| ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
| ผู้ส่ง |
ข้อความ |
teeen2005
สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 161
|
 ตอบ: 28/08/2013 10:51 pm ชื่อกระทู้: เกษตรมือใหม่ หัวใจเปื้อนโคลน... |
 |
|
(1)
สวัสดีครับลุงคิม ทิดแดงและ สมช.ทุกท่าน
ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเรื่องเกษตร ที่สนใจคือเรื่องข้าว เป็นพิเศษเพราะมันคือปากท้องของคนทั้งชาตินี้ และชาติหน้า โดยจากข่าวจากคนใกล้ชิดแต่ไม่ไม่ชิดใกล้คือทิดแดงของหมู่เฮา บอกว่าตั้งแต่ รัฐบาลขาใหญ่ รับจำนำข้าวตันล่ะ 15000 บาท ชาวนาไทยก็เร่งผลิตๆข้าว สารพิษ ปุ๋ยเคมีเต็มที่ 100% ผมก็ใจหายเลย ผมกำลังตายผ่อนส่งหรือนี่
ที่บ้านให้เขาเช่านา แล้วก็เอาเงิน /ข้าว เป็นค่าเช่าแล้วแต่ว่าจะได้แบบไหน แล้วข้าวที่ได้มาก็เก็บไว้ในยุ้ง ข้าวขาวหมดเมื่อไรก็เอาไปสี แต่ข้าวที่ได้นั้นมันเจือปนต่อสิ่งนี้(สารพิษ ปุ๋ยเคมีเต็มที่ 100%) เพราะขาใหญ่กระตุ้นให้ทำข้าวขายมากๆ เรื่องนี้แล้วแต่ใครจะทำอะไรแล้ว ใครมีเท่าไรใส่มันเต็มที่ เททั้งหน้าตัก
สงสัยจะนอกประเดน คือผมอ่านเรื่องข้าวขอลุงคิม ก็พอเข้าใจระดับหนึ่งน่ะ แต่เรื่องระยะเวลา หรือระยะการเปลี่ยนแปลงข้าว อันนี้ไม่รู้จริงมันประมาณไหน กี่วัน ถึงจะเข้าระยะนี้ ถึงจะใช้ปุ๋ยหรือฮอโมน ของลุงคิมถูก ทั้งทางดิน และทางใบ ผมนี่ใหม่จริงๆ ยกตัวอย่างสัก 1 ตัวอย่างเช่น ข้าวกข.15 อะไรแบบนี้ จากรูปที่ 1
@@ สูตรซื้อ (ก. จ่ายกับมือ) :
1. ย่ำเทือก .... น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 ครั้งที่ 1 อัตรา 2-3 ล./ไร่ + 16-8-8 (10 กก.) หรือ 16-16-16 (1 กส.) + 46-0-0 (ครึ่ง กส.) 10 กก. ละลายปุ๋ยในน้ำหมัก .... ผสมน้ำเท่าไหร่ก็ได้ตามความเหมาะสม สาดให้ทั่วแปลงแล้วย่ำเทือกประณีต .... ไถกลบฟาง ใส่ยิบซั่ม 1 กส. ปุ๋ยอินทรีย์ 1 กส. กระดูกป่น 10 กก.
2. เตรียมเมล็ดพันธุ์ .... แช่ น้ำ 100 ล. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ไคโตซาน 100 ซีซี. นาน 12 ชม. ครบกำหนดแล้ว ห่มต่อ 24-36 ชม. เมล็ดเริ่มโชว์ตุ่มรากจึงนำไปหว่าน
3. บำรุงระยะกล้า (เร่งแตกกอ).... ช่วงอายุ 20-30-40 วัน ด้วย น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไบโออิ 200 ซีซี. + 18-38-12 (1 กก. ) + ยูเรีย จี 500 กรัม. .... ให้ 3 รอบ .... ฉีดทางใบได้ครั้งละ 4-5 ไร่
4. บำรุงระยะแตกกอต้นกลม .... น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ครั้งที่ 2 อัตรา 2-3 ล./ไร่ + 16-8-8 (10 กก.) หรือ 16-16-16 (1 กส.) + 46-0-0 (ครึ่ง กส.) 10 กก. สูตรใดสูตรหนึ่ง .... ปรับหัวฉีดเม็ดใหญ่ๆ ฉีดแหวกต้นข้าวลงถึงพื้น ผสมน้ำเท่าไหร่ก็ได้ตามความเหมาะสม
5. บำรุงระยะออกรวง (หยุดความสูง, เพิ่มลมเบ่ง) .... น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ฮอร์โมนไข่ไทเป 200 ซีซี. + ยูเรีย จี 500 กรัม + 0-52-34 (500 กรัม) .... ให้ 2 รอบ ฉีดทางใบได้ครั้งละ 4-5 ไร่
6. บำรุงระยะน้ำนม .... น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ยูเรก้า 100 ซีซี. .... ให้ 3-4 รอบ ฉีดทางใบได้ครั้งละ 4-5 ไร่
ส่วนประกอบเนื้อสารอาหาร :
- ระเบิดเถิดเทิง.... กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด, ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว (อินทรีย์)....ธาตุหลัก, ธาตุรอง, ธาตุเสริม, แม็กเนเซียม, สังกะสี (เคมี)
- ไบโออิ..แม็กเนเซียม, สังกะสีอะมิโนคีเลต, ยูเรีย จี, ธาตุรอง, ธาตุเสริม, แคลเซียม โบรอน (เคมี)
- ไทเป..ไข่, นม, กลูโคส, น้ำมะพร้าว (อินทรีย์)...13-0-46, 0-52-34, ธาตุรอง, ธาตุเสริม (เคมี)
- ยูเรก้า..21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน, ธาตุรอง, ธาตุเสริม, แคลเซียม โบรอน (เคมี)
ถ้า จากข้อ1-2 นี่เข้าใจน่ะครับระยะนี้ แต่จากข้อ3-6 ระยะล่ะกี่วันไม่เข้าใจ สมช. ท่านใด เคยทำนาและเก็บข้อมูลระยะการเปลี่บนแปลงของข้าว แต่ล่ะระยะ ก็ขอความกรุณาโพสบอกด้วยน่ะครับ ผมจะได้เก็บข้อมูลไว้ใช้ + กับประสบการณ์ของพ่อแม่ (พ่อแม่ไม่ได้ทำนามานานแล้ว) + ทำจริง สังเกตจากของจริง
การเกษตรจะยากก็ยาก คือ ยากเรื่องปัจจัยต่างนี่แหละ (จำไม่ได้ลุงคิมบอกว่า มี 5-6 อย่าง) คนรุ่นใหม่ก็เลยคิดว่ามันยาก ในการเตรียมอะไรต่าง เวลา + อุปกรณ์ + คน + ปุ๋ย + ฮอร์โมน เยอะน่ะสำหรับคนที่ไม่เคยทำ พ่อแม่ก็ไม่ได้ บอก สอน จดบันทึก เอาไว้ให้ดูเสียด้วยซิ
.
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย teeen2005 เมื่อ 30/08/2013 8:32 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
| กลับไปข้างบน |
|
 |
DangSalaya
หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1864
|
| ตอบ: 29/08/2013 1:22 am ชื่อกระทู้: อ่านกระทู้ ทำนารุ่นที่ 3 ของผมไม่ละเอียดหรือเปล่า...? |
|
|
| teeen2005 บันทึก: |
(1)
ก่อนอื่น รูปที่คุณนำเสนอนี้ ไม่สามารถขยายให้ใหญ่ได้ ก็เลยไม่สามารถดูรายละเอียดได้ชัดเจน
ไม่เป็นไร ร่วมด้วยช่วยกัน ผมขี้เกียจเข้าเว็ป กาญจนาฯ ก็เลยทำง่าย ๆ เพื่อให้สามารถขยายพอดูรายละเอียดได้ดีขึ้นมาระดับหนึ่ง
สวัสดีครับลุงคิม ทิดแดงและ สมช.ทุกท่าน
-------
... คือผมอ่านเรื่องข้าวขอลุงคิม ก็พอเข้าใจระดับหนึ่งน่ะ
แต่เรื่องระยะเวลา หรือระยะการเปลี่ยนแปลงข้าว อันนี้ไม่รู้จริง มันประมาณไหน กี่วัน ถึงจะเข้าระยะนี้ ถึงจะใช้ปุ๋ยหรือฮอร์โมน ของลุงคิมถูก ทั้งทางดิน และทางใบ ผมนี่ใหม่จริงๆ ยกตัวอย่างสัก 1 ตัวอย่างเช่น ข้าวกข.15 อะไรแบบนี้ จากรูปที่ 1
ตามที่คุณถามเรื่อง ระยะเวลา การเปลี่ยนแปลงของข้าว ประมาณไหน กี่วัน ถึงจะเข้าระยะตามในรูป ซึ่งตามรูปที่คุณนำเสนอ เป็นเพียงแนวทางตามหลักการโดยประมาณเท่านั้น แต่ของจริง ตอบยาก เพราะ ขึ้นอยู่กับ สายพันธุ์ข้าวที่คุณใช้ว่าเป็นข้าวไวแสง ไม่ไวแสง อายุเก็บเกี่ยวกี่วัน
และ...โอ้โฮ คุณเล่นยกตัวอย่าง ข้าว กข15 หรือ RD15 ซึ่งกลายพันธุ์จากการเอาข้าวขาวดอกมะลิ 105 มาอาบรังสีแกมม่า แถมยังเป็นข้าวไวแสง ซะอีกด้วย.และผลผลิตข้าวพันธุ์นี้ ตามที่นักวิชาการเค้าบอกว่า จะได้ผลผลิต เพียง 560 กก.หรือ 56 ถัง/ไร่..(พอดีน้องชายปลูกข้าวพันธุ์นี้ที่เชียงราย ตกกล้ากลางมิย. ดำ ต้น กค. เกี่ยวไม่เกิน 10 พย.ทำตามแนวลุงคิมครั้งแรกได้ข้าวประมาณ 75 ถัง/ไร่ ดูกระทู้ 2471 ครับ)
และ..............
@@ สูตรซื้อ (ก. จ่ายกับมือ) :
1. ย่ำเทือก .... น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 ครั้งที่ 1 อัตรา 2-3 ล./ไร่ + 16-8-8 (10 กก.) หรือ 16-16-16 (1 กส.) + 46-0-0 (ครึ่ง กส.) 10 กก. ละลายปุ๋ยในน้ำหมัก .... ผสมน้ำเท่าไหร่ก็ได้ตามความเหมาะสม สาดให้ทั่วแปลงแล้วย่ำเทือกประณีต .... ไถกลบฟาง ใส่ยิบซั่ม 1 กส. ปุ๋ยอินทรีย์ 1 กส. กระดูกป่น 10 กก.
