ถาม-ตอบปัญหา วิทยุ 28 OCT *มะละกอ ฮอลแลนด์-แขกดำ

[kimzagass]

.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 28 OCT

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

-----------------------------------------------------------


จาก : (084) 042-71xx
ข้อความ : ลงมะละกอแขกดำ 2 ไร่ 500 ต้น ฮอลแลนด์ 2 ไร่ 500 ต้น ทำแปลงแบบยกร่องแห้งลูกฟูก กว้าง 3 ม. สันแปลงสูง 30 ซม. ร่องระหว่างแปลงลึก 30 ซม. ระบบน้ำดีมาก ปล่อยให้ให้หญ้าคลุมแปลงตัดหญ้าให้เตี้ย วันนี้อายุมะละกอ 4-5 เดือน ทุกต้นสมบูรณ์ดีมาก ขอปรึกษา 2 ข้อ 1.ต้นตัวเมียกับต้นตัวผู้แก้ไขอย่างไร 2.ต้นใบหงิกเหลืองด่างใช้สมุนไพรตัวไหน ไม่อยากใช้สารเคมี .... ขอบคุณค่ะ
ตอบ :
คำตอบตรงคำถาม :
“มะละกอแขกดำ 2 ไร่ 500 ต้น”
- ปลูกระยะชิด ประหยัดเนื้อที่ ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้ว
- ถ้ายังมีที่ว่างระหว่างต้นระหว่างแถว ปลูกพืช เสริม/แซม/แทรก/ ได้ ก็น่าจะทำ

“ทำแปลงแบบยกร่องแห้งลูกฟูก”
- ช่วยสะเด็ดน้ำ น้ำไม่ขังค้าง รากไม่เน่า ดินไม่เป็นกรด
- ปริมาณในดินเหมาะสมกับมะละกอ (ชื้น ชุ่ม โชก แฉะ แช่ ขังค้าง)

“หญ้าคลุมแปลงตัดหญ้าให้เตี้ย”
- หญ้าช่วยรักษาความชื้นหน้าดิน
- ดินเป็นที่กินที่อยู่ของจุลินทรีย์
- จุลินทรีย์ช่วยอารักขาพืช
- พืชอารักขาคน
- คนอารักขาประเทศ
- ประเทศอารักขาโลก

“อายุมะละกอ 4-5 เดือน”
- อายุครบกำหนดให้ผลผลิต
- เริ่มรู้ว่าต้นไหน ตัวผู้ ตัวเมีย กระเทย

“ต้นตัวเมียกับต้นตัวผู้แก้ไขอย่างไร”
- ตัดต้น สร้างยอด เลี้ยงยอด เปลี่ยนยอดเป็นพันธุ์ที่ต้องการ
- ปลูกหลุมเดียว 2-3 ต้น เลี้ยงไปจนกระทั่งรู้เพศของต้น

“ต้นใบหงิกเหลืองด่างใช้สมุนไพรตัวไหน”
- ป้องกัน/กำจัดแมลงพาหะ คือ เพลี้ยไฟ โดยฉีดพ่น น้ำ+สมุนไพรเผ็ดร้อน ตอนเที่ยง
- บำรุงต้นให้สมบูรณ์ เกิดภูมิต้านทานโรคแมลงได้แล้ว ยังได้ผลผลิตอีกด้วย

“ไม่อยากใช้สารเคมี”
- ตั้งเป้า ลด ละ เลิก สารเคมียาฆ่าแมลง
- สารเคมีมีตัวยา กำจัดโรคฆ่าแมลงได้ ในสมุนไพรก็มีตัวยา กำจัดโรคฆ่าแมลงได้ เช่นกัน
- ใช้สารสมุนไพร ตามหลักสมการสารสมุนไพร
- ใช้แบบ “กันก่อนแก้” ..... (สมการ การป้องกัน)
- ใช้แบบฉีดพ่นบ่อยๆ ชนิดวันต่อวัน วันเว้นวัน วันเว้นสองสามวัน
- ใช้สปริงเกอร์หม้อปุ๋ยหน้าโซน หรือถังสะพายแบบใช้แบตเตอรี่ (ไม่ลากสาย)
- ใช้ร่วมกับ ไอพีเอ็ม ...... (สมการ ไอพีเอ็ม)
------------------------------------------------------------

มะละกอ ปลักไม้ลาย V.S. ฮอลแลนด์ V.S. เรด มาทาดอร์ :
เริ่มด้วยผู้ใหญ่บ้าน นามว่า "ผู้ใหญ่สุธรรม จันทร์อ่อน" แห่ง ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม มีเพื่อนนักธุรกิจซื้อมะละกอสุกจากประเทศฮอลแลนด์มาฝาก ซึ่งเป็นมะละกอนำเข้าจากประเทศเม็กซิโกชื่อ "พันธุ์เรด มาร์ทาดอร์ (Red Matador)" ครั้งแรกปลูก 40 เมล็ดไม่งอกเลย เหลือเมล็ดพันธ์อีกแค่ 2 เมล็ด ลองใส่ในช่อง Freeze ตู้เย็น 2-3 วัน จากนั้น ลองนำไปปลูกใหม่ ปรากฏว่าสำเร็จ เมล็ดมะละกอพันธ์เรด มาร์ทาดอร์ปลูกขึ้นทั้ง 2 ต้น

