-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ปลูกผักชีไทย - ผักชีแจ๊คพ็อต
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ปลูกผักชีไทย - ผักชีแจ๊คพ็อต
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ปลูกผักชีไทย - ผักชีแจ๊คพ็อต

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
roiet
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 10/11/2011
ตอบ: 11

ตอบตอบ: 17/11/2011 7:13 pm    ชื่อกระทู้: ปลูกผักชีไทย - ผักชีแจ๊คพ็อต ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผักชีไทยเป็นพืชระยะสั้นอายุการเก็บเกี่ยว 40-60 วัน

การดูแลลองหาข้อมูลดูแล้วไม่น่าจะดูแลยาก เท่าไหร่

แต่ทำไมราคาถึงแพง

อยากให้ลุงช่วยวิเคราะห์เจาะลึกและวิธีการดูแลตั้้งแต่เตรียมดินเลยครับ





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 17/11/2011 8:59 pm    ชื่อกระทู้: Re: ปลูกผักชีไทย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

roiet บันทึก:

ผักชีไทยเป็นพืชระยะสั้นอายุการเก็บเกี่ยว 40-60 วัน
ตอบ :
จาก เริ่มงอก - เก็บเกี่ยว 50 วัน
จาก เพาะเมล็ด ถึง เริ่มงอก 15 วัน
รวม 60 วัน (2 เดือน กว่าๆ)

ไม่นับเตรียมดิน เตรียมแปลง 30 วัน





การดูแลลองหาข้อมูลดูแล้วไม่น่าจะดูแลยาก เท่าไหร่
ตอบ :
เป็น = ง่าย
ไม่เป็น = ยาก

เตรียมการดี = สำเร็จแล้วกว่าครึ่ง
เตรียมการไม่ดี = ล้มเหลวแล้วกว่าครึ่ง

ปลูกผักชี ตามใจผักชี ไม่ใช่ตามใจคน
รู้ผักชี ให้กระจ่าง แต่อย่างเดียว....แต่ให้เชี่ยว ชาญเถิด จะเกิดรวย




แต่ทำไมราคาถึงแพง
ตอบ :
DEMAND - SUPPLY.....คนกินเท่าเดิม แต่ของน้อยลง
ของน้อยลง เพราะคนปลูกน้อยลง
คนปลูกน้อยลง เพราะปลูกผักชีไม่เป็น

หน้าฝนผักชีแพง ทำ "ผักชีแจ็คพ๊อต" ซี่....




อยากให้ลุงช่วยวิเคราะห์เจาะลึกและวิธีการดูแลตั้้งแต่เตรียมดินเลยครับ
ตอบ :
ใจเย็น ...... จะร่ายประสบการณ์ตรงให้อ่าน....



.







.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 17/11/2011 9:37 pm, แก้ไขทั้งหมด 6 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 17/11/2011 8:59 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)


http://agri.wu.ac.th/msomsak/Soilless/Chapter07/Greenhouse.htm









http://www.chivit-itsara.com/forum/index.php?topic=31.0



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 18/11/2011 9:25 am, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 18/11/2011 7:28 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)



1 การเตรียมแปลงปลูก
1.1 ไถพลิกดินลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร
1.2 ตากดินไว้ 5-7 วันเพื่อฆ่าเชื้อโรคและวัชพืชต่างๆ
1.3 ไถพรวนดินให้แตกเป็นก้อนเล็ก พร้อมใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ประมาณ 2-3 ตันต่อไร่ คลุกเคล้าให้เข้ากับดิน
1.4 ไถชักร่อง ขนาดความกว้าง 1.5 เมตร ความยาวแปลงขึ้นอยู่กับพื้นที่


2 การเตรียมเมล็ดพันธุ์
2.1 นำเมล็ดผักชีไทยมาบดให้แตกเป็นสองซีก อัตราการใช้เมล็ดประมาณ 5 กิโลกรัม ต่อไร่
2.2 นำไปแช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง
2.3 นำเมล็ดผักชีไทยผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปหว่านปลูก







3 วิธีการปลูก
3.1 ก่อนปลูกต้องรดน้ำให้ทั่วแปลง
3.2 นำเมล็ดผักชีไทยที่เตรียมไว้ มาหว่านลงบนแปลงปลูกที่ได้เตรียมไว้
3.3 กลบด้วยดินละเอียดบางๆ แล้วคลุกด้วยฟางหรือหญ้าแห้งอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันต้นอ่อนจากแสงแดด และรักษาความชื้นของผิวดิน










http://www.pk-siam.com/website/mart/vegets/pakcheethai/pakcheethai_arg.html


4 การดูแล
4.1 ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
4.2 การใส่ปุ๋ย แบ่งใส่ 2 ครั้ง
ครั้งแรก ใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ประมาณ 15-30 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร เมื่อผักชีแตกใบแล้ว ครั้งที่ 2 ใส่ปุ๋ยสูตร 25-7-7 ประมาณ 15-20 กิโลกรัม ต่อไร่ เมื่อผักชีอายุประมาณ 20 วันหลังหว่านเม็ด
4.3 โรคและแมลง ควรมีการสำรวจพืชเป็นประจำ โรคที่อาจพบในผักชี ได้แก่ โรคเน่าที่ใบและโคนต้น
และโรคใบไหม้ แมลงที่อาจพบในผักชี ได้แก่ เพลี้ย


5 การเก็บเกี่ยว
5.1 ผักชีจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 45 วัน
5.2 ก่อนถอนควรรดน้ำบนแปลงให้ดินชุ่มชื้นเสียก่อน เพื่อสะดวกในการถอน
5.3 เก็บเกี่ยวโดยการถอนด้วยมือ ติดทั้งต้นและราก
5.4 นำไปล้างดินออก ตกแต่งโดยเด็ดใบเหลืองใบเสียทิ้ง
5.5 นำไปผึ่งลมแล้วบรรจุลงในตะกร้า








.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 08/06/2013 8:55 pm, แก้ไขทั้งหมด 3 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 18/11/2011 7:36 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)


http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=angleofcharlie&month=27-05-2010&group=5&gblog=4







http://www.toagroproducts.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539272797&Ntype=11






http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=18911
แม่บ้านจ๊าก ! ....... ผักชีแพง โลละ 180 บาท












.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 18/11/2011 10:01 am, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 18/11/2011 7:44 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)


ผักชีลาว....



ผักชีฝรั่ง....



ผักชีไทย....


ขอบคุณ ที่มาภาพ....
http://www.toagroproducts.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539272797&Ntype=11




ต้นผักชีล้อมกำลังออกดอก
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1




.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 18/11/2011 10:15 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 18/11/2011 9:42 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ราคาสินค้า ผักชีไทย วันที่ 22 ตุลาคม 2554




ราคาเฉลี่ยรายเดือน ประจำปี 2554

เดือน ......... เฉลี่ย .................... สูงสุด ................... ต่ำสุด

ม.ค. ........ 23.37 .................. 60.00 .................. 10.00
ก.พ. ........ 14.84 .................. 25.00 .................. 8.00
มี.ค. ........ 46.45 .................. 80.00 .................. 15.00

เม.ย. ........ 35.34 ................. 60.00 ................... 15.00
พ.ค. ......... 51.74 ................ 100.00 .................. 5.00
มิ.ย. ......... 115.83 ............... 240.00 ................. 25.00

ก.ค. ......... 62.32 ................. 150.00 ................. 10.00
ส.ค. ......... 46.10 .................. 90.00 .................. 15.00
ก.ย. ......... 45.50 ................. 100.00 ................. 10.00

ต.ค. ......... 75.23 ................. 200.00 ................. 25.00
พ.ย. ........... - ........................ - ........................ -
ธ.ค. ........... - ........................ - ........................ -





วัน/เดือน/ปี ................. เฉลี่ย ............... สูงสุด ................ ต่ำสุด

22/10/2554 .............. 130 ................ 130 ................. 130
21/10/2554 .............. 80 .................. 80 .................. 80
20/10/2554 .............. 60 .................. 60 .................. 60
19/10/2554 .............. 100 ................ 100 ................. 100

18/10/2554 .............. 200 ................ 200 ................. 200

17/10/2554 .............. 100 ................ 100 ................. 100
16/10/2554 .............. 60 .................. 60 .................. 60

15/10/2554 .............. 60 .................. 60 .................. 60
14/10/2554 .............. 80 .................. 80 .................. 80
13/10/2554 .............. 80 .................. 80 .................. 80

12/10/2554 .............. 82.5 ............... 85 .................. 80
11/10/2554 .............. 150 ................ 150 ................ 150
10/10/2554 .............. 35 .................. 40 ................. 30

09/10/2554 .............. 30 .................. 30 ................. 30
08/10/2554 .............. 27.5 ............... 30 .................. 25
07/10/2554 .............. 45 .................. 45 ................. 45

06/10/2554 .............. 57.5 ............... 60 .................. 55
05/10/2554 .............. 50 .................. 50 ................. 50
04/10/2554 .............. 50 .................. 50 ................. 50



http://www.taladsimummuang.com/dmma/portals/pricelistitem.aspx?id=010212010


.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 09/06/2013 6:10 am, แก้ไขทั้งหมด 4 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 18/11/2011 2:42 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)


ผักชีไทยไทยชีผักผักชีไทยไทยชีผักผักชีไทยไทยชีผักผักชีไทยไทยชีผักผักชีไทย




คิดนอกกรอบ
คำตอบของทุกคำถามเรื่องการตลาดอยู่ที่ตลาด
- ไปดูตลาดขนาดใหญ่ รับได้ทุกผัก ที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด เพื่อประหยัดเวลาและค่าขนส่ง
- ถามแม่ค้าที่รับซื้อแบบขายส่ง ว่า ผักอะไร/ราคาแพงช่วงไหน/ราคาเท่าไหร่/เคยรับจากที่ไหน/มีเจ้าประจำหรือไม่
- วางแผนการปลูกแล้วปฏิบัติบำรุงต่อผักชีให้ตรงกับลักษณะทางธรรมชาติของผักชีทุกประการ
- จัดทำตารางระยะเวลา ปลูก-บำรุง-เก็บเกี่ยว-ขาย ล่วงหน้า เพื่อให้ตรงกับช่วงตลาด

- หาข้อมูลปัญหาทุกเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับผักชี หรือศึกษาส่วนที่จะเป็นปัญหาก่อน แล้วเตรียมมาตรการ ป้องกัน/แก้ไข ล่วงหน้า
จากนั้นจึงเริ่มลงมือทำ เมื่อทำแล้วไม่เกิดปัญหาเพราะป้องกันไว้ก่อนแล้ว การทำนั้นย่อมประสบความสำเร็จ ตรงกันข้าม หากทำ
แล้วพบแต่ปัญหา แม้แต่ปัญหาโลกแตก มีแต่เรื่องที่ไม่น่าเป็นเรื่อง นอกจากงานจะล้มเหลวแล้ว ยังเกิดอาการท้อแท้ สุดท้ายก็เลิก
เลิกบนความล้มเหลว

