-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-* ประเทศไทย ในฝัน
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - * ประเทศไทย ในฝัน
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

* ประเทศไทย ในฝัน

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11623

ตอบตอบ: 08/07/2024 9:13 am    ชื่อกระทู้: * ประเทศไทย ในฝัน ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.

.
.
********************** ประเทศไทย ในฝัน ***********************

ลำดับหัวข้อเรื่อง :
1. ประเทศเรา ประเทศไทย ประเทศเกษตร.... น่าจะมี
2. คนเรียนสูงระดับปริญญาเอก แต่ไม่ได้เรียนสาขาเกษตร
3. ในโลกนี้อาชีพที่มนุษย์ทำมี 2 อย่าง
4. วันนี้จะเอาเรื่อง “ปุ๋ย” อย่างเดียวไม่ได้
5. สมการปุ๋ยเคมี
6. สมการปุ๋ยอินทรีย์
7. สปริงเกอร์
8. ทุเรียน
9. เกษตรแจ๊คพ็อต
10. สร้างความพร้อมให้กับตัวเอง

11. อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย อาฟริกา ทั่วโลก
12. รวมงานวิจัยสารสมุนไพร
13. ข้าว
14. ปรัชญาสัจจะธรรม
15. หลัก 9 เลิกเด็ดขาด 9 ทำสม่ำเสมอ
16. ปฏิทินใช้สารเคมี
17. สำปะหลัง
18. เกษตร 5W. 1H.
19. สปริงเกอร์ให้ปุ๋ย
20. รอบรู้เรื่องแมลง

21. รอบรู้เรื่องหนอน
22. รอบรู้เรื่องโรค
23. รอบรู้เรื่องโลก
24. ผู้ส่งเสริม VS ผู้รับการส่งเสริม :
25. ตัวอย่างแหล่งน้ำธรรมชาติ รอการพัฒนา :
26. ประเทศไทย ประเทศเกษตร
27. ปุ๋ยเคมีที่มีอัตราส่วน
28. กำจัดวัชพืชในนาข้าว
29. ประเทศไทย แล้งคือแล้ง ท่วมคือท่วม
30. สัจจะธรรม ....

31. เวียดนามแบนสารเคมีไกรโฟเสต
32. ทีวี. สิงค์โปร์ เวียดนาม ไต้หวัน
33. เกมส์แบนสารเคมี 3 ฝ่ายวันนี้
34. สมุนไพรสูตรยาน็อค
35. ผักมีสารเคมีปนเปื้อน ในห้าง 60% ในตลาดสด 40%
36. คนที่อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย อาฟริกา ทั่วโลก
37. งานส่งเสริมแบบ ไม่ W. มีแต่ H.
38. สัจจะธรรมระดับโลก
39. อันตรายอาหารมียาฆ่าแมลงตกค้าง
40. สังคมไทย รวมไปถึงสังคมโลกวันนี้

41. ธรรมชาติไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีตัวเลข
42. ส่วนลึกของใจ
43. ปลูกเงาะระยะชิดพิเศษ
44. รัฐบาลเริ่มจับกุมร้านขาย “สารเคมี+ยาฆ่าหญ้า-ยาฆ่าแมลง”
45. จีนสนใจสารสกัดจากพืชถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
46. ยุโรป อเมริกา เลิกใช้ยาฆ่าหญ้า
47. ถ้าวิชาเกษตรมี 100 บท
48. ความหอมที่แฝงพิษร้ายของดอกมะลิ
49. นักเศรษฐศาสตร์การเกษตร
50. สารสมุนไพรป้องกันกำจัด โรคพืช แมลงศัตรูพืช

51. เปลี่ยน“ไม่รู้” ของตัวเองให้เป็น “รู้”
52. ประเภทของสารเป็นพิษ
53. อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย อาฟริกา ทั่วโลก
54. สัจจะธรรมระดับโลก สิ่งมีชีวิต (มนุษย์ สัตว์ พืช จุลินทรีย์)
55. สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
56. คนไทยอ่านหนังสือ
57. ไม่ใช่ "แนว" ของลุงคิม แต่เป็น "แนว" ของธรรมชาติ
58. ปุจฉา วิสัชนา
59. สมการปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
60. ที่นี่สอนให้ คิด วิเคราะห์ เปรียบเทียบ ฟันธง

61. เทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรง
62. ในธรรมชาติไม่มีตัวเลข ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีคันเร่ง ไม่มีบล็อก
63. เกษตรานุสติ
64. 2 ทศวรรษ 20 ปี กับงานเกษตร
65. ไม่มีพืชใดในโลกนี้ที่ไม่มีศัตรูพืชประจำตระกูลเผ่าพันธุ์
66. งานวิจัยด้านไบโอชีวภาพ
67. ต้นทุนค่าสาร ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืช 30%
68. ประเภทคำถาม สั้น-กระทัดรัด-ได้ใจความ
69. ทำอาชีพเกษตรวันนี้ต้องคิดใหม่ทำใหม่
70. คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ

71. ธาตุอาหารในระบิดเถิดเทิง
72. กินผักแล้วหน้าบวม
73. จับหลัก “คิด-วิเคราะห์-เปรียบเทียบ-ฟันธง” สู้กับศัตรูพืช
74. ทำไมบราซิลถึงเก่งเรื่องทำไร่อ้อย
75. เกษตรานุสติ แรงบันดาลใจ
76. เทคโนโลยี สปริงเกอร์/หม้อปุ๋ย

------------------------------------------------------------------------------------------

1. ประเทศเรา ประเทศไทย ประเทศเกษตร.... น่าจะมี
* เครื่องตรวจวัดคุณภาพผลไม้ :
แบบมือถือ วัด ความแก่-ความหวาน-ความเปรี้ยว ของ ผลไม้/พืชผัก แต่ละชนิด โดยใช้เครื่องวัดตัวนี้ “จี้ หรือ สัมผัส” ที่ผิวผลแล้วมีตัวเลขดิจิตอลบอกเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ผู้ซื้อมีความต้องการ เกรด-รส ของผลไม้ที่ต่างกัน

* เครื่องวัด ชนิด/ปริมาณ ของธาตุอาหารของผลไม้ :
แบบมือถือ โดยใช้เครื่องวัดตัวนี้ “จี้ หรือ สัมผัส” ที่ผิวผลแล้วมีตัวเลขดิจิตอลบอกเปอร์เซ็นต์ความหวาน วันนี้ ต้องเฉือนเนื้อผลไม้ผลนั้นใส่เครื่องส่องตรวจค่า ชนิด/ปริมาณ ของธาตุอาหารของผลไม้ ตรวจแล้วรู้เฉพาะผลที่ตรวจเท่านั้น ผลอื่นไม่รู้ และผลที่เฉือนเนื้อออกมาแล้วก็ขายไม่ออกด้วย

* เครื่องวัด ปริมาณของเนื้อ ขนาดของเมล็ด ของธาตุอาหารของผลไม้ :
แบบมือถือ โดยใช้เครื่องวัดตัวนี้ “จี้ หรือ สัมผัส” ที่ผิวผลแล้วมีตัวเลขดิจิตอลบอกปริมาณเนื้อ ขนาดของเล็ด วันนี้ ต้องเฉือนเนื้อผลไม้ผลนั้นใส่เครื่องส่องตรวจค่าปริมาณเนื้อ ขนาดของเล็ด ของผลไม้ ตรวจแล้วรู้เฉพาะผลที่ตรวจเท่านั้น ผลอื่นไม่รู้ และผลที่เฉือนเนื้อออกมาแล้วก็ขายไม่ออกด้วย

* เครื่องวัด ปริมาณกลิ่นของผลไม้ :
แบบมือถือ โดยใช้เครื่องวัดตัวนี้ “จี้ หรือ สัมผัส” ที่ผิวผลแล้วมีตัวเลขดิจิตอลบอกปริมาณกลิ่นของผล วันนี้ ต้องเฉือนเนื้อผลไม้ผลนั้นใส่เครื่องส่องตรวจปริมาณของผลไม้ ตรวจแล้วรู้เฉพาะผลที่ตรวจเท่านั้น ผลอื่นไม่รู้ และผลที่เฉือนเนื้อออกมาแล้วก็ขายไม่ออกด้วย

