ราดสารลำไยแล้วฝนตก....?

[catcaty]

[kimzagass]

[k500]

[catcaty]

หวัดดีพี่ๆน้องๆทุกคนครับ...!

หายหัวไปหลายวัน ที่จริงก็เข้ามาดูทุกวันแต่ไม่ได้เข้ามาตอบกระทู้

ลำไยก็ตกลงขายเหมาให้ล้งฯ ไปแล้ว
ขายเหมาไปโลละ 32 บาท
กะน้ำหนักไว้ราว 15 ตัน
ครบกำหนดเก็บวันที่ 20 มีนาคมนี้


สบายดีกันทุกคนนะครับ....
หมึกครับผม

[k500]

กลับมาแล้วเหรอครับพี่หมึก เห็นหายไปหลายวัน นึกว่าตามคุณซุปไปซะแล้ว

[catcaty]

[kimzagass]

[kimzagass]

ปัญหาคนกลาง บางครั้งเหมือน "สภาวะจำยอม" เปรียบเหมือน "ผีเข้าป่าช้า" น่ะถูกต้องแล้ว....คิดทบทวนอยู่ 2-3 วัน ต่อปัญหานี้จะแก้หรือหาทางออกอย่างไร ?


แนวทางแก้ปัญหาคนกลางหรือการตลาด :
- รู้ทั้งรู้แต่ ........................................... ก็แก้ไม่ได้
- เห็นก็เห็น........................................... ก็แก้ไม่ได้
- ทำดีที่สุดแล้ว....................................... ก็แก้ไม่ได้

แนวทางแก้ปัญหาของตัวเอง ด้วยตัวเอง :
- ทำให้ได้คุณภาพดีที่สุด และปริมาณมากที่สุด...... แก้ไขได้
- ควบคุมต้นทุนค่าแรงงานคนด้วยเครื่องทุ่นแรง...... แก้ไขได้
- ใช้ปุ๋ยสูตรสั่งตัด ส่วนหนึ่งทำเอง ส่วนหนึ่งซื้อ....... แก้ไขได้
- วางแผนบังคับให้ออกนอกฤดูล่วงหน้า............... แก้ไขได้
- MAKE FRIEND กับคนกลางไว้หลายๆเจ้า......... แก้ไขได้


พ่อเลี้ยง สุรชัยกิติกรวัฒนา ลำไยอีดอที่ป่าซาง ลำพูน ออกก่อนฤดูปกติ 2 เดือน ผลผลิตเกรด 50 ลูก/กก. (ถือว่าใหญ่) แก้ปัญหาโดยติดต่อคนกลาง 3-4 ราย ล่วงหน้าก่อนเก็บ 1 เดือน คุยกันเรื่อง "ราคา" ลำไยแต่ละเกรด กระทั่งรู้ว่า คนกลางเจ้าไหนให้ราคาดีกว่า จึงตกลงซื้อขายกับเจ้านั้น ..... วิธีขาย คัดเกรดลำไยเป็น 2 เกรด (เกรดเล็ก กับ เกรดใหญ่) แล้วให้คนกลางตามเกรดที่สั่ง คนกลางได้ลำไยแล้ว ไปแยกคัดเกรดตามเบอร์เอาเอง วิธีนี้ทำให้คนกลางได้กำไรจากการค้ดเกรดเป็นเบอร์ๆ อีกต่อหนึ่ง ซึ่งทั้งคนรับซื้อเกรดใหญ่กับคนรับซื้อเกรดเล็กต่างพอใจ กรณีนี้ เจ้าของสวนรู้แต่ก็ยอม เพื่อรัษาสายสัมพันธ์ไว้ซื้อขายกันต่อไป


หลายปีมาแล้ว เคยได้ข่าวว่าที่นครศรีธรรมราช ทางราชการแก้ปัญหาราคาลองกอง โดยการเปิดตลาดกลาง ให้ชาวสวนเอาลองกองมาขายพร้อมกับนัดคนกลางมาพบกัน การตกลงซื้อขายเป็นแบบ "ประมูล" โดยตรง ซึ่งทุกอย่างก็เรียบร้อยดี.....วันนี้พยายามเช็คข้อมูลนั้นในเน็ตอยู่ แต่ก็ยังหาไม่เจอ

สรุป :
ปัญหานี้แก้ไขที่ "ตัวเอง" ดีที่สุด.....ว่ามั้ย



ลุงคิม (ก็แก้ปัญหาให้ตัวเองไม่ได้) ครับผม

[catcaty]

กระทู้นี้ผมเริ่มเขียนตั้งแต่วันแรกที่ลงมือราดสารฯ ลงมือทำแบบที่เรียกได้ว่า "ไม่รู้" อะไรเลยเกี่ยวกับการทำลำไย

ความรู้ แนวคิด แนวทางการทำฯ แทบทั้งหมดได้จากเว็ปฯ นี้ ได้จากคำแนะนำ ติชมจาก พี่ๆ เพื่อนๆ ที่นี่ เป็นส่วนใหญ่ ฯฯฯฯฯ

จนถึงวันนี้น่าจะเรียกได้ว่าการลงมือทำครั้งนี้สำเร็จเกินกว่าที่ตั้งเป้าเอาไว้เกือบสมบูรณ์แล้ว เพราะอีกไม่กี่วันก็จะได้ลงมือเก็บ
คงมีภาพอีกครั้งตอนที่เก็บลำไย ก่อนที่ผมจะปิดกระทู้นี้ แล้วเริ่มกระทู้ใหม่ ตั้งแต่เริ่มลงมือตัดแต่งกิ่งอีกครั้ง


ขอบคุณลุง เพื่อนๆ พี่ๆสำหรับคำแนะนำครับ.....

หมึกครับผม

[kimzagass]

หมึกเอ๊ยยยยย......

- LEARNING ALL THE LIFE ..... การเรียนรู้ ต้องเรียนตลอดชีวิต....

- บทเรียนทั้งสิ้นกว่า 100 บท วันนี้เพิ่งผ่านบทที่ 1 เท่านั้น.....อย่าปิดกั้นตัวเอง อย่าหยุดค้นหาข้อมูล อย่าหยุดการเรียนเพื่อรู้ อย่า......

- ลำไยรุ่นนี้ น่าจะให้แนวคิดหรือประสบการณ์ตรงไม่น้อย ในอันที่จะนำมาแก้ไข ดัดแปลง เพิ่มเติม หรือตัดลด เพื่อไปสู่เป้าประสงค์ที่ดีขึ้น
ดีกว่า ดีแล้ว หรือดีเหนือคนอื่น

- บำรุงลำไยตามใจลำไย ไม่ใช่ตามใจคน ต่อไปนี้ต้องให้รู้ ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ฯลฯ ตัวไหน ยี่ห้ออะไร มีขายที่ไหน ราคาเท่าไหร่ กับราย
ละเอียดปลีกย่อย

- ต้นไม้ลำไยไม่รู้จักวัน-เดือน-ปี ไม่มีปฏิทิน ช่วงชีวิตแต่ละปีเริ่ม 1 ณ วันรุ่งขึ้นเมื่อผลสุดท้ายหลุดจากต้น....นั่นคือ เริ่มเข้าสู่วงรอบ
การบำรุง

1. เรียกใบอ่อน ฟื้นฟูสภาพต้น เรียกความสมบูรณ์กลับคืนมา
2. สะสมตาดอก
3. ปรับ ซี/เอ็น เรโช ทำให้ต้นอั้นตาดอก
4. เปิดตาดอก
5. บำรุงดอก
6. บำรุงผลเล็ก
7. บำรุงผลกลาง
8. บำรุงผลแก่


- เทคนิคการบำรุงที่ได้ผลที่สุด คือ "บำรุงแบบสะสม" โดยให้สารอาหารทั้งทางใบ ทางราก ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ตลอดทั้งปี



................................... ยังไม่จบ ................................

[catcaty]

ปัญหาหนึ่งในหลายๆปัญหาที่เจอคราวนี้คือ ความสูงของต้นทำให้ดูแลได้ยาก ตั้งใจไว้แล้วว่าคราวหน้าจะตัดแต่งกิ่ง "ทรงเปิดกระโหลก"
เพื่อควบคุมความสูงของต้น คงจะดูแลได้ง่ายขึ้น ยอมรับครับว่ายังต้องเรียนรู้อีกมาก ประโยค "อินทรีย์นำ เคมีเสริม
ตามความเหมาะสม" ยังคงต้องนำมาใช้ต่อไปและตลอดไป

หลายวันที่ได้ขับรถผ่านหลายๆสวนที่ใช้เคมีแพงๆที่ดูว่าเห็นผลเร็วทันใจ ก็ได้เห็น ได้รับรู้ถึงผลข้างเคียงที่เกิดกับต้นลำไย หลังการเก็บ
เกี่ยวของสวนนั้นๆว่าโทรมมากๆถ้าเปรียบกับคนก็น่าจะเปรียบได้กับคนที่ใช้ยาโด๊ปฯ

หลังจากที่ได้เห็นและได้ประสบการณ์ด้วยตัวเอง ทำให้ผมมั่นใจแนวทางของลุงมากขึ้น หลังจากนี้ต่อไปก็จะพยายามปรับแต่งใช้ให้
เหมาะสมยิ่งๆขึ้นไป



ขอบคุณครับลุง
หมึกครับผม

[catcaty]

[quote="kimzagass"]
ปัญหาคนกลาง บางครั้งเหมือน "สภาวะจำยอม" เปรียบเหมือน "ผีเข้าป่าช้า" น่ะถูกต้องแล้ว....คิดทบทวนอยู่ 2-3 วัน ต่อปัญหานี้
จะแก้หรือหาทางออกอย่างไร ?


แนวทางแก้ปัญหาคนกลางหรือการตลาด :
- รู้ทั้งรู้แต่ ........................................... ก็แก้ไม่ได้
- เห็นก็เห็น........................................... ก็แก้ไม่ได้
- ทำดีที่สุดแล้ว....................................... ก็แก้ไม่ได้

แนวทางแก้ปัญหาของตัวเอง ด้วยตัวเอง :
- ทำให้ได้คุณภาพดีที่สุด และปริมาณมากที่สุด...... แก้ไขได้
- ควบคุมต้นทุนค่าแรงงานคนด้วยเครื่องทุ่นแรง...... แก้ไขได้
- ใช้ปุ๋ยสูตรสั่งตัด ส่วนหนึ่งทำเอง ส่วนหนึ่งซื้อ....... แก้ไขได้
- วางแผนบังคับให้ออกนอกฤดูล่วงหน้า.............. แก้ไขได้
- MAKE FRIEND กับคนกลางไว้หลายๆเจ้า........ แก้ไขได้


พ่อเลี้ยง สุรชัยกิติกรวัฒนา ลำไยอีดอที่ป่าซาง ลำพูน ออกก่อนฤดูปกติ 2 เดือน ผลผลิตเกรด 50 ลูก/กก. (ถือว่าใหญ่) แก้ปัญหาโดย
ติดต่อคนกลาง 3-4 ราย ล่วงหน้าก่อนเก็บ 1 เดือน คุยกันเรื่อง "ราคา" ลำไยแต่ละเกรด กระทั่งรู้ว่า คนกลางเจ้าไหนให้ราคาดีกว่า จึง
ตกลงซื้อขายกับเจ้านั้น ..... วิธีขาย คัดเกรดลำไยเป็น 2 เกรด (เกรดเล็ก กับ เกรดใหญ่) แล้วให้คนกลางตามเกรดที่สั่ง คนกลางได้
ลำไยแล้ว ไปแยกคัดเกรดตามเบอร์เอาเอง วิธีนี้ทำให้คนกลางได้กำไรจากการค้ดเกรดเป็นเบอร์ๆ อีกต่อหนึ่ง ซึ่งทั้งคนรับซื้อเกรดใหญ่
กับคนรับซื้อเกรดเล็กต่างพอใจ กรณีนี้ เจ้าของสวนรู้แต่ก็ยอม เพื่อรัษาสายสัมพันธ์ไว้ซื้อขายกันต่อไป


หลายปีมาแล้ว เคยได้ข่าวว่าที่นครศรีธรรมราช ทางราชการแก้ปัญหาราคาลองกอง โดยการเปิดตลาดกลาง ให้ชาวสวนเอาลองกองมาขาย
พร้อมกับนัดคนกลางมาพบกัน การตกลงซื้อขายเป็นแบบ "ประมูล" โดยตรง ซึ่งทุกอย่างก็เรียบร้อยดี.....วันนี้พยายามเช็คข้อมูลนั้น
ในเน็ตอยู่ แต่ก็ยังหาไม่เจอ

สรุป :
ปัญหานี้แก้ไขที่ "ตัวเอง" ดีที่สุด.....ว่ามั้ย



ลุงคิม (ก็แก้ปัญหาให้ตัวเองไม่ได้) ครับผม





[/quote

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับลุง......!

หมึกครับผม

[catcaty]

คนทำสวนลำไยหายไปไหนกันหมด ?
ไม่มีใครเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันบ้างเลย....!

หมึกครับผม

[Soup]

ขอโทษครับทุกคนที่หายหน้าไป ไปเลี้ยงลูกครับ

ลูกชายคลอดเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2554 มีน้ำเดินตอนตีสองครึ่งแต่นิดเดียว ยังวางใจว่าไม่น่าใช่ (ท้องแรกก็เงี้ยแหละครับ) ตอนหกโมงเช้าปวดเป็นระยะทุก 20 นาที ยังใจเย็นอยู่ เพราะเจ็บไม่มาก 7.15 น. ขับรถออกจากบ้านจะไปคลอดที่กรุงเทพ(คุณหมอคนที่เคยส่องกล้องเข้าไปเลาะพังผืด) พอถึง อ.แกลง เมียทนไม่ไหวร้องลั่นรถ เลยหาแวะปั๊มถามเขาด้วยความตื่นเต้นสุดตัวว่าโรงพยาบาลใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน เขาบอกโรงพยาบาลแกลง เลยเข้าไปที่นั่น

