แจ้งยอด Learning By Doing 26-28 พ.ย.

[napassorn]

ซุป..

กำลังเคลิ้ม ในคำสอนของลุง
ใช่หรือเปล่า...หนอ..



_________________
<<ไร่อ้อยนภัสสร>>

[kimzagass]

เมื่อครั้งมหาตมะคานธี. ขณะประชุมในสภา บรรยากาศค่อนข้างเครียด....
มหาตมะคานธี. บอกว่า ของีบ 5 นาที ครบ 5 นาทีจริงๆ ท่านตื่นขึ้นมา
แล้วบอกว่า ปัญหานี้ต้องแก้ไขอย่างนี้....โครงการนี้ต้องเริ่มต้นอย่างนี้...
แสดงว่า ขณะงีบ ท่านพักสมอง เมื่อสมองได้พักจึงคิดสิ่งใหม่ได้



แพทย์บอกว่า ขณะเรียนแล้วง่วง เกิดจากอ๊อกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมองไม่พอ
แก้ไขด้วยการหยุดหรือพักสมอง นั่นคือ "งีบ" เมื่อตื่นขึ้นมาสมองจะสวยใส



ลุงคิม (อ๊อกซิเจน-ไนโตจรเจน-คาร์บอน เลี้ยงสมองไม่ทันบ่อยๆ) ครับผม)

ปล.
- ระดับปริญญาโท อเมริกา เรียนๆ หลับๆ ขยับนิดเดียวก็ 99.99 เศษ 44 ส่วน 100 แล้ว
- กะอีกแค่ ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ฮอร์โมน และอื่นๆ บอกตรงๆ ไม่พอมือหรอก.....ว่ามั้ย
- ชอบมากๆ คำว่า "เคมีนำ - อินทรีย์เสริม" ในบางสถานการณ์
- ขอ INNOVATION ทางความคิดใหม่ๆ อีกนะ.....

[Soup]

ฝีมือพี่เกียรติหรือพี่พรครับเนี่ย คนกำลังหลับสบายเลย ที่เห็นนั่งหลับเนี่ย
เพราะคืนก่อนหน้านั้นผมนอนไม่ค่อยหลับพอกลางวันก็เลยแบตหมดน่ะครับ

เกินไปครับลุง เรื่องระดับการศึกษาเนี่ยไม่เกี่ยวหรอกครับ พ่อผมจบ ป.4 ที่โรงเรียน
วัดสิตาราม ตอนผมเด็ก ๆ พ่อคิดทำเครื่องดักยุงโดยเอาหลอดไฟสีม่วงมาตั้งบนขา
ตั้งสีขา มีฝาชีสะท้อนแสงครอบไว้ด้านบน ติดพัดลมดูดอากาศไว้ใต้หลอดไฟมีช่อง
ว่างเล็กน้อย แล้วสวมมุ้งที่เย็บเป็นถุงไว้ใต้พัดลม พอเริ่มตกดึกก็เปิดสวิทช์ให้ไฟล่อ
ยุงมาแล้วพัดลมก็ทำหน้าที่ดูดยุงเข้าไปในมุ้ง ผมเป็นเด็กก็งงว่า เครื่องนี้คืออะไร พ่อ
บอก เครื่องดักยุง ตื่นเช้ามายุงนับร้อยตัวไปนอนแอ้งแม้งอยู่ก้นถุง พ่อยังคิดสร้าง
อะไรขึ้นมาอีกเยอะแยะ ผมคงบรรยายไม่หมด ผมก็ได้เชื้อมาจากพ่อด้วยแหละครับลุง

Innovation ใหม่ ๆ หรือครับ ผมกำลังคิดถึงการทำแคลเซียมจากน้ำบาดาลที่มี
แคลเซียมสูง น้ำบาดาลที่บ้านผมมีตะกรันสูงมาก สูบขึ้นมาเก็บไว้ในแท็งค์มีแต่
ตะกรันนอนก้นเต็มไปหมด น้ำอาบแล้วคันยิก ๆ เพราะว่าพอน้ำแห้งจะมีตะกรันเกิด
ขึ้นที่รูขุมขน(เข้าใจว่างั้นนะครับ) พยายามใช้เครื่องกรองน้ำแต่พอกรองได้แึค่
8,000 ลิตร เรซิ่นที่ทำหน้าที่จับอนุภาคของแคลเซียมก็หมดฤทธิ์ ต้องล้างด้วยเกลือ
จึงจะสามารถทำกลับมาใช้ได้อีก แต่มันทำให้เราต้องล้างบ่อยมาก เกลือก็สูญเสีย
เยอะและสะสมอยู่ในดินบริเวณที่ล้าง ทำยังไงให้น้ำนี้ใช้ได้โดยไม่สูญเสีย

