ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 30 JUN..... ดินเป็นกรด, ทุเรียนอ่อน, สารสกัดสาบเสือ, ราดสารบังคับมะม่วง

[kimzagass]

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 30 JUN

วิทยุ ปตอ. AM 594 เวลา 08.15 & 20.05 ทุกวัน

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

... สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี (089) 814-3204
2 )“คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (สั่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

-------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 – 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ดินเป็นกรด แก้ไขอย่างไร....?

ตอบ :
- เกิดจาก 2 สาเหตุ คือ .... 1) เป็นกรดเองตามธรรมชาติเพราะไต้พื้นดินมีกรดซัลฟูริคส์ (กำมะถัน) แล้วคนขุดดินนั้น ทำให้กรดขึ้นมา เช่น พื้นที่ อ.องค์รักษ์ จ.นครนายก พื้นที่ป่าพรุภาคไต้ กับ .... 2) เป็นกรดเพราะคนใส่กรดลงไป เช่น ปุ๋ยเคมีเหลือตกค้างเนื่องจากพืชนำไปใช้ไม่หมด (ไนโตรเจนกลายเป็นไนเตรท ไนไตรท์) สะสมยาฆ่าหญ้า (ตัวยาฆ่าหญ้าเป็นกรด) สะสมสารเคมียาฆ่าแมลง (ตัวสารเคมีเป็นกรด) กรดจากแหล่งอื่น เช่น มูลสัตว์จากคอกที่ล้างคอกด้วยโซดาไฟ มูลสัตว์สดใหม่ เป็นต้น

- การแก้ไข :
.... ดินเป็นกรดโดยธรรมชาติ : ดินเป็นกรดเพราะมีกรดซัลฟูริคส์มาก ซึ่งปกติกรดซัลฟูริคส์นี้จะอยู่ลึกกว่าผิวดินเสมอ เมื่อจะปลูกไม้ผลยืนต้นบนดินแบบนี้ให้เลิกขุดดิน (ขุดหลุมปลูก) หรือขุดหลุมให้ตื้นที่สุดเท่าที่ไม้ต้นนั้นสามารถสร้างรากเจริญยาวไปตามผิวหน้าดินได้ กับการเลี้ยงหญ้าให้คลุมหน้าดินตลอดเวลา ทั้งนี้ หน้าดินที่มีหญ้าคลุมจะเกิดจุลินทรีย์และจุลินทรีย์เป็นช่วยปรับโครงสร้างดินไม่ให้เป็นกรดจัดหรือเป็นกรดแค่กรดอ่อนๆที่ต้นไม้ชอบได้ นอกจากนี้สารอาหารพืชในเนื้อดินจะมีที่ความลึกไม่เกิน 1 คืบมือเท่านั้น นั่นคือ การปลูกแบบขุดหลุมตื้นๆจะช่วยให้รากเจริญยาวเร็วขึ้นและรากจะแผ่กระจายทั่วพื้นที่ดี ตรงกันข้ามกับการขุดหลุมปลูกลึกๆ (50 x 50 ซม.) นอกจากไปเจอกับกรดจัดในดินแล้ว ในดินลึกก็ไม่มีสารอาหาร เมื่อรากเจริญยาวในหลุมลึกๆ หาสารอาหารไม่ได้ รากส่วนหนึ่งจะเจริญยาววนไปวนมาภายในหลุม เรียกว่า “ราก วน” เป็นเหตุให้ไม้ต้นนั้นไม่โต เรียกว่า “งัน หรือ นั่งหลุม” แต่รากส่วนหนึ่งจะเจริญยาวขึ้นไปที่ปากหลุมสู่ผิวดินเพื่อหาสารอาหาร ซึ่งเท่ากับทำให้เสียเวลา....สัญชาติญานทางธรรมชาติของพืช มีสารอาหารและอากาศที่ไหน รากจะเจริญยาวไปที่นั่นเสมอ

.... ดินเป็นกรดเพราะฝีมือคน : สาเหตุเกิดจากคนใส่กรดลงไป เช่น ใส่ปุ๋ยเคมีมากเกิน พืชเอาไปกินไม่หมด เหลือตกค้างในดิน หรือปุ๋ยเคมีถูกดินตรึงไว้ โดยไนโตรเจนจะเปลี่ยนรูป (ทางเคมี) กลายเป็นไนเตรท หรือไนเตรท์ ซึ่งมีสถานะเป็นกรดจัด แก้ไขโดย งดใส่ปุ๋ยเมีเด็ดขาด 1-2-3 รุ่นแล้วแต่ชนิดพืช แล้วส่งเสริม “กระบวนการจุลินทรีย์ แบบครบวงจร” เพื่ออาศัยจุลินทรีย์ปลดปล่อยปุ๋ยที่เหลือตกค้างในดินให้ออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืช

