-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-เด็กสระบุรีขอร้องลุงคิมครับผม
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - เด็กสระบุรีขอร้องลุงคิมครับผม
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

เด็กสระบุรีขอร้องลุงคิมครับผม

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
hang
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 11/11/2009
ตอบ: 25

ตอบตอบ: 02/06/2010 9:17 pm    ชื่อกระทู้: เด็กสระบุรีขอร้องลุงคิมครับผม ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เนื่องจากว่าสำนักงานเกษตรจังหวัดสระบุรีได้มีโครงการจัดงาน "เกษตรแฟร์" จึงใคร่ขอเรียนเชิญลุงคิมที่เคารพของพวกกระผม และขณะสีสันชีวิตไทย ร่วมงานออกบู๊ทเพื่อให้ความรู้และจำหน่ายสินค้าแก่เกษตรกรผู้สันใจ (โดยเฉพาะพวกกระผมขอรับ) จึงขอเรียนเชิญมา ณ โอกาสนี้ งานเริ่มตั้งแต่ 7-9 ก.ค.2553

ป.ล.
ผมจำได้ว่า ลุงคิมบอก ผมใจง่าย รักพวกคุณโดยที่ยังไม่ได้รู้จักชื่อด้วยซ่ำ แฮ้ ๆ ถ้ารักกันจริงมาร่วมงานกับชาวสระบุรีสักครั่งนะครับ อยากบอกว่าแฟนคลับลุงคิมเพี้ยบเลยครับ

ไม่ได้โม้....น๊ะคร้าบ Very Happy
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 03/06/2010 7:52 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ประสบการณ์ตรง......เจ็บจี๊ดจ๊ด ปวดหนึบหนึบ


กาลครั้งนั้น....

คราวหนึ่งที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี งานอะไรจำไม่ได้แต่เกี่ยวเนื่องกับโครงการเงินกู้เพื่อการเกษตร เกษตรจังหวัดเป็นเจ้าภาพ มีเกษตรกรมาในงานราว 2,000 คน ลุงคิมได้รับการติดต่อจาก ผญบ. (ระดับแหนบทองคำ....ชอบพอกันเป็นส่วนตัว....ยอมรับแนวทางทำเกษตรแบบของพวกเรา และมีประสบการณ์ตรงอย่างสูง) ให้ไปบรรยายเรื่องการเกษตรแนวใหม่ตามสไตล์ ไม่มีค่าตัว ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ลุงคิมรับปาก ไปพร้อมกับกองคาราวาน ไปถึงที่เห็นบรรยากาศแล้วรู้เลยว่างานนี้ "ไม่ใช่" เกษตรกรกลุ่มนี้ไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า "คิดนอกกรอบ" แน่ .... ราวๆ 11 โมงเช้า งานราชการพิธีเสร็จสิ้น ผญบ.กล่าวนำว่าวันนี้มีสิ่งดีๆ มาบอกกล่าวซะยาวเหยียด แล้วเชิญ (ยุ) ให้ลุงคิมขึ้นโพเดียม ลุงคิมก็ขึ้น (บ้ายอ) ขณะเดินสู่โพเดียมที่วางอยู่กับพื้น (ไม่มีเวที) นั้น กลุ่มเกษตรกรเริ่มทะยอยเดินออก ไม่สนใจฟังแม้แต่ที่ ผญบ.พูดเชิญชวน.....ลุงคิมขึ้นโพเดียมเห็นมีเกษตรกร จาก 2,000 เหลืออยู่ราว 50 คน พูดไปซัก 10 นาที คราวนี้จาก 50 ลดเหลือ 10 ..... เมื่อบรรยากาศที่ "ไม่ใช่" ชัดเจนแน่แล้ว ตัดสินใจผละออกมาจากโพเดียมซะเฉยๆ ไม่บอกกล่าวอะไรแม้แต่คำเดียวกับเกษตรกรทั้ง 10 คนที่เหลือนั้นด้วย....บอก ผญบ.ว่า "ผมกลับละ...ขอบคุณ" บอกกับกองคาราวาน "ไอ้เสือ....ถอย"

