kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 29/11/2015 5:51 am ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบปัญหารายการวิทยุ 29 NOV *วิธีหาน้ำบาดาล-บาดาลที่ RKK |
|
|
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 29 NOV
AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
********************************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
@@ สนับสนุนรายการโดย ...
* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986
----------------------------------------------------------------------------------------------
ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ เคมี)
1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) คุณชาตรี (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)
3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) คุณล่า (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี
5) คุณประเสริฐ (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) คุณพรพรรณ (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) คุณน้ำส้ม (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)
----------------------------------------------------------------------------------------
@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :
** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม
** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)
มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......
-----------------------------------------------------------
แก้ปัญหาเรื่องน้ำ :
* สร้างแหล่งผลิตน้ำ เจาะบาดาล ในบ้าน/ในนา/ในสวน/ในไร่ ส่วนตัว
* สร้างแหล่งกักเก็บน้ำ โอ่ง/แทงค์/ถัง/สระ ส่วนตัว :
* ปี 59 เพิ่มหน่วยงานทำฝนหลวงระดับประจำจังหวัดภาค กลาง/ตะวันออก/ตะวันตก/อิสาน/เหนือ พร้อมกับเพิ่มงบประมาณระดมทำฝนหลวงให้มากขึ้น เริ่มจากผลิตน้ำกินน้ำใช้ แล้วขยายผลไปน้ำเพื่อการเกษตร จนถึงน้ำเติมเขื่อน
* ปรับปรุง/สร้าง แหล่งกักเก็บน้ำธรรมชาติ (ห้วย/หนอง/คลอง/บึง/อ่างเก็บน้ำ/แม่น้ำ) ที่มีอยู่เดิมหรือสร้างใหม่ให้เป็นแก้มลิง มีความจุน้ำมากขึ้น ให้สามารถรองรับน้ำจากภาวะ "น้ำท่วม" ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
* ฤดูกาลที่แม่น้ำโขง (ลาว) แม่น้ำเมย (เมียนมาร์) แม่น้ำอื่นๆ ท่วมล้นฝั่ง ให้ผันน้ำเข้ามาในไทยไปที่แก้มลิงที่สร้างไว้ก่อน
* จัดระเบียบ ป่าต้นน้ำหรือแหล่งน้ำธรรมชาติ ให้ถูกต้องตามกฏหมาย เพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ
* จัดระบบการบริหารและจัดการน้ำเพื่อการเกษตรที่เหมาะสมสำหรับชนิดพืชอย่างแท้จริง
* ให้ความรู้แก่ประชาชนในการทำการเกษตรอย่างครบวงจร
****************************************************
สายตรง : (074) 813-73xx, (084) 489-01xx, (061) 810-34xx, (082) 182-39xx, (081) 972-46xx, (087) 184-38xx
สรุป คำถาม-คำตอบ :
ถาม : วิธีการแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน ดูอย่างไรจึงรู้ว่าตรงไหนมีน้ำบาดาลไต้ดิน ?
ตอบ :
วิธีที่ 1 :
อุปกรณ์ : ใช้ลวดทองแดง ขนาด 1/2 ซม. ยาว 50 ซม. ดัดงอเป็นรูปแอลล์ ภาษาอังกฤษ ให้ด้านยาว 40 ซม. ด้านสั้น 10 ซม. จำนวน 2 อัน
วิธีใช้ : ถอดรองเท้า จับลวดทองแดงด้านสั้นทั้ง 2 อัน ด้วยมือซ้ายขวา จับหลวมๆ ให้ด้านยาวชี้ตรงไปข้างหน้า แล้วออกเดินไปข้างหน้าช้าๆ จังหวะนี้จะพบว่า ลวดทองแดงด้านยาวที่ชี้ไปข้างหน้านั้นแกว่งสายไปมา ส่ายแรงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำไต้ดิน ถ้าไม่ส่ายเลยแสดงว่าไม่มีน้ำเลย ถ้าส่ายมากๆ ส่ายกว้างๆ แสดงว่ามีน้ำไต้ดินมาก จังหวะนี้ให้สังเกตปลายลวด ถ้าปลายลวดส่ายปลายเข้าหากันจนมาชนกัน แสดงว่าจุดศูนย์กลางของน้ำไต้ดิน (บาดาล) อยู่ ณ ตรงจุดนั้น แนะนำว่า ควรสำรวจบริเวณที่ลวดส่ายจนปลายมาชนกันให้ทั่วบริเวณ เพื่อให้รู้ขนาดพื้นที่ทั้งหมดที่คาดว่ามีน้ำไต้ดิน
วิธีที่ 2 : ต้องการพิสูจน์ว่าบริเวณไหนมีน้ำไต้ดิน เริ่มจากสังเกตหญ้าหรือวัชพืชสามารถเจริญเติบโตได้แม้หน้าแล้ง เบื้อต้นให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามันต้องมีน้ำ และน้ำนั้นก็ต้องอยู่ไต้ดินที่รากลงไปได้ด้วย ให้ตัดหญ้าหรือวัชพืชออกก่อน แล้วขูดหน้าดินบริเวณนั้นลึกประมาณครึ่งฝ่ามือ พื้นที่กว้างประมาณ 1 ฝ่ามือ แล้วปรับเรียบ ถึงตอนค่ำให้ใช้ถ้วยกระเบื้องเซรามิก คว่ำครอบดินบริเวณนั้นไว้ ทำ 2-3-4-5 จุด ห่างกันจุดละ 2-3-4-5 ม. ตามความเหมาะสม ปล่อยทิ้งไว้จนกระทั่งเช้าตรู่ ตี4 ตี5 ตี6 ยังไม่มีแสงแดด ไปสำรวจโดยยกถ้วยขึ้นดูด้านใน ถ้ามีหยดน้ำจับที่ก้นถ้วยแสดงว่าบริเวณนั้นมีน้ำบาดาลอยู่ไต้ดิน หยดน้ำมากมีมาก หยดน้ำน้อยมีน้อย ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง วันต่อวัน หรือวันเว้นวัน หรือตามสภาพฤดูกาล เพื่อความมั่นใจในวิธีการ .... จุดสังเกต : ช่วงหน้าแล้ง บริเวณที่มีจอมปลวก รังมดในดิน รังมดบนต้นไม้ วัชพืชขึ้นปกคลุมหน้าดิน ไม้ใหญ่เขียวสดไม่ทิ้งใบ บ่งบอกว่าบริเวณนั้นมีน้ำ
------------------------------------------------------------------
ลักษณะภูมิประเทศของพื้นที่ที่มีน้ำบาดาลไต้ดิน :
- พื้นที่มีลักษณะเป็นทุ่งราบ มีกรวด ทราย หนาเกินกว่า 25 ม. จากผิวดิน กรวดทรายมีลักษณะกลมมน ถ้าไม่กลมมน แต่มีเหลี่ยม มีแง่หรือมุม มีดินเหนียวขาวๆ มักจะไม่มีแหล่งน้ำ
- บ่อน้ำชาวบ้านมีบ่อน้ำใช้ตลอดปี ระดับน้ำในบ่อไม่ลึกมาก
- พื้นที่เป็นทุ่งราบหรือหุบเขา มีแม่น้ำ ลำธาร ห้วย หนอง ไหลผ่าน ลำน้ำคดเคี้ยวไปมา และมีหาดทรายกว้างขวาง ฤดูฝนมักมีน้ำล้นฝั่ง ฤดูแล้งมีน้ำไหล ท้องที่นั้นจะเป็นแหล่งน้ำบาดาลอย่างดี เจาะตรงไหนก็ได้
- พื้นที่เป็นคุ้งน้ำ เลือกเจาะบริเวณคุ้งน้ำด้านที่มีหาดทราย ส่วนด้านตรงข้ามซึ่งมีตลิ่งชันและน้ำเซาะไม่ควรเจาะ
- พื้นที่ทุ่งราบกว้างขวางริมทะเล มีน้ำบาดาล แต่หากลึกเกินไป อาจได้น้ำเค็ม
- พื้นที่เป็นราบลานเทขั้นบันไดหลายชั้น ควรเจาะบริเวณที่อยู่ระดับต่ำที่สุด บริเวณที่ราบอยู่ระดับสูงๆ ถึงจะมีน้ำแต่อยู่ลึก
- พื้นที่ชั้นดินเหนียวสลับชั้นกรวดทราย ครั้งแรกพบน้ำน้อย ให้เจาะลึกลงไปอีกจนถึงชั้นทรายล้วนๆ ก็จะมีน้ำ
- บ่อเจาะควรอยู่ห่างจากแหล่งน้ำโสโครก เช่น ส้วม หรือท่อระบายน้ำ ให้มากกว่า 20-30 ม.