.... ดินเป็นกรดเพราะ สารกำจัดวัชพืช แก้ไขโดย “เลิก” เด็ดใช้ขาด แล้วใช้วิธีธรรมชาติในการกำจัดแทน, ดินเป็นกรดเพราะสารเคมียาฆ่าแมลง แก้ไขโดย “เลิก” แล้วใช้สารสมุนไพร ควบคู่กับวิธีป้องกันกำจัดแบบผสมผสาน (ไอพีเอ็ม) แทน

.... การบำรุงพืชให้สมบูรณ์แข็งแรง จะช่วยให้ต้นพืชเกิดภูมิต้านทานในตัวเองต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บเองได้

---------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 – 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ลีลาวดีไม่ออกดอก แก้ไขอย่างไร....?

ตอบ :
- ทางดิน : ใส่ ยิบซั่ม กระดูกป่น ขี้ไก่แกลบ ทุก 6 เดือน, ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ต้นละ 1-2 กำมือ ทุก 2-3 เดือน .... ให้น้ำพอหน้าดินชื้น
- ทางใบ : ให้ฮอร์โมนไข่ (ทำเอง) + 0-52-34 ทุก 15-20 วัน

---------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 – 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : เศษหญ้าสดๆ ใส่ต้นไม้ได้ไหม....?

ตอบ :
- ใส่ได้ หนาหรือบางไม่มีปัญหา ทิ้งไว้ 3-5-7 วัน หญ้าจะแห้งคลุมหน้าดินรอเวลาย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยต่อไปเอง....จากหญ้าธรรมดาๆ ทำเป็น “หญ้าซุปเปอร์” โดยใส่เพิ่มปุ๋ยคอกลงไป

---------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 – 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ไม้ยืนต้นอะไรที่น้ำท่วมไม่ตาย....?

ตอบ :
- ตาล มะพร้าว หมาก มะกอกน้ำ ทนน้ำท่วมระดับอก ถ้าน้ำไม่ท่วมยอด ไม่ตาย

---------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 – 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ปลูกบัวเพื่อขาย ให้ปุ๋ยตัวไหน.....?

ตอบ :
- ให้นมสดเดี่ยวๆ หรือนมสดซุปเปอร์ (นมสด + 0-52-34 + รอง/เสริม) สูตรใดสูตรหนึ่ง หรือสลับสูตรให้อาทิตย์ละครั้ง ช่วยให้ดอกออกมาก ใบใหญ่หนาเนียว

---------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 – 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : อยากให้มะลิดอกใหญ่ๆ ใช้ปุ๋ยสูตรไหน....?

ตอบ :
- ทางใบ : ให้ “21-7-14 + ไคโตซาน + อะมิโนโปรตีน” ทุก 7 วัน
– ทางราก : ใส่ยิบซั่ม กระดูกป่น ปุ๋ยอินทรีย์ ทุก 3 เดือน
– มะลิดอกใหญ่เพราะกลีบดอกขยายขนาด แต่จำนวนกลีบยังเท่าเดิม

---------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 – 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ตัดกิ่งลั่นทมเก็บนานทำอย่างไร....?

ตอบ :
- ตัดยาวๆ 1 คืบมือขึ้นไป เด็ดใบออกให้หมด จุ่มน้ำให้เปียก ใส่ถุงพลาสติกรีดอากาศในถุงออกให้หมด เก็บในร่ม อยู่ได้นานนับอาทิตย์ เมื่อจะนำลงปลูกหรือชำ ให้ตัดแต่งแผลรอยตัดใหม่

---------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 – 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : รากพริกไทยไม่เกาะหลัก (หลักคอนกรีต) แก้ไขอย่างไร....?

ตอบ :
- เพราะหลักคอนกรีตร้อน แก้ไขโดยให้มี “กิ่งไม้ ใบไม้” บังแดดไม่ให้หลักคอนกรีตร้อน แล้วบำรุงตามปกติ รากจะเจริญยาวออกมากาะหลักเอง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 – 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : มังคุด 7 โลร้อย กินได้โลเดียว ที่เหลือเสีย กินไม่ได้ ก่อนซื้อเลือกอย่างไร.....?

