-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-"บุหรง" พืชชนิดใหม่ มีสารยับยั้งมะเร็ง
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - "บุหรง" พืชชนิดใหม่ มีสารยับยั้งมะเร็ง
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

"บุหรง" พืชชนิดใหม่ มีสารยับยั้งมะเร็ง

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 13/04/2010 5:18 pm    ชื่อกระทู้: "บุหรง" พืชชนิดใหม่ มีสารยับยั้งมะเร็ง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

"บุหรง" พืชชนิดใหม่ของโลกในไทย สารมีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง

ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น กับต้นจำลองดอกบุหรงช้างขนาดเท่าของจริง

ต้นบุหรงดอกทู่จำลอง ขนาดเท่าตัวอย่างจริง ซึ่งขณะนี้ไม่ใช่ฤดูออกดอก จึงไม่มีบุหรงดอกทู่ดอกจริงให้ดูกันในวันแถลงข่าว

บุหรงช้างดอกจริงที่เจริญในป่า จ.นราธิวาส
บุหรงช้างดอกจริงที่เจริญในป่า จ.นราธิวาส
บุหรงดอกทู่ที่เจริญในป่า จ.เชียงราย
บุหรงดอกทู่ที่เจริญในป่า จ.เชียงราย

เปิดตัว 2 พรรณไม้ชนิดใหม่ของโลก พบเฉพาะในไทย "บุหรงช้าง-บุหรงดอกทู่" นักวิจัย วว. เร่งหาวิธีขยายพันธุ์ป้องกันไม่ให้หมดจากป่า พร้อมศึกษาสารออกฤทธิ์ทางยาก่อนต่างชาติฉกไปวิจัย เบื้องต้นพบกลุ่มสารสำคัญมีฤทธิ์คล้ายสารต้านมะเร็ง ปีหน้าเตรียมสกัดทดสอบประสิทธิภาพ ยับยั้งเซลล์มะเร็งก่อนถูกต่างชาติตัดหน้าเอาพืชไทยไปวิจัยและจดสิทธิบัตรในต่างประเทศ

พรรณไม้ 2 ชนิดใหม่ของโลก ได้แก่ "บุหรงช้าง" และ "บุหรงดอกกระทู่" ซึ่งเป็นพรรณไม้ถิ่นเดียวของไทยที่ค้นพบและศึกษาโดย ทีมวิจัยของ ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ซึ่งได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยในวารสาร ซิสเทมาติก บอทานี (Systematic Botany) ปีที่ 34 ฉบับที่ 2 ประจำปี 2552 เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวารสารการจำแนกพรรณไม้นานาชาติของสหรัฐอเมริกา

ดร.ปิยะ เปิดเผยกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ และสื่อมวลชนว่า เขาและทีมวิจัยสำรวจพบบุหรงช้างครั้งแรกเมื่อปี 2544 ในป่าดิบชื้นของ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ที่ระดับความสูงประมาณ 300-500 เมตร ซึ่งพบอยู่เพียงไม่กี่ต้น แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้กับชายแดนไทยมาเลเซีย จึงต้องร่วมกับนักวิจัยมาเลเซียศึกษาเป็นเวลาหลายปี กว่าจะพบว่าพืชชนิดดังกล่าวยังไม่เคยมีรายงานการค้นพบในมาเลเซียมาก่อน และเป็นพืชชนิดใหม่ของโลก

ส่วนบุหรงดอกทู่นั้น ดร.ปิยะ สำรวจพบมานานกว่า 10 ปีแล้ว ในป่าดิบเขา อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.เมือง จ.เชียงราย ที่ระดับความสูง 800-1,600 เมตร แต่เนื่องจากมีลักษณะคล้ายคลึงกับบุหรงที่พบในจีน จึงยังไม่รายงานว่าเป็นพืชชนิดใหม่ ทว่าเมื่อร่วมกับนักวิจัยจีนศึกษาพืชดังกล่าวอย่างละเอียดแล้วจึงพบว่าแตกต่างจากบุหรงชนิดอื่นๆ เมื่อราว 2 ปีก่อน จึงรายงานว่าเป็นบุหรงชนิดใหม่ของโลกอีกชนิดหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม พืชใหม่ทั้ง 2 ชนิดดังกล่าวจัดเป็นพรรณไม้หายากและเป็นพรรณไม้ถิ่นเดียวของไทย ที่มีเหลืออยู่ในธรรมชาติจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับบุหรงทั่วไปที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ประกอบกับภูมิปัญญาชาวบ้านนิยมนำลำต้นของบุหรงมาดองเหล้า เพื่อดื่มกินเป็นยารักษาอาการปวดเมื่อย นักวิจัยจึงหวั่นว่าหากไม่เร่งอนุรักษ์ไว้ พรรณไม้ชนิดใหม่ของ 2 ทั้งสองชนิดนี้อาจสูญพันธุ์ได้