- พื้นที่ทุ่งราบแล้ง แต่มีต้นไม้ขึ้นเขียวชอุ่มเป็นแนวยาว เป็นตอนๆ ตลอดปี แสดงว่าบริเวณนั้นมีแหล่งน้ำบาดาล ซึ่งอาจจะอยู่ในบริเวณร่องน้ำเก่า ถ้าจะเจาะน้ำบาดาลบริเวณนั้นจะได้ผล
- พื้นที่เป็นหิน แบบโผล่ให้เห็นบนผิวดิน หรือฝั่งตื้นๆ อยู่ใต้ผิวดิน บริเวณนั้นมักไม่มีน้ำบาดาล แต่ถ้าเป็นบริเวณต่ำๆ เป็นหุบแนวยาวๆ จะมีน้ำ
- พื้นที่แหล่งน้ำเค็ม หรือแหล่งเกลือ (ที่ราบตอนกลางของภาคอิสาน) ควรจะเลือกเจาะบริเวณที่เป็นเนินสูงๆ มีป่าหรือพุ่มไม้ อาจจะมีโอกาสได้น้ำจืด
- พื้นที่ภูเขา มีหินแข็งโผล่ทั่วไป ชั้นหินเอียงเทลงไปทางเชิงเขา ไม่มีน้ำบาดาล แต่ถ้าเลื่อนไปทางเชิงเขาอาจจะได้น้ำ และน้ำอาจจะพุ
http://www.dgr.go.th/water/waterforlife2_1.htm
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ไร่กล้อมแกล้มต่อน้ำไต้ดิน :
- ห่างจากคลอง (กว้าง 80 ม.) ส่งน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ 200 ม. (วัดทางตรง) มีน้ำตลอดปีทั้งแต่สร้างเขื่อน
- ห่างไปทางเหนือ 200 ม. มีบ่อบาดาลชาวบ้าน 1 บ่อ ยังใช้การใช้ดี
- ห่างไปทางไต้ 1 กม. มีบ่อบาดาลประปาหมู่บ้าน ยังใช้การได้
- ไร่กล้อมแกล้มอยู่ตรงกลางระหว่าง บ่อบาดาลชาวบ้าน กับบ่อบาดาลประประปาหมู่บ้าน บนเส้นตรงแนวเดียวกัน
------------------------------------------------------------
ถาม : ก่อนลงมือเจาะบาดาลที่ไร่กล้อมแกล้ม พูดคุยตกลงกับคนรับจ้างเจาะอย่างไร ?
ตอบ :
ลุงคิม : เคยเจาะบาดาลมากี่ปีแล้ว ?
คนเจาะ : ตั้งแต่เป็นหนุ่ม ตอนนี้อายุเกือบ 60 แล้ว
ลุงคิม : บ้านอยู่แถวไหน ?
คนเจาะ : จอมบึง ราชบุรี .... คุณล่า สมาชิกสีสันฯ รู้จักดี
ลุงคิม : บาดาลบ่อสุดท้ายที่ทำหรือเจาะ อยู่ที่ไหน ?
คนเจาะ : บ้านโป่งแยง ห่างจากที่นี่ไปกิโลกว่าๆ เจาะเมื่อปีที่แล้ว
ลุงคิม : ยังใช้งานได้ดีไหม ?
คนเจาะ :ดีครับ ปีกว่าแล้วน้ำยังพุ่งแรงอยู่เลย กับห่างไปทางนี้อีก 2 กิโล ก็อีกบ่อนึง บ้านนั้นใช้งานมากว่า 10 ปีแล้ว ก็ยังใช้การใช้อยู่ .... เฉพาะราชบุรี เจาะมาซัก 20 บ่อ
ลุงคิม : O.K. ตกลงจ้างคุณ .... ถามราคาหน่อย คิดราคาเท่าไหร่ ?
คนเจาะ : ขอ 4หมื่นครับ รวมซัมเมิร์ซ อุปกรณ์ทุกอย่าง
ลุงคิม : O.K. ราคานี้ไม่ต่อ แต่ขอถามหน่อยว่า ซัมเมิร์ซ ปั๊มไต้ดินยี่ห้ออะไร ? ท่อที่เจาะลงไปเป็นเหล็กหรือ พีวีซี. ? ขนาดเท่าไร ? ลึกเท่าไร ? ท่อน้ำที่พุ่งออกมาขนาดกี่นิ้ว ?
คนเจาะ : ซัมเมิร์ซยี่ห้อแฟลงค์กิ้ล ของแท้อเมริกา ท่อเจาะเหล็กขนาด 2 นิ้ว ความลึกบ้านนี้ผมคิดว่า 4ท่อน 24ม. น่าจะใช้ได้ เรื่องนี้ผมรับเอง ลึกมากก็ใช้หลายท่อน ส่วนปากท่อน้ำพุ่งก็ต้อง 2 นิ้วเหมือนกัน เป็น พีวีซี.