ลองค้นดูในกูเกิลการแก้น้ำกระด้างที่มีแคลเซียมสูงต้องใช้การต้มหรือไม่ก็การนำน้ำ
ไปผ่านเรซิ่น เรื่องการผ่านเรซิ่นไม่ต้องพูดถึงเพราะมันเปลืองเกลือมาก ก็มาคิดถึง
การต้ม ทำอย่างไรให้มันต้มได้ทีเดียวเยอะ ๆ หรือไม่ก็ให้น้ำผ่านหม้อต้มแล้วก็
ผ่านออกไปอย่างต่อเนื่องแล้วทิ้งตะกรันเอาไว้ก่อนออกไป

ความคิดยังไม่ชัดนักแต่ว่าจะใช้ถัง 200 ลิตรเป็นถังต้ม

น้ำบาดาลที่ไร่ของลุงก็มีแคลเซียมเยอะนะครับ ตอนผมอาบน้ำแล้วล้างสบู่แค่น้ำ
ไหลผ่านเอามือลูบครั้งเดียวสบู่ก็ออกไปเกลี้ยงแล้ว แปลว่าแคลเซียมสูงมาก ผม
มองไปที่แท็งค์แสตนเลสเก็บน้ำของลุงก็เห็นตะกรันเป็นทางขาว ๆ ลงมาชัดเจนแปล
ว่าน้ำมีแคลเซียมแน่นอน

ถ้าเอาน้ำนี้มาปรับให้เป็นกรดแล้วเติมโบรอนลงไปเล็กน้อยก็น่าจะเป็นแคลเซียม
โบรอนแล้วนะครับลุง ไม่ต้องไปเสียเวลาละลายแคลเซียมด้วยเพราะมันละลายอยู่
ในน้ำแล้ว ใช้ฉีดพ่นได้ทันทีโดยไม่ต้องเจือจาง แต่ถ้าจะทำขายก็จะต้องทำให้เข้ม
ข้นโดยการสกัดเอาแคลเซียมมาก่อนโดยการต้มให้ตกตะกอน หลังจากนั้นจึงเอามา
ละลายในน้ำน้อย ๆ น่าจะละลายง่ายด้วยเพราะมันเคยละลายน้ำมาแล้ว

ผมว่าในช่วงผลไม้ลุงติดผลน่ะเป็นหน้าแล้ง ช่วงนั้นลุงใช้น้ำบาดาลอยู่แล้ว เวลาลุงรด
น้ำต้นไม้ทั้งทางรากและทางใบแคลเซียมในน้ำบาดาลก็ไปบำรุงผลด้วยอยู่แล้วล่ะ
ครับ ประหยัดลงไปอีก

ผมอยากรู้ว่าสมมุติฐานที่ผมคาดเดาเรื่องน้ำกระด้างที่ไร่ของลุงว่าถูกต้องหรือเปล่า
แต่ตอนนั้นไม่กล้าปีนขึ้นไปบนแท็งค์เพราะเดี๋ยวลุงต่อว่าเอาว่าขึ้นไปทำอะไร ลุงช่วย
ผมหน่อยได้ไหมครับ ลองไปดูที่แท็งค์ว่ามีตะกรันนอนก้นเป็นผงขาว ๆ อยู่เยอะหรือ
เปล่าครับ (ดีไม่ดีมีธาตุเหล็กด้วยเพราะดูคราบตะกรันมีคราบสนิมอยู่ด้วย)


ขอบคุณคร๊าาาาาาบ
อ้อลืมบอกไปว่า วันนี้จะพาภรรยาสุดที่รักไปตรวจครรภ์ที่กรุงเทพ วันนี้คงจะไม่ได้
เข้ามาอีกนะครับ

[kimzagass]

WELL.........

[Soup]

ลืมบอกไปว่า วันนี้จะไปบริจาคเลือดด้วย ขากลับออกจากไร่ลุงคิมพลาดโอกาส
เพราะเขาเก็บเตียงไปก่อน งวดนี้อาศัยโอกาสพาภรรยาไปหาหมอ ก็จะไปบริจาค
เลือดที่สภากาชาด ได้ยินจากใครหนอที่ไร่กล้อมแกล้มบอกว่า เลือดที่สภากาชาด
กำลังขาดแคลน

เรียนเชิญท่านผู้มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ บริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล
บริจาคแล้ว เราสามารถอุทิศส่วนกุศลให้กับใครก็ได้ คนตายไปแล้วก็ได้ คนเป็นก็
ได้ วิธีอธิษฐานก็ไม่ยากครับ



