kimzagass หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11744
|
ตอบ: 24/02/2022 5:05 pm ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 26 ก.พ. * สารสมุนไพรทำได้กี่วิธี |
|
|
.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 26 ก.พ.
AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
***********************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม .. ? ..
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ
เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า
ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....
ผู้สนับสนุนรายการ :
***
งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ..... ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ... ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ... ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม(ขาล่อง) แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ...... ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก
* เดือนที่มี 5 เสาร์ เสาร์ที่ 5 ของเดือน . ไปวัดทุ่งสะเดา แปลงยาว ฉะเชิงเทรา
** ถึงจุดนี้ เกษตรกรที่ไหนอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด
- งานสีสันสัญจรวันเสาร์ วันที่ 26 ก.พ. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก กาญจนาภิเษก....
* ส.ค.ส. ต้อนรับปีใหม่ ....
ขาย ! .... ซื้อปุ๋ยไซส์ใหญ่ขนาด 5 ล. แถม ไซส์เล็ก 1 ลิตร ...
ขาย ! .... ซื้อหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ 1 เล่ม แถม ไม้ผลแนวหน้า 1 เล่ม....เทศกาลปีใหม่ ของขวัญที่คนรับภูมิใจ ได้ไปแล้วเก็บไว้นาน นานจนชั่วชีวิตก็ว่าได้ นั่นคือ หนังสือ ที่หน้าปกหนังสือเขียนลายเซ็นคนให้ไว้ คนที่ได้รับ ทุกครั้งที่หยิบหนังสือขึ้นมาเห็นลายเซ็นต์ จะยิ้ม ภูมิใจ แน่นอน
โชว์ ! .... หม้อปุ๋ยหน้าโซน
แจก ! .... กับดักแมลงวันทอง
แจก ! .... ปฏิทินรูปพระ ขนาดใหญ่ติดผนัง 6 แผ่น 12 เดือน
*********************************************************
*********************************************************
จาก : (095) 163-48xx
ข้อความ : สารสมุนไพรทำได้กี่วิธี
จาก : (084) 913-04xx
ข้อความ : ต้มสารสมุนไพรต้มนานไหม
ตอบ : -
สัจจะธรรม ธรรมชาติ :
งานวิจัย Grainge and Ahmed (1988) : ในโลกนี้มีพืช 2,400 ชนิด มีสารออกฤทธิ์ใช้ ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืชได้ .... คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ แล้ว สรุปได้เป็น 3 คือ กลิ่น-รส-ฤทธิ์ ในพืชที่เรียกว่า สารสมุนไพร หรือสารออกฤทธิ์ หรือตัวยา มีผลต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ศัตรูพืชนั่นเอง
- สัญชาติญาณของแมลงในการเข้าหาพืชเป้าหมายด้วยการตาม กลิ่น (แมลงไม่มีจมูก แต่มีตุ่มรับกลิ่นที่ข้างลำตัว) หากกลิ่นของพืชเป้าหมายเปลี่ยนไป แมลงไม่รู้ คิดว่านั่นไม่ใช่พืชเป้าหมายตามต้องการก็จะไม่เข้าหาพืชนั้น .... ผลรับ : พืชรอดพ้นจากการเข้าหาของแมลง
- ประสาทสัมผัสกลิ่นของแมลงสูงกว่าคน 500,000 เท่า (หมาสูงกว่าคน 200,000 เท่า...สารคดีดิสคัพเวอรี)
- แมลงเข้าหาพืชเป้าหมายเพื่อกินเป็นอาหาร (ปากกัด ปากดูด) แล้วกินพืชนั้น แต่ รส ของพืชเป้าหมายที่เคยกินเปลี่ยนไปจากเดิม แมลงจึงคิดว่านั่นไม่ใช่พืชเป้าหมายตามต้องการ ก็จะไม่กินพืชนั้นอีก .... ผลรับ : พืชรอดพ้นจากการดูดกินของแมลง
