ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11656
|
ตอบ: 01/02/2011 9:05 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
หลับตาแล้ว ปิดจมูก ปิดปาก ปิดหู ด้วย....
ถามคนอื่น (โว้ยยยยย....)
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
nokkhuntong สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 26/02/2010 ตอบ: 256
|
ตอบ: 01/02/2011 9:50 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ก่อนนอน...ต้องทำอะไร ?
ก่อนนอนก็ต้อง "นั่ง" ก่อนซิคะ ไม่นั่งแล้วจะนอนได้ยังไง...จริงไม่จริง
นกขุนทอง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11656
|
ตอบ: 01/02/2011 10:05 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ถูกต้อง......
สงสัยคุณ เอ.ชุมแพ ล้มทั้งยืนลงไปนอนซะมั้ง....
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
A_Chumphae สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 10/10/2010 ตอบ: 153
|
ตอบ: 01/02/2011 10:33 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
โทษทีครับลุงคิมที่ตอบผิด ผม "โง่" ไปนิดครับ (หรือว่ามาก) ^^ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11656
|
ตอบ: 02/02/2011 8:02 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ไม่ใช่โง่หรอก อย่าดูถูกตัวเอง ...... ทุกคนไม่มีใครโง่
เพียงแต่ขาด "เฉลียวใจ" ไปนิดเดียวเท่านั้น
เหมือนทำเกษตร ถ้า "เฉลียวใจ+สังเกตุ" มองอะไรให้ครบทุกแง่ทุกมุม
แล้วทำก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก
ที่จริงเรื่องเกษตรเนี่ย เป็นเรื่องของธรรมชาตินะ
มนุษย์ไม่สามารถเอาชนะธรรมาติได้ แม้แต่นักวิทนาศาสตร์นาซา
เพราะฉนั้น จงอย่าเอาชนะธรรมชาติ แต่จง "ฝืน/ปรับ/เสริม" ธรรมชาติ
แล้วจะได้ประโยชน์สูงสุดจากธรรมชาติ
ลุงคิมครับผม
ปล.
คนเอาชนะคนไม่ได้นะ เอ.นะ
คนสองคนมุ่งเอาชนะกัน คนชนะได้อะไร คนแพ้เสียอะไร .... เสียทั้งคู่ใช่ไหม ?
แต่ถ้าคนสองคนมุ่งไปด้วยกัน นั่นคือ ชนะทั้งคู่ ใช่หรือไม่
ยุคนี้ต้อง COMMUNITY คือ "ร่วมกัน" จึงจะประสบความสำเร็จ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
A_Chumphae สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 10/10/2010 ตอบ: 153
|
ตอบ: 02/02/2011 9:55 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ครับลุงคิม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
napassorn สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 25/09/2010 ตอบ: 202 ที่อยู่: จ.นครราชสีมา
|
ตอบ: 02/02/2011 11:51 am ชื่อกระทู้: |
|
|
kimzagass บันทึก: | A_Chumphae บันทึก: | สวัสดีครับลุงคิม สบายดีไหมครับ
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เข้ามาคุยกับ ส.ม.ช ทุกท่าน เพราะงานยุ่งกลับบ้านค่ำทุกวันอาบน้ำเสร็จก็นอนเลย
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว รักษาสุขภาพด้วยนะครับลุงคิม |
A. ถามหน่อย...."ก่อนนอน ทำอะไร ?"
ลุงคิม (สุขภาพแก่เหมือนเดิม) ครับผม
ปล.
ถ้า เอ.ชุมแพ ตอบไม่ได้ ใครช่วยให้คำตอบแทนก็ได้นะ |
ลุงคิมนะแก่แต่กาย...แต่ใจเกินร้อย...จริงเปล่า _________________ <<ไร่อ้อยนภัสสร>> |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
napassorn สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 25/09/2010 ตอบ: 202 ที่อยู่: จ.นครราชสีมา
|
ตอบ: 02/02/2011 12:00 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
A_Chumphae บันทึก: | สวัสดีครับลุงคิม สบายดีไหมครับ
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เข้ามาคุยกับ ส.ม.ช ทุกท่าน เพราะงานยุ่งกลับบ้านค่ำทุกวันอาบน้ำเสร็จก็นอนเลย
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว รักษาสุขภาพด้วยนะครับลุงคิม |
ระวัง !!!
จะผอมไปนะ A
หุ่นอย่างนี้แหละดี...เสี่ยไร่อ้อย... _________________ <<ไร่อ้อยนภัสสร>> |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
A_Chumphae สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 10/10/2010 ตอบ: 153
|
ตอบ: 02/02/2011 12:02 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ตัดอ้อยหรือยังครับพี่เกียรติ สบายดีกันทั้งพี่พรและพี่เกียรตินะครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
napassorn สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 25/09/2010 ตอบ: 202 ที่อยู่: จ.นครราชสีมา
|
ตอบ: 04/02/2011 11:59 am ชื่อกระทู้: |
|
|
A_Chumphae บันทึก: | ตัดอ้อยหรือยังครับพี่เกียรติสบายดีกันทั้งพี่พรและพี่เกียรตินะครับ |
สบายดี
กำลังตัดอ้อยอยู่
ราคายังคงที่ เท่าเดิม
ยิ่งนานน้ำหนัก ยิ่งลดไป _________________ <<ไร่อ้อยนภัสสร>> |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11656
|
ตอบ: 04/02/2011 1:16 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
napassorn บันทึก: | A_Chumphae บันทึก: | ตัดอ้อยหรือยังครับพี่เกียรติ สบายดีกันทั้งพี่พรและพี่เกียรตินะครับ |
สบายดี
กำลังตัดอ้อยอยู่
ราคายังคงที่ เท่าเดิม
ยิ่งนานน้ำหนัก ยิ่งลดไป |
โพสต์รูปมาให้ดูหน่อยก็ดีนะ.....
