ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 6 NOV * ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (4)

[kimzagass]

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 6 NOV

AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
http://www.nimut.com/
* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://www.bkgmax.com/kaset/product.html
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

* และ ชมรมสีสะนชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

เช่นเคย รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ที่ (081) 913-4986 โทรศัพท์เข้ารายการคุยกันสดๆ
ออกอากาศ สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน (02) 888-0881 และอินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิมดอทคอม ถาม 1 บันทัด ตอบ 1 หน้า....

--------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด, ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)

มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......


**********************************************************


จาก : (068) 197-36xx
ข้อความ : น้ำหมักชีวภาพ ทำจากไส้ปลาทู ปลานิลตายแล้ว 3 วัน หมักด้วยกากน้ำตาล 1 ต่อ 1 จุลินทรีย์ อีเอ็ม. หมัก 7 วันแรกไม่มีปัญหา นาน 1 เดือนเริ่มเกิดหนอนต้องตักออกทุก 5 วัน ตอนนี้หมัก 3 เดือนแล้ว หนอนมีน้อยแต่ยังมี ปลานิลยังเป็นตัว ไส้ปลายังเป็นชิ้น ทำอย่างไรให้ปลาเปื่อยเป็นน้ำ และไม่มีหนอน....
ตอบ :
- สารอาหารพืชมี 2 กลุ่ม คือ เคมีชีวะ กับเคมีสังเคราะห์
- เคมีชีวะ เกิดเองตามธรรมชาติมีอยู่ในซาก มนุษย์/สัตว์/พืช/จุลินทรีย์/ดิน/น้ำ/แสงแดด/อุณหภูมิ/อากาศ และเกิดจากกระบวนการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ พืชที่เกิดและอยู่ในธรรมชาติด้วยตัวเองได้เพราะได้รับสารอาหารเคมีชีวะนี่เอง

- เคมีสังเคราะห์ เกิดขึ้นมาโดยฝีมือการสร้างของมนุษย์โดยตรงโดยเฉพาะ วัตถุประสงค์การใช้เคมีสังเคราะห์เพื่อให้พืชได้รับแล้วนำไปสร้างผลผลิตตามที่มนุษย์ต้องการ คือ คุณภาพและปริมาณ

- ส่วนผสม ซากสัตว์ (ไส้ปลา ปลานิล) กับกากน้ำตาล 1:1 อัตราส่วนนี้เป็นข้อมูลเก่าดั้งเดิมตั้งแต่เริ่มมีการส่งเสริมให้ทำน้ำหมักชีวภาพ จึงไม่ผิด (ทุกสำนัก.... ส่วนผสม ซากสัตว์กับกากน้ำตาล 1:1, .... ส่วนผสม ซากสัตว์ + ซากพืช กับกากน้ำตาล 1:1, ..... ส่วนผสม พืชล้วนๆ กับกากน้ำตาล 3 :1,...)

- “ไส้ปลาทู ปลานิล” .... ยังดีกว่าใช้ผักผลไม้เดี่ยวๆ
- ส่วนผสมเสริม เศษอาหาร (คน สัตว์) ที่กินเหลือ

- ประสบการณ์ที่ RKK :
* กากน้ำตาลอัตราส่วนพอดีถูกต้องกับวัสดุส่วนผสมเป็นอาหารสำหรับจุลินทรีย์ช่วยให้กระบวนการเอ็นไซม์ (ย่อยสลาย) ดำเนินไปด้วยดี

* กากน้ำตาลอัตรามากเกินกับวัสดุส่วนผสม จะยับยั้ง (STOP) จุลินทรีย์ (นักรบสมัยโบราณ ตัดหัวข้าศึก แช่น้ำผึ้ง เอาหัวข้าศึกมายืนยัน ขอรับรางวัลจากแม่ทัพได้ .... จุลินทรีย์ที่ทำให้หัวเน่า คือ กลุ่มแบคทีเรีย)

* กากน้ำตาลอัตราน้อยเกินกับวัสดุส่วนผสม เป็นอาหารสำหรับจุลินทรีย์ไม่เพียงพอ ส่งผลให้กระบวนการเอ็นไซม์ (ย่อยสลาย) ดำเนินไปไม่ได้ ลงท้ายจุลินทรีย์ตาย

* วัสดุส่วนผสมซากสัตว์ล้วนๆ 20 กก. ใส่กากน้ำตาลครั้งแรก 5 ล. ใส่น้ำหมักเก่า 5 ล. หมักทิ้งไว้ 3-6 เดือน ระหว่างนี้ถ้ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์ (เหม็น แต่ไม่ใช่เหม็นเน่า) แก้ไขด้วยการใส่กากน้ำตาลเพิ่ม 1 ล. ครั้งที่ 1 ทิ้งไว้ 1 วัน กลิ่นหาย = O.K. ถ้ากลิ่นไม่หาย ใส่กากน้ำตาลเพิ่มครั้งที่สอง 1/2 ล. ทิ้งไว้ 1 วัน กลิ่นหาย = O.K. ถ้ากลิ่นไม่หาย ใส่กากน้ำตาลเพิ่มครั้งที่สาม 1/4 ล. ทิ้งไว้ 1 วัน ทำแค่นี้กลิ่นหาย .... ที่ RKK บางครั้งบางถังเท่านั้นที่มีปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ ใส่เพิ่มกากน้ำตาลครั้งที่ 1 ครั้งเดียว = O.K.