- แมลงเข้าหาพืชเป้าหมายเพื่อกินเป็นอาหาร (ปากกัด ปากดูด) กินพืชนั้นแล้วตายเพราะมี ฤทธิ์ บางอย่างอยู่ที่พืชนั้น .... ผลรับ : พืชรอดพ้นจากการดูดกินแมลง
- แมลงเข้าหาพืชเป้าหมายเพื่อวางไข่ แล้วปล่อยให้ไข่ฟักตัวออกเป็นหนอน (หนอน คือ ทายาทของแมลง) เมื่อหนอนเกิดมาแล้วกินพืชนั้นเป็นอาหาร ในอาหารนั้นมีฤทธิ์ หนอนจะตายทันที หรือยังไม่ตายแต่ไม่เข้าดักแด้ ไม่ช้าก็ตายเหมือนกัน .... ผลรับ : พืชรอดพ้นจาการกัดกินของหนอน
- แมลงวันทอง หลงกลิ่น .... แมลงศัตรูพืช กลางวัน เข้าหาสีเหลือง .... แมลงศัตรูพืช กลางคืน เข้าหาแสง .... แมลงธรรมชาติ (ผึ้ง ชันโรง ผีเสื้อสวยงาม) ไม่หลงสี ไม่หลงแสง .... ผลรับ : พืชรอดพ้นจาการเข้าทำลายของแมลงวันทอง และแมลงศัตรูพืชอื่นๆ
งานวิจัย :
สารสมุนไพรป้องกันกำจัด โรคพืช แมลงศัตรูพืช.... โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
http://www3.oae.go.th/rdpcc/images/filesdownload/km/Knowledge/productions/9.pdf
พืชสมุนไพรไล่แมลง แทนสารเคมีสังเคราะห์ .... อ.แสงเดือน อินชนบท สำนักฟาร์ม ม.แม่โจ้
https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_87501
การกำจัดศัตรูพืชด้วยสมนุไพร .... กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
http://www.ldd.go.th/menu_Dataonline/G1/G1_30.pdf
การใช้สมุนไพรป้องกันและกำจัดศัตรูพืช .... สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จ.เชียงใหม่
http://www.ndoae.doae.go.th/article2010/2011004.html
สมุนไพรไล่แมลง สูตรร้อนแรง ... อ.เกศศิรินทร์ แสงมณี สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ ม.ราชภัฏพระนคร
https://www.baanlaesuan.com/150794/garden-farm/herbal-insect-repellent-2
ควบคุมศัตรูพืชด้วยสารธรรมชาติ .... กรมวิชาการเกษตร
http://www.doa.go.th/pibai/pibai/n9/v-8-sep/cheaksong.pdf
สมุนไพรไล่แมลง แทนสารเคมี (ตอนที่2) .... สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร ม.แม่โจ้ http://researchex.rae.mju.ac.th/agikl/index.php/knowledge/37-organic/165-
งานวิจัยฯ .... ม.เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
http://rdi.rmutsv.ac.th/rmutsvrj/download/year6-issue1-2557/p_39.pdf
การใช้สมุนไพรป้องกันและกำจัดศัตรูพืช..... กรมวิชาการเกษตร
http://www.pmc03.doae.go.th/webpage/research/researchsamunphai.pdf
สมุนไพร : เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง .... วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกำแพงเพชร
http://www.kpcat.ac.th/BWLFSD/document/07102556.pdf
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดเชียงใหม่ .... สมุนไพรกำจัดศัตรูพืช http://lpsci.nfe.go.th/lpsci/attachments/184_bb11.pdf
คลื่นวิทยุลดความชื้นในข้าวและกำจัดแมลง .... คณะเกษตรศาสตร์ ม.เชียงใหม่
https://www.voicetv.co.th/read/76546
** CASE STUDY วันนี้ คือ :
สหรัฐ อเมริกา ซื้อลิขสิทธิ์ราติโนน หนอนตายหยาก .... เอาไปทำอะไร ?
เยอรมัน ซื้อลิขสิทธิ์อะแซดิแร็คติน สะเดา ............... เอาไปทำอะไร ?
ฝรั่งเศส ซื้อลิขสิทธิ์แค็ปไซซิน พริก ..................... เอาไปทำอะไร ?
เร็วๆนี้จีนนำเข้า พริก ขิง ข่า ขมิ้น กระชาย ฯลฯ จากไทย บอกว่าจะเอาไปทำสารสมุนไพรเพื่อการเกษตร ..... จริงหรือ ?