- ได้แนวคิดมาแล้ว เขียน แนวคิดนั้นเป็นลายลักษณ์อักษร
การเขียนจะช่วยให้ จำได้-เกิดแนวคิดใหม่-มั่นใจ-กำลังใจ-ฯลฯ มากกว่าการ อ่าน และการอ่านได้มากกว่าการ ฟัง

- นักปราชญ์ยุคโลกาภิวัตน "ฟัง - คิด - ถาม - เขียน--- อ่าน - ดู - ทำ - ใช้ - เปรียบเทียบ - ฟันธง.....
ทำใช้ ทำขาย ทำแจก ถ่ายทอด

- รู้แล้ว ทำแล้ว เป็นแล้ว จะอยู่กับตัวเองไปตลอดชีวิต ถ่ายทอดให้ลูกหลานเหลนโหลน
- เกษตรพอเพียง ไม่ได้สอนให้ปฏิเสธเทคโนโลยี เพียงแต่ผู้ใช้เทคโนโลยีนั้นมีความเข้าใจและมีแผนการใช้อย่างคุ้มค่าอย่างไร


- ........ ยังไม่จบ ......


เตรียมดิน :
1. ไถดินขี้ไถใหญ่ๆ ตากแดดจัด 10-15 แดดจัด เพื่อฆ่าเชื้อโรค
2. ใส่อินทรีย์วัตถุ (ขี้ไก่แหลบ-ขี้วัว-ขี้หมู-ยิบซั่ม-เศษพืชแห้ง) อัตรา 15-25% ของเนื้อดิน
3. ราดทับอินทรีย์วัตถุด้วยปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 3-5 ล./ไร่
4. ไถพรวนให้ "อินทรีย์วัตถุ-ปุ๋ยน้ำชีวภาพฯ" คลุกเคล้ากับเนื้อดิน ลึก 30-50 ซม.
5. ทำแปลง สันแปลงสูง 20-30 ซม. โค้งหลังเต่าหรือแบนราบ ตามความเหมาะสม
6. รักษาความชื้นหน้าดินโดยคลุมแปลงด้วยหญ้าหรือฟางแห้งหนาๆ
7. บ่มดินโดยรดด้วยปุ๋ยน้ำชีวภาพฯ 30-10-10 (1-2 ล.)/ไร่/7 วัน 3-4 รอบ รวมเวลา 1 เดือน
8. ตรวจสอบน้ำขังค้างบนสันแปลง หลังให้น้ำ (วันละ 3 รอบ) แล้ว น้ำในเนื้อดินระดับ "ชื้น" สม่ำเสมอ
9. ถอนวัชพืชบนสันแปลงและข้างแปลงแล้วทิ้งคลุมหน้าดิน สม่ำเสมอ


เตรียมแปลง (พื้นราบ) :
- ติดตั้งระบบสปริงเกอร์แบบพ่นฝอย หริอเครื่องมือให้น้ำ เม็ดน้ำที่ใช้รดให้ผักชีต้องเป็นเม็ดฝอยเล็กๆ ยิ่งเล็กยิ่งดี
- ทำโครงหลังคา (เฉพาะโครง) ทั้งด้านบนและด้านข้าง เพื่อเตรียมทำหลังคาพลาสติกใส สำหรับผักชีหน้าฝน
- ติดพลาสติกเข้ากับโครงหลังคา สามารถม้วนเก็บหรือคลี่ออกได้ทันทีเมื่อต้องการใช้งานก่อนฝนตก
-
-


เตรียมแปลง (ยกพื้น) :
- ทำกะบะใช้ชั่วคราวหรือถาวร หรือกึ่งชั่วคราวกึ่งถาวร
- ขนาด กว้าง 1.20 ม. ยาว 2-3 ม. สูง 20-30 ซม.
- ยกกะบะสูงจากพื้นดินตามความจำเป็นที่ต้องหนีน้ำท่วม
- รอง พื้น-ด้านข้าง กะบะด้วยตาข่ายไนล่อนหรือซาแลน 1-2 ชั้น
- ใส่ดินปลูกที่ผ่านการ "เตรียม-บ่ม"จนพร้อมปลูกแล้วลงกะบะ ให้พูนเป็นหลังเต่า
- ติดตั้งระบบสปริงเกอร์แบบพ่นฝอย
- ทำโครงหลังคา ติดพลาสติกใสบังเม็ดฝน

หลักการและเหตุผล :
- เนื่องจากผักชีต้องการแสงแดด 100% แต่มีจุดอ่อนเกี่ยวกับเม็ดน้ำฝน เมื่อเม็ดน้ำฝนถูกใบจะเพิ่มน้ำหนัก ทำให้
ก้านใบนั้นลู่เอนลง จนกระทั่งกาบใบที่โคนก้านใบฉีกขาด เกิดเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าได้ วัตถุประสงค์ของการใช้
พลาสติกก็เพื่อป้องกันน้ำฝนเป็นหลัก ระหว่างที่ผักชีกำลังเจริญเติบโต ทุกครั้งเมื่อรู้ว่าจะมีฝนตกก็ต้องบังฝนด้วยพลาส
ติกใส หลังจากหมดฝนก็เปิดพลาสติกออก ให้ผักชีได้รับแสงแดดและระบายความชื้นที่หน้าดิน

