kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11658
|
ตอบ: 14/06/2022 4:37 pm ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 15 มิ.ย. * นานาสารพัดหลากหลายสูต |
|
|
.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 15 มิ.ย.
***********************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม .. ? ..
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ
เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า
ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....
รายการวิทยุ :
*** AM 594 ปตอ. เวลา 0815-0900 จันทร์-ศุกร์ คลื่นนี้ครอบคลุมพื้นที่ 40+ จังหวัด ***
งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ..... ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ... ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ... ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ...... ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปา ถ.วงแหวนตะวันตก
* เดือนที่มี 5 เสาร์ เสาร์ที่ 5 ของเดือน 30 เม.ย. ไปวัดทุ่งสะเดา แปลงยาว ฉะเชิงเทรา
** ถึงจุดนี้ เกษตรกรอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด
- งานสีสันสัญจรวันเสาร์ วันที่ 18 มิ.ย. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน ไปวัดท่าตำหนัก ถ.เพชรเกษม (ขาล่อง) ก่อนถึงแยกนครชัยศรี 200 ม. นครปฐม....งานนี้ ซื้อหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ 1 เล่ม แถม ไม้ผลแนวหน้า 1 เล่ม....
****************************************************************
****************************************************************
จาก : (063) 114-98xx
ข้อความ : ไม่อยากใช้ยาฆ่าหญ้าพารา ไกรโฟ สารพิษ ขอสูตรทำยาฆ่าหญ้าชีวภาพด้วย
จาก : (082) 794-35xx
ข้อความ : นาข้าว ไม่ใช้ยาฆ่าหญ้าสารเคมี เพราะตลาดรับซื้อไม่เอา เรากำจัดหญ้าในนาข้าวยังไง
ตอบ :
สมุนไพรกำจัดวัชพืช :
เพื่อนชาวเกษตรท่านหนึ่งถามถึงสูตรยาคุมหญ้าและสูตรกำจัดหญ้าในนาข้าวแบบที่ไม่ต้องใช้สารเคมีหรือยาฆ่าหญ้าที่เป็นอันตรายทั้งคนพ่นและสิ่งที่สัมผัสแบบชนิดไม่นับสารตกค้างเป็นทอดๆ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าสารที่ได้จากธรรมชาตินั้นคงจะไม่มีประสิทธิภาพเฉียบขาดเท่ากับยาฆ่าแมลงที่เป็นสารเคมี แต่ไม่มีสารพิษตกค้างให้เป็นพิษเป็นภัยทั้งคนใช้และคนทาน เพราะฉะนั้นการใช้ซ้ำกันหลายๆ ครั้งในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกันจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการใช้สารธรรมชาติ
สูตรกำจัดหญ้าในนาข้าว :
ส่วนประกอบ :
เหล้าขาว 1 ขวด
ผงซักฟอก 1 กล่อง
เกลือแกง 1 กิโลกรัม ผสมน้ำ 16 ลิตร
ฉีดพ่นหญ้าในนาข้าวให้ทั่วทุกๆ 7-10 วัน นานประมาณ 1 เดือน เน้นย้ำเรื่องเหล้าขาวระวังอย่าให้คุณพ่อบ้านไปซื้อเองเพราะจะได้เหล้ามาไม่ครบขวด
สูตรยาฆ่าหญ้า :
ส่วนผสม :
1. สับปะรด 30 กก.
2. กากน้ำตาล 1 แก้ว
3. จุลินทรีย์ EM 1 แก้ว (หมักไว้ 10 วัน)
4. ดินปะสิว 1 กก.