วันนี้ไทย ส่งเสริม/เชียร์ กันชา กันชง กันท่อม แต่ไม่เคยเอ่ยถึงสมุนไพรเพื่อการเกษตรเลย แม้แต่หน่วยงานที่มีผลงานวิจัยเรื่องสมุนไพรเพื่อการเกษตรที่วิจัยแล้วก็ไม่ต่อยอดขยายผลงานวิจัยนั้นเลย ตรงกันข้ามกลับ ต่อต้าน/คัดค้าน ด้วย .... อนิจจา ประเทศไทย
หลักการทำ-หลักการใช้ สารสมุนไพร :
แบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน - มาตรฐานโรงงาน - มีหลักวิชาการรองรับ
1. หมักน้ำเปล่า :
วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ :
เลือกพืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ตรงกับศัตรูพืช สภาพสดหรือแห้ง ส่วนที่มีสารออกฤทธิ์มากที่สุด อายุและสภาพแวดล้อม ตามต้องการหรือตามหลักวิชาการ สับเล็กหรือบด ละเอียดปริมาณ 1-2 กก. น้ำที่ออกมาอย่าทิ้ง ใส่ลงในถังพลาสติก เติมน้ำเปล่า 10-20 ล. คนให้เข้ากันดี ทิ้งไว้ 24-48 ชม. ระหว่างนี้ให้คน 2-3 รอบ ครบกำหนด 24-48 ชม. ก็จะได้สารสมุนไพรเข้มข้น พร้อมใช้งาน
หมักต่อไป 7-10 วัน หรือเมื่อเห็นว่าพืชสมุนไพรเปื่อยยุ่ย นอนก้นถังดี ให้กรองเอากากออก เก็บน้ำใสไว้ใช้งานจะดีมาก กากก้นถังที่ได้นำไปตากแห้ง ใช้รองก้นหลุมปลูกหรือโรยหน้าดิน ช่วยป้องกันแมลงในดินได้เป็นอย่างดี
สูตรนี้ไม่แนะนำให้เก็บไว้นานเพราะจะเน่าหรือบูด กรณีพืชสมุนไพรประเภทหัว ซึ่งมีแป้งเป็นส่วน ผสมหลักจะบูดเน่าเร็วกว่าสมุนไพรประเภท ใบ/ดอก/ผล ดังนั้นจึงควรทำครั้งละเพียงพอต่อการใช้ 1 ครั้ง เท่านั้น
หมายเหตุ :
- ที่นี่ไม่ใส่กากน้ำตาล ตาลทราย และจุลินทรีย์
2. สูตรหมักเหล้าขาวหรือแอลกอฮอร์ :
วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ :
เลือกพืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ตรงกับชนิดศัตรูพืช สภาพสดหรือแห้ง ส่วนที่มีสารออกฤทธิ์มากที่สุด อายุและสภาพแวดล้อม ตามต้องการหรือตามหลักวิชาการ สับเล็กหรือบดละเอียดปริมาณ 1-2 กก. น้ำที่ออกมาอย่าทิ้ง ใส่ลงในถังพลาสติก เติมเหล้าขาวหรือแอลกอฮอร์ (อย่างใดอย่างหนึ่ง) 10% ของน้ำ. เติมน้ำส้ม สายชู 10% ของเหล้าหรือแอลกอฮอร์ อัตราเหล้าขาวหรือแอลกอฮอร์กับน้ำส้มสายชูให้ได้พอท่วมสมุนไพร ถ้าไม่ท่วมให้เติมน้ำเปล่าเพิ่มจนกระทั่งพอท่วม คนเคล้าให้เข้ากันดี ทิ้งไว้ 24-48 ชม. ระหว่างนี้ให้คน 2-3 รอบ เพื่อให้แอลกอฮอร์กับน้ำส้มสายชูจะสกัดเอาสารออกฤทธิ์ในสมุนไพรออกมา ครบกำหนด 24-48 ชม. แล้วให้เติมน้ำเปล่า 10-20 ล. ได้สารสมุนไพร เข้มข้น พร้อมใช้งาน