ตอบ :
- พ่อค้าเร่รับซื้อมาแบบ "เหมาสวน" แบบนี้เจ้าของสวนแทบไม่มีกำไรเลย นี่สัจจธรรมของมังคุดในฤดู
- เลือกมังคุดให้ดู สีผิวสวยใสเรียบ หมวกที่โคนขั้วใหญ่หนาเขียวสด บีบเบาๆ แล้วรู้สึกถึงความนิ่ม ไม่มีร่องรอยของเพลี้ยไฟที่ผิว

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 – 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ทุเรียนโดนฝนแล้วไม่สุก แก้ไขอย่างไร....?

ตอบ :
- ตามปกติช่วงผลแก่ใกล้เก็บมักใส่ปุ๋ยทางรากสูตร “8-24-24” หรือ “9-26-26” ควบคู่กับการให้ปุ๋ยทางใบสูตร “0-0-50 หรือ 0-21-74 + ธาตุรอง/ธาตุเสริม” ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าจะมีฝนแล้วก็ควรให้ล่วงหน้าเป็นการเตรียมตัวไว้ก่อนจะได้ประสิทธิภาพดีกว่าฝนตกแล้วจึงให้

- ผลแก่ใกล้เก็บแล้วได้รับน้ำจากฝนทำให้ผลแก่ช้า อายุผลที่ควรแก่จัดตามกำหนดจึงต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด การปฏิบัติสำหรับขั้นตอนนี้ คือ ให้ปุ๋ยทั้งทางรากและทางใบสูตรดังกล่าวไปเรื่อยๆ พร้อมกับเปิดหน้าดินโคนต้นให้แสงแดดส่องถึงพื้นดินมากๆ เมื่อมีแสงแดดหรือฟ้าเปิด ทำร่องระบายน้ำป้องกันน้ำขังค้างโคนต้น หลังจากฝนหมดแล้วให้บำรุงด้วยสูตรเดิมทั้งทางใบและทางรากต่อไปอีกพร้อมกับงดน้ำ 15-20 วัน ระหว่างนี้ให้สังเกตุการเปลี่ยนแปลงของผล แล้วสุ่มเก็บมาผ่าดูภายในก็จะเห็นและรู้ว่าสมควรต้องยืดอายุผลออกไปอีกนานเท่าไรผลจึงจะแก่จัดและเก็บเกี่ยวได้

- วิธีเก็บเกี่ยวทุเรียนของชาวสวนทุเรียนเมืองนนทบุรี “ไม่ใช้” วิธีนับอายุผล เพราะรู้ว่าเอาแน่นอนไม่ได้ เนื่องจากน้ำใต้ดินโคนต้นหรืออาจจะมีฝนตก แต่ใช้วิธีปล่อยให้ผลใดผลหนึ่งร่วงจากต้นลงมาเองก่อน 1 ผล แล้วเก็บผลร่วงนั้นมาผ่าดูภายในก็จะเห็นชัดว่าทุเรียนแก่สมควรเก็บเกี่ยวได้หรือยัง เมื่อเห็นว่าแก่จัดเก็บเกี่ยวได้แล้วจะลงมือเก็บผลที่เป็นรุ่นเดียวกันนั้นก่อน จากนั้นอีก 7 วันจะลงมือเก็บรุ่นสอง และรุ่นสามไปเรื่อยๆ แต่ละรุ่นห่างกัน 5-7 วัน จนกระทั่งหมดทั้งต้น

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

จาก : (088) 234-16xx
ข้อความ : มีสาบเสือ กำลังออกดอก มีลูกเต็มต้น เอามาทำสมุนไพร ดีไหม กับมะม่วงแม่ลูกดกขี้กลากจับลูกเสียหายมาก แก้ไขได้ไหม พริกใหญ่โดนยาฆ่าหญ้า ใบหงิก แก้ไขยังไง ....กระทุ่มแบน

ตอบ :
- จากงานวิจัยระบุว่า พืชสมุนไพรทุกชนิด ระยะออกดอกจะให้สารออกฤทธิ์แรงที่สุด เพราะฉนั้น เอามาทำสารสมุนไพรจะได้ตัวยาแรงดี .... ในแต่ละท้องถิ่นมีชื่อไม่เหมือนกัน เช่น ช้าผักคราด ไช้ปู่กอ ชิโพกวย เซโพกวย บ่อโส่ บ้านร้าง เบญจมาศ ผักคราด ผักคราดบ้านร้าว ฝรั่งรุกที่ ฝรั่งเหาะ พาทั้ง เพาะจี แคมนทน มุ้งกระต่าย ยี่สุ่นเถื่อน รำเคย เส้โพกวย หญ้าค่าพั้ง หญ้าดงร้าง หญ้าดอกขาว หญ้าฝรั่งเศส หญ้าพระศิริไอยสววค์ หญ้าเมืองวาย หญ้าเมืองฮ้าง หญ้าลืมเมือง หญ้าเลาฮ้าง หญ้าเหม็น หนองเส้นเปรง หมาหลง หญ้าเสือหมอบ หญ้าครกขาว หญ้าเมืองงาย ..... มีสารยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแอ็นแทรคโนส ใน พริก มะเขือ มะม่วง ราดำในใบมะม่วง แมลงพวกปากดูดใบพืช เพลี้ยจั๊กจั่น เพลี้ยไฟ

.... พืชสมุนไพรในกลุ่มนี้ ได้แก่ สาบแล้งสาบกา กะเพราผี แมงลักคา ตูดหมูตูดหมา การนำมาใช้ควรใช้หลายๆอย่าง

.... วิธีทำสารสมุนไพรสาบเสือ “สาบเสือสด กำลังมีดอก ใส่ปี๊บเกือบเต็ม ใส่น้ำให้ท่วม ต้มความร้อน 70-80 องศา นาน 3-4 ชม. ปล่อยให้เย็น เอาสาบเสือที่ต้มแล้วออก ใส่สาบเสือใหม่ ต้มซ้ำรอบ 2 ต้มเหมือนเดิม เอาสาบเสือที่ต้มแล้วออก ใส่สาบเสือใหม่ ต้มซ้ำรอบ 3 ต้มเหมือนเดิม ได้มาแล้วกรองเอากากออก ได้ “หัวเชื้อเข้มข้น” พร้อมใช้งาน ต้องการเก็บนาน ให้เติมแอลกอฮอร์ 10% ของน้ำ เติมน้ำส้มสายชู 10% ของแอลกอฮอร์ เก็บในร่มอุณหภูมิห้อง ปิดฝามิดชิดป้องกันอากาศเข้า

.... ใช้ “สาบเสือ + พริก” ป้องกันกำจัดเชื้อโรค เพลี้ยไฟ ได้ผลดีมาก
.... วิธีการต้มแบบนี้ ใช้กับสมุนไพรประเภทต้มได้ทุกชนิด

- มะม่วงแม่ลูกดก ผิวเป็นขี้กลาก เป็นทุกมะม่วงนั่นแหละ นี่คืออาหารถูก “เพลี้ยไฟ” เข้าทำลาย ผิวเสียแล้วเสียเลยเป็นตำหนิไปจนเก็บเกี่ยว อยากรู้นักว่า สารเคมีตัวไหนสู้กับเพลี้ยไฟได้จริง สารที่สู้กับเพลี้ยไฟได้ดีที่สุด คือ “น้ำเปล่า” แต่มีข้อแม้ว่าต้องฉีดตอนเที่ยง เพราะเพลี้ยไฟมาตอนเที่ยง วันที่แดดจัด จากน้ำเปล่าๆ +สารอาหารด้วย เท่ากับได้ 2 ด้ง .... ที่บอกว่า สารเคมีเอาไม่อยู่นั่นเป็นเพราะ ฉีดตอน 9 โมงเช้าแต่เพลี้ยไฟมาตอนเที่ยง หรือไม่ก็เพลี้ยไฟมาตอนเที่ยงแต่ไปฉีดเอาตอนบ่าย 3 โมง

- พริกโดนยาฆ่าหญ้าแล้วใบหงิก ฉีดพ่นด้วย “น้ำมะพร้าว” ฉีดทันทีที่รู้ว่าโดนยาฆ่าหญ้า ไม่ต้องรอให้เกิดอาการก่อน ฉีด 2-3 รอบ ห่างกันวันเว้นวัน

----------------------------------------------------------------------------------------------------

จาก : (081) 728-19xx
ข้อความ : มะม่วง น้ำดอกไม้สีทอง โชคอนันต์ ขาวนิยม อายุต้น 5-6 ปี หลังเก็บผลหมด ตอนนี้ใบอ่อนชุดแรกเพสลาด ราดสารเลยได้ไหม หรือต้องรอใบอ่อนรอบสอง ไม่มีประสบการณ์ราดสารเลย .... มะม่วงปากท่อ

ตอบ :
- ทั้ง 3 สายพันธุ์เป็นมะม่วงเบาราดได้เลย ราดสารแล้วให้ทางใบด้วย 0-42-56 ทุก 7 วัน 2-3 รอบ ถ้าต้นสะสมความสมบูรณ์มาสูง มะม่วงเบาจะออกดอกได้ ถึงจังหวะนี้ให้กระทุ้งด้วยสูตร “กระชากตาดอก” คือ 13-0-46 + ไธโอยูเรีย ต่อ ก็จะออกดอกดีขึ้น


@@ ราาดสารพาโคลบิวทาโซล :
พาโคลบิวทาโซล คือ ฮอร์โมนยับยั้งการเจริญเติบโต มีประสิทธิภาพในการหยุดการพัฒนาทางต้น ทำให้ต้นหยุดการเจริญเติบโตทางใบหรือหยุดการแตกใบอ่อน หลังจากต้นได้สะสมอาหารเพื่อการออกดอกไว้เต็มที่แล้ว ในขณะที่ระบบพัฒนาการของต้นซึ่งต้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่องนั้น เมื่อไม่อาจพัฒนาให้เป็นยอดหรือใบได้จึงพัฒนาเป็นดอกแทน การใช้ฮอร์โมนยับยั้งการเจริญเติบโตบังคับต้นไม่ให้แตกใบอ่อนแต่ออกดอกแทนเป็นการทรมานต้นโดยตรง หากต้นถูกทรมานมากๆ ย่อมมีโอกาสโทรมแล้วตายได้ ดังนั้น การใช้ฮอร์โมนบังคับมะม่วงให้ออกดอกได้โดยต้นไม่โทรม และได้ผลผลิตดีจึงควรทำตามขั้นตอน ดังนี้

1. สภาพต้นต้องสมบูรณ์เต็มที่ ผ่านการบำรุงแบบ “สะสมความสมบูรณ์” ให้มีสารอาหารกินตลอดปี ต่อเนื่องมาแล้วหลายๆ ปี .... สารอาหารที่เป็นพื้นฐานต่อการออกดอก คือ “สังกะสี. โบรอน.” (ศ.ดร.สุมิตรา ภู่วโรดม / สจล.) จึงควรให้ต้นได้รับสารอาหารทั้งสองตัวนี้เป็นประจำ สม่ำเสมอ ทั้งขณะมีผลและไม่มีผลอยู่บนต้น

2. การบริหารจัดการด้านปัจจัยพื้นฐานการเกษตร (ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค) ถูกต้องตามความต้องการทางธรรมชาติอย่างแท้จริง

3. อายุต้นเป็นสาวเต็มที่ และเคยให้ผลผลิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 2-3 รุ่น

4. อัตราใช้สารพาโคลบิวทาโซลชนิด 10 เปอร์เซ็นต์ ต่ออายุต้น
- อายุต้น 2-4 ปี อัตราใช้ 20-40 ซีซี./ต้น
- อายุต้น 5-6 ปี อัตราใช้ 60-80 ซีซี./ต้น
- อายุต้น 7-8 ปี อัตราใช้ 80-100 ซีซี./ต้น

5. ใช้ในอัตราเข้มข้นเกินช่อดอกที่ออกมาจะเป็นกระจุกไม่ติดเป็นผล แต่ถ้าใช้อัตราต่ำเกินไปก็จะไม่ได้ผล หรือแทงช่อดอกช้ากว่ากำหนดมาก หรืออาจแตกใบอ่อนแทนก็ได้

6. ราดสารฯ เมื่อใบเพสลาด (ใบพวงหรือใบกลางอ่อนกลางแก่) ได้ผลแน่นอนกว่าราดสารฯ ช่วงใบแก่

7. สารพาโคลบิวทาโซลชนิดผงให้ละลายในแอลกอฮอร์ ชนิดน้ำให้ละลายในน้ำกลั่น คนให้แตกตัวดีก่อนแล้วจึงผสมกับน้ำเปล่า .... น้ำที่ใช้ผลควรปรับค่ากรดด่าง 6.0-6.5 เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยา “กรด + ด่าง = เกลือ + น้ำ” ซึ่งจะทำให้สารฯ เสื่อมประสิทธิภาพ

