Learning By Doing ที่ไร่กล้อมแกล้ม 26-29 พ.ย.

[yong_hed]

ลุงคิมครับผมสมาชิกใหม่นะครับ

เพิ่งรู้จักเวปของลุงคิมเมื่อวานนี้เอง

อยากจะถามลุงคิมว่าการอบรม Learning by Doing จะมีอีกเมื่อไหร่ครับ
หรือลุงจะเอาผมไปฝึกงานที่ไร่กล้อมแกล้มก้อได้ครับ

อยากมีความรู้เรื่องเกษตรแบบไม่ต้องลองผิดลองถูกนะครับ

เสียทั้งเวลา กำลังกาย กำลังใจ และ กำลังเงินนะครับ

[A_Chumphae]

สวัสดีครับ ผม ชื่อเอ นะครับ สมาชิก ใหม่ เหมือนกันครับผม

[yong_hed]

ครับสวัสดีครับคุณเอ ผมยงนะครับ อยู่ลพบุรีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ

[nokkhuntong]

ยินดีต้อนรับคุณyong_hed ค่ะ

อยู่ลพบุรี..ปลูกอะไรค่ะ ?
แล้วรู้จักเว็ปนี้ ได้อย่างไร...?

การไปอบรมที่ไร่กล้อมแกล้ม ขานชื่อ ยกมือกันเองที่นี่เลยค่ะ
นัดรวมตัวกันหลาย ๆ คนหน่อย ที่สำคัญต้องจัดให้มีผู้ประสานงานหลักด้วยนะค่ะ
หรือหัวหน้ากลุ่มนั่นแหละค่ะ
เพราะลุงมีหน้าที่คือ..สอนอย่างเดียว...(ฟรีหลายอย่าง)

นกขุนทอง

[Yuth-Jasmine]

หวัดดีครับสมาชิกใหม่ ผมก็ใหม่เหมือนกันครับ ใหม่เมื่อไหร่ไม่บอก
วันนี้ก็เพิ่งกลับจาก ลพบุรี ครับ อยู่นครสวรรค์ครับ

นัดกันสัก ๑๐ ท่านขึ้นไปสิครับ
หาเวลาสักอย่างน้อย ๓ วัน ถ้ามีเมียแล้ว ไล่กลับบ้านไม่ต้องชวนไปด้วย
ถ้ามีกิ๊กให้พาไปได้ เอ้าว่าเข้านั่น

สำหรับผมจะไปเมื่อไหร่บอกด้วยครับ ไปแล้วก็อยากไปอีก
ไปกวนประสาทลุงน่ะครับ จริงไหมจ้ะพี่ขุนทองหัวหน้าแก๊งค์

ไอ้ยู้ดดดด...ขะรับ

[yong_hed]

[nokkhuntong]

[nokkhuntong]

คุณยงค่ะ
เพาะเห็ดนี่...น้องยุทธเคยเอาแบบแปลน โรงเพาะเห็ดมาลงไว้ ลองไปหาดูนะค่ะ
ดูดี ประหยัด...จำไม่ได้ว่าอยู่กระทู้ไหน ขออภัย..

เพาะเห็ดสัก 3 ชนิดแล้วบรรจุใส่ถาดโฟม คนรักสุขภาพชอบ..ต้มเห็ดสามอย่างไงค่ะ เคยได้ยินมั้ย
อยากทำไปหมด..นี่ พอ ๆ กับขุนทองที่ปลูกไปหมด ...เหมือนกันเลย...

[kimzagass]

ผัวเมียทำสวนเกษตร ถ้าวันไหนทะเลาะกันแล้วเข้าสวนทำงานด้วยกัน จะได้เนื้องานเยอะ เพราะต่างคนต่างทำงานไม่พูดกัน เลยได้เนื้องานเยอะไง....

ถ้าดีๆ กันอย่ เข้าสวนทำด้วยกัน ไม่ค่อยจะได้เนื้องานซักเท่าไหร่ เพราะมัวแต่จู๋จี๋ อี๋อ๋อ กันอยู่น่ะซี.....


เรียนที่ไร่กล้อมแกล้ม ไปได้ทุกวันนั่นแหละ ที่นั่นไม่มีปิด ไม่มีเปิด เพราะไม่มีประตู เข้าออกได้ทุกเวล ไม่ตรวจบัตร ไม่ตรวจอาวุธ ไม่ถามชื่อด้วย

หลายคน บ่อยๆ โทรมา แต่ละคนพูดเพราะ น่าสงสารแต่น่าหมั่นไส้......

".....ขอเวลาผมสักวัน ผมจะไปเรียนที่ไร่กล้อมแกล้ม...."

ลุงคิมก็เลยตอบว่า .....

".....ใจคอคุณจะให้ผมสอนคุณคนเดียว พูดตั้งแต่เช้ายันค่ำเนี่ยนะ....เฮ่ ! ผมหายเมาแล้ว หมอก็บอกผมหายบ้าแล้วด้วย......โถ คุณ มันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดหรอกนะ แล้วที่จะให้พูดทั้งวันน่ะ ผมจะพูดได้ครบทุกหัวข้อเหรอ ถึงพูดได้ครบทุกหัวข้อ แล้วคุณจะจำได้ทั้งหมดเหรอ.....ก็ไอ้เพราะคิดว่าเกษตรน่ะง่ายๆ ยังไงล่ะ มันถึงได้พินาศสันตะโร เป็นหนี้เป็นสิน ขายที่ขายทาง กันทั่วบ้านทั่วเมืองใช่ไหม หนี้สินภาคเกษตรงวันนี้ 7 แสนล้าน ในนั้นเป็นหนี้ส่วนของเราเท่าไหร่......"

ข้อต่อรองแบบฟังไม่ขึ้นดังกลับมา เสียงแผ่วๆ

".... คือ ผมไม่ค่อยมีเวลาน่ะครับ

ลุงคิมเลยสอนมวยทางโทรศัพท์

"..... เรื่องไม่มีเวลาคงช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ คิดดูซิ เขาเรียนจบ ม.6 แล้วเรียนต่ออีก 4 ปี จบปริญญาตรี ต่ออีก 3 ปี จบปริญญาโท ต่ออีก 3 ปี จบปริญญาเอก ไม่พอใจไปเรียนต่อเมืองนอกอีก 2 ปี 3 ปี เขาเอาเวลามาจากไหน มีอะไรบ้างในโลกนี้ที่ไม่ต้องใช้เวลา....ถ้าคุณมีความรู้พื้นฐานดี ความจำดี SENCE ดี ก็อาจจะใช้เวลาไม่มาก แต่ถ้าไม่มีความรู้พิ้นฐานเลย ก. อะ กะ - ก. อา กา. ยังตะกุกตะกัก ในภาษาเกษตรมันมีแต่ภาษาอังกฤษ แล้วย A. B. คุณไม่ AB (แอ๊บ) จะเรียนรู้เรื่องได้ไง....ผมไม่ได้ปรามาสคุณ ไม่ได้พูดให้คุณต๊อ แต่คุณต้องคิดหาวิธีช่วยตัวเองเอาเอง ทำยังไงถึงจะเรียนโดยที่ไม่เคยมีพื้นฐานมาก่อนเลยให้รู้เรื่องได้ รู้ขนาดทำได้เลย.....ผมเองศึกษาข้อมูลเรื่องปุ๋ย เรื่องฮอร์โมน.มา 5 ปี แล้วลงมือ ทำ+ ประสบการณ์ ทั้งของตัวเอง ทั้งของคนที่เอาไปใช้ต่ออีก 5 ปี ถึงวันนี้รวม 10 ปี ยังไม่จบ แล้วคุณเรียนแค่วันเดียวถ้ารู้เรื่องกระจ่างแจ้งได้ คุณเก่ง แต่คนสอนอย่างผมมน่ะ ไม่เก่งหรอก.....ก็ถ้าเรื่องนี้มันง่ายๆ ป่านนี้ ตาสี ตาสา อยู่กลางทุ่งนาคงทำกันเป็นหมดแล้ว แล้วก็คงไมต้องมาเป็นหนี้เป็นสิน ล้มเหลวซ้ำๆ ซากๆ อยู่อย่างนี้หรอก ว่าไหม"

เสียงแผ่วกว่าเดิมตอบกลับมา

"....ข อ บ คุ ณ ค รั บ....."



