%D9%E0%C3%D5%C2

ในที่สุดก็ได้ข้าวออกมาแบบ ทุลักทุเล พอสมควร ..ทำครั้งแรก ได้ข้าวเปลือกเป็นข้าวเปลือก....ดีใจแทบตาย

ตั้งแต่รุ่นที่ 3 ชักจะเก่งขึ้นบ้างแล้ว ผมจะทำแบบคนบ้า ๆ คือทำง่าย ๆ พ่นปุ๋ยทางใบ 3 in 1 + สมุนไพรทุก 10 วัน และสมุนไพรสารพัดอย่างล้วน ๆ ทุก 5 วัน อาจจะมี ธาตุรอง / ธาตุเสริม และ ฮอร์โมนพวก เอ็นไซม์ อื่น ๆตามความเหมาะสม แบบคนไม่บ้าไม่กล้าทำ .

พูดถึง เอ็นไซม์ พืช..ทำให้นึกขึ้นได้ว่า ....ผมเคยได้รับแจก นาโน แคปเขียว.มาให้ทดลองใช้ 5 แคปซูล (มีใครเคยเห็นบ้างไหมครับ) วันที่เค้ามาโปรโมท ที่ศาลาตอแหล๋กลางหมู่บ้าน เค้าบอกว่า 1 แคปซูล เทียบเท่าปุ๋ย 2 กระสอบ …แคปซูลละ 200 เทียบเท่ากับใส่ปุ๋ย 2 กระสอบ (ราคา 2,000) มันอะไรจะปานนั้น 1 แคป ผสมน้ำ 200 ลิตร ก็ตกราคา ลิตรละ 2 บาท

ดูในจอโปรเจ็คเตอร์ แม่จ้าวโว๊ย พืชผัก ข้าว อ้อย มะม่วง มะนาว อะไร ๆ มันงามซะเหลือเกินกิน.....เซลล์คุยน้ำไหลไฟดับ.....ชาวนาโน ซื้อกันใหญ่ .

...ผมคนโง่และคนบ้า นาบวม .... ไม่ได้ซื้อ รับแจกฟรีลูกเดียว ...แถมสะกิดไอ้จิต.(คนที่เคยบอกว่ามันอยากบวชน่ะครับ) เอ็งไปรับเอามาให้ข้าอีกซองทีวะ..... ได้การเลย ไอ้จิตสำแดงมาดตามที่ถนัด

.....คุณ ๆ ฉันมีนาร่วมร้อย ...อยากขอไปทดลองซักเม็ดสองเม็ด ถ้าใช้ดีเดี๋ยวจะ ออร์เดอร์ ขอนามบัตรเผื่อไว้ติดต่อด้วย....(มีออด้ง ออร์เดอร์ เล่นภาษาประกิตซะด้วย)

ทุกคนมองไอ้จิตเป็นตาเดียว แต่ไม่มีใครพูด ได้แต่ยิ้ม ๆ ..ก็ของมันรู้ ๆกันอยู่

….นาพี่อยู่ที่ไหนครับ ผมอยากไปสาธิตให้ดู....

....อยู่ดอนกระทุ่ม พิษโลกโน่น ...พอดีมาบ้านญาติ แถวโน้น นาแยะ ๆ กันทั้งนั้น คนนึงร้อย ร้อยกว่า ....มีโอกาส ไปโปรโมทแถวโน้นมั่งซี่ รับรองของดี ๆ อย่างนี้ คนซื้อกันตรึมก็แล้วกัน

....พี่มาไกล ผมให้พี่ไปทดลองเลย 2 ซอง(10 แคป) นี่ครับนามบัตร ....เดี๋ยวจบแล้วขอคุยด้วยอีกนิดนะครับ .....

เรียบร้อยไอ้จิตกู ....มันเดินเข้าร้านค้า ผมเดินตาม ....ยื่นซอง นาบวม เอ๊ย นาโนให้ผม พร้อมนามบัตรเซลล์

....ทิด งานนี้ขอค่าน้ำร้อยนึง แก้คอแห้ง.....