อีกคราวที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ได้รับการร้องขอจากชาวบ้าน นัยว่าเป็นสมาชิกรายการวิทยุ ให้ไปพูดเรื่องการทำเกษตรแนวใหม่ ในงาน "ผักสวนครัวปลอดสารพิษ" ลุงคิมก็ไปพร้อมกับกองคาราวาน งานนี้มีเวทีสูงใหญ่มาก เป็นเวทีงิ้ว จึงให้ลุงคิมขึ้นไปบนเวทีนั้น ขึ้นไปแล้วเห็นมีคนเมานอนอยู่ก่อน 2 คน ทั้งๆที่ 10 โมงเช้าแล้ว งานนี้สอบถามคนที่ติดต่อทราบว่าทางราชการที่จัดงานไม่รู้เรื่องที่เชิญลุงคิมมาด้วย แต่เป็นความคิดริเริ่มของแฟนรายการวิทยุ (ไม่รู้จักกันเป็นส่วนตัวมาก่อน) เท่านั้น..... เอาวะ ไหนๆ ก็ ไหนๆ เลยตามเลยน่ะ เกิดเป็นชายหมายมาดว่าชาติเชื้อ ถึงปะเสือก็จะสู้ดูสักที กะว่าขึ้นเวทีแล้วขอใช้วาทะกรรมเรียกคนทีหลังด้วยลีลานักปฏิบัติการจิตวิทยา นักปลุกระดมมวลชน ประมาณนั้น ..... ขึ้นเวทีงิ้วไปแล้ว ยังไม่ได้เอ่ยวาจาใดๆ เสียงคนส่งผักประกวดกับคนเอาผักมาขาย ทะเลาะกันตามแบบฉบับแม่ค้าปากตลาด เสียงดังลั่นไปทั้งงาน "ผักมึงน่ะ ฉีดยาเมื่อเช้านีร้เอง แล้วเอามาหลอกขายเขา...." เอาละซี งานนี้เอาไงดี อีตาคิมก็เลยแสดงท่าออกงิ้ว สวมวิญญาน "โลซก - ลกเจ๊ก....ว้ากกกก ผ่างๆๆๆ" กรีดกรายเดินลงมาจากเวทีซะงั้นแหละ โฉบไปหลังบู๊ธคาราวาน กางเตียงผ้าใบเอนนอน คิดอยู่ว่า งานนี้จ้างกู "1 แสน" ก็ไม่เอา.....


เอาแค่เฉพาะสระบุรีคงพอนะ เพราะประสบการณ์ตรงเกือบ 10 ปี ที่เคยพานพบมายังมีอีกหลายจังหวัด หลายที่ หลายครั้ง ถึงขนาดมีเหมือนกันนะที่บางครั้งไม่มีมาคนฟังเลยแม้แต่คนเดียว.....ทุกครั้งที่เกิดผิดพลาดทางเทคนิค ลุงคิมไม่เสียใจ ไม่ต๊อแต๊ เพราะถือว่า "มาให้ - ไม่ใช่มาขอ" ไปแล้วกลับอย่างสง่าผ่าเผยได้เพราะ "ไม่คิดค่าตัว ไม่ขอค่าใช้จ่าย" แม้แต่ข้าวน้ำยังซื้อกินเอง


ลุงคิมเข้าใจในความปรารถนาดีคุณมีต่อเกษตรกร แต่อยากถามย้อนสักหน่อยว่า ราชการหรือหน่วยงานที่จัดงาน เขา o.k. ด้วยไหม เขารู้จักลุงคิมไหม เขายอมรับแนวทางเกษตรของพวกเราไหม ไม่ใช่แค่เราชาวบ้านธรรมดาๆ รู้จักลุงคิม ยอมรับหลักการลุงคิม แล้วเชิญลุงคิมไปโดยเอาผู้ฟังรายการวิทยุมาอ้าง.....คุณมั่นใจหรือว่า จะมีเกษตรกรที่สนใจจริงๆ จำนวนมาก (20 คนก็ถือว่ามากแล้ว) จะมาฟัง มาเรียนรู้