2. เตรียมเมล็ดพันธุ์ .... แช่ น้ำ 100 ล. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ไคโตซาน 100 ซีซี. นาน 12 ชม. ครบกำหนดแล้ว ห่มต่อ 24-36 ชม. เมล็ดเริ่มโชว์ตุ่มรากจึงนำไปหว่าน
3. บำรุงระยะกล้า (เร่งแตกกอ).... ช่วงอายุ 20-30-40 วัน ด้วย น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไบโออิ 200 ซีซี. + 18-38-12 (1 กก. ) + ยูเรีย จี 500 กรัม. .... ให้ 3 รอบ .... ฉีดทางใบได้ครั้งละ 4-5 ไร่
4. บำรุงระยะแตกกอต้นกลม .... น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ครั้งที่ 2 อัตรา 2-3 ล./ไร่ + 16-8-8 (10 กก.) หรือ 16-16-16 (1 กส.) + 46-0-0 (ครึ่ง กส.) 10 กก. สูตรใดสูตรหนึ่ง .... ปรับหัวฉีดเม็ดใหญ่ๆ ฉีดแหวกต้นข้าวลงถึงพื้น ผสมน้ำเท่าไหร่ก็ได้ตามความเหมาะสม
5. บำรุงระยะออกรวง (หยุดความสูง, เพิ่มลมเบ่ง) .... น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ฮอร์โมนไข่ไทเป 200 ซีซี. + ยูเรีย จี 500 กรัม + 0-52-34 (500 กรัม) .... ให้ 2 รอบ ฉีดทางใบได้ครั้งละ 4-5 ไร่
6. บำรุงระยะน้ำนม .... น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ยูเรก้า 100 ซีซี. .... ให้ 3-4 รอบ ฉีดทางใบได้ครั้งละ 4-5 ไร่
ส่วนประกอบเนื้อสารอาหาร :
- ระเบิดเถิดเทิง.... กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด, ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว (อินทรีย์)....ธาตุหลัก, ธาตุรอง, ธาตุเสริม, แม็กเนเซียม, สังกะสี (เคมี)
- ไบโออิ..แม็กเนเซียม, สังกะสีอะมิโนคีเลต, ยูเรีย จี. ธาตุรอง, ธาตุเสริม, แคลเซียม โบรอน (เคมี)
- ไทเป..ไข่, นม, กลูโคส, น้ำมะพร้าว (อินทรีย์)...13-0-46, 0-52-34, ธาตุรอง, ธาตุเสริม (เคมี)
- ยูเรก้า..21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน, ธาตุรอง, ธาตุเสริม, แคลเซียม โบรอน (เคมี)
สำหรับวิธีใช้ปุ๋ยลุงคิมกับนาข้าว ตามที่ลุงเขียนบอกไว้ทั้งหมดนี้ ก็เป็นแต่เพียง หลักการเท่านั้น หากจะทำจริงๆ ตามที่ลุงบอกทั้งหมด อาจได้ผลไม่เต็มร้อย เพราะลุงจะย้ำ ดินบ้านคุณ ดินบ้านผม น้ำบ้านคุณ น้ำบ้านผม และปัจจัยอื่นอีกหลายอย่าง ต้องประยุกต์โดยการ + เพิ่มไอ้โน่น - ลดไอ้นี่ ...ลุงคิมจะย้ำ ตามความเหมาะสม
ถ้า สมช. ท่านใด เคยทำนาและเก็บข้อมูลระยะการเปลี่บนแปลงของข้าว แต่ล่ะระยะ ก็ขอความกรุณาโพสบอกด้วยน่ะครับ ผมจะได้เก็บข้อมูลไว้ใช้ + กับประสบการณ์ของพ่อแม่(พ่อแม่ไม่ได้ทำนามานานแล้ว) + ทำจริง สังเกตจากของจริง
ผมปลูกข้าวมา 3 รุ่น ๆนี้เป็นรุ่นที่ 4 ...รุ่นที่ 3 ปวดหัวที่สุด ในการทำแต่ละรุ่น ผมจะทำตารางกำหนดวัน เวลาตั้งแต่เริ่มหว่านจนถึงวันเกี่ยว ว่าวันไหนจะต้องทำอะไร และถ้าคุณติดตามและอ่าน จะเห็นว่า ผมลงรูปและเรื่องราวที่ผมเริ่มรุ่นที่ 3 ตั้งแต่วันไหน จนถึงวันเกี่ยว
(1)
(2)
(1 - 2) การทำนารุ่นที่ 3 ผมเก็บข้อมูลตั้งแต่เริ่ม (1) วันที่ 15 มีค. 56 จนถึง(31) วันที่ 1 กค. 56 เกี่ยว
(3)
(4)
(3 - 4) นอกจากนี้ เนื่องจากผมไม่เคยปลูกข้าว ไม่มีความรู้มาก่อน ผมทำตารางด้วย Xcel มีรายละเอียดทุกระยะว่า วันนั้นวันนี้ผมจะต้องทำอะไร ตั้งแต่เริ่มต้นทำเทือกจนถึงวันเกี่ยว
ซึ่งตารางนี้ ครั้งแรกผมทำไว้ 2 ชุด ผมเก็บไว้ชุดหนึ่ง ให้น้องชายที่เชียงรายใช้เป็นแนวทางอีกชุดหนึ่ง ทำทำไม เพราะเราสองคนไม่เคยทำนามาก่อน คนหนึ่งอยู่นครปฐม อีกคนอยู่เชียงราย ลุงคิมคือครูที่คอยชี้แนะ ใช้โทรศัพท์ติดต่อเพื่อประสานงาน เวลานี้ผมเพิ่งจะทำได้รุ่นที่ 4 ส่วนน้องชายก้าวล้ำออฟไซด์ไปรุ่นที่ 5 ที่ 6 แล้วมั๊ง ปลูก กข15 สันป่าตอง1 ไรซ์เบอร์รี่ ปีนี้ไม่ทำไรซ์เบอร์รี่ แต่คงจะทำหอมนิล
จากรูป คุณพอจะมองห็นว่า ทั้ง 31 ระยะ จะบอกไว้ว่า กี่วันๆ มีรูปลงในเว็ปด้วย
ส่วนรุ่นที่ 1 ที่ 2 ผมไม่ได้นำลงในเว็ป สำหรับรุ่นที่ 4 ณ วันนี้ (24 สค. 56) ข้าวอายุได้ 41 วันพอดี รูปและเรื่องที่ลง ก็จะมี ข้าว 3, 8, 16, 25, 38 วัน การที่รุ่นนี้ไม่ได้ลงทุกระยะ เกรงว่าสมาชิกจะเบื่อ ...อะไรกันวะ ลงบ่อยจัง....ผมก็เลยเว้นห่างไป
อีกอย่างหนึ่ง ผมชอบปลูกข้าวน้ำแห้งแค่หน้าดิน แต่รุ่นนี้จำยอมเพราะฝนตกบ่อย การปลูกข้าวน้ำแห้ง ไม่ใช่แกล้งข้าว ไม่ใช่เปียกสลับแห้ง อันนั้นนักวิชาการ ดัดจริตเรียกกันไปเอง ข้าวบนดอย ปลูกดินแห้ง ไม่เห็นจะต้องเปียกสลับแห้งก็ได้กินข้าว ข้าวไม่ชอบน้ำขัง ลองสังเกตุดูข้าวที่ขึ้นริมคันนา น้ำแห้งแหง่ก แต่ข้าวงามแตกกอดีจะตาย
นอกจากนี้ ผมชอบทดลองทำแบบบ้าๆ ลุงบอกยังงี้ ผมลดอันนี้ เพิ่มอันนั้น แทรกอันนี้ เสริมอันโน้น....ทำไร่ละ 100 ถัง จิ๊บจ๊อย แต่ตั้งความหวังไว้ว่า จะพยายามทำให้ได้ 150 ถัง/ไร่ ได้หรือไม่ได้ว่ากันอีกเรื่อง ไม่ได้ซีเรียส และจะคุมต้นทุนให้ได้ไร่ละไม่เกิน 2,000
ทิดจีน นาอยู่ติดกับผม 15 ไร่ได้ข้าว 17 เกวียน แต่ทิดจีนใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตอนทำเทือกเท่านั้น นอกนั้นเคมี ยาฆ่าแมลงหมด แต่ใช้วิธีสลับพันธุ์ข้าว 41 มา 47 มา 51 มาสุพรรณ1 ...สลับไปสลับมาแบบนี้
การเกษตรจะยากก็ยาก คือยากเรื่องปัจจัยต่างนี่แหละ (จำไม่ได้ลุงคิมบอกว่า มี 5-6 อย่าง) คนรุ่นใหม่ก็เลยคิดว่ามันยาก ในการเตรียมอะไรต่าง เวลา +อุปกรณ์+คน+ปุ๋ย+ฮอร์โมน เยอะน่ะสำหรับคนที่ไม่เคยทำ พ่อแม่ก็ไม่ได้บอกสอนจดบันทึกเอาไว้ให้ดูเสียด้วยซิ
การทำเกษตร ลุงคิมบอกว่า ถ้าเป็นคนช่างสังเกต จะไม่ยากเลย ...ผมเป็นลูกชาวสวนโดยกำเนิด พ่อแม่ก็เพียงแต่บอกว่า ทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ ....อย่างจะหมักไส้ปลาทะเล (ปลาทู) เพื่อจะเอาไปรดพลู (กินกับหมาก) ก็เอาเทใส่โอ่ง แม่จะบอกเอา "ดีเกลือ" ใส่เข้าไปหน่อย ก็ทำตามแม่บอก ไม่รู้ว่าใส่ดีเกลือไปทำไม ถามแม่ ๆก็บอกว่า ปู่ย่าตายายเค้าบอกมา
ก็มาได้รู้จากลุงคิมว่า ปลาทะเลมีสารอาหาร ดีเกลือก็คือ "แมกนีเซี่ยม ซัลเฟต" มันก็มีธาตุแมกนีเซี่ยม ก็ถึงบางอ้อว่า เอาน้ำหมักไส้ปลาทูผสมดีเกลือ เอามาผสมน้ำรดพลู รดต้นไม้อื่นๆ ใบพลู ใบไม้จะเขียวปี๋
|
ลองดูจากรูปที่ผมนำเสนอ แล้วไปเทียบกับ กระทู้ 3383 ล้มสวนทำนารุ่นที่ 3 ตามด้วย 4 ทำแบบคนบ้าที่ไม่อาจนำไปอ้างอิงอะไรได้ เพียงแค่ทำแล้วได้ข้าวขาย ไม่ขาดทุนพอแล้ว ....