...โห เล่นบทหนักนะเอ็ง...ข้าให้เอ็งกลมนึงไปเลย นาเอ็งมีร่วมร้อยเชียวนิ ล่อซะ 2 ชุด .แล้ว. ดอนกระทุ่ม พิษณุโลก มันอยู่ตรงไหนวะ เคยได้ยินแต่บางกระทุ่ม....

....ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่ามันส่ง ๆ ไปงั้นแหละ ฉันไปก่อนละ...

....ไอ้จิต ได้ไปกลม ผิวปากเดินออกหลังร้านค้าแล้วไปทางไหนต่อ หรือจะกลับไปดอนกระทุ่ม ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
ส่วนผมก็แยกทางกลับนิวาสสถาน แม้จะเล็ก แต่รับรองว่า อบอุ่น..และ มีน้ำใจเพียบเกินพอ ....อยากได้อะไร หยิบเอาไปได้เลย ไม่ใช่ของผมซักกะอย่าง

หลังจบรายการโปรโมท เซลล์คงถามหาไอ้จิต และทุกคน ณ ที่นั้น ซึ่งซื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นศาลาตอแหล๋ ก็คงจะบอกว่า ไอ้จิตมาจากพิษณุโลก มาเยี่ยมญาติ แต่ไปทางไหนแล้วไม่ทันเห็นเหมือนกัน ...

เล่าเรื่องให้ฟังแล้ว ผมต้องมีหลักฐานประกอบ มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่า ผม น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งไม่มีขึ้น เพราะโดนยาฉีดหญ้า ตายเรียบ....

(104) นี่แหละครับ นาโน ที่ไอ้จิต คนมีนาร่วมร้อย ได้รับแจกมา 2 ซอง พร้อมนามบัตร ..ผมเก็บเอาไว้จนลืม แคปซูลและตุ้มเป๊ะ กลายเป็นนาบวม เป็นแบบนี้ไปเลย......

ทำไมผมไม่ใช้.....

ใช้ครับ ผมทดลองใช้ซองที่ได้รับแจก ใช้ไป 3 แคป แล้วก็เก็บ ...ตอนนี้วางไว้ไหนหาไม่เจอ...

ผลของการใช้ก็คือ - ของดี ย่อมต้องมีของที่ดีกว่า ของไม่ดีและของที่ดีกว่า ย่อมต้องมีของที่ดีกว่าของดี
อ่านแล้ว งง ผมเขียนเองอ่านแล้วยัง งง เลยครับ

(105) ใช้เปรียบเทียบกันแล้ว แคปละ 200 ละลายน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นได้เนื้อที่ 10 ไร่

จากการสังเกต ใช้ไอ้นี่ ซองสีเขียว ธาตุรอง / ธาตุเสริม – ธาตุแซม ซองละ 5 บาท + ซองสีส้ม(เหล็กคีเลท) ซองละ 5 บาท 1 ซอง น้ำ 20 ลิตร เพราะฉะนั้น น้ำ 200 ลิตรก็ใช้ อย่างละ 5 ซอง = 50 บาท

ความรู้สึกของผมที่พืชผักมันตอบสนองต่อสารที่ฉีดพ่น ..นาโน กับ นาไม่โน.. แทบจะไม่แตกต่างกัน ทำให้ผมจินตนาการ ไปว่า เค้าเอา วัสดุในซอง สีส้ม มา + ไอ้นู่น ไอ้นี่ ไอ้นั่น แล้วอัดแคปซูลขายหรือเปล่า เพราะสีมันออกดำ ๆ ... ผมก็ไม่รู้นะครับ อาจจะเป็นความเหมือนที่แตกต่างกันก็ได้....