อยากเห็นสภาพหน้าดิน กับสภาพตอเดิม หลังจาก "เจียนตอ" แล้ว
จะได้เอามาวิเคราะห์หาหนทางบำรุงรุ่นต่อไป ด้วยต้นทุนที่ต่ำสุดไง
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
A_Chumphae สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 10/10/2010 ตอบ: 153
|
ตอบ: 04/02/2011 5:12 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
napassorn บันทึก: | A_Chumphae บันทึก: | สวัสดีครับลุงคิม สบายดีไหมครับ
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เข้ามาคุยกับ ส.ม.ช ทุกท่าน เพราะงานยุ่งกลับบ้านค่ำทุกวันอาบน้ำเสร็จก็นอนเลย
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว รักษาสุขภาพด้วยนะครับลุงคิม |
ระวัง !!!
จะผอมไปนะ A
หุ่นอย่างนี้แหละดี...เสี่ยไร่อ้อย... |
ไม่ผอมหรอกพี่ กินแล้วก้นอน น้องญิ๋งยิ่งบอกให้ลดๆอยู่ด้วย
ราคาทาง รง.เอราวัณให้ 1,500 บาท อ้อยสดให้อีก ตันละ 56 บาท
แต่เอไปขายไม่ได้ เค้าพูดดักคอไว้แล้ว ถ้าเอาอ้อยไปทางอื่น
เค้าจะไม่ให้เงินสนับสนุน
ปล.1 ตอนนี้ปลดหนี้ รง. หมดแล้วพี่ week นี้ได้รับเช็คละไม่ต้องไปเซ็นรับสภาพหนี้แล้ว
ปล.2 เดี๋ยวเอ.จัดการถ่ายรูปหลัง "เจียนตอ" มาให้ลุงคิมดูนะครับ พอดีช่วงนี้ตรุษจีนเลยเอารถไถเข้าอู่เช็คปั้มไฮดรอลิค
ปล.3 คิดถึงพี่ยุทธนะครับหายไปเลย ลุงคิมได้ข่าวแม่พี่ยุทธหรือเปล่าครับ แกดีขึ้นไหมครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11656
|
ตอบ: 04/02/2011 6:07 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
A_Chumphae บันทึก: | napassorn บันทึก: | A_Chumphae บันทึก: | สวัสดีครับลุงคิม สบายดีไหมครับ
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เข้ามาคุยกับ ส.ม.ช ทุกท่าน เพราะงานยุ่งกลับบ้านค่ำทุกวันอาบน้ำเสร็จก็นอนเลย
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว รักษาสุขภาพด้วยนะครับลุงคิม |
ระวัง !!!
จะผอมไปนะ A
หุ่นอย่างนี้แหละดี...เสี่ยไร่อ้อย... |
ไม่ผอมหรอกพี่ กินแล้วก้นอน น้องญิ๋งยิ่งบอกให้ลดๆอยู่ด้วย
ราคาทาง รง.เอราวัณให้ 1,500 บาท อ้อยสดให้อีก ตันละ 56 บาท
แต่เอไปขายไม่ได้ เค้าพูดดักคอไว้แล้ว ถ้าเอาอ้อยไปทางอื่น
เค้าจะไม่ให้เงินสนับสนุน
ปล.1 ตอนนี้ปลดหนี้ รง. หมดแล้วพี่ week นี้ได้รับเช็คละไม่ต้องไปเซ็นรับสภาพหนี้แล้ว
ปล.2 เดี๋ยวเอ.จัดการถ่ายรูปหลัง "เจียนตอ" มาให้ลุงคิมดูนะครับ พอดีช่วงนี้ตรุษจีนเลยเอารถไถเข้าอู่เช็คปั้มไฮดรอลิค
ปล.3 คิดถึงพี่ยุทธนะครับหายไปเลย ลุงคิมได้ข่าวแม่พี่ยุทธหรือเปล่าครับ แกดีขึ้นไหมครับ |
ได้ข่าว....เดือน ม.ค. ทั้งเดือนอยู่ ร.พ. เข้ารับการรัษาตามครอร์สของหมอจนครบทุกขึ้นตอน แรกๆ ดูอาการเหมือนทรงกับทรุด แต่แล้วเหมือนพระยังโปรด หรือเป็นเพราะกำลังใจของคนไข้ อาการค่อยๆดีขึ้นๆ ๆๆ
วันนี้แม่กลับไปพักฟื้นที่บ้านพยุหคีรี นครสวรรค์แล้ว ท่ามกลางการดูแลของบรรดาลูก กำลังใจดีมากๆ ประมาณนี้
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
napassorn สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 25/09/2010 ตอบ: 202 ที่อยู่: จ.นครราชสีมา
|
ตอบ: 05/02/2011 9:50 am ชื่อกระทู้: |
|
|
kimzagass บันทึก: | A_Chumphae บันทึก: | napassorn บันทึก: | A_Chumphae บันทึก: | สวัสดีครับลุงคิม สบายดีไหมครับ
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เข้ามาคุยกับ ส.ม.ช ทุกท่าน เพราะงานยุ่งกลับบ้านค่ำทุกวันอาบน้ำเสร็จก็นอนเลย
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว รักษาสุขภาพด้วยนะครับลุงคิม |
ระวัง !!!