อุทิศให้คนเป็น
"ด้วยอำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยคือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้กุศลผล
บุญที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้วในครั้งนี้จงส่งผลให้ .......(พ่อ แม่ หรือญาติพี่น้อง
เพื่อน ฯลฯ) จง .....(มีความสุขกายสุขใจ หายจากอาการป่วยไข้ มีทรัพย์ ฯลฯ)"

อุทิศให้คนที่ล่วงลับไปแล้ว
"ด้วยอำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยคือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และบุญกุศลที่
ข้าพเจ้าทำได้ดีแล้วในครั้งนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลเหล่านั้นให้กับ .......(พ่อ แม่
หรือญาติพี่น้อง เพื่อน ฯลฯ ผู้ล่วงลับไปแล้ว) ขอให้เขาเหล่านั้นมีความสุข (หรือไป
สู่สุคติภูมิ ถ้าเขาเพิ่งเสียชีวิต) ด้วยเทอญ

อุทิศให้ในหลวง
"ด้วยอำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยคือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้กุศลผล
บุญที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้วในครั้งนี้จงส่งผลให้ ในหลวงมีสุขภาพแข็งแรง โรคภัย
ทั้งหลายจงสูญสิ้นไป ทรงมีพระชนม์มายุยืนนานและมีจิตใจสดชื่นเบิกบาน"



จะกล่าวเป็นวาจาก็ได้ จะระลึกในใจก็ได้ แต่ในระหว่างอธิษฐานนั้นต้องมีสมาธิ การ
ทำบุญให้ทานทุกครั้ง เราสามารถอุทิืศส่วนบุญส่วนกุศลได้ทุกครั้ง หลังจากที่เราทำ
เสร็จแล้ว ไม่ว่าจะเล็กจะน้อยปานใดก็อุทิศได้ ให้ในหลวง พระราชินี พระสยามเทวา
ทิราช ท้าวจาตุโลกบาลทั้งสี่ เทวดาทั้งหลาย พรหมทั้งหลาย พระแม่ธรณี พระแม่
คงคา พระภูมิ เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าทุ่งเจ้าท่า มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์
เดรัจฉานทั้งหลาย นาคทั้งหลาย ครุฑทั้งหลาย คนธรรพ์ทั้งหลาย ยักษ์ทั้งหลาย
เปรตทั้งหลาย อสุรกายทั้งหลาย สัมพเวสีทั้งหลาย

โลกร้อนเพราะมนุษย์สะสมความไม่ดีไว้มาก ถ้าเราช่วยกันทำความดีกันให้มาก ๆ
บุญกุศลที่เกิดขึ้นจะทำให้โลกเย็นลงได้ ...... ช่วย ๆ กันครับ

[nokkhuntong]

คำอุทิศบุญ

ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่คุณบิดาและมารดา คุณครูบาอาจารย์ ปู่ย่าตา
ยาย ญาติสนิทมิตรสหาย และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายในทุกภพทุกชาติ รวมทั้ง
ท่านผู้มีพระคุณ ที่ได้ให้อาหารและปัจจัยสี่แก่ข้าพเจ้า ขอท่านผู้มีคุณทั้งหลาย
เหล่านั้นจงเป็นผู้มีความเจริญในธรรมของพระพุทธเจ้า คิดและหวังสิ่งใด ขอสิ่งทั้ง
หลายเหล่านั้น จงสมความปรารถนาทุกประการเทอญ

ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศล ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า และ
เทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพและพญายมราชทุกองค์*นายนิรยบาลทุกท่าน*
ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔*, พระธรณี , พระคงคา , พระเพลิง , พระพาย , เจ้าที่-
เจ้าทาง, เจ้าทุ่ง-เจ้าท่า-เจ้าถ้ำ-เจ้าป่า-เจ้าเขา, เปรต, อสุรกาย, ผีสางนางไม้,
สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏฏสงสาร และ ณ สถานที่แห่งนี้ ขอ
จงมารับกุศลผลบุญอันนี้ อันข้าพเจ้า ได้กระทำแล้วด้วยดีและร่วมอนุโมทนา ในครั้ง
นี้ด้วยเทอญ

*****************
*พญายมราชมี ๓๒ องค์ เพราะนรกใหญ่ ๆ มี ๘ ขุม ๆ ละ ๔ ประตู

*ท้าวจตุโลกบาลทั้ง๔คือท้าวธตรฐ(จอมภูต)ครองทิศตะวันออก , ท้าววิรุฬหก(จอม
กุมภัณฑ์)ครองทิศใต้,ท้าววิรูปักษ์(จอมนาค)ครองทิศตะวันตก,ท้าวกุเวรหรือเวสส
วัณ(จอมยักษ์)ครองทิศเหนือ /

*นายนิรยบาล คือ ผู้คุมนรก ผู้ลงโทษสัตว์นรก



คำอธิษฐาน

ด้วยอานิสงส์แห่งทานในครั้งนี้ ขอจงเป็นเหตุ เป็นปัจจัย สนับสนุนส่งเสริมให้
ข้าพเจ้า อยู่ในถิ่นประเทศที่เหมาะสมไม่ต้องเผชิญภัยจากธรรมชาติ โรคภัยต่าง ๆ
สงครามหรืออาชญากรรม ภัยพิบัติอันตรายใด ๆในทุกชาติ ได้บังเกิดใน สุคติ
ภูมิ อยู่ในบวรพุทธศาสนาในตระกูลสัมมาทิฏฐิ ดำรงตนอยู่ในมรรคมีองค์ ๘ ได้พบ
กัลยาณมิตร ได้พบพระพุทธศาสนา เป็นผู้มีโยนิโสมนสิการ และฟังธรรมจาก
สัตบุรุษ ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรม ประพฤติ ปฎิบัติธรรมเพื่อการบรรลุ มรรค
ผลนิพพาน ในอนาคตกาลอันใกล้นี้เทอญ

ขอผลบุญนี้ จงเป็นพลวปัจจัย ส่งผลให้ ไม่ว่าข้าจะอยู่ในที่ใด เกิดในชาติไหน ๆ
ให้ได้เจริญกุศล ผลทานยิ่ง ๆ ขึ้น ได้ทำทานกับผู้ทรงคุณยิ่งๆ ขึ้นไปอีก ให้เป็นผู้
พร้อมทั้ง โภคทรัพย์และอริยทรัพย์ ตลอดกาลเทอญ

*****************

โยนิโสมนสิการ หมายถึง การพิจารณาโดยแยบคาย , รู้จักคิด, คิดถูกวิธี
สัตบุรุษ หมายถึง คนสงบ คนดี คนมีศีลธรรม คนที่ประกอบด้วยสัปปุริสธรรม

[napassorn]

[joBcoMmatammi]

คาถาบูชาเมีย!!

รักเมียต้องอดทน ........ ต้องเป็นคนเคารพเมีย

รักเมียต้องส่งเสีย ........ อย่าให้เมียต้องสงสัย

รักเมียต้องรักเดียว ....... อย่าได้เที่ยวไปกับใคร

รักเมียต้องทำใจ .......... ถึงอย่าไรเธอก็เมีย

รักเมียอย่าขี้เหล้า ........ ถ้าเมียเหงาเราจะเสีย

รักเมียอย่าอ่อนเพลีย .... คนรักเมียต้องแข็งแรง

รักเมียอย่าเที่ยวดึก ...... จะเกิดศึกผิดสำแดง

รักเมียอย่าพูดแรง ...... ต้องชี้แจง ให้เข้าใจ

รักเมียต้องยอมเมีย ..... เพราะว่าเมียไม่ยอมใคร

รักเมียต้องเข้าใจ ....... ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย

รักเมียอย่าเถียงเมีย .... คำพูดเมียใหญ่กว่าใคร

ชาติหน้ามีฉันใด ........ จงจำไวอย่ามีเมีย


ผิดหัวข้อขอโทษด้วยนะครับ ติดพันมาจากรถถังลุงคิม 555+
_________________
oOoOเปลี่ยนความเสียใจให้เป็นพลังให้ชีวิตก้าวเดินต่อไปoOoO

[kimzagass]

คาถาบูชาเมียของลุงคิมเหรอ.....

ทำอะไร ............. อย่าให้เขารู้
เขารู้ ................. อย่าให้เขาเห็น
เขาเห็น .............. อย่าให้เขาจับได้
เขาจับได้............. จงอย่ารับ
ถ้ารับ................. ให้รับครึ่งเดียว


ศาลสถิตย์ยุติธรรมที่ไหนๆในโลกนี้ จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
แต่ศาลภรรยา จำเลยรับสารภาพ เพิ่มโทษกึ่งหนึ่ง ข้อหา รู้แล้วทำไมจึงทำ


หาเมีย "จาตุกัลยาณี" ซี่..... ดี 4 ประการในตัวคนเดียวกัน
1. เป็นง่อย (ตามไม่ได้)......
2. เป็นใบ้ (ไม่พูดซักคำ).....
3. หูหนวก (ไม่ได้ยิน)......
4. ตาบอด (ไม่เห็นอะไรเลย)


ลุงคิม (เสียวสันหลังแปรี๊บแปร๊บ....เว้บนี้ผู้หญิงเยอะด้วยซี) ครับผม

[catcaty]

คล้ายๆจะเคยจำได้รางๆว่า ลุงเคยบอกว่า ไอ้แป้งเป็น "จาตุกัลยาณี" นะครับ...!
(ตัวใครก็ตัวมันละกันงานนี้)


หมึกครับผม

[kimzagass]

อือ (ว่ะ) ...... ถอนคำพูดได้ไหมหมึก....หรือไม่ก็ ช่วยรับหน้าเสื่อแทนหน่อยซี่...

แล้วตอนนี้มันหายไปไหนของมันน่ะ.....


ลุงคิม (วอนซะมั้ยล่ะ) ครับผม

[catcaty]

คงถอนไม่ทันแล้วหละครับ...! ตอนนี้มันน่าจะงอนใครบางคนอยู่
โธ่เอ๋ย...น้องหมึกของพี่แป้ง เอ๊ย..! น้องแป้งของพี่หมึก

[may-etc]

เอ่อ ขอย้อนไปหน้า 3 ตอบพี่ขุนทองนิ๊ดสส นึง

ฟันธง มือปลูกฝรั่งพันธุ์ใหม่ งอกบนโต๊ะ พี่เอี๋ยวว ชัวร์ป๊าดด

(เจ้าตัวแอบมากระซิบบอกเอง อิชั้นมิได้เผาใครนะคร๊า)

[kimzagass]

[joBcoMmatammi]

ขอระบายหน่อยครับลุง (จาตุกัลยาณีอยู่ไหน)

คุณเมียของผม
ตอนเช้าก่อนเราไปทำงานชวนทะเลาะ กั๊กเราว่าจงอย่ามีกิ๊ก ถ้าไม่ทานข้าวเช้าแสดง
ว่าเราไปทานกับกิ๊ก ถึงแม้บางวันตื่นสาย ก็ต้องไปทำงานสาย ก็ต้องทาน และส่วน
ใหญ่ผมจะตื่นสายซะด้วย ทำงานสายทุกวัน หัวหน้าก็ด่าเรา ไม่ได้ด่าคุณเมีย (คุณ
เธอบอกงานสำคัญกว่าเมียไม่ได้)

ตอนกลางวันไม่มาทานข้าวบ้านแสดงว่าไปทานกับกิ๊ก ทั้งๆที่เรางานยุ่ง ไม่กลับไป
ทานบ้านแตก (ต้องไปทานข้าวบ้าน เพราะคุณเธอบอกงานสำคัญกว่าเมียไม่ได้)
ตอนเย็นถ้าทานข้าวทำท่าไม่อร่อย แสดงว่าไปทานกับกิ๊กมา (เกิดเรื่องราวทะเลาะ
กันใหญ่โต)

ตอนกลางคืนเราจะนอน ทำงานมาเพลีย ก็นอนไม่ได้ ต้องรับฟังเรื่องราวที่คุณเมีย
น้อยอกน้อยใจก่อนถึงจะนอนได้ ถ้าไม่ให้หนุนแขน แสดงว่าเราเปลี่ยนไป แต่ตอน
หัวค่ำทะเลาะกันแล้วใครจะมีอารมณ์ไปให้หนุนแขน (อย่างไรก็ต้องให้หนุน เพราะ
คุณเธอบอกอีกว่า ไม่เห็นความสำคัญของคุณเมีย เดี๋ยวทะเลาะกันอีก)

และคุณเมียเวลาทะเลาะแล้วคุณเธอต้องการเคลียร์เดี๋ยวนั้น เคยตกลงกันว่าให้ใจ
เย็นก่อนค่อยเคลียร์ แต่ก็แค่ตกลง เธอไม่ทำ จะทำไม สรุป ถ้าเราไม่เคลียร์เธอบอก
เลิกกัน เราโมโห เอ้า จะเลิกก็เลิกซิวะ เบื่อพูดกันไม่รู้เรื่อง คุณเมียร้องไห้ บ่อน้ำตา
แตก แล้วพูดว่า แล้วทำไมตอนแรกก่อนที่จะเอาเธอมาเป็นเมียไม่ทำอย่างนี้ เธอจะ
ได้ไม่เสียอนาคต หรือไม่ก็ไปมีอนาคตกับคนที่ดี เราทำให้ชีวิตเธอล้มเหลว แล้วก็มา
ทิ้งให้เธออยู่กับความล้มเหลว อ้าว แล้วมันยังไงครับคุณเมีย ผมพูดอะไรไปคุณก็ไม่
ฟังซักนิดนึง คุณเธอคิดแต่ว่า ที่เธอคิดนั้นว่าเราเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ นั่นคือความ
จริง และไม่มีเหตุผลอะไรมาลบล้างได้แล้ว ต่อให้เราพูดให้ตายอีก เธอบอกว่าจะ
เชื่อที่ผมพูดก็ต่อเมื่อผมลาออกจากงานที่ทำอยู่ (ผมก็ทำงานอย่างอื่นไม่เป็น และ
ผมคิดว่าข้อเสนอของไม่มีเหตุผล) แล้วเธอก็สรุปมาว่า ถ้าอย่างนั้นเราควรห่างกัน
ซัก 7 วัน ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้น ก็คงต้องเลิกกัน