8. ก่อนลงมือราดสารฯ ให้เปิดหน้าดิน นำเศษพืชคลุมโคนต้น (ถ้ามี) ออกก่อน แล้วรดน้ำทรงพุ่มบริเวณที่จะราดสารฯ ให้ดินชุ่มชื้นดี ล่วงหน้า 1วัน

9. มะม่วงอายุต้นต่ำกว่า 5 ปี ให้ราดชิดและรอบโคนต้น อาจจะทำร่องรอบโคนต้นก่อนแล้วราดน้ำละลายสารแล้วลงในร่องนั้นก็ได้....มะม่วงอายุต้นมากกว่า 5 ปี ให้ราดทั่วพื้นที่บริเวณทรงพุ่มด้านใน 1 ส่วน ราดชายพุ่มบริเวณที่มีปลายรากฝอยอยู่จำนวนมาก 3 ส่วน

10. หลังจากราดสารฯ แล้วต้องระดมให้น้ำเต็มที่แบบวันต่อวัน 3-5 วันติดต่อกัน

11. หลังจากราดสารฯ 1-1 เดือนครึ่ง ถ้าสภาพอากาศอำนวย มะม่วงพันธุ์เบาหรือพันธุ์ทะวายก็จะแทงช่อดอกออกมา และ 2-2 เดือนครึ่ง มะม่วงพันธุ์หนักหรือมะม่วงปีจึงจะแทงช่อดอก ถ้าครบกำหนดที่มะม่วงควรจะแทงช่อดอกได้แล้วแต่ยังไม่ออก ให้เปิดตาดอกด้วย 13-0-46 หรือ 13-0-46 + ไธโอยูเรีย (สูตรใดสูตรหนึ่ง) ตามความเหมาะสม

12. ถ้าราดสารฯ และเปิดตาดอกแล้วดอกไม่ออก ห้ามราดสารฯซ้ำรอบสอง เพราะการราดซ้ำอีกครั้งไม่ได้ทำให้มะม่วงออกดอก แต่กลับทำให้ต้นโทรมหนักยิ่งขึ้น

13. ไม่ควรราดสารฯ แบบปีต่อปี เพราะสารฯ ที่ราดลงไปแต่ละครั้งส่วนที่ตกค้างอยู่ในดินยังออกฤทธิ์ต่อได้อีกอย่างน้อย 1-2 รุ่นการผลิต ในปีรุ่งขึ้นของการผลิต ถ้าต้นสมบูรณ์ดีให้บำรุง “สะสมความสมบูรณ์” เพื่อการออกดอกต่อเนื่องสม่ำเสมอ แล้วปรับ ซี/เอ็น เรโช ดีๆ ก็สามารถเปิดตาดอกได้เลย แต่ถ้าต้นไม่สมบูรณ์หรือโทรมมากจะต้องระงับการราดสารฯ เด็ดขาด อย่างน้อย 2-3 ปี

14. ไม่ควรขายพันธุ์ (ตอน/ทาบ) จากต้นแม่ที่ราดสารฯ เพราะกิ่งพันธุ์ที่ได้เมื่อนำไปปลูกจะเจริญเติบโตช้ามาก

15. ดอกและผลที่ออกมาหลังราดสารฯ จะต้องได้รับการบำรุง โดยเฉพาะ ธาตุอาหาร-ฮอร์โมน ทั้งทางรากและทางใบมากกว่าต้นที่มีดอกและผลออกมาด้วยวิธีบำรุงตามปกติ

16. ในเนื้อดินที่ราดสารฯ ลงไป สารจะตกค้างนาน เมื่อเลิกปลูกมะม่วงแล้วปลูกพืชใหม่ (ทุกชนิด) ลงไป พืชใหม่จะไม่โตหรือโตช้ามากๆ จนบางครั้งนั่งหลุมตายไปเลยก็มี

หมายเหตุ :
การราดสารพาโคลบิวทาโซลเป็นการบังคับแบบทรมานต้น นอกจากทำให้ต้นโทรมแล้วยังต้องทำแบบปีเว้นปี หรือทำปีเว้น 2 ปี ทำให้เสียเวลาและโอกาส แต่หากเปลี่ยนวิธีการบังคับโดยการใช้สารฯ มาเป็นบังคับแบบบำรุงให้ต้นสมบูรณ์สูงสุด นอกจากจะไม่ทำให้ต้นโทรมแล้วยังมีโอกาสสร้างผลผลิตต่อเนื่องได้ทุกปีอีกด้วย

----------------------------------------------------------------------------------------------------.