- ตาข่ายไนล่อน นอกจากไม่สามารถใช้บังเม็ดน้ำฝนได้แล้ว ยังบังแสงแดด และกักเก็บความชื้นหน้าดินมากเกินจำเป็น
สำหรับผักชี แล้วเป็นเหตุให้เกิดโรคได้อีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ตาข่ายไนล่อน สำหรับแปลงปลูกผักชี


เตรียมเมล็ดพันธุ์ :
- ตรวจสอบชนิดสายพันธุ์ ว่าเป็นสายพันธุ์ปลูกหน้าฝนหรือหน้าหนาว หรือปลูกได้ทุกฤดูกาล
- ตรวจสอบอายุเมล็ดพันธุ์ ที่เกี่ยวข้องกับระยะพักตัว หรือเก่าจนเสื่อมความงอก
- ตรวจสอบความน่าเชื่อเถือของบริษัทผู้ผลิต

- บดเมล็ดพันธุ์ให้แตกเป็น 2 ซีก
- แช่เมล็ดพันธุ์ใน "น้ำ (พีเอช 6.0) 1 ล. + ไคโตซาน 1 ซีซี. + จิ๊บเบอเรลลิน 1 ซีซี. + สังกะสี อะมิโน คีเลต 1
ซีซี." นาน 6-12 ชม.
- นำเมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการแช่แล้ว ห่มบนผ้าขนหนูชุบน้ำที่ใช้แช่จนชุ่ม

(ผ้าขนหนูชุบน้ำโชกๆ ปูบนถาดแบนราบ โรยเมล็ดที่แช่แล้วลงไป เกลี่ยเมล็ดอย่าให้ซ้อนทับกัน ปิดทับด้วยผ้าขนหนู
ชุบน้ำโชกๆ ด้านบนอีกชั้น กดผ้าขนหนูให้สัมผัสเมล็ดทั้งบนและล่าง แบบนี้จะทำให้เมล็ดได้รับอากาศที่ผ่านผ้าขนหนู
ลงไปอย่างทั่วถึง ส่งผลให้เปอร์เซ็นต์การงอกดี เก็บในร่ม อุณหภูมิห้อง ....ไม่มีผ้าขนหนู ใช้กระดาษชำระซ้อนกันหนาๆ
แทนได้....กรณ๊ที่ต้องเพาะหลายวัน จนผ้าขนหนูหรือกระดาษชำระแห้ง ให้พ่นฝอยด้วยน้ำเปล่าพอเปียกได้)

- เมื่อเมล็ดเริ่มมีรากงอกออกมาให้เห็น (ไม่ควรให้ยาวเกินไป เพราะรากอาจหักได้) ให้นำลงปลูก หลมละ 1-2 เมล็ด
ด้วยระยะห่างระหว่าง ต้น/แถว ตามความเหมาะสม
- ปลูกเมล็ดตื้น (1/2 ซม.) หรือวางกับพื้นแล้วกลบด้วยดินปลูกบางๆ จะงอกเป็นต้นได้เร็ว ดี ต้นสมบูรณ์ แข็งแรง
คุณภาพ ดีกว่าการปลูกแบบลึกๆ


บำรุง :
เริ่มให้ตั้งแต่ได้ใบ 2-3 ใบ จนถึงเก็บเกี่ยว...
- เนื้อที่ 1 ไร่ ให้ "น้ำปริมาณตามความเหมาะสม (พีเอช 6.0) + ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (1 ล.)
+ 46-0-0 จี. (200 กรัม) + นมสดจืด 200 ซีซี. + สารสมุนไพร 500 ซีซี." ตอนเย็น ทุก 5 วัน ให้ผ่านใบลงถึง
พื้นโคนต้น
- ฉีดพ่นสารสมุนไพร สูตรรวมมิตร หรือสูตรเฉพาะ (ตามพยากรณ์ศัตรูพืช) ทุกวันเว้นวัน ตอนเย็น

หมายเหตุ :
- สารอาหารพืชที่มีอยู่แล้วในปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง คือ สารอินทรีย์ (จากปลาทะเล, ไขกระดูก, เลือด, ขี้ค้างคาว,
นม, น้ำมะพร้าว, ฮิวมิก, ....สารสังเคราะห์ (แม็กเนเซียม, สังกะสี, ธาตุรอง/ธาตุเสริม, 30-10-10) เป็นพื้นฐาน แล้วเติม
เพิ่ม 46-0-0 จี., นมสดจืด, ก่อนใช้งานอีก จึงถือว่าเพียงพอสำหรับพืชสวนครัว กินใบ อายุสั้นฤดูกาลเดียวอย่างผักชีแล้ว
จึงไม่จำเป็นต้องใส่เพิ่มปุ๋ยเคมีใดๆอีก

- ในดินปลูกที่ผ่านขั้นตอน "เตรียมดิน-บ่มดิน" ด้วยปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (สารอินทรีย์ + สารสังเคราะห์ + จุลินทรีย์)
ล่วงหน้ามานานนับเดือนแล้วนั้น สารอาหารต่างๆถูกเปลี่ยนรูปมาอยู่ในรูปที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันทีมีอยู่แล้วจำนวนมาก
จึงไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเคมีใดๆเพิ่มอีก