ลุงคิม : O.K. น้ำที่พุ่งขึ้นมาด้วยท่อ 2 นิ้ว พุ่งตลอด 24 ชม.ทั้งวันทั้งคืนได้ น้ำใส กลิ่นสะอาด รสจืดสนิท กินได้
คนเจาะ : รับรองครับ ทุกบ่อที่ผมเจาะได้แบบนี้ทั้งนั้น
ลุงคิม : อืมมม ที่นั่นกับที่นี่มันคนละที่กันนะ ระวังเซียนตกขี้เมฆ
คนเจาะ : ดูพื้นที่แล้วไม่กลัวครับ ถ้าไม่ได้ตามนี้ ผมไม่คิดเงินครับ
ลุงคิม : O.K. 40,000 วางไว้ตรงนี้ เสร็จแล้ว น้ำพุ่งแล้ว เอาไปเลย .... กี่วันได้เห็นน้ำ ?
คนเจาะ : ขอเวลา 3 วันครับ
ลุงคิม : O.K. ลุย !
ภารกิจ : รถปิ๊กอั๊พ 1 คัน สว่าน 1 ตัว แรงงานลูกน้อง 3 คน .... บ่ายวันที่ 2 ของการเจาะเริ่มปั๊มน้ำขึ้นมาให้เห็น ตรวจแล้วเห็นว่ายังไม่ได้ตามตกลง ต้องเจาะลึกลงต่อไปอีก ระหว่างนี้พบว่าทรายไต้ดินบริเวณนั้นดีมากๆ เป็นทรายเกรด เอ. ดูดขึ้นบรรทุกปิ๊คอั๊พได้เป็นคันๆ .... บ่ายวันที่ 3 ของงานเจาะ เอาน้ำมาดูความใส ชิมรสความจืด ดมหากลิ่น ได้ตามที่ตกลงทุกประการ น้ำพุ่งขึ้นมาเหนือปากท่อ 2 นิ้วราวครึ่งศอกแขน แรงหรือไม่แรงไม่รู้ เพราะเป็นบ่อบาดาลครั้งแรกในชีวิต ว่าแล้วเริ่มสูบน้ำใส่สระทันที สูบน้ำเวลา 09.00-16.00 เพราะเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านย่านนั้นใช้ไฟฟ้าน้อย รวม 3 วัน ระหว่างสูบน้ำขึ้นมานั้น สังเกตเห็นน้ำแรงเสมอเท่ากันตลอดเวลา จนน้ำเต็มสระ
เคยพูดอยู่บ่อยๆ ว่า ที่ไหนแล้งก็แล้งไป แต่ที่ไร่กล้อมแกล้มไม่กลัวแล้ง ตรงกันข้าม ถ้าเปิดบาดาลทั้งเดือนมีหวังกลายเป็นน้ำท่วมได้
ซื้ออุปกรณ์ : ชุดเจาะบาดาล รวมถึงระบบปั๊มน้ำ สปริงเกอร์ ทุกรายการทุกชิ้นที่ ร้านประเสริฐภัณฑ์ บ้านโป่ง เป็นการยืนยันว่า ไม่ต้องสั่งซื้อจาก กทม. หรือบริษัทใหญ่
-----------------------------------------------------------------------
ถาม : น้ำบาดาลขึ้นมาแล้ว มีกลิ่นเหม็น สีน้ำตาลไหม้ แก้ไขอย่างไร ?
ตอบ :
สาเหตุเพราะมีสารละลายเหล็กและแมงกานิสสูง เป็นด่างจัด แก้ไขโดย นำน้ำมาตกตะกอนด้วยการพ่นน้ำผ่านอากาศ หรือกรองด้วยทรายกรองหรือสารกรองแมงกานีสไดออกไซด์ แล้วปรับปรุงคุณภาพน้ำ โดยเปลี่ยนสารละลายเหล็กให้เป็นตะกอนของเหล็กชนิดเฟอร์ริก Fe3+
การผลิตสารกรองสนิมเหล็ก :
- ใช้เม็ดทรายหรือเม็ดดินเผาเป็นตัวพยุงหรือตัวแกน
- เคลือบด่างทับทิมให้ติดเม็ดทรายหรือเม็ดดินเผา
- เผาด่างทับทิมให้สลายตัวกลายเป็นแมงกานีสไดออกไซด์
ใช้สารแมงกานีสไดออกไซด์เคลือบติดเม็ดทราย ใช้ทำสารกรองสนิมเหล็ก :
- ใช้ด่างทับทิม 1 กก. ต่อเม็ดทรายคัดขนาด 20 ล. ละลายในน้ำ 5 ล.