แค่ TITLE เรียกน้ำย่อย....ต๊อไหม
ลุงคิมครับผม

[Soup]

[yong_hed]

[kimzagass]

ประสบการณ์ตรง :


1. เคยไปสอน นศ.เกษตรกรรมโดยตรง ระดับ ปวช.-ปวส. 4 รุ่นๆ ละ 100 คน แต่ละรุ่นมาจากทั่วประเทศ ที่มูลนิธิแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง เสนา อยุธยา เป้าประสงค์ให้สอนเรื่อง "อินทรีย์นำ-เคมีเสริม ตามความเหมาะสม" มีเวลาสอนรุ่นละเพียง 2 ชม. เพราะด้วยเวลาน้อยนิด การสอนจึงต้องเข้มข้น เอาแต่เนื้อๆ ....

บทเรียนแรก ทดสอบพื้นฐาน ให้ นศ.ทั้ง 100 คน เขียนชื่อธาตุอาหารพืชมาให้ครบทุกตัว เขียนเป็นภาอังกฤษ ตัวเต็มหรือตัวย่อ หรือเขียนเป็นภาษาไทย ตัวเต็มหรือตัวย่อก็ได้ เช่น N.ไนโตรเจน. P.ฟอสฟอรัส. หรือ Fe. เหล็ก ได้ทั้งนั้น.....

ว่าแล้วก็ส่งกระดาษเปล่าให้คนละ 1 แผ่น ให้เขียนเดี๋ยวนั้น แค่นาทีเดียวก็เสร็จ.....

ใช้เวลาเกือบ 10 นาทีจึงเก็บกระดาษคำตอบมาได้ ตรวจข้อสอบเดี๋ยวนั้น ในเวลาเพียง 1 นาที ตรวจสอบซ้ำด้วยการถามตรงๆกับ นศ.คนที่นั่งหน้าชั้น จนเชื่อมั่นว่า นศ.เหล่านั้นไม่รู้จริงๆ ไม่ใช่แกล้งไม่รู้ หรือไม่รับลูกกับผู้สอนที่แต่งเครื่องแบบทหาร ยศพันโท ดาวเต็มบ่า เหรียญตราเต็มอก .....

ผลออกมา Oh ! God กระดาษคำตอบของ นศ. 94 คน เขียนได้แค่ N. P. Fe. ตามที่ยกตัวอย่างเท่านั้น ทีเหลือ 6 คน ในจำนวนนี้เขียนได้ 6 ตัว 4 คน กับเขียนได้ 9 ตัวอีก 2 คน......

ถามจริง พวกคุณเรียนเกษตร แต่ไม่รู้จักธาตุอาหารพืช แม้แต่สัตว์ก็ต้องใช้ธาตุอาหารตัวนี้เหมือนกัน เหมือนคุณเรียนคณิตศาตร์แต่ท่องสูตรคูนไม่ได้ ทำ บวก-ลบ-คูน-หาร ไม่เป็น แล้วมันจะเรียนคณิตศาตร์รู้เรื่องได้ยังไง.....

(เสียงดังลั่น) เฮ่ ! พวกมึงเรียนอะไรกันมาน่ะ ..... อาจารย์ปกครอง 4 คนท้ายห้องเรียนตีหน้าเหรอหรา



2. ที่ไร่กล้อมแกล้ม โครงการ กศน.นำกลุ่มเกษตรกร บางรักพัฒนา นนทบุรี 100 คน แบ่งเป็น 2 รุ่นๆ ละ 50 คน ใช้เวลาวันเสาร์ 1 รุ่น กับวันอาทิตย์ 1 รุ่น มีเวลาริงๆ รุ่นละ 6 ชม. ......

วันเสาร์รุ่นแรก สอน 6 สูตร (น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง. - ฮม.น้ำดำ. - แคลเซียม โบรอน. + ฮม.ไข่. - ยูเรก้า. - สารสมุนไพร. - จุลินทรีย์หน่อกล้วย) ก่อนเริ่มสอนได้ชี้นำให้เห็นถึงความ ยาก/ง่าย ประโยชน์หรือประสิทธิภาพของแต่ละสูตร แต่ละจุดขณะทำที่ต้องสังเกตุดีๆ กับทั้งบอกว่า ระหว่างสอนถ้ามีปัญหาถามทะลุกลางปล้องได้เลย แถมท้าทิ้งท้ายก่อนลงมือสอนจริงว่า

"กลับไปแล้ว ถ้าใครทำได้ขอให้ส่งข่าวด้วย ลุงคิมจะไปกราบที่บ้าน เพราะฉนั้น เมื่อเวลามีน้อย ก็ต้องตั้งใจดีๆ ตั้งใจมากๆ ...."