วิธีทำ :
1. นำดินปะสิวมาบดให้ละเอียด
2. นำมาผสมกับจุลินทรีย์ EM ที่หมักไว้
3. กรองเอาเฉพาะน้ำ
วิธีใช้ :
ยาฆ่าหญ้า 1 ส่วน ผสมน้ำ 50 ส่วน นำมาราดบริเวณที่ต้องการฆ่าหญ้า
วิธีการทำน้ำหมักเพื่อใช้คุมหญ้า :
ส่วนประกอบ :
1. ผักแว่นสด 5 กิโลกรัม
2. น้ำซาวข้าว 5 ลิตร
3. แป้งข้าวหมากหวาน 1 ก้อน ครึ่ง
4. กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
วิธีการทำ :
ล้างผักให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณ 1 ข้อมือ เทลงถังหมัก ใส่น้ำซาวข้าว บดแป้งข้าวหมากให้ละเอียดใส่ลงในถังหมัก หมักไว้ 1 เดือน
วิธีการนำไปใช้ :
1. ใส่น้ำหมัก 4 ลิตร ต่อ 1 ไร่ เทให้ทั่วแปลง ระวังอย่าปล่อยน้ำลงมากเกินไป ให้ใส่น้ำพอไถคราดได้เท่านั้น
2. สูตรนี้สามารถใช้คุมหญ้าได้ทุกชนิด
อย่างที่ทราบกันดีว่าการใช้สมุนไพรหรือพืชพื้นบ้านต่างๆ มาใช้เป็นยาฆ่าหญ้านั้นมีด้วยกันหลายสูตรและต่างก็เน้นการใช้พืชที่อยู่ในบริเวณนั้นๆ ให้เกิดประโยชน์ ไม่ต้องไปซื้อหาให้เสียเงิน ประมาณว่ามีอันไหนก็ใช้อันนั้น และก็ต้องขอขอบคุณเจ้าของสูตรหลายๆ ท่าน ที่ได้นำมาเผยแพร่ให้ได้นำไปประยุกต์ใช้งานกันต่อไป ภูมิปัญญาไทยที่ทิ้งไว้ให้เกษตรกรรุ่นหลังนับว่าเป็นมรดกอย่างหนึ่งที่ล้ำค่าและควรค่าแก่การรักษาไว้
กำจัดวัชพืช :
หลักการและเหตุผล :
วัชพืช คือ พืชชนิดหนึ่งที่เกิดหรือขึ้นในที่ๆไม่ต้องการ มีวัฏจักรชีวิต (เกิด แก่ เจ็บตาย ขยายพันธุ์) และต้องการปัจจัยพื้นฐาน (ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค) เช่นเดียวกับพืชอื่นๆ และพืชที่ถูกเรียกว่าวัชพืชมักเจริญเติบโตดีกว่าพืชหลักที่คนปลูก ในความเป็นจริงนั้น ปัจจุบันยังไม่มียาฆ่าหญ้าหรือสารกำจัดวัชพืชใดๆ ในโลกนี้ สามารถฆ่าหรือกำจัดวัชพืชให้ตายอย่างเด็ดขาดแน่นอนได้เมื่อใช้ตามอัตราที่ระบุบนฉลาก อาการที่เห็นนั้นเป็นเพียงใบไหม้เท่านั้น ในขณะที่ หัว-เหง้า-เมล็ด ยังอยู่ ซึ่งไม่นานก็จะแตกยอดแทงหน่อขึ้นมาใหม่....ดังนั้น การโฆษณาว่ายาฆ่าหญ้าหรือสารกำจัดวัชพืชชนิดนี้หรือชนิดนั้นสามารถกำจัดได้ถึงรากและเหง้าจึงเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงโฆษณาชวนเชื่อทั้งสิ้น และผู้ใช้ก็โกหกตัวเองว่าได้ผล
นอกจากนี้ ยาฆ่าหญ้าหรือสารกำจัดวัชพืช (ทุกชนิดหรือทุกยี่ห้อในท้องตลาด) ให้ผลเสียมากกว่าผลดี อาทิ มีสถานะเป็นกรดจัดจึงทำให้ดินเป็นกรด...เป็นพิษต่อจุลินทรีย์ในดิน....ทำให้เดินเสียสมดุล....เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคพืช....สภาพแวดล้อมบริเวณใกล้เคียงเสีย...ละอองเป็นพิษต่อพืชประธาน
