ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
somchai หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 21/07/2009 ตอบ: 1281
|
ตอบ: 14/01/2019 2:47 pm ชื่อกระทู้: หนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ |
|
|
.
.
สั่งซื้อได้ที่ผมอีกทางนะครับ (081) 408-4445
พร้อมส่ง ปณ เล่มละ 600 บาท ....
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
somchai หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 21/07/2009 ตอบ: 1281
|
ตอบ: 16/01/2019 11:28 am ชื่อกระทู้: |
|
|
.
.
วันนี้มีส่ง 2 เล่ม
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11658
|
ตอบ: 16/01/2019 8:07 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
.
.
อาชีพ "ดาวร่วง" ปี 2562 อันดับ 3 คือ "สิ่งตีพิมพ์ วารสาร" ....
ช่างเถอะ เกษตรกร 22,000,000 คน ขอคนอ่านหนังสือเกษตรแค่ 2,000 คนก็พอ
อยากรู้จริงๆว่า คนทำเกษตร ไม่ได้เรียนสาขาเกษตร แล้วไม่ได้อ่านหนังสือเกษตร
จะมีควมรู้เรื่องเกษตรได้ไง....
รู้แล้วทำ ทำอย่างคนมีความรู้ นอกจากสิ่งที่ทำอยู่ ณ วันนี้จะดีขึ้นแล้ว ยังต่อยอดขยายผลได้อีกด้วย
ความรู้ รู้แล้วติดตัวไปตลอดชีวิต ถ่ายทอดให้ลูกหลานได้
คนอ่านหนังสือคือปัญญาชนที่แท้จริง เพราะคนอ่านหนังสือรู้จริง รู้อย่างมีเหตุมีผล ปลุกระดมไม่ขึ้น
โฆษณาชวนเชื่อไม่สำเร็จ ...(ทมยันตี)
การมีความรู้ในสาขาอาชีพ คือ "ศักดิ์ศรี" ที่แท้จริง
ทำต่อไปสมชายยยย....ขายสิ่งที่ถูกต้อง ได้เงิน ได้บุญ....
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11658
|
ตอบ: 17/01/2019 5:56 am ชื่อกระทู้: |
|
|
.
.
ประโยชน์จากการอ่าน :
* การอ่านหนังสือทำให้ฉลาด และมีความรู้
* การอ่านหนังสือเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
* การอ่านหนังสือทำให้มีโลกทัศน์กว้างขึ้น
* การอ่านหนังสือเป็นการเสริมสร้างจินตนาการ และความคิดสร้างสัน
https://www.tkpark.or.th/stocks/extra/00067e.pdf
การอ่านหนังสือจะเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยพัฒนาเรื่องการจำ รวมถึงชะลอและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้
ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดต่าง ๆ ที่กำลังเผชิญ และช่วยให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีขึ้น
มีทักษะในการสื่อสารที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป
หนังสือบางประเภทช่วยให้เราสามารถฝึกฝนทักษะในการคิดเชิงวิเคราะห์ได้
https://www.jobthai.com/REACH/lifestyle/ประโยชน์ที่ได้รับจากการอ่านหนังสือ.html
1. เพื่อการเรียนรู้ ศึกษาด้วยตัวเอง
2. เพื่อช่วยการเพิ่มพูน
3. เปลี่ยนทัศนคติและมุมมอง
4. เพื่อความบันเทิง หนีไปจากโลกปัจจุบัน
5. เพื่อค้นหาความเป็นตัวของตัวเอง
6. เพื่อให้ทันโลก
http://oknation.nationtv.tv/blog/yamkrub/2009/09/05/entry-1
.
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 17/01/2019 4:39 pm, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11658
|
ตอบ: 17/01/2019 6:01 am ชื่อกระทู้: |
|
|
.
.
สถิติการอ่านของคนไทย :
จากที่มีคำกล่าวอย่างไม่มีข้อมูลอ้างอิงว่าคนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยแค่ปีละ 8 บรรทัด หรือ เฉลี่ย 45 วันต่อบรรทัด ที่หลอกหลอนผู้คนในแวดวงการศึกษาและอุตสาหกรรมหนังสือมานับสิบปี วันนี้จึงอยากหยิบข้อมูลล่าสุดผลวิจัยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2559 ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ปรากฏว่า คนไทยใช้เวลาในการอ่าน เฉลี่ย 66 นาที/วัน
ด้านข้อมูลจาก NOP World Under Score Index ระบุว่า
ชาวอินเดียให้เวลากับการอ่านมากที่สุดในโลก 10.42 ชั่วโมงต่อคนต่อสัปดาห์
รองลงมาคือไทย 9.24 ชั่วโมง
ตามด้วยจีน 8 ชั่วโมง
ฟิลิปปินส์ 7.36 ชั่วโมง
อียิปต์ 7.30 ชั่วโมง
สาธารณรัฐเช็ก 7.24 ชั่วโมง
รัสเซีย 7.06 ชั่วโมง
