ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
supat สาวดอง
เข้าร่วมเมื่อ: 31/08/2009 ตอบ: 27
|
ตอบ: 11/03/2010 2:56 pm ชื่อกระทู้: จะปลูกมันสำปะหลัง ที่ จ.สระแก้ว |
|
|
ลุงคิมครับ
ผมจะปลูกมันสำปะหลัง ที่จ.สระแก้ว เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ มีคลองติดอยู่ข้างที่ดินแต่น้ำจะมีช่วง
หน้าฝน และช่วงที่น้ำจากน้ำตกไหลมา(เป็นคลองเล็กๆที่น้ำไหลมาจากน้ำตกปางสีดา) ขอให้ลุง
คิมช่วยแนะนำ และเพิ่มเติมข้อมูลให้ผม ถ้าผมจะทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
การเตียมดิน
1...... ใช้แกลบดิบใส่ลงไปในดิน โดยเทแบบปูพรมบนหน้าดิน ให้หนาประมาณ 1 ฟุต แล้วใช้รถ
ไถผาน 3 ไถกลบแกลบดิบ โดยไถให้แกลบดิบลงไปในดินให้ลึกมากที่สุด (อาจใช้รถไถ เหลือ
แค่ 2 ผาน โดยให้เริ่มไถช่วงเดือนมีนาคม ถึงเดือนเมษายน
2...... ใช้กระดูกป่นผสมกับยิปซั่มธรรมชาติ และมูลไก่ แล้วหว่านลงบนดิน แล้วใช้รถไถผาน 7
ไถให้กระดูกป่นและยิปซั่มธรรมชาติ ลงไปในดินโดยทำเป็นคันให้สูงจากพื้นดินให้มากที่สุด (ให้
ไถช่วงเดือนพฤษภาคม )
การเตรียมท่อนพันธ์
1..... พันธุ์ที่ใช้เป็น พันธุ์ระยอง 7 ซึ่งจะมีเปอร์เซ็นแป้งมาก ถ้าเป็นพันธุ์ห้วยบง หัวจะยาว ซึ่งยาก
ต่อการเก็บผลผลิต
2...... นำท่อนพันธุ์ที่ได้มาทำการตัดตรง โดยให้ได้ความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร แล้วนำกิ่ง
พันธุ์ที่ตัดแล้วจุ่มลงในน้ำที่มีไคตินไคโตซานผสมกับน้ำแล้ว ทันที โดยจุ่มท่อนพันธุ์นานประมาณ
10- 12 ชม.
3...... นำท่อนพันธุ์ที่จุ่มในน้ำ ขึ้มมาเพื่อผึ่งให้แห้งทิ้งประมาณ 5-6 ชม.
4...... ทำการตัดตาออก หรือควั่นใต้ตากิ่ง ตามแนวขวางประมาณครึ่งเส้นรอบวงของกิ่ง และควั่น
ตรงข้ามสลับกัน ประมาณ 4-5 ตาต่อกิ่ง
การปลูก
1...... นำท่อนพันธุ์ปลูกลงในดิน โดยปลูกให้ตั้งฉากกับพื้นดิน และให้ลึกลงไปในดิน โดยให้กิ่ง
พันธุ์อยู่เหนือพื้นดินประมาณ 4-5 ตา
การบำรุง
1...... ระยะต้นเล็ก ( ช่วง 1-2 เดือน ) ให้สูตรเจริญเติบโต ( 30-10-10 หรือ 25-7-7 ) สลับ
ธาตุรอง/ธาตุเสริม
2...... ระยะต้นเริ่มลงหัวจนถึงเก็บเกี่ยว ให้สูตรสะสมแป้ง (5-10-40 ) สลับธาตุรