-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-อยากปรึกษาคุณ Yuth-Jasmine
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - อยากปรึกษาคุณ Yuth-Jasmine
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

อยากปรึกษาคุณ Yuth-Jasmine

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
tuktavan
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 09/09/2012
ตอบ: 5

ตอบตอบ: 09/09/2012 12:55 pm    ชื่อกระทู้: อยากปรึกษาคุณ Yuth-Jasmine ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ที่เคยอ่านที่คุณยุทธ ทำระบบน้ำ Big gun
ขนาดที่ดินผมคล้ายคุณยุทธเลยครับ
กว้าง 80 เมตร ลึกเข้าไปประมาณ 480 เมตร
แต่แหล่งน้ำผมอยู่ห่างจากจุดไกลสุดที่จะยิงสปริงเกอร์ประมาณ 400 เมตร
แต่สามารถใช้โอ่งน้ำพักน้ำได้ที่ระยะ 200 เมตรจากแหล่งน้ำ
(ผมทำไร่อ้อยครับ)

อยากทำระบบน้ำแบบคุณยุทธครับ
ผมดูจากอุปกรณ์ สปริงเกอร์และปั้มตู้
เข้าใจว่าคุณยุทธซื้อมาจากบริษัทเดียวกันกับที่ผมดูอยู่
แต่ผมไม่สะดวกที่จะใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ครับ
เลยจะดูเครื่องสูบน้ำติดเครื่องยนต์แรงดันสูงที่เขาขายอยู่

เครื่องสูบน้ำเบนซินแรงดันสูง โคจิม่า (KOJIMA) รุ่น HP-20
ปั๊มมีเนียมแรงดันสูง 2" ประกอบเครื่องยนต์ โคจิม่า (KOJIMA) ขนาด 6.5 แรงม้า
- ระยะส่งสูงสุด 52 เมตร
- ปริมาณน้ำสูงสุด 467 ลิตรต่อนาที
- ประกอบพร้อมโครงเหล็ก เคลื่อนย้ายได้สะดวก
- สามารถใช้กับมินิสปริงเกอร์ได้ 20-25 หัว
- สามารถใส่ข้อลดที่ทางน้ำออก เพื่อนำไปใช้เป็นปั๊มดับเพลิง

ผมจะวางท่อ PVC เข้าตรงกลางของที่ดินเลยครับ
ตั้งเครื่องสูบน้ำแบบที่ส่งน้ำเยอะๆ ที่แหล่งน้ำ ขึ้นไปพักที่โอ่งน้ำกลางที่ก่อน
แล้วค่อยใช้เครื่องสูบแรงดันสูงอัดสปริงเกอร์อีกทีครับ
ผมจะใช้ปั้มตัวนี้ในการยิงสปริงเกอร์ขนาด 2 นิ้วเหมือนคุณยุทธ
แล้วให้สปริงเกอร์หมุนรอบให้ได้ความกว้าง 80 เมตร (รัศมี 40 เมตร)

รบกวนสอบถามคุณยุทธดังนี้ครับ
- ถ้าผมจะใช้เครื่องสูบน้ำตัวนี้อัดสปริงเกอร์
จะวางเครื่องสูบน้ำห่างจากสปริงเกอร์ได้ไกลสุดน่าจะกี่เมตรครับ
(สปริงเกอร์ตัวที่ไกลสุดจากโอ่งพักน้ำจะประมาณ 160 เมตร)
ยิงสปริงเกอร์ทีละตัวก็ได้ครับ

- ถ้าผมใช้วิธีไม่พักน้ำ แล้วใช้เครื่องสูบที่สามารถส่งน้ำได้ 1000 ลิตร/นาที
ส่งน้ำขึ้นไปไกลประมาณ 360 เมตร
แล้วตั้งเครื่องสูบน้ำแรงดัน อัดสปริงเกอร์ตรงข้างสปริงเกอร์เลย
สามารถทำได้ไหมครับ น้ำขึ้นไปจะทันตัวที่อัดสปริงเกอร์ไหมครับ

- หรือมีวิธีอื่นแนะนำ รบกวนคุณยุทธและเพื่อนๆ สมาชิกด้วยครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Yuth-Jasmine
สาวดี่
สาวดี่


เข้าร่วมเมื่อ: 05/07/2010
ตอบ: 384

ตอบตอบ: 10/09/2012 10:32 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับ


ต้องออกตัวก่อนน่ะครับว่า ผมก็ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญอะไร
ก็อาศัยการลองผิดลองถูกเหมือนกันครับ

เอาอย่างนี้ได้ไหมครับ ผมรบกวน

ช่วยเขียนภาพพื้นที่ไร่ และบริเวณแหล่งน้ำให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ
จะได้นึกภาพออกครับ มีอะไรจะได้เพิ่มเติมกันได้สะดวก
เผื่อสมาชิกท่านอื่นสนใจจะได้นำไปศึกษาหรือต่อยอดได้ด้วยน่ะครับ

ส่วนตัวแล้วที่ผมใช้เครื่องดีเซลก็เพราะเรื่องชั่วโมงการทำงานที่ดีกว่า
เรื่องรอบเครื่องยนต์ไม่ค่อยมีปัญหาน่ะครับ

ยังไงก็ส่งรูปภาพคร่าวๆมาดูกันน่ะครับ จะได้ช่วยกันได้ถูกต้อง
เขียนเอาง่ายๆก็ได้ครับผม


ต้องขอโทษน่ะครับที่เข้ามาตอบช้า
ช่วงนี้จิตใจมันยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางน่ะครับ

อีกเรื่องนึงครับ โอ่งที่จะใช้พักน้ำน่ะครับ จุน้ำได้กี่คิวครับ
แล้วจะเอาวางไว้ตรงไหนครับ เอาแบบละเอียดนิดนึงครับ
จะได้ช่วยกันให้เข้าใจง่ายขึ้น

ถ้าต้องพักน้ำ แล้วสูบจากโอ่งเข้าในไร่ มันก็ต้องสูบๆหยุดๆ หรือเปล่าครับ
ไม่ได้กวนน่ะครับ แค่สงสัย ก็เลยต้องถามกันให้กระจ่างหน่อยน่ะครับ



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
tuktavan
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 09/09/2012
ตอบ: 5

ตอบตอบ: 12/09/2012 11:36 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผมหาทางวางรูปไม่ได้เลยครับ

ถ้ารบกวนคุณยุทธช่วยทิ้ง email ไว้ให้ได้ไหมครับ

ขอบคุณครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 12/09/2012 12:44 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

วาดรูปในกระดาษก่อน แผ่นโตๆ ใส่รายละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่ต้องการบอก

แล้วถ่ายรูปนั้นด้วยโทรศัพท์มือถือ

ถ่ายรูปแล้ว ใช้มือถือเครื่องนั้นส่งไปที่ (085) 055-7706 จะมีคนโพสลงให้

มีคนโพสรูปลงให้แล้ว เจ้าของรูปตามมาบรรยาเพิ่มทีหลังก็ได้.....

ยาก/ง่าย อยู่ที่ใจ ว่ามั้ย.....



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 02/10/2012 7:02 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Yuth-Jasmine
สาวดี่
สาวดี่


เข้าร่วมเมื่อ: 05/07/2010
ตอบ: 384

ตอบตอบ: 12/09/2012 10:57 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เมล์ของผมน่ะครับ
sarayuth-c@hotmail.com
ส่งมาได้เลยครับ

ได้รูปแล้ว ผมจะเอามาลงในนี้เอง
แล้วก็ค่อยว่ากันไปทีละส่วนน่ะครับ

หรือจะเอาอย่างลุงแนะนำก็ดีครับ
ลุงใจดีครับไม่สั่งขังครับ (ยกเว้นผมคนเดียว)

จะได้เอามาแชร์แนวทางกันน่ะครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
tuktavan
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 09/09/2012
ตอบ: 5

ตอบตอบ: 01/10/2012 12:31 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ต้องขอโทษด้วยครับ
หลังจากที่ได้ขออีเมลคุณยุทธ์ไว้
ทางบ้านผมก็มีเรื่องยุ่งๆ ไม่ได้เปิดเน็ตเลย
พอมีเวลาเลยมาเปิดดู
เห็นคุณยุทธ์กรุณาฝากอีเมลไว้ให้
ผมจึงรีบส่งรูปไปให้คุณยุทธ์แล้วครับ

ตอนนี้เครื่องสูบน้ำของบริษัทนี้มีตัวเลือก 2 ตัวดังนี้ครับ
http://www.nakarinbangkok.com/articles/49599/เครื่องสูบน้ำ.html

ปั๊มมีเนียมแรงดันสูง 2" ประกอบเครื่องยนต์ โคจิม่า (KOJIMA) ขนาด 6.5 แรงม้า
ระยะส่งสูงสุด 52 เมตร
ปริมาณน้ำสูงสุด 467 ลิตรต่อนาที
ประกอบพร้อมโครงเหล็ก เคลื่อนย้ายได้สะดวก
สามารถใช้กับมินิสปริงเกอร์ได้ 20-25 หัว
สามารถใส่ข้อลดที่ทางน้ำออก เพื่อนำไปใช้เป็นปั๊มดับเพลิง
ราคาประมาณ 6,500 บาท

เครื่องสูบน้ำเบนซินแรงดันสูง โคจิม่า (KOJIMA) รุ่น SHP-50
ปั๊มหอยโข่งเหล็กหล่อขนาด 2" ประกอบเครื่องยนต์เบนซิน KOJIMA KM-1300
(เข้าใจว่าให้กำลังสูงสุด 13 แรงม้า)
ปริมาณน้ำสูงสุด 500 ลิตรต่อนาที
ระยะส่งสูงสุด 100 เมตร
ราคาประมาณ 17,000 บาท

เป็นปั้มติดเครื่องยนต์แบบแกนในทั้ง 2 เครื่อง
สงสัยว่าดูตามรูปรุ่นที่บอกว่าเป็นปั้มหอยโข่งเหล็กหล่อ ปั้มแกนในแบบนี้ทำได้ด้วยเหรอครับ
เครื่องยนต์และปั้มแบบนี้มีข้อดีข้อด้อยกว่าแบบแกนนอกแบบใช้สายพานไหมครับ
จำเป็นต้องใช้เครื่องแบบนี้ เพื่อสะดวกในการยกขึ้นลงรถตรวจการ ไม่ได้ใช้ปิ๊กอัพ
จะใช้อัดสปริงเกอร์บิ๊กกันมังกรทองครับ

ขอบคุณมากครับ
แว่น
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1864

ตอบตอบ: 01/10/2012 10:17 pm    ชื่อกระทู้: วิธี โพสต์รูปลงเว็ปลุงคิม ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เรียนคุณ tuktavan



วิธีโพสต์รูปลงเว็ป ทำเองได้ไม่ยาก กรุณาเปิดกระทู้เลขที่อ้างอิง 3049 แล้วลองทำตามนั้น จะได้ไม่ต้องเสีย
ค่าส่งรูปทางโทรศัพท์รูปละ 6 บาท ลองดูนะครับ

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เมื่อเข้ามาทักทายกันแล้วขออนุญาต แจม



รูปนี้น่าจะเป็นของที่คุณยุทธ ใช้งานอยู่ ซึ่งบอกว่า ของมือสอง ราคา 1000 น่าจะเป็นท่อ 2 นิ้ว แรงดันกี่บาร์ไม่ได้
บอกรายละเอียด




รูปนี้น่าจะเป็นท่อสวมโอเวอร์เฮดขนาด 2 นิ้ว




อันนี้เป็น Rain-gun




อันนี้เป็นหัวเกลียวใน 1 นิ้ว หมุนได้รอบตัว รัศมี 20 เมตร แรงดัน 2 บาร์ ราคาประมาณ 700 บาท




อันนี้เป็นเกลียวใน 1.5 นิ้ว ปรับองศาได้ รัศมี 25 เมตร ราคา 1400 บาท

ระบบสปริงเกลอร์ ของผมใช้แบบนี้ครับ หัวปีกผีเสื้อ แบบลุงคิม ผมซื้อ 3 บาท ของลุงซื้อ 2 บาท





ส่วนเครื่องยนต์ใช้ 5.5 กับ 6.5 แรง
เครื่อง 6.5 ใช้กับหัวสปริงเกลอร์ปีกผีเสื้อ โซนละ 80 หัว เร่งเครื่องนิดเดียว เร่งแรงไม่ได้ หัวปีกผีเสื้อหลุด







ต่อก้านท่อเข้ากับหัวดูด 2 นิ้วแบบนี้



เครื่องนี้ 5.5 แรงต่อติดกับปั๊มน้ำ 2 นิ้ว เดินท่อยาว 200 เมตร ติด แอร์แว หรือแอร์แวะ ที่ระยะ 75 เมตร 2 จุด
น้ำปลายท่อแรง กำลังเครื่องไม่ตก



รูปแอร์แว ภูมิปัญญาชาวบ้านครับ สำหรับระบบ ท๊อปกัน ผมไม่ชำนาญ ไม่แน่ใจว่าจะใช้ แอร์แว ช่วยให้กำลัง
ทั้งน้ำและเครื่องยนต์ไม่ตกได้หรือไม่



ขออภัยที่เข้ามา ยุ่ง โดยไม่บอกกล่าว


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Yuth-Jasmine
สาวดี่
สาวดี่


เข้าร่วมเมื่อ: 05/07/2010
ตอบ: 384

ตอบตอบ: 02/10/2012 1:21 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)



รูปที่คุณแว่นส่งมา ผมลองมาเขียนดูอีกครั้งเป็นแบบนี้น่ะครับ



จากภาพจะเห็นว่า ผมวางจุดที่จะวาง หัวสปริงเกอร์ใหม่เป็นแบบนี้ครับ
ค่อนข้างจะครอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่ามาก
- แต่ละหัวมีรัศมี 30 เมตร (40 ก็ได้ แต่ปั๊มและเครื่องยนต์ทำงานหนักครับ)
- วางห่างกัน ประมาณ 53 เมตร
- ด้านริมพื้นที่ ปรับแกนบังคับรัศมี ให้เหลือแค่ 90 และ 180 องศา

ข้อปุจฉาน่ะครับ
- บอกตรง ๆ น่ะครับว่า โอ่ง 2 ใบ ความจุรวม 3 คิว
ผมไม่แน่ใจว่าจะทันเก็บน้ำหรือเปล่าน่ะครับ อันนี้ต้องลอง

- ระยะเวลาการทำงานทั้งวัน อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเจ้าเครื่องยนต์ 6.5 แรง จะไหวไหม
ใครเชี่ยวชาญช่วยเพิ่มเติมข้อมูลด้วยน่ะครับ

- ส่วนตัวแล้ว ขอเลือกเอา 2 นิ้วดีกว่าครับ ทำงานไวกว่าเยอะครับ

- ส่งน้ำด้วยปั๊มแบบส่งน้ำได้มาก ๆ แล้วพักน้ำด้วย โอ่ง
แล้วใช้ปั๊มอีกตัว สูบจากโอ่งเข้า สปริงเกอร์ ถูกต้องไหมครับ
สรุปคือ มี ปั๊มตัวนึง วางไว้ตรงสระน้ำ ลากสายไปให้ไกลสุด
เก็บไว้ในโอ่ง แล้วติดปั๊มอีกตัวนึง ที่โอ่ง ต่อเข้า สปริงเกอร์

อันนี้ต้องถามน่ะครับว่า ทำงานคนเดียวหรือเปล่าครับ
ผมกลัวว่าจะไม่สะดวก แต่ถ้ามีคนช่วยก็น่าทดลองดูน่ะครับ
แต่ผมบอกตรง ๆ น่ะ ปั๊มขนาด 6.5 แรง นี่ผมกลัวไม่ไหวจริง ๆ ครับ
เอาเป็น เบนซิน 13 แรงดีกว่าไหมครับ

สำหรับผมแล้วไม่ได้เชี่ยวชาญ ลองผิดลองถูกเหมือนกัน
คำถามบางข้อก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้จริงๆ
ถ้าเอาที่ผมทำแล้วได้งานแน่นอน ก็เครื่อง ดีเซล ยี่ห้อ แดงหรือส้ม ก็ได้ครับ

น้ำในสระมาจากไหนครับ ฝน หรือว่าสูบจากคลองชลประทาน
จะพอใช้หรือเปล่าครับ อย่าลืมคิดเผื่อตรงนี้ด้วยน่ะครับ 2 งานก็พอดีครับ
ไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณน้ำมากครับ เอาแค่หมดสระ เป็นใช้ได้
ไม่รู้เรื่องวิชาการมากครับ เพราะเป็นลูกศิษย์ลุง เล่นแบบ กระเหรี่ยง
มั่วแบบมีหลักเข้าไว้ครับ

เรื่องต่อมาคือ เมื่อให้น้ำแล้ว โปรดระวังน่ะครับ วัชพืช จะเอาทันไหม
ระวังน่ะครับ เผลอแป๊ปเดียว พรึบเลยครับ เตรียมตั้งรับให้ดี เอาไม่ทัน
จะเสียตังค์หลายรอบครับ

ยังไงลงมือแล้วมีปัญหาก็ส่งข่าวกันมาน่ะครับ

ปล. ขอบคุณ คุณแดง ศาลายา มากครับ ที่ช่วยอีกแรงนึง
ผมมันแก่แล้ว ต้องหาคนช่วย ยินดีมากครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
tuktavan
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 09/09/2012
ตอบ: 5

ตอบตอบ: 02/10/2012 11:05 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอบคุณ คุณยุทธ์มากครับ
กรุณามากครับ
ขอตอบคำถามก่อนครับ
- โอ่ง 2 ใบ ถ้าไม่ทัน สามารถเพิ่มได้เลยครับ ร้านปั้นโอ่งอยู่ใกล้ๆ ครับ
- ปั้ม 6.5 แรง ผมก็หนักใจเหมือนกันครับ ก็เลยคิดเปลี่ยนแผนดังนี้ครับ
ตรงสระน้ำ ผมคิดจะตั้งปั้มหอยโข่งแรงดัน(ไฟฟ้า) 2 ใบพัด 3 แรง
(เห็นร้านที่คุณยุทธ์ซื้อปั้มตู้มามีขายราคาประมาณห้าพันกว่าบาทครับ)
มาช่วยยิงสปริงเกอร์ระยะ 200 เมตรแรกของพื้นที่ครับ
แต่คงใช้ส่งน้ำไม่ไหว เพราะปั้มพวกนี้ส่งน้ำน้อยมาก
เลยต้องใช้ปั้มหอยโข่งแบบส่งน้ำมากอีกตัวส่งน้ำไปเข้าโอ่ง
ตรงสระน้ำสามารถใช้ไฟฟ้าได้ครับ
อาจใช้ปั้มหลายตัวหน่อย แต่ก็ใช้งานเบาลง และงานน่าจะเสร็จเร็วขึ้น
- ส่วนการทำงาน มีคนช่วยครับ แต่เพื่อให้งานง่ายขึ้น
ผมจะเดินท่อ pvc ไว้ถาวรตลอดแนวเลยครับ จะได้ไม่ต้องลากสายเก็บสาย
- น้ำในสระเป็นบ่อน้ำที่มีน้ำขึ้นตลอดครับ คิดว่าน่าจะพอครับ

มีเรื่องรบกวนสอบถามคุณยุทธ์อีกหน่อยครับ
- ระหว่างสปริงเกอร์มังกรทอง ราคาประมาณพันกว่าบาท
กับสปริงเกอร์ Rain-gun (สีเขียว) ที่คุณ Dangsalaya ลงกระทู้ข้างบน
ผมลองดูราคาของใหม่สองหมื่นกว่าบาท มีของมือสองขายหมื่นเดียว
สำหรับการให้น้ำอ้อย อันไหนน่าจะคุ้มค่ากว่าครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องวัชพืชจะมาครับ กำลังคิดอยู่เหมือนกันครับ
แต่ความตั้งใจผมว่าจะไปเน้นให้น้ำมากๆ ตอนที่อ้อยคลุมหญ้าแล้วครับ
ตอนนี้กำลังหาข้อมูลครับ คิดว่าจะวางระบบตอนปลูกข้ามแล้ง
และดูแลตอ 2 ครับ

