ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
kimzagass หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11804
|
ตอบ: 29/12/2013 4:08 pm ชื่อกระทู้: เวทีแห่งความคิดเห็น... |
|
|
วันนี้ 29 ธ.ค. 56
เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ดู ทีวี. ช่องไหนจำไม่ได้ นั่นไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่
อาจารย์จากคณะเศรษศาสตร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พูดถึง....
ผู้ดำเนินรายการ : (ยิ้ม) ขอถามอาจารย์ว่า ปี 57 ถ้าอาจารย์จะเลือกอาชีพ อาจารย์จะ
เลือกทำอาชีพอะไร ?
อ. ผู้ร่วมรายการ : (ท่าทางขรึม) ตอบไม่ต้องคิดได้เลย เกษตร ครับ
ผู้ดำเนินรายการ : ขอเหตุผลครับ
อ. ผู้ร่วมรายการ : รวยเร็ว รวยที่สุด แต่มีข้อแม้ ต้องทำเป็น ต้องขายเป็น
เพราะต้นทุนทุกอย่างต่ำมาก ตลาดกว้างมาก
ผู้ดำเนินรายการ : ขอคุณครับ
COMMENT :
เรียน สมช. ทุกท่าน :
เว้บนี้เป็นเว้บแห่งการแบ่งปัน ที่นี่สอนให้ คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ อย่างมีเหตุมีผล
จึงใคร่ขอเชิญชวนทุกท่าน ขยายผลจากคำกล่าวของอาจารย์เศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ
ว่าหมายถึงอย่างไรบ้าง
ออกความคิดเห็นมาเถอะ ไม่มีผิดไม่มีถูก ....
ขอบคุณ
ลุงคิม
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
teeen2005 สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012 ตอบ: 161
|
ตอบ: 29/12/2013 4:44 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ขอบคุณลุงคิมมากครับ ที่นำข้อมูลต่างมาบอกพวกผมชาวเวบ |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
kimzagass หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11804
|
ตอบ: 29/12/2013 6:37 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ตอบไม่ตรงคำถาม หรือว่า ถามไม่ตรงคำตอบ (วะ....)
อยากได้ความคิดเห็น ไม่ใช่คำขอบคุณ
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
Rice_manager สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 29/12/2013 ตอบ: 34 ที่อยู่: อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท
|
ตอบ: 29/12/2013 8:19 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
.
แสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ในการทำเกษตรในอนาคต
คนที่ครอบครองพื้นที่ทำการเกษตร และเพาะปลูกดูแลอย่างชาญฉลาด
เปิดกว้างทางความคิด และมีการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ
คนผู้นั้นสามารถประสบความสำเร็จในอาชีพเกษตรได้
อย่างที่ลุงคิม พูดบ่อยๆ ต่อไป เงินทองจะงอกจากดิน
ถ้าสามารถดูแล และเข้าใจดินได้ดี
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
kimzagass หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11804
|
ตอบ: 29/12/2013 9:02 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
Rice_manager บันทึก: | .
ต่อไป เงินทองจะงอกจากดิน
|
จริงครับ เงินทองงอกจากดิน....ข้อแม้ ต้องขุดให้เป็น
ปัญหาก็คือ ขุดยังไง ล่ะ...
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
anonsoneel สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 08/01/2013 ตอบ: 44
|
ตอบ: 30/12/2013 11:06 am ชื่อกระทู้: |
|
|
.
ปลุกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก 1ไร่ ปลูกปลูกทุกอย่างที่ขายใด้ และต้องขายให้
ได้ทุกวัน แต่จะมีวิธีทำอย่างไร ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ภูมิประเทศ
ขอบคุณครับ
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
Rice_manager สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 29/12/2013 ตอบ: 34 ที่อยู่: อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท
|
ตอบ: 30/12/2013 11:13 am ชื่อกระทู้: |
|
|
.