* เครื่องวัดความหวานของผลไม้ :
แบบมือถือ โดยใช้เครื่องวัดตัวนี้ “จี้ หรือ สัมผัส” ที่ผิวผลแล้วมีตัวเลขดิจิตอลบอกเปอร์เซ็นต์ความหวาน วันนี้ ต้องเฉือนเนื้อผลไม้ผลนั้นใส่เครื่องส่องตรวจค่าความหวาน ตรวจแล้วรู้เฉพาะผลที่ตรวจเท่านั้น ผลอื่นไม่รู้ และผลที่เฉือนเนื้อออกมาแล้วก็ขายไม่ออกด้วย

* เครื่องตรวจวัดสารเคมี :
แบบมือถือ ตรวจวัดสารเคมียาฆ่าแมลงปนเปื้อนบนผลผลิตทางการเกษตรทุกชนิด ทุกประเภท โดยใช้เครื่องวัดตัวนี้ “จี้ หรือ สัมผัส” ที่ผิวผลแล้วมีตัวเลขดิจิตอลบอกเปอร์เซ็นต์สารเคมียาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนให้รู้

************************************************

2. คนเรียนสูงระดับปริญญาเอก แต่ไม่ได้เรียนสาขาเกษตร
จึงไม่มีความรู้เรื่องเกษตร เป็นธรรมดา ฉันใด คนที่เรียนมาน้อย ที่เรียนก็ไม่ได้เรียนสาขาเกษตรซะอีก จึงไม่มีความรู้เรื่องเกษตรก็เป็นเรื่องธรรมดา ฉันนั้น ....

คนที่เรียนในโรงเรียน มหาลัย สถานศึกษา มีครูผู้สอนพูดอยู่หน้าห้องเรียน คนเรียนจึงมีความรู้ แต่คนที่ไม่ได้เรียนในสถานศึกษา ไม่มีครูมาพูดให้ฟัง แต่อ่านหนังสือเอง อ่านที่บ้าน อ่านในแปลงเกษตร อ่านไปดูของจริงไป ก็สามารถมีความรู้ได้เช่นกัน

มีหนังสือไว้ในบ้านเหมือนเป็น เอกสาร/ตำรา/คัมภีร์/มรดก ใช้ได้ตลอดชีวิต ถ่ายทอดให้ลูกหลานเหลนโหลน อ่านในบ้าน อ่านในแปลงไต้ต้นไม้ อ่านไปดูไป เชื่อเถอะ รุ่นเดียวรอบเดียว ก็เก่งได้

*************************************************

3. ในโลกนี้อาชีพที่มนุษย์ทำมี 2 อย่าง
คือทำ “ของกิน (เกษตรกรรม)” กับทำ “ของใช้ (อุตสาหกรรม)” ประเทศที่ทำของใช้ทำของกินไม่ได้ เพราะพื้นที่ทำของกินไม่ได้ แต่ประเทศที่ทำของกิน ทำของใช้ได้ ทำของกินได้ เพราะพื้นที่ไม่จำกัด ในเมื่อประเทศทำของใช้ต้องกินจึงต้องขายสิ่งที่ทำคือขายของใช้แล้วเอาเงินมาซื้อของกิน

สัจจะธรรมโลกในเมื่อประเทศไทยทำได้ทั้ง ของกิน/ของใช้ จึงน่าจะทำทั้งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม นั่นคือ “เกษตรอุตสาหกรรม” โดยนำผลผลิตทางเกษตรกรรมมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้ครบวงจร ต้นน้ำ/กลางน้ำ/ปลายน้ำ ทำให้ได้ เกรด เอ. ปลอดสารเคมี/ฯลฯ

**************************************************

4. วันนี้จะเอาเรื่อง “ปุ๋ย” อย่างเดียวไม่ได้ ต้อง...
* ตามความเหมาะสมของ ดิน...
* ตามความเหมาะสมของ น้ำ...
* ตามความเหมาะสมของ แสงแดด อุณหภูมิ ฤดูกาล...
* ตามความเหมาะสมของ สารอาหาร....
* ตามความเหมาะสมของ สายพันธุ์ ....
* ตามความเหมาะสมของ โรค ....
* ตามความเหมาะสมของ ตลาด...
* ตามความเหมาะสมของ คนในบ้าน... มา คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ แล้วจึง “ฟันธง” เพราะธรรมชาติไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีตัวเลข

ตามความเหมาะสม “..?..” ในเครื่องหมาย ..?.. หมายถึง พืช และ/หรือ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ปลูกพืชตามใจพืช ไม่ใช่ตามใจคน.... เพราะคน คิดเอง ถามเอง ตอบเอง

