ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 30 DEC .. ชมพู่มะเหมี่ยว, ปลูกงาหลังนา

[kimzagass]

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร รายการวิทยุ 30 DEC
AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์,
กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต,
ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2 )“คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

-------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (084)923-22xx
ข้อความ : ผมลงชมพู่มะเหมี่ยวไว้ 10 ต้น ใช้สูตรสหประชาชาติติดต่อกันมาทั้งปี ปีนี้ออกดอกติดลูกดีมาก แต่พอลูกโตขนาดไข่ไก่แล้วร่วง ให้แคลเซียม โบรอนแล้ว แก้ไขอย่างไรครับ...ขอบคุณครับ

ตอบ :
- โรคมีเชื้อ “ราเข้าขั้ว” แก้ไขป้องกันโดยฉีดพ่นสารสมุนไพร “เผ็ดจัดๆ” ประจำๆ.... คิดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่ง แดดส่องจากยอดลงถึงพื้น .... ใบมาก ทรงพุ่มทึบ ความชื้
นในทรงพุ่มสูง เชื้อโรคจำพวก รา-แบคทีเรีย ชอบ
- โรคไม่มีเชื้อ หมายถึงต้นไม่สมบูรณ์ เนื่องจาก “ปัจจัยพื้นฐาน” ระหว่าง ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค ไม่เหมาะสมตามความต้องการทางธรรมชาติของมะเหมี่ยว .... โรคไม่มีเชื้อแท้จริง คือ โรคขาดสารอาหาร สารอาหารก็คือปุ๋ย อย่าคิดว่าให้สารอาหารหรือปุ๋ยไปแล้ว ต้นต้อง O.K. ตามนั้นเสมอ บางครั้งสารอาหารหรือปุ๋ยที่ให้ แต่ต้นนำไปใช้ไม่ได้เนื่องจากมี “ปัจจัยต้าน” เข้ามาแทรก

หมายเหตุ :
- สมการปุ๋ย :
ปุ๋ยถูก + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล
ปุ๋ยผิด + ใช้ถูก = ไม่ได้ผล
ปุ๋ยผิด + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล ยกกำลังสอง
ปุ๋ยถูก + ใช้ถูก = ได้ผล ยกกำลังสอง

- ปุ๋ยทางใบจะได้ผลต้องมีความสมบูรณ์ของต้นรองรับ....ความสมูรณ์ของต้นมาจากดิน.... ความสมบูร์ของดินมาจาก คน+ธรรมชาติ .... คน เกิดจากทัศนคติ ธรรมชาติ เกิดจากพระเจ้า

- ไม่มีพืชใดในโลกที่ไม่มีศัตรูพืชประจำตระกูลเผ่าพันธุ์ .... เชื้อโรคเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ได้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็จะเจริญเติบโตขยายเผ่าพันธุ์เป็นธรรมดา

- ป้องกันและกำจัดโดยให้ สารอาหาร + สารสมุนไพร ประจำหรือล่วงหน้าตามสภาพแวดล้อม (อากาศ อุณหภูมิ พาหะ) บำรุงต้น ทั้งทางใบทางราก อย่างถูกต้อง ในต้นมีความสมูรณ์สะสม เกิดเป็นภูมิต้านทานให้เต้นสู้กับศัตรูพืชได้ .... ต้นพืชที่มีความสมบูรณ์สูง แมลงไม่ชอบเข้าหา ทั้งแมลงปากกัดปากดูดและแมลงมาวางไข่ให้เกิดหนอน และโรค (รา แบคทีเรีย ไวรัส) ไม่เจริญเติบโตพัฒนาขยายเผ่าพันธุ์

- เรียนรู้ เรื่องโรคแมลงศัตรูพืชประจำพืช แล้ว ป้องกัน/กำจัด ทั้งล่วงหน้าและขณะเกิด ได้อย่างเหมาะสมถูกต้อง
– ตระหนักเสมอว่า ไม่มีสารเคมี หรือสารสมุนไพรใดๆ ในโลกนี้ สามารถทำให้ส่วนของพืชถูกทำลายไปแล้ว ฟื้นคืนดีอย่างเดิมได้ เรียกว่า เสียแล้วเสียเลย นั่นแหละ

