ราดสารลำไยแล้วฝนตก....?

[catcaty]

ผมเคยอ่านเจอเรื่องต้นลำไยเปลือกแตกที่ไหนสักที่นึงนี่แหละแต่คราวนั้นไม่ได้
สนใจจริงจัง กลับไปค้นหาอีกก็หาไม่เจอ ลำไยที่สวนมีเปลือกแตกอยู่หลายต้นก็เลย
ไม่รู้สาเหตุและวิธีแก้ไข รบกวนลุง และพี่น้องด้วยครับ


หมึกครับผม

[ott_club]

วิจัยพบน้ำสร้างปัญหาผลลำไยแตก ทางออกตัดแต่งกิ่ง-เสริมธาติอาหาร

คมชัดลึก :จากกรณีของลำไยมีอาการผลแตกมักจะเกิดในช่วงที่ผลลำไยกำลัง
สร้างเนื้อ หรือผลใกล้จะแก่ เช่นในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ลำไยที่ประสบ
ปัญหาผลแตกมักจะเป็นลำไยที่ติดผลดก มีลูกขนาดเล็ก และเปลือกมีขนาดบาง
โดยมีสาเหตุมาจากปริมาณน้ำที่ได้รับไม่สม่ำเสมอในช่วงที่ผลกำลังพัฒนาโดย
เฉพาะในช่วงสร้างเนื้อหรือผลใกล้แก่

ผศ.พาวิน มะโนชัย นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านลำไย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เผยว่า
อาการผลแตก หรือ fruit cracking เกิดจากความไม่สมดุลของการขยายตัวของ
ส่วนเนื้อและส่วนเปลือก โดยส่วนของเนื้อมีลักษณะเป็นเซลล์อ่อนนุ่ม (spongy
parenchyma) ซึ่งมีความสามารถในการยืดหดตัวได้สูง ในขณะที่เปลือกมีความ
ยืดหยุ่นตัวต่ำกว่า ดังนั้นในกรณีที่ส่วนของเนื้อผลมีการขยายปริมาตรอย่างรวดเร็ว
แรงดันที่เกิดจากการขยายตัวของเนื้อผลสามารถทำให้เปลือกผลแตกได้

หากลำไยไม่ได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เกิดอาการผลแตกได้ง่าย เช่น ลำไยที่
กระทบแล้ง ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ประกอบกับอุณหภูมิในช่วงดังกล่าวร้อนจัด
เช่น 40 องศาเซลเซียส ทำให้ลำไยมีการคายน้ำมาก จึงต้องการน้ำในปริมาณมาก
ไปชดเชย หากได้รับน้ำไม่เพียงพอทำให้ผลลำไยเจริญเติบโตช้า เมื่อลำไยกระทบ
ฝนโดยเฉพาะฝนแรกในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ปริมาณน้ำที่ได้รับมีมากกว่า
ในช่วงที่ผ่านมา เนื้อของผลจะขยายขนาดได้เร็วกว่าเปลือกเนื่องจากลักษณะทาง
กายภาพที่แตกต่างกัน ทำให้เปลือกผลแสดงอาการแตกและร่วงอย่างเห็นได้ชัด

"ฤดูกาลผลิตลำไยปี 2553 ก็ประสบกับปัญหาลำไยผลแตกเป็นจำนวนมากและปีนี้
ผลลำไยแตกมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา จากการสำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรหรือผู้
ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตลำไยจำนวนรวม 266 รายในเขตของ จ.เชียงใหม่ ลำพูน
และเชียงราย ของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร คณะ
เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยลัยแม่โจ้ ก็ปรากฏว่ากว่าครึ่งหนึ่งของผู้ให้ข้อมูลเชื่อว่าปีนี้
ราคาผลผลิตลำไยจะตกต่ำประกอบกับผลผลิตไม่ได้คุณภาพ สาเหตุมาจากผลมี
ขนาดเล็กและแตก"

นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านลำไยคนเดิมระบุอีกว่า จากข้อมูลปริมาณน้ำฝนที่วัดได้
จากสถานีวัดอากาศของศูนย์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ซึ่งติดตั้งอยู่ที่
แปลงลำไย ในสำนักฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พบว่าปริมาณน้ำฝนในช่วงเดือน
เมษายน-มิถุนายนของปี 2553 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2552 อย่างเห็นได้
ชัด โดยพบว่าปริมาณน้ำฝนในปี 2553 ปริมาณน้ำฝนเดือนเมษายน ลดลงเหลือ
27% เมื่อเทียบกับปี 2552 ส่วนเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนปริมาณน้ำฝนลด
เหลือเพียงประมาณ 7 และ 1% ของช่วงเดือนเดียวกันของปี 2552 ตามลำดับ
"
อาการทางกายภาพของลำไยที่แตกเกิดจากการที่เปลือกลำไยขยายตัวไม่ทันการ
เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของเนื้อลำไย ซึ่งสาเหตุแท้จริงเกิดจากการที่ผลลำไยที่
กำลังเจริญเติบโตนั้น ผ่านสภาพแล้ง อุณหภูมิสูง หรือขาดน้ำก่อน จากนั้นจึงได้รับน้ำ
ในปริมาณมากทันที หรือเกิดจากการฝนขาดช่วง ได้รับน้ำไม่สม่ำเสมอ จึงทำให้เกิด
การแสดงอาการผลแตกและหลุดร่วงได้"

จากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับอาการผลแตกของลำไย ประกอบด้วย สภาพแวดล้อมภาย
นอก คือ สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน เช่น แล้งแล้วกระทบฝน หรือฝนขาดช่วง หรือ
การจัดการน้ำที่เหมาะเหมาะสม เช่น ให้น้ำไม่สม่ำเสมอ เป็นต้น และสภาพแวดล้อม
ภายในต้นลำไยเอง โดยมักจะพบว่าเฉพาะต้นลำไยที่ติดผลดก ลูกมีขนาดเล็กและ
เปลือกบาง มักจะถูกชักนำจากสภาพแวดล้อมให้แสดงอาการผลแตกได้ง่ายและ
มากกว่าต้นที่ติดผลปานกลางหรือน้อย

ส่วนปัญหาลำไยผลแตกดังกล่าว เมื่อเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถแก้ไข
ได้ วิธีการที่ดีที่สุดคือการป้องกัน ซึ่งได้แก่การให้น้ำลำไยอย่างสม่ำเสมอและเพียง
พอ หากพบว่าลำไยติดผลดกอาจจะต้องทำการตัดแต่งช่อผลออกบ้าง
เพื่อให้ลำไยสามารถเลี้ยงลูกได้ การ ดูแลเรื่องธาตุอาหารเสริมโดย
เฉพาะแคลเซียม อาจจะช่วยลดความเสียหายที่อาจจะเกิดกับสวนลำไยได้

สนใจปัญหาลำไยแตก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผศ.ดร ธีรนุช เจริญกิจ
และ ผศ.พาวิน มะโนชัย ศูนย์เครือข่ายวิจัยและพัฒนาลำไยแม่โจ้-สกว. และศูนย์
วิจัยและพัฒนาลำไยแม่โจ้ โทร.0-5349-9218 ในวันและเวลาราชการ



ที่มาhttp://www.komchadluek.net/detail/20101014/76101/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3.html
_________________
อ๊อด ระยอง

[catcaty]

ดอกลำไยชุดนี้ที่ได้มา ความรู้แนวคิดมาจากเว็ปลุงคิมเป็นส่วนใหญ่ จากที่เปรียบเทียบกับสวนข้างๆที่ออกดอกพร้อม
กัน ของเราดอกดกกว่า ก้านช่ออวบกว่า ดอกที่บานแล้วเป็นดอกตัวเมียมากกว่า (จากที่คุยกับเจ้าของสวนเขาทำตาม
แนวคิดเดิมๆ) ขอบคุณลุงคิมและพี่น้องทุกคนในสังคมที่มีแต่การแบ่งปันนี้มากครับ ที่ทำให้มือใหม่อย่างผมทำสำเร็จไป
ส่วนหนึ่งแล้ว (220 ต้น เป็นแบบนี้แทบทั้งหมด 90 กว่า%)

ขอบคุณยุทธด้วยที่สอนให้พี่เอารูปลงได้ (แต่ทำไมเอาลงได้รูปเดียวล่ะ)
หมึกครับผม

[catcaty]

อัพรูปไม่ได้เลยช่วงนี้ .....หายไปไหนกันหมดนะวันนี้...หรือไปช่วยพี่น้องที่น้ำท่วมกันหมด?
หมึกครับผม

[Yuth-Jasmine]

[catcaty]

[img]http://image.ohozaa.com/ix/3dsc[url=http://image.ohozaa.com/show.php?id=ecd1d09602b468355fca502eb97395a6]03337.jpg[/img][/url]

[Yuth-Jasmine]

เหลืออีกนิดเดียว อีกนิดเดียว แล้วคุณจะเหนียวถึงไหน
กองเชียร์มาช่วยเชียร์อัพโหลดรูปครับ

[Yuth-Jasmine]

โค้ดที่ถูกของรูปดอกลำไยครับพี่ต้องเป็นแบบข้างล่างนี้
ตรวจทานดี ๆ ครับ รูปถัดไป ก็เคาะ Enter สักสองบรรทัด
แล้วค่อยวางโค๊ดรูปภาพชุดใหม่ จะได้ไม่งงครับ
ถ้าพี่ทำถูกจะต้องไม่มีตัวอักษรแสดงโค๊ดขึ้นมาเลยครับ
ข้างล่างนี่ผมจับภาพให้พี่ดูเป็นตัวอย่างห้ามสับสนน่ะครับ
ของจริงต้องไม่มีบรรทัดข้างล่างแสดงในกระทู้น่ะครับ
จะมีแต่เฉพาะในข้อความที่เราเขียนกระทู้เท่านั้นครับผม



---------------------------------------------------------------------------------------------------



ส่วนรูปนั่งคัดลำไย โค๊ดที่ถูกต้องเป็นแบบข้างล่างครับ
ใจเย็ลๆ ดูโค๊ดให้ดี เริ่มทีละรูปครับจะได้ไม่งง



---------------------------------------------------------------------------------------------------

พี่หมึก เขามาเชียร์ตัวเองน่ะ เออน่ะ เออน่ะ
ตัวต้องอัพให้ได้น่ะ เออน่ะ เออน่ะ
ถ้าตัวอัพไม่ได้ เขาขโมยลำไย ตัวเองน่ะ (ไม่เออโว้ย)

แก่แล้วก็ยังงี้แหละตาลาย ว้า สมช. เว็บเรามีแต่ผู้เฒ่าทั้งนั้นเลย แย่จัง ๕๕๕
(จ้างก็เตะไม่ถูก)

ไอ้ยู้ดดดดด...ขะรับ

[kimzagass]

copy ...... "พี่หมึก เขามาเชียร์ตัวเองน่ะ เออน่ะ เออน่ะ"......



เฮ่ยยย....ไม่ใช่เชียร์ตัวเอง
แบบนี้ทหารม้าบอกว่า "มีดีต้องโชว์ซิวะ....."

แล้วลุงคิมยังบอกอีก "ก.ทำกับมือ...."

[kimzagass]

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=98&page=2

รู้ลำไย ให้กระจ่าง แต่อย่างเดียว....แต่ให้เชี่ยว ชาญเถิด จะเกิดผล


.................................. ฯลฯ ...............................


* มีดอกสมบูรณ์เพศ เกสรตัวผู้กับเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกันและต่างดอก
กัน ดอกตัวผู้ทีโคนช่อจะบานพร้อมผสมก่อนดอกกระเทยที่อยู่ปลายช่อ เกสรตัวผู้
เกสรตัวเมียผสมกันได้ทั้งในดอกเดียวกันหรือต่างดอกต่างต้น

* ลำไยออกดอกติดผลดีทีปลายกิ่งรอบทรงพุ่มและปลายกิ่งเหนือยอด แต่
จะไม่ออกดอกติดผลจากกิ่งในทรงพุ่ม

* ชาวสวนลำไยนิยมให้ผู้เลี้ยงผึ้งนำรังผึ้งไปไว้ในสวนช่วงออกดอก เพื่อ
อาศัยผึ้งเข้าช่วยผสมเกสร

* การบำรุงช่วงดอกบาน ถ้าต้นและเกสรไม่สมบูรณ์อย่างแท้จริง ผลที่เกิด
ขึ้นเป็น กระเทย คือ ลักษณะผลเล็ก ในผลมีแต่เนื้อไม่มีเมล็ด หรือเมล็ดเล็กลีบ
เป็นผลผลิตที่ไม่มีคุณภาพ

* เกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างไม่สมบูรณ์
เกิดจากขาดสารอาหาร/ฮอร์โมนหรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม (อากาศร้อนหรือ
ฝนตกชุก) แล้วผสมกันแล้วพัฒนาเป็นผลจะเป็นผลไม่สมบูรณ์ ไม่โต รูปทรงบิด
เบี้ยว เรียกว่ากระเทย


........................... ฯลฯ ................................



* มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าลำไยที่ถูกบังคับให้ออกดอกทำไมจึงมักมีผลเล็กหรือคุณภาพ
ไม่ดีเท่าทีควร นั่นเป็นเพราะว่าสารโปแตสเซียม คลอเรต. บังคับลำไยโดยการ
ทำลายระบบราก ระหว่างที่ดอกเริ่มออกและผลเริ่มติดนั้นระบบรากยังไม่ฟื้นตัว ต้น
จึงไม่มีรากหรือมีน้อยมากสำหรับดูดสารอาหารจากดินไปหล่อเลี้ยงต้น กอร์ปกับ
ชาวสวนลำไยไม่เข้าใจและไม่ได้ให้สารอาหารทางใบ สรุปก็คือ เหตุที่ลำไยราด
สารมีผลเล็กและคุณภาพไม่ดีเพราะต้นได้รับธาตุอาหารไม่เพียงพอนั่นเอง

* โปแตสเซียม คลอเรต. ไม่ใช่สารอาหารที่ทำให้ลำไยออกดอกโดยตรง
แต่เป็นสารที่ไปยับยั้งหรือปรับเปลี่ยนอัตราส่วนระหว่าง ซี. กับ เอ็น. ภายในต้น
อย่างรุนแรง จนกระทั่งต้นเกิดสภาวะเครียดสูงสุดจึงแทงตาดอกออกมาทั้งๆที่ยังไม้
พร้อม ถือว่าเป็นการบังคับแบบทรมาน เมื่อต้นไม่พร้อม (ความสมบูรณ์) ดอกและ
ผลออกมาจึงด้อยคุณภาพ บางครั้งถึงกับต้นตายไปเลย......ในทางตรงกันข้าม

หากปรับเปลี่ยนวิธีการบังคับแบบ ทรมาน มาเป็นบังคับแบบ บำรุง โดยสร้างและ
สะสมอาหารเพื่อการออกดอกติดผลไว้ภายในต้นให้มากี่สุดเท่าที่จะมากได้ จาก
สถานการณ์ที่เลวร้ายต่อต้นลำไยก็จะกลับกลายเป็นดีและดีตลอดไปอย่างยั่งยืนได้
แน่นอน

* การใช้สารเคมีอื่นๆ เช่น โปแตสเซียมคลอเรต (พาวิน มะโนชัย/2542)
รายงานว่าโปแตสเซียมคลอเรทสามารถทำให้ลำไยออกนอกฤดูกาลได้ โดยลำไยอี
ดอใช้สารดังกล่าว 8 กรัมต่อตารางเมตร สำหรับพันธุ์ชมพูใช้สารดังกล่าวอัตรา 1
กรัมต่อตารางเมตรจะทำให้ออกดอก 100 เปอร์เซ็นต์ โดยลำไยจะต้องได้รับการ
ปฏิบัติดูแลโดยการตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ย ให้น้ำ จนแตกกิ่งใหม่และมีใบแก่อย่างสมบูรณ์
โดยสังเกตจากสายตาว่ามีใบสีเขียวเข้ม แล้วจึงใช้สารโปแตสเซียมคลอเรท ผสม
น้ำ 20 ลิตรราดดินบริเวณแนวชายทรงพุ่มแต่ก่อนใส่สารและหลังใส่สารควรรดน้ำให้
กับต้นลำไยให้ดินชุ่มอยู่เสมอ

[kimzagass]

.................................................... ฯลฯ ..............................................


6.บำรุงดอก
ทางใบ :
- ให้น้ำ 100 ล.+ 15-45-15 (400 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+
เอ็นเอเอ. 100 ซีซี.+ ฮอร์โมนไข่ 25 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ฉีดพ่น
พอเปียก ระวังอย่าให้โชกจนลงถึงพื้น
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- ยังคงเปิดหน้าดินโคนต้น
- ใส่ 8-24-24 หรือ 9-26-26 (1/2 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.
- ให้น้ำพอหน้าดินชื้นแต่มากกว่าช่วงเปิดตาดอก หรือค่อยๆเพิ่มขึ้น ทุก 2-3 วัน
ช่วงนี้ถ้าต้นขาดน้ำจะทำให้ดอกร่วง

หมายเหตุ :
- ช่วงดอกตั้งแต่เริ่มแทงออกมาให้เห็นหรือระยะดอกตูมบำรุงด้วยฮอร์โมน เอ็นเอ
เอ. 1-2 รอบ จะช่วยบำรุงเกสรทั้งตัวผู้และตัวเมียให้สมบูรณ์พร้อมรับผสม แต่ต้อง
ใช้ด้วยระมัดระวังเพราะถ้าให้เข้มข้นเกินไปจะเกิดความเสียหายต่อดอกและถ้าให้
อ่อนเกินไปก็จะไม่ได้ผล เพื่อความมั่นใจในเปอร์เซ็นต์หรือประสิทธิภาพของ
ฮอร์โมน เอ็นเอเอ. แนะนำให้ใช้ฮอร์โมน เอ็นเอเอ.วิทยาศาสตร์แทนฮอร์โมน เอ็น
เอเอ.ทำเองซึ่งจะได้ผลดีกว่าเพราะเปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นแน่นอนกว่า
- ช่วงดอกเริ่มแทงออกมาใหม่ๆให้แคลเซียม โบรอน. 1 รอบ จะช่วยให้ดอก
สมบูรณ์ผสมติดดี
- ฉีดพ่นสารอาหารเพื่อบำรุงดอกด้วยเครื่องมือฉีดพ่นที่มีแรงลมพ่นเบาที่สุดตาม
ความเหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อส่วนต่างๆของดอก ฉีดพ่นที่ช่อดอก
โดยตรงพอเปียกหรือฉีดพ่นให้ทั่งทรงพุ่มพอเปียกใบก็ได้
- บำรุงดอกช่วงฝนชุกให้เน้น “ฮอร์โมนน้ำดำ และ แคลเซียม โบรอน” โดยให้เมื่อ
ดอกออกมาแล้วหรือให้แบบสะสมล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเปิดตาดอก ให้แบบเดี่ยวๆหรือ
ผสมรวมไปกับธาตุอาหารอื่นๆก็ได้
- ช่วงดอกตูมควรฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรให้บ่อยขึ้น เพื่อป้องกันกำจัดโรคและ
แมลงจนถึงช่วงดอกบาน
- ช่วงดอกบานควรงดการฉีดพ่นทางใบโดยเฉาะช่วงกลางวัน (08.00-12.00 น.)
เพราะอาจทำให้เกสรเปียกจนผสมไม่ติดได้ หากจำเป็นต้องฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร
ให้ฉีดพ่นช่วงหลังค่ำ
- ช่วงดอกบานถ้าตรงกับช่วงฝนชุกเกสรจะเปียกชื้นทำให้ผสมไม่ติด แก้ไขโดยการ
กะระยะเวลาเปิดตาดอกให้ดอกออกมาแล้วไม่ตรงกับช่วงฝนชุกเท่านั้น แต่ถ้าดอก
ออกมาตรงกับช่วงแล้งอากาศร้อนมากเกสรจะฝ่อทำให้ผสมไม่ติดเช่นกัน แก้ไขโดย
การสร้างความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศและที่พื้นดิน ทั้งในแปลงปลูกและรอบๆแปลง
ปลูก........มาตรการบำรุงต้นให้สมบูรณ์อยู่เสมอตั้งแต่ก่อนเปิดตาดอกจะช่วยลด
ความสูญเสียได้เป็นอย่างมาก
- ช่วงออกดอก ถ้าอากาศหนาวมากๆ จะมีดอกตัวผู้เกิดมากกว่าดอกตัวเมียแล้วร่วง
ในที่สุด แก้ไขโดย
1) บำรุงต้นด้วย "ฮอร์โมนน้ำดำ" อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เริ่มขั้นตอนแรกของการ
บำรุง
2) ช่วงเป็นเดือยไก่ ให้บำรุงด้วย "แคลเซียม โบรอน + สังกะสี" 1-2 รอบ ห่างกัน
รอบละ 7-10 วัน
3) เมื่อดอกออกมาแล้วให้บำรุงด้วย "สูตรบำรุงดอก" อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้
"สังกะสี.และ โบรอน" มีส่วนสำคัญอย่างมากในการบำรุงดอกให้สมบูรณ์จนผสมติด
เป็นผลได้ท่ามกลางสภาพอากาศวิปริต (หนาวจัด)
- การไม่ใช้สารเคมีเลยติดต่อกันเป็นเวลานานๆจนมีผึ้งหรือมีแมลงธรรมชาติอื่นๆเข้า
มาจำนวนมาก แมลงเหล่านี้จะช่วยผสมเกสรส่งผลให้ติดผลดกขึ้น
- การบำรุงตั้งแต่ช่วงเปิดตาดอกจนกระทั่งมีดอกออกมาควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอจะ
ช่วยให้ดอกสมบูรณ์ดีขึ้น


7.บำรุงผลเล็ก
ทางใบ :
- ให้น้ำ 100 ล.+ 15-45-15 (400 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซี
ซี.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ทุก 7-10 วัน
ฉีดพ่นพอเปียกใบ
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- นำอินทรีย์วัตถุกลับเข้าคลุมโคนต้นให้เหมือนเดิม
- ใส่ยิบซั่มธรรมชาติ 10 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการใส่เมื่อช่วงเตรียมดิน
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 25-7-7 (1/2 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 5
ม./ครั้ง/เดือน
- ให้น้ำเพิ่มขึ้นจึงถึงระดับปกติทุก 2-3 วัน

หมายเหตุ :
- เริ่มปฏิบัติหลังจากกลีบดอกร่วง หรือขนาดผลเท่าเมล็ดถั่วเขียว
- เทคนิคการบำรุงผลเล็กด้วย 15-45-15 วัตถุประสงค์เพื่ออาศัย P. ไป
บำรุงเมล็ด ทั้งนี้เพราะเมล็ดคือตัวสร้างเนื้อให้แก่ผล จนเมื่อผลพัฒนาถึงระยะขนาด
กลางแล้วจึงหยุดบำรุงเมล็ดเข้าสู่การบำรุงแบบ “หยุดเมล็ด – สร้างเนื้อ” ต่อไป

................................................. ฯลฯ ...........................................

[kimzagass]

ขึ้นชื่อว่า "ทฤษฎี - วิชาการ - หนังสือ - ตำรา - เอกสาร" ที่ใช้วิธีรับโดย
การ "อ่าน" แล้ว ดูเหมือนมันยากไปหมด...... ถูกต้องครับ

จากเหตุปัจจัยนี้ ลุงคิมจึงคิดอยู่ตลอดเวลาที่จะแปลง "วิชาการ เป็น การปฏิบัติ"
จากนั้นแปลงการปฎิบัติเป็น "ประสบการณ์" อีกชั้นหนึ่ง ที่ว่ายากก็จะง่าย

เคยบอกอยู่เสมอว่า ถ้าอ่าน LINE ของธรรมชาติออก คุณจะสามารถพูดปากเปล่า
ได้ 3 วัน 7 คืน

เรื่องการปฏิบัติบำรุงต่อพืชเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดตามวัตถุประสงค์นั้นไม่อาจหลีก
เลี่ยงสิ่งที่เรียกว่า "วิชาการ" ได้ ในเมื่อวิชาการมันยาก ถึงยากมากๆ จนแทบจะ
พูดได้ว่า "เกินความสามารถ" เสียแล้ว แนวทางแก้ปัญหาดูจะมีเพียงหนทางเดียว
คือ "ประสบการณ์" นั่นคือ คุณจะต้อง "สร้าง หรือ ผสม หรือ ปรุง" ปุ๋ยสูตรต่างๆ
ตามที่ระบุในข้อมูลทางวิชาการด้วยตัวเองให้ได้เท่านั้น

ในเมื่อวันนี้เราทำการเกษตรปลูกพืชเป็นอาชีพ และจะต้องทำต่อไปอีกนานเท่านาน
การผสมปุ๋ยใช้เองเป็น น่าจะเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากนะ

ค้นหาคำตอบให้ตัวเองซิว่า จะมีปุ๋ยสูตรที่ตรงกับลำไยให้กับลำไยได้อย่างไร


ลุงคิมครับผม

[catcaty]

อย่างที่ผมเคยบอกว่า ผมไม่เคยมีประสบการณ์ด้วยการลงมือทำการเกษตรมาก่อน
เลย ที่ลงมือทำก็ทำไปงั้นๆ อย่างที่พี่น้องและคนแถวบ้านทำกัน ไม่มีจุดยืนอะไร
เลย เห็นคนอื่นทำแล้วได้ตังส์ก็อยากได้มั่ง ฯ จนผมได้มารู้จักเว็ปลุงคิมผมถึงได้
เข้าใจว่าการเกษตรมันไม่ใช่อะไรที่ทำกันเพื่อเงินอย่างเดียว มันไม่ใช่งานง่ายๆ ถ้า
จะให้ผลผลิตออกมาดี ผมว่าถ้าเราจะทำให้ได้เงินไม่ยาก ได้น้อยได้มากอีกเรื่อง
นึง แต่ถ้าจะทำให้ผลงานที่เราทำออกมาดีที่สุดยากกว่าฯ

ถึงวันนี้ความคิดเรื่องการทำสวนของผมเปลี่ยนไปแล้ว จุดมุ่งหมายของผมก็เปลี่ยน
จากต้องการให้ตัวเองได้เงินอย่างเดียวก็เปลี่ยนไปด้วย ทุกวันนี้ผมมองไปที่เพื่อนๆ
พี่ๆน้องๆของผม มองไปที่การลงทุนที่ไม่รู้ว่าแต่ละปีจะใช้หนี้ ธกส.หรือนายทุนหมด
หรือเปล่า?

มองไปที่กองปุ๋ยที่สั่งมาทีละหลายๆ หมื่น โดยที่ไม่รู้ว่าในกระสอบปุ๋ยในเม็ดปุ๋ยมัน
เป็นปุ๋ยจริงๆ หรือว่ามันเป็นอะไรสักอย่างที่เอามาปั้นเป็นเม็ดใส่กระสอบมาขายอย่าง
ที่เห็น

ในข่าวเรื่องปุ๋ยปลอม มองไปที่การให้ปุ๋ยโดยไม่มีความรู้ อย่างเช่นว่า เช่าไร่ปลูก
ข้าวโพดหลายแปลง ในแต่ละแปลงดินก็ไม่เหมือนกัน แต่ปุ๋ยที่สั่งมาใส่เหมือนกัน
ทุกแปลง ในแต่ละช่วง โดยไม่เคยตรวจสอบเลยว่า ดินแต่ละที่ขาดธาตุอะไร ?
เคยใช้ เคยใส่อะไร ก็ใช้ก็ใส่มันอย่างนั้น พอผลออกมาก็ได้แต่โทษฟ้าโทษดิน
หรือบางตนอาจจะเคยสงสัยแต่ก็ไม่มีใครค้นหาคำตอบ (ชาวสวนชาวไร่ส่วนใหญ่น่า
จะกลัวความรู้ครับ) คงจะคิดแล้วปวดหัวกินเหล้าดีกว่า

ลุงครับพี่ๆน้องๆ ครับ ขอบคุณทุกแนวคิดทุกความรู้ที่ได้มา ถึงวันนี้มีคนเห็นด้วยกับ
แนวคิด "อินทรีย์นำ-เคมีเสริม" หลายคนแล้วครับ แต่ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
รอๆดูผมอยู่

ผมจะทำตามอย่างที่ลุงตั้งปณิธานไว้ครับตอบแทนความรู้ที่ผมได้จากลุง ไม่ใช่เพื่อ
คนอื่นทั้งหมด เพื่อตัวเอง ครอบครัวผมเองด้วยครับ


หมึกครับผม

[catcaty]

ผู้จัดารส่วนตัวกับผุ้ช่วย



ได้อีกขั้นแล้วครูยุทธ

[kimzagass]

ต้นลำไย อายุ 2 ปี 6 เดือน ในพื้นที่ดินเปรี้ยว มีขนาดเท่ากับ
ต้นอายุ 4 ปี ออกช่อติดผลดกหนาแน่นสม่ำเสมอโดยไม่หลุดร่วง

http://www.eco-agrotech.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538725324&Ntype=2

[Yuth-Jasmine]

สงสัยกลัวขโมยกินลำไยแน่ๆ เลย พี่หมึกเลยอัพรูปขึ้นเว็บได้ทันตาเห็น
เก่งจริงๆเลยน่ะตัวแค่เนี๊ยะ

ไอ้ยู้ดดดดด...ขะรับ

[catcaty]

ลงรูปให้ดู ติชม แนะนำกันบ้างครับพี่น้อง
หมึกครับผม

[catcaty]

[kimzagass]

นิสัยของผึ้ง ถ้าฝนชุก อากาศปิด จะไม่ออกหาน้ำหวานนะ แล้วตอนนี้ในสวนมีผึ้ง
เข้ามาช่วยผสมเกสรไหม ?

เท่าที่เคยรู้มา สวนลำไยจันทบุรีหลายสวน ชอบให้คนเลี้ยงผึ้งเอาผึ้งไปเลี้ยงในสวน
ลำไยช่วงออกดอก แต่มีข้อแม้ว่าลำไยสวนนั้นต้องไม่ใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง เสร็จ
งานเลี้ยงผึ้งแล้ว เจ้าของผึ้งก็จะแบ่งปันน้ำผึ้งให้กับเข้าของสวนลำไยบ้าง เป็นสิน
น้ำใจ ประมาณนั้น เรื่องนี้เท็จจริงประการใด ? วันนี้ยังมีอยู่ไหม ?