อาหารพืช-อาหารคน .... ธาตุหลักเปรียบเสมือนข้าว ธาตุรองเสมือนกับข้าว ธาตุเสริมเสมือนของหวาน ฮอร์โมนเสมือนของว่าง

ดินคือ ที่กิน ที่อยู่ของต้นพืช
จุลินทรีย์ คือ แม่ครัวของพืช

ลดปุ๋ยเคมี เพิ่มปุ๋ยอินทรีย์ และสารปรับปรุงบำรุงดิน
ลดธาตุหลัก เพิ่มธาตุรอง ธาตุเสริม ฮอร์โมน วิตามิน

--------------------------------------------------------------------

5. สมการปุ๋ยเคมี :
ปุ๋ยถูก + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล
ปุ๋ยผิด + ใช้ถูก = ไม่ได้ผล
ปุ๋ยผิด + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล ยกกำลังสอง
ปุ๋ยถูก + ใช้ถูก = ได้ผล ยกกำลังสอง

ปุ๋ยถูก หมายถึง ถูกสูตร-ถูกประเภท-ถูก พีเอช.-ถูกปริมาณ-ถูกทุกอย่างที่ เกี่ยวเนื่อง/เกี่ยวข้อง ทั้ง โดยตรง/โดยอ้อม และ ระยะสั้น/ระยะยาวกับตัวปุ๋ย.....

ใช้ถูก หมายถึง ถูกพืช-ถูกดิน-ถูกน้ำ-ถูกอุณหภูมิ-ถูกเครื่องมือ-ถูกทุกอย่างที่ เกี่ยวเนื่อง/เกี่ยวข้อง ทั้ง โดยตรง/โดยอ้อม และ ระยะสั้น/ระยะยาว กับตัวพืช....

ศ.ดร.สัมฤทธิ์ เฟื่องจันทร์ แห่ง ม.ขอนแก่น ได้ทำการวิจัยการตอบสนองของมะม่วงต่อการใส่ปุ๋ยทางรากด้วยวิธีการต่างๆ แบ่งมะม่วงในแปลงเป็น 3 โซน เป้าประสงค์ต้องการให้มะม่วงได้รับปุ๋ยทางราก ต้นละ 3 กก. /3 เดือน โดยแบ่งการให้ ดังนี้

โซนที่ 1 ใส่ต้นละ .5 กก. /15 วัน เท่ากับใส่ 6 ครั้ง ในรอบ 3 เดือน
โซนที่ 2 ใส่ต้นละ 1 กก./เดือน เท่ากับใส่ 3 ครั้ง ในรอบ 3 เดือน
โซนที่ 3 ใส่ต้นละ 3 กก./เดือน เท่ากับใส่ 1 ครั้ง ในรอบ 3 เดือน

ผลการวิจัยพบว่า....
โซนที่ 1 แสดงอาการเจริญเติบโตชัดเจนที่สุด และดีที่สุด
โซนที่ 2 แสดงอาการเจริญเติบโตน้อยกว่าโซนที่ 1 และดีกว่าโซนที่ 3
โซนที่ 3 แสดงอาการเจริญเติบโตน้อยที่สุด

สรุป :
นี่คือการให้ปุ๋ยแบบ "ให้น้อย บ่อยครั้ง ตรงเวลา" ดีที่สุด
2. ERRI ศูนย์วิจัยข้าวโลก ฟิลิปปินส์ ระบุ/ยืนยัน ข้าว 1 ไร่ 1 รุ่น ใช้ปุ๋ยเคมีเพียง 10 กก.เท่านั้น

3. งานสัญจร วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี สมช. 4 ราย ยืนยันนั่งยันนอนยันตีลังกายันตรงกัน ปลูกผักกินใบ ผักกาดคะน้ากวางตุ้ง แนวลุงคิม ใช้ปุ๋ยลุงคิม ไบโออิ. ไทเป. ยูเรก้า. แคลเซียม โบรอน. ระเบิดเถิดเทิง. ใช้มาตลอด 10 ปี ลดต้นทุนที่จ่ายเป็นเงินค่าปุ๋ยเคมี เฉพาะปุ๋ยเคมีอย่างเดียวลงได้กว่าครึ่ง ต้นทุนค่าอย่างอื่นที่จ่ายเป็นเงินก็ลดลงด้วย ที่สำคัญคุณภาพต้นของผัก คนซื้อพอใจมากๆ ๆๆ .... เมื่อก่อนให้ทางใบทุก 7 วัน ตามคำแนะนำ วันนี้ให้ 10 วัน/ครั้ง บางที 12 วัน 15 วัน/ครั้ง ผักก็ยังดีได้ นี่แสดงว่า ในดินมีความสมบูรณ์สะสม สะสมจากธาตุอาหารที่ให้ประจำๆ ต่อเนื่องมานานๆ นี่คือ ให้น้อยบ่อยครั้ง.... ก็ได้นั่นเอง