ปลูกซ้ำที่-ไม่ซ้ำดิน
หลักการและเหตุผล :
- ในดินย่อมมีทั้ง "เชื้อดีและเชื้อโรค" ปะปนกันอยู่เสมอ (สัจจะธรรม) ถ้าเชื้อดีมีมากกว่าและสภาวะแวดล้อมเหมาะสม เชื้อดี
จะกดเชื้อโรคไว้ ไม่ให้ขยายพันธุ์ และทำลายพืชได้ แต่มิได้หมายความว่า เชื้อโรคจะหมดไป เพียงแต่ยังแฝงตัวอยู่เฉยๆ รอโอกาส
ที่สภาวะแวดล้อมเหมาะสมแล้ว จึงจะสำแดงเดชออกมาได้

- พืชแต่ละชนิดต่างก็มี "เชื้อดีและเชื้อโรค" ประจำสายพันธุ์เสมอ การที่มีเชื้อโรคแฝงตัวอยู่ได้เพราะมีพืชสายพันธุ์ที่มันชอบ
ครั้นนานวันเข้า เชื้อโรคเหล่านี้ก็จะเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ แม้สภาวะแวดล้อมเหมาะสมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เชื้อโรคเหล่านี้ก็
สามารถสำแดงอิทธิฤทธิ์ได้ ..... แนวทางแก้ไข คือ "เปลียนพืช" แหล่งอาศัยเป็นสายพันธุอื่นที่เชื้อโรคเหล่านี้ไม่ชอบ
ที่เรียกว่า "ตัดวงจรชีวิต" เชื้อโรค ประมาณนั้น

หมายเหตุ :
- เชื้อดี หมายถึง จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อพืช.... เชื้อโรค หมายถึง จุลินทรีย์ ที่เป็นเชื้อสาเหตุของโรคพืช
- เกษตรกรอิสราเอล ใช้ทรายแท้ๆเป็นวัสดุปลูก แล้วใช้สารเคมีประเภทให้ความร้อนฆ่าจุลินทรีย์ทุกชนิด (ทั้งเชื้อดีและเชื้อโรค)
ทั้งหมด ทำให้ในวัสดุปลูกไม่มีเชื้อโรค ในขณะเดียวกันก็ไม่เอาเชื้อดีสำหรับสร้างสารอาหารพืชด้วย แต่จะใส่สารอาหารพืชให้แทน

การปฏิบัติ :
- ทำดินปลูก (ดินฆ่าเชื้อโรคแล้ว + อินทรีย์วัตถุ/สารปรับปรุงบำรุงดิน/ฯลฯ) เหมือน "เตรียมดิน" ก่อนปลูกบนพื้น
- ทำดินปลูกเป็นกอง กว้าง 1.5 ม. ยาว 2 ม. สูง 1 ม. สี่เหลี่ยมแบบราบ หรือกองแบบปิรามิด คลุมด้วยหญ้าแห้งหรือ
ฟางหนาๆ
- ทำกองแล้ว "บ่มดิน" นาน 2-3 เดือน (ให้ดินเย็น) ระหว่างบ่มดินนี้ รดด้วย "ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 15 วัน/ครั้ง
- นำดินที่บ่มครบกำหนด (เย็นแล้ว) ใส่ในกะบะหรือภาชนะปลูก วางกะบะหรือภาชนะปลูกบนพื้นหรือยกพื้นก็ได้ตามความ
พอใจ
- คลุมหน้าดินปลูกด้วยเศษหญ้าหรือฟางแห้งหนาๆ
- ติดตั้งระบบสปริงเกอร์
- ลงมือปลูก แล้วบำรุงตามขั้นตอน

หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว เทดินปลูกออกจากภาชนะปลูก แผ่กอง ตากแดด 10-15 แดดจัด เพื่อกำจัดเชื้อโรค
ระหว่างนี้ควรกลับพลิก 1-2 ครั้ง เพื่ออาศัยแสงแดดและความร้อนช่วยกำจัดเชื้อโรค.....ตากแดดแห้งดีแล้ว รดด้วยปุ๋ย
น้ำชีวภาพ 30-10-10 (1-2 ล./ไร่) คลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วทำกองเพื่อบ่มดินต่อ.....บ่มดินนาน 1 เดือน ระหว่างนี้
ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพ อัตราเดิม อีก 1 ครั้ง.....บ่มดินแล้วบรรจุลงภาชนะปลูกอันเดิม วางภาชนะปลูกที่เดิม นี่คือ ทฤษฎีการปลูก
แบบ "ซ้ำที่ไม่ซ้ำดิน" ที่เกษตรกรอิสราเอลนิยมนั่นเอง


ปลูกเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ :
เริ่มให้เมื่อต้นโตเต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยว (อายุต้น 50-60 วัน) ได้แล้ว เปลี่ยนสูตรบำรุงเป็น....

- ทางใบ....ให้ฮอร์โมนไข่ไทเป 5-7 วัน/ครั้ง จนถึงเก็บเกี่ยว
- ทางราก...ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (1 รอบ ถึงเก็บเกี่ยว)

หมายเหตุ :
- ระหว่างเป็นผล อาจพิจารณาให้ "15-45-15" สลับกับ "แคลเซียม โบรอน" อย่างละ 1-2 รอบ ก็ได้ จะช่วยให้
ผลผลิต (เมล็ด) คุณภาพดีขึ้น
- เริ่มให้ฮอร์โมนครั้งแรกเมื่ออายุ 30-40 วัน หรือก่อนต้นโตถึงระยะเก็บเกี่ยวได้ ก็ได้ ในต้นจะมีการสะสมตาดอก ซึ่งจะช่วย
ให้ออกดอกดี สมบูรณ์ แข็งแรง ส่งผลให้ผลผลิต (เมล็ดในผล) ดี