จากนาข้าว ออกไปนาโน ไถลไปออกนาบวม แล้วก็กลับมาที่นาข้าวกันต่อ

เนื่องจากระยะนี้ผมไม่ค่อยมีเวลา ต้องวิ่งรอกไป ๆ มา ๆ บางใหญ่ – นครปฐม ดังนั้นข้าวรุ่นที่ 6 ผมก็เลยมอบให้เจ๊ใหญ่เป็นคนช่วยดูแล แต่ขอให้ทำตามวิธีที่ผมเคยทำ แต่ความเคยชินที่แกเคยทำตั้งแต่เด็ก ก็มักจะไม่ค่อยทำตามที่ผมเคยทำ เช่นว่า

- ปล่อยน้ำเข้ามากเกินไปให้ข้าวแช่น้ำ ซึ่งผมบอกแกว่า ผมไม่ชอบแบบนั้น ผมชอบแห้ง ๆ แค่หน้าดิน....

- แกบอกว่า ข้าวมันต้องใส่ยูเรีย ใส่ 16-20-0 ผมบอกไม่ใส่ สุดท้ายแกก็แอบใส่จนได้ ...

.รุ่น 6 ผมหว่านข้าววันที่ 8 เมษา ระหว่างที่ผมอยู่บ้าง ไม่อยู่บ้าง ก็บอกแกไว้เรียบร้อยว่า วันไหนจะทำอะไรบ้าง เพื่อกันลืม วิธีกันลืมของผม....ทำยังไง

(106)

(107)

(106– 107) ผมทำแบบคนบ้าตามประสาของผม.... จดใส่ปฏิทินเอาไว้เลยเพื่อกันลืมว่า วันที่เท่าไหร่ จะต้องทำอะไร ถ้าสงสัย โทรถามกันได้ ....

ผมอยากให้เจ๊ใหญ่แกเปลี่ยนแนวความคิดจากเดิม ๆ ที่ต้องลงทุนสูง มาเป็นแนวลุงคิม เพื่อลดต้นทุน แต่ความที่เคยทำ เคยเป็น แกก็เลยอดไม่ได้ ที่จะต้องทำตามแบบเดิม ๆ

ลุงคิมถึงพูดนักพูดหนาว่าการเปลี่ยนทัศนคติคนมันยาก เพราะมันฝังรากลึกเข้าไปในก้นบึ้งของความทรงจำแล้ว แต่งานนี้เล่นไม่ยาก ....

หลังจากที่ผมรู้ว่าแกใส่ ยูเรีย ผมโทรหา เฮียโรงขนมจีน....คุยบอกเล่ากันให้รู้เรื่องว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าว่างเมื่อไหร่เชิญมาที่ผมหน่อย...

..วันรุ่งขึ้นเค้าก็มาที่บ้าน ผมก็เชิญเจ๊ใหญ่มาคุยกันต่อหน้า.....ผมร่ายยาวเป็นฉากเลยว่าอะไรเป็นอะไร .....เจ้าของโรงขนมจีนบอกแกว่า ...

..ถ้าเจ๊ใหญ่ไม่ทำตามที่ทิดแดงเคยทำ ผมจะไม่รับซื้อข้าวทั้งของทิดแดงและของเจ๊ใหญ่ ในราคาที่ผมเคยรับซื้อ เพราะถือว่าผิดคำพูด.....
...ไม่เป็นไรครับเฮีย ....ผมผิดเอง ก็คงต้องขายโรงสีเกวียนละไม่ถึง 6 พัน

....เอาไว้ใกล้เกี่ยวแล้วผมจะเข้ามาดูอีกที....

ได้ผลเกินคาดครับ .....เล่นเอาเจ๊ใหญ่หน้าหน้าจ๋อย ซึมไปเลย นึกไม่ถึงว่าผมจะใช้ไม้นี้....ผมบอกแกว่า

.....ต่อนี้ไป เจ๊ใหญ่อยากทำแบบไหน เชิญตามสบาย ข้าวแปลงนี้ผมยกให้เจ๊ใหญ่ก็แล้วกัน เพราะผมผิดคำพูดกับเฮียเค้าแล้ว ผมอายเค้าที่ทำตามสัญญาไม่ได้....