หมักต่อไป 15-20 วัน หรือเมื่อเห็นว่าพืชสมุนไพรเปื่อยยุ่ย นอนก้นถังดี ให้กรองเอากากออก เก็บน้ำใสไว้ใช้งานจะดีมาก กากก้นถังที่ได้นำไปตากแห้ง เก็บไว้ใช้รองก้นหลุมปลูกหรือโรยหน้าดิน ช่วยป้องกันแมลงในดินได้เป็นอย่างดี
หมายเหตุ :
- ที่นี่ไม่ใส่กากน้ำตาล ตาลทราย และจุลินทรีย์
3. สูตรแช่น้ำร้อน :
วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ :
เลือกพืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ตรงกับชนิดของศัตรูพืช สภาพสดหรือแห้ง ส่วนที่มีสารออกฤทธิ์มากที่สุด อายุและสภาพแวดล้อม ตามต้องการหรือตามหลักวิชาการ สับเล็กหรือบด ละเอียดปริมาณ 1-2 กก. น้ำที่ออกมาอย่าทิ้ง ใส่ลงในถังพลาสติกที่มีน้ำต้มเดือดแล้ว 10-20 ล. คนให้เข้ากันดี ทิ้งไว้ 24-48 ชม. ระหว่างนี้ให้คน 2-3 รอบ ครบกำหนด 24-48 ชม. ก็จะได้สารสมุนไพรเข้มข้น พร้อมใช้งาน
หมักต่อไป 15-20 วัน หรือเมื่อเห็นว่าพืชสมุนไพรเปื่อยยุ่ย นอนก้นถังดี ให้กรองเอากากออก เก็บน้ำใสไว้ใช้งานจะดีมาก กากก้นถังที่ได้นำไปตากแห้ง เก็บไว้ใช้รองก้นหลุมปลูกหรือโรยหน้าดิน ช่วยป้องกันแมลงในดินได้เป็นอย่างดี
สูตรนี้ไม่แนะนำให้เก็บไว้นานเพราะจะเน่าหรือบูด กรณีพืชสมุนไพรประเภทหัว ซึ่งมีแป้งเป็นส่วน ผสมหลักจะบูดเน่าเร็วกว่าสมุนไพรประเภทใบ/ดอก/ผล ดังนั้นจึงควรทำครั้งละเพียงพอต่อการใช้ 1 ครั้ง เท่านั้น
4. สูตรต้มพอร้อน :
วัสดุส่วนผสม :
เลือกพืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ตรงกับชนิดของศัตรูพืช สภาพสดหรือแห้ง ส่วนที่มีสารออกฤทธิ์มากที่สุด อายุและสภาพแวดล้อม ตามต้องการหรือตามหลักวิชาการ สับเล็กหรือบด ละเอียดปริมาณ 1-2 กก. น้ำที่ออกมาอย่าทิ้ง ใส่ลงในถังโลหะ (ปี๊บ) ที่มีน้ำ 10-20 ล. คนให้เข้ากันดี ยกขึ้นตั้งไฟ ต้มพอเดือด เสร็จแล้วยกลงปล่อยให้เย็น ก็จะได้สารสกัดสมุนไพรเข้มข้น พร้อมใช้งาน
เมื่อน้ำต้มเย็นลงแล้วให้กรองเอากากออก เก็บน้ำใสไว้ใช้งาน กากก้นถังที่ได้นำไปตากแห้ง เก็บไว้ใช้รองก้นหลุมปลูก หรือโรยหน้าดิน ช่วยป้องกันแมลงในดินได้เป็นอย่างดี
สูตรนี้ไม่แนะนำให้เก็บไว้นานเพราะจะเน่าหรือบูด กรณีพืชสมุนไพรประเภทหัว ซึ่งมีแป้งเป็นส่วน ผสมหลักจะบูดเน่าเร็วกว่าสมุนไพรประเภท ใบ/ดอก/ผล ดังนั้นจึงควรทำครั้งละเพียงพอต่อการใช้ 1 ครั้ง เท่านั้น