เคล็ด (ไม่) ลับ :
- การให้ "แคลเซียม โบรอน" ทางใบเพียง 1-2 ครั้ง ตั้งแต่เริ่มโตจนถึงเก็บเกี่ยวจะช่วยให้ได้คุณภาพ น้ำหนัก กลิ่นดี ไม่มีเสี้ยน
- การให้ "บี-1" ทางราก 1-2 ครั้ง ตั้งแต่เริ่มโตจนถึงเก็บเกี่ยวจะช่วยให้ได้รากมีขนาดใหญ่ขึ้น
- การให้ "น้ำ + ปุ๋ย" ตอนเย็น หลังพระอาทิตย์สิ้นแสง จะได้ประสิทธิภาพเหนือกว่าการให้ช่วงเวลาอื่น เพราะต้นพืชดูดสารอาหาร
จากดินสู่ต้นในช่วงกล่างคืน ส่งผลให้ต้นโตเร็วกว่าปกติ
- เมื่อต้นผักชีเริ่มงอกออกมาจากเมล็ดใหม่ๆ ควรมีฟางคลุมแปลงหนาๆ เมื่อต้นเริ่มสูงขึ้นๆ ก็ต้องยีฟางให้ฟูสูงตามด้วย แบบนี้ต้น
ผักชีจะมีเส้นฟางคอยรับกิ่งไม่ให้เอนลง เสมือนว่า ต้นผักชีโตในอ้อมอกฟาง ประมาณนี้
- ให้ "น้ำ + ปุ๋ยฯ" ตอนเย็น ใกล้ค่ำ จะได้ประสิทธิภาพดีกว่าให้เวลาอื่น เพราะต้นหอมแบ่งจะดูดสารอาหารจากราก
ขึ้นสู่ต้นในตอนกลางคืน ส่งผลให้ต้นโตเร็ว
- ผักชีแบบ "อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสม" อายุหลังเก็บเกี่ยว (ฝากแผง) อยู่ได้นาน แม่ค้าชอบ จะสั่งล่วงหน้า

- ........ ยังไม่จบ แล้วจะสืบเสาะมาเติมให้อีก ........


ผักชีแจ๊คพ๊อต :
เพราะผักชีเป็นพืชสวนครัว กินใบ อายุสั้นฤดูกาลเดียว ปลูกได้ทุกฤดูกาล และทุกพื้นที่ของประเทศ ..... การปลูกผักชี
ส่วนใหญ่จะปลูกในแปลงกลางแจ้ง ไม่นิยมปลูกในโรงเรือน (ถาวร/ชั่วคราว) นัยว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า

เพราะผักชีมีลักษณะทางสรีระพืชที่มีใบขนาดใหญ่ แต่ก้านใบเล็กและไม่แข็งแรงพอ เมื่อฝนตกลงมา ใบที่รับน้ำทำให้มี
น้ำหนักมาก ก้านใบจึงลู่เอนลงจนกระทั่งกาบที่โคนก้านใบฉีก กลายเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าได้ กอร์ปกับ ดินปลูกที่
อุ้มน้ำมาก เมื่อฝนตกมา น้ำฝนขังค้างในเนื้อดินโคนต้น ส่งผลให้เกิดโรครากเน่าโคนเน่าได้อีก

- นี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้ปลูกผักชีน้อย แล้วส่งผลให้มีราคาแพงขึ้นนั่นเอง
- อย่าหนีการปลูกผักชีหน้าฝน เพราะผักชีหน้าฝนราคาแพง ถึงแพงมากๆ


แนวทางปฏิบัติ :
1. สร้างโรงเรือนปลูกแบบมีหลังคาพลาสติกป้องกันน้ำฝนยามฝนตกให้ได้ 100% เพราะน้ำฝนคืออุปสรรคสำคัญที่สุด
ที่ทำให้การปลูกผักชีหน้าฝนล้มเหลว

2. กำหนดวันเก็บเกี่ยวให้ตรงกับช่วงที่ตลาดราคาดี ซึ่งผักชีจะราคาแพงประมาณ 2 เดือน นั่นคือ
ช่วงที่ 1 ประมาณครึ่งเดือนแรก ราคาเริ่มแพง
ช่วงที่ 2 ประมาณ 1 เดือนต่อจากช่วงที่ 1 ราคาแพง ถึง แพงมาก
ช่วงที่ 3 ประมาณ ครึ่งเดือนต่อจากช่วงที่ 2 ราคาเริ่มลง หรือพอๆกับช่วงที่ 1

3. บันทึกการปลูก ตั้งแต่เริ่มลงเมล็ด (เริ่มงอกแล้ว) ลงในแปลงปลูก ถึงวันเก็บเกี่ยวว่า ใช้ระยะเวลากี่วัน

4. นับวันจากวันเก็บเกี่ยวย้อนหลังถึงวันลงเมล็ด (กาในปฏิทิน) แล้วเริ่มลงเมล็ด ณ วันนั้น จากนั้นบำรุงตามปกติ

5. ทำ 4 แปลง กะคำนวนให้แต่ละแปลงเก็บเกี่ยวได้ห่างกัน 7-10 วัน โดยให้แปลงแรกเก็บได้ตรงกับวันที่ราคาเริ่มแพง
แล้วอีก 2 แปลงต่อมา เก็บอีกอาทิตย์ละแปลงก็จะตรงกับช่วงที่ราคาแพงสุด 2 อาทิตย กับอีก 1 แปลงสุดท้าย เก็บ
ช่วงสุดท้ายของช่วงที่ราคาเริ่มลง