. |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
teeen2005
สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 161
|
| ตอบ: 29/08/2013 4:25 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอบคุณครับ ทิดแดง
"ผมชอบปลูกข้าวน้ำแห้งแค่หน้าดิน การปลูกข้าวน้ำแห้ง ไม่ใช่แกล้งข้าว ไม่ใช่เปียกสลับแห้ง อันนั้นนักวิชาการ ดัดจริตเรียกกันไปเอง"
นักวิชาการเขาไม่ได้พูดหรอกครับ เขาก็พูดว่าระบบนี้เป็นความคิดของ IRRI และเรียกว่า ระบบการเพิ่มผลผลิตข้าว (รพข) หรือ System of Rice Intensification (SRI). เขาปลูกข้าวต้นเดี่ยว และ AWD-Alternate Wet and Dry ปลูกข้าวแบบเปียกหน้าดิน
System of Rice Intensification (SRI) ระบบการเพิ่มผลผลิตข้าว (รพข)
http://ns.ist.cmu.ac.th/riseat/documents/sri.pdf
http://www.youtube.com/watch?v=p1T2d4a9bdY&feature=player_embedded#t=8
AWD-Alternate Wet and Dry ปลูกข้าวแบบเปียกหน้าดิน
http://www.youtube.com/watch?v=tfKWKfagfFs
แต่นักขายของคูโบต้าคนหนึ่ง แกนนำกลุ่มชาวนาวันหยุดหวังผลเชิงการค้าแฝง เลยได้เปลี่ยนเป็นชื่อไทยซ่ะเลยว่า "เปียกสลับแห้ง แกล้งข้าว" แล้วทำเหมือนวิธีการของตัวเองคิด ชูท่อสีฟ้าเจาะรู (ดั้งเดิมใช้ลำไผ่ เจาะรู) และทำการรวมตัวคนรุ่นใหม่ คนขายพันธ์ข้าว + ขายเครื่องมือการเกษตร (คูโบต้า) + ชาวนารุ่นใหม่ ช่องการนำเสนอ Facebook และ Youtube
ดูLink:http://www.gotoknow.org/blog/supersup300
http://www.ayutthaya.go.th/FileData/pdf/new_171212100925.pdf
http://www.gotoknow.org/posts/436181
ข้อดีคือ โดยระบบเกษตรเรามีแต่รุ่นพ่อแม่ส่วนใหญ่ และ SRI + AWD + Azolla Duck Rice เป็นองค์ความรู้พื้นฐาน โดยมีข้อดีข้อเสียของมันเอง ที่ทำในไทยไม่ได้ทุกพื้นที่ต้องปรับเปลี่ยนเอง เขาก็ทำให้คนรุ่นใหม่เข้าสู่ระบบเกษตร โดยพูดในเชิงว่าทำเกษตรไม่ยาก โดยมีเครื่องมือด้วย (ผมเข้าใจการค้าปัจจุบัน ต้องแข่งกัน)
ข้อเสียคือ ถ้ามองไม่ออกเรื่องการโฆษณาแฝง คนรุ่นใหม่ และภาครัฐจะเป็นตัวโปรโมทสินค้าเขา โดยเขาก็เป็นวิทยากรในที่ต่างๆ ทั้งภาครัฐ มหาลัย งานเกษตร ที่จริงสินค้าเขาใช่ว่าจะดีมากกว่าของที่อื่น ของคนไทยดีกว่ามากกมาย
โดยผมมองว่า ระบบรัฐไม่มีประสิทธิภาพ เรื่องการโปรโมท SRI+AWD+Azolla Duck Rice ที่จริงนักวิชาการพูดมานานมากแล้ว แต่มันพูดเชิงวิชาการ ไม่ใช่พูดเชิงภาษาชาวบ้าน ชาวบ้านก็คิดว่ามันเป็นการวิจัยเห็นผลเชิงความจริงไม่ได้ ทำอะไรตั้งหลายอย่าง ขี้เกียจทำ
แต่เวียดนาม เขานำมาทำ SRI+AWD โดยระบบรัฐของของเขา เปิด-ปิดน้ำ เป็นเวลา ในระบบชลประทาน และมีระบบตรวจสอบการระบาดของศัตรู ในแต่ล่ะพื้นที่
บ้านเรานั้นมีเหมือนกัน แต่เกษตรอำเภอมันไปทำอะไรของมันนิ ไม่เห็นบอกกล่าวอะไร ชาวนาช่วยเหลือกันเอง มีแต่พวกขายปุ๋ยขายยาเข้ามาแนะนำ ขายของ หรือไม่ก็นักวิชาการนั้นแหละขายของซ่ะเอง และบ้านเรายังเป็นความเชื่อดั่งเดิมว่าต้องขังน้ำ สูบน้ำเข้าไป เสียค่าน้ำมันมากมาย
สรุปบทสุดท้ายของชาวนาไทย คือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
. |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
krd
หนาวดึ่ง
เข้าร่วมเมื่อ: 30/08/2013
ตอบ: 8
|
| ตอบ: 30/08/2013 11:13 am ชื่อกระทู้: |
|
|
เน็ตเอ๋อ.....หายหมดเลย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย krd เมื่อ 05/09/2013 6:06 pm, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
teeen2005
สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 161
|
| ตอบ: 30/08/2013 2:04 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
| krd บันทึก: |
เกือบเจ๋งครับ ไอ้เปียกสลับแห้งแกล้งข้าว ถ้าเอาน้ำเข้านาไม่ทัน หายยะนะมาแน่ปล่อยน้ำแห้งแล้วก็เป็นเปียกสลับแห้ง แกล้งกู หญ้าขึ้นต้องเริ่มสูบน้ำเข้านาใหม่ ค่าน้ำมันเท่าไร คิดจะทำนาวันหยุดอย่าคิดทำเลย ขนาดติดตามฟังลุงคิมมานานตั่งแต่สมัยปุ๋ยรุ้ง หนังสือลุงคิมก็ซื้อไว้ แต่ดันไปเชื่อไอ้ท่อเจาะรู แค่ทำให้ข้าวแตกกอหาฮอร์โนมลุงคิมมาใส่ บางที่ข้าวแตกกอมากกว่าเอาน้ำออกไม่เสียน้ำมัน แต่ตอนน้ำเข้าเริ่มนับหนึ่งใหม่ เห็นมีบางท่านเอามาลงลองตามไปดู พวกที่มาลงส่วนมากรับจ้างดำนาทั่งนั้น ถ่ายรูปแต่งหน้าทาปาก โพต์ลงเว็ป ขนาดคนที่ทำนาไม่มีวันหยุดยังจะไม่รอด ......
|
สวัสดีครับลุงคิม คุณkrd และสมช ทุกท่าน
ที่ระบบ AWD (สลับ เปียก สลับแห้ง) มันก็เป็นหลักการที่ดีน่ะครับ แต่แห้งมากเกินไปก็ไม่ดี (เอาแบบชื้นๆ ดีกว่า หรือแจ๊ะๆ หน้าดิน) รากข้าวจะได้ดูดออกซิเจนมาใช้บ้าง ดีกว่าน้ำขัง
โดยเขามีท่อสีฟ้าเจาะรู (ที่จริงเจาะทำไม แบบอื่นทำเร็วกว่า) เพื่อวัดระดับน้ำใต้ดิน (ลดมากก็สูบน้ำ ลดค่าน้ำมัน) โดยเขาบอกว่า ถ้าน้ำลดลงเรื่อยๆ จะทำให้ข้าวสร้างรากยืดตามเพื่อหาน้ำ และจะช่วยตอนข้าวเป็นรวงต้นจะได้ไม่ล้ม (ล้มเพราะมันสูง) รากลงลึกยึดต้นไว้
โดยรวมวิธีการที่เขานำเสนอ (เชิงแอบอ้างโฆษณาแฝง) ก็ถือว่าดีครับ เพราะ ตปท. เคยทดสอบมาก่อนแล้ว ส่วนการทำนาวันหยุดนั้น มันจะทำวันหยุดได้อย่างไร ถ้าไม่มีคนช่วย เช่น พ่อแม่ทำนาอยุ่ก่อน แล้วลูกช่วยวางแผน ระบบ เทคนิค ต่างๆ หรือจ้างเขาทำการเตรียมแปลงก่อนปลูกข้าว แบบนี้ได้อยู่น่ะ
ต่อไปจะมีกลุ่มแนวๆ นี้ (แต่งหน้าทาปาก....5555) ออกมามาก เพื่อสร้างค่าให้กับตัวเอง (คนนั้นเขาขาย พันธ์ข้าว + ผจ.คูโบต้า) ภาครัฐก็อ่อนแอ ความรู้เยอะ ลูกน้องอยากทำ ลูกพี่คิดว่าเกินหน้า สุดท้ายลูกน้องลาออกไปทำเสียเอง หรืออยู่มันไปเรื่อยๆ และเป็นที่ปรึกษาโรงงานปุ๋ย ยา ขายชาวนาเอง โดยบอกตัวเองมาจากรัฐต้องเชื่อฉันน่ะ (ศ. ดร.น่ะ)
. |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass
หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11617
|
| ตอบ: 30/08/2013 5:19 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อ้ัยพวกนี้ "ปากตลาด" ไปว่าเขา.....บาป รู้มั้ย
ถ้าไม่มี ดีที่สุด แล้วจะรู้ไงว่าอันไหน เลวที่สุด
ถ้าไม่มี เลวที่สุด แล้วจะรู้ได้ไงว่าอันไหน ดีที่สุด
การเปรียบเทียบต้องว่าตามลำดับ ....
ต่ำกว่าต่ำกว่าเลวที่สุด ต่ำกว่าเลวที่สุด เลวที่สุด เลวกว่า เลว...
ดี ดีกว่า ดีที่สุด เหนือกว่าดีที่สุด เหนือกว่าเหนือกว่าดีที่สุด....