5. สูตรต้มเคี่ยว :
วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ :
เลือกพืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ตรงกับชนิดของศัตรูพืช สภาพสดหรือแห้ง ส่วนที่มีสารออกฤทธิ์มากที่สุด อายุและสภาพแวดล้อม ตามต้องการหรือตามหลักวิชาการ สับเล็กหรือบดละเอียดปริมาณ 1-2 กก. น้ำที่ออกมาอย่าทิ้ง ใส่ลงในถังโลหะ (ปี๊บ) ที่มีน้ำ 10-20 ล. ยกขึ้นตั้งไฟ
ต้มครั้งที่ 1 : ให้เดือดจัด เสร็จแล้วใช้ตะแกงกรองเอาสมุนไพรที่ต้มแล้วออกทิ้งไป ใส่สมุนไพรชนิดเดิมตัวใหม่ ปริมาณเท่าเดิมลงไปแทน เตรียมต้มรอบ 2
ต้มครั้งที่ 2 : เดือดจัดแล้วใช้ตะแกงกรองเอาสมุนไพรที่ต้มแล้วออกทิ้งไป ใส่สมุนไพรชนิดเดิมตัวใหม่ ปริมาณเท่าเดิมลงไป เตรียมต้มรอบ 3
ต้มครั้งที่ 3 : เดือดจัดแล้วใช้ตะแกงกรองเอาสมุนไพรที่ต้มแล้วออกทิ้งไป ใส่สมุน ไพรตัวเดิม ปริมาณเท่าเดิมลงไปแทน แล้วต้มจนเดือดจัดเป็นครั้งสุดท้าย เสร็จแล้วยกลง ปล่อยให้เย็น แล้วให้กรองเอากากออกก็จะได้หัวเชื้อน้ำต้มสมุนไพรเข้มข้นพร้อมใช้งาน
กากก้นถังที่ได้นำไปตากแห้ง เก็บไว้ใช้รองก้นหลุมปลูก หรือโรยหน้าดิน ช่วยป้องกันแมลงในดินได้เป็นอย่างดี
สูตรนี้ไม่แนะนำให้เก็บไว้นานเพราะจะเน่าหรือบูด กรณีพืชสมุนไพรประเภทหัว ซึ่งมีแป้งเป็นส่วน ผสมหลัก จะบูดเน่าเร็วกว่าสมุนไพรประเภทใบ/ดอก/ผล ดังนั้นจึงควรทำครั้งละเพียงพอต่อการใช้ 1 ครั้งเท่านั้น
สูตรต้มเคี่ยวทำได้ 2 แบบ :
แบบที่ 1 : ต้มเคี่ยวครบ 3 รอบแล้วกรองเอากากออก ได้น้ำใสเท่าไรก็ได้เท่านั้น ใช้งานได้เลย ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์มีเท่าไรก็มีเท่านั้น
แบบที่ 2 : ต้มเคี่ยวครบ 3 รอบ กรองเอากากออกจนได้น้ำใสแล้ว ให้ต้มเคี่ยวต่อ โดยไม่ต้องเติมพืชสมุนไพรอีก ต้มเคี่ยวจนกระทั่งน้ำระเหยไปไอหายไป เหลือ 1 ใน 4 ของครั้งแรก เสร็จแล้วปล่อยทิ้งให้เย็น ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์จะแรงขึ้น
หมายเหตุ :
ซินแส แพทย์แผนโบราณ จัดยาสมุนไพรห่อผ้าขาวบางให้ 1 ห่อมัดเรียบร้อย หม้อดินเผา 1 หม้อ แล้วบอกว่า ใส่น้ำพอท่วม ต้มพอเดือด ดื่มครั้งละ 1 จอก (รสชาดยาสมุนไพรขมพอดีๆ ...รสขม คือ ฤทธิ์ยา) หรือบางครั้งใส่น้ำพอท่วม ต้มเคี่ยวนานๆ จนเหลือน้ำ 1 จอก แล้วดื่ม (รสชาดยาสมุนไพรจะขมจัดมากๆ ....รสขมนั้นคือ ฤทธิ์ยา)
6. สูตรกลั่น :
- เป็นถังโลหะทรงสูง