จากวันนั้นผมก็ไม่พูดกับแก......และระหว่างผมกับเฮียโรงขนมจีน No PromPram ขำกลิ้งอีกต่างหาก มันต้องแบบนี้แหละครับ

ยูเรีย 7 ไร่ 3 กระสอบ ๆ ละ สด 800 เชื่อ 980 .(ต้นทุนเพิ่มอีก ไร่ละ 800) ...แกไปเชื่อทิดแกละ ร้านขายปุ๋ยเอาไว้(ตังค์ก็มี แต่ชอบซื้อเชื่อ) .
....ผมไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทิดแกละฟัง และจ่ายเงินค่าปุ๋ยเซ็นบิลคืนมาเป็นที่เรียบร้อย ยังได้ Refund คืนทุนมาอีก 100 เป็นค่า ข้าวแฝ่ ...แต่บอกว่า ถ้าแกเอามาจ่ายเก็บให้ผมด้วย ยังไง ๆ ก็อย่าบอกแกก็แล้วกัน.....ทิดแกละบอกว่า....

.เอ็งนี่แสบจริง ๆ บาปกรรมตายห่ะ ทำคนแก่ ดีที่ไม่ช๊อค ตอนเฮียขนมจีนบอกจะไม่รับซื้อ ....

...ทิดแกละจะให้ฉันทำยังไง แกเป็นผู้ใหญ่ แล้วแกก็มีบุญคุณกับฉัน ว่าก็ไม่ได้ โกรธก็ไม่ได้ ก็ต้องทำแบบนี้แหละ ..เจ๊ใหญ่แกหนังเหนียว แค่นี้ไม่ช๊อคหรอก......

....เออว่ะ อย่างเอ็งว่า สอนมวยคนแก่ เจ๊ใหญ่หัวรั้นจะตายห่ะ....แล้วอีรองรู้หรือเปล่า .....
....รู้ ฉันเล่าให้ฟัง...

....แล้วมันว่ายังไง....
....เค้าก๊อหัวเราะบอกว่าฉันทำบ้า ๆ ทำยังกะเด็ก ๆ แต่เค้าว่า ก็ดี จะได้หายรั้นซะบ้าง ….

(108 )

(109)

(110)

(108 – 110) ข้าวอายุ 49 วัน ท่ามกลางอากาศมืดครึ้ม เห็นข้าวแล้ว มันเขียวซะจนไม่อยากมอง ตามด้วย ข้าวนก ข้าวหนู ข้าวลิเก เริ่มงอก แล้วจะโตแข่งกับข้าว

ถึงวันนี้ มาได้ครึ่งทางแล้วครับ เหลือเวลาอีก 50 วัน เกี่ยว

(111)

(112)

(113)

(111 – 113) ขายมะพร้าวพอได้ค่าก๋วยเตี๋ยว รุ่นนี้เก็บได้น้อยหน่อย หกร้อยกว่าลูก @ 10 บาท.....ที่ได้น้อยเพราะเพิ่งเก็บเอาไปช่วยงานบวชพระ สององค์ ประมาณสามร้อยกว่าลูก....มะพร้าวในสวนผม ได้ช่วยงานบวชพระทุกปี .....นี่กลางเดือนหน้า ก็ยังมีบวชอีกองค์.... หลังตาย ผมคงได้กินแต่มะพร้าว ตั้งแต่อ่อนยันแก่ แถมยอดมะพร้าวไม่แกงก็ผัดกุ้ง

งวดนี้ขายมะพร้าวได้ 6 พันนิด ๆ ใส่ซองให้ปู่ค่าหมากพลูบุหรี่ไป 500....เหน็บใส่ย่ามของเจ๊ใหญ่ไว้ 2 พัน (คนไม่พูดกันก็ต้องทำแบบนี้แหละ) ให้แกไปต่อทุน 12 เดนตาย (หวยจับยี่กี) ถ้าแกโชคดี เดี๋ยวแกก็เอามาคืนทุนผมเอง( + ดอกไม้ที่ออกดอกได้ทุกสภาวะ)

(114) มันสายพันธุ์อะไรของมันวะเนี่ย บอกได้คำเดียวว่า ดกรากดินจริง ๆ สงสัยผมต้อง ตามล่าหาความจริงกันอีกซะแล้ว

ก็มีเรื่องเล่าสู่กันฟังแค่นี้ ....