จะผอมไปนะ A
หุ่นอย่างนี้แหละดี...เสี่ยไร่อ้อย... |
ไม่ผอมหรอกพี่ กินแล้วก้นอน น้องญิ๋งยิ่งบอกให้ลดๆอยู่ด้วย
ราคาทาง รง.เอราวัณให้ 1,500 บาท อ้อยสดให้อีก ตันละ 56 บาท
แต่เอไปขายไม่ได้ เค้าพูดดักคอไว้แล้ว ถ้าเอาอ้อยไปทางอื่น
เค้าจะไม่ให้เงินสนับสนุน
ปล.1 ตอนนี้ปลดหนี้ รง. หมดแล้วพี่ week นี้ได้รับเช็คละไม่ต้องไปเซ็นรับสภาพหนี้แล้ว
ปล.2 เดี๋ยวเอ.จัดการถ่ายรูปหลัง "เจียนตอ" มาให้ลุงคิมดูนะครับ พอดีช่วงนี้ตรุษจีนเลยเอารถไถเข้าอู่เช็คปั้มไฮดรอลิค
ปล.3 คิดถึงพี่ยุทธนะครับหายไปเลย ลุงคิมได้ข่าวแม่พี่ยุทธหรือเปล่าครับ แกดีขึ้นไหมครับ |
ได้ข่าว....เดือน ม.ค. ทั้งเดือนอยู่ ร.พ. เข้ารับการรัษาตามครอร์สของหมอจนครบทุกขึ้นตอน แรกๆ ดูอาการเหมือนทรงกับทรุด แต่แล้วเหมือนพระยังโปรด หรือเป็นเพราะกำลังใจของคนไข้ อาการค่อยๆดีขึ้นๆ ๆๆ
วันนี้แม่กลับไปพักฟื้นที่บ้านพยุหคีรี นครสวรรค์แล้ว ท่ามกลางการดูแลของบรรดาลูก กำลังใจดีมากๆ ประมาณนี้
ลุงคิมครับผม |
ขอเป็นกำลังใจช่วยนะยุทธ
กำลังใจดี ช่วยได้ โดยเฉพาะคนสนิท
ขอให้แม่อาการดีขึ้น _________________ <<ไร่อ้อยนภัสสร>> |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
napassorn สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 25/09/2010 ตอบ: 202 ที่อยู่: จ.นครราชสีมา
|
ตอบ: 05/02/2011 1:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
'ชะมดเช็ด เลี้ยงขายไข' เงินงาม
ชะมดเช็ด เป็นสัตว์ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้ เพราะ ไข ของชะมดนั้นมีสรรพคุณเป็นยา นำไปทำยาต่าง ๆ ทำเครื่องหอม น้ำมันหอมระเหยได้ ซึ่งชาวบ้านแถบ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี มีการเลี้ยงชะมดกันมานานตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ซึ่งสัตว์ป่าชนิดนี้ถูกจัดให้เป็นสัตว์ป่าสงวน ผู้ที่มีไว้ครอบครองจะต้องแจ้งให้ทางกรมป่าไม้ทราบ อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์กรมหาชน) ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการเลี้ยงชะมดเช็ดเชิงพาณิชย์ ซึ่งสร้าง ช่องทางทำกิน ให้กับชาวบ้านได้อย่างน่าสนใจ
ฟาร์มป้าน้อย ที่ ต.ทับคาง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี สืบทอดการ เลี้ยงชะมด มาหลายรุ่น เรียกว่ามีประสบการณ์ในการเลี้ยงชะมดอย่างเชี่ยวชาญ โดย พจนีย์ น้อยปิ่น เป็นทายาทรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับโอนให้เข้ามาดูแลฟาร์มเลี้ยงชะมดเช็ดแห่ง นี้ ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า การเลี้ยงชะมดนั้น เลี้ยงกันมานานแล้ว เดิมเป็นการเลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพเสริมจากการทำนา ส่วนตนเองนั้นหลังจากที่เรียนจบปริญญาตรีก็ยังไม่ได้มารับช่วงเลี้ยง เพราะหลังจากเรียนจบก็ไปทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง แต่ทำงานได้อยู่เพียง 1 ปี ตาก็เรียกให้กลับมาช่วยดูแลเลี้ยงชะมดในฟาร์มของที่บ้าน จึงออกจากงานประจำและมาดูแลทำฟาร์มชะมดอย่างจริงจัง
ในสมัยก่อนนั้นจะเลี้ยงกันอยู่ประมาณ 10-20 ตัว เพราะชะมดนั้นหายาก และที่สำคัญการที่จะเลี้ยงชะมดที่เป็นสัตว์ป่าสงวนได้นั้นจะต้องมีใบอนุญาต จากกรมป่าไม้ และชะมดที่นำมาเลี้ยงนั้นจะต้องมีแหล่งที่มาอย่างถูกต้อง นั่นก็คือ การรับซื้อมาจากคนที่เลี้ยงอยู่เดิม
ที่ฟาร์มแห่งนี้ ปัจจุบันมีชะมดอยู่ทั้งหมด 250 ตัว โดยรับซื้อมาจากคนที่เลี้ยงอยู่แล้ว รับซื้อมาในราคาตัวละประมาณ 2,000-3,000 บาท แต่ถ้าเป็นคู่ที่เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ก็อยู่ที่คู่ละประมาณ 10,000 บาท
สำหรับกรงที่จะใช้เลี้ยงชะมดเช็ดนั้น จะใช้ไม้ไผ่ตีเป็นกรงรูปสี่เหลี่ยม ขนาดความกว้างประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 1 เมตร สูงประมาณ 50 เซนติเมตร ยกลอยให้สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร ด้านหน้าของกรงจะทำเป็นประตูเลื่อนขึ้นสำหรับเปิดให้อาหารและน้ำ ส่วนบนจะใช้ไม้ขนาด 1x1 นิ้ว ที่มีความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร ใส่ลงตรงกลางของกรง เพื่อให้ชะมดเช็ดได้เช็ดไขน้ำมันที่ไม้ และภายในกรงจะต้องมีภาชนะใส่อาหารใช้กะลามะพร้าว และก็มีกระบอกใส่น้ำติดอยู่ด้วย โดยจะเลี้ยงชะมดเช็ด 1 ตัวต่อ 1 กรง
ไม้ที่เสียบด้านบนให้ชะมดไว้เช็ดไขนั้น จะใช้ ไม้โมก เพราะเวลาที่ขูดเอาไขออกจากไม้ เนื้อไม้จะไม่หลุดออกมาด้วย
ชะมดนั้นจะเช็ดไขในเวลากลางคืน เวลาเก็บไข ก็จะเก็บในช่วงเช้า โดยยกไม้ขึ้นมาแล้วใช้มีดขูดไขของชะมดที่ติดอยู่กับไม้ออกมา แล้วใส่ไม้ลงไว้ที่เดิม การเก็บไขของชะมดนั้นสามารถเก็บได้ทุกวัน ซึ่งในช่วงฤดูหนาวชะมดเช็ดจะเช็ดไขออกมาได้ปริมาณมากกว่าในฤดูอื่น
อาหารที่ใช้เลี้ยงนั้น จะใช้อาหารสุก จะให้ปลากับซี่โครงไก่และข้าว โดยปลาและซี่โครงไก่นั้นจะต้องนำไปนึ่งให้สุก แล้วนำมาบดให้ละเอียดก่อนที่จะนำไปรวนอีกครั้ง เพื่อให้อาหารมีกลิ่นหอมและดับคาว การให้อาหารก็นำไปคลุกกับข้าว ให้ในมื้อเย็น ที่ต้องทำให้สุก เพราะข้าวที่ทิ้งไว้ทั้งคืนจะไม่บูด แต่ถ้าชะมดตัวไหนไม่กินข้าวก็ต้องหาจิ้งจกหรือเขียดเป็น ๆ มาให้ชะมดกิน แล้วชะมดที่เลี้ยงก็จะกินข้าวได้