ธรรมชาติไม่มีตัวเลขและสูตรสำเร็จ
ว่าของเขาไม่ดี แล้วเขาอยู่ได้ยังไง
กับคนที่ว่าของตัวดี ทำไมเป็นหนี้ ไม่เป็นหนี้ก็ไม่ได้เป็นเศรษฐี
มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ แล้วอะไรๆ จะดีเอง
ในดีมีเลว ในเลวมีดี มองให้ออกแล้วเลือกเก็บมาเป็นของตัวเอง
ระวังนะ รู้ไปหมดแม้แต่มดปวดฟันแต่ไม่รู้จักตัวเอง....ตาคิม ไง
. |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
toodtoo
สาวดอง
เข้าร่วมเมื่อ: 13/10/2012
ตอบ: 95
|
| ตอบ: 30/08/2013 8:33 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
| krd บันทึก: | | เกือบเจ๋งครับไอ้เปียกสลับแห้งแกล้งข้าวถ้าเอาน้ำเข้านาไม่ทันหายยะนะมาแน่ปล่อยน้ำแห้งแล้วก็เป็นเปียกสลับแห้งแกล้งกูหญ้าขึ้นต้องเริ่มสูบน้ำเข้านาใหม่ค่าน้ำมันเท่าไรคิดจะทำนาวันหยุดอย่าคิดทำเลยขนาดติดตามฟังลุงคิมมานานตั่งแต่สมัยปุ๋ยรุ้งหนังสือลุงคิมก็ซื้อไว้แต่ดันไปเชื่อไอ้ท่อเจาะรูแค่ทำให้ข้าวแตกกอหาฮอร์โนมลุงคิมมาใส่บางที่ข้าวแตกกอมากกว่าเอาน้ำออกไม่เสียน้ำมันแต่ตอนน้ำเข้าเริ่มนับหนึ่งใหม่เห็นมีบางท่านเอามาลงลองตามไปดูพวกที่มาลงสว่นมากรับจ้างดำนาทั่งนั้นถ่ายรูปแต่งหน้าทาปากโพต์ลงเว็ปขนาดคนที่ทำนาไม่มีวันหยุดยังจะไม่รอด...... |
สวัสดีครับลุง ....คุณteeen2005 คุณ krd .....
คุณ krd จบปริญญาเอกจากที่ไหนมาครับ ...ไปไม่ลา มาไม่ไหว้ แล้วเขียนหนังสือได้เฉียบขาดจริง ๆ ไม่มีเครื่องหมายวรรคตอน ไม่มีเว้นวรรค สะกดคำผิด ๆ ถูก ๆ อ่านแล้วกินใจดีจังเลย
เกือบเจ๋งครับไอ้เปียกสลับแห้งแกล้งข้าว ถ้าเอาน้ำเข้านาไม่ทันหายยะนะมาแน่ปล่อยน้ำแห้งแล้วก็เป็นเปียกสลับแห้งแกล้งกู หญ้าขึ้นต้องเริ่มสูบน้ำเข้านาใหม่ค่าน้ำมันเท่าไร คิดจะทำนาวันหยุดอย่าคิดทำเลย ขนาดติดตามฟังลุงคิมมานานตั่งแต่สมัยปุ๋ยรุ้ง
หนังสือลุงคิมก็ซื้อไว้แต่ดันไปเชื่อไอ้ท่อเจาะรูแค่ทำให้ข้าวแตกกอ หาฮอร์โนมลุงคิมมาใส่ บางที่ข้าวแตกกอมากกว่าเอาน้ำออกไม่เสียน้ำมัน แต่ตอนน้ำเข้าเริ่มนับหนึ่งใหม่ เห็นมีบางท่านเอามาลง ลองตามไปดูพวกที่มาลงสว่นมากรับจ้างดำนาทั่งนั้น ถ่ายรูปแต่งหน้าทาปากโพต์ลงเว็ป ขนาดคนที่ทำนาไม่มีวันหยุดยังจะไม่รอด......
ลองตามไปดูพวกที่มาลงส่วนมากรับจ้างดำนาทั่งนั้น ถ่ายรูปแต่งหน้าทาปากโพสต์ลงเว็ป
ชอบใจคำ ๆ นี้จัง ...อย่าได้มัวแต่พูด แต่อยากเห็นนาข้าวของคุณ krd ที่ไม่ได้แต่งหน้าทาปาก น่ะ เอามาโพสต์ลงเว็ปให้ดูกันบ้าง จะได้รู้ว่า ไอ้นาข้าวที่ไม่ได้แต่งหน้าทาปากมันเป็นยังไง ตั้งอยู่ที่ไหน เผื่อจะได้ขอตามไปดูเอาไว้เป็นตัวอย่าง
....toodtoo อ่านแบบฝรั่งว่า ตูดตู ...อ่านแบบไทย ๆ ว่า ตุ๊ดตู่....
เด็กป.4 จากวิเศษฯ
ขอบคุณครับ |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
krd
หนาวดึ่ง
เข้าร่วมเมื่อ: 30/08/2013
ตอบ: 8
|
| ตอบ: 31/08/2013 12:21 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ฟังลุงคิมครับ (เคยเห็นข้อความ หลังรถหรือเปล่า "อย่าตามมา กูหลง")
-ทำจริงครับ แนวทางลุงคิมดีที่สุดแล้วครับ ถ้าท่านยังไม่เคยทำนา ก็ลองทำสัก 20-30ไร่ แล้วท่านก็จะรู้เองครับ ตั่งเริ่มทำเทือก จนเก็บเกียว ที่เว็ปนี้เป็นคลังความรู้ ที่ดีที่สุด คงต้องขออภัย และไม่มีการโต้ตอบ
-ลองตามนี้ก็ได้ครับ http://www.youtube.com/watch?v=PXMaGY1XT6A
-ข้าวอายุ 120วัน
ระยะกล้า 0-18วัน
ระยะแตกกอ 20-30 วัน
ระยะสร้างรวง 50-60 วัน
ระยะออกดอก 70-85 วัน (พอข้าวผสมเกษร ปลายข้าวเมล็ดเหลือง 2-3 เมล็ด ให้ฉีดเร่งแป้ง)
ระยะเกียว ระยะพลับพลึง ระยะข้าวชว่งไม่เกิน 110วัน
-สำหรับข้าวนาดำ ตามรูปของท่าน ให้นับวันที่ปักดำ เป็นวันแรก ไม่ใช่บวกวันตกกล้า เช่นเพราะกล้าวันที่ 1 วันดำกล้าวันที่ 18 ให้นับวันที่ 18เป็นวันที่ 1 ก็จะตรงกัน
ครับ เพราะสว่นมาก จะเข้าใจว่า ให้นับตั่งแต่ วันเพราะกล้า
-ข้อมูลในเว็ป มีให้ดูอย่างละเอียด แล้วครับ
- รอท่านอื่น เพิ่มเติมได้ครับ |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass
หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11617
|
| ตอบ: 31/08/2013 4:49 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
| krd บันทึก: |
ฟังลุงคิมครับ (เคยเห็นข้อความ หลังรถหรือเปล่า "อย่าตามมา กูหลง")
COMMENT :
"ฟังลุงคิม" ฟังเรื่องอะไร ? ลุงคิมพูดเรื่องอะไร ? ..... บอกหน่อย
"(เคยเห็นข้อความ...ฯลฯ..) หลังรถใคร...รถลุงคิมเหรอ กระจกใสสะอาดเกลี้ยง
- ทำจริงครับ แนวทางลุงคิมดีที่สุด แล้วครับ ถ้าท่านยังไม่เคยทำนา ก็ลองทำสัก 20-30ไร่ แล้วท่านก็จะรู้เองครับ ตั้งแต่เริ่มทำเทือก จนเก็บเกียว ที่เว็ปนี้เป็นคลังความรู้ ที่ดีที่สุด คงต้องขออภัย และไม่มีการโต้ตอบ
COMMENT :
แนวทางของตัวเองนั่นแหละดีที่สุด .... ค้นหาให้เจอ
- ลองตามนี้ก็ได้ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=PXMaGY1XT6A
-ข้าวอายุ 120 วัน
ระยะกล้า 0-18 วัน
ระยะแตกกอ 20-30 วัน
ระยะสร้างรวง 50-60 วัน
ระยะออกดอก 70-85 วัน (พอข้าวผสมเกษร ปลายข้าวเมล็ดเหลือง 2-3 เมล็ด ให้ฉีดเร่งแป้ง)
ระยะเกียว ระยะพลับพลึง ระยะข้าวชว่งไม่เกิน 110 วัน
COMMENT :
- แต่ละระยะ ลักษณะอาการเจริญเติบโต เป็นอย่างไร ?
- แต่ละระยะ ปัจจัยพื้นฐาน (ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูการ-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค) ควรเป็นอย่างไร ?
- แต่ละระยะ เน้นปุ๋ย ทางไหน/สูตรไหน ?