สรุป :
- แปลงแรกตรงกับช่วงที่ราคาเริ่มแพง แปลงสุดท้ายตรงกับช่วงราคาเริ่มลง และ 2 แปลงตรงกลาง ตรงกับช่วงที่ราคา
แพงสุด .... แปลงแรกกับแปลงสุดท้าย แม้จะราคาต่ำลงมาบ้าง แต่ก็ยังแพงกว่าผักชีหน้าแล้ง หน้าหนาว อยู่ดี
- กำหนดวันเก็บเกี่ยวสามารถยืดหยุ่นเป็น +/- 3-5 วันได้

6. ทำ 5 แปลง ให้แต่ละแปลงเก็บเกี่ยวได้ห่างกัน 7-10 วัน โดยให้แปลงแรกตรงกับช่วงที่ราคาเริ่มแพง แปลง 2-3-4
ตรงกับช่วงที่ราคาแพงสุด และแปลงสุดท้ายตรงกับช่วงที่ราคาเริ่มลง ...... แบบนี้จะช่วยประกันว่าใน 2-3 แปลงนี้
อย่างน้อย 1 แปลง จะได้ราคาแพงมาก กับอีก 2 แปลง (หัว-ท้าย) ราคาต่ำลงมาบ้าง แต่ก็ยังแพงกว่าผักชีหน้าแล้ง
หน้าหนาว อยู่ดี

7. อย่าฝากอนาคตไว้กับผักชีเพียงแปลงเดียว แปลงใหญ่ กะรวยใหญ่ ว่างั้น เรื่องตลาดเอาแน่นอนไม่ได้ เพราะฉนั้นต้อง
เผื่อได้เผื่อเสียไว้บ้าง ผิดหวังเล็กๆ ดีกว่าผิดหวังใหญ่ๆ นะ




.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 21/11/2011 8:39 pm, แก้ไขทั้งหมด 89 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
roiet
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 10/11/2011
ตอบ: 11

ตอบตอบ: 18/11/2011 7:04 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

จะทำผักชีแจ๊คพ๊อตบ้างนะครับลุง
ดีกว่ารอแจ๊คพ๊อตจากล็อตเตอรี่..ฮ่าๆๆ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 18/11/2011 7:25 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

รู้แล้ว....ทำเป็นแล้ว.....งั้นไม่ต้องเขียนอธิบายรายละเอีนยดอีกก็ได้มั้ง.....


ที่ขึ้นหัวข้อไว้นั้น เพราะต้อง "คิด-คิด-คิด" เรียบเรียงลำดับข้อมูล ไม่ได้เขียน
แบบ "ขุนแผนชมสวน" ทุกอย่างต้องมีทั้ง "ประสบการณ์-วิชาการ" เพราะฉนั้น
อย่าเร่ง อย่าวัยรุ่น...............O.K. ?


ภาพประกอบที่ลิงค์ต่างๆที่ COPY มาให้ดูนั้นก็เพื่อ ให้รู้เป็นข้อมูล จะทำแบบนั้นก็ได้
ถ้ามั่นใจว่าถูกต้อง ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของผักชี กับเพื่อให้รู้จักผักชีมากๆ
นั่นเอง

กับวิธีการของลุงคิมก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง ที่ยึดหลัก...
- การตลาดนำการผลิต
- อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสมของผักชี
- ผลผลิตเพิ่ม (คุณภาพ-ปริมาณ) ต้นทุนลด อนาคตดี

ในธรรมชาติไม่มีตัวเลข ไม่มีสูตรสำเร็จ และไม่มีใครเป็นเจ้าของสูตรที่แท้จริง หรือ
COPY ไม่ได้แต่ APPLY ได้ เพราะฉนั้น เราควรเก็บข้อมูล (ทั้งวิชาการและ
ประสบการณ์) จากทุกๆแหล่งมาให้มากที่สุด แล้ว "คัด/กรอง" เอามาเป็นสูตรหรือ
วิธีการของตัวเอง



.



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
roiet
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 10/11/2011
ตอบ: 11

ตอบตอบ: 18/11/2011 11:17 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คิดคิดคิดคิดคิด ครับลุง

ใจเย็นๆ รอฟังประสบการณ์จริงจากลุงครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 19/11/2011 7:14 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

น้ำท่วมราคาผักพุ่งผักชี กก.ละกว่า 300 บาท


น้ำท่วมทำราคาผักกระฉูด ชาวบ้านอ่วม ผักชี กก.ละกว่า 300 บาท กรมการค้าภายในระบุผักสดเข้าสู่ตลาดลดลง 10-30%
ราคาปรับขึ้นเฉลี่ย 10-20% ผักชี-ต้นหอม-ผักกาดหอม ขึ้นสูงสุด 50% ตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามราคาใกล้ชิด นำผักจาก
แหล่งน้ำไม่ท่วมขายตลาดไท-สี่มุมเมือง นายกฯ กำชับพาณิชย์ระงับแผนระบายข้าวในสต็อก ขณะที่ "พรทิวา" ยันไม่มีปัญหา
ข้าวขาดแคลน สั่งสต็อกไว้กินในประเทศแล้ว 1 ล้านตัน เอฟเอโอชี้เสี่ยงเกิดวิกฤติอาหารแพงทั่วโลก