ส่วนมื้อเช้านั้น จะให้เป็นกล้วยน้ำว้ากับนมผงชง เพื่อเป็นการบำรุงให้ชะมดเช็ดมีไขมากขึ้น
ชะมดเช็ดเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจ ไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเดินเข้าไปใกล้กรง ถ้าตื่นตกใจแล้วจะไม่เช็ดไข เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องระวังเป็นพิเศษสำหรับการเลี้ยงชะมดเช็ดเพื่อเอาไข
สำหรับไขของชะมดที่เช็ดออกมานั้น ตอนนี้มีราคาขายกันอยู่ที่ กรัมละประมาณ 200 บาท หรือกิโลกรัมละประมาณ 180,000-200,000 บาท แต่ชะมดเช็ด 1 ตัวจะเช็ดไขหรือของเหลวที่ออกมาจากต่อมกลิ่นตรงก้น ได้ประมาณ 3-4 กรัมต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งที่ฟาร์มป้าน้อยสามารถทำเงินจากการขายไขชะมดได้เดือนละประมาณ 100,000 บาท โดยเป็นรายได้สุทธิที่หักค่าดูแลและค่าอาหารอีกเดือนละประมาณ 50,000 บาทแล้ว
ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีทีเดียว
ผู้ที่ต้องการติดต่อ ฟาร์มป้าน้อย ต้องการสั่งซื้อไขของชะมด ฟาร์มแห่งนี้อยู่ที่ ต.ทับคาง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี เบอร์โทรศัพท์สอบถามคือ 08-9030-4823 (คุณพจนีย์) ทั้งนี้ นอกจากเลี้ยงเพื่อเอา ไขชะมด แล้ว ปัจจุบันยังมีการเลี้ยงชะมดเพื่อผลิต กาแฟขี้ชะมด ที่กำลังเป็นที่นิยมด้วย อาชีพนี้จึงน่าศึกษาไม่น้อยเลย.
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : เรื่อง-ภาพ
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm
ที่มา : รายการกบนอกกะลา _________________ <<ไร่อ้อยนภัสสร>> |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Yuth-Jasmine สาวดี่
เข้าร่วมเมื่อ: 05/07/2010 ตอบ: 384
|
ตอบ: 05/02/2011 8:58 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
napassorn บันทึก: |
ขอเป็นกำลังใจช่วยนะยุทธ
กำลังใจดี ช่วยได้ โดยเฉพาะคนสนิท
ขอให้แม่อาการดีขึ้น |
ขอบพระคุณมากครับพี่เกียรติ
ตอนนี้แม่กลับมาพักที่บ้านแล้วครับ เดินดูแปลงมะลิหลังบ้าน
หน้าบานเป็นดอกมะลิไปแล้ว ข้าวปลากินได้ ผมก็พลอยโล่งใจน่ะครับ
ตัดอ้อยเสร็จหรือยังครับพี่ ปีนี้รับกี่ล้านครับ เผื่อน้องนุ่งมั่งน่ะครับพี่
พี่สบายดีน่ะครับ ยังไงฝากสวัสดีพี่ผู้หญิงด้วยครับพี่
รักษาสุขภาพน่ะครับพี่ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
napassorn สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 25/09/2010 ตอบ: 202 ที่อยู่: จ.นครราชสีมา
|
ตอบ: 06/02/2011 4:09 am ชื่อกระทู้: |
|
|
Yuth-Jasmine บันทึก: | napassorn บันทึก: |
ขอเป็นกำลังใจช่วยนะยุทธ
กำลังใจดี ช่วยได้ โดยเฉพาะคนสนิท
ขอให้แม่อาการดีขึ้น |
ขอบพระคุณมากครับพี่เกียรติ
ตอนนี้แม่กลับมาพักที่บ้านแล้วครับ เดินดูแปลงมะลิหลังบ้าน
หน้าบานเป็นดอกมะลิไปแล้ว ข้าวปลากินได้ ผมก็พลอยโล่งใจน่ะครับ
ตัดอ้อยเสร็จหรือยังครับพี่ ปีนี้รับกี่ล้านครับ เผื่อน้องนุ่งมั่งน่ะครับพี่
พี่สบายดีน่ะครับ ยังไงฝากสวัสดีพี่ผู้หญิงด้วยครับพี่
รักษาสุขภาพน่ะครับพี่ |
โล่งอกไปเสียที..
เมื่อได้เห็น ยุทธ โพสเข้ามา
แม่อาการดีขึ้นแล้ว ดีใจนะ
ไม่สบายใจที่เงียบหายไปนาน
อ้อยกำลังตัดนะยุทธ ปีนี้ก็เกือบล้านแล้ว
(หัวพี่เอง ผมร่วงไปเยอะแล้ว)
สู้ เสี่ย เอ ชุมแพ ไม่ได้หรอก _________________ <<ไร่อ้อยนภัสสร>> |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mongkol สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 29/06/2010 ตอบ: 136
|
ตอบ: 08/02/2011 6:27 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ตามประสาคนช่างสงสัย
จะต้องลงทุนเท่าไร ที่จะมีรายได้ 100,000 บาท
ต้องเลี้ยงกี่ตัว
ผมคำนวนดูแล้ว ถ้าตัวหนึ่งให้ไข่ 4 กรัม
เราต้องการมีรายได้ 100,000 บาท
จากราคาขายกิโลละ 200,000 บาท
ต้องมีไข่ 500 กรัม
คำนวนดูต้องเลี้ยงชะมดไม่น้อยกว่า 125 ตัว
ถ้าตัวละ 2,500 บาท
เราต้องจ่ายค่าชะมดเกือบ 300,000 บาท
ค่าโรงเรือนอีกเท่าไร
ค่าแรงงาน ค่าอาหาร แล้วต้องเลี้ยงกี่เดือน จึงจะได้ผลผลิต
คงต้องลงทุนในราว 500,000 ขึ้นไป
อันนี้ลองคิดกันแบบสนุกๆ แลกเปลี่ยนมุมมองกัน
ขอบคุณในข้อมูลที่นำมาเล่าสู่กันครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
A_Chumphae สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 10/10/2010 ตอบ: 153
|
ตอบ: 08/02/2011 4:02 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
สวัสดีครับพี่มงคล |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
mongkol สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 29/06/2010 ตอบ: 136
|
ตอบ: 09/02/2011 8:08 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ช่วยแก้คำให้ด้วยนะ ชะมดเราเก็บ "ไข" ไม่ใช่ "ไข่" .....