-สำหรับข้าวนาดำ ตามรูปของท่าน ให้นับวันที่ปักดำ เป็นวันแรก ไม่ใช่บวกวันตกกล้า เช่นเพราะกล้าวันที่ 1 วันดำกล้าวันที่ 18 ให้นับวันที่ 18 เป็นวันที่ 1 ก็จะตรงกันครับ เพราะสว่นมาก จะเข้าใจว่า ให้นับตั่งแต่ วันเพราะกล้า
COMMENT :
อย่ายึดติดกับตัวเลขอายุนัก เพราะในธรรมชาติ +/- 5 ได้
- ข้อมูลในเว็ป มีให้ดูอย่างละเอียด แล้วครับ
COMMENT :
ยัง .... JUST BEGIN หรือ FIRST STEP เท่านั้น
วันนี้ยังพบอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนอยู่เรื่อยๆ .... LERANING ALL THE LIFE
- รอท่านอื่น เพิ่มเติมได้ครับ
|
. |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
teeen2005
สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 161
|
| ตอบ: 02/09/2013 3:52 am ชื่อกระทู้: |
|
|
สวัสดีครับลุงคิม และ สมช. ทุกท่าน
ขอบคุณครับลุงคิม และ สมช.ทุกท่าน กับข้อมูลทั้งหลาย สงสัยต้องเก็บข้อมูลเรื่องข้าวและเรื่องเกษตรต่อไป ต่อไปๆ เรื่อยๆ ผมคงไม่ได้ทำนาปีนี้ ปีหน้า หรือปีต่อๆไป ก็เรื่องพ่อแม่ไม่สนับสนุนนี่แหละครับ .... มุมมองต่างกัน
ที่จริงก็ครบทุกอย่างน่ะครับ ที่นา (ให้เช่า) น้ำ เครื่องมือก็ค่อยๆ สะสมเรื่อยๆ คนงานก็ตัวเอง หรือจ้างตามความเหมาะสม บ้านน้อยริมนาก็ปลูกแล้ว
แต่พ่อแม่อยากให้ทำงานไปก่อนเรื่อยๆ ไม่อยากให้มาลำบาก เรียนมาก็น่าจะเอาความรู้ที่ได้ไปทำงานบริษัท หรือราชการ
ผมได้ไปฟังเทรนอนาคตสำหรับอนาคตประเทศไทย โดยสรุปว่า "คนเมืองจะ (การศึกษาสูง หรือมีแนวคิดเป็นเจ้าของของตัวเอง) จะเข้าป่า บ้านนอก ชนบท แล้วคนชนบทจะเข้ากรุง (ส่งลูก ขายที่ดิน ไปซื้อที่ในเมือง) เรากำลังจะเหมือนประเทศที่พัฒนาเข้าทุกที่ คนจนอยู่หอ คอนโด (เล็กจี้หนึ่ง) คนรวย (ทำเกษตร) อยู่ใกล้ธรรมชาติ
ผมคงต้องกลับบ้านนอก ไปหางานใกล้บ้าน (เงินเดือนน้อย แต่สู้) เสาร์-อาทิตย์ ก็ลงนา ไปทำอะไรตามเรื่อง ตามราวให้พ่อแม่เห็นว่าผมทำจริง จะได้สนับสนุน ยกนาให้ทำ
ที่ทำได้ตอนนี้ คือ :
1. ลองปลูกข้าวในกระถาง สัก 5-6 กอ ดูการเจริญเติบโต เก็บผล ข้อมูล
2. แคนตาลูป สัก 7-10 ต้น ลองดูซิ มันจะยากไหมเหมือนชาวบ้านเขาว่า
3. กล้วย พันธ์ต่างๆ
4. ปลูกอะไรที่คิดว่ามันคือเทรนตลาด หน่วยต่อบาท สูง
ผมว่าแนวลุงคิม ดีมากครับ เพราะที่บ้าน เคมี ตกขอบ และอินทรีย์ตกขอบมาแล้ว ตอนโน้นนานแล้ว ก็รู้แบบตามคนข้างบ้านนี่แหละครับ
จะไม่ชนะใจพ่อแม่ ให้รู้ไป ฝันใกล้ไกล สักวันมันต้องถึง
. |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass
หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11617
|
| ตอบ: 02/09/2013 6:17 am ชื่อกระทู้: |
|
|
| teeen2005 บันทึก: |
ก็เรื่องพ่อแม่ไม่สนับสนุนนี่แหละครับ .... มุมมองต่างกัน
COMMENT :
มันเป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจนเป็น DNA (สายเลือด) นี่แหละดี ที่ทำให้ประเทศไทย "อยู่รอด" มาจนถึงปัจจุบัน
สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงเร็ว กอร์ปกับไร้ผู้นำระดับชาติที่มีวิสัยทรรศน์ (ประเทศไทยไม่เคยมิรัฐบุรุษ) นอกจากไม่สร้างแล้วยังยับยั้งด้วย
สังคมไทยวันนี้ :
คนรวยไม่เคยคิดแบบ "รวยด้วยกัน" คิดแต่ "กูรวยคนเดียว กูรวยที่สุด".... คิดว่ารวยคนเดียวก็อยู่ได้
คนเก่งไม่เคยคิดแบบ "เก่งด้วยกัน" คิดแต่ "กูเก่งคนเดียว กูเก่งที่สุด" .... คิดว่าบรรลุโสดาบัลย์แล้ว
แต่พ่อแม่อยากให้ทำงานไปก่อนเรื่อยๆ ไม่อยากให้มาลำบาก เรียนมาก็น่าจะเอาความรู้ที่ได้ไปทำงานบริษัท หรือราชการ
COMMENT :
คนไทยรุ่นใหม่ (จัดรุ่นที่แนวความคิด ไม่ใช่อายุ) ทำ 2อย่าง 3หน้าที่ 4เป้าหมาย 5ฯลฯ ในเวลาเดียวกัน ด้วยคนๆเดียวกัน จะได้ไหม ?
วิเคราะห์วิชาการ กับประสบการณ์....
แปลงทฤษฎี มาเป็นการปฏิบัติ....
วางแผนให้ เทคโนโลยีวิชาการ ร่วม/แทน เทคโนโลยีชาวบ้าน
ผ่านโรงเรียนมาแล้วย่อมรู้ "วิธีเรียน" แม้ไม่ได้เรียนสาขาเกษตรโดยตรง แต่รู้ "วิธีเรียน" ว่าแล้วก็เรียนเรื่องเกษตร เรียนด้วยตัวเอง
อ๊อกฟอร์ด. ฮาร์วาร์ด. ธรรมศาสตร์. จุฬาฯ. เกษตรศาสตร์. ลาดกระบัง. เอไอที. อัตตะปือ. บันเดียเมียนเจย. สอนแค่ "นับหนึ่ง" เหมือนๆกัน คนเรียนต่างหากที่จบไปแล้วต้อง "นับต่อ" เอง
การศึกษาไทยเป็นแบบ "เผด็จการ" สอนให้รู้ (ท่องจำ) แค่ในตำรา คิด/ทำ นอกตำราถือว่า "ผิด" .... ระบบการศึกษาไทยสอนให้ "ท่องจำ" ไม่ได้สอนให้ คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ/วางแผน/ต่อยอด/ขยายผล/ปฏิบัติ
คนสอนเป็นถึง ศ.ดร. สอนด้านการเกษตรระดับมหาลัย ยังปล่อยให้ พ่อแม่พี่น้องญาติมิตร เผาฟางอยู่เลย .... โลกนี้เอาอะไรแน่ แม้แต่ลูกครูยังสอบตก
ในสังคมคนทำงานอ๊อฟฟิช กี่คนที่ได้ทำงานตรงกับวิชาสาขาที่เรียน.....
คนที่ทำงานตรงตามสาขาที่เรียน "ล้มเหลว" เพราะ คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ/ประยุกต์" ไม่เป็นและไม่เก่ง
แต่คนที่ทำงานไม่ตรงตามสาขาที่เรียน "สำเร็จ" เพราะ คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ/ประยุกต์" เป็นและเก่ง
ผมได้ไปฟังเทรนอนาคตสำหรับอนาคตประเทศไทย โดยสรุปว่า "คนเมืองจะ (การศึกษาสูง หรือมีแนวคิดเป็นเจ้าของของตัวเอง) จะเข้าป่า บ้านนอก ชนบท แล้วคนชนบทจะเข้ากรุง (ส่งลูก ขายที่ดิน ไปซื้อที่ในเมือง) เรากำลังจะเหมือนประเทศที่พัฒนาเข้าทุกที่ คนจนอยู่หอ คอนโด (เล็กจี้หนึ่ง) คนรวย (ทำเกษตร) อยู่ใกล้ธรรมชาติ
COMMENT :
เป็นเรื่องจริง วันนี้หลายเหตุการณ์ปรากฏให้เห็น ทุกวันหยุดลองวีคเอ็น ถนนเข้าป่ารถติด ไปต่อไม่ได้ถึงขนาดกางเต๊นท์นอนป่า (ละเมาะ) ข้างทางยังเอา
นี่คือตลาด นี่คืออนาคต
คนเรา แพ้หรือชนะ อยู่ที่โอกาส
ผมคงต้องกลับบ้านนอก ไปหางานใกล้บ้าน (เงินเดือนน้อย แต่สู้) เสาร์-อาทิตย์ ก็ลงนา ไปทำอะไรตามเรื่องตามราว ให้พ่อแม่เห็นว่าผมทำจริง จะได้สนับสนุน ยกนาให้ทำ
COMMENT :
ทุกคนต้องหวังรวย แต่รวยแบบไหนจึงจะยั่งยืน
ชั่ง นน. ให้ดีระหว่าง "รายได้เดิม กับ รายได้ใหม่" กับอนาคต
"ขยันแต่ไม่ฉลาด" ไม่เกิดประโยชน์แล้วยังเสียหายอีกด้วย
ระวัง. แทนที่พ่อแม่จะดีใจ กลับผิดหวัง
ที่ทำได้ตอนนี้ คือ :
1. ลองปลูกข้าวในกระถาง สัก 5-6 กอ ดูการเจริญเติบโต เก็บผล ข้อมูล
COMMENT :
ยากกว่าปลูกในแปลงนะ....ข้อมูลที่ได้ชัวร์เหรอ ?
2. แคนตาลูป สัก 7-10 ต้น ลองดูซิ มันจะยากไหมเหมือนชาวบ้านเขาว่า
COMMENT :
"แคนตาลูป" น่าจะยากที่สุดในบรรดาพืชล้มลุกด้วยกัน เรียกว่า "ไม้ปราบเซียน"
ในความยากมีความง่าย ในความง่ายมีความยาก ศึกษา "ปัจจัยพื้นเพื่อการเพาะปลูก" ให้ลึกซึ้ง มองหา "ความเหมาะสม" ของแคนตาลูปให้ออก
เพื่อไม่เสียเวลา ถือหลัก "ทำ 2อย่าง 3หน้าที่ 4เป้าหมาย 5ฯลฯ" ทดสอบไม่เถาเลื้อยกินผลพร้อมๆกัน ถั่วฝักยาว มะระ แตงโม แคนตาลูป ค้นหา "ความต่างบนความเหมือน" ให้พบ แล้วจะพบทุกแนวทางของทุกพืชที่ว่า
3. กล้วย พันธ์ต่างๆ
COMMENT :
ทำ "กล้วยแจ๊คพ็อต" ให้พ่อกับแม่เห็น ธรรมชาติของคนเป็นพ่อ ถึงเห็นก็ไม่พูดแต่ทึ่ง ยอมรับในใจ แล้วยอมให้ทำเพราะเชื่อมือ
4. ปลูกอะไรที่คิดว่ามันคือเทรนตลาด หน่วยต่อบาท สูง
COMMENT :
ทุกอย่างนั่นแหละ ถ้า เกรด เอ. จัมโบ้. โกอินเตอร์. ขึ้นห้าง. ออกนอกฤดู. คนนิยม.
เทคโนโลยีที่ยากที่สุด คือ เทคโนโลยีการตลาด
จะไม่ชนะใจพ่อแม่ ให้รู้ไป ฝันใกล้ไกล สักวันมันต้องถึง
COMMENT :
"ความเป็นลูก" ชนะแล้วกึ่งหนึ่ง ที่เหลือคือ "ความฉลาด"
|
.
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 03/09/2013 7:24 am, แก้ไขทั้งหมด 3 ครั้ง |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
teeen2005
สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 161
|
| ตอบ: 02/09/2013 4:28 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอบคุณลุงคิมมากครับ ที่ให้แง่คิด แง่มุม แบบคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน
คนไทยรุ่นใหม่ (จัดรุ่นที่แนวความคิด ไม่ใช่อายุ) ทำ 2อย่าง 3หน้าที่ 4เป้าหมาย 5ฯลฯ จะได้ไหม ? |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
krd
หนาวดึ่ง
เข้าร่วมเมื่อ: 30/08/2013
ตอบ: 8
|
| ตอบ: 03/09/2013 12:28 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
| teeen2005 บันทึก: | สวัสดีครับลุงคิม และ สมช. ทุกท่าน
ขอบคุณครับลุงคิม และ สมช.ทุกท่าน กับข้อมูลทั้งหลาย สงสัยต้องเก็บข้อมูลเรื่องข้าวและเรื่องเกษตรต่อไป ต่อไปๆ เรื่อยๆ ผมคงไม่ได้ทำนาปีนี้ ปีหน้า หรือปีต่อๆไป ก็เรื่องพ่อแม่ไม่สนับสนุนนี่แหละครับ .... มุมมองต่างกัน
ที่จริงก็ครบทุกอย่างน่ะครับ ที่นา (ให้เช่า) น้ำ เครื่องมือก็ค่อยๆ สะสมเรื่อยๆ คนงานก็ตัวเอง หรือจ้างตามความเหมาะสม บ้านน้อยริมนาก็ปลูกแล้ว
แต่พ่อแม่อยากให้ทำงานไปก่อนเรื่อยๆ ไม่อยากให้มาลำบาก เรียนมาก็น่าจะเอาความรู้ที่ได้ไปทำงานบริษัท หรือราชการ
ผมได้ไปฟังเทรนอนาคตสำหรับอนาคตประเทศไทย โดยสรุปว่า "คนเมืองจะ (การศึกษาสูง หรือมีแนวคิดเป็นเจ้าของของตัวเอง) จะเข้าป่า บ้านนอก ชนบท แล้วคนชนบทจะเข้ากรุง (ส่งลูก ขายที่ดิน ไปซื้อที่ในเมือง) เรากำลังจะเหมือนประเทศที่พัฒนาเข้าทุกที่ คนจนอยู่หอ คอนโด (เล็กจี้หนึ่ง) คนรวย (ทำเกษตร) อยู่ใกล้ธรรมชาติ
ผมคงต้องกลับบ้านนอก ไปหางานใกล้บ้าน (เงินเดือนน้อย แต่สู้) เสาร์-อาทิตย์ ก็ลงนา ไปทำอะไรตามเรื่อง ตามราวให้พ่อแม่เห็นว่าผมทำจริง จะได้สนับสนุน ยกนาให้ทำ
ที่ทำได้ตอนนี้ คือ :
1. ลองปลูกข้าวในกระถาง สัก 5-6 กอ ดูการเจริญเติบโต เก็บผล ข้อมูล
2. แคนตาลูป สัก 7-10 ต้น ลองดูซิ มันจะยากไหมเหมือนชาวบ้านเขาว่า
3. กล้วย พันธ์ต่างๆ
4. ปลูกอะไรที่คิดว่ามันคือเทรนตลาด หน่วยต่อบาท สูง
ผมว่าแนวลุงคิม ดีมากครับ เพราะที่บ้าน เคมี ตกขอบ และอินทรีย์ตกขอบมาแล้ว ตอนโน้นนานแล้ว ก็รู้แบบตามคนข้างบ้านนี่แหละครับ
จะไม่ชนะใจพ่อแม่ ให้รู้ไป ฝันใกล้ไกล สักวันมันต้องถึง
|
สวัสดีครับลูงคิม ท่าน teeen2005 และสมาชิกทุกท่าน
- ที่ข้อความ "อย่าตามมา กูหลง" ไม่ใช่รถลุงคิมครับ เห็นตามท้ายรถครับ ที่หลังจะได้สื่อสารชัดเจน กว่านี้ครับ ขอบคุณครับลุงคิม
-สำหรับท่าน teeen2005 ช่วงกลับไปบ้าน ก็ออกไปนาบ่อยๆ และก็ลองเอา ข้าวที่ปลูกในกระถาง ปลูกไว้รอบๆบ้าน ถ้าหาชื้อฮอร์โมน สูตรลุงคิมมาฉีด บอกไม่มีขายตามร้าน พอข้าวออกรวง พ่อและแม่ คงปลื้มใจน้อยๆ และเงินทุนสำหรับทำนาครับ
. |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
teeen2005
สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 161
|
| ตอบ: 04/09/2013 8:52 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
สวัสดีครับลุงคิม และสมช.ทุกท่าน
เกษตรมือใหม่ หัวใจเปื้อนโคลน...347,431,524
ชื่อกระกระทู้ มันมีเลข 3 ตัวต่อท้ายด้วย มันหมายความว่าอะไรครับลุงคิม หรือลุงคิมจะให้หวย 3 ตัวตรง |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass
หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11617
|
| ตอบ: 04/09/2013 8:57 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เชคเรคคิ้ง คนเข้ามาอ่านในรอบ 24 ชม. .... เริ่มตอนเช้า
. |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
teeen2005
สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 161
|
| ตอบ: 05/09/2013 5:53 am ชื่อกระทู้: |
|
|
สวัสดีครับลุงคิม และ สมช. ที่ยังเป็นวัยรุ่น (วัยรุ่นนี้อยู๋ที่ใจ)
เพื่อนคนไหนที่สำเร็จแล้ว เดินถึงฝั่งฝนที่ตัวเองตั้งไว้ในสาขาอาชีพเกษตร (มืออาชีพ) ลองเข้ามาเล่าประสบการณ์ การผ่านอุปสรรคให้ฟังหน่อยครับ ว่าต้องผ่านด่านอะไรบ้าง
สิ่งต่างไที่ต้องเก็บๆข้อมูล และอุปสรรคต่งๆในถนนสายนี้ของผม คือ
1. พ่อแม่ไม่สนับสนุน ถึงให้ทำหรือแนะนำ ก็ยากที่เขาจะทำตาม
2. เพื่อนๆ มองว่าไม่สมเหตุสมผล (เหตุผลของเขา) ไม่น่ากลับไปลำบาก
3. เวลา เพราะผมคงหางานที่หยุดเสาร์อาทิตย์ และ 2 วันนี้ก็ต้องแบ่งเวลาทำ สิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับเกษตร เช่น ทำนา ต้องจัดเวลาใส่ปุ๋ย ฉีดฮอโมน ดูแมลง วัชพืช
4. การดูงานตามที่ต่างๆ ดูเพื่อเกิดความรู็
5. ดูเรื่องตลาด เช่น facebook สร้างเวบของตัวเอง แหล่งที่ขาย ใกล้หรือไกลจากแหล่งขาย
6. เก็บความรู้ มุ่งสู่การถ่ายทอดเพื่อตอบแทนบ้านเกิด (เชิงวิชาการ ผสมวิชาเกิน)
แค่นี้ก่อนครับ ...ขิม่ายอ๊อก.....รรอดูต่อไป
. |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
DangSalaya
หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1864
|
| ตอบ: 08/09/2013 12:22 am ชื่อกระทู้: |
|
|
| teeen2005 บันทึก: | สวัสดีครับลุงคิม และ สมช. ทุกท่าน
ขอบคุณครับลุงคิม และ สมช.ทุกท่าน กับข้อมูลทั้งหลาย สงสัยต้องเก็บข้อมูลเรื่องข้าวและเรื่องเกษตรต่อไป ต่อไปๆ เรื่อยๆ ผมคงไม่ได้ทำนาปีนี้ ปีหน้า หรือปีต่อๆไป ก็เรื่องพ่อแม่ไม่สนับสนุนนี่แหละครับ .... มุมมองต่างกัน
ที่จริงก็ครบทุกอย่างน่ะครับ ที่นา (ให้เช่า) น้ำ เครื่องมือก็ค่อยๆ สะสมเรื่อยๆ คนงานก็ตัวเอง หรือจ้างตามความเหมาะสม บ้านน้อยริมนาก็ปลูกแล้ว
แต่พ่อแม่อยากให้ทำงานไปก่อนเรื่อยๆ ไม่อยากให้มาลำบาก เรียนมาก็น่าจะเอาความรู้ที่ได้ไปทำงานบริษัท หรือราชการ
ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ถ้าคุณอยากทำเกษตรกรรม แต่วันนี้คุณไม่นับ 1 เลข 2 3 4 5 และ...จะไม่มีตามมา ..ผมซื้อที่นครปฐมไว้นานแล้ว อยากทำเกษตร จนแล้วจนรอด ไม่ได้นับ 1 ซักที ....เสียดายที่ผมถอดหัีวโขนช้าไป แต่ยังไม่สาย ปลูกข้าวมาได้ 4 รุ่น ปลูกพืชผักอย่างอื่นทั้งที่กินได้และไม่ได้ มันขายได้ทุกอย่าง แม้กระทั่ง ขี้ (ดอกขี้เหล็ก) แม้เงินที่ได้ต่อเดือนเวลานี้อาจยังไม่ถึงเท่าเงินเดือน ๆ สุดท้ายที่ถอดหัวโขนออกมา แต่นับวันมันจะเพิ่มขึ้น ที่สำคัญ ผมได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ชีวิตไม่ต้องเร่งรีบ แต่แปลก รายได้น้อยแต่เหลือเก็บมากกว่าตอนที่ยังใส่หัวโขน
ผมคงไม่ได้ทำนาปีนี้ ปีหน้า หรือปีต่อๆไป ก็เรื่องพ่อแม่ไม่สนับสนุนนี่แหละครับ .... มุมมองต่างกัน
เรื่องแค่นี้ จิ๊บจ๊อย ผมคิดว่า ใจคุณไม่กล้าตัดสินใจมากกว่า ....พ่อไอ้ตุ๊ดตู่ คิดว่าตัวเองต้องเป็นหนึ่งมาตลอด แต่เวลานี้ ไอ้ตุ๊ดตู่ทำกับแม่สองคนแค่ 10 ไร่ ได้เงิน 110,000 อาจจะดูน้อย แต่ก็ช่วยพ่อลดหนี้ลงได้ส่วนหนึ่ง