ฝรั่งเศสและสวีเดนเท่ากันที่ 6.54 ชั่วโมง
และซาอุดีอาระเบีย 6.48 ชั่วโมง
เมื่อมองลงให้ลึกอิงข้อมูลตามสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าในจำนวนคนไทยกว่า 60 ล้านคนที่อ่านหนังสือ เป็นการ
อ่านผ่านหนังสือพิมพ์ร้อยละ 67.3
อ่านผ่านโซเชียลมีเดีย ข้อความ เอสเอ็มเอส และอีเมล์ ร้อยละ 51.6
อ่านความรู้ทั่วไปร้อยละ 51.6
อ่านวารสารร้อยละ 42
สถิติการอ่านของคนไทยปี 2558 สำหรับสถิติการอ่านของประชากรไทย จัดทำขึ้นโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติทุกรอบ 2 ปี โดยปี 2558 ได้ขยายคำนิยามการอ่าน ให้รวมการอ่านข้อความในสื่อสังคม ออนไลน์/เอสเอ็มเอส/อีเมล ด้วย และ
ทำการสำรวจจากประชากรตัวอย่าง 55,920 ครัวเรือน โดยเก็บรวบรวมข้อมูลเดือน พ.ค.- มิ.ย. 2558 ซึ่งสรุปผลการสำรวจที่สำคัญได้ดังนี้ คือ
ในการอ่านของเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เด็กเล็กที่อ่านมีประมาณ 2.7 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 60.2 โดยเด็กผู้หญิงมีอัตราการอ่านสูงกว่าเด็กผู้ชายเล็กน้อย คือ ร้อยละ 60.9 และร้อยละ 59.5 และ
มีความแตกต่างกันระหว่างเขตการปกครองและภาค โดย
ในเขตเทศบาลมีอัตราการอ่านสูงกว่านอกเขตเทศบาล คือ ร้อยละ 63.9 และ 57.4 ตามลำดับ
ส่วนเด็กเล็กในกรุงเทพมหานคร มีอัตราการอ่านสูงสุด คือ ร้อยละ 73.8 ขณะที่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เด็กเล็กมีอัตราการอ่านต่ำสุด คือ ร้อยละ 55.9
ในส่วนการอ่านของประชากรอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป พบว่า มีอัตราการอ่านร้อยละ 77.7 ผู้ชายมีอัตราการอ่านสูงกว่าผู้หญิงเล็กน้อย คือ ร้อยละ 78.9 และ 76.5 ตามลำดับ โดย
วัยเด็กและวัยเยาวชนมีอัตราการอ่านสูงใกล้เคียงกัน คือ ร้อยละ 90.7 และ 89.6 รองลงมาคือ กลุ่มวัยทำงาน คือ ร้อยละ 79.1 และต่ำสุดคือ
กลุ่มวัยสูงอายุ คือ ร้อยละ 52.8
ด้านประเภทของหนังสือที่อ่านหนังสือพิมพ์เป็นประเภทของหนังสือที่มีผู้อ่านสูงสุด คือ
ร้อยละ 67.3 รองลงมาคือ
ข้อความในสื่อสังคม ออนไลน์/เอสเอ็มเอส/อีเมล คือ ร้อยละ 51.6 ซึ่ง
เนื้อหาสาระที่ผู้อ่านชอบอ่านมากที่สุดคือ ข่าว สารคดี และความรู้ทั่วไป อยู่ที่ร้อยละ 48.5 เท่ากัน โดยเวลาเฉลี่ยที่ใช้อ่านเฉลี่ย 1 ชั่วโมง 6 นาที/วัน หรือ 66 นาที โดย
กลุ่มเยาวชนใช้เวลาอ่านมากที่สุด เฉลี่ย 1 ชั่วโมง 34 นาที/วัน หรือ 94 นาทีกลุ่มวัยเด็กและวัยทำงานใช้เวลาอ่านเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 1 ชั่วโมงเล็กน้อย ส่วนวัยสูงอายุใช้เวลาอ่านน้อยที่สุดเฉลี่ย 44 นาที/วัน
เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 พบว่า ทุกวัยใช้เวลาอ่านเพิ่มขึ้น เนื่องจากปี 2558 ได้เพิ่มการอ่านข้อความในสื่อสังคม ออนไลน์/เอสเอ็มเอส/อีเมล ด้วย โดยกลุ่มวัยเยาวชนใช้เวลาอ่านเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 44 นาที/วัน
ที่มา : https://thaipublica.org/wp-content/uploads/2016/04/2559_การอ่าน_สำนักงานสถิติ_ย่อ.pdf, https://examinedexistence.com/which-country-reads-the-most/
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/777959
.
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 17/01/2019 7:54 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11658
|
ตอบ: 18/01/2019 6:23 am ชื่อกระทู้: |
|
|
.
.
คนเรียนสูง สูงๆ สูงงงงง แต่ไม่ได้เรียนสาขาเกษตร จึงไม่มีความรู้เรื่องเกษตร....เป็นธรรมดา
คนเรียนน้อย น้อยๆ น้อยยยย แถมไม่ได้เรียนเกษตรด้วย จึงไม่มีความรู้เรื่องเกษตร....เป็นธรรมดา เหมือนกัน
ทั้งคนที่เรียนสูง คนที่เรียนน้อย ไม่ได้เรียนสาขาเกษตรเหมือนๆกัน จึงไม่มีความรู้เรื่องเกษตร แต่อ่านหนังสือเกษตร อ่าน อ่าน อ่าน แบบเรียนรู้ด้วยตัวเอง ก็มีความรู้เรื่องเกษตรได้ .... เป็นธรรมดา อีกนั่นแหละ
ฟัง คิด ถาม เขียน .... อ่าน ดู ทำ ใช้ คิด วิเคราะห์ เปรียบเทียบ
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|