วิธีการกำจัดหญ้าหรือวัชพืชที่ได้ผลที่สุด ซึ่งนอกจากไม่ส่งผลเสียดังกล่าวแล้วยังส่งผลดีแบบยั่งยืนระยะยาวนานอีกด้วย นั่นคือใช้มาตรการปรับเปลี่ยนหรือตัดวงจรปัจจัยพื้นฐานไม่ให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของหญ้าหรือวัชพืชเท่านั้น
หมายเหตุ :
พืชหรือวัชพืชใดๆที่งอกขึ้นมาจากเมล็ด เมื่อ ยอด-ใบ-ต้น ถูกย่ำทำลายไปแล้วจะไม่มีโอกาสงอกหรือเกิดใหม่อีกได้เลยตลอดชีวิต เพราะเมล็ดงอกได้เพียงครั้งเดียว ส่วนหน่อที่งอกขึ้นมาจาก หัว-เหง้า-ไหล ยอดที่งอกขึ้นมานั้นจะพัฒนาเป็น ต้น-ใบ ช่วยสังเคราะห์อาหาร ช่วงที่ยังไม่มีใบช่วยสังเคราะห์อาหารนั้น ต้นวัชพืชจะกินสารอาหารจาก หัว-เหง้า-ไหล ที่สะสมเอาไว้ เมื่อแตกยอดขึ้นมาทีไรเป็นถูกย่ำทำลายทุกครั้ง เพียง 2-3 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วันเท่านั้น สารอาหารในหัว-เหง้า-ไหลที่เคยสะสมไว้หมด หัว-เหง้า-ไหล ก็เน่าสลายหมดโอกาสแตกยอดใหม่อีกตลอดกาล
การใช้จุลินทรีย์เป็นตัวช่วยย่อยสลายเศษ ใบ-ต้น-หัว-เหง้า-ไหล ที่ถูกย่ำให้เปื่อยยุ่ยแล้วกลายเป็นปุ๋ย นอกจากจะไม่ทำลายสภาพโครงสร้างดินแล้วยังปรับปรุงสภาพโครงสร้างดินให้ดีขึ้นอีกด้วย ในขณะที่การใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ใดๆ แม้จะช่วยสลายเศษพืชได้แต่กลับทำให้สภาพโครงสร้างของดินเสียและเสียอย่างถาวรอีกด้วย
สรุป :
- ทำลายวัชพืชด้วยวิธีการบำรุงให้งอกแล้วย่ำทำลาย โดยการทำเทือกหลายๆรอบแต่ละรอบจำนวนวัชพืชจะลดลงและลดลงเรื่อยๆจนกระทั่งหมดไปนั่นเอง
- ป้องกันกำจัดหญ้าหรือวัชพืชตัวใหม่ เมื่อในแปลงไม่มี "เมล็ด-หัว-เหง้า-ไหล" ของวัชพืชที่จะเกิดใหม่ได้แล้ว เมล็ดแก่จากต้นวัชพืชบนคันนาหรือบริเวณข้างแปลงยังสามารถปลิวตามลมเข้าไปในแปลงแล้วเกิดเป็นต้นใหม่ขึ้นมาได้ กรณีนี้แก้ไขโดยการตัดหรือใช้ไม่เรียวฟาดก้านดอก ขณะที่ยังเป็นดอกอ่อนเพื่อทำลายดอกตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ให้เป็นดอกแก่แล้วมีเมล็ดขยายพันธุ์ได้