และ รุ่นที่ 2 ของไอ้ตุ๊ดตู่ แม่ขอพ่อ 15 ไร่ ผมบอกไปเลย ....รุ่นนี้ มึงปลูกไปเลย ไม่หอมปทุม ก็ ชัยนาท 2 เพราะข้าวหอมปทุม กับชัยนาท 2 เป็นพันธุ์ข้าวหอมน้อง ๆ มะลิ105 เกวียนละ 25,000 สบาย ๆ ไม่ต้องง้อจำนำข้าว ฝีมือทำนาระดับแม่ไอ้ตุ๊ดตู่ 15 ไร่ 15 เกวียน @ 25,000 ..375,000 หักต้นทุน ไร่ละ 3,000 x 15 = 45,000 เหลือ 330,000 กำไรเหนาะ ๆ (ทำนาอินทรีย์ หอมปทุม เกวียนหนึ่งอาจจะถึง 30,000)....ไอ้ตุ๊ดตู่อาจอายุน้อยกว่าคุณ ความรู้น้อยกว่าคุณ แต่วันข้างหน้า ประสบการณือาจมากกว่าคุณก็ได้ เพราะเวลานี้ ไอ้ตุ๊ดตู่นับสองแล้ว มีแม่ทำนาระดับมือพระกาฬ มีลุงคิมเป็นเสนาธิการ กลัวอะไร
ผมได้ไปฟังเทรนอนาคตสำหรับอนาคตประเทศไทย โดยสรุปว่า "คนเมืองจะ (การศึกษาสูง หรือมีแนวคิดเป็นเจ้าของของตัวเอง) จะเข้าป่า บ้านนอก ชนบท แล้วคนชนบทจะเข้ากรุง (ส่งลูก ขายที่ดิน ไปซื้อที่ในเมือง) เรากำลังจะเหมือนประเทศที่พัฒนาเข้าทุกที่ คนจนอยู่หอ คอนโด (เล็กจี้หนึ่ง) คนรวย (ทำเกษตร) อยู่ใกล้ธรรมชาติ
คำทำนายนี้มีมาแต่ครั้งโบราณแล้วครับ
ยุคนี้ตรงกับยุค "นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าอันน้อยจะถอยจม ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า เพราะจัณฑาลนั้นมันเข้ามาเสพสม ผู้มีศีลนั้นจะเสียซึ่งอารมณ์ เพราะสมัคสมาคมด้วยมารยา"
มาจากเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา อ่านดูครับ
จะกล่าวถึงกรุงศรีอยุธยา เป็นกรุงรัตนราชพระศาสนา มหาดิเรกอันเลิศล้น เป็นที่ปรากฏรจนา สรรเสริญอยุธยาทุกแห่งหน ทุกบุรียสีมามณฑล จบสกลลูกค้าวานิช ทุกประเทศสิบสองภาษา ย่อมมาพึ่งกรุงศรีอยุทยาเป็นอัคะนิด ประชาราษฎร์ปราศจากไภยพิศม์ ทั้งความพิกลจริตแลความทุกข์ ฝ่ายองค์พระบรมราชา ครองขันทสิมาเป็นศุข ด้วยพระกฤษฎีกาทำนุก จึ่งอยู่เย็นเป็นศุขสวัสดี เป็นที่อาไศรยแก่มนุษย์ในใต้หล้า เป็นที่อาไศรยแก่เทวาทุกราศรี ทุกนิกรนรชนมนตรี คหบดีชีพราหมณพฤฒา ประดุจดั่งศาลาอาไศรย ดั่งหนึ่งร่มพระไทรอันสาขา ประดุจหนึ่งแม่น้ำพระคงคา เป็นที่สิเนหาเมื่อกันดาร ด้วยพระเดชเดชาอานุภาพ อาจปราบไพรีทุกทิศาน ทุกประเทศเขตขัณท์บันดาล แต่งเครื่องบรรณาการมานอบนบ กรุงศรีอยุธยานั้นสมบูรณ์ เพิ่มพูลด้วยพระเกีรติยศขจรจบ อุดมบรมศุขทั้งแผ่นพิภพ จนคำรบศักราชได้สองพัน คราทีนั้นฝูงสัตว์ทั้งหลาย จะเกิดความอันตรายเป็นแม่นมั่น ด้วยพระมหากษัตริย์มิได้ทรงทศพิธราชธรรม์ จึงเกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์สิบหกประการ คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาล เกิดนิมิตพิศดารทุกบ้านเมือง พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนก อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี พระกาลกุลีจะเข้ามาเป็นไส้ พระธรณีจะตีอกไห้ อกพระกาลจะไหม้อยู่เกรียมกรม ในลักษณะทำนายไว้บ่ห่อนผิด เมื่อวินิจพิศดูก็เห็นสม มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม มิใช่เทศกาลลมลมก็พัด มิใช่เทศกาลหนาวก็หนาวพ้น มิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติ ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัด เกิดวิบัตินานาทั่วสากล เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล สับปุรุษจะแพ้แก่ทรชน มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์ ลูกศิษย์จะสู้ครูพัก จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าอันน้อยจะถอยจม ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า เพราะจัณฑาลนั้นมันเข้ามาเสพสม ผู้มีศีลนั้นจะเสียซึ่งอารมณ์ เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา พระมหากระษัตรจะเสื่อมสิงหนาท ประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา อาสัจจะเลื่องฦๅชา พระธรรมาจะตกฦกลับ ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญ จะสาบสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ ผู้มีสินจะถอยจากทรัพย์ สับปรุษจะอับซึ่งน้ำใจ ทั้งอายุศม์จะถอยเคลื่อนจากเดือนปี ประเวณีจะแปรปรวนตามวิสัย ทั้งพืชแผ่นดินจะผ่อนไป ผลหมากรากไม้จะถอยรศ ทั้งแพศพรรณว่านยาก็อาเพศ เคยเป็นคุณวิเศษก็เสื่อมหมด จวงจันทน์พรรณไม้อันหอมรศ จะถอยถดไปตามประเพณี ทั้งข้าวก็จะยากหมากจะแพง สารพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่ จะบังเกิดทรพิศม์มิคสัญญี ฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน กรุงประเทศราชธานี จะเกิดการกลีทุกแห่งหน จะอ้างว้างอกใจทั้งไพร่พล จะสาละวนทั่วโลกทั้งหญิงชาย จะร้อนอกสมณาประชาราษฎร์ จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ ทางน้ำก็จะแห้งเป็นทางบก เวียงวังก็จะรกเป็นป่าเสือ แต่สิงสาราสัตว์เนื้อเบื้อ นั้นจะหลงหลอเหลือในแผ่นดิน ทั้งผู้คนสารพัดสัตว์ทั้งหลาย จะสาบสูญล้มตายเสียหมดสิ้น ด้วยพระกาลจะมาผลาญแผ่นดิน จะสูญสิ้นการณรงสงคราม กรุงศรีอยุทยาจะสูญแล้ว จะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม ไปจนคำรบปีเดือนคืนยาม จนสิ้นนามศักราชห้าพัน กรุงศรีอยุทยาเขษมสุข แสนสนุกนิ์ยิ่งล้ำเมืองสวรรค์ จะเป็นแพศยาอาธรรม์ นับวันจะเสื่อมสูญเอยฯ
เฉพาะบทที่กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม แปลว่าคนต่ำต้อย ต่ำศักดิ์กลับได้ผงาดขึ้นเป็นใหญ่ แต่คนมีเกียรติ ผู้ดีกลับจะตกต่ำลง
การที่จะแปลวรรณคดีให้ได้ความคุณต้องดูบริบทที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะตัดมาแค่วรรคที่ชอบไม่ได้ บริบทที่เกี่ยวข้องนี้คือ
"นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า เพราะจัณฑาลนั้นมันเข้ามาเสพสม ผู้มีศีลนั้นจะเสียซึ่งอารมณ์ เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา"
กลอนภาษาง่าย แปลไม่ยากค่อย ๆ อ่าน ๆ ค่อยแปลจะรู้เอง [/color]
ผมคงต้องกลับบ้านนอก ไปหางานใกล้บ้าน (เงินเดือนน้อย แต่สู้) เสาร์-อาทิตย์ ก็ลงนา ไปทำอะไรตามเรื่อง ตามราวให้พ่อแม่เห็นว่าผมทำจริง จะได้สนับสนุน ยกนาให้ทำ
ข้อนี้ก็อยู่ที่ใจของคุณอีกนั่นแหละ ที่จะกำหนดโชคชตาของคุณเอง
ที่ทำได้ตอนนี้ คือ :
1. ลองปลูกข้าวในกระถาง สัก 5-6 กอ ดูการเจริญเติบโต เก็บผล ข้อมูล
เรื่องนี้คุณ teeen2005 เป็นคนนำเสนอในเว็ปลุงเองนะครับ ผมยังว่า เข้าท่าดีแฮะ มีคนเอาไปทำแแล้ว ปลูกข้าว 1 วงปูน ได้ข้าวสำหรับ 3 คนกินได้ 1 วัน (3 มื้อ) ปลูก 30 วงปูนพอกินได้ 1 เดือน ...ดูรูป
หมายเหตุ...ตำราที่ให้มา ไม่มีขายอีกแล้ว ผมก็ยึดและทำตามนั้นแหละ สูตรปุ๋ยต่าง ๆ ทุกสูตรในนั้น เปรียบเหมือนปุ๋ยสูตรเสมอ 1:1:1 ถ้าไม่รู้จักประยุกต์ ก็ได้ผลไม่เต็ม 100
2. แคนตาลูป สัก 7-10 ต้น ลองดูซิ มันจะยากไหมเหมือนชาวบ้านเขาว่า
ยากหรือง่าย ถ้าคุณไม่ลองทำกับมือ คุณจะรู้ได้ยังไง คุณจะปลูกแบบไหนล่ะครับ โรงเรือนเปิด หรือปิด ที่สำคัญ ลุงคิมพูดบ่อย ๆ ...ดินต้องมาก่อน...