ไขมันที่เกิดจากการเช็ดหรือป้ายของตัวชะมด |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11656
|
ตอบ: 09/02/2011 9:12 am ชื่อกระทู้: |
|
|
นั่นน่ะซีหมง.....
ลุงคิมว่าดูหนังสารคดีสัตว์มาก็เยอะนะ เพียงแต่ได้เคยดูเรื่อง "ชะมด" หรือ "ชะมด
เช็ด" ไม่กี่ครั้ง.....ก็พอรู้ว่าชะมดออกลูกเป็น "ตัว" คลอดออกมาตรงๆเลย แล้ว
งานนี้เหมือนชะมดกลับออกลูกเป็นไข่ก่อน แล้วฟักไข่ให้ออกเป็นตัวทีหลัง เอ๊ะ...
ได้ยังไง แรกก็หลงคิดว่าตัวเองตกข่าว
เหมือนงูบางชนิดออกลูกเป็นไข่ก่อน แล้วไข่ฟักเป็นตัวทีหลัง ก็มีเหมือนกันที่แม่งู
ออกลูกเป็นตัวเลย อันนี้เป็นงูบางชนิด ไม่ใช้ทุกงู
ใจเย็น ใจเย็น....เดี๋ยวเอา รูป-ชีวิต-ประวัติ ชะมดมาให้ดู
ลุงคิม (ชะมดไม่กล้าเช็ด เพราะกลิ่นแรงกว่า) ครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11656
|
ตอบ: 09/02/2011 9:17 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ชะมด...เช็ด/ไม่เช็ด
ชะมดเช็ด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
Small Indian Civet
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Viverricula malaccensis
ลักษณะทั่วไป
ชะมดเช็ดมีขนาดเล็กกว่าชะมด หรืออีเห็นชนิดอื่น ขนสีน้ำตาลจาง มีลายสีดำอยู่บนหลัง 5 ลาย ลายยาวจากคอถึงโคนหาง
ข้างตัวมีลายเป็นจุดสีดำเรียงเป็นแนววิ่งไปตามความยาวของลำตัว หางเป็นปล้องสีขาวสลับดำ 6-9 ปล้อง ส่วนปลายหางเป็น
สีขาวเสมอ ไม่มีขนแผงหรือขนตั้งชันที่คอหรือหลังเหมือนอย่างชะมดแผง หน้าผากแคบเหมือนหน้าหนู ขาค่อนข้างสั้น
ถิ่นอาศัย, อาหาร
อินเดีย ศรีลังกา จีนตอนใต้ พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนิเซีย
ชะมดเช็ดกินสัตว์เล็กๆเป็นอาหารเช่น ไก่ นก หนู งู จิ้งเหลน กิ้งก่า ตลอดจนผลไม้ต่างๆและรากไม้บางชนิด
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
อาศัยตามป่ารกทั่วไป แต่ไม่ขึ้นต้นไม้เหมือนพวกชะมดชนิดอื่น วิ่งได้เร็วมาก หากินบนพื้นดิน เป็นสัตว์หากินกลางคืนเหมือน
ชะมดทั่วไป กลางวันนอนตามใต้พุ่มไม้เตี้ย ๆ หรือตามกอหญ้าสูง ๆ บางครั้งอาจพบอยู่ตามต้นไม้ ชะมดเช็ดมีต่อมใกล้ทวารหนัก
ซึ่งขับของเหลวมีกลิ่นฉุน โดยธรรมชาติสัตว์จะเช็ดของเหลวนี้กับตอไม้หรือกิ่งไม้ จึงเรียกชื่อสัตว์ชนิดนี้ว่า ชะมดเช็ด ของเหลว
ดังกล่าวนี้ใช้ทำยาและน้ำหอมได้ ต่อมกลิ่นที่ก้นชะมดเช็ดมีอยู่ทั้งในตัวผู้และ ตัวเมีย แต่ของตัวเมียเล็กกว่า บางครั้งเรียก
ว่า Musk Civet
ชะมดเช็ดผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุประมาณ 2 ปี ไม่มีฤดูผสมพันธุ์ ตั้งท้องประมาณ 2 เดือน ออกลูกครั้งละ 2-4 ตัว จะออกลูกในโพรงดิน
ซึ่งอยู่ใกล้ต้นไม้หรือตอไม้ ตัวเมียจะเลี้ยงลูก ส่วนตัวผู้จะอยู่กับตัวเมียเฉพาะตอนผสมพันธุ์เท่านั้น ชะมดเช็ดมีอายุยืนเกือบ 10 ปี
สถานภาพปัจจุบัน
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
สถานที่ชม
สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่
http://www.moohin.com/animals/mammals-18.shtml
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 09/02/2011 10:13 am, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11656
|
ตอบ: 09/02/2011 9:26 am ชื่อกระทู้: |
|
|
"ชะมดเช็ด"
"ชะมดเช็ด" จัดเป็นสัตว์ป่าที่เลี้ยงลูกด้วย นมที่มีรูปร่างคล้ายแมวมาก แต่จะมีขนาดลำตัวใหญ่และยาวกว่าเล็กน้อย หางจะยาวและหน้าสั้น
ปัจจุบันชะมดเช็ดจัดเป็นสัตว์ป่าสงวน ผู้ใดมีไว้ในครอบครองจะต้องแจ้งให้กรมป่าไม้ทราบ
กรงที่จะใช้เลี้ยงชะมดเช็ดนั้นจะใช้ไม้ไผ่ตีเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดความ กว้าง 70 เซนติเมตร ยาว 1 เมตร สูงประมาณ 50 เซนติเมตร