การใส่ปุ๋ยคอกมูลสัตว์กินหญ้า (วัว ควาย แพะ) มักมีเมล็ดพันธุ์วัชพืชปนมาด้วยเสมอ กำจัดเมล็ดพันธุ์วัชพืช โดยการหมักนาน 6 เดือน - 1 ปี เพื่ออาศัยจุลินทรีย์ทำลายชีวิตเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นก่อน ถ้าไม่มีเวลาหมักก็ให้ใช้เฉพาะ "น้ำมูลสัตว์" หมักก่อนหรือไม่หมักก็ได้ ราดรดลงบนเศษซากพืช (ฟาง ต้นถั่ว วัชพืช) ในแปลงหลังหรือก่อนไถกลบก็ได้ หลังจานั้น นอกจากเศษซากพืชจะกลายสภาพเป็นปุ๋ยคอกมูลสัตว์โดยไม่มีเมล็ดวัชพืชหรือพืชใดๆปนเปื้อนมาด้วยแล้ว ยังได้ทำให้คุณภาพของเนื้อปุ๋ยดีกว่ามูลสัตว์ที่มาจากสัตว์โดยตรงอีกด้วย
สารพัดสูตรยาฆ่าหญ้า :
* ผงซักฟอก + ไบโอดีโซล + น้ำมันขี้โล้ + น้ำเปล่า
* เกลือ + ยูเรีย + น้ำเปล่า
* น้ำส้มชายชู + เกลือ + น้ำยาล้างจาน + น้ำเปล่า
* ผงซักฟอก + ไบโอดีเซล + เกลือ + กากน้ำตาล + ยูเรีย + น้ำส้มสายชู +น้ำยาล้างจาน + น้ำเปล่า
* ฯลฯ
** ยาฆ่าหญ้ามีโทษต่อหญ้าได้ก็ต้องมีโทษต่อพืชประธานได้เหมือนกัน หญ้าใช้ปากใบดูดยาฆ่าหญ้าเข้าไปในตัวเอง ปากใบพืชประธานก็ดูดยาฆ่าหญ้าเช่นกัน ... ถามว่า ยาฆ่ายาเป็นสารอาหารหรือสารพิษสำหรับผักหวาน มุ่งฆ่าหญ้าแต่ไม่ห่วงพืชประธาน เท่ากับเผาบ้านฆ่าหนู
** ยาฆ่าหญ้าถูกดูดซึมเข้าไปในเนื้อหญ้า เมื่อหญ้าเน่าสลาย สารพิษในยาฆ่าหญ้าก็จะออกมาปนเปื้อนอยู่ในดินด้วย นอกจากฆ่าจุลินทรีย์ในดินแล้ว ยังส่งผลเสียต่อต้นพืชประธานอีกด้วย
** ยาฆ่าหญ้าเป็นกรดจัด (คนขายไม่เคยบอก คนใช้ไม่เคยถาม) เป็นพิษอย่างรุนแรงต่อจุลินทรีย์ในดิน
** ยาฆ่าหญ้าระบุอัตราใช้ "1 ฝา/น้ำ 20 ล" ผู้ใช้ใส่ 1 ฝาไม่รู้เรือง, ใส่ 2 ฝาไม่ดี, ใส่ 3 ฝายังไม่ได้ผล, ใส่ 4 ฝาทำท่าจะได้ผล ว่าแล้วใส่ 5 ฝาคราวนี้ได้ผล .... สาเหตุที่ 5 ฝาได้ผลเพราะ ฝาที่ 1-2-3-4 ช่วยปรับ พีเอช.น้ำให้เป็นกรดอ่อนๆก่อนไง แบบนี้ทำให้สิ้นเปลืองมากขึ้น 400% ไหม ? แบบนี้ใครรวย ใครฉิบหาย .... ถ้าใช้น้ำส้มสายชูในครัวปรับค่า พีเอช.น้ำซะก่อนล่ะ จะประหยัดกว่าไหม ? .... งานอย่างนี้ อั้ยคนขายยาฆ่าหญ้าไม่เคยบอก คนใช้ไม่ได้เรียนวิชาเคมีก็ไม่เคยถามลูก ทูนหัวทูนกระหม่อมลูกเรียนวิชาเคมีมาแล้วก็ไม่พูด
** ยาฆ่าหญ้าเป็นกรด + น้ำที่ใช้ผสมเป็นด่าง....งานนี้ กรด + ด่าง = เกลือ + น้ำ .... เกลือ + น้ำ ภาษาวิชาเคมีบอกว่าเป็น "กลาง" แต่บ้าน ก. บอกว่า "เสื่อม" ว่ะ...
** ใช้ยาฆ่าหญ้าอย่างถูกวิธี .... น้ำ 20 ล. + น้ำส้มสายชู 20-30 ซีซี. + ยาฆ่าหญ้า ครึ่งหนึ่ง ของอัตราใช้ที่ระบุในฉลาก" ฉีดพ่นตอนสายแดดจัด ช่วง 10 โมงเช้าถึงเที่ยง
** ยาฆ่าหญ้าทำได้เพียงใบหญ้าไหม้ แล้วก็ได้ผลเพียงระยะสั้นๆเท่านั้น ไม่ช้าไม่นาน ไม่เกิน 1-2 เดือนก็จะแตกยอดใหม่ โตกว่าเก่า งามกว่าเก่า .... เคยสังเกตุไหม ?