@@ บำรุงม่าเหมี่ยว :
- ทางใบ : ให้สูตรสหประชาชาติ “น้ำ 100 ล. + ไบโออิ 30 ซีซี. + ไทเป 30 ซีซี. + ยูเรก้า 412 (30 ซีซี.) + สารสมุนไพร 200 ซีซี.” 2 รอบ สลับด้วย แคลเซเรียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน

- ทางราก : ใส่ยิบซั่ม ธันเดอร์พลัส, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, กระดูกป่น ปีละ 2 ครั้ง, ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 21-7-14 (2 ล.) /ไร่ /2-3 เดือน, ให้ 21-7-14 (ครึ่ง กก.) /ต้น /เดือน

หมายเหตุ :
- ธรรมชาตินิสัยของมะเหมี่ยว ออกดอกติดลูกได้ตลอดปี แบบไม่รุ่น
- มะเหมี่ยวปกติ เนื้อนิ่ม-บาง-เมล็ดใหญ่-รสไม่จัด แก้ไขโดยเน้นให้ ธาตุรอง/ธาตุเสริม, แคลเซียม โบรอน. แล้วทุกอย่างจะกลับเป็นตรงกันข้ามจากที่เคยเป็นเคยได้

-----------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (089) 256-73xx
ข้อความ : ผู้พันครับ ที่นาทำนาปรังไม่ได้ อยากปลูกงา ขอคำแนะนำเรื่องพันธุ์งา กับการบำรุงด้วยครับ....ชาวนาโคราช

ตอบ :
- น่าจะปลูกตั้งนานแล้ว วันเวลาที่ผ่านไปตลอดชีวิตที่ผ่านมาสูญเสียไปเท่าไหร่ มีพื้นที่ให้ปลูกแต่ไม่ปลูก เรียกว่า “สูญเสียทางเศรษฐกิจ” เป็นการสูญเสียอย่างมหาศาล ราชการ องค์กรเอกชน ส่งเสริมแนะนำไม่ใช่น้อย แม้แต่ข้างบ้าน ริมถนนรถผ่านก็ทำกันไม่น้อย เรียกว่า “พืชหลังนา” ไงล่ะ นอกจากงาแล้ว ยังมีพืชไร่สารพัด ถั่วเขียว/เหลือง/แดงดำ ถั่วลิสง ทานตะวัน ข้าวโพด ปลูกได้ทั้งนั้น พืชไร่พวกนี้ใช้เวลาแค่ 4 เดือนก็เก็บเกี่ยวได้แล้ว เก็บเล้วไถกลบเศษซากลงดิน ช่วยบำรุงดินให้นาข้าวรุ่นต่อไป หรือจะเปลี่ยนจากนาข้าวไปเป็นพืชอื่นก็ได้ทั้งนั้น..... ค้นหาคำตอบให้กับตัวเองซิ ที่ไม่ทำเพราะ ไม่มีใครส่งเสริม หรือทำไม่เป็น หรือไม่มีใครทำ หรือพ่อแม่ไม่เคยสอน หรือขี้เกียจ กันแน่น

- ไม่เฉพาะนาโคราชหรอกนะ ทุกนาทุกภาคต่อไปถึงทั่วโลกสมควรทำอย่างยิ่ง .... อิสาน ทำนา 1 ครั้ง 4 เดือน เวลาที่เหลืออีก 8 เดือนหันมาปลูกพืชอื่น .... ภาคกลาง ทำนา 2 ครั้งต่อกัน 8 เดือน เวลาที่เหลือ 4 เดือน หันมาปลูกพืชอื่น .... พืชอื่นหมายถึงพืชที่เป็นราบได้และบำรุงดิน

– นาอิสาน ทำนา 1 ครั้งแล้วปล่อย ถึงหน้าแล้งลมบ้าหมูมา หอบเอาฟางไปเกลี้ยงจนเหลือแต่หน้าดินเปล่าๆ .... นาภาคกลาง ไม่เจอลมบ้าหมูแต่โดนไฟเผา หนักกว่าลมล้าหมู.... ทั้งสองกรณีต่างกันตรงไหน

- นอกจากงาแล้ว ยังพืชไร่อย่างอื่นๆ ที่นิสัยทางธรรมชาติเหมือนๆกัน เช่น ถั่วเขียว/เหลือง/แดง/ดำ/ขาว, ถั่วลิสง, ทานตะวัน, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

- แนวคิด คือ บำรุงดินได้ดินได้เงิน ปลูกขายผลผลิตแล้วไถกลบเศษซาก, บำรุงดินได้ดินไม่เอาเงิน ปลูกไม่เอาผลผลิตแต่ไถกลบเศษซาก ....