ทั้งปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ ต่างก็เป็นสารอาหารสำหรับพืชเหมือนๆกัน การปฏิเสธหรือรับอย่างใดอย่างหนึ่งต้องอยู่บนพื้นฐานเหตุและผล นั่นคือ ในความเป็นปุ๋ย ปุ๋ยตัวไหนในจำนวน 14 ตัว ประเภทให้ทางใบหรือทางราก แต่ละตัวปริมาณเท่าไหร่ กับอื่นๆ เช่น ฮอร์โมน วิตามิน ณ วันที่พืชต้องการใช้

ปุ๋ยทั้ง 14 ตัว N. P. K. Ca. Mg. S. Fe. Cu. Zn. Mn. Mo. B. Si. Na. ทุกตัวต่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผล ทั้งโดยตรงโดยอ้อมต่อพืชและต้นข้าว ทั้งนั้น หากขาดตัวใดตัวหนึ่งจะทำให้การพัฒนาเจริญเติบโตของต้นพืชหรือต้นข้าวไม่สมบูรณ์แบบ หรือไม่ 100% เปรียบคนที่ขาดสารอาหารแล้วเกิดอาการ “ทุโภชนา หรือ โรคขาดสารอาหาร” นั่นเอง

พืชอายุสั้นฤดูกาลเดียวต้องการใช้ธาตุอาหารหรือสารอาหารไม่มากนัก ลำพังแค่ธาตุอาหารหรือสารอาหารอินทรีย์ อัตราหรือปริมาณที่มีในธรรมชาติก็พอเพียงต่อการพัฒนาเจริญ เติบโต เกรด เอ. จัมโบ้.ได้ ในขณะที่พืชอายุยืนนาน หลายๆปี ต้องใช้ธาตุอาหารหรือสารอาหารมากกว่า จึงจะพอเพียงต่อการพัฒนาเจริญเติบโต เกรด เอ. จัมโบ้. ได้

คำว่า “ปุ๋ยเคมี” กับ “สารเคมี” มีคำว่า “เคมี” เหมือนๆกัน แต่ความหมายต่างกันราวฟ้ากับดิน... ปุ๋ยเคมี คือ สารอาหาร คนกินได้ แต่สารเคมี คือสารพิษ คนกินตาย

สโลแกนการใช้ปุ๋ยวันนี้ที่ว่า “ลดปุ๋ยเคมี เพิ่มปุ๋ยอินทรีย์และสารปรับปรุงบำรุงดิน.... กับกรณีพืชอายุสั้นฤดูกาลเดียว “ลดปุ๋ยทางราก เพิ่มปุ๋ยทางใบ” คือสิ่งที่เหมาะสมถูกต้องที่สุด

ปัญหาจริงๆของปุ๋ยอินทรีย์ คือ ธาตุอาหารในปุ๋ยอินทรีย์

**************************************************

6. สมการปุ๋ยอินทรีย์ :
วัสดุหลักถูก + วัสดุเสริมถูก + จุลินทรีย์ถูก + วิธีทำถูก + อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องผิด = ไม่ได้ผล
วัสดุหลักถูก + วัสดุเสริมถูก + จุลินทรีย์ถูก + วิธีทำผิด + อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องผิด = ไม่ได้ผล
วัสดุหลักถูก + วัสดุเสริมถูก + จุลินทรีย์ผิด + วิธีทำผิด + อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องผิด = ไม่ได้ผล
วัสดุหลักถูก + วัสดุเสริมผิด + จุลินทรีย์ผิด + วิธีทำผิด + อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องผิด = ไม่ได้ผล
วัสดุหลักผิด+วัสดุเสริมผิด+จุลินทรีย์ผิด+วิธีทำผิด+อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องผิด=ไม่ได้ผล ยกกำลังห้า
วัสดุหลักถูก+วัสดุเสริมถูก+จุลินทรีย์ถูก+วิธีทำถูก+อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องถูก=ได้ผล ยกกำลังห้า