เลี้ยงชะมดเช็ด 1 ตัวต่อ 1 กรง ด้านหน้าของกรงจะทำเป็นประตูเลื่อนขึ้นสำหรับเปิดให้อาหารและน้ำ ส่วนบนจะใช้ไม้ขนาด 1 x 1 นิ้ว ที่มี
ความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร ใส่ลงตรงกลางของกรงเพื่อให้ชะมดเช็ดได้เช็ดน้ำมันที่ไม้นี้ จะเก็บน้ำมันจากไม้นี้ในตอนเช้า โดยที่
เก็บน้ำมันที่ติดกับไม้นี้ออก แล้วใส่ไม้ลงไว้ที่เดิม จะมีการเก็บน้ำมันเป็นประจำ ทุกวัน ตัวชะมดเช็ดจะเช็ดน้ำมันได้ดี และได้ปริมาณมาก
ในช่วงฤดูหนาว ภายในกรงจะต้องมีภาชนะสะอาด เช่น กะลามะพร้าวเพื่อใส่อาหารและ มีกระบอกน้ำผูกติดไว้ จะให้น้ำทุก ๆ 3 วัน อาหาร
จะให้ทุกวันเพียงมื้อเดียว คือ มื้อเย็นโดยใช้ปลายข้าวเป็นอาหารหลัก เวลากลางวันจะเสริมด้วยกล้วยน้ำว้าสุกตัวละ 2 ลูก นอกจากนั้นยัง
พบว่าชะมดเช็ดจะชอบ "ทองหยอด-ทองหยิบ" เป็นอาหารเสริม ชะมดเช็ดที่มีอายุมากหรือได้รับบาดเจ็บจะใช้ "นมผงผสมน้ำข้าว และ
ไข่ไก่" ให้กินจะช่วยให้ชะมดเช็ดแข็งแรงขึ้น
ชะมดเช็ด จะเป็นโรคน้อยมาก แมลงวันก็ไม่ตอม มดก็ไม่กัด อาจจะเป็นเพราะน้ำมันชะมดเช็ดที่อยู่ในกรงจะมีกลิ่นฉุนมาก (คนที่ไม่คุ้นกลิ่น
จะไม่อยากเข้าใกล้)
ข้อควรระวังในการเลี้ยงชะมดเช็ดก็คือเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจไม่อยากให้คนแปลกหน้าเดินเข้าไปใกล้กรง ถ้าตื่นตกใจแล้วจะไม่เช็ดน้ำมันให้
หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า
ปัจจุบันน้ำมันชะมดเช็ดมีราคาแพงและเป็นที่ต้องการของตลาดมากโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเครื่องหอมและยาแผนโบราณ ราคาซื้อ-ขาย
กิโลกรัม ละเฉลี่ย 60,000 บาท โดยนำไปปรุงแต่งเป็นน้ำมันหอมระเหย เป็นส่วนผสมของธูปหอมเป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพรประเภท
สูดดม นอกจากนั้นมีคนนำเอาไปเป็นส่วนผสมของยาแผนโบราณเพื่อรักษาโรคมะเร็งก็มี
ในการขยายพันธุ์ชะมดเช็ดจะผสมพันธุ์ได้ปีละ 2 ครั้ง และใช้เวลาตั้งท้องเท่ากับแมว คือ ประมาณ 40-50 วัน และ ให้ลูกคอกละ 2-4 ตัว
ใช้เวลาในการหย่านมประมาณ 2 เดือน ปัจจุบันยังไม่มีใครทำการเพาะขยายพันธุ์อย่างจริงจัง ส่วนใหญ่อยู่ในระหว่างการศึกษาและ
ทดลองเท่านั้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์
http://www.baanmaha.com/community/thread21668.html |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11656
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11656
|
ตอบ: 09/02/2011 9:38 am ชื่อกระทู้: |
|
|
สุดยอดกาแฟจากขี้ชะมด เพียงพอน และน้ำลายลิง !
สุดยอดกาแฟจากขี้ชะมด เพียงพอน และน้ำลายลิง! แมกกาซีนแปลก ฉบับวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 สุดยอดกาแฟจากขี้ชะมด
เพียงพอน และน้ำลายลิง!
กาแฟสินค้าธรรมชาติที่มีการซื้อขายกันมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากปิโตรเลียม ผลกาแฟได้ถูกมนุษย์นำมาผ่านกรรม
วิธีต่างๆก่อนนำมาทำเป็นเครื่องดื่มแสนอร่อยซึ่งมีเกรด มีราคาต่างกันตามแหล่งที่มา แม้แต่กาแฟที่ถูกถ่ายออกมาพร้อมมูลสัตว์
อย่างเจ้าตัวชะมดก็ยังกลายเป็นกาแฟที่มีราคาแพงที่สุดในโลกได้ หรือล่าสุดกาแฟที่ถูกคายทิ้งจากปากเจ้าลิงวอกก็ยังมาแรงแซง
หน้ากาแฟขี้ชะมด
ปัจจุบันวัฒนธรรมการทานกาแฟที่แพร่หลายทั่วโลกทำให้กาแฟยิ่งมีการแข่งขันสูงและมีความเจาะจงเรื่องพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น
ต้องมีการระบุถึงประเทศ ภูมิภาค บางครั้งต้องบอกว่าปลูกที่พื้นที่ไหนบริเวณไหน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟอาจจะถึงกับต้องประมูลกา
แฟโดยดูว่าเป็นล็อตหมายเลขเท่าใด แม้แต่เหล่าเกษตรกรเองบางครั้งจะใส่ปุ๋ยต้นกาแฟยังต้องดูแสงเงาจากพระจันทร์กันเลยทีเดียว