เกษตรกรส่วนใหญ่ ปลูกกันเก่งมากๆ
แต่หาตลาดไม่เป็น ทำการตลาดไม่ได้
แต่สามารถส่งลูกหลานเรียนสูงๆได้.....
คำถาม : ทำไมไม่ให้ลูกหลานมามีส่วนร่วมในตรงนี้ ... น่าคิดนะครับ ! !
ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่คิดอย่างไร ?
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
DangSalaya หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011 ตอบ: 1864
|
ตอบ: 31/12/2013 12:01 am ชื่อกระทู้: ข้อคิดสำหรับผู้เริ่มต้นจะทำอาชีพเกษตร..... |
|
|
สวัสดีครับลุงคิม และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
ข้อคิดสำหรับผู้เริ่มต้นจะทำอาชีพเกษตร.....
ตอนที่ 1 ข้อคิดจากปราชญ์เดินดิน
ไปซะหลายวัน.....เพิ่งกลับจากเดินสายมาครับ....
ข้อคิดสำหรับผู้เริ่มต้นทำการเกษตรจาก คุณนฤทธิ์ คำธิศรี ปราชญ์เดินดิน (อย่าเมาค้างก่อนปีใหม่ อ่านเพี้ยนเป็น เปรตเดินดินล่ะครับ และอย่ารู้เลยว่า ผมดันไปรู้จักกับคุณนฤทธิ์ ได้ยังไง...)
นฤทธิ์ คำธิศรี เกิดที่ ตำบลโพธิไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร
อำเภอกุสุมาลย์ ชื่อไพเราะเพราะพริ้ง แต่เป็นอำเภอที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดของจังหวัดสกลนคร...
คุณนฤทธิ์ เห็นความทุกข์ยากลำบากของชาวบ้าน เลยคิดอยากเรียนเกษตรกลับมาทำให้เป็นล่ำเป็นสัน มีความคิดอยากจะเป็นเกษตรกรตั้งแต่อายุสิบสามปีแล้ว
คุณนฤทธิ์ เรียนจบคณะประมง จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เคยทำงานอยู่ในฟาร์มกุ้งมาสิบกว่าปี จนได้เลื่อนเป็นผู้จัดการ ตัดสินใจลาออก ทิ้งรายได้เดือนละเป็นแสน มาทำการเกษตร เพราะคิดว่าทำการเกษตรแล้ว จะได้มากกว่า ทั้ง ๆ ที่ความเชื่อของสังคมทั่ว ๆ ไปบอกว่า ทำการเกษตรมีแต่ยากจนและไม่ต้องใช้ความรู้ แต่เค้ารับรองว่า หากเกษตรกรค้นคว้าหาความรู้ และมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ จะสามารถหลุดพ้นจากความยากจนไปสู่ความร่ำรวยได้
เริ่มแรกทำการเกษตร จะต้องทำอย่างไร
ถ้าทำเกษตรแบบจ้างคนมาทำทุกอย่าง รับรองว่าขาดทุนตั้งแต่ยังไม่ลงมือทำอย่างแน่นอน
ในขั้นแรกเค้าบอกว่า ทำการเกษตรแบบเรา ๆ จะหวังผลทางธุรกิจตั้งแต่เริ่มแรกยังไม่ได้ จะต้องพึ่งตนเองให้มากที่สุด คุณนฤทธิ์จึงให้สมการว่า
ภูมิปัญญาชาวบ้าน + เทคโนโลยีสมัยใหม่ = ทำแบบให้ง่าย ๆ ลดต้นทุนให้มากที่สุดเข้าไว้ จะมีกำไร
จากนั้น เริ่มทดลองซื้อต้นไม้พันธุ์ดี กว้านซื้อจากทั่วประเทศมาปลูกบนที่ดิน (35 ไร่) ของตัวเอง ปลูกเมื่อตอนเริ่มเข้าหน้าฝน ปลูกบนดินลูกรัง ไม่ฟังคำทัดทานของใครทั้งสิ้น
ปลูกแล้วไม่เหลียวแลมันอีกเลย พอสิ้นปีกลับมาดู ปรากฏว่า ต้นไม้ไม่ยักตาย เหมือนอย่างที่ชาวบ้านบางคนบอก ...จึงมาคิดว่า ถ้าเราใส่ปุ๋ยคอกสักนิด ให้น้ำสักหน่อย มันคงจะให้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ
..