ทุกหัวข้อต้อง “ถูก” เท่านั้น จึงจะ = ได้ผล
หัวข้อใดหัวข้อหนึ่งเพียงหัวข้อเดียว “ผิด” = ไม่ได้ผลทันที

ทุกครั้งที่ให้ปุ๋ยทางใบ ถือโอกาส +สารสมุนไพร ไปด้วย นอกจากประหยัดต้นทุนค่าสารเคมีแล้วยังได้อะไรต่อมิอะไรทาง + อีกตั้งหลายรายการ

*************************************************

7. สปริงเกอร์ :
ความจริง-1 : สปริงเกอร์ที่ติดๆ ๆๆ กันทั่วไป เท่าที่เห็นใน ร่อง/แถว เดียวกัน ทำงาน 3-4 หัวแรกพ่นน้ำแรงมาก, 3-4 หัวกลาง พ่นน้ำแรงกลาง, แต่ 3-4 หัวท้ายพ่นน้ำออกค่อย เป็นอย่างนี้ทุก ร่อง/แถว

ความจริง-2 : ทำงานพ่นน้ำได้อย่างเดียว ปล่อยปุ๋ย (ทางราก/ทางใบ), ฮอร์โมน, ยา (เคมี/สมุนไพร) ไปทางสปริงเกอร์ไม่ได้ ต้องแยกทำงานต่างหาก สูญเสียเท่าไหร่....เกษตรกรอเมริกาส่ง ปุ๋ย/ยา ผ่านไปกับสปริงกเกอร์มานานกว่า 50 ปี คนไทยไปเรียนที่อเมริกาไม่รู้ เพราะไม่ได้เรียนเกษตรแต่มีเพื่อนเป็นอเมริกันไม่ใช่เหรอ แม้แต่คนไทยอยู่เมืองไทยไม่ดูอินเตอร์เน็ต

ความจริง-3 : ฉีดพ่นสารเคมี 1 รอบ เทียบกับฉีดพ่นสารสมุนไพร 10-20 ครั้ง ความ สูญเสีย/สิ้นเปลือง อย่างไหน มาก/สูง กว่ากัน

ความจริง-4 : ไม่ใช้สารเคมียาฆ่าแมลง แต่ใช้สารสมุนไพรแทน ได้เครดิตจากคนรับซื้อ ได้คำชมจากคนกิน ได้กุศลแก่ตัวเอง แก่ทุกคนในครอบครัว ถึงบ้างข้างเคียง

ความจริง-5 : ทำอย่างเดิมคงไม่มีอะไรดีไปกว่าเดิม เผลอๆ อาจจะเลวร้ายไปกว่าเดิมด้วย

ความจริง-6 : ยุคนี้สมัยนี้วันนี้ งานที่ทำจะเป็นงานอดิเรกหรืองานหลัก สมัครเล่นหรืออาชีพ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ “เทคโนโลยี” ว่าด้วย เทคโนโลยีการผลิต เทคโนโลยีการจัดการ เทคโนโลยีการบริหาร เทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรง เทคโนโลยีการตลาด เทคโนโลยีการโฆษณาประชาสัมพันธ์

ประเด็นเทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรง สำหรับงานสวนเกษตรด้านพืช เพื่อให้ได้ คุณภาพดี, ปริมาณผลผลิตมาก, ประสิทธิภาพ ระยะสั้น/ระยะปานกลาง/ระยะยาว สูง, ต้นทุนค่าเวลาสั้น, ต้นทุนค่าแรงต่ำ, ต้นทุนค่าพลังงานน้อย, ต้นทุนค่าอารมณ์ไม่มี, ฯลฯ, .... ถึงวันนี้ยืนยันได้ว่า ระบบสปริงเกอร์ คือ หนึ่งในเทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรงนี้

*************************************************

8. ทุเรียน
ราชาแห่งผลไม้ วันนี้กลายเป็น ไม้ผลมหัศจรรย์ ไม้ผลในฝัน เนื้อที่ 1 ไร่ พันธุ์ทั่วๆไปได้ขาย 1 รอบ ราคาหน้าสวน กก.ละ 100 แต่พันธุ์หมอนทองออกลูกทั้งปี ได้ขายหลายรอบ ราคาหน้าสวน กก.ละ 100 เหมือน กัน แล้วไม้ผลอย่างอื่นล่ะ เนื้อที่ 1 ไร่ ได้ขาย 1 รอบ ราคาหน้าสวน กก.ละ 10 บาท....