แหล่งปลูกกาแฟที่สำคัญของโลกได้แก่ จาไมกา เป็นแหล่งผลิตกาแฟบลูเมาน์เทนที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก ซึ่งปลูกบนยอดเขาสูง,
บราซิล ผลิตกาแฟเป็นอันดับ 1 ของโลก ยี่ห้อมีชื่อคือ บราซิเลียน ซานโตส (Brazillian Santos), โคลัมเบีย ผลิตกาแฟ
เป็นอันดับ 2 ของโลก กาแฟที่มีชื่อคือ ซูรีโม (Suremo), ฮาวาย กาแฟขึ้นชื่อคือ โคน่า (Kona), อินโดนีเซีย ชวา [Java] ซึ่งมี
วิธีการปลูกแบบพิเศษคือการบ่มในโกดังพิเศษเพื่อให้เมล็ดกาแฟเปลี่ยนสี และมีรสชาติที่ดี จนผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่า กาแฟแมน
เฮลิงและอันโกลาของชวา มีรสชาติดีกว่าบลูเมาน์เทนและโคน่าเสียอีก, อินเดีย มีกาแฟรสชาติเฉพาะตัว ชื่อมอนซูน มาลาบาร์
(Monsooned Malabar), เอธิโอเปีย ประชากร 1 ใน 4 ของประเทศมีรายได้จากอุตสาหกรรมกาแฟ กาแฟที่นี่มีลักษณะเฉพาะ
เนื่องจากมีกาแฟป่าปะปนอยู่ แต่นี่ก็เป็นสาเหตุให้รสชาติมีความไม่แน่นอนสูงด้วยเช่นกัน กาแฟที่มีชื่อเสียงคือ ฮารา ลองเบอรี่
(Harrar Longberry) ซีดาโม (Sidamo) และคาฟฟา (Kaffa) และที่ เคนยา [Kenya] ซึ่งที่นี่พิถีพิถันเรื่องคุณภาพมาก
กาแฟที่มีคุณภาพที่สุดคือ "เคนยา AA"
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นกาแฟสายพันธุ์ธรรมดาทั่วไป แต่มีกาแฟสายพันธุ์หนึ่งได้ชื่อว่า รสชาติเป็นเลิศ และมีราคาแพงที่สุดในโลกอีก
ด้วย กาแฟนี้มีชื่อว่า Kopi Luwak หรือ กาแฟขี้ชะมด
ชะมดนั้นในสมัยโบราณชาวอาหรับรู้จักมันเป็นอย่างดีเพราะพวกเขานำกลิ่นของมันมาสกัดเป็นน้ำหอม กลิ่นที่ได้จากชะมดเป็นสิ่งที่
ชะมดขับจากกระเปาะของต่อมคู่ใกล้อวัยวะสืบพันธ์ของทั้งตัวผู้และตัวเมียที่เช็ดเอาไว้ตามต้นไม้ กลิ่นนี้ถ้าหากต้องการต้องจับชะมด
มาขังไว้แล้วจะได้กลิ่นที่ชะมดเช็ดเอาไว้ตามกรง
ชาวอาหรับได้นำเจ้ากลิ่นชะมดนี้ไปผสมกับปูนขาว และพวกเขาก็นำปูนขาวที่ได้ไปใช้สร้างสุเหร่า (Mosque) และพระราชวัง ซึ่งก็
ทำให้ได้สุเหร่าและพระราชวังที่มีกลิ่นหอมไปทั่วทั้งเมืองและนี่คืออีกหนึ่งที่มาจากเรื่องเล่าถึงคำว่า "City of Fragrances" นั่น
เอง ในประเทศไทยที่จังหวัดเพชรบุรีก็มีการเลี้ยงชะมดเช็ดไว้เพื่อนำเอาน้ำมันไปทำน้ำหอมเช่นเดียวกัน
แต่ชาวอาหรับคงจะคิดไม่ถึงว่านอกจากน้ำหอมจากชะมดแล้ว มูลหรือของเสียที่มันขับถ่ายออกมานั้นยังสามารถเอามาทำกาแฟที่มี
รสชาติแสนอร่อยได้ด้วย คำว่า Kopi ในภาษาอินโดนีเซีย แปลว่า กาแฟ ส่วน Luwak หมายถึง ชะมดพันธุ์ Paradoxurus
ที่อาศัยอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อรวมทั้งสองคำ ก็คือ Kopi Luwak [อ่านว่า โกปิ ลูวะ] หมายถึง กาแฟขี้ชะมดนั่นเอง สาเหตุ
ที่เรียกชื่อเช่นนี้ก็เพราะกาแฟชนิดนี้เป็นผลผลิตที่ออกมาพร้อมกับขี้ชะมดจากไร่บนเกาะสุมาตรา โดยชาวไร่กาแฟจะเลี้ยงชะมดพันธุ์
พื้นเมืองนี้ไว้ในไร่กาแฟและปล่อยให้มันกินผลของกาแฟสุกที่อยู่ในไร่ เมื่อชะมดถ่ายมูลของมันออกมาก็จะมีเมล็ดกาแฟติดออก
มาด้วย ชาวไร่ก็จะนำมาผ่านกรรมวิธีทำเป็นกาแฟออกขาย
ส่วนที่มาของกาแฟขี้ชะมดแท้จริงเกิดจากการที่ชาวอินโดไปเดินป่า แล้วพบเห็นขี้ชะมดมีกาแฟที่ไม่ถูกย่อยยังคงเป็นรูปเมล็ดอยู่
จึงเกิดความเสียดาย เอามาล้าง และลองคั่วชงทานดู ปรากฏว่าได้รสชาติและกลิ่นที่หอมหวน แปลกใหม่ เข้มข้น แบบที่โรบัสต้าเดิม
ให้ไม่ได้ [กาแฟโรบัสต้า ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มข้นของ Body แต่อ่อนหรื่อกลิ่นและรสชาติ] ต่อมาจึงเกิดการเพาะเลี้ยงชะมด ในไร่
กาแฟอย่างเป็นล่ำเป็นสันขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าโรบัสต้า โดยการันตีรสชาติด้วยยอดนักชิมกาแฟอย่างเจ้าชะมดเนื่องจากตามธรรมชาติ