ตอนนี้คุณยุทธ์ยังใช้ระบบสปริงเกอร์อยู่หรือเปล่าครับ
ว่างๆ ถ้าไม่รบกวนจนเกินไปอยากขับรถไปเที่ยวครับ
จะได้เห็นหน้างานจริงๆ

ขอบคุณจริงๆ ครับ
แว่น
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1864

ตอบตอบ: 03/10/2012 10:06 am    ชื่อกระทู้: Rain Gun ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับ ลุงคิม, คุณ ตุ๊กตาแว่น และคุณยุทธ

คุณตุ๊กตาแว่น จะเอา Rain Gun ไปใช้กับไร่อ้อย ..ตาย ๆๆๆๆๆ Rain Gun น้ำมันพ่นออกมาเป็นฝอยละเอียด
เค้าใช้กับพืชที่ใบอ่อนและผลที่บอบบาง เช่น แปลงสตรอเบอรี่ หรือรดหญ้าบนกรีนสนามกอล์ฟ (ตร.เมตรละหมื่น)
ไม่ควรนำมาใช้กับไร่อ้อย หรือพืชที่ใบแข็ง เช่น มะม่วง ฯลฯ ขอร้องว่าอย่าใช้เลยครับ มันแพงเกิน ใช้หัวธรรมดา ๆ
ก็พอแล้ว ซื้อ Rain Gun หัวนึง ซื้อ หัวสปริงเกลอร์ธรรมดาได้ สี่ ห้าหัว


เอายังงี้นะ คุณลองโทรไปที่ 089 - 657-1130 หรือ 087 - 477-9932 ชื่อคุณวิศณุ มีสวัสดิ์ เป็นวิศวกรเก่งมาก อยู่
สงขลา ทุกเรื่องเกี่ยวกับเครื่องยนต์ที่คุณสงสัย คุณสอบถามขอคำแนะนำได้เลย บอกเค้าว่า แดง ศาลายา แนะนำมา ...
ผมไม่เคยเห็นหน้า แค่เพียงรู้จัก ไม่มีส่วนได้เสีย อะไรที่คิดว่าดี ก็แนะนำกัน คุณจะได้ใช้ของที่มีคุณภาพในราคาที่ถูกมาก ๆ


ผมอยู่นครปฐม ฝากเค้าซื้อเครื่องยนต์ เครื่องตัดหญ้า เครื่องพ่นปุ๋ย และปั๊มน้ำจากสงขลา ส่งไปให้น้องชายที่อยู่เชียงราย
เค้าจัดส่งให้เรียบร้อย เครืองยนต์ต่าง ๆ ปั๊มน้ำที่ผมลงรูปให้ดู ผมฝากเค้าซื้อ ของทุกอย่างส่งถึงหัวบันไดบ้านไม่ต้องไป
เสียเวลาซื้อแล้วต้องแบกกลับบ้าน ของชิ้นไหนไม่ดี ส่งกลับเปลี่ยนของใหม่ให้โดยไม่มีเงื่อนไข ค่าขนส่งเค้าจ่าย ลองดูนะ
ครับ ทุกอย่างที่คุณต้องการสอบถามขอคำแนะนำได้













ที่ผมชอบใจคือเจ้าตัวนี้แหละครับ ปั๊มดูดน้ำขนาดพกพา ใช้กับเครื่องตัดหญ้า ท่อน้ำออก 2 นิ้ว น้ำมัน 1 ถัง เร่งเครื่อง 60 %
สูบน้ำได้ เกือบ 4 ชั่วโมงและเวลาใช้งาน ต้องนั่ง - นอนเฝ้านะครับ ไม่งั้น อาจจะต้องย้ายไปอยู่ประเทศ อีลัก อัหยิบ





ปั๊มตัวนี้ ยี่ห้อ BONO ท่อ 3 นิ้ว น่าจะขนาดเดียว (และยี่ห้อเดียว) กับของลุงคิมที่ใช้ในระบบสปริงเกลอร์ที่ไร่กล้อมแกล้ม

ผมฝากคุณวิษณุซื้อแล้วส่งให้ถึงหัวบันไดบ้าน และต้องขออภัย ที่ลงรูปโดยใช้ BB Code [thumbnail] เนื่องจากเครื่อง
คอมของผมอายุใช้งานนานกว่า 10 ปี แล้ว จนเครื่องของน้องอีก 2 เครื่องที่ซื้อรุ่นเดียวกันเค้าไปอยู่ที่วัดสวนแก้วกันหมด
แล้ว ผมก็ยังทนทู่ซี้ใช้...ส่งรูปทางเน๊ตได้ก็บุญโขแล้ว ...





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1864

ตอบตอบ: 03/10/2012 12:03 pm    ชื่อกระทู้: ปลูกหญ้าที่กินหญ้า ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ลืมไปครับ

เรื่องหญ้า เรื่องเล็ก ถ้าปลูกหญ้าที่กินหญ้า







เค้าเรียกว่า หญ้าเมล็ดแดงครับ ปลูกหญ้าชนิดนี้แล้ว หญ้าอย่างอื่นจะไม่ขึ้น แม้กระทั่งหญ้าคา ดูไกล ๆ เหมือนปูพรม
เดินนุ่มเท้าอีกต่างหาก



ลองหามาปลูกดูนะครับ


.




,
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
tuktavan
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 09/09/2012
ตอบ: 5

ตอบตอบ: 04/10/2012 8:34 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอบคุณคุณแดงมากครับ

รบกวนสอบถามเรื่องหญ้าเมล็ดแดงหน่อยครับ
- หญ้านี้มันขยายเร็วไหมครับ
- เมื่อโตเต็มที่เป็นแบบไหนครับ
- ถ้าเราเอามาเลี้ยงจะแย่งอาหารอ้อยมากไหมครับ
- เวลาอ้อยโตคลุมหญ้าแล้ว หญ้าพวกนี้จะตายไหมครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1864

ตอบตอบ: 04/10/2012 12:41 pm    ชื่อกระทู้: หญ้าเมล็ดแดง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับคุณแว่น(เรียกสั้น ๆ อย่างนี้ละนะง่ายดี ไม่ต้องมีตุ๊กตา)

จาก บิ๊กกัน กลายเป็น หญ้าเมล็ดแดง ซะแล้ว
คำถาม...
รบกวนสอบถามเรื่องหญ้าเมล็ดแดงหน่อยครับ
- หญ้านี้มันขยายเร็วไหมครับ