ถึงวันนี้บอกตามตรงเลยนะว่า ลุงคิมขอ "หยิ่ง" เพราะถือว่าเรามี "ของแท้ - สอนฟรี - เลี้ยงข้าว" ด้วย ใครอยากได้ อยากรู้อยากทำเป็น ใครอยากเรียนก็สอน ใครอยากรู้ก็บอก ไม่มีเงื่อนไขผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น แต่ต้องมาเรียนเองที่ไร่กล้อมแกล้มเท่านั้น เรียนกันแบบ LEARNING BY DOING ไปเลย สอนแบบ "ปฎิบัตินำ ทฤษฎีเสริม" นั่นแหละ การที่ลุงคิมไปพูด แล้วก็พูดพูดพูด มันเหมือนเขียนหนังสือบนอากาศให้คนอ่าน คนฟังจะรู้จะเข้าใจหรือ ลุงคิมไม่อยากออกงาน TALK SHOW ไม่ใช่ดาราตลกปัญญาอ่อนไปพูดเรื่องเกษตร ฟังกันแค่สนุกๆ หัวเราะตกเก้าอี้ ลุกขึ้นไปได้ ลืม !

ส่วนเรื่องคาราวาน สอบถามหน่อยว่า "ค่าบู๊ธ" เท่าไหร่ ไปแล้ว 3 วัน 2 คืน มีห้องน้ำไหม ที่ผ่านมา ถ้าเป็นบู๊ธราชการน่ะ ค่าบู๊ธแพงมากๆ พวกเราไม่อยากขายของแพงๆเพื่อหาเงินค้าบู๊ธ


สรุป....งานนี้เอาไงดี
ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
nokkhuntong
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 26/02/2010
ตอบ: 256

ตอบตอบ: 03/06/2010 6:12 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สนับสนุนให้ลุง "หยิ่ง" ต่อไปค่ะ จริงน่ะ

" ของดี - สอนฟรี - เลี้ยงข้าว " ของแท้ๆ มีที่ไหนกันต้องที่ ....ไร่กล้อมแกล้ม.... เท่านั้น

นกขุนทอง


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
hang
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 11/11/2009
ตอบ: 25

ตอบตอบ: 03/06/2010 11:42 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอพูดด้วยความสัตย์จริงครับว่า .....

งานนี้พวกผมเกษตรกรคลื่นลูกใหม่หัวใจกล้อมแกล้ม "น้อย/เฮง/พงษ์" สามพี่น้องได้ปูทางเกี่ยวกับเรื่องนี้ใว้แล้วครับ เฉพาะแค่เกษตรกรคลื่นลูกใหม่ ปี 51-52 ก็ 40 คนแล้วครับ ที่รอฟังการบรรยายของลุงคิมครับ และเกษตรกรในพื้นที่อีก ราชการที่จัดงานนี้ก็รู้จักลุงคิมด้วยครับ พอผมเอ่ยชื่อลุงคิมเท่านั้นและครับ เขาก็บอกว่านี่แหละตัวจริง ขอให้ผมเชิญมาร่วมงานเป็นการใหญ่ งานนี้ไม่ต้องขึ้นเวทีครับเดี๋ยวผมจะจัคเต๊นท์ใว้ให้ลุงบรรยายโดยเฉพาะเลยครับ ผมมั่นใจมากว่าจะต้องมีคนมารอฟังลุงบรรยายกันมากแน่ครับ เพราะ "พ่อผม" ยังอยากเจอลุงคิมเลยครับ

ป.ล.
ในส่วนของค่าบู๊ททั้งคารวานและลุงคิมไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ ห้องน้ำมีครับ ที่นอนมีครับ บ้านผมก็ได้(เฮง) ...... รับรองเกษตรกรคลื่นลูกใหม่สระบุรีไม่ทำให้ลุงคิมผิดหวังแน่ครับ

อีก ป.ล.
เชิญคุณ "นกขุนทอง" ด้วยนะครับ รองมาเยี่ยมชมผลงานของคลื่นลูกใหม่สระบุรีหน่อยนะครับ Wink
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
nokkhuntong
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 26/02/2010
ตอบ: 256

ตอบตอบ: 04/06/2010 1:30 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอบคุณ คุณ hang สำหรับคำเชิญค่ะ เนื่องจากเป็นวันธรรมดา ( 7-9/7/53 ) คงยากหน่อยค่ะ