- ใส่น้ำเปล่าก้นถัง ปริมาณตามความเหมาะเมื่อเทียบกับปริมาณของพืชสมุนไพรที่จะกลั่น ไม่ควรเกิน 1 ใน 4 ของความสูงถัง
- มีตะแกงติดในถัง ณ ระดับความสูง 3 ใน 4 จากก้นถังของความสูงถัง
- มีฝาปิดสนิทป้องกันไอระเหยออกได้
- ที่ฝาปิดมีท่อให้ไอระเหยผ่านไปสูงระบบควบเย็นได้สะดวก
- ท่อนี้จะผ่านระบบควบเย็น ส่วนปลายดัดแปลงให้แทงเข้าไปในถังกลั่น เพื่อให้ไอระเหยที่ถูกควบเย็นจนกลายเป็นน้ำแล้วกลับเข้าไปกลั่นซ้ำในถังอีกครั้ง
ส่วนผสมและวิธีทำ :
เลือกพืชสมุนไพรประเภทสกัดด้วยวิธีกลั่นโดยเฉพาะ มีสารออกฤทธิ์ตรงกับชนิดศัตรูพืช สดหรือแห้ง สับเล็กหรือบดละเอียด การกลั่นทำได้ 2 แบบ
แบบที่ 1 :กลั่นแบบต้มเหล้าป่า (ชาวบ้านแอบทำ /เหล้าเถื่อน) หรือเหล้าขาว (รัฐบาลทำ) การกลั่นแบบนี้ต้องอาศัยความร้อนสูง น้ำที่ต้มเพื่อเอาไอระเหยต้องเดือดจัด 100 องศา ซ. ทำให้ได้ "น้ำ + สารออกฤทธิ์" ซึ่งจะมีน้ำ 70% สารออกฤทธิ์ 30% ถ้าน้ำที่ต้มเพื่อเอาไอระเหยร้อน 60-70 องศา ซ. จะทำได้เปอร์เซ็นต์ของสารออกฤทธิ์สูงขึ้น อัตราส่วน น้ำ 30% สารออกฤทธิ์ 70% แต่เนื่องจากความร้อนเพียงเท่านี้ไอน้ำจะไม่พุ่งออกมาสู่ระบบควบเย็นได้ แก้ไขโดยการใช้ตัวดูดไอระเหย (แว็คกั้ม).... สารออกฤทธิ์ที่ได้ใช้งานได้เลย หากต้องการเก็บนานให้เติมแอลกอฮอร์ 10% ของน้ำกลั่นสารออกฤทธิ์
แบบที่ 2 : กลั่นซ้ำ เป็นการกลั่นแบบให้ความร้อนสูงเดือดจัด ไอระเหยที่ถูกควบเย็นแล้วผ่านท่อที่ดัดแปลงเป็นการเฉพาะไหลกลับเข้าไปในหม้อกลั่นอย่างเดิมรวมกับน้ำก้นถังกลั่นอีกครั้ง แล้วถูกต้มกลายเป็นไอระเหยสูงขึ้นสู่ระบบควบเย็นซ้ำโดยอัตโนมัติ น้ำจะถูกกลั่นเป็นไอน้ำ ถูกควบเย็นเป็นน้ำไหลกลับเข้าถังกลั่น หมุนเวียนซ้ำอย่างนี้จนเป็นที่พอใจ น้ำก้นถังกลั่น คือ น้ำกลั่นสารออกฤทธิ์ มีน้ำกับสารออกฤทธิ์ 1 : 1 ใช้งานได้เลย
แบบที่ 3 : กลั่นด้วยเครื่องกลั่นเฉพาะแบบ "แยกน้ำ-แยกน้ำมัน" น้ำมันที่ได้เป็นสารออกฤทธิ์ 100% ไม่มีน้ำปน สารออกฤทธิ์ที่ได้ใช้งานได้เลย และสามารถเก็บนานได้โดยไม่ต้องเติมแอลกอฮอร์
หมายเหตุ :
- กลิ่นตะไคร้/กลิ่นมะกรูด สังเคราะห์ ที่คนนิยมทำ อะโรม่า นั้น นำมาใช้แทนกลิ่นที่กลั่นเอง เพราะกลิ่นสังเคราะห์แรงมากเมื่อเทียบกับกลิ่นที่กลั่นเอง กลิ่นสังเคราะห์ไม่เป็นอันตรายต่อตน เพราะใช้ในงานอะโรม่าอยู่แล้ว
----------------------------------------------------------------------------------
.
|
|