ความที่ผู้ใหญ่ฯ ชอบทางด้านการเกษตร จึงได้ลองนำเกสรของมะละกอพันธุ์เรด มาร์ทาดอร์ ผสมข้ามสายพันธ์กับมะละกอ "พันธุ์แขกดำ” ประสบความสำเร็จได้พันธ์มะละกอใหม่ขึ้นมา รูปร่างกะทัดรัด ไม่ยาวเหมือนแขกดำ แต่มีความหวานและอร่อยเหมือนพันธ์เรด มาร์ทาดอร์

ผู้ใหญ่ฯ ตั้งชื่อมะละกอพันธุ์ใหม่นี้ตามชื่อวัด คือ วัดปลักไม้ลาย ที่อยู่ใกล้ๆ ว่า "พันธุ์ปลักไม้ลาย" และได้จดอนุสิทธิบัตรแล้ว

ผู้ใหญ่ฯ ได้นำมะละกอให้คนรู้จักทาน ต่างก็ชื่นชอบ เพราะมีความหวานและอร่อย คนรู้จักจึงถามว่าเป็นพันธุ์อะไร ผู้ใหญ่ฯ บอกว่าเป็นพันธุ์ปลักไม้ลาย คนเหล่านั้นบอกว่าชื่อพันธุ์ปลักไม้ลาย "เชย" จังเลย

ผู้ใหญ่ฯ ก็เลยมานั่งคิดว่า จะเปลี่ยนเป็นชื่ออะไรดี ? ว่าแล้วก็เลือกชื่อตามแหล่งที่เมล็ดพันธุ์ได้เดินทางมา ก็คือประเทศฮอลแลนด์ ดังนั้น มะละกอ "พันธุ์ปลักไม้ลาย" จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “พันธุ์ฮอลแลนด์” จนติดปากมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งๆที่ประเทศฮอลแลนด์ (ประเทศหนาว ติดขั้วโลกเหนือ) ไม่มีมะละกอ จึงมี "มะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์" มาปลูกในประเทศไทยเป็นต้นแรก แล้วคุณว่าระหว่างชื่อพันธุ์ปลักไม้ลาย กับชื่อพันธุ์ฮอลแลนด์ อย่างไหนน่ากินกว่ากัน

(อืมมม .... ในข้อมูลนี้ ทำไมไม่มีชื่อนักวิชาการตามที่รู้ๆ มาแต่แรกว่า เป็นผู้สร้างมะบะกอพันธุ์นี้ขึ้นมาเลยล่ะ)

http://www.oknation.net/blog/jarinasa/2012/02/28/entry-1
http://www.oknation.net/blog/jarinasa/2012/02/28/entry-1
--------------------------------------------------------

“มะละกอแขกดำศรีสระเกษ” เป็นมะละกอแขกดำที่พัฒนาสายพันธุ์โดยศูนย์ วิจัยพืชสวนศรีสระเกษ เป็นมะละกอแขกดำ พันธุ์ต้นเตี้ย ติดผลเร็ว ติดผลค่อนข้างดก ลักษณะผลทรง กระบอกยาว น้ำหนักผลโดยเฉลี่ยประมาณ 1 กก. ให้ผลผลิตสูง 50-55 กก./ต้น น้ำหนักผลเฉลี่ย 1.2 กก. อายุผลหลังดอกบานถึงผลสุกก็จะอยู่ราวๆ อายุ 5-6 เดือน มีเนื้อหนาแน่นสีแดงเข้ม เนื้อสุกมีรสหวานอร่อย เฉลี่ยความหวานอยู่ที่ 13.5 องศาบริกซ์ ส่วนผลดิบมีเนื้อกรอบ เหมาะสำหรับทำส้มตำ เป็นที่ต้องการของตลาด

เพื่อให้ผลมีคุณภาพ น้ำหนักดี ช่วยต้นมีอายุยืนยาว และป้องกันการโค่นล้มของต้น แนะนำให้ปลิดผลเล็ก ผลไม่สมบูรณ์ และผลที่ออกจากดอกแขนง ออกทิ้งบ้าง
-------------------------------------------------