รอชมรูปแล้วกันน่ะ

นกขุนทอง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 04/06/2010 5:05 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) ปั่น "ไบโออิ" 400 ล. ด้วยถัง 200 ล. ทำ 2 ครั้ง เพื่อให้ได้ปริมาณ 400 ล. (ตามออร์เดอร์) คราวนี้ได้ประสบการณ์ตรงข้อใหม่ ..... สะใจ พะย่ะค่ะ

เคยสัมผัสโดยตรงกับมือผสมปุ๋ยน้ำ ชนิดให้ทางใบ ส่งให้กับบริษัทมาหลายต่อหลายท่าน แต่ละท่านผ่านประสบการณ์เคยทำมาแล้วหลาย 10 ปี วันนี้ท่านเหล่านั้น บางครั้งบางคราวทำเสร็จก็ยังต้องเททิ้ง แล้วทำใหม่ อยู่เลย....... ปัญหาทางเคมี หลายปัญหายังหาคำตอบไม่ได้

ลุงคิมเคยคุย (หลอกถาม ลวงถาม) กับนักวิชาการหลายท่านก็ไม่เคยได้คำตอบ แต่วันนี้ลุงคิมหาคำตอบได้จาก "อินเตอร์เน็ต + ก.ทำกับมือ + กล้าเททิ้ง ทำใหม่ + ข้อมูลจากผู้ใช้" เอามาแก้ปัญหาจนเห็นผลเป็นรูปธรรม..... สิ่งที่อยากได้มาก ๆๆ ๆๆ คือ คนที่เคยมาเรียนแล้วกลับไปทำเอง ทำแล้วพบปัญหาหรือความสำเร็จโทร.มาคุยกัน ซึ่งจะเท่ากับเป็นการช่วย "ต่อยอด" ซึ่งกันและกัน ลงท้ายก็จะเก่งทั้งศิษย์ ทั้งครู รวมความก็คือ "เก่งทั้งคู่" ว่าไหม.... แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นดั่งฝัน เพราะคนที่เคยมาเรียนแล้ว ยังไม่มีใครกลับไปทำเองเลย

หมายเหตุ :
น้ำหมักชีวภาพ ผลิตโดยอาจารย์ ม.เกษตรกำแพงแสน วางขายยังขวดบวมระเบิดเลย... ถามว่าแก้ไขได้ไหม คำตอบคือ แก้ไม่ได้ เพราะมันมีจุลินทรีย์ แล้วน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ทำไมถึงขวดไม่บวม ไม่ระเบิดล่ะ รวมทั้งจุลินทรีย์ชนิดน้ำที่วางขายตามท้องตลาดก็ขวดไม่บวม ไม่ระเบิดเหมือนกัน..... เพราะอะไร ? เขาทำอย่างไร ?




ปัญหาอันเกิดจากการไม่เคยเรียนมาก่อน :

ปัญหาที่ 1..... ไฮโดรเจน. กับอ๊อกซิเจน. ที่อยู่ในน้ำ (ไฮโดรเจน 2 โมเลกุล. อ๊อกซิเจน 1 โมเลกุล) เกิดปฏิกิริยา (อ๊อกซิเดชั่น) กับธาตุตัวไหน ไม่รู้ นอกจากทำให้เกิดแก๊สในขวดบรรจุ จนเป็นเหตุให้ขวดบวมถึงระเบิดแล้วยังทำให้เกิดฝ้าที่ผิวหน้าอีกด้วย.....คราวนี้แก้ปัญหาได้แล้ว ไม่มีแก๊สหลงเหลืออยู่อีกเลย

ปัญหาที่ 2.... ขณะปั่น หรือปั่นเสร็จใหม่แล้วมีฟองเกิดที่ผิวหน้า แสดงว่าอาการเข้ากันเป็นเนิ้อเดียวของธาตุต่างๆ ยังไม่ดี.....คราวนี้แก้ปัญหาได้แล้ว ปั่นยังไงๆ ก็ไม่เกิดฟอง