หมอตรวจดูบอกว่ามดลูกเปิด 9 ซ.ม. อันตรายถ้าคุณยังคิดจะเดินทางต่อไปคลอดที่กรุงเทพ รับความเสี่ยงกันเอง พอพูดอย่างนี้เราก็ว่าเอาก็เอาครับหมอ ช่วยเมียและลูกผมด้วย พร้อมกับบอกหมอว่าเมียผมมีพังผืดนอกมดลูกและมีเนื้องอกด้วย ห้องคลอดให้เซ็นต์เอกสารไม่เอาความถ้าเกิดความผิดพลาดใด ๆ ทั้งสิ้น ผมก็ใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ไหงให้เรายอมรับความเสี่ยงทั้งหมดแบบนี้นะ แต่ก็ต้องเซ็นต์เพราะไม่เซ็นต์ก็เสี่ยงกว่า

รออยู่จน 11 โมงเศษ ๆ มีพยาบาลเข็นเด็กออกมาจากห้องคลอด เราก็ถามว่าลูกผมหรือเปล่าครับ ใช่ค่ะลูกคุณ มองดูแล้วเงียบ ๆ ไม่ร้องเลย ตาบวม ๆ เล็กน้อย ผิวขาว ๆ ตัวเล็กนิดเดียว เมียผมยังอยู่ในห้องคลอดต่ออีกสองชั่วโมงเพราะเขาต้องดูอาการ

ปรากฏว่าเด็กไม่กลับหัว หมอต้องผ่าออก เดชะบุญ มดลูกบิดตัวไปด้านขวาเกิน 90 องศา ส่วนที่เป็นพังผืดหนา ๆ ย้ายไปอยู่ด้านหลัง หมดเลยผ่าเอาด้านหลังของมดลูก(เยื้องไปทางด้านซ้าย)ออกมาได้อย่างปลอดภัยทั้งแม่ลูก แต่ก็ตกเลือดพอสมควรเพราะมันมีพังผืดอยู่รอบ ๆ ด้วย

คุณหมอบอกว่าคุณโชคดีมากนะที่มาเจอหมอ เพราะที่โรงพยาบาลแกลงไม่ได้มีหมอสูติอยู่ที่นั่นทุกวัน ถ้าเป็นหมอที่ไม่ใชหมอสูติผ่าคงจะเสี่ยงมาก ๆ เพราะไม่ใช่กรณีปกติ

ลูกออกมาน้ำหนัก 2520 กรัม กินเก่ง ออกมาวันที่สองก็เริ่มตัวเหลือง เอาเข้าส่องไฟ ออกกจากโรงพยาบาลก็ยังเหลืองอยู่ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว มีคนบอกให้เอาออกตากแดดตอนเช้า ๆ แต่อากาศก็เย็นเหลือเกิน พออากาศอุ่นแดดก็แรง ตากไปอาจจะเป็นการตาก "แดดเดียว" ได้

ตอนนี้พ่อแม่ไม่ค่อยได้นอน ผมสงสารเมียมาก ตื่นทุก ชั่วโมงเศษ ๆ ลูกกินนมอีกเกือบชั่วโมง ไล่ลมอีก กว่าจะเอาหลับได้แทบแย่ มีลูกนี่เหนื่อยจังเลยนะครับ แต่ก็ได้เห็นหน้าเขาแล้วก็มีความสุขมาก ๆ

ขอโทษทุกคนด้วยนะครับที่หายหน้าไป ช่วงนี้อาจจะไม่ได้มาพูดคุยอะไรมากนัก ขอเอาเวลาไปช่วยเมียเลี้ยงลูกก่อน พ่อกับแม่ผมตอนนี้ก็ไม่อยู่ซะด้วย ไม่มีใครช่วยเลี้ยง

ถึงลุงคิม
ลุงคิมอย่าเครียดเลยครับ ทำใจให้สบาย เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธรรมดาของโลกครับ ^_^ และอีกอย่าง ตนคือที่พึ่งแห่งตน ความสุขเกิดขึ้นจากตน ไม่ได้เกิดจากใครอื่นครับ

[kimzagass]

ขอบคุณมาก SOUP

ตั้งชื่อลูกชายว่าไงล่ะ....
เป็นไปได้ อยากให้เขากิน "นมแม่" นะ


ลุงคิมครับผม

[catcaty]

ยินดีด้วยคุณพ่อคนใหม่....!