– กรณีไม่มีน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติที่พร้อมนำมาได้ทันที แก้ไขโดยการซื้อน้ำบรรทุกมาให้ ซึ่งจะให้เพียง 2-3 ครั้ง ต่อรุ่นการผลิตเท่านั้น หากลงทุนซื้อน้ำแล้วขายผลผลิตก็ได้ทุนคืน + กำไร แถมได้ดินดีอีกต่างหาก จากดินรุ่นหนี้ต่อไปถึงดินรุ่นหน้า และรุ่นต่อๆไป สำหรับทำนา เรียกว่า “คุ้มเกินคุ้ม” .... ไม่มีใครทำ ตัวเองไม่เคยทำ ก็ลอง คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ ซิว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” กับการทำการเกษตรแบบนี้

– ปัจจุบันงาส่งออกไม่พอส่งออก เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ประเทศตะวันออกกลาง มีความต้องการสูงมาก แต่ชาวนาชาวไร่ไทยไม่ทำ

1. งาดำ
- งาดำบุรีรัมย์ ..... เป็นพันธุ์พื้นเมือง ผลผลิต 60-130 กก./ไร่
- งาดำนครสวรรค์ .... เมล็ดมีสีดำขนาดใหญ่และเต่ง ผลผลิต 60-130 กก./ไร่
- งาดำ มก.18 .... เป็นพันธุ์ที่ ม.เกษตรศาสตร์วิจัยขึ้นมาเอง ผลผลิต 60-148 กก./ไร่
- งาดำ มข.2 .... ปรับปรุงพันธุ์มาจากงาดำพันธุ์ ซีบี 80 ของจีน ผลผลิต 80-120 กก./ไร่

2. งาขาว
2.1 พันธุ์เมืองเลย ..... ขนาดเมล็ดเล็ก เรียกว่า งาไข่ปลา
2.2 พันธุ์เชียงใหม่ .... ขนาดเมล็ดเล็ก แต่ใหญ่กว่าพันธุ์เมืองเลยเล็กน้อย
2.3 พันธุ์ชัยบาดาลหรือสมอทอด .... เมล็ดมีขนาดปานกลาง
2.4 พันธุ์ร้อยเอ็ด 1 ..... สีเมล็ดขาวสม่ำเสมอ ผลผลิต 50-120 กก./ไร่
2.5 พันธุ์ มข.1 .... ปรับปรุงมาจากงาขาว ซีดับบลิว 103 ของจีน เมล็ดสีขาวค่อนข้างใหญ่ ผลผลิต 80-150 กก./ไร่
2.6 พันธุ์มหาสารคาม 60 .... ปรับปรุงมาจากงาขาวพันธุ์ ที-85 ของอินเดีย เมล็ดโตสีขาว ผลผลิต 107 กก./ไร่

3. งาดำ-แดง (งาเกษตร)
3.1 พันธุ์พื้นเมืองพิษณุโลก และพันธุ์พื้นเมืองสุโขทัย .... ขนาดเมล็ดโต สีของเมล็ดมีทั้งสีดำและสีน้ำตาลแดงปนอยู่ด้วยกัน ผลผลิต 60-90 กก./ไร่
3.2 งาแดงอุบลราชธานี 1 .... ปรับปรุงพันธุ์จากงาพม่า ผลผลิต 141 กก./ไร่
3.3 งาแดงพันธุ์ มข.3 .... ปรับปรุงพันธุ์จากงาพม่า ผลผลิต 100-180 กก./ไร่