ปัญหาที่ 3.... จากข้อมูลเดิมที่ว่า ไคโตซาน.มักเข้ากับธาตุใดๆ ไม่ได้ (ไม่เข้ากัน) ผสมกันแล้วไคโตซาน.จะจับลิ่มแขวนลอย ปัญหานี้แก้ไขได้แล้ว สามารถทำให้ไคโตซาน.เข้ากับธาตุอื่นๆ ทุกตัวๆ เป็นเนื้อเดียวกันได้ ...... มาคราวนี้ จากการปั่นถังที่ 2 ด้วยถังเดิม เจ้าไคโตซาน.เกิดอาการแตกสามัคคี ไม่ยอมเข้ากับใครอีก เมื่อก่อนนี้แก้ปัญหาด้วยการ "เททิ้ง - ทำใหม่" นั่งคิด นอนวิเคราะห์ เดินพิจารณา อยู่หลายรอบ กินน้ำไปหลายแก้ เตะหมาไปหลายที จึงแก้ปัญหาได้....เฮ่อ ไม่ต้องเททิ้ง 200 ล.เป็นเงินเท่าไหร่น่ะรู้ไหม

ปัญหาที่ 4.... เมื่อก่อนนี้ ในถัง 200 ล. เมื่อปั่นเสร็จ ทิ้งให้นอนก้นจะมีตะกอนก้นถังหนาประมาณ 1-2 ซม. ..... คราวนี้แก้ปัญหาได้แล้ว พบว่ามีตะกอนติดแค่พื้นก้นถังบางๆ น่าจะเกิดจากฝุ่นในท่อน้ำซะมากกว่า

ปัญหาที่ 5.... เมื่อก่อนนี้ เมื่อทำเสร็จสีจะเป็นสีน้ำตาลไหม้ ..... คราวนี้แก้ปัญหาได้แล้ว สีดำสนิทเหมือนนิลเลย

ปัญหาที่ 6.... เมื่อก่อนนี้ ทำเสร็จน้ำค่อนข้างเหลว (ข้นกว่าน้ำเปล่าเล็กน้อย) ทำให้ดูแล้วไม่ขลัง ต้องใช้สารเหนียวช่วย ...... คราวนี้แก้ปัญหาได้แล้ว ทำเสร็จน้ำข้นคลั่กโดยไม่ต้องใส่สารเหนียว

ปัญหาที่ 7.... เมื่อก่อนนี้ทำเสร็จ บรรจุลงถึง 500 ล. (สต๊อก รออร์เดอร์) ประมาณ 7-10 วันจะมีฝ้าสีขาวอมเทาเกิดที่ผิวหน้า ทราบว่าเป็นจุลินทรีย์กลุ่มรามีประโยชน์ประเภทต้องการอากาศ คาดว่ารากลุ่มนี้คงได้อ๊อกซิเจนจากน้ำที่เป็นส่วนผสม ..... มาคราวนี้แก้ปัญหาได้แล้ว ปรากฏว่าไม่มีราประเภทนี้เกิดขึ้นอีก แสดงว่าในน้ำที่เป็นเนื้อปุ๋ยไม่มีอ๊อกซิเจน. จึงไม่ต้องกังวลว่าเมื่อบรรจุขวดแล้วขวดจะบวมหรือระเบิด


เป้าหมายในการส่งเสริมของลุงคิมวันนี้เปลี่ยนไป จากเดิมที่เป้าประสงค์ต้องการให้ทุกคน "คิดเป็น" ผลรับที่ออกมาแม้ว่าทุกคนจะคิดเป็นแต่กลับทำไม่เป็น เพราะการบรรยายแต่ละครั้งนั้น เน้นที่การ "พูด + แผ่นใส หรือ พาวเวอร์พอยนท์ + เอกสาร" ให้ฟังเท่านั้น เพราะสถานการณ์บังคับให้ทำได้เท่านั้น คนที่มาฟังจึง เข้าใจบ้าง-ไม่เข้าใจบ้าง-บางอย่างรู้จัก-บางอย่างไม่รู้จัก-บางอย่างไม่เคยเห็น แล้วแต่ศักยภาพหรือวุฒิภาวะและประสบการณ์ของแต่ละคน เนื้อหาในการบรรยายอาจจะดี ทุกเรื่องตรงตามที่ผู้มาฟังอยากรู้ กับอีกหลายๆ ว่าเหมาะสม สอดคล้องตามความเป็นจริง แต่ก็นั่นแหละเหมือน "เกานอกผ้า" มันจะดีสมบูรณ์แบบได้ไง.... สรปผลจากการสอนแนวนี้ คือ ไม่ได้ผล




