ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11557
|
ตอบ: 20/03/2010 10:47 am ชื่อกระทู้: แคนตาลูป...ประสบการณ์ตรง |
|
|
แคนตาลูป Cantaloupe
แคนตาลูป เป็นพืชตระกูลแตง เป็นผลไม้โบราณชนิดหนึ่ง มีชื่อสามัญว่า Cantaloupe ชื่อนี้มีที่มาจากการนำแตงพันธุ์นี้เข้าไปปลูกในประเทศอิตาลีที่เมืองแคนตาลูโป (Cantalupu) ใกล้กับกรุงโรม ต่อมาพระเจ้าชาร์ลที่ 8 นำไปปลูกในฝรั่งเศส และเรียกผลไม้ลูกกลม ๆ รีๆ สีเหลืองนี้ว่า "แคนตาลูป" อังกฤษนำไปปลูกบ้าง เลยเรียกชื่อตามภาษาฝรั่งเศส ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cucumis melo var.cantalupensis แตงแคนตาลูปมีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย คนอินดียและแอฟริการู้จักกินแคนตาลูปมานานกว่า 4,000 ปีแล้วมีการนำแคนตาลูปเข้ามาปลูกในเมืองไทยตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ, 2478 เมื่อก่อนเรียกว่า "แตงเทศ" หรือแตงฝรั่ง" ด้วยรูปร่างลักษณะคล้ายกับแตงไทย จึงทำให้บางคนเรียกแตงแคนตาลูปว่า "แตงไทยฝรั่ง" แต่ปลูกแล้วเป็นโรคจึงตายเป็นจำนวนมาก จากนั้นได้มีการพัฒนาการปลุกมาจนกระทั่งสามารถปลูกแตงแคนตาลูปได้ผลผลิตดีในปัจจุบันนี้
แหล่งปลูกแคนตาลูปอยู่ที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เกษตรกรในอรัญประเทศเรียกแคนตาลูปของเขาว่า "แตงคุณหนู" เพราะจะต้องคอยประคบประหงมดูแลกันตลอด 60 วัน ฤดูที่มีผลผลิตออกตลาดอยูในช่วงเดือนเมษายน
แคนตาลูปเป็นพืชล้มลุก อยู่ในตระกูลเดียวกับแตงไทย ต้นมีลักษณะเป็นไม้เถา ตามเถาและก้านใบมีขนนิ่ม ใบเหลี่ยมมน ดอกสีเหลืองเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่คนละดอก ผลกลมรี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 10-16 ซม. เปลือกนอกแข้ง เนื้อชุ่มน้ำ ผลดิบเนื้อกรอบ เมื่อสุกเนื้อนิ่ม หอมหวาน สีของเนื้อแคนตาลูปแตกต่างกันตามสายพันธุ์ สามารถแบ่งออกตามสีเนื้อได้ดังนี้
เนื้อสีเขียวหรือเขียวขาว ซึ่งเป็นพันธุ์ลูกผสมต่างประเทศมีทั้งผิวเรียบและผิวลายตาข่าย ผลสุกเปลือกสีเขียวครีมเหลือง และเหลืองทอง เนื้อมีทั้งเนื้อกรอบและเนื้อนุ่มรสหวานและมีกลิ่นหอม เช่น พันธุ์เจดคิว ฮันนี่ดิว ฮันนี่เวิลด์ และวีนัสไฮบริด เป็นต้น
เนื้อสีส้ม ผลมีทั้งผิวเรียบและผิวลายเป็นตาข่าย ผลสุกเปลือกสีครีมและสีเหลือง เนื้อมีที้งเนื้อกรอบและเนื้อนุ่ม รสหวานและมีกลิ่นหอมค่อนข้างแรง ได้แก่ พันธุ์ซันเลดี้ ท๊อบมาร์ค นิวเอ็มเมลลอน และนิวเซนต์จูรี เป็นต้น
ผลแคนตาลูปยิ่งสุกกลิ่นยิ่งหอม รสชาติยิ่งหวานนำมากินเป็นผลไม้สด และทำเป็นน้ำผลไม้ การคัดเลือกแคนตาลูปที่สุกแล้วให้กินอร่อย ให้ชั่งน้ำหนักด้วยมือลูกหนึ่งควรจะมีน้ำหนักประมาณหนึ่งกิโลกรัมเศษ ๆ จึงเรียกกว่ากำลังดี ลองเขย่าดูถ้ามีเสียงน้ำอยู่ข้างใน แสดงว่าส้มและสุกเกินไปกินไม่อร่อย แคนตาลูปที่แก่ได้ที่ต้องผิวสวย ตึง ไม่เหี่ยวเป็นร่องเป็นหยัก สีเหลืองเหมือนสีเปลือกไข่ไก่ถึอว่ากำลังดี
คุณค่าอาหารและสรรพคุณ
แคนตาลูป ประกอบด้วยน้ำตาล มีวิตามีนซีเล็กน้อย และวิตามินเอสูงมาก มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยบำรงกระดูกและฟัน เนื้อผลสุก เป็นยาขับปัสสาวะ ขับน้ำนม ขับเหงื่อ ดับพิษร้อน บำรุงธาตุและสอมง ช่วยบรรเทาอาการอักเสนของทางเดินปัสสาวะ แก้กระหาย สมัยก่อนฝรั่งเชื่อกันว่ากินแตงแคนตาลูปแล้วทำให้สายตาดี และมีสติ จะคิดจะทำสิ่งใดก็ได้ตามความมุ่งหมาย น้ำแคนตาลุป ช่วยลดไข้ เพราะเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติเย็น ส่วนน้ำตาลและเอนไซม์ที่มีอยู่ในแคนตาลูปช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการอักเสบของลำไส้ และอาการปั่นป่วนในกระเพาะอาหารเนื่องจากินอาหารผิดสำแดง
ที่มา : ?