แล้วเริ่มลงมือสอน วิธีการสอน สอนแบบ "ทำให้ดูทีละสูตร" ใส่ส่วนผสมทีละตัวๆ ตามลำดับ ทำช้าๆ อธิบายซ้ำหลายๆ รอบ.... รุ่นแรกสอนจบแล้วสอบถามว่า กลับไปแล้วจะทำเองได้ไหม คำตอบคือ ทำไม่ได้ เพราะหลายสูตรมาก

วันรุ่งขึ้น รุ่น 2 มาต่อ ก่อนเริ่มสอนจริง กล่าวนำถึงรุ่นเมื่อวานนี้บอกว่า 6 สูตรมากเกินไป จดจำไม่ไหว ถามว่า รุ่นนี้จะเอากี่สูตร อธิบายจนเข้าใจ ได้คำตอบว่า "เอา ฮม.ไข่ สูตรเดียว" ลุงคิม O.K. ทันที สั่งเก็บอุปกรณ์การสอนสูตรอื่นๆให้หมด เหลือแต่อุปกรณ์การสอน ฮม.ไข่ อย่างเดียว.....

แล้วการสอนก็เริ่มขึ้นเมื่อเวลาราว 10 โมงเช้า จนถึงเที่ยง สอนวิธีทำได้ละเอียดถี่ยิบ เมื่อสอนวิธีทำแล้วก็สอนวิธีใช้เพราะเห็นว่ายังมีเวลาเหลือ ครั้นบอกว่า ฮม.ไข่ ต้องใช้ร่วมกับสูตรนั้น สูตรนี้ จึงจะได้ผลอย่างสมบูรณ์แบบ.....

กลุ่มผู้มาเรียนแย้งว่า "ไม่ได้สอนสูตรอื่น" ลุงคิมย้อนกลับ "ก็คุณบอกว่า ขอเรียนแค่สูตรเดียวไม่ใช่เหรอ" แล้วตัดบท "O.K. เรื่อง ฮม.ไข่ จบแล้ว ขอบคุณครับ" ลุงคิม เดินลงศาลากลางน้ำ นอน.......

วันเวลาผ่านไป 2 อาทิตย์ ตัวแทนกลุ่มนี้โทร.มาหา บอกว่า ต้องการเรียนทุกสูตร คราวนี้แต่ละคนมาเอง มาด้วยทุนส่วนตัว ประมาณ 15 คน ที่มาคราวก่อนน่ะเป็นเกษตรกรจริงๆ ไม่ถึงครึ่ง ที่เหลือไม่ได้ทำเกษตรแต่มาตามสิทธิ์ ตั้งใจมาเที่ยวเท่านั้น.....

เมื่อรู้และเข้าใจ ให้นึกสังเวช "หัวหน้ากลุ่ม" ที่วุฒิภาวะเป็นถึง "อาจารย์" ยังไม่เห็นความสำคัญของการเรียนรู้ รู้ในเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรโดยตรง ลุงคิมเลยตอบไปแบบไม่อยากให้บัวช้ำน้ำขุ่นว่า "คิวเต็ม" ขนาดนั้นยังต่อรองอีกว่า "ขอสมทบกับชุดอื่นก็ได้" คำตอบอีกครั้งจากลุงคิมก็คือ "เขาไม่รับสมทบ" เรื่องของ "บางรักไม่พัฒนา" จึงจบด้วยความเสียดาย



3. นศ.ลาดระบัง คณะเกษตร เอกพืชไร่ 9 คน ฝึกงานภาคสนามที่ไร่กล้อมแกล้ม ตามระเบียบต้องไม่น้อยกว่า 200 ชม. รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 6....

เคยสอบถามอาจารย์ว่าเป้าประสงค์ของการฝึกงานที่ไร่กล้อมแกล้มต้องการเน้นเรื่องใดเป็นหลัก คำตอบก็คือ
1.สูตรปุ๋ย/ฮอร์โมน.
2.ระบบสปริงเกอร์.
3.การจัดแปลงแบบระยะชิดพิศษ.
ให้มีเนื้อหาด้านวิชาการ 75% กับเนื้อหาด้านการปฏิบัติ 25% .....

ภารกิจฝึกงานเริ่มด้วย 3 วันแรก ทำความคุ้นเคยระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน. แนวคิดการทำเกษตรแบบไร่กล้อมแกล้ม. เป้าประสงค์ของอาจารย์ต่อการฝึกงาน. และวิชาการภาคทฤษฎีเพื่อปูทางไปสู่ภาคปฏิบัติ. ....