ปัญหาน้ำท่วมนอกจากจะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบภัยแล้ว ยังส่งผลกระทบให้ราคาผักสดแพง
ขึ้นเป็นประวัติการณ์

ผู้สื่อข่าวออกสำรวจราคาผักสดที่ตลาดสดรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ปรากฏว่า ผักหลายชนิดมีราคา
แพงขึ้นมากกว่าช่วงเทศกาลกินเจหลายเท่า สาเหตุหลักเนื่องมาจากพื้นที่ปลูกผักในหลายๆ จังหวัดถูกน้ำท่วมจนเสียหาย

นางธมณวรรณ ประดิษฐาน หรือเจ๊พร อายุ 47 ปี แม่ค้าผักสดตลาดรังสิต กล่าวว่า ผักที่แพงที่สุดในตลาด คือ ผักชี ราคา
ส่งจากตลาดไท อยู่ที่กิโลกรัมละ 240 บาท ถึง 270 บาท แม่ค้าก็ต้องมาขายกิโลกรัมละ 300 กว่าบาท ซึ่งในช่วงกิน
เจ ผักชีราคาส่งอยู่ที่ประมาณ 100 กว่าบาทเท่านั้น ส่วนต้นหอมก็มีราคาแพงขึ้นจากเดิมมัดละ 55 บาท ตอนนี้ราคาส่งมัด
ละ 70 บาท ส่วนสาเหตุที่มีราคาแพงขึ้นนั้น น่าจะมาจากสวนผักในหลายๆ จังหวัดประสบปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งการขนส่ง
ก็ยากลำบาก ทำให้ปริมาณผักเข้าสู่ท้องตลาดน้อยลงจึงเป็นสาเหตุให้ราคาแพงขึ้น

นางหมวย แซ่ลิ้ม แม่ค้าผักอีกรายหนึ่งกล่าวว่า ตอนนี้ใบกะเพรา โหระพา ก็มีราคาแพงเช่นกัน ราคาส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 50-60
บาทแล้ว จากเดิมอยู่ที่ราคา 30-40 บาท แม้แต่ผักบุ้งจีน ซึ่งปกติราคาจะถูก แต่ตอนนี้ราคาส่งอยู่ที่มัดละ 40 บาท สาเหตุ
เพราะแหล่งปลูกนั้นถูกน้ำท่วม

ด้านนางสุดาลักษณ์ พยัฆเทพินทร์ ผู้บริหารตลาดสดรังสิต กล่าวว่า ราคาผักสดบางชนิดสูงกว่าช่วงเทศกาลกินเจ สาเหตุหลัก
น่าจะมาจากการที่พื้นที่ทางการเกษตรหลายแห่งถูกน้ำท่วม ซึ่งทางตลาดก็พยายามขอความร่วมมือจากพ่อค้าแม่ค้าควบคุม
ราคาไม่ให้สูงมากนัก เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมไม่ต้องมาเดือดร้อนจากราคาพืชผักแพง
อีกด้วย

ขณะที่ประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาด กล่าวว่า ช่วงนี้ราคาผักขยับขึ้นสูงมาก จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาดำเนินการแก้
ปัญหาให้ด้วย

เจ้าของร้านอาหารรายหนึ่ง เปิดเผยว่า จากการจับจ่ายซื้อผักในตลาดปทุมธานี พบว่าราคาสูงขึ้นมาก ใบโหระพาขึ้นไปถึง
กิโลกรัมละ 80 บาท ทำให้เจ้าของร้านอาหารบางแห่งต้องปรับราคาอาหารที่จำหน่ายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้า
ของบางแห่งก็ยังไม่มีการปรับราคาอาหารเนื่องจากเกรงว่าจะเสียลูกค้า เพราะช่วงนี้สถานการณ์โดยทั่วไป ประชาชนกำลัง
เดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วม ดังนั้น จึงไม่อยากซ้ำเติมผู้บริโภคอีก

ขณะที่นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการสอบถามสถานการณ์ราคาผักจากผู้ประกอบการ
ตลาดสดในเขตกรุงเทพมหานคร พบว่าขณะนี้ผลผลิตผักสดในภาพรวมเข้าสู่ตลาดลดลง 10-30% เนื่องจากเหตุน้ำท่วม
ส่งผลให้ราคาพืชผักโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 10-20% จากราคาปกติ แต่จะมีผักบางรายการเช่น ผักชี
ต้นหอม และผักกาดหอม ซึ่งเป็นผักที่อยู่ในกลุ่มอ่อนไหวพบว่าราคาสูงขึ้นเฉลี่ย 50% อย่างไรก็ตาม รายงานราคา
ดังกล่าวยังต่ำกว่าในช่วงเทศกาลกินเจที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาปกติ 30-40%

“หากฝนไม่ตกซ้ำ สถานการณ์ราคาผักน่าจะคลี่คลายลงได้อีกราว 2 สัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ตาม กรมฯได้ตั้งศูนย์เฝ้าระวัง
ผักสด เพื่อติดตามราคาผักอย่างใกล้ชิดเป็นรายวัน ทั้งเตรียมพร้อมมาตรการในการเชื่อมโยงสินค้าระหว่างฝั่งตลาดไทกับปาก
คลองตลาด เพื่อบรรเทาปัญหาผักมีราคาแพงได้”


http://www22.brinkster.com/asp305


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 26/11/2011 7:50 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
roiet
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 10/11/2011
ตอบ: 11

ตอบตอบ: 26/11/2011 8:49 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.....
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©