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 03/04/2010 5:37 pm, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11557
|
ตอบ: 21/03/2010 1:44 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แคนตาลูป...ประสบการณตรง :
...... แคนตาลูป - เมล่อน - แตงไทย - แตงโม เป็นพืชอวบน้ำ เทคนิคการบำรุงด้วยระบบ "น้ำหยด" โดยมี "ปุ๋ย/ฮอร์โมน/อื่นๆ" ไปพร้อมกับน้ำ จะได้ผลดีกว่าการให้ทางราก/ทางใบแบบกำหนดระยะเวลา
...... เตรียมดินปลูกด้วย แกลบดิบเก่า. ยิบซั่ม. กระดูกป่น. มูลไก่. บ่มดินด้วย "น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 13-13-21" นาน 1-3 เดือน
..... ช่วงต้นเล็ก ได้ใบ 4-5 คู่ ให้จิ๊บ 1 ครั้ง จะช่วยให้ได้ดอกตัวเมียมากกว่าตัวผู้
..... ช่วงออกดอก ช่วยผสมเกสรด้วยมือ ผลที่เกิดมาตจะเป็นผลสมบูรณ์ดี
..... ช่วงเป็นผลตั้งแต่ขนาดลูกมะนาว ให้ "ยูเรก้า" อัตราส่วน 1 : 500 ไปกับระบบน้ำหยด จนถึงเก็บเกี่ยว คู่กับการให้ "น้ำดำ + ฮม.ไข่ + สารสกัดสมุนไพร" ทางใบ ทุก 3-5 วัน
หมายเหตุ :
..... เทคนิคการปลูกในถุง ในโรงเรือน เลี้ยงเถาให้เลื้อยขึ้นตามหลักหรือเชือกทางตั้ง ช่วยให้ประหยัดเนื้อที่ได้มากกว่าการปลูกแล้วปล่อยให้เลื้อยยาวไปบนพื้น กล่าวคือ เนื้อที่ 1 ไร่ ปลูกแบบให้เถาเลื้อยขึ้นทางสูงได้ 800-1,200 ต้น ในขณะที่ปลูกแบบให้เถาเลื้อยไปบนพื้นจะได้ 400-600 ต้นเท่านั้น.....ข้อดีของการปลูกในถุง คือ นอกจากควบคุมปริมาณน้ำและสารอาหารได้แล้วยังควบคุมเชื้อโรคในดินได้อีกด้วย กล่าวคือ เมื่อถุงปลูกใดเกิดโรคก็จะเสียหายต่อต้นแคนตาลูปเพียงต้นเดียวในถุงนั้นเท่านั้น ไม่อาจกระจายไปยังต้นอื่นได้
..... ปลูกแคนตาลูปแบบอิสราเอล. เนื่องจากแผ่นดินอิสราเอลไม่มีดิน มีแต่ทรายเหมือนชายหาดทะเล นำทราย (ฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อนก่อนแล้ว) มาเป็นวัสดุปลูก ไม่มีอินทรีย์วัตถุ ปลูกแคนตาลูปในถุง แล้วให้ "ปุ๋ย/ฮอร์โมน" ไปกับน้ำหยดตลอด 24 ชม. ตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว
..... ช่วงหน้าฝน เกษตรกรไม่สามารถปลูกแคนตาลูปได้เพราะฝนชุก ดินแฉะ แก้ไขโดยการปลูกในโรงเรือน มีหลังคากันฝนเฉพาะตอนที่ฝนตก ปลูกในถุงให้เถาเลื้อยขึ้นทางสูง จะทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดได้และได้ราคาดีกว่าฤดูกาลปลูกปกติ
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|