ใครช่วยวิเคราะห์หน่อซิว่าเป็นไปได้ไหม.....
ถ้าเกษตรกรทำ "ปุ๋ย - ฮอร์โมน - ยา" ได้จะดีไหม
สอนให้ "ทำเป็น - ใช้เป็น - ขายเป็น - แจกเป็น" ได้จะดีไหม
ถ้าเกษตรกรลดต้นทุนได้แม้ขายราคาเดิม ก็เท่ากับกำไรเพิ่มขึ้น จะดีไหม

เมื่อเกษตรกรส่วนใหญ่มีพื้นฐานทางวิชาการด้านเกษตรค่อนข้างน้อย แนวทางสอนแบบ "เน้นวิชาการหรือทฤษฎี" เป็นหลัก เขาจะรู้เรื่องไหม ? หากปรับแนวสอนใหม่เป็น "เน้นการปฏิบัติ แล้วเสริมด้วยวิชาการเท่าที่จำเป็นต้องใช้จริง" เขาจะรู้เรื่องกว่าไหม

เรียน/สอน แบบ "ปฏิบัติ นำ - วิชาการ เสริม - ตามความเหมาะสม" ..... สอนให้เขา "ฝึกทำกับมือ" ฝึกทำหลายๆ รอบ หลายๆ ครั้ง จนกว่าเขาจะมั่นใจว่า "ทำได้ - ทำได้แล้ว" จะดีกว่าไหม ?


เริ่มต้นด้วยแนว เรียน/สอน แบบ FARMER CENTER หมายความว่า เกษตรกรที่มาเรียนปลูกพืชอะไร ก็สอนวิธีทำ ปุ๋ย-ฮอร์โมน-ยา สำหรับเฉพาะพืชนั้นๆ สอนให้เข้าใจ วิธีทำ - วิธีใช้ ให้รู้กระจ่าง ให้ แม่นสูตร - แม่นหลักการ เมื่อแต่ละคนกลับไปแล้วปฏิบัติต่อพืชที่ปลูกได้ผล เขาก็จะขยายผลต่อยอดไปยังพืชอื่นหรือกิจกรรมเกษตรอย่างอื่นได้เอง

วันนี้ลุงคิมกระชับวงล้อมตัวเองด้านการเกษตรให้มาอยู่ที่เรื่อง "ปุ๋ย-ฮอร์โมน-ยา" เพียงเท่านี้ สอนให้กระจ่าง ฝึก/เรียน ไปแล้ว ทำเป็น-ใช้เป็น-ขายเป็น-แจกเป็น ...... สอนให้เข้าใจ "กระบวนการคิด - กระบวนการวางแผน" เพราะเชื่อว่า ถ้าเกษตรกร คิดเป็น วางแผนเป็น ย่อมไปสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอน


จากตัวอย่างปัญหาที่ 1-7 ที่กล่าวมา คุณว่า ถ้าลุงคิมไปสอนวิธีทำปู่ย แบบพูดปากเปล่าให้ฟัง แล้วคนฟังจะแก้ปัญหาได้ไหม เขาจะทำปุ๋ยเป็นไหม.....นี่เฉพาะปัญหาในไบโออิ.เท่านั้น แล้วสูตรอื่นๆ อีกล่ะ นั่นก็มีปัญหาเหมือนกัน


ทิ้งท้าย.....
ลุงคิมมุ่งมั่นสอนให้ทำ "ปุ๋ย-ฮอร์โมน-ยา" ถึงระดับ "ทำเป็น-ใช้เป็น" เพียงเท่านี้


เพราะฉนั้น อย่าเชิญมาเลย ไม่ไปเด็ดขาด เพราะไม่ใช่เป้าประสงค์
ถ้าอยากเรียนจริงๆ ก็ให้มาเรียนที่ไร่กล้อมแกล้มนี่แหละ



"หยิ่ง ไม่ใช่ ยะโส....แต่เป็น ทรนง. ทะนงในศักดิ์ศรีชายชาติทหาร
ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ott_club
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009
ตอบ: 718