** ใช้ยาฆ่าหญ้าแล้ว 3 วัน ใบหญ้าเริ่มโชว์อาการใบไหม้แน่นอนแล้ว ให้ถอนพิษยาฆ่าหญ้า โดยใช้ น้ำ 20 ล. + น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (50 ซีซี.) ฉีดทับหญ้าโชกๆ ให้ 2 รอบ ห่างกัน 5 วัน .... จุลินทรีย์ในน้ำหมัก นอกจากช่วยสลายพิษยาฆ่าหญ้าแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูจุลินทรีย์ประจำถิ่น และเป็นปุ๋ยบำรุงต้นผักหวานอีกด้วย
กำจัดหญ้าอย่างบูรณาการ (ทุกพืช หลักการเดียวกัน) :
1. ตัดหญ้าเหลือแต่ตอก่อน รอให้แตกยอดใหม่แล้วใช้ น้ำหมักสับปะรด เข้มข้น แทนยาฆ่าหญ้าที่เป็นสารเคมีได้
2. ทำให้ดินร่วนโดยใส่ขี้วัวแกลบดิบ. น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, เมื่อดินร่วนแล้วใช้วิธี ถอนด้วยมือ บรรดา ราก/หัว/เหง้า/ไหล ของหญ้าจะหลุดขึ้นมา ไม่ขาดเหลือค้างให้งอกใหม่ได้อีก ถอนครั้งหนึ่งหญ้าไม่ขึ้นใหม่นานนับปี แปลงผักหวาน 365 ร่อง ถอนวันละร่องๆ ยังได้ .... ถอนขึ้นมาแล้วไม่ต้องเอาออกแต่ทิ้งไว้คุลมหน้าดิน .... เกมส์นี้ได้ 3 เด้ง ได้สารอาหารพืช ได้ดินร่วน ได้กำจัดวัชพืช
3. เลี้ยงห่าน .... ห่านดินกินหญ้า ห่านฟ้ากินยุง เริ่มจากทำรั้วป้องกันหมา (หมากินห่าน) แล้วปล่อยห่าน 10 ตัว/ไร่ แรกๆถ้าหญ้า สูง/แน่น มากๆ ให้ตัดก่อน เมื่อหญ้าแตกหน่อใหม่ห่านจะกินง่ายขึ้น ลองซี่ใน 3 เดือน หญ้าในแปลงหมด ห่านยังไม่โต ต้องไปหาหญ้าจากที่อื่นมาให้ห่านกิน .... เกมส์นี้ได้ 6 เด้ง ได้ปุ๋ยคอกขี้ห่าน, ได้จุลินทรีย์ย่อยสลายวัชพืช, ได้ดินร่วน, ได้กำจัดวัชพืช, ได้ห่าน, ได้ดินดี เปลี่ยนผักหวานเป็นปลูกอะไรก็ได้
หมายเหตุ :
- หญ้ามีประโยชน์ ช่วยสร้างความชุ่มชื้นผิวดิน
- หญ้าเป็นแหล่งอาศัยของจุลินทรีย์อย่างดี
- หญ้าแย่งอาหาร-หญ้าแย่งอาหาร แย่งเท่าไหร่เชียว หญ้าโตขึ้นมาตัดแล้วปล่อยให้เน่าสลาย ก็จะได้ปุ๋ยที่หญ้าเอาไปคืนมาแล้ว
- ดินตาย ดินเสีย เพราะยาฆ่าหญ้านี่แหละ ทั้งทำให้เสียโดยตรงและโดยอ้อม หญ้ามีประโยชน์ ทำไมไม่พิจารณาเอาส่วนที่เป็นประโยน์มาใช้
**** สวนนะ ไม่ใช่ลานวัด ต้องเลี่ยนเตียนโล่ง
- ถังฉีดพ่น เอาไปฉีดพ่นยาฆ่าหญ้าแล้วเอามาผสม ปุ๋ย/ฮอร์โมน ฉีดพ่น ใบพืชจะไหม้เพราะยังมีฤทธิ์ยาฆ่าหญ้าตกค้าง จึงไม่ควรใช้ถังเดียวกัน แต่ถ้าจะใช้ถังเดิม ให้แช่ถังฉีดพ่นด้วยน้ำเกลือเข้มข้นก่อน นาน 2-3 วัน เพื่อสลายฤทธิ์ยาฆ่าหญ้า .... ใครไม่เชื่อ ลองซี่
------------------------------------------------------------------------------------
.
|
|