มะละกอตระกูลแขก :
1. แขกดำดำเนินสะดวก : มะละกอต้นเตี้ยให้ผลเร็วติดผลดก ลักษณะผลเป็นทรงกระบอก
ส่วนหัวคอดเรียวเข้าหาขั้ว ปลายผลแหลมเล็กน้อย เนื้อหนาแน่น สีทองเข้ม กลิ่นหอม ความหวานสูง เหมาะสำหรับใช้รับประทานผลสดและผลดิบ ไม่ค่อยต้านทานโรคใบด่าง

2. แขกดำศรีสะเกษ : เป็นมะละกอแขกดำที่คัดเลือก โดยศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ต้นเตี้ย ติดผลเร็ว ผลทรงกระบอกยาว หัวคอดเข้าหาขั้ว ส่วนปลายผลสอบเป็นมุมป้านเข้าหากัน น้ำหนักผลประมาณ 1 กก. ผลผลิตสูงประมาณ 52 กก./ต้น เนื้อหนาแน่น สีแดงเข้ม ความหวานสูง 13.52 องศาบริกซ์ บำรุงรักษาดีๆสามารถต้านทาน โรคใบด่างได้ระดับหนึ่ง

3. แขกนวล : ลักษณะต้นเตี้ย ให้ผลดก ค่อนข้างใหญ่ น้ำหนักผลประมาณ 1 กก. ทรงผลคล้ายหยดน้ำ ส่วนหัวเรียวเล็ก และค่อยๆ ป่องขึ้นใกล้บริเวณปลายผล แล้วสอบเข้าหากัน เนื้อสีเหลืองอมส้ม ความหวาน 13.44 องศาบริกซ์ เหมาะสำหรับใช้รับประทานสุก และปรุงอาหาร

4. แขกหลอด : เป็นพันธุ์ต้นเตี้ย ติดผลดก ผลทรงกระบอกขนาดเล็กยาว ส่วนหัวคอดเรียวเข้าหาขั้ว ปลายเรียวแหลม ปลายอาจจะงอเล็กน้อย เนื้อหนาแน่น เมล็ดน้อย 1 ผล อาจจะมีเมล็ด 15-20 เมล็ด มีช่องว่างกลางผลเล็กมากคล้ายรูหลอด สีเนื้อแดงเข้ม รสชาติเหมือนแขกดำ สายพันธุ์ดั้งเดิมมาจาก อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาเหมาะสำหรับใช้รับประทานผลสุก

https://narutoliverpool19.wordpress.com/2012/02/12/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B3/
-------------------------------------------------

@@ ปลูกมะละกอ :
* เตรียมดิน :

(.... ดินสำคัญที่สุด ดินต้องมาก่อน ดินดีได้แล้วกว่าครึ่งทั้งๆที่ไม่ได้ใส่ปุ๋ย ดินไม่ดีเสียแล้วกว่าครึ่ง ทั้งๆ ที่ใส่ปุ๋ยไร่ละเป็นกระสอบๆ....เอาเงินค่าปุ๋ยเคมีมาซื้อปุ๋ยอินทรีย์ ซื้อสารปรับปรุงบำรุงดิน .... จ่ายน้อยกว่า ผลผลิตดีกว่า อนาคตดินดีกว่า....)

- ไถดะไถแปร ตากแดดจัด 20-30 แดดจัด เพื่อกำจัดเชื้อโรคและวัชพืช .... ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, หญ้าแห้งคลุมโคนต้นหนาๆ, รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (2 ล.) /ไร่ ทิ้งไว้ 20-30 วัน เพื่อบ่มดิน เป็นการให้เวลาจุลินทรีย์ปรับสภาพดิน และสร้างสารอาหารรอไว้ก่อน

* บำรุง ระยะกล้า :
ทางใบ : ให้ ไบโออิ (แม็กเนเซียม. สังกะสี,) 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน

ทางราก : ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (1 ล.) รดโคนต้น ให้น้ำสม่ำเสมอ พอหน้าดินชื้น ทุก 7-10 วัน

บำรุง ระยะให้ผลผลิตแล้ว :
ทางใบ : ให้สูตรสหประชาชาติ “น้ำ 100 ล. + ไบโออิ (แม็กเนเซียม. สังกะสี.) 30 ซีซี. + ไทเป (0-52-34, 13-0-46) 30 ซีซี. + ยูเรก้า 412 (21-7-14. ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน) ... 30 ซีซี.) 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน ในรอบ 1 เดือน หาโอกาสให้น้ำตาลทางด่วน 1 รอบ

ทางราก : ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, หญ้าแห้งคลุมโคนต้นหนาๆ 6 เดือน/ครั้ง, ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 21-7-14 (1 ล.) /เดือน รดโคนต้น ให้น้ำสม่ำเสมอ .... ปุ๋ยเคมีไม่ต้อง เพราะที่ได้ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับมะละกอ

หมายเหตุ :
- ติดสปริงเกอร์ 2 ระบบ ทางใบ/ทางราก แบบแยกกัน
.... ให้ทางใบ เปิดวาล์วทางใบ-ปิดวาล์วทางร าก
.... ให้ทางราก เปิดวาล์วทางราก-เปิดวาล์วทางใบ
.... ให้ทั้งทางใบทางรากพร้อมกัน-เปิดวาล์วทั้งสองทาง

สปริงเกอร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลเนื้องาน ประหยัดเวลา แรงงาน พลังงาน (ไฟฟ้า/น้ำมัน) ติดตั้งครั้งเดียวใช้งานได้ 10ปี 20ปี 30ปี

- ให้น้ำเปล่า หรืน้ำ+ปุ๋ย หรือน้ำ+ปุ๋ย+ยาสมุนไพร ผ่านไปกับสปริงเกอร์หม้อปุ๋ยหน้าโซน ตอนเที่ยง นอกจากบำรุงต้นแล้ว ยังป้องกันเพลี้ยไฟพาหะนำโรคไวรัสใบด่างวงแหวนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

- ฉีดพ่นสารสมุนไพรบ่อยๆ วันต่อวัน หรือวันเว้นวัน หรือวันเว้นสองวัน มะละกอปลอดสารเคมียาฆ่าแมลง นอกจากประหยัดต้นทุนแล้ว ยังได้เครดิตความน่าเชื่อถือจากคนกลางรับซื้ออีกด้วย

- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง +ปุ๋ยเคมี (ทางราก) กับให้ปุ๋ยทางใบแล้ว ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเคมีเพิ่ม เพราะมะละกอได้ปุ๋ยแค่นั้นก็พอแล้ว

- แก้ปัญหามะละกอต้นตัวผู้ หรือทำต้นตัวเมียให้เป็นกระเทย โดยตัดตอต้นตัวผู้ กับตัดตอต้นตัวเมีย (หากต้องการเปลี่ยน) ทุกต้น พร้อมกับตัดตอต้นกระเทย 1-2 ต้น แล้วบำรุงต้นตอทั้งหมดให้แตกยอดใหม่ กระทั่งยอดโตประมาณนิ้วก้อย ให้ตัดยอดจากตอกระเทยไปเสียบให้ยอดของตอตัวผู้กับตอตัวเมีย ตอละ 1 ยอด ยอดที่เหลือตัดทิ้งไป แล้วเลี้ยงยอดที่เสียใหม่ต่อไป เมื่อโตขึ้นยอดที่เสียใหม่จะให้ผลผลิตตามต้นตอเดิม

- มะละกออายุต้นมาก ต้นสูงมาก ให้ปีนบันไดขึ้นไปแล้ว “ตอน” ณ ความสูงจากยอดลงมา 1 ม. ด้วยวิธีตอนมะละกอตามปกติ เมื่อออกรากแล้วตัดลงมาปลูกลงพื้น หรือ ปลูกในกระถาง ด้วยวิธีปลูกตามปกติ ก็จะได้ต้นมะละกอความสูงเท่าที่ตัดลงมาพร้อมกับออกดอกติดผลปกติ โดยไม่มีอาการชะงัก

- มะละกออายุต้นมาก ต้นสูงมาก สามารถลดระดับความสูงของต้นได้ โดยแหวกดินโคนต้น ยอมให้รากจำหนวนหนึ่งขาด แล้วดันต้นให้เอียงลงด้านตรงข้ามกับที่แหวกดิน ต้องการต้นเอียงมากหรือน้อย ทำโดยใช้ไม้ค้ำต้นไว้ บำรุงเลี้ยงต่อไปจนต้นสร้างรากขึ้นมาใหม่ ระหว่างนี้ต้นยังออกดอกติดลูกปกติเหมือนเดิม .... มะละกอหลายๆต้นในแถวเดียวกัน ถูกโน้มทำให้ต้นเอียงทางทิศเดียวกัน ความเอียงเท่ากัน ก็กลายเป็น UNSEEN ได้เหมือนกัน ....(เทคนิคเกษตรกรไต้หวัน)

- แก้มะละกอเป็นต้นตัวผู้ หรือต้นตัวเมีย ด้วยเทคนิคภูมิปัญญาพื้นบ้าน เช่น เลือกเฉพาะเมล็ดสีดำสนิท, ระยะกล้าบิดลำต้นให้รากแก้วขาด ไม่ได้ผลมากกว่าได้ผล

- เฉพาะตลาดอิสานภาคเดียว สั่งซื้อมะละกอดิบจากราชบุรี ตกปีละราว 20 ล้าน ไม่รวมตลาดภาคอื่น จึงอยากชวนเกษตรกรอิสานปลูก “ผักส้มตำ” นั่นคือ มะละกอแซมด้วยพริกกะเหรี่ยง ถั่วฝักยาว มะนาว แตงร้าน

----------------------------------------------------------------


.