เพียงเริ่มต้น 3 วันแรก นศ.คนหนึ่งถึงกับ "หลั่งน้ำตา" บอกว่า

"คุณลุงขา ทำไมเกษตรถึงยากจังเลย ที่ลุงสอนมา บอกตามตรงว่า หนูไม่รู้เรื่องเลย...."

ลุงคิมพยายามเรียบเสียงให้อ่อนโยน ถามกลับว่า

"ในใจยังมีอะไรอีกไหม พูดออกมาให้หมดซิลูก...." คำตอบจาก นศ.ระดับมหา-ลัย คือ

"หนูจะยอมเสียเวลา 2 ปี ที่เรียนมาแล้ว เปลี่ยนคณะเรียน หนูว่าเรียนบริหาร น่าจะง่ายกว่านะลุง....."

ในใจลุงคิมนึกชมเชยที่เด็กคนนี้รู้จักคิดแม้จะเป็นคามคิดแบบเด็กๆ พร้อมกับทบทวนข้อมูลเมื่อวันทำความคุ้นเคยระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน รู้ว่าเด็กคนนี้ ที่บ้านมีที่ดินอยู่ย่าน ถ.นวมินร์ กทม. อาชีพทำนาข้าวเหมือนกับบ้านข้างเคียง เป็นผืนนาขนาดใหญ่ จึงตอบแบบให้คิดต่อ

"อืมมม ถ้าบ้านเรามีบริษัทเป็นของตัวเองก็น่าเรียนบริหารนะ แต่ถ้าไม่มี เรียนจบแล้วจะไปทำงานอะไร ที่ไหน ในเมื่อเรามีที่ดินเป็นของส่วนตัวสำหรับทำเกษตรอยู่แล้ว อันนี้เมื่อเรียนจบแล้วก็ช่วยพ่อกับแม่ทำเกษตรในแปลงของตัวเอง ทำเกษตรแนวใหม่ ทำอย่างคนรุ่นใหม่ คิดใหม่ทำใหม่..... ที่จริงแล้ว วิชาอะไรยากๆ คนไม่ค่อยเรียน เมื่อเรียนจบแล้วจะมีคู่แข่งน้อย แต่ถ้าวิชาไหนง่ายๆ คนเรียนมาก เมื่อจบแล้วจะมีคู่แข่งมาก เราจะสู้เขาได้หรือ...."

นี่ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ลึกๆ ลุงคิมครุ่นคิดอยู่ว่า

"สอนคนให้ไม่รู้เรื่อง สอนอย่างไรก็ได้ ....
แต่ถ้าต้องการสอนคนให้รู้เรื่อง ถามว่า สอนอย่างไร ?"

ควบคู่กันนั้น ก็ให้นึกถึงเป้าประสงค์ของอาจารย์ ที่ให้เกียรติมอบความไว้วางใจ ฝากศิษย์มาเรียนรู้ที่ไร่กล้อมแกล้ม ความคิดใหม่บังเกิดขึ้นมาบัดนั้น ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนต้องปรับตัวเข้าหากัน.... เ

ริ่มฉากใหม่ด้วยเสียงหัวเราะ นำให้ลูกสาว นศ.หัวเราะด้วย ให้มันหัวเราะทั้งน้ำตานั่นแหละ

"งั้นเอางี้ เมื่อเรียนแบบ ทฤษฎีนำปฏิบัติ.มันยาก ก็เปลี่ยนเป็นเรียนแบบ ปฏิบัตินำหรือควบคู่ทฤษฎี.ไปเลยดีไหม ปฏิบัติไป สอนไป สอดแทรกวิชาการไปเรื่อยๆ สงสัย อยากรู้ หรือไม่รู้อะไรก็ถาม...."

เหมือนจะเข้าใจ เห็นภาพ ทั้ง 9 หัวเราะเสียงดังรวมทั้งสาวเจ้าน้ำตาก็พลอยฟ้าไปด้วย เริ่มจากสูตรแรกเป็นการสร้าง "แนวสอน" บอกให้ทำ-ทำตามคำบอก ครูสอนศิษย์ถาม-ครูถามศิษย์ตอบ บางคราวเล่นจี้รายหัวกันเลย บรรยากาศที่เคยอึมครึมเคร่งเครียดในห้องสอน เปลี่ยนเป็นครึกครื้น อบอวลด้วยเสียงหัวเราะสลับด้วยวิชาการ.....