.เกษตรส่วนมาก จะทำแบบที่คิดว่าตัวเองอยากจะทำ เดี๋ยวใส่ปุ๋ย เดี๋ยวถางหญ้า เดี๋ยวรดน้ำแล้วตั้งเป้าว่า จะต้องได้ผลผลิตเท่านั้นเท่านี้ เอาตัวเองเป็นเกณฑ์ไปหมดทุกอย่าง พอเหนื่อยมากเข้า ก็บอกว่าทำเกษตรมันทุกข์ยากแท้น้อ....
ความจริงแล้ว ต้นไม้มันเกิดก่อนเรา มันอยู่รอดมาได้ มันต้องเก่งกว่าเรา ดังนั้น เราต้องดึงศักยภาพของมันออกมา วิธีนี้เป็นวิธีทำอะไรง่าย ๆ แต่จะได้เงินในที่สุด.....
ทำการเกษตรที่ดี ต้องวางแผน (ทำเกษตร) ในกระดาษก่อน
เมื่อได้ศึกษาข้อมูล เรื่องดิน เรื่องน้ำ และเรื่องอื่นๆ แล้ว ก็ต้องวางแผนในกระดาษก่อนว่า จะปลูกอะไรตรงไหนในสวน เพื่อจะได้ไม่ต้องมาขุดย้ายทีหลังให้ลำบาก คุณนฤทธิ์ ปลูกในเนื้อที่ทั้งหมด ๓๕ ไร่
คุณนฤทธิ์ วางแผนการปลูกพืช ออกเป็น ๔ ระยะ คือ
พืชระยะสั้นมาก
พืชระยะสั้น.... พืชระยะยาว.... และพืชระยะยาวมาก
(1) พืชระยะสั้นมาก.....พืชบางชนิดปลูกไม่กี่วันก็ได้กินผล เช่น บวบ แตง ฟักทอง ตำลึง ฯลฯ .., พวกนี้เป็นพืชระยะสั้นมาก 4560 วัน
ก็เก็บขายได้เงินมาหมุนเวียนก่อนแล้ว..
....( 35 ไร่ ปลูกอย่างละไร่ ก็ได้พืชระยะสั้น 35 อย่าง แต่ระบบการบริหารจัดการต้องเยี่ยมยุทธ์ มิฉะนั้น ต๊ายแหน่ ๆ ๆ ๆ )
(2) พืชระยะสั้น อย่างเช่น กล้วย พริก ฝรั่ง ฯลฯ....กินไป ขายไป,
(3) เมื่อพืชระยะสั้นให้ผลผลิตซักสองหรือสามปี เดี๋ยวไม้ผลระยะยาวก็ให้ผลผลิต,
(4) ส่วนพืชระยะยาวมาก ๆ คือไม้ป่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ พวกนี้ไม่ได้ใช้หรอก แต่เอาไว้ให้ลูกหลานบางครั้งนำไม้เศรษฐกิจมาปลูกเสริม เช่น สัก พะยูง ชิงชัน ฯลฯ
ต้นไม้รู้จักเกื้อกูลพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
ต้นไม้บางชนิดรู้จักเกื้อกูลพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ปลูกในหลุมเดียวกันได้ เช่น ต้นยาง ต้นกล้วย และต้นพริก เป็นต้น
ต้นยาง ต้นพริก เมื่อตอนยังเล็กอยู่สู้แดดไม่ไหว ต้นกล้วยก็ช่วยบังแดดให้ กล้วยมีความชื้นเยอะก็แบ่งให้เพื่อน ต้นไม้ทั้งสามก็เติบโตเป็นเพื่อนกัน พริกสุกก็กินพริก กล้วยออกเครือก็กินกล้วย พอกล้วยตาย พริกตาย ต้นยางก็โตพอดี