เรื่องราวของผมเป็นอย่างนี้ครับ ผมเคยเป็นอย่างนี้มาแล้วครั้งนึง ซึ่งผมยอมไปง้อ
เพราะว่าผมผิด ผมเคยเจ้าชู้ เคยมีกิ๊ก (ก่อนมีเมียผมได้ชื่อว่าเสือผู้หญิง) แต่สรุป
แล้วผมก็รักคุณเมียและผมก็เลิกแล้ว แบบเลิกขาดเลยลุง แต่เธอก็ชอบดักชอบชวน
ทะเลาะเกี่ยวกับเรื่องกิ๊กนี้ และผมคิดว่าคงรับสภาพแบบที่เธอเป็นได้แบบนี้ได้ เพราะ
ผมเคยทำผิดมาก่อน แต่ตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจ เพราะมันเกิดเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกผม
ขาดทุนไปกับร้านที่เปิดด้วยกัน 120,000 บาท เธอบอกว่าที่เธอเป็นอย่างนี้ก็เพราะ
รักผมไม่อยากให้ผมไปมีคนอื่น

ผมรู้สึกว่าผมอยู่กับเธอแล้วผมทำงานไม่ได้ อย่างงานประจำก็อย่างนึงครับ งานเสริม
อย่างไร่อ้อยก็เป็นเหมือนกัน เรียกว่าเราไปไหนเธอไปด้วย แต่ผมก็คิดว่าดีครับ ให้
ตามมาแหละดี จะได้รู้ว่าเราทำอะไร จะได้มีหลักฐานพิสูจน์ได้ แต่ไม่ใช่ครับ ผมก็
ให้ดูก่อนเพราะเธอทำไม่เป็น เดี๋ยวค่อยทำตาม แต่เธอไม่ ก็ฉันจะทำ จะทำไม ฉัน
อยากช่วย ฉันผิดหรอ ฉันก็เป็นอย่างนี้ไม่ดีเหมือนกิ๊กเธอหรอก เอ้าทะเลาะกันอีก
แล้ว วันพรุ่งนี้เธอไม่ต้องไปนะ ผมจะทำเอง คุณเธอบอกว่าจะแอบไปหากิ๊กอีกใช่
ไหม จะอย่างโน้นอย่างนี้ เอ้า ทะเลาะๆ สรุปอ้อยกรู เน่าพอดี และเธอบอกที่เธอเป็น
แบบนี้เพราะรักผม

ซึ่งที่จริงผมไม่ได้มีคนอื่น แต่ชีวิตผมเลยต้องเป็นแบบนี้ทุกวัน ทะเลาะแบบนี้เกือบ
ทุกวัน เดินหนีก็ไม่ได้ เธอไม่ยอม ผมเคยวิ่งหนี (เพื่อรอให้ใจเย็นก่อนค่อยคุย) แต่
คุณเธอไม่ยอมวิ่งตามจนแท้งลูกไป 1 คน ผมควรจะทำอย่างไรดี เพราะผมเคยคุย
กันหลายครั้งแล้ว มันก็เป็นเหมือนเดิม สรุปมันต้องแก้ไขอย่างไรครับลุง


ผมขอโทษที่ผมผิดที่ผิดทางผิดเว็บ แต่ผมเครียดจริงๆลุง เมื่อเช้าเธอก็มาทะเลาะกับ
ผมถึงที่ทำงาน และผมก็โดนทุบด้านหลัง 1 ที เธอเขย่า กระชากว่า ทำไมถึงทำให้
ชีวิตเธอเป็นแบบนี้ (ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ผมตื่นสาย 2 วันแล้วไม่ได้กินข้าวเช้า
เพราะผมไปหว่านยิปซั่มมา 2 เย็น และก็มีเธอไปด้วย) ผมบอกมีอะไรคุยกันที่บ้าน
ได้ไหม สรุป ไม่ได้ คนมองให้เต็มหมด และคุยกันข้อสรุปเหมือนเดิมครับ 7 วัน ผม
ปรึกษาใครไม่ได้ เพราะผมเคยปรึกษาแล้วผมทำคนที่ให้คำปรึกษาเกือบทุกคน
เดือดร้อน เพราะผมมาแล้วทั้งนั้น เพราะผมเลือกที่จะไปง้อคุณเธอ ผมไม่อยากล้ม
เหลวเป็นครั้งที่ 2 ครับ
_________________
oOoOเปลี่ยนความเสียใจให้เป็นพลังให้ชีวิตก้าวเดินต่อไปoOoO