ชะมดจะเลือกกินเฉพาะเมล็ดกาแฟที่สุกดีแล้วเท่านั้น ส่วนรสชาติเมื่อขับถ่ายออกมาแล้วดีกว่าเดิมนั้นเชื่อกันว่าเกิดขึ้นจากการที่ขณะ
ที่ผลกาแฟอยู่ในท้องของตัวชะมด เมล็ดจะผสมกับเอมไซม์และสารเคมีที่อยู่ในกระบวนการย่อยของมัน ทำให้กาแฟชนิดนี้มีกลิ่น
และลักษณะเฉพาะตัว แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาดเพราะขั้นตอนในการทำกาแฟก็จะเหมือนการทำกาแฟชนิดอื่นๆ คือมีการ
เอามูลชะมดมาล้างออกให้หมด นำไปตากแดด และคั่วด้วยความร้อนก่อนนำไปบริโภค
อย่างไรก็ตามด้วยขั้นตอนการได้มาของกาแฟขี้ชะมดซึ่งยากแสนยากเช่นนี้ทำให้ทุกๆปีที่ผ่านมามีกาแฟลูวัคออกจำหน่ายเพียง
ประมาณ 200 กิโลกรัมเท่านั้น ในราคา 1,200-4,500 ดอลลาร์ต่อกก. หรือคิดเป็นเงินไทยก็ตกอยู่ที่ประมาณ 41,700
156,375 บาท จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่คอกาแฟนับล้านๆ คนทั่วโลก ยังไม่เคยลิ้มลองกาแฟราคาแพงดังกล่าว ส่วนถ้าใครอยาก
จะลองชิม ร้านกาแฟหรูบางร้านในเมืองไทยเราก็มีให้ชิม แต่ก็นานๆจะเห็นนำเข้ากันมาสักทีซึ่งราคาต่อแก้วก็ต้องจ่ายกันไม่ต่ำกว่า
500 บาท และล่าสุดมีเกษตรกรในแถบที่ราบสูงของประเทศเวียดนามประเทศเพื่อนบ้านเราแห่กันเลี้ยงเจ้าตัวเพียงพอนซึ่งเป็นสาย
พันธุ์เดียวกันกับพังพอนและชะมดซึ่งชอบกินผลกาแฟสุขเช่นกัน เพื่อนำมูลของมันมาทำกาแฟขายในราคาแพงไม่แพ้กับราคากาแฟ
ขี้ชะมดของอินโดนีเซีย!
กาแฟขี้ชะมดโดนล้มแช้มป์ โดย "กาแฟลิง"
แต่กาแฟขี้ชะมดและเพียงพอนที่ว่าแปลกแล้ว ยังต้องชิดซ้ายเมื่อเจอกับกาแฟที่เกษตรกรชาวเอเชียต้องใช้ความอดทนตามเก็บ
เมล็ดที่ลิงพันธุ์พื้นเมืองคายทิ้งไว้ ซึ่งโดยปกติเกษตรกรมักไม่ชอบลิง เพราะพวกมันมักเป็นตัวการทำลายพืชไร่ แต่สำหรับชาวไร่กาแฟ
ชาวไต้หวันกลับยินดีและเต็มใจให้ลิงภูเขาพันธุ์ฟอร์โมซา ซึ่งเป็นลิงพื้นเมืองของไต้หวันเข้ามาเก็บกาแฟที่เขาปลูกไว้กินตามสบาย
เนื่องจากลิงพวกนี้จะกินแต่เนื้อสีแดงของกาแฟแล้วคายเม็ดออกโดยไม่กินเมล็ดเพราะย่อยไม่ได้ จากนั้นเกษตรกรจะไปเก็บเมล็ด
กาแฟที่ลิงคายทิ้งไว้ มาคั่วเป็นกาแฟรสเลิศและขายได้ราคา โดยกาแฟพันธุ์ที่นำมาปลูกให้ลิงกินนี้ เป็นพันธุ์ "อะราบิก้า" และต้องปลูก
ที่ระดับความสูงเกิน 600 เมตรขึ้นไป โดยแต่ละปีสามารถเก็บกาแฟลิงได้เพียง 300 กิโลกรัม ในช่วงระหว่างเดือนกันยายนถึง
เมษายนซึ่งกาแฟลิงนั้นมีราคาตกปอนด์ละ 60 เหรีญสหรัฐ หรือ ตกกิโลกรัมละ กว่า 4 พันบาท และล่าสุดยอดกาแฟน้องใหม่มา
แรงจากลิงดังกล่าวที่มีชื่อเรียกว่า India Devon Estate 795 Arabica ปรุงจากเมล็ดกาแฟที่ลิงวอกในอินเดียบ้วนออกมา (ลิงวอก /
Rhesus Monkey ชื่อวิทยาศาสตร์ Macaca mulatta พบในภาคเหนือของไทย ในจีน และอัฟกานิสถานด้วย) ได้รับคะแนน
ยอดเยี่ยมเป็นอันดับหนึ่งจากประธานคณะกรรมการตัดสินการปรุงกาแฟชิงแชมป์โลก โดยได้รับคะแนนถึง 98 คะแนนจากคะแนน
เต็ม 100 ในขณะที่กาแฟขี้ชะมดได้ 74 คะแนน
ผู้เชี่ยวชาญเผยว่ากาแฟลิงกลิ่นหอมยวนใจ รสชาติกลมกล่อมปิดท้ายด้วยรสหวาน ฉ่ำลิ้น เป็นผลมาจากเมล็ดกาแฟที่ลิงเลือกไปกิน
เปลือกนอกและบ้วนส่วนที่เหลือออกมาเป็นเมล็ดที่สมบูรณ์และสุกเต็มที่ และในเดือนมิถุนายนนี้ ร้าน 49th Parallel ได้เปิดขาย
กาแฟลิงปรุงแบบ Espresso ที่สาขาในแวนคูเวอร์ ถ้วยละ 2.36 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 75.50 บาท แม้จะไม่
แพงเท่ากาแฟขี้ชะมดแต่ก็เป็นกาแฟที่มาแรงมากในขณะนี้ มีรายงานว่าชาวไร่กาแฟในอินเดียได้นำเมล็ดกาแฟที่ลิงบ้วนทิ้งมาปรุงดื่ม
กันมานานแล้ว แต่ดื่มแบบนำมาผสมกับเมล็ดกาแฟที่เก็บจากต้น จนภายหลังได้ทดลองรสชาติกาแฟลิงล้วนๆเมื่อไม่นานมานี้และ
พบว่ารสชาติโดนใจกว่าจึงเป็นที่มาของกาแฟลิงดังกล่าว
http://gotoknow.org/blog/garnna/279155 |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|