แก้ง่วงครับช่วยตัดสินหน่อยครับว่าใครคือคนผิดจะได้ลงโทษให้สาสม

เรื่องมีอยู่ว่า ยายสี กะ ยายสอย เป็นเพื่อนบ้านกันมานานประกอบอาชีพเกษตรกรรมทั้งคู่
ยายสีนั้นเลี้ยงหอย ส่วนยายสอยเลี้ยงหมี

อยู่มาวันหนึ่ง
ยายสีเลี้ยงหอย ฟ้องยายสอยเลี้ยงหมี ว่า
หมีของยายสอย มากัดหอยของยายสี

แต่ยายสอยที่เลี้ยงหมี ปฏิเสธและฟ้องกลับยายสีเลี้ยงหอยว่า
หอยของยายสี มากัดหมีของยายสอยต่างหาก
พร้อมกับอ้างว่า ที่ปากหมีของยายสอย ไม่มีหอยของยายสีให้เห็นเลย
ตรงกันข้ามมีหลักฐานว่า
ที่ปากหอยของยายสีนั้น กลับมีขนหมีของยายสอยติดอยู่"

อ่านแล้วมึน
ตกลงใครผิดครับ ...ผมหรือเจ๊ใหญ่

ขอบคุณครับลุง.....

ขอเพิ่มเติมนิดนึงครับ......
กำลังจะส่งพอดีได้รับ จดหมายข่าว ผลิใบ หนังสือดี และของฟรี

ผมเคยบอกเพื่อน ๆ มาหลายครั้งเกี่ยวกับหนังสือฉบับนี้ ไม่รู้ว่ามีเพื่อนสมาชิกคนไหนสนใจขอไปหรือเปล่า..ขอไปได้เลยครับ หูตาจะได้กว้างไกล....

(115)

(116)

(115 – 116) ฉบับนี้ เป็นฉบับเดือน มีนาคม 2557 ถ้าใครอยากได้ เขียนขอไปตามที่อยู่ข้างล่างนี่......ฟรีครับ ฟรี

(117) เขียนจดหมาย ขอไปที่นี่ ตามที่อยู่นั้นแหละ ครับ

.

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6

บทที่ 2 – ตอนที่ 1 – 31 พค.57 ข้าวอายุ 53 วัน ยังไม่หายเซ็ง....

(118) หายไปนาน เพื่อยามรัตติกาลของผม รุ่นนี้คงจะเป็นรุ่นหลานของรุ๋นก่อนนู๊นแล้วมั๊งครับ ...แม้สายใยจะเส้นน้อย ๆ แต่ก็ช่วยดักยุง ดักแมลงได้บ้างหรอกน่า.....ไปดูข้าวฝีมือเจ๊ใหญ่ อายุ 53 วันกันหน่อยครับ...

.เรื่องของเรื่อง ผมคงทิ้งไม่ได้เพราะรับปากเฮียโรงขนมจีนเอาไว้แล้วว่าจะช่วยดูให้ถึงที่สุด ใส่ยูเรีย 7 ไร่ 3 กระสอบแค่นั้น จิ๊บจ๊อย (แต่แกล้งคนแก่นี่ซิ มันส์)...เพราะที่ใช้อยู่เดิมก็อินทรีย์ – เคมี (Bio-Chamical) อยู่แล้ว แต่เฮียแกขอร้องเรื่องอย่าใช้สารเคมียาฆ่าแมลงเท่านั้นเอง

(119)

(120)

(119 – 120) แว่วสำเนียงเสียงเจื้อยแจ้ว พระเอกลิเก เค้ามาแล้วพระคุณเจ้าขา..

..บอกให้ย่ำสามครา เจ๊ใหญ่ไม่เชื่อวาจา ดันมาย่ำแค่รอบเดียว ..