ความจริงมันไม่น่าจะเรียกว่าหญ้า เพราะมันไม่เหมือนหญ้า น่าจะเรียกเป็นพืชคลุมดินมากกว่า มันจะคล้ายคุณนายตื่นสาย
แต่ต้นมันเล็กกว่า ชอบขึ้นในที่ชื้น ขึ้น(เลื้อย)เป็นแพ สูงจากพื้นไม่น่าจะเกิน 3 นิ้ว ลำต้น ใบ อวบน้ำ ตอนเย็นแดดร่มลมตก
นั่งคุยกันบนแปลงหญ้า มันนุ่มนอนสบาย ...คุณแว่นลองคลิกที่รูปเพื่อดูภาพขยายซีครับ อยากลงรูปใหญ่ ๆ อย่างที่คุณ
ยุทธว่า แต่คอมของผมมันแก่งั่ก กว่าจะ Load ได้คงเป็นวัน


- เมื่อโตเต็มที่เป็นแบบไหนครับ

ตามรูปนี่ก็โตเต็มที่แล้วละครับ พอดีว่าของผมโดนน้ำท่วมตาย แต่มันมีอีกพันธุ์หนึ่ง คล้าย ๆกัน ต้น และใบ เล็กกว่า โต
ช้ากว่า ถ้าดูว่ามันรกนักก็เอาเครื่องตัดหญ้า ลุย ป๊าด ๆๆๆๆๆ มันก็จะเรียบไปพักนึง ไอ้ต้นที่ถูกตัดบางต้นอาจตาย บางต้น
แตกกอใหม่ เหมือนคุณนายตื่นสายนั่นแหละ ...ดอกมันเล็กจี๊ดเดียว ถ้าดอกโตและมีสีสันแบบคุณนายตื่นสายนะครับ ...
จะเป็นแปลงอ้อยในดงดอกไม้เลยทีเดียว


- ถ้าเราเอามาเลี้ยงจะแย่งอาหารอ้อยมากไหมครับ

เท่าที่เคยปลูกในแปลงผัก.... ผมคิดว่าไม่น่าจะถึงขนาดนั้นเพราะระบบรากสั้นนิดเดียว รากอ้อยยาวกว่า และดูดซับ
ปุ๋ยได้เร็วกว่า และคิดอีกที น่าจะเหมือนคนเรา เมื่อกินอิ่มแล้ว อาหารที่เหลือก็กินไม่หมด นอกจากจะเป็นวัชพืชไร้ค่า
ที่ชอบกินอิฐหินดินทราย


- เวลาอ้อยโตคลุมหญ้าแล้ว หญ้าพวกนี้จะตายไหมครับ

ไม่ตายครับ แต่จะไม่มีใบ เพราะขาดแสง ถ้าปลูกรอบ ๆ แปลงอ้อย ผมว่าทัศนียภาพจะสวยมากเลย เหมือนกับมีหญ้ามอส
แล้วผมคิดว่า การที่มีพืชคลุมดิน ดินข้างล่างก็จะมีความชิ้น ดีกว่าหญ้าอย่างอื่นที่น่าปวดหัว ฆ่าไม่ตายซักที


วันก่อนลงรูปไม่หมด ไม่กล้าลงมาก อายเค้าครับ แต่เพื่อที่คุณแว่นจะได้เห็นว่ามันคลุมดินอย่างไร...ให้ดูเฉพาะที่หญ้า
คลุมดิน อย่าไปดูที่อื่น







มันขึ้น มันโตของมันอยู่แค่นี้แหละ หมดห่วงเรื่องหญ้า จะว่าไม่มีหญ้าเลยก็ไม่ได้ มันก็มีแต่น้อยครับ ผมยังอยากจะ
ทดลองเอาต้นมันมาปั่น แล้วคั้นน้ำเอาผสมฉีดไปที่หญ้าอย่างอื่น ดูซิว่า หญ้าอื่น ๆ ที่โดนละอองมันจะตายมั๊ย แต่
สู้ปลูกลงดินดีกว่า ...ขอผมไปดูข้างโอ่งน้ำก่อนว่า มันจะมีหลงอยู่บ้างมั๊ย ถ้ามีจะลองส่งมาให้คุณแว่น ขอที่อยู่หลัง
ไมค์ด้วย กดที่ PM (ข้อความส่วนตัว)ใต้ชื่อผม แล้วพิมพ์ข้อความแล้วก็ ส่ง ไม่เกินสี่ห้าวัน มันไม่ตายหรอกครับ
อย่างมากก็แค่เหี่ยว ๆ

และสำหรับอุปกรณ์ บิ๊กกัน นอกจากปรมาจารย์คุณยุทธแล้ว ลองคุยกับคุณวิศณุด้วยนะครับ อาจได้แนวทางดี ๆ เอา
มาปรับให้เข้ากับของคุณยุทธ จะได้ใช้ของดีที่ไม่เสียสตางค์มาก


ขอให้โชคดี
ขอบคุณครับ


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Yuth-Jasmine
สาวดี่
สาวดี่


เข้าร่วมเมื่อ: 05/07/2010
ตอบ: 384

ตอบตอบ: 04/10/2012 2:03 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เอาจาก ปสก. น่ะครับ
การทำอ้อย การใช้ยากำจัดวัชพืช จำเป็นครับ แต่ไม่ได้หมายความว่า
ไม่ได้ใช้วิธีการอื่น
ผสมผสานน่ะครับ

อย่างผมนี้ ฉีดครั้งเดียว ครั้งที่ 2 ใช้รถไถเดินตามติดโรตารี่พรวนดินสาดโคนอ้อยครับ พออ้อยท่วมหัว หญ้าก็
ขึ้นไม่ทันแล้วครับ

เรื่อง หญ้าเม็ดแตง
อันนี้ไม่ได้คัดค้านหรือโต้แย้ง คุณแดงน่ะครับ
ผมเคยสั่งซื้อจาก เว็ป เกษตรพอเพียงมาปลูกครัับ
มันสวยมันนุ่มเท้าดีอย่างคุณแดงว่าครับ แต่
มันตายครับ เพราะมันต้องการน้ำสม่ำเสมอครับ
พอลองเอาไปหว่านในไร่อ้อย ช่วงแล้งมากๆ ก็กลับบ้านเก่าครับ

อีกอย่างน่ะครับ เมื่อเราตัดอ้อยแล้ว มันก็ต้องมีการ บำรุงดินรอบต่อไป
ไม่ว่าจะเป็นแถกร่องอ้อยใ่ส่ปุ๋ยใหม่ รวมถึงฉีดยาคุมหญ้าอีก
สุดท้าย หญ้าเม็ดแตง ที่เราปลูกคลุมดินไว้ก็ไม่เหลือครับ
คือ ได้ลองปลูกมาแล้วเจอแบบนี้น่ะครับ หากขัดแย้งกับคุณแดง
ผมต้องขออภัยด้วยน่ะครับ แค่เล่าจากประสบการณ์ให้ฟังครับ