หมึกครับผม

[Soup]

ลุงคิม ตอนนี้ลูกกินนมเมีย (เมียผม) อยู่ครับ
ตอนตั้งชื่อก็ยากอยู่เหมือนกัน ลูกเกิดวันจันทร์
ตั้งชื่อว่า "ชลธรรม" ชื่อเล่นชื่อ "ธาร" ครับ

พี่หมึก ขอบคุณมากครับ และก็ขอแสดงความยินดีกับพี่ด้วยเช่นกันครับ

[napassorn]

ขอแสดงความยินดีกับพ่อลูกอ่อนด้วย
ได้ลูกชาย ชื่อไพเราะเสียด้วย

ขอให้แข็งแรง ๆ ทั้ง พ่อ-แม่-ลูก นะ
_________________
<<ไร่อ้อยนภัสสร>>

[kimzagass]

[Soup]

ขอบคุณครับพี่เกียรติและพี่พร ขอให้พี่ขายอ้อยได้ราคาดี ๆ นะครับ

ลุงคิมครับ ชื่อจริงชื่อ "ชลธรรม" ไม่ใช่ "ชลธาร" ครับ
ส่วนเรื่องกินนมนี่ผมก็เคยบอกลูกว่า กินได้นะแต่อย่าจับนะ พ่อหวง
ฮ่า ๆ ๆ ลูกผมไม่กล้าจับเลยครับ

[k500]

ยินดีด้วยครับ คุณพ่อป้ายแดง ! ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัวนะครับ.

คุณซุปเล่นกล้ามไว้บ้างก็ดีนะครับ เด็กกินเก่ง โตเร็ว เดี๋ยวอุ้มกันไม่ไหวนะครับ!
ของผมครบ 5 เดือนพอดี 7 โลกว่าๆ อุ้มนานๆปวดแขนเอาเรื่อง
เสียอยู่อย่างเดียว เขาเป็นโรคหัวใจ ต้องไปหาหมอที่ศิริราชบ่อยๆ

[catcaty]

เมื่อวานไปธุระที่พิจิตร ออกสายตากฟ้าผ่าน อ.พยุหคีรี บ้านนายยู้ด ว่าจะแวะเยี่ยมหาข้าวฟรีกินสักมื้อ ก็ดันนนนนนน....ลืมเอาโทรศัพย์ไปด้วย ติดต่อนายยู้ดไม่ได้

ไว้คราวหน้าจะแวะหาขอข้าวกินสักมื้อเด๊อท่านเด๊อ....!

หมึกครับผม

[Soup]

คุณ k500

ใช่ครับ เด็กโตเร็วจริง ๆ นอนนี้แม่เขาอาการหนักอยู่ ข้อมือเคล็ดเลย ส่วนผมยังพอไหวอยู่ครับ

ลูกคุณ k500 น่าสงสารจัง เป็นโรคหัวใจแต่เด็กเลยหรือครับ ขอให้รักษาหายไว ๆ นะครับ โตขึ้นจะได้แข็งแรงช่วยพ่อแม่ได้

[mongkol]

ยินดีและดีใจกับข่าวดีๆ

คุณพ่อเหนื่อยหน่อยนะ แต่สุขใจนะ หายไปแล้วกลับมาพร้อมไอ้ตัวเล็ก

แถมเกิดวันจันทร์เหมือนผม

เขาว่าคนเกิดวันจันทร์เลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ ผมตอนเด็กไม่ดื้อเลยมาหัดเอาตอนโต

ยินดีและดีใจด้วยครับ คุณพ่อมือใหม่

[kimzagass]

หลักเกณฑ์การปฏิบัติที่ดีสำหรับ โรงรมซัลเฟอร์ไดออกไซด์ลำไยสด






สถานที่ประกอบการและอาคารผลิต
สถานที่ตั้งของโรงรมควรจะอยู่ห่างจากชุมนุมชนพอสมควรไม่ก่อให้เกิดกลิ่นรบกวนผู้อาศัยใกล้เคียง มีบริเวณกว้างขวางพอที่จะจัดวางวัตถุดิบและสินค้าเป็นสัดส่วนได้ มีที่จอดรถบรรทุกของเกษตรกรและรถบรรทุกตู้ขนส่งได้อย่างเพียงพอ อาคารผลิตแข็งแรง ส่วนต่าง ๆ ไม่ชำรุด แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน ป้องกันน้ำขัง และการปนเปื้อนได้อย่างดีเหมาะสมกับการปฏิบัติงานในทุกส่วน

1. สถานที่ตั้ง สถานที่ตั้งของโรงรมควรตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างจากชุมนุมชน ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนอันเนื่องมาจากกลิ่นของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และมีการคมนาคมสะดวกสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่