ลุงคิมครับผม

[catcaty]

คือยังงี้ครับลุง

เมื่อก่อนสวนลำไยจะมีอยู่ที่ อ.โป่งน้ำร้อน อ. สอยดาว เป็นส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้มี
กระจายไปทั่วทุกอำเภอแล้ว เมื่อก่อนผมเคยเห็นนะครับที่เขาเลี้ยงผึ้งในสวนลำไย
แต่ช่วงหลังนี่ไม่น่าจะมีแล้วนะครับ เพราะว่าชาวสวนแถวนี้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต่าง
ก็ใช้สารเคมีกันทั้งนั้น แม้แต่ผมเองก็ใช้อยู่ด้วย แต่ก็กำลังพยายามที่จะใช้ให้น้อยที่
สุดครับ ชาวสวนชาวไร่ก็อย่างที่ลุงรู้นั่นแหละครับ....

มีตัวอย่างของการใช้ อินทรีย์นำ-เคมีเสริม ที่ประสบผลสำเร็จอย่างงดงามมาเล่าครับ

เมื่อเร็วๆ ผมคุยกับเจ้าของสวนลำไยแปลงนึง ผมไปตอนเขาเก็บลำไยพอดี ลำไยช่อ
ขายเหมาทุกเบอร์ โลละ 29 บาท ลูกร่วงโลละ 6 บาท ลูกช่อได้น้ำหนัก 15 ตัน
กว่า ลูกร่วงได้ 2 ตัน ได้เงินราวสี่แสนกว่าบาท ผมถามเขาว่าลงทุนไปเท่าไหร่ ?

คำตอบทำเอาผมอึ้ง เขาบอกว่าค่าสาร ค่าปุ๋ย ค่ายา ไม่รวมค่าแรง
เพราะทำเองสองผัวเมียหมดไปไม่ถึงสองหมื่น ไม่ถึงสองหมื่นครับลุง
แต่ได้เงินสี่แสนกว่าบาท

เขาใช้ชีวภาพเกือบทั้งหมดครับ เชื่อไหมครับว่า ใช้ปุ๋ยเคมีแค่ 3 กระสอบเท่านั้น
ชีวภาพที่เขาใช้ก็เป็นแค่สูตรพื้นๆ ที่ทำใช้กันทั่วๆ ไปเท่านั้น ผมคิดดูถ้าครบ
สูตรอย่างที่ลุงทำอะไรจะเกิดขึ้น


หมึกครับผม

[catcaty]

ขอโทษครับลืมตอบไปข้อนึง ในสวนผมมีผึ้งครับเยอะพอควร เมื่อวานก่อนฝน
ตกลงมาแต่เมื่อวานกับวันนี้ฝนไม่ตกครับ อากาศดี


หมึกครับผม

[catcaty]

วันนี้ เกือบสิบโมงแล้ว ยังไม่มีใครเข้ามาเลย คงไปวัดทำบุญกันหมด ...!

เอาบุญมาแบ่งกันบ้างนะครับพี่น้อง


หมึกครับผม

[kimzagass]

เจ้าของบ้านยังอยู่ (โว้ย)......

[Soup]

เพิ่งกลับมาจากสำนักสงฆ์เขาสอยดาวใต้ หลังที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน ไปทุกวัน
พระครับ

วันนี้คนเยอะดีเพราะเป็นวันออกพรรษา พรุ่งนี้ตักบาตรเทโว ตั้งแต่ปีนี้คงไม่ได้ไปอีกแล้ว

วันจันทร์มีงานกฐินและผ้าป่าที่สำนักสงฆ์เขาสอยดาว ได้ไปวัดอีกแล้ว ไปแล้วมีความสุขครับ

สังคมของคนที่วัดก็เป็นสังคมที่ดี ทุกคนเป็นคนใฝ่ในบุญกุศล อยู่ด้วยแล้วรู้สึกดีครับ

[kimzagass]

ยังไม่มีใครเข้ามา พอดีไปสวนถ่ายรูปลำไยที่สวนมาลงให้พี่น้องดูกันว่าผลจากแนวคิด "อินทรีย์นำ-เคมีเสริม ตามความเหมาะสม"ของลุงคิมที่ผมนำมาใช้ในสวนได้ผลแค่ไหน ยังไม่ได้ใช้อย่างเต็มรูปแบบนะครับ..!


ภาพนี้ดอกกำลังเริ่มบาน





ภาพที่ 3-4 สังเกตุดูจะเห็นว่าดอกสมบูรณ์ดอกตัวเมียเยอะมาก

ภาพนี้จะเห็นว่าดอกดกก้านช่อยาว