.ก็เชิญเกี่ยวเองเถิดหนา เพราะฉันปวดเมื่อยกายา แข้งขาไม่ค่อยมีแรง

อย่ามาบ่นว่าฉันไม่ช่วย เพราะบอกแล้วก็ไม่ฟัง อยากทำงานสองครั้ง เลยต้องมานั่งกลอกตา...

...เตร๊ง เตรง เตร่ง ต๋อย ไฟไหม้หอยแมลงภู่ ก็เพราะมีความจำเป็นในรอบเดือน

(121)

(122)

(121 – 123) นี่ก็นก นั่นก็นก นู่นก็นก นกอะไรเอ่ย ...ไม่ใช่นกเขา ไม่ใช่นกเรา แต่ไม่ใช่น้องนกแน่ ๆ

(124)

(125)

(124 – 125) ข้าว 53 วัน อะไรกันว๊า มีรวงโผล่มาได้ไงว๊าเนี่ย ไม่เคยมีนี่หว่า มาจากไหนว๊า ...ดึบ ๆ เด้งดึ๋ง ดีดผึงเต็มนา กูตายแน่ ๆ

(126)

(127)

(126 – 127) ชอบทำงานสองครั้งก็แบบนี้แหละ ต้องมาเหนื่อยไล่ถอนก่อนเมล็ดจะแก่ ร้อนก็ร้อน ถอนคนเดียวนะจ๊ะ แข้งขาฉันไม่ค่อยดีจร้า

(128 )

(129)

(130)

(131)

(132)

(133)

(134

(135)

(128 – 135) โดยรวม ๆ ก็ดูดีอยู่ เจ๊ใหญ่แกใส่ ยูเรียไปเมื่อ 17 พค.57 ถึงวันนี้ 31 พค. ก็ได้ 15 วันเนาะ

มันอยากเขียวดีนัก ดังนั้นเมื่อตอนสาย ๆ ก็ให้เจ้าแจ้มาฉีด ธาตุรอง / ธาตุเสริม + แม็ก – สังกะสี.... ให้เจ้าสายชล ฉีด แคล – โบ ตามตูด เอาให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปข้าง ...ใครดีใครอยู่ละงานนี้....

(136)

(137)

(138 )

(139)

(136 – 139) คนทำนาแบบยึดติด ทำตาม ๆ กันมา ข้าวต้องแช่น้ำ ไม่แช่น้ำมันจะตาย...

..ก็ดูเอาซีครับว่า ข้าวจะ 60 วันรอมร่ออยู่แล้ว มันแตกกอซะที่ไหนกัน มันได้แต่สูงหนีน้ำ ..ยังไง ๆ รุ่นนี้เชื่อขนมกินได้เลยว่า ไม่ถึง 3 อุ้ม......อากาศแบบนี้ น้ำดีแบบนี้ ดินก็น่าจะดีแบบนี้ ควรจะ 3 อุ้มเต็ม ๆ

(140) เค้าเรียก มะพร้าวไฟครับ เอาพันธุ์มาจากบ้านสวนที่คลองสาน นานแล้ว กินไม่เป็นสับปะรดเพราะมันไม่ใช่สับปะรด น้ำเปรี้ยว เนื้อบางจ๋อย คนโบราณเค้าปลูกเอวไว้ทำยาครับ

แต่ตอนนี้ น่าจะปลูกแยะ ๆ เพราะห้องแลปเพาะกล้วยไม้ ต้องการน้ำมะพร้าวไฟอย่างมาก เค้าบอกว่า น้ำมะพร้าวไฟเพาะกล้วยไม้งอก และแข็งแรงดีกว่าน้ำมะพร้าวอื่น ๆ อาจจะ จิ๊บ หรือ เอ็นเอเอ แรงมั๊ง

(141) ถ้าไม่บอกคงไม่รู้ นึกว่าผมคงบ้าอะไรขึ้นมา เอาต้นไม้ตายซากมาให้ดู อดีตก่อนน้ำท่วมคือ ชมพู่ม่าเหมี่ยวครับ ....ยืนต้นตายโด่เด่มาตั้งแต่หลังน้ำท่วมปลายปี 54 เหลือไว้แต่ความทรงจำ

.