ทุเรียนทั่วประเทศออกสู่ตลาดเรียงลำดับ จากเชียงรายเหนือสุด ไล่ลงมา ภาคกลาง ภาคอิสาน ภาคตะวันออก แล้วต่อไปภาคใต้ แม้แต่ภาคไต้ยังแบ่งภาคไต้ตอนบน ภาคไต้ตอนล่าง สรุปก็คือ แผ่นดินไทยมีทุเรียน กิน/ขาย ได้ตลอดปีไม่มีฤดูกาล งานนี้ไม่ใช่เฉพาะแจ๊คหม่าชอบใจคนเดียว แจ๊กหม่ำ ทั่วโลกก็ยิ้มด้วย เหลือแต่คนคนไทย “ผู้ผลิต เป็นผู้ขาย” ได้หรือไม่...

ด้วยศักดิ์ศรี“ราชาแห่งไม้ผล” ไม่ต้องรอตลาดต่างประเทศ แค่ในประ เทศก็ไม่พอขายแล้ว แบ่งแปลงปลูกเป็นโซนๆ แล้วทำ “ทุเรียนแจ๊คพ็อต” บำรุงให้ออกครั้งละโซน ๆๆ โซนละกี่ต้นก็ว่ากันไป ระบบการตลาดแบบนี้จะดีไหม ที่สำคัญ ผลผลิต เกรด เอ. จัมโบ้. รับรองไม่พอให้จองล่วงหน้า

เกมส์นี้จะผ่านได้ด้วย “เทคโนโลยี” เท่านั้น เทคโนโลยีการบริหารจัดการ เทคโนโลยีการผลิต เทคโนโลยีการตลาด แม้แต่เทคโนโลยีการโฆษณาประ ชาสัมพันธ์ .... ต้องเปิดใจ
ยอมรับ ทำแบบเดิมคงไม่มีอะไรดีไปกว่าเดิม....

****************************************************

9. เกษตรแจ๊คพ็อต
เกษตรแจ๊คพ็อต...เกษตรแจ๊คพ็อต... สั้นๆคำนี้ น่า จะเป็นแรงบันดาลใจ เป็นแสงสว่างปากถ้ำ เป็นป้าหมายชีวิตที่ตัวเองอยากให้เป็น เป็นๆ ๆๆ ๆๆ เป็นอะไรก็ได้ที่ตัวเองอยากให้เป็น

เกษตรแจ๊คพ็อต หมายถึง ผลผลิตที่ได้ราคาแพงตามสภาวะการตลาด เรียกว่า DEMAND SUPPLY (อุปสงค์-อุปทาน) หรือ สินค้ามีน้อยแต่ผู้ซื้อมีมาก หรือ สินค้ามีน้อย น้อยกว่าปกติ แต่ผู้บริโภคมีเท่าเดิม ประมาณนี้...สภา วะการตลาดแบบนี้ไม่มีมาตรฐานรองรับ ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ บางครั้ง

อยากจะเรียกว่า “ฟลุก หรือ ดวง” ด้วยซ้ำ ผู้ที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุดคือ “แม่ค้า” ในย่านนั้นว่า อะไรราคาแพงเดือนไหน เพราะอะไร หรือรู้แม้แต่คนที่เคยทำได้ มีตัวตน มีเบอร์โทร ....

เหนือกว่าเกษตรแจ๊คพ็อต คือ “เกษตรประณีต” ที่ทุกอย่างมีมาตรฐานรองรับอย่างเป็นเหตุเป็นผล ไม่ใช่ฟลุก ไม่ใช่ดวง แต่เป็นมือโดยแท้ ชนิดที่พูดได้เต็มปาก “ก.ทำกับมือ ม.อย่าเถียง...” ประมาณนั้น

การที่จะทำได้ประสบความสำเร็จอยู่ที่ “ใจ” ใจเอาใจสู้ ใจมาก่อนฝีมือมาทีหลัง คนเราความเก่งเท่าๆกัน แต่แพ้ชนะกันที่โอกาส โอกาสลอยอยู่ในอากาศ ใครคว้าไว้ได้ก็ได้ ไม่คว้าก็ลอยหายไปหาคนอื่น ....