2. อาคารผลิต
2.1 อาคารผลิตควรจะมีบริเวณกว้างขวางพอที่จะรับวัตถุดิบและวางสินค้าที่ผ่านการรมซัลเฟอร์ไดออกไซด์ แล้วรอขนถ่ายสินค้าอย่างน้อย 3 เท่าของพื้นที่ห้องรมที่ใช้งานอยู่
2.2 ตัวอาคารและบริเวณโดยรอบสะอาดไม่ปล่อยให้มีการสะสมสิ่งที่ไม่ใช้แล้วหรือสิ่งปฏิกูลอันอาจเป็นแหล่งเพาะพันธ์ุสัตว์และแมลง รวมทั้งเชื้อโรคต่างๆขึ้นได้
2.3 บริเวณพื้นที่ตั้งตัวอาคารไม่มีน้ำขังแฉะและสกปรก ควรมีท่อระบายน้ำเพื่อให้ไหลลงสู่ทางระบายน้ำสาธารณะ
2.4 ควรอยู่ห่างจากบริเวณหรือสถานที่มีฝุ่นมากผิดปกติ โรงรมควรมีรั้วกั้นรอบอาคารเพื่อป้องกันมิให้สัตว์ต่างๆเข้าไปภายในโรงงาน เช่น สุนัข แมว ไก่ และหนู เป็นต้น ถ้ามีการเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ต้องให้อยู่ไกลจากบริเวณผลิต
2.5 อาคารของโรงรมควรจัดแบ่งพื้นที่ใช้งานให้ชัดเจน และป้องกันมิให้มีการก้าวก่ายพื้นที่กัน เช่น พื้นที่สำนักงาน พื้นที่รับวัตถุดิบ พื้นที่เตรียม สินค้าเข้าห้องรม พื้นที่วางสินค้าผ่านการรมแล้ว เป่าลมไล่ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ห้องเก็บสินค้ารอขนส่งส่วนจอดรถขนถ่ายสินค้าและวัตถุดิบห้องเก็บภาชนะบรรจุ ห้องเก็บสารเคมี ห้องเก็บวัสดุอื่นๆ เช่น เครื่องชั่ง ถาดเผา ฉลาก เป็นต้น
2.6 พื้น ฝาพนัง และหลังคาของอาคารสถานที่ผลิตต้องก่อสร้างด้วยวัสดุที่คงทน ทำความสะอาด และซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่ดีตลอดเวลา
2.7 จัดให้มีแสงสว่างและการระบายอากาศที่เหมาะสมเพียงพอสำหรับการปฏิบัติงานในบริเวณผลิต
2.8 ห้องพักคนงานไม่ควรจะอยู่บนห้องรมซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ทั้งนี้เพื่อสุขภาพของคนงาน

เครื่องมือและอุปกรณ์
1. สถานที่จัดเก็บวัสดุ ภาชนะ อุปกรณ์ หรือสารเคมีต่างๆจะต้องไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนหรือเป็นแหล่งทำให้เกิดการปนเปื้อนมีการ แยกให้ชัดเจน
2. ห้องเก็บตะกร้าจะต้องเป็นสัดส่วน ไม่มีการปนเปื้อนจากภายนอกและตะกร้าจะต้องทำความสะอาดก่อนนำไปใช้งาน
3. ตะกร้าที่บรรจุลำไยจะต้องสะอาด
4. เครื่องชั่งที่ใช้งานจะต้องพอเหมาะกับน้ำหนักที่ใช้ชั่ง เครื่องชั่ง กำมะถันไม่ควรชั่งน้ำหนักสูงสุดเกิน 5 กิโลกรัม





ห้องรม
1. โครงสร้างของห้องรมควัน
1.1 ผนังห้อง : พื้นผิวหนังเรียบละเอียดไม่มีรอยร้าว วัสดุที่เหมาะสมในการทำผนังห้องรมควันควรเป็นวัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อน และป้องกันการดูดซึมก๊าซได้ดี ได้แก่ คอนกรีตฉาบมัน/ทาสี
1.2 เพดาน : ต้องมีสภาพแน่นหนา พื้นผิวเรียบ ก๊าซรั่วซึมไม่ได้
1.3 พื้นห้อง : พื้นห้องสะอาดไม่มีรอยแตกของปูนและไม่เปียกชื้น พื้นห้องควรจะเป็นคอนกรีตเคลือบมัน
1.4 ประตู : ต้องป้องกันการรั่วของก๊าซได้ดีมาก วัสดุที่ใช้ ได้แก่ สแตนเลสสตีล ไม้อัด โฟเมก้า
1.5 การป้องกันรอยรั่วที่ประตูและแนวต่อต่างๆ : ป้องกันการรั่วของก๊าซได้ดี วัสดุที่ใช้ควรเป็นยางประตูห้องเย็น และซิลิโคน เทปกาว หรือวัสดุคงทนอุดตามแนวต่อต่างๆ
1.6 ถ้ามีหน้าต่างมองภายในห้องรมควัน : ต้องไม่ชำรุด และใสสะอาด สามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงภายในห้องรมควันได้ชัดเจน