นักวิจัยจึงเร่งศึกษาวิธีขยายพันธุ์บุหรงดอกทู่ โดยร่วมกับองค์การสวนพฤกษศาสตร์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งประสบความสำเร็จในการขยายพันธุ์และได้ต้นบุหรงดอกทู่จากการทาบกิ่งแล้วจำนวนกว่า 10 ต้น ส่วนบุหรงช้างยังไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ เนื่องจากเติบโตอยู่ในพื้นที่เข้าถึงยาก นักวิจัยยังไม่สามารถนำตัวอย่างต้นที่มีชีวิตออกมาจากพื้นที่ที่ค้นพบได้ ได้เพียงแต่ตัวอย่างบางของลำต้นเพียงบางส่วนเท่านั้น

นอกจากนั้น วว. ยังได้ร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยมหิดล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการศึกษาสารออกฤทธิ์ทางยาจากต้นบุหรงช้างและบุหรงดอกทู่ เบื้องต้นพบสารในกลุ่มเดซีมาสชาลอน (Dasymaschalon) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับสารกลุ่มที่มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ จึงมีโอกาสนำมาพัฒนาเป็นยาต้านมะเร็งได้ โดยในปีหน้าทีมวิจัยจะเร่งสกัดสารดังกล่าวออกมาทดสอบประสิทธิภาพการยับยั้งเซลล์มะเร็ง

"หากเราไม่เร่งศึกษาวิจัยให้รู้ผลก่อน ต่างชาติอาจมานำพืชชนิดใหม่ของเราไปวิจัยและจดสิทธิบัตรก่อนเหมือนกับหลายกรณีที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งประเทศเราเป็นเจ้าของพรรณพืชแต่กลับไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ เลย" ดร.ปิยะกล่าว

ทั้งนี้ บุหรงเป็นไม้ในวงศ์กระดังงา ที่พบแล้วทั่วโลกขณะนี้มีประมาณ 30 ชนิด ส่วนใหญ่พบในป่าเขตร้อนแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยขณะนี้พบในไทยแล้ว 12 ชนิด

ทั้งนี้ บุหรงช้าง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า เดซีมาสชาลอน แกรนดิฟรอลัม (Dasymaschalon grandifrolum Jing Wang, Chalermglin & R.M.K. Saunders) ลักษณะเด่นคือมีดอกและผลขนาดใหญ่ที่สุดในสกุลบุหรง จึงเรียกว่าบุหรงช้าง โดยแต่ละดอกมีกลีบดอก 3 กลีบ ยาวประมาณ 16-18 เซนติเมตร ดอกบานในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. มีผลทรงกระบอกยาวประมาณ 3-6 เซนติเมตร และเป็นบุหรงชนิดเดียวในขณะนี้ที่เป็นไม้เถา เถาเลื้อยได้ไกลถึง 15 เมตร

ส่วนบุหรงดอกทู่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า เดซีมาสชาลอน ออบทูซิเพทาลัม (Dasymaschalon obtusipetalum Jing Wang, Chalermglin and R.M.K. Saunders) เป็นไม้พุ่ม สูง 4-6 เมตร ดอกออกที่ปลายยอด ก้านดอกยาว 4.5 เซนติเมตร กลีบดอกมี 3 กลีบ กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 1.5-3 เซนติเมตร ขอบกลีบบรรจบกันเป็นแท่งสามเหลี่ยม ตอนปลายดอกทู่และไม่บิด ดอกบานในเดือน พ.ค.-มิ.ย.


ที่มา : วว.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 23/04/2010 2:20 pm, แก้ไขทั้งหมด 4 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Aorrayong
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009
ตอบ: 869

ตอบตอบ: 13/04/2010 7:19 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)



[/img]
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©