ระหว่าง ทำ กับ ไม่ได้ทำ ....
ทำถูก = ได้ คือ กำไร
ทำผิด = ไม่ได้ คือ ขาดทุน เป็นหนี้
ไม่ได้ทำ = ไม่ได้ คือ เท่าทุน หรือ ขาดทุน ลงท้ายเป็นหนี้

เกษตรที่ทำอยู่ ณ วันนี้ คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ/ฟันธง ซิ
* ให้ได้ปริมาณมากกว่านี้ ทำยังไง ? .... ได้น้อย ได้เท่าเดิม ได้เท่าข้างบ้าน สาเหตุเกิดจากอะไร ? ปรับ/เปลี่ยน/แก้ไข ยังไง ?

* ให้ได้คุณภาพเหนือกว่านี้ ทำยังไง ? .... คุณภาพต่ำ คุณภาพเท่าเดิม คุณภาพเท่าข้างบ้าน สาเหตุเกิดจากอะไร ? ปรับ/เปลี่ยน/แก้ไข ยังไง ?

* ให้ต้นทุน ทุนซื้อ/ทำเอง ต่ำกว่านี้ ทำยังไง ? .... สาเหตุเกิดจากอะไร ? ปรับ/เปลี่ยน/แก้ไข ยังไง ?

* ให้ได้เครดิตความน่าเถือมากกว่านี้ ถึงขนาดจองล่วงหน้า ซื้อเหมายกสวน ทำยังไง ? .... สาเหตุเกิดจากอะไร ? ปรับ/เปลี่ยน/แก้ไข ยังไง ?

* วิธีทำ รูปแบบการทำของตัวเองคือ ทำแบบเดิม ผลรับทุกอย่างเหมือเดิม เพราะอะไร ? .... สาเหตุเกิดจากอะไร ? ปรับ/เปลี่ยน/แก้ไข ยังไง ?

* วิธีทำ รูปแบบการทำของคนอื่น ผลรับทุกอย่างเหนือกว่าของเรา เพราะอะไร ? .... สาเหตุเกิดจากอะไร ? ปรับ/เปลี่ยน/แก้ไข ยังไง ?

* ฯลฯ

*** คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ บนเหตุและผล :
เนื้อที่ 1 ไร่ ไม้ผลทั่วไป ทำงานทั้งปี ได้ขายรอบเดียว ราคาหน้าสวน กก.ละ 20 บาท.. ทุเรียนหมอนทองออกลูกทั้งปี พันธุ์ทั่วไปออกลูกปีละครั้ง หน้าสวน กก.ละ 100 บาท

เนื้อที่ 1 ไร่ ผลไม้ทั่วไป ทำงานทั้งปี ออกลูกปีละครั้ง ราคาหน้าสวน กก.ละ 20 บาท..... ส้มเขียวหวาน มะนาว มะพร้าวน้ำหอม ทำงานทั้งปี ได้ขาย 3-4-10 รอบ

เนื้อที่ 1 ไร่ นาข้าว ยูเรีย 16-20-0 ได้ 80 ถัง ราคาที่โรงสี 8,000 .... นาข้าวแนวสีสันฯ ได้ 100 ถัง ราคาที่โรงสี 10,000 ข้าวราคาดี :ข้าวปลูก, ข้าวหอมพร้อมหุง, ข้าว จีไอ.พร้อมหุง,

เนื้อที่ 1 ไร่ สำปะหลัง/เผือก แบบเทวดาเลี้ยง ทำงานทั้งปี ได้ 3 ตัน ..... สำปะหลัง/เผือก แนวสีสันฯ ทำงานทั้งปี ได้ 20+ ตัน

เนื้อที่ 1 ไร่ อ้อยโรงงาน แบบเทวดาเลี้ยง ทำงานทั้งปี ตอ 1 ได้ 12 ตัน, ตอ 2 ได้ 6 ตัน, ตอ 3 ล้มทิ้งปลูกใหม่ ..... อ้อยโรงงาน แนวสีสันฯ ตอ 1 ได้ 20 ตัน ตัดแล้วเลี้ยงตอต่อ 8 รอบ รอบละ 14 ตัน

************************************************

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©