ตอบตอบ: 04/06/2010 10:54 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

จากวันที่เริ่มทำเกษตรครั้งแรก ก็ร่วมๆ 10 กว่าปี(ตอนนี้ยังไม่แก่นะ) ก็พยายามแสวงหาความรู้จากตำรา และผู้รู้ ทำให้มีความรู้อย่างหนึ่งที่อยู่ในใจมาตลอดคือ 1.ธาตุรองธาตุเสริมมีอยู่แล้วในดิน ไม่ต้องไปใส่อีก พืชต้องการธาตุหลัก(N.P.K.)จำนวนมากและในดินมีไม่เพียงพอ ต้องใส่เพิ่ม 2.ยาฆ่าหญ้าเมื่อลงสู่ดินก็สลายแล้ว จำอยู่ 2 อย่างนี้มาตลอด

แต่ประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา เริ่มทดลองให้ธาตุรองธาตุเสริม(ฮม.น้ำดำ ฮม.ไข่ ยูเรก้า และที่ผสมเอง) กับพืช คือปาล์มน้ำมัน ทุกอย่างมันดีขึ้น สมบูรณ์มากกว่าปีที่ผ่านๆ มา ทำให้ความคิดเกิดขึ้นว่า นี่ถ้าที่เคยจำมาว่าในดินมีอยู่แล้ว แล้วที่เราเพิ่มเข้าไปทางใบทำไมมันถึงดีขึ้นมาได้ อย่างนี้แสดงว่าในดินมีไม่พอ ใช่หรือไม่(ถามตัวเอง)

เรื่องยาฆ่าหญ้าที่บอกว่าลงดินแล้วสลาย แต่มาปีนี้เลิกใช้ เกิดมีมูลใส้เดือนกิ้งกือเกิดขึ้นจำนวนมาก แล้วอย่างนี้ก่อนที่ยาจะสลายได้ฆ่าจุลินทรีย์ไปด้วย ใช่หรือไม่(ถามตัวเอง)

แล้วที่ลุงพูดออกอากาศทุกวันนะ มีคนบอกว่าลุง"โม้" จะบอกว่าถ้าฟังแค่วันสองวันแล้วลงมือเลย มันไม่ได้ผลหรอก พอไม่ได้ผลก็ต้องบอกว่าโม้ อยากจะบอกว่าต้องฟังบ่อยๆ แล้วจับทุกอย่างที่ลุงบอกลุงพูดมาต่อกัน หรือที่ลุงบอกมันเป็น"จิ๊กซอ" เช่น ฟังวันนี้พรุ่งนี้ไปตลาด ไปซื้อผลิตภัณฑ์ที่ลุงโฆษณามาขวดหนึ่ง ฉีดเข้าไปฟู่ฟู่ ไม่ได้ผล แล้วบอกว่า"ลุงโม้อีกแล้ว ใช่หรือไม่" อยากจะบอกว่า สารอาหารพืชมันก็คือส่วนหนึ่งของความต้องการของพืชเท่านั้น (ของลุงไม่ใช่ของวิเศษณ์) การปลูกพืชยังมีองค์ประกอบอื่นอีกคือ ดิน น้ำ แสงแดด สายพันธุ์ โรค(นี่ลุงก็พูดอีก) ทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบที่ถ้าทุกอย่างดี แล้วได้สารอาหารดี ครบ เข้าไปเสริมด้วย ทุกอย่างจะออกมาเหมือนของวิเศษณ์แน่คราวนี้

แนวทางของธรรมชาติ ลุงน่ะพูดมาหมดแล้ว เพียงแต่เราต้องจับมารวมกันให้ได้ พอรวมกันได้เราก็จะเริ่มมองเห็นแนวทางของธรรมชาติพืชที่เราปลูก พอเข้าใจพืชที่ปลูกแล้วไปฟังลุงก็จะเกิดคำพูดว่า"อืม ใช่เลยถูกต้อง พูดอีกก็ถูกอีก" คือมันวนเวียนๆ เป็นภาพใหญ่โยงไปโยงมา แต่คนส่วนมากจะเอาสูตรสำเร็จ(คำพูดลุง) คนส่วนมากจะถามว่า"อะไรล่ะครับที่ใส่แล้วดี"? คือมันไม่มี คุณต้องมองภาพใหญ่ให้ออก แล้วค่อยๆ ต่อจิ๊กซอพืชของคุณขึ้นมา วันหนึ่งที่คุณต่อมันได้คุณก็จะได้รับคำตอบของคำถามนั้น