เรื่องหัวสปริงเกอร์ นี่ ก็เลือกตามกำลังทรัพย์น่ะครับ ผมเน้นของถูก ซื้อมาที 2-3 ตัว เสียก็ยังมีทดแทน
ใช้ได้เลย ของแพงกลัวเสียแล้ว งานชะงักน่ะครับ ไม่ค่อยมีตังค์ครับ ว่ากันตรง ๆ เลย

ผมเคยพบข้อมูล จากอินเตอร์เน็ตว่า พี่แขก เขาปลูกอ้อย
โดยใช้ถั่วดินเป็นพืชคลุมดิน เมื่อเก็บเกี่ยวถั่วแล้ว อ้อยก็โตแล้วครับ หญ้าก็ไม่ขึ้น
ยังคิดว่าปีหน้าว่าจะทด
ลองทำดูบ้าง ไม่รู้จะได้ผลอย่างไรบ้างเอา คลิปมาให้ดูกันครับ




ส่วนอันนี้เป็นของยี่ห้อแพงครับ บ้านเรามีขายครับ แต่ราคาน่าขนลุก



เพิ่มเติมน่ะครับ
อันนี้จากที่เห็นเพื่อนบ้านเขาใช้กันครับ
วิธีส่งน้ำปริมาณมากๆและรวดเร็ว อย่างคิดไม่ถึงอีกวิธีน่ะครับ
ท่อพญานาค นี่แหละครับ ง่ายสุดครับ เร็วและให้ปรมาณน้ำมาก ครับ
ก็น้ำท่วมใหญ่ รอบที่แล้ว ที่บ้านผม คิดกันง่ายๆครับ
เครื่องสูบน้ำ อบต. ตัวใหญ่ ๆ เดี้ยงแค่ชั่วข้ามคืน ท่อพญานาค ยังทำงานได้เฉยเลย ตัวเล็ก ๆ เคลื่อนย้าย
สะดวก ส่งน้ำได้ปริมาณมากด้วยแถมไวครับ


ลองดูน่ะครับ



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 04/10/2012 5:36 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

โอเวอร์เฮด กะเหรี่ยง.....















http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1813&sid=7f167ee48bb4af537ad0b64e61af258f






















http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1719&sid=6c1b5e05be1219c7f011e608526e8f75



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1864

ตอบตอบ: 05/10/2012 6:27 am    ชื่อกระทู้: หญ้าเมล็ดแดง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ต้องขอบคุณคุณยุทธ ที่ให้ข้อมูลหญ้าเมล็ดแดงกับการปลูกพืชไร่ จนมองข้ามลืมนึกถึง
การปลูกถั่วให้เป็นพืชคลุมดิน แถมยังมีประโยชน์ เป็นปุ๋ยเมื่อถั่วเน่าเปื่อยอีกด้วย ...

สำหรับถั่วดินที่คุณยุทธพูดถึง คงจะเป็นถั่วลิสงนะครับ เคยทำแต่สวน ไม่เคยทำไร่ เลย
มีข้อผิดพลาด ขออภัยด้วยครับ


และ สำหรับการใช้สปริงเกลอร์ ระบบ บิ๊กกัน ก็ขอศึกษาจากคุณยุทธด้วยเพราะเคยใช้
แต่หัวพ่นแบบ ปีกผีเสื้อ สำหรับรดน้ำผัก เมื่อเปลี่ยนล้มสวนทำนาหลังน้ำท่วมแล้ว กำลัง
คิดว่า ถ้าใช้ระบบ บิ๊กกัน กับนาข้าวในเวลาพ่นปุ๋ยพ่นยา จะประหยัดเวลาและค่าแรง
งาน .......ข้าวจะได้รับปุ๋ย + ยา ดีกว่าเดินพ่นในแปลงนา

กรุณาอธิบายแบบภาษาชาวบ้านๆ ที่ไม่เป็นวิชาการนะครับ จะได้อ่านแล้วรู้เรื่อง




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
A_Chumphae
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 10/10/2010
ตอบ: 153

ตอบตอบ: 06/12/2012 7:42 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม พี่ยุทธ

ไม่ทราบว่าเจ้าของกระทู้ทดลองทำไปหรือยัง ถ้ายังไม่ทำผมขอบอกก่อนเลยครับว่าเครื่อง 6.5 แรงนี่อัดสปริงเกอร์เร่ง
สุดได้แค่ 22-26 เมตรแค่นั้นครับ ผมลองมาแล้ว แถมลองทั้งวันเปลืองน้ำมันมาก เดี๋ยวผมลองหาคลิปผมที่ทำไว้ให้ดู
ก่อนตอนนี้หันมาเล่นปั้มแรงดันสูง 2 ใบพัด อัดหัวสปริงเกอร์ 2 หัว ได้พื้นที่ 1 ไร่ เดี๋ยวผมจะลองหารูปมาลงให้ดูนะครับ


ปล.1 ช่วงนี้ทั้งตัดอ้อย ทั้งดูแลลูกเลยไม่ค่อยได้เล่นเนตเลยครับ

ปล.2 ลุงคิมสบายดีนะครับ





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 06/12/2012 9:40 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

A_Chumphae บันทึก:


สวัสดีครับลุงคิม พี่ยุทธ
อั้ยยู้ดดดด มันไปอยู่อัตตะปือแล้ว


ปล.2 ลุงคิมสบายดีนะครับ
ไม่เคยลำบาก (ว่ะ)


.


ปกติอ้อยให้ 4 ครั้ง ก็น่าจะพอ
ครั้งที่ 1 หลังเจียนตอ ไม่เกิน 3 วัน
ครั้งที่ 2 เริ่มย่างปล้อง
ครั้งที่ 3 โตแล้ว (รอบ 1)
ครั้งที่ 4 โตแล้วให้ซ้ำ (รอบ 2)

ให้น้ำแบบปล่อยน้ำให้ไหลไปตามร่องแถวปลูก ใส่น้ำให้ท่วมมากๆ ใส่ครั้งหนึ่งให้อยู่ได้ข้ามเดือนไปเลย ก็น่าพอแล้วมั้ง

ตอนเตรียมดินครั้งแรก ใส่ยิบซั่มหน่อยจะดี อ้อยข้ามแล้งช่วงเดือน ธ.ค.-มี.ค. ได้สบายเลย

หารถบันทุกน้ำครั้งละหมื่นลิตร ไม่กี่เที่ยวก็พอแล้ว
ไม่เห็นจะต้อง โอเวอร์เฮด - โอเวอร์ฮาร์ด อะไรเลย....ว่ามั้ย


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11658

ตอบตอบ: 07/12/2012 4:20 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เทคนิคการให้น้ำอ้อย