[kimzagass]

ระบายออกมาเถอะ ลุงคิมรับได้ ถ้าได้ระบายออกมาซะบ้าง เชื่อว่าอะไรๆคงดีขึ้น
โดยเฉพาะอารมย์ ถ้าอารมย์โปร่งซักหน่อยอาจจะเห็นช่องทางแก้ปัญหาได้

เรื่องทำนองนี้เหมือนผงเข้าตา ตัวเองเอาออกเองไม่ได้ ต้องอาศัยไหว้วานคนอื่น
เอาออกให้

เอ้า. พวกเรา ใครมีแนวคิดดีๆ เสนอมาได้นะ ส่วนของลุงคิมขอเวลานี้ดนึ่ง
เพราะลุงคิมเองก็เครียดเหมือนกัน แต่คนละเรื่องกันกับคุณเท่านั้นแหละ



ลุงคิม (เห็นใจ หัวอกลูกผู้ชายเหมือนกัน) ครับผม

[Soup]

คุณ joBcoMmatammi

เมียคุณคล้าย ๆ กับเมียผม แต่เมียผมไม่ได้ขึ้หึงแต่ขี้งอน ต้องการการเอาใจใส่สูง แล้วก็มักจะคิดว่าเราไม่รักได้ง่าย ๆ

ให้กอดเมียบ่อย ๆ แล้วก็บอกว่าผมรักคุณ แค่นั้นแหละ แก้ปัญหาได้ครับ

[joBcoMmatammi]

[Sita]

...ที่คุยๆกันอยู่นี่ เรื่องจริงหรือล้อเล่นกันคะ
แป้งจะได้ตามเรื่องถูก...ไม่งั้นเดี๋ยวโผล่มา
ผิดที่ผิดจังหวะแล้วมันจะแย่.......

...อ้อ มีอีกเรื่องที่บอกว่าแป้งเป็น จาตุกัลยาณีน่ะ...แป้งเคืองนะ ขอบอก จริงๆมันต้อง เบญจ
มันยังขาด"โง่" ไปอีกอย่าง มันไม่ครบเบญจ
เคือง..ค่ะ เคือง....


แป้ง....(เบญจกัลยาณีแบบฉบับของลุงคิม จริงแท้แน่นอน)

[kimzagass]

แป้ง..... หนูแป้งนะเนี่ยยยยย....

[Sita]

กราบสวัสดีค่ะคุณลุง....
แป้งเองค่ะ ตัวหนังสือจริงไม่มีตัวไม่มีเสียง
มีอะไรเหรอคะคุณลุง..ไม่แน่ใจอะไรเหรอคะ


แป้งเองค่ะ(จริงๆ)

[catcaty]

ฮ่ะ ฮ่ะ ผมเตือนลุงแล้ว.....งานนี้ผมไม่เกี่ยวครับ ผมแค่เอาประโยคเก่าๆมาบอกเล่าเท่านั้น
หมึกครับผม

[kimzagass]

อั้ยหมึก.....อย่าเอาตัวรอดคนเดียวซิ (วะ)

ไม่รู้จักฤทธิ์ลูกคนนี้เหรอ ?


ลุงคิม (ชักปอดๆ) ครับผม

[Sita]

คุณลุงคะ...แป้งไม่ใช่ยักษ์มารนะคะ..
บอกแล้ว..หน้าตาไปวัดตอนสายๆได้
พระเณรไม่แตกกระเจิง อย่างมากก็แค่
เลี่ยงๆไป..ส่วนน้ำจิตน้ำใจก็ง้าม..งาม
จะกลัวอะไรกันคะ....ไม่กินตับใครหรอกค่ะ
แฮ่..ฮึ่ม..แฮ่..!!!

แป้ง..