เขียนเรื่อยเปื่อย(อีกแล้ว)
อ๊อดครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
hang
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 11/11/2009
ตอบ: 25

ตอบตอบ: 05/06/2010 12:12 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เสียใจครับที่ลุงไม่มา Crying or Very sad

แต่ไม่เสียดายที่ได้เรียนรู้ศึกษาวิชากับลุง อาจจะเป็นความหวังของพวกเราชาวคลื่นลูกใหม่สระบุรี แต่ไม่เป็นไรครับถ้าไม่ยอมมา เดี๋ยวพวกผมทั้งหลายจะยกโขยงกันไปขอกินข้าวฟรีที่ไร่กล้อมแกล้มซัก3-4 วันนะครับลุงคิม

"รักและเคารพเสมอครับ"

ป.ล.
ฮอร์โมนน้ำดำ พวกผมสามฅนปั่นใช้แล้วได้ผลดีทีเดียวครับ แต่พอดีมัวยุ่งๆ อยู่ เลยไม่ได้ส่งข่าวให้ได้รู้ และบางทีพอได้เป็นวิทยากรพูดสอนชาวบ้านเกษตรกรก็ใช้แนวทางที่ลุงสอนผม(เฮง)และผมแอบจดมาท่องจำนี้แหละครับไปสอนพวกเขาอีกที ก็แก้ปัญหาได้บ้างไม่ได้บ้าง เพระผมไม่ไช้ตัวจริงครับ ชาวบ้านบางคนเขาก็รอว่าเมื่อไรจะมีฅนที่มีความรู้ช่วยชี้ทางสว่างให้บ้างหนอ แต่ก็คงต้องรอก่อน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 05/06/2010 5:46 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อย่าเสียใจอะไรไปเลย ตรงกันข้าม กลับน่าดีใจด้วยซ้ำ ที่ลุงคิม ปรับ/เปลี่ยน วิธีการ เรียน/สอน ใหม่ เพื่อให้บรรลุประสงค์ที่ว่า เรียน/สอน ไปแล้ว คนที่มาเรียนสามารถกลับไปทำเองที่บ้านได้


พิจารณาซิว่าระหว่างการ เรียน/สอน ด้วยวิธี....
LEARNING BY SEEING-TOUCHING & DOING
กับ
LEARNING BY LISENING-READING & TALKING
วิธีไหนจะซึมซับได้มากกว่ากัน


รูปแบบ การเรียน การสอน แบบเดิมน่าจะเลิกได้แล้ว เพราะผลที่ออกมาเป็นเพียง รูปธรรม ไม่ใช่ นามธรรม ได้แต่ฟังเพลินๆ ฟังแล้วรู้แล้วไม่อาจแปลงเป็นปฏิบัติได้..... พวกเรา (เกษตรกร) น่าจะกำหนดเป้าประสงค์ของตัวเองว่า อาชีพเกษตรกรรมด้านเพาะปลูกพืชน่ะ ถ้าเราทำ "ปุ๋ย-ฮอร์โมน-ยา" ใช้เองได้ ทำแล้วรู้ "วิธีใช้" กับพืชแต่ละชนิดอย่างถูกต้อง น่าจะดีกว่านั่งฟัง ศาสตราจารย์ดอกเตอร์. พูดวิชาการอย่างเดียว โดยไม่มีการปฏิบัติให้เห็น ไหม

การได้ฟัง กับ การได้ทำกับมือ อย่างไหนจะดีกว่ากัน
ทำ ปุ๋ย-ฮอร์โมน-ยา ใช้เองได้ นอกจากประหยัดต้นทุนแล้ว ยังได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณคุณภาพ

ไปเรียนที่ไร่กล้อมแกล้ม เรียนอย่างใกล้ชิด ถาม-ตอบ-แนะนำ-บอกเล่า ได้ทันที ทุกเรื่อง ทุกประเด็น.....ไม่ดีกว่าเหรอ

ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©