2. เครื่องมือ/ อุปกรณ์ภายในห้องรมควัน
2.1 หลอดไฟฟ้าภายในห้องรมควัน : ให้แสงสว่างทั่วทั้งห้อง
2.2 ปลั๊กไฟและสายไฟฟ้า : อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวก ทนความร้อนและมีสภาพสมบูรณ์ดี
2.3 เตาไฟฟ้าหรือเตาเผา : สภาพสมบูรณ์ ใช้งานได้ดี (ในกรณีเผากำมะถันในห้องรม)
2.4 อุปกรณ์ป้องกันเปลวไฟ : ป้องกันเปลวไฟและทนความร้อนได้ดี
2.5 พัดลมกวน/ท่อกวน ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ภายใน : ใช้งานได้ดี สภาพสมบูรณ์อยู่ในตำแหน่งที่ให้กระแสลมทั่วทั้งห้อง
2.6 ฝาปิดท่อดูดก๊าซที่เหลือจากการรม : จะต้องไม่ชำรุด

3. เครื่องมือ/อุปกรณ์นอกห้องรมควัน
3.1 พัดลมดูดอากาศ : สภาพสมบูรณ์ ใช้งานได้ดี
3.2 ท่อดูดอากาศ : สภาพสมบูรณ์ดี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง อยู่ระหว่าง 6-12 นิ้ว
3.3 เตาไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์เผากำมะถัน ต้องไม่ชำรุดสามารถใช้งานได้ดี
3.4 มีช่องกระจก สังเกตการเผาไหม้กำมะถัน

หอกำจัดก๊าซ
1. ท่อดูดก๊าซที่เหลือจากห้องรมไปหอกำจัดก๊าซจะต้องสมบูรณ์ไม่ชำรุด
2. พัดลมดูดก๊าซที่เหลือจากห้องรม จะต้องมีแรงเพียงพอในการบำบัด
ก๊าซที่เหลือ
3. ต้องมีหัวพ่นน้ำ กระจายละอองน้ำ และช่องมองตรวจสอบการ
ทำงานได้
4. มีถังปูนขาวพร้อมระบบการกวนน้ำปูนและถังดักตะกอน
5. น้ำใช้ในการบำบัดสามารถใช้ระบบหมุนเวียนได้ มีการเปลี่ยนน้ำและ
ต้องเติมปูนขาวตามเวลาเหมาะสม
6. ปั๊มน้ำจะต้องมีแรงเพียงพอ



ระบบการผลิต

1. ขั้นตอนการรม
1.1 ผู้ประกอบการโรงรมจะต้องจัดทำแผนผังขั้นตอนการรมของโรงรม ที่มีขนาดเห็นได้ชัดเจนติดไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน ด้านหน้าของห้องรมหรือหน้า ห้องสำนักงาน

1.2 ผู้ประกอบการจะต้องควบคุมปัจจัยที่มีผลต่อการตกค้างของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่ต้องควบคุมอย่างถูกต้องตามรายละเอียดทุกขั้นตอน (ดูภาคผนวก)

2. กระบวนการรมก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์
2.1 ผู้ประกอบการจะต้องจัดทำกระบวนการรมก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ลำไยสด โดยผู้ชำนาญการ และเขียนเป็นวิธีปฏิบัติสำหรับผู้ปฏิบัติงานให้ชัดเจน รายละเอียดต้องประกอบด้วย
- การจัดการด้านวัตถุดิบ
- ขนาดและโครงสร้างของห้อง
- ระบบการรมซัลเฟอร์ไดออกไซด์
- ระบบการหมุนเวียนอากาศ
- ระบบการกำจัดก๊าซ
- ขนาดตะกร้า การเรียงลำไยในตะกร้าและการวางตะกร้าในห้องรม
- ปริมาณกำมะถันที่ใช้ ระยะเวลาเผากำมะถัน ระยะเวลารม ระยะเวลากำจัดก๊าซ
- การหาก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในห้องเปล่า เพื่อทดสอบการรั่วของห้อง การหาก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในห้องมีลำไยจำนวนต่างๆเพื่อทดสอบความสม่ำเสมอของการกระจายก๊าซ

2.2 ผู้ปฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามกระบวนการที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัด และถูกต้อง

2.3 ผู้ปฏิบัติงานต้องบันทึกข้อมูลการรมควันในส่วนที่เป็นจุดวิกฤต เพื่อการทวนสอบกลับได้ จะต้องประกอบด้วย

- บันทึกการตรวจรับวัตถุดิบ และแหล่งที่มาของวัตถุดิบ
- บันทึกการตรวจสอบอุปกรณ์ห้องรมและระบบบำบัดก๊าซ
- บันทึกผลการรมควันและบำบัดก๊าซ
- บันทึกควบคุมคุณภาพสินค้าโดยการทวนสอบ

3. ระบบการกำจัดก๊าซ
3.1 ผู้ประกอบการจะต้องจัดทำกระบวนการกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่เหลือจากการรม โดยผู้ชำนาญการและเขียนเป็นวิธีปฏิบัติสำหรับผู้ปฏิบัติงานให้ชัดเจน ในรายละเอียดต้องประกอบด้วย
- วิธีการกำจัดก๊าซ
- ถังพักน้ำ หอพ่นน้ำ และหัวพ่นน้ำ
- ขนาดมอเตอร์ต่างๆ
- ขนาดท่อต่างๆ
- การใช้ปูนขาวหรือวิธีอื่น การถ่าย/เปลี่ยนน้ำ

3.2 ผู้ปฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามกระบวนการที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัด

สุขลักษณะส่วนบุคคล
- ต้องจัดทำห้องน้ำ ห้องสุขาแยกเป็นสัดส่วนจากส่วนผลิตและมีจำนวนเพียงพอกับผู้ปฏิบัติงาน
- ผู้ปฏิบัติงานควรมีจุดสังเกตให้แตกต่างจากผู้ส่งวัตถุดิบในบริเวณลานรับวัตถุดิบ
- ผู้ปฏิบัติงานของโรงรมในส่วนอื่นควรจะมีจุดสังเกตให้ชัดเจนว่าปฏิบัติงานในส่วนใด
- ผู้ที่ปฏิบัติงานต้องไม่เจ็บป่วยหรือเป็นพาหะนำโรค
- ผู้ปฏิบัติงานไม่ควรสูบบุหรี่ ถ่มน้ำลายในพื้นที่เสี่ยงอันตรายต่อก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ผู้ประกอบการควรจัดหาอุปกรณ์ ป้องกันอันตรายให้พนักงานใช้และพนักงานจะต้องปฏิบัติตาม

ตู้ขนส่ง
ตู้ขนส่งต้องสะอาด ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อน ควบคุมอุณหภูมิได้ตามที่ต้องการ และมีการบันทึกตลอดระยะเวลาขนส่ง การบรรจุสินค้าในตู้ ต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสินค้าหรือการปนเปื้อนในภายหลัง

ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า
1. ผู้ประกอบการจะต้องแสดงรายละเอียดสินค้าเป็นไปตามข้อตกลงกับลูกค้า และตรงกับความเป็นจริงที่ผลิตในฉลากที่สำคัญ ภาชนะบรรจุสินค้าอย่างน้อยต้องระบุถึง ชื่อผู้ส่งออก ชื่อสถานที่ ชื่อสินค้า เกรดสินค้าและรุ่นการผลิต อาจระบุถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบในลักษณะบาร์โค้ด
2.ในกรณีมีกฎหมายระเบียบหรือข้อบังคับใดๆ นอกเหนือจากข้อ 1 ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม

การฝึกอบรม
ผู้ปฏิบัติงานในโรงรมทุกระดับควรทราบถึง หน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเอง ทราบถึงหลักการและรายละเอียดในการรม โดย ผ่านการฝึกอบรมโดยหน่วยงานภายนอก หรืออบรมภายในโรงรม หรือมีประสบการณ์จากที่อื่นมาอย่างดี

การเก็บบันทึกข้อมูลและการตรวจสอบภายใน
1. ต้องมีการเก็บบันทึกข้อมูลต่างๆ เข้าแฟ้มอย่างมีระเบียบและค้นหาได้ง่าย
2. การเก็บบันทึก ข้อมูลที่เก็บจะต้องครบตามที่ผู้ชำนาญการกำหนด และข้อมูลอื่นเพิ่มเติม เช่น ผลการวิเคราะห์ SO2 ตกค้าง
3. บันทึกต่างๆ ต้องมีการบันทึกอย่างถูกต้อง มีลายเซ็นผู้ปฏิบัติงานผู้ควบคุม
4. มีการจัดการควบคุมตรวจสอบภายในอย่างเป็นระบบ พร้อมผู้ดูแลรับผิดชอบในส่วนต่างๆ ชัดเจน

ที่มา : สำนักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์


http://www.phtnet.org/article/view-article.asp?aID=36