เวลาปลูก ก็หย่อนเมล็ดยางลงหลุมเป็นลำดับแรก ตามด้วยหน่อกล้วยโตประมาณลำแขนในระดับไม่ลึกนัก ปิดท้ายด้วยพริกขี้หนู ใส่ปุ๋ยคอกตรงกลางระหว่างต้นไม้ทั้งสาม พร้อมกับเทน้ำลงไปหนึ่งแก้ว ก็เสร็จพิธีปลูกแล้ว
ปลูกต้นไม้รดน้ำแค่หนึ่งแก้ว ถามว่าเพียงพอไหม ไม่พอหรอกครับ
แต่ถ้า ต้นไม้อยากมีชีวิต อยากเติบโต ก็ต้องใช้รากชอนไชหาอาหารเอาเอง ต้นไหนทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ตายไป ตายก็ปลูกใหม่ ไม่เห็นจะยาก ...(แต่ก็ไม่เห็นมันตายซักต้น)
พอโตขึ้นมาหน่อย ก็จะเพิ่มน้ำจากหนึ่งแก้วเป็นหนึ่งขัน แต่พอพ้นจากปีที่สองแล้ว เราก็เลิกให้น้ำ ปล่อยหญ้าขึ้นคลุมเลย จะอยู่หรือจะตายก็เป็นเรื่องของเอ็ง
คุณนฤทธิ์ ถางหญ้าโคนต้นนิดหน่อยแล้วให้ปุ๋ยขี้วัวสด ๆ ทุก ๆ ๒๐ วัน ใส่ครั้งละหนึ่งกิโลกรัม โดยไม่ต้องพรวนดิน ไม่ต้องตากปุ๋ยอะไรทั้งนั้น ใส่ปุ๋ยขี้วัวเปียกๆ อย่างนั้นแหละ เอาหญ้าที่ถางออกคลุมโคนต้น ต้นไม้มันรู้เอง มันแยกแยะได้ ถ้ามันแหย่รากเข้าไปหาแล้วเจอปุ๋ยยังร้อนอยู่ มันจะรอให้ปุ๋ยเย็นก่อน เดี๋ยวค่อยกิน
อีกอย่างคือ เรื่องหญ้า คุณนฤทธิ์จะไม่ถอนหญ้า คน (โง่ที่ใช้ยา) ฆ่าหญ้าเพราะคิดว่าหญ้าจะมาแย่งอาหารพืช แต่หารู้ไม่ว่า ถ้ากำจัดหญ้า หน้าแล้งจะต้องให้น้ำในปริมาณมาก เพราะดินจะไม่มีความชื้นที่ไหนเลย แต่ถ้าเราเก็บหญ้าคลุมหน้าดินเอาไว้ หญ้าจะถ่ายความชื้นให้ต้นไม้ พอสูญเสียความชื้นจนทนไม่ไหว หญ้าก็ตายไปเอง แต่พอหญ้าตายก็คลุมดินให้อีก ความชื้นในดินที่ระเหยขึ้นมาเจอหญ้าก็กลับลงไปในดินอีกรอบ ความชื้นก็หมุนวนอยู่อย่างนั้น นี่คือการเกื้อกูลกันของธรรมชาติ (เหมือนที่ไร่กล้อมแกล้มเป๊ะเลย)
....อยากดูรูปหญ้าขึ้นรกในไร่กล้อมแกล้ม คลิกเลยครับ
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3257
ยังมีต่อครับ......
----------------------------
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
anant หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 07/01/2014 ตอบ: 1
|
ตอบ: 07/01/2014 6:43 am ชื่อกระทู้: |
|
|
.
อยากมีอายุยืน เกษตรดีที่สุด....
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
 |
|