* ระหว่างการจากหมัก 3-6 เดือนแรก ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เกิด ก็ใส่ เลือด/ไขกระดูก/นม/ขี้ค้างคาว (ทุกอย่างหมักแยก....พร้อมใช้) เติมน้ำมะพร้าวจนเต็มถังหมักขนาด 200 ล. เตรียมการหมักข้ามปี ระหว่างการหมักข้ามปีนี้ถ้ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ครั้งที่ 1 ใส่เพิ่มกากน้ำตาล 1-2 ล. ทิ้งไว้ 1 วัน กลิ่นหาย = O.K. ถ้ากลิ่นไม่หาย ใส่กากน้ำตาลเพิ่มเหมือนตอนหมักซากสัตว์ล้วนๆ

* ระหว่างการหมัก (เริ่มหมักใหม่ หรือหมักนานข้ามปี) ก่อนมีกลิ่นไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นจะมีแมลงวันตอมเป็นสิ่งบอกเหตุ จากนั้นไม่เกิน 3 วัน หนอนก็ตามมา แต่พอเริ่มมีกลิ่นใส่เพิ่มกากน้ำตาลลงไปแล้วแมลงวันจะไม่เข้าตอม ทั้งนี้ระหว่างการหมักถ้าสภาพทุกอย่างทุกขั้นตอนเป็นปกติไม่มีแมลงวันเข้ามาตอม แต่มีแมลงหวี่เข้ามาวางไข่ ไข่นี้ไม่ออกเป็นตัวจึงไม่มีผลเสียอะไร

* บางครั้งได้ไก่ตายใหม่จากฟาร์มข้างๆ RKK ใส่ลงถังหมักไปเลยทั้งตัว กับบางทีหนูลงไปกินน้ำหมักแล้วตกลงไปตาย เลยกลายเป็นส่วนผสม 3 เดือน ไก่/หนู ทั้งตัวละลายเป็นน้ำ.... เคยใช้ไม้พายคนในถังน้ำหมักแล้วยื่นไม้พายให้หมากิน หมาเลียหมับๆจนเกลี้ยง และการที่ หนู/หมา กินแสดงว่าน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงเป็น FOOD GRADE นั่นเอง

* ทุกครั้งที่รถบรรทุกปลาทะเลมาจอดที่หน้าโรงปุ๋ยจะมีแมลงวันตอมหึ่งเต็มกระบะรถ แต่เมื่อขนย้ายปลาทะเลเข้าโรงปุ๋ยเรียบร้อยแล้ว ไม่มีแมลงวันตามไปตอมอีกเลยแม้แต่ตัวเดียว แบบนี้ยืนยันได้ว่าในน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงมีสารท็อกซิก (TOXIG....แปลว่า เป็นพิษต่อแมลง....ข้อมูล : อ.วิชัย สจล.)

* ปกติบนโต๊ะกินข้าวจะมีแมลงวันตอมอาหารบ้างเป็นธรรมดา ก็สงสัยเหมือนกันว่า ทำไมแมลงวันพวกนี้จึงไม่ไปตอมที่น้ำหมัก

- หนอนเกิดจากแมลงวันบ้านข้าวางไข่ไว้ เพราะฉะนั้นต้องป้องกันแมลงวันบ้านเข้ามาตอมให้ได้
- กรณีมีหนอนเกิดขึ้นแต่ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า แสดงว่าส่วนผสม "กากน้ำตาล” ไม่ถูกต้อง (น้อยเกินไป) ปกติหลังจากเพิ่มกากน้ำตาลลงไปแล้วจะไม่มีหนอนเกิดใหม่ เนื่องจากอัตราส่วนผสมถูกต้องนั่นเอง หรือหากยังมีหนอนเกิดขึ้นอีก ก็ให้เติมกากน้ำตาลซ้ำอีกรอบ เติมครั้งละน้อยๆ (น้อยกว่าครั้งแรก) จนกว่าจะไม่มีหนอนเกิดขึ้นใหม่ .... ระหว่างที่รอพิสูจน์หนอนชุดใหม่จะเกิดหรือไม่หลังจากเพิ่ม กากน้ำตาลลงไปแล้วนั้น ถ้ามีหนอนที่ไม่ตายก็ตักทิ้งไปก่อน แล้วคอยดูหนอนชุดใหม่ แบบนี้จะทำให้รู้ว่าสามารถสกัดหนอนได้แน่นอนหรือไม่