น้ำเป็นปัจจัยการผลิตหลักที่มีผลต่อการเพิ่มผลผลิตอ้อย หากอ้อยได้รับน้ำอย่างเพียงพอตลอดช่วงการเจริญเติบโต
ผลผลิตอ้อยจะได้ไม่ต่ำกว่า
15 ตันต่อไร่ อ้อยต้องการน้ำเพื่อใช้ ในการเจริญเติบโตและสร้างน้ำตาล อ้อยที่ขาดน้ำจะเจริญเติบโตช้า ผลผลิตต่ำ
และให้ความหวานต่ำ

พื้นที่เพาะปลูกอ้อยส่วนใหญ่อยู่ในเขตอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก มีเพียงส่วนน้อยที่อยู่ในเขตชลประทาน อ้อยต้องการ
น้ำเพื่อการเจริญเติบโตตลอด
ปี ประมาณ 1,500 มิลลิเมตร การเพิ่มผลผลิตอ้อยให้สูงขึ้นจึงจำเป็นต้องให้น้ำชลประทานหรือน้ำบาดาลช่วย
การให้น้ำแก่อ้อยจะทำให้ความสามารถในการไว้ตอดีขึ้น เป็นการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวไร่
อีกทางหนึ่ง

ความต้องการน้ำและการตอบสนองต่อการให้น้ำของอ้อย
การผลิตอ้อยให้ได้ผลผลิตสูงนั้น อ้อยจะต้องได้รับน้ำ (น้ำฝน/ชลประทาน) อย่างเพียงพอ ตลอดระยะเวลาการ
เจริญเติบโต ความต้องการน้ำของอ้อยจะขึ้นกับสภาพภูมิอากาศ และช่วงระยะ การเจริญเติบโต ได้แบ่งระยะ
ความต้องการน้ำของอ้อยไว้ 4 ระยะ คือ

1. ระยะตั้งตัว (0-30 วัน) เป็นระยะที่อ้อยเริ่มงอกจนมีใบจริง และเป็นตัวอ่อน ระยะนี้อ้อยต้องการน้ำในปริมาณไม่
มาก เพราะรากอ้อยยังสั้นและการคายน้ำยังมีน้อย ดินจะต้องมีความชื้น พอเหมาะกับการงอก ถ้าความชื้นในดินมาก
เกินไปตาอ้อยจะเน่า ถ้าความชื้นในดินน้อยเกินไป ตาอ้อยจะไม่งอก หรือถ้างอกแล้ว ก็อาจจะเหี่ยวเฉาและตายไป
ในสภาพดินที่เมื่อแห้งแล้ว ผิวหน้าฉาบเป็นแผ่นแข็ง ก็อาจทำให้หน่ออ้อยไม่สามารถแทงโผล่ขึ้นมาได้ ดังนั้น
ในระยะนี้การให้น้ำอ้อยควรให้ในปริมาณน้อยและบ่อยครั้ง เพื่อทำให้สภาพความชื้นดินเหมาะสม

2. ระยะเจริญเติบโตทางลำต้น (31-170 วัน) ระยะนี้รากอ้อยเริ่มแพร่กระจายออกไปทั้งในแนวดิ่งและแนวระดับ
เป็นระยะที่อ้อยกำลังแตกกอและสร้างปล้องเป็นช่วงที่อ้อยต้องการน้ำมาก ถ้าอ้อยได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอ
ในระยะนี้ จะทำให้อ้อยมีจำนวน ลำต่อกอมาก ปล้องยาว ทำให้อ้อยมีลำยาว และผลผลิตสูง การให้น้ำ จึงต้อง
ให้บ่อยครั้ง

3. ระยะสร้างน้ำตาลหรือช่วงสร้างผลผลิต (171-295 วัน) ช่วงนี้พื้นที่ใบอ้อยที่ใช้ประโยชน์ได้จะน้อยลง อ้อย
จะคายน้ำน้อยลง และตอบสนองต่อแสงแดดน้อยลง จึงไม่จำเป็นต้องให้น้ำบ่อย ให้เฉพาะช่วงที่อ้อยเริ่มแสดง
อาการขาดน้ำ

4. ระยะสุกแก่ (296-330 วัน) เป็นช่วงที่อ้อยต้องการน้ำน้อย และในช่วงก่อนเก็บเกี่ยว 6-8 สัปดาห์ ควร
หยุดให้น้ำ เพื่อลดปริมาณน้ำ ในลำต้นอ้อยและบังคับให้น้ำตาลทั้งหมดในลำอ้อยเปลี่ยนเป็นน้ำตาลซูโครส

ข้อพิจารณาในการให้น้ำแก่อ้อย
การพิจารณาว่าเมื่อใดควรจะถึงเวลาให้น้ำแก่อ้อย และจะให้น้ำครั้งละ ปริมาณเท่าใด มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องคือ
- ระยะการเจริญเติบโต ความต้องการน้ำของอ้อย ปริมาณน้ำที่ให้แก่อ้อยจะมากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับระยะ
การเจริญเติบโต อัตราความต้องการใช้น้ำ ความลึกที่รากหยั่งลงไปถึง อ้อยจะเจริญเติบโตได้ดีก็ต่อเมื่อความ
ชื้นในดินเหมาะสม ถ้ามีความชื้นในดินสูงหรือต่ำมากเกินไป อ้อยจะเจริญเติบโตผิดปกติ เมื่อดินมีน้ำมากจะ
ทำให้ขาดออกซิเจน โดยทั่วไปถ้าในดินมีอากาศอยู่ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ รากอ้อยจะชะงักการดูดธาตุอาหาร
น้ำและออกซิเจน เป็นเหตุให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ถ้าขาดน้ำใบจะห่อในเวลากลางวัน


- คุณสมบัติทางกายภาพของดิน เช่น ความสามารถของ ดินในการซับน้ำ ดินต่างชนิดกันย่อมมีคุณสมบัติดูด
ซับน้ำได้ ไม่เหมือนกันสำหรับดินที่สามารถซับน้ำไว้ได้มากไม่จำเป็นต้องให้น้ำบ่อยครั้งเหมือนดินที่มีเนื้อ
หยาบและซับน้ำได้น้อย ดินเหนียวจะมีความชื้นอยู่มากกว่าดินทราย ดังนั้น หลักการให้น้ำแก่ อ้อยที่ถูกต้อง
คือ ให้น้ำตามที่อ้อยต้องการ ส่วนปริมาณน้ำที่จะให้ แต่ละครั้งมากน้อยเท่าไร และใช้เวลานานเท่าใด ย่อมขึ้น
อยู่กับ คุณสมบัติทางกายภาพของดินซึ่งไม่เหมือนกัน

- สภาพลมฟ้าอากาศ อุณหภูมิของอากาศ การพิจารณา การให้น้ำแก่อ้อยจะต้องพิจารณาถึง อุณหภูมิและ
สภาพลมฟ้าอากาศด้วย ในช่วงที่มีอุณหภูมิสูงอ้อยจะคายน้ำมาก ความต้องการน้ำจะมากตามไปด้วย จำเป็น
ต้องให้น้ำบ่อยขึ้น ในช่วงที่มีฝนตกควรงดให้น้ำ และหาทาง ระบายน้ำแทน เพื่อให้ดินมีความชื้นและอากาศใน
ดินเหมาะสม ในช่วงฝนทิ้งช่วงควรให้น้ำช่วยจะทำให้การเจริญเติบโตของอ้อยดีขึ้น