- ต้มด่างทับทิมให้เดือด เทเม็ดทรายที่คัดทำความสะอาดแล้วเทลงไป
- คนพลิกเป็นระยะ จนเม็ดทรายเริ่มหมาด ให้คนพลิกต่อเนื่องจนเม็ดทรายแห้ง
- คั่วแห้งขณะไฟแรงอีก 3 ชั่วโมง โดยคนพลิกทุกๆ 20 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น สามารถใช้เป็นสารกรองได้เลย
ถึงแม้ว่าการผลิตสารกรองด้วยวิธีนี้จะด้อยกว่าการผลิตด้วยเตาเคลือบ แต่การลงทุนต่ำกว่าการซื้อสารกรองในท้องตลาด อีกทั้งยังสามารถทำได้เอง โดยนำไปตกตะกอนสาร ละลายเหล็กในน้ำบาดาลให้เกิดเป็นตะกอนอย่างสมบูรณ์ และกรองจับไว้ในชั้นกรอง ทำให้น้ำที่ผ่านสารกรองนี้ปราศจากสนิมเหล็ก
http://202.129.59.73/nana/badan/nunbadan.htm
https://wastewatertreatments.wordpress.com
--------------------------------------------------------------
ถาม : บาดาล 1 บ่อ สูบน้ำได้นานเท่าไร ? ถ้าน้ำหมด แก้ไขอย่างไร ? ของไร่กล้อมแกล้มใช้งานมานานเท่าไหร่ ? ค่าไฟฟ้าเดือนละเท่าไหร่ ?
ตอบ :
- กำหนดแน่นอนไม่ได้ เพราะทุกอย่างอยู่ไต้ดิน
- ปัจจัยที่เกี่ยวข้องได้แก่
.... ปริมาณน้ำไต้ดินเฉพาะบริเวณ
.... ปริมาณน้ำไต้ดินบริเวณข้างเคียงที่จะไหลเข้าไป
.... ลักษณะทางภูมิศาสตร์ประจำพื้นที่
.... ความ แน่น/เหนียว ของเนื้อดิน
- เจาะบาดาลทันทีที่ขุดสระเสร็จ ทั้งๆที่ ยังไม่ได้ลงต้นไม้เลยแม้แต่ต้นเดียว
- ค่า pH 8.0-8.5 ตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ pH น้ำระดับนี้ปลาชอบ
- ใช้มาแล้วเกือบ 10 ปี ปริมาณน้ำคงเดิมเหมือนวันแรก
- น้ำเติมสระ จากบาดาลเป็นน้ำสำรอง แต่น้ำใช้ที่เป็นหลักจริงๆ มาจากชลประทาน โดยเจาะลำลางไส้ไก่หน้าสวน มุดไต้ดินมาโผล่ที่สระ ที่ท้ายสระมีท่อระบายน้ำล้นออกไปทางร่องระบายน้ำสาธารณะสู่นาชาวบ้านได้ กรณีน้ำล้นนี้เท่ากับได้ระบายน้ำเก่าออกแล้วรับน้ำใหม่ตลอดเวลา เมื่อครั้งลูกๆ นศ.ไปฝึกงาน กระโดดเล่นน้ำกันบ่อยๆ
- ค่าไฟฟ้าช่วงที่ชลประทานส่งน้ำ ใช้น้ำสำหรับ ต้นไม้/หมา/โรงปุ๋ย/คน เดือนละ 900-1,000 .... ช่วงที่ชลประทานไม่ส่งน้ำ (เกี่ยวข้าว .... ปีละ 2 เดือน) ใช้น้ำสำหรับต้นไม้ หมา โรงปุ๋ย คน เดือนละ 1,800-2,000
---------------------------------------------------------------
ถาม : น้ำบาดาลที่ไร่กล้อมแกล้ม จากบ่อส่งไปสปริงเกอร์ให้ต้นไม้โดยตรงเลย ได้ไหม ? ถ้าได้ทำอย่างไร ถ้าไม่ได้เป็นเพราะอะไร ? แก้ไขอย่างไร ?
ตอบ :
- จากบ่อบาดาลส่งตรงไปสปริเกอร์ทันทีเลยไม่ได้ เพราะแรงดันปั๊มที่บ่อบาดาลแรงไม่พอ (ซัมเมริซ์มีกำลัง 1/2 แรงม้าเท่านั้น)
- แก้ไขโดยสูบน้ำขึ้นมาใส่บ่อพักก่อน แล้วใช้ปั๊ม 3 แรงม้าสูบน้ำจากบ่อไปสปริงเกอร์
--------------------------------------------------------------
. |
|