@@ เตรียมดิน เตรียมแปลง :
- ไถดะ ขี้ไถใหญ่ๆ ทิ้งดินตากแดดจัด 15-20 แดด กำจัดวัชพืช
- ใส่ยิบซั่ม ธันเดอร์พลัส, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, ไถพรวน ปรับเรียบ

- ใส่น้ำหมักชีวภาพระบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2-3 ล.) รดทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว .... บ่มดินทิ้งไว้ 7-10 วัน เพื่อให้เวลาจุลินทรีย์ปรับสภาพดิน

หมายเหตุ :
- ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุดในการปลูกพืชไร่อย่างงา .... ดินพร้อม ดินดี = สำเร็จ, ดินไม่พร้อม ดินไม่ดี = ล้มเหลว .... ดินไม่ดี ต้นไม่งาม หาว่าอ่อนปุ๋ย ใส่ปุ๋ยเพิ่มอีก เสียเงินเปล่าๆ เพราะดินไม่ดีจะไม่กินปุ๋ย ใส่ปุ๋ยมากเท่าไรต้นพืชก็เอาไปกินไม่ได้ ปุ๋ยจึงเหลือตกค้างอยู่ในดิน ทำให้ดินเป๊นกรด (ไนไตร์ทเป็นไนเตรท....กรดจัด) ดินเสียอีกต่างหาก

- งาเป็นพืชใช้น้ำน้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องเสียเลย วิธีการ คือ ใส่อินทรีย์ วัตถุเศษซากพืช (แกลบดิบ) มากๆ ให้ทำหน้าที่เสมือนฟองน้ำ คอยอุ้มน้ำไว้ไต้ดิน

@@ บำรุง :
** ระยะต้นเล็ก :
-ทางใบ : “น้ำ 200 ล. + ไบโออิ 200 ซีซี. + ยูเรีย จี 1 กก. + เหล็ก คีเลต 100 กรัม + สารสมุนไพร 1-2 ล.” ให้ 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 10-15 วัน โดยแบ่งช่วงเวลาการให้ ตลอดระยะต้นเล็ก

- ทางราก :
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (1 ล.) ผสมน้ำตามความจำเป็นสำหรับเนื้อที่ 1 ไร่ ดินละ 1 ครั้ง ฉีดโคนต้นให้ดินเปียก
– พรวนดินเดือนละครั้ง พร้อมกำจัดวัชพืช

หมายเหตุ :
- บำรุงต้นด้วย แม็กเนเซียม. สังกะสี. เหล็กคีเลต. เป็นการเตรียมความพร้อมของต้นตั้งแต่ระยะต้นเล็ก จะส่งผลไปถึงระยะต้นโตออกดอกติดผลดี
- เงินค่าปุ๋ยเคมีที่เคยใส่แบบ รองก้นหลุม-แต่งหน้า-เร่งต้น จำนวนนั้นมาจ่ายตัวนี้ นอกจากประหยัดกว่าแล้ว ยังได้ปุ๋ย “สั่งตัด” มากกว่าด้วย
** ระยะต้นโต .... (ก่อนออกดอก) :

- ทางใบ : ให้ “น้ำ 200 ล. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ไทเป 100 ซีซี. + สารสมุนไพร” 2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน

- ทางราก : - ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (1 ล.) ผสมน้ำตามความจำเป็นสำหรับเนื้อที่ 1 ไร่ ดินละ 1 ครั้ง ฉีดโคนต้นให้ดินเปียก
– พรวนดินเดือนละครั้ง พร้อมกำจัดวัชพืช

** ระยะต้นโต .... (ติดผลแล้ว) :
- ทางใบ : ให้ “น้ำ 200 ล. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ยูเรก้า 100 ซีซี. + สมุนไพร 1-2 ล.” ให้ 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 10-15 วัน .... ให้ไปเรื่อยๆจนเก็บเกี่ยว

- ทางราก : ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (1 ล.) ผสมน้ำตามความจำเป็นสำหรับเนื้อที่ 1 ไร่ เดือนละ 1 ครั้ง ฉีดโคนต้นให้ดินเปียก
– พรวนดินเดือนละครั้ง พร้อมกำจัดวัชพืช

-----------------------------------------------------------------------------------------------




.