[catcaty]

บ่ายแก่ๆของวันหนึ่ง ท่ามกลางเปลวแดดที่แตกประกายยิบๆ นอกชายคาบ้าน
"อั้ยหมึก" นั่งก้มหน้าก้มตาประกอบเครื่องรถอย่างขมักเขม้น หน้าดำคร่ำเครียด
เหงื่อไหลไคลย้อยที่ร้านซ่อมของตัวเองที่อยู่หน้าบ้าน สายตาก็คอยเหลือบ
มองกลับเข้าไปภายในบ้านอย่างเมือนกับหวาดระแวงอะไรสักอย่างหนึ่งอยู่บ่อย
ครั้ง....บรรยากาศของวันนั้นช่างเงียบเชียบไร้ผู้คน ความอบอ้าวของอากาศก็ช่าง
มากเสียจนออกจะร้อนๆไปทั่วร่าง จนเหงื่อไหลออกมา แต่มันก็ยังน้อยกว่าความ
ร้อนรุ่มที่อยู่ในอกของ "อั้ยหมึก"

จนในที่สุดความเงียบก็ถูกทำลายลงอย่างราบคาบจากเสียงตะโกนที่ดังออกมาจาก
ในบ้าน สำหรับคนอื่นมันอาจจะไม่ดังนัก แต่สำหรับ "อั้ยหมึก" มันช่างดัง ดังปาน
เสียงโกญจนาท มันดังแทรกซึมเข้าไปทุกอณูของร่างกาย เสียงนั้นตะโกนว่า "อั้ย
หมึก มึงตายยยยย" จังหวะนั้น อั้ยหมึกหันขวับกลับสิ่งที่เห็นจากการเก็บราย
ละเอียดที่รวดเร็วยิ่งกว่าทหารที่อยู่ในสนามรบก็คือ ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่รูปร่าง
หน้าตาค่อนข้างดี (เมียมันเอง) พุ่งพรวดออกมารวดเร็วปานใช้กำลังภายในขั้นสูง
นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ "อั้ยหมึก" หัวใจแทบหยุดเต้น สิ่งที่อยู่ในมือของเธอต่าง
หากที่ทำให้ "อั้ยหมึก" ตกตะลึงตาค้าง ในช่วงเสี้ยววินาที ความดำมะเมื่อมของเนื้อ
เหล็กชั้นดีที่ดูขลังขรึมที่ประกอบกันขึ้นเป็นอาวุธสงครามชนิดหนึ่ง "มันคือ ดาบ
ปลายปืน"

ดาบปลายปืนที่หล่อนกำไว้แน่น จนด้ามดาบแทบแหลกนั้น ชี้ตรงมาที่ร่างของมันตรง
แหนวพร้อมกับการพุ่งออกมาของหล่อน...เซลล์สมองที่เป็นส่วนประมวลผล
ของ "อั้ยหมึก" ทำงานอย่างรวดเร็ว อย่างคุ้นเคย และเคยชินจากที่เคยประสบ
เหตุการณ์ทำนองนี้มาหลายหน ประสาทสั่งการ สั่งการให้อวัยวะหลายๆ ส่วนทำงาน
พร้อมๆกัน ...วิ่งๆๆๆๆๆ วิ่งอย่างเดียว วิ่งอย่างตั้งจุดหมายไว้อย่างเดียว คือ รักษา
ชีวิตเอาไว้ให้ได้ ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมาดูว่าหล่อนตามมาหรือไม่...จนกระทั่ง
เท้าเจ้ากรรมสะดุดกับอะไรสักอย่างหนึ่ง ล้มกลิ้งหัวคะมำ ม้วนลงไปคลุกฝุ่นหลาย
ตลบ "อั้ยหมึก" คิดอย่างร้อนรน กรูตายแน่..พร้อมกับตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา
เหลียวหน้ากลับไปมองทางที่วิ่งมา ...อ้าวหล่อนไม่ได้ตามมานี่หว่า ......

คุณjobฯ คุณคงไม่เคยเจอแบบนี้ ปัญหาชีวิตครอบครัวไม่มีรูปแบบตายตัวเพราะ
ต่างคนก็ต่างจิตใจ ต่างความคิด อยู่ที่ว่าจะปรับตัวปรับใจให้ยอมรับและเข้าใจกันได้
หรือเปล่า? คำแนะนำของพี่ก็คือ เอาใจออกมาคุยกัน จะแบบจับเข่าคุยกัน หรือจะ
จับอะไรคุยกันก็แล้วแต่สะดวก (แต่อย่าจับไม้หน้าสามคุยกันนะ) คุณอยู่กันสองคน
คงไม่มีใครรู้และเข้าใจปัญหาของคุณเท่าคุณสองคนหรอกจริงมั้ย ? โจทย์ไม่ต้องตั้ง
เพราะมันมีอยู่แล้ว ตีมันให้แตก แล้วจะแก้ได้ไอ้น้อง ลุย....พี่เอาใจช่วย


หมึกครับผม
(เรื่องที่เอามาเล่าเป็นเรื่องสมมตินะครับ...อย่าคิดว่าเป็นเรื่องจริง แหะ แหะ )