เพียง 1 อาทิตย์ ได้ฝึกทำกันครบทุกสูตร จากนั้นบังเอิญมีออร์เดอร์ปุ๋ยเข้ามา หลายสูตร ๆละหลายร้อยลิตร จึงกลายเป็นโอกาสทองให้เหล่า นศ.ได้ฝึกปรือฝีมือตัวเองอย่างดี.....

จากบรรยากาศของการฝึกงานไม่เคร่งเครียด ทำให้อารมย์แจ่มใส การฝึกงานคืบหน้าทางด้านวิชาการอื่นๆ โดยเฉพาะ "ปรัชญาการเกษตร" ที่ทุกคนคิดเป็น วิเคราะห์เป็น กระทั่งวันสุดท้ายของการฝึกงาน สาวเจ้าน้ำตาที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงนั้น จ้องหน้าลุงคิมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เป็นยิ้มของผู้ชนะ ชูกำปั้นแล้วพูดเสียงดังว่า

"หนูจะต้องเก่งกว่าลุงให้ได้..."

คำตอบจากลุงคิม คือ หัวเราะเท่านั้น.....


4.

5.


พอก่อนมั้ง....ฟังคนอ่านบ้าง จะว่าไง

ลุงคิมครับผม




.

[tooa]

tooa...

[tooa]

[kimzagass]

ถ้ามังคุดออกดอกยาก จะด้วยเหตุผลทางสายพันธุ์ (พันธุ์หนัก) หรือสภาพอากาศ (อุณหภูมิ) ไม่อำนวยก็สุดแท้....

ให้สะสมคตาดอกด้วย 13-0-46 + 0-52-35 อัตราส่วน 1 : 3
แล้วเปิดตาดอกด้วย 13-0-46 + 0-52-34 อัตราส่วน 3 : 1 หรือ 13-0-46 + ไธโอยูเรีย อัตรา 3 : 1

น่าจะชัวร์กว่านะ



ลุงคิมครับผม


.

[yong_hed]

[nokkhuntong]

[Soup]

นอนดึกมาหลายคืนแล้ว วันนี้ปวดหัว ไปนอนแล้วครับ


ราตรีสวัสดิ์ทุกคนครับ -_-

[kimzagass]

[Soup]

ลุงคิมมีศิลปะในการสอนคนจริง ๆ เลยครับ
ถ้ามีคนแบบลุงสัก 100 คนประเทศนี้คงไปไกลนานแล้ว

[kimzagass]

คนสอนฝ่ายเดียวไม่พอ คนเรียนก็สำคัญ....ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง ฉันใด คนสอน-คนเรียน ต้องไปพร้อมๆกัน ฉันนั้น

สังเกตุไหม นักเรียนในห้องเดียวกัน เรียนวิชาเดียวกัน จากหนังสือเล่มเดียวกัน คนสอนคนเดียวกัน....ทำไม สอบได้ที่ 1 คนเดียว

โลกนี้เอาอะไรแน่ แม้แต่ "ลูกครู" ยังสอบตก


ลุงคิมครับผม

[catcaty]

หวัดดีคุณ young_hed ผมก็อดีตคนลพบุรีเหมือนกัน ปู่ย่าตายายพ่อแม่ลพบุรีทั้งหมด ผมก็เกิดที่ลพบุรี แต่มาโตที่จันทบุรี

เท่าที่อ่านมา หลายคนแล้วนะนี่ ที่มีเจ้าตัวเล็กอยู่ในท้องเมียที่บ้าน ของผมก็หกเดือนแล้วเหมือนกัน ใครยังไม่แจ้งข้อมูลบ้าง?

[yong_hed]

[kimzagass]

[yong_hed]

ลุงคิมครับ


สงสัยผมคงต้องรอ รอ รอ แล้วก้อรอ รอไปอบรมกับลุงอีกนานแน่เลย
ผมว่าเอางี้ดีกว่ารุ่น พี่ทั้งหลายขอเสียงหน่อย ถือโอกาสไปเยี่ยมเยียนลุงคิม และกลับไปทบทวนความรู้เก่าๆ และอัพเดทสูตรใหม่ๆ ครับ

ผมจะได้ไปแจมด้วยครับ 555


.