- ระบบการให้น้ำอ้อย การเลือกระบบการให้น้ำอ้อยที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิด
ของดิน ความลาดเอียงของพื้นที่ต้นทุน และความพร้อมในการนำน้ำมาใช้ รวมทั้งความพร้อมในด้านแรงงาน
และอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร ในการให้น้ำ ระบบการให้น้ำอ้อย ในปัจจุบันที่ใช้กันอยู่ทั้งในและต่างประ
เทศมีดังนี้


1. การให้น้ำแบบร่อง (Furrow irrigation)
เป็นระบบการให้น้ำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ เพราะเป็นระบบที่ใช้
ต้นทุนต่ำ สะดวกและง่ายในการปฏิบัติ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ที่แปลงปลูกอ้อยจะต้องค่อน
ข้างราบเรียบ โดยมีความลาดชัน ไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ ประสิทธิภาพของการให้น้ำ
แบบร่องจะผันแปร อยู่ระหว่าง 30-90 เปอร์เซ็นต์ และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ การ
ให้น้ำได้โดยการจัดการที่ถูกต้องและเหมาะสม

โดยปกติการให้น้ำ ระบบนี้จะมีร่องน้ำที่หัวแปลงหรืออาจใช้ท่อหรือสายยางที่มีช่องเปิด
ให้น้ำไหล เข้าร่องอ้อยแต่ละร่อง เมื่อน้ำไหลไปจนสุดร่องแล้ว อาจยังคงปล่อยน้ำ ต่อ
ไปอีกเพื่อให้น้ำซึมลงในดินมากขึ้นน้ำที่ท้ายแปลงอาจระบายออก หรือเก็บรวบรวมไว้
ในบ่อพักเพื่อนำกลับมาใช้อีก

ในแปลงอ้อยที่มี ความลาดชันน้อยมาก (ใกล้ 0 เปอร์เซ็นต์) สามารถจัดการให้น้ำ
โดย ไม่มีน้ำเหลือทิ้งท้ายแปลงได้ โดยปรับสภาพพื้นที่ให้มีความลาดชันน้อยที่สุด
หรือเป็นศูนย์และทำคันกั้นน้ำตลอดท้ายแปลง น้ำที่ให้ไปสุดท้ายแปลง จะถูกดักไว้
โดยคันกั้นน้ำ ทำให้น้ำมีเวลาซึมลงในดินมากขึ้น วิธีนี้จะ เหมาะกับดินที่มีการซึมน้ำ
ช้า และน้ำที่จะให้มีจำกัด





แม้ว่าการให้น้ำระบบร่องจะใช้ได้กับพื้นที่มีความลาดเอียงไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ แต่ส่วน
ใหญ่แล้วจะใช้กับพื้นที่ที่มีความลาดเอียงไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ สำหรับความยาวร่องที่
ใช้มีตั้งแต่ 25 เมตร ถึง 1,000 เมตร รูปร่าง ของร่องและอัตราการไหลของน้ำ ขึ้นกับ
ชนิดของดินและความลาดชัน ของพื้นที่ สำหรับดินที่มีความสามารถ ในการซึมน้ำได้
ดี ควรใช้ร่องปลูกรูปตัว ‘V' และมีสันร่องกลาง เพื่อให้น้ำไหลได้เร็วและลดการสูญเสีย
น้ำ จาก การซึมลึกในแนวดิ่ง ในทางกลับกันสำหรับดินที่มีการซึมน้ำเลว ควรใช้ ร่องที่
มีก้นร่องกว้างและสันร่องแคบ เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสของดินกับน้ำ ทำให้น้ำซึมลงดิน
ได้ทั่วถึง




2. การให้น้ำแบบพ่นฝอย (Sprinkler irrigation)
การให้น้ำแบบนี้ใช้ได้กับทุกสภาพพื้นที่และทุกชนิดดิน ประสิทธิภาพ ในการใช้น้ำอาจเกิน 75 เปอร์เซ็นต์ได้
ถ้ามีการจัดการที่ถูกต้องและเหมาะสม การให้น้ำแบบนี้มีหลายรูปแบบ เช่น





- สปริงเกอร์หัวใหญ่ ต้องใช้ปั๊มน้ำแรงดันสูงและมีทางวิ่งถาวร ในแปลงอ้อย

- สปริงเกอร์แบบหัวเล็กเคลื่อนย้ายได้ ใช้สำหรับอ้อยปลูกหรือ อ้อยตออายุน้อย และปริมาณน้ำที่ให้มีจำกัด
มีข้อเสียคือ ต้องใช้ แรงงานมากในการเคลื่อนย้าย และไม่สามารถใช้กับอ้อยสูงได้

- สปริงเกอร์แบบหัวเล็กบนแขนระนาบ (Lateral move irrigators) ข้อดีคือสามารถให้น้ำในพื้นที่
ขนาดใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้แรงงานน้อย แต่มีข้อเสียคือใช้ต้นทุนสูงสำหรับอุปกรณ์และเครื่องมือ

- สปริงเกอร์แบบหัวเล็กขนแขนที่เคลื่อนเป็นวงกลมรอบจุดศูนย์กลาง (Centre-pivot irrigators)


3. การให้น้ำแบบน้ำหยด (Drip irrigation)
เป็นวิธีการให้น้ำที่มีประสิทธิภาพในการให้น้ำสูงสุด โดยสามารถให้น้ำเฉพาะรอบ ๆ รากพืช และสามารถให้
ปุ๋ยและสารเคมี ป้องกันกำจัดศัตรูพืชไปพร้อมกับน้ำได้เลย ปัจจุบันมีใช้กันอยู่ 2 แบบ คือ





- ระบบน้ำหยดบนผิวดิน (Surface system) ระบบนี้จะวางสายให้น้ำบนผิวดินในแนวกึ่งกลางร่อง หรือข้าร่อง
อาจวางทุกร่องหรือร่องเว้นร่อง

- ระบบน้ำหยดใต้ผิวดิน (Subsurface system) ระบบนี้จะต้องวางสายให้น้ำก่อนปลูก โดยปกติจะฝังลึก
ประมาณ 25-30 ซม. และสายให้น้ำจะอยู่ใต้ท่อนพันธุ์อ้อยประมาณ 10 ซม.



ที่มาของข้อมูล: http://it.doa.go.th/vichakan/news.php?newsid=13



http://modrenfarmers.blogspot.com/2010/11/blog-post_25.html
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©