ทั้งหมดข้างบนนี่เป็นแบบโรงเรื่อนเปิด ดูแลทุกอย่าง ยากหน่อย
ลูกนี้ ราคาเบา ๆ 300 บาท
ทั้งหมดนี้เป็นแบบโรงเรือนปิด ค่าโรงเรือน 1 หลัง 80,000 ปลูกได้ 500 ต้น ๆ ละ 1 ลูก 500 x 300 = 150,000 - 80,000 = 70,000
ปลูกรุ่นเดียว 3 เดือน ได้ค่าโรงเรือนคืนแล้ว
3. กล้วย พันธ์ต่างๆ
ขอแนะนำกล้วยน้ำละว้า 2 สายพันธุ์พอ มะลิอ่อง กับ ปากช่อง51
ใกล้ ๆ บ้านผมปลูกกล้วยไข่ 5 ไร่ พรุ่งนี้จะถ่ายรูปมาให้ดูสภาพว่าเป็นอย่างไร
4. ปลูกอะไรที่คิดว่ามันคือเทรนตลาด หน่วยต่อบาท สูง
ปลูกไผ่ลืมแล้ง หรือไผ่กิมซุง ปลูกชะอม พืชที่ไม่ต้องการดูแลมาก คุณว่า ต้นทุนต่อหน่วยสูงแค่ไหน แค่รดน้ำให้ปุ๋ยนิดหน่อย เก็บผลได้ทั้งปี หน่อไม้หน้าแล้ง หน้าสวนกิโลละ 60 - 80 เก็บผลเดือนละ 1,000 กิโล ดีกว่าปลูกอย่างอื่นมั๊ยล่ะ ....ผมบอกคุณ boonsue สมาชิกเว็ปลุงคิมไปแล้วว่า ดินบ้านคุณ boonsue เหมาะแก่การปลูกพืชสองอย่างนี้
ผมว่าแนวลุงคิม ดีมากครับ เพราะที่บ้าน เคมี ตกขอบ และอินทรีย์ตกขอบมาแล้ว ตอนโน้นนานแล้ว ก็รู้แบบตามคนข้างบ้านนี่แหละครับ
จะไม่ชนะใจพ่อแม่ ให้รู้ไป ฝันใกล้ไกล สักวันมันต้องถึง
ถ้าคุณไม่ลงมือทำให้พ่อและแม่ของคุณเห็น แบบไอ้ตุ๊ดตู่ ไม่มีทางที่ท่านจะเชื่อคุณ
. |
....ขอให้โชคดี ในสิ่งที่คุณวาดฝันไว้นะ เอาใจช่วยครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลในหลายเรื่องที่คุณ teeen2005 นำเสนอ ผมนำมาประยุกต์ทดลองใช้ และแนะนำเพื่อน ๆ สมาชิกกลุ่มหลังไมค์ในจังหวัดต่าง ๆ บางคนส่งข่าวมาว่า ....เส้นผมบังภูเขา คราวนี้ละก็ไปโลด ....นี่แหละครับ สังคมแห่งการแบ่งปัน ในเว็ปเกษตรลุงคิม.คอม ...นี่ผมก็เพิ่งจะได้รับ จุลินทรีย์ทำปุ๋ยหมัก สูตรฟ้าถล่มดินทลาย ...ขอบคุณหลาย ๆ เด๊อ คุณ ampolk ..
.และสำหรับ ถังสูญญากาศที่คุณเคยนำเสนอ ทางเนินพอกิน บอกมาว่า ให้ไปดูของจริงก่อน ทำผิดส่วนผิดสูตร มันอาจทนแรงดันน้ำไม่ไหว ถังระเบิดขึ้นมามันจะยุ่ง น้ำ 200 ลิตร หนัก 200 กิโล เพิ่มแรงอัดเข้าไป 3 - 4 บาร์ เกิดระเบิดตูมขึ้นมาเท่ากับน้ำหนักน้ำ 2 ตันพุ่งใส่ ยังจะตัวถังเหล็กที่ระเบิดออกอีก ยิ่งกว่าบุญหล่นทับก็แล้วกัน
. |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
teeen2005
สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 161
|
| ตอบ: 08/09/2013 6:16 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอบคุณสำหรับข้อมูลในหลายเรื่องที่ทิดแดงนำเสนอเหมือนกัน และก็หนังสือเกษตรานุสติ ฉบับนาข้าว(ที่ไม่มีพิมพ์อีกแล้ว) ที่ส่งให้โดยไม่คิดมูลค่า ผมก็เอารวมกับบทความเรื่องข้าว ที่ลุงคิม และทิดแดง เขียนใหม่ๆ
-หนังสือเกษตรานุสติ ฉบับศัตรูพืชในนาข้าว + สารลมเบ่ง 5 สูตร +สารสกัดสมุนไพร กำลังจะรวมเล่มอีกเวอร์ชั่น
ผลบุญนี้ ขอให้ทิดแดงคิดสิ่งใดก็ให้สิ่งนั้น (คิดได้เมียใหม่ ก็ขออย่าให้ได้ เพราะจะได้คุยกันนานๆ)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย teeen2005 เมื่อ 09/09/2013 3:08 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
DangSalaya
หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1864
|
| ตอบ: 08/09/2013 7:44 pm ชื่อกระทู้: ให้ลุง Sensor ก่อนเด๊อ |
|
|
| teeen2005 บันทึก: | ขอบคุณสำหรับข้อมูลในหลายเรื่องที่ทิดแดงนำเสนอเหมือนกัน และก็หนังสือเกษตรานุสติ ฉบับศัตรูพืชในนาข้าว(ที่ไม่มีพิมพ์อีกแล้ว) ที่ส่งให้โดยไม่คิดมูลค่า ผมก็เอารวมกับบทความเรื่องข้าว ที่ลุงคิม และทิดแดง เขียนใหม่ๆ
-หนังสือเกษตรานุสติ ฉบับศัตรูพืชในนาข้าว + สารลมเบ่ง 5 สูตร +สารสกัดสมุนไพร กำลังจะรวมเล่มอีกเวอร์ชั่น
ผลบุญนี้ ขอให้ทิดแดงคิดสิ่งใดก็ให้สิ่งนั้น (คิดได้เมียใหม่ ก็ขออย่าให้ได้ เพราะจะได้คุยกันนานๆ) |
ที่ผมภูมิใจเพราะเป็นหนังสือตำราที่ลุงคิมพิมพ์ออกมาขาย(เหลือ)เป็นเล่มสุดท้าย ...ขอบอกว่า ค่า XEROX เย็บเล่มสีสันเหมือนเดิมทุกประการ ที่ส่งให้บรรดา เพื่อน ๆ สมาชิกหลังไมค์ผู้ใกล้ชิดน่ะ แพงกว่าค่าหนังสือที่ผมซื้อมาซะอีกเกือบเท่าตัว ยังเง็งเลยว่า ลุงพิมพ์ออกมาขายได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน..... ผมมอบให้เพื่อน ๆ ทุึกคนด้วยใจ(ยังมีอีกคน ยังไม่ส่งข่าวว่าได้รับหรือเปล่า ไปรษณีย์บ้าอะไรวะ ช้าจัง)
ที่คุณ teeen2005บอกว่า
ผมก็เอารวมกับบทความเรื่องข้าว ที่ลุงคิม และทิดแดง เขียนใหม่ๆ
-หนังสือเกษตรานุสติ ฉบับศัตรูพืชในนาข้าว + สารลมเบ่ง 5 สูตร +สารสกัดสมุนไพร กำลังจะรวมเล่มอีกเวอร์ชั่น
ขอร้องเลยน้องงานนี้ ไม่ว่าจะเป็น เวอร์ชั่นไหนก็ตาม เอาเฉพาะแค่ที่ ลุงคิมเขียน คนเดียวพอแล้ว ตัดคำว่า ที่ทิดแดงเขียนออกเถอะนะครับ เพราะผมทำแบบคนบ้า ไม่สามารถให้ใครนำไปอ้างอิงได้ และผมก็ลอกตำรามาจากที่ลุงคิมบอกนั่นแหละ
และถ้าทำเสร็จก่อนนำออกเสนอสู่สายตาประชาชี กรุณาส่งไฟล์ข้อมูลให้ลุงคิม ตรวจสอบ เผื่อท่านจะได้มีข้อมูลใหม่ ๆ ช๊อต เด็ด ๆ เพิ่มเติมลงไป โดยส่งไฟล์ไปที่ คุณน้ำส้ม (somboonyang@hotmail.com)นะครับ
ผลบุญนี้ ขอให้ทิดแดงคิดสิ่งใดก็ให้สิ่งนั้น (คิดได้เมียใหม่ ก็ขออย่าให้ได้ เพราะจะได้คุยกันนานๆ)
ในฐานะที่คุณ teeen2005 เป็นนักค้นคว้า ช่วยดูให้ทิดทีเถอะว่า ...ใบทะเบียนสมรสน่ะ วันหมดอายุมันพิมพ์ไว้ตรงไหน ...ขนาดว่าแต่ก่อนนู๊น เจ๊ใหญ่ จะฉุดเจ๊รองไปให้ผม ผมไม่รับ ขอสำแดงฝีมือ ฉุด ซะเองไม่ต้องพึ่งพาใคร ...แต่ตอนนี้ ผมบอกแกว่า เจ๊ใหญ่ ช่วยรับมอบกลับคืนไปซะทีเถอะนะ ...แกสั่นหัว โบกส่ายมือ.... โฮ๊ย ๆๆๆ ม่าย ๆๆๆๆ ..อยู่กับเอ็งน่ะดีแล้ว ข้าไม่รับคืน ....
จุ๊ ๆ อย่าอึงไป ...ตอนที่ขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนกะเหรี่ยงบนดอยครั้งหลังสุดนี่ เวลามีแค่ แป๊บเดียว เจ้าโชเล่ยังชวนผมแว่บ ไปถ่ายรูป สาวเชียงตุง กำลังทำ ขนมเชียงตุง มาได้เลยว่ะ...
คอยติดตามอ่านใน เกษตรสัญจร 3 - New Trip ก็แล้วกัน ผมยังชวนลุง ไปงานประเพณี จับนมสาวเผ่าอี๋ ลุงไม่ไป แต่ถ้าลุงไปก็แห้ว เหมือนอดขึ้นลานสาวกอดนั่นแหละ เพราะคราวนี้ ผบ.ทบ. ไม่ได้ไป แต่เป็น ยก.ทบ. ไปด้วย หนักกว่าเก่า เลยอดนอนนับดาวที่บ้านสาวเชียงตุง ....ก็เพื่อนมันบอกว่า จะพาไปดูแปลงนาข้าว เราก็ไป ใครจะไปรู้ว่าจะพาไปดูสาวเชียงตุงทำขนม ...แต่มันก็ใช้ข้าวเหมือนกันละน่า เพียงแต่ข้าวคนละแปลงเท่านั้นแหละ.....ชัวร์
.
. |
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
|
คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว
ค้นหา
กลุ่มผู้ใช้งาน
ข้อมูลส่วนตัว
เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ
เข้าระบบ