* จุลินทรีย์ RKK :
- ชื่อนี้ไม่ใช่ มั่วนิ่ม ทึกทัก มั่วซั่ว ฉวยโอกาส คุยโว แต่เป็นของจริงที่พิสูจน์ในห้อง LAB ได้
- จุลินทรีย์ RKK เป็นจุลินทรีย์เกิดเองตามธรรมชาติในถึงหมักน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง หมักซ้ำต่อๆกันมากว่า 10 ปี แรกเริ่มจริงๆ ใช้จุลินทรีย์ของ พ.ด. ก็ได้ผลตามต้องการ ต่อๆมา ๆๆ ไม่มีจุลินทรีย์ พ.ด.เพราะหาไม่ได้ นั่งมองยืนมองเตียงผ้าใบเอนนอนมอง จุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิต เกิด/กิน/แก่/เจ็บ/ตาย/ขยายพันธุ์ โดยเฉพาะข้อสุดท้าย “ขยายพันธุ์” นั่นคือ ในน้ำหมักที่ทำก่อนแล้วต้องมีทายาทของจุลินทรีย์แน่นอน ว่าแล้วก็เอาน้ำหมักเก่า ยิ่งเก่ายิ่งดี ตลอดอายุการหมักไม่เคยมีปัญหา “แมลง/หนอน/สี/กลิ่น/กาก/ฝ้า/ฟอง” เกิดขึ้นจนต้องแก้ปัญหา นั่นคือ สภาพการหมัก “ดี/ถูกต้อง/เหมาะสม” ทุกขั้นตอนตลอดอายุการหมัก ว่าแล้วก็เอาทายาทจุลินทรีย์ในน้ำหมักเก่าๆมาใส่เติมให้น้ำหมักใหม่ ใส่จุลินทรีย์ครั้งเดียวกระทั่งใช้งาน ระหว่างหมักนานมีปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ก็ปรับแก้ด้วยการเพิ่มกากน้ำตาลตามที่บอกนั่นแล....

สรุป :
- จุลินทรีย์ RKK คือ จุลินทรีย์ พ.ด. +จุลินทรีย์เกิดใหม่ เกิดเองตามธรรมชาติในถังหมัก
- สิ่งบอกเหตุว่ามีจุลินทรีย์ (เดิม ใหม่) คือ สี. กลิ่น. กาก. ฝ้า. ฟอง. เนื้อวัสดุส่วนผสมเก่าและใหม่. ผลการตรวจ. ประสบการณ์ตรงของตัวเองและ สมช.

- เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก เพื่อให้ได้จุลินทรีย์ “กลุ่ม/ประเภท” ที่เหมาะสมกับสภาพธรรมชาติอย่างจริง ขอแนะนำให้ใส่เพิ่ม จุลินทรีย์ย่อยสลายฟาง จุลินทรีย์จาวปลวก

- ทดสอบพลังจุลินทรีย์ โดยนำน้ำหมักที่ทำมานานระยะเวลาหนึ่งแล้ว ใส่ลงขวดแล้วปิดปากขวดด้วยลูกโป่ง เก็บไว้ในร่ม อุณหภูมิห้อง ทิ้งไว้ 3-5-7 วัน สังเกตลูกโป่ง ถ้าลูกโป่งพองโตเร็วแสดงว่าจุลินทรีย์มากและแข็งแรง ถ้าลูกโป่งไม่พองหรือพองช้าแสดงว่าจุลินทรีย์ไม่มากและไม่แข็งแรง

- ลูกป่งพอโต คือ จุลินทรีย์ประเภทต้องการอากาศ
- ลูกโป่งยุบลงไปในขวด คือ จุลินทรีย์ประเภทไม่ต้องการอากาศ
- จุลินทรีย์มีเป็น "ล้าน" ชนิด ที่มนุษย์รู้จักและตั้งชื่อแล้วนี้เป็นเพียง "เศษเสี้ยว" หนึ่งเท่านั้น
- จุลินทรีย์ประเภทไม่ต้องการอากาศ มีพลังย่อยสลายสูงกว่าจุลินทรีย์ประเภทต้องการอากาศ
- กากน้ำตาลในน้ำหมัก เมื่อส่งลงไปในดินจะไปเป็นสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ประจำถิ่น
- จุลินทรีย์ดีมีประโยชน์กินกากน้ำตาล หรือสารรสหวานเป็นอาหาร จะเจริญเติบโตขยายเผ่า
พันธุ์เพิ่มจำนวนมากขึ้นได้ ในขณะที่จุลินทรีย์เชื้อโรคไม่กินกากน้ำตาลหรือสารรสหวาน นอกจากไม่เจริญขยายเผ่าพันธุ์ได้แล้ว ยังอยู่ไม่ได้ คือ ตายนั่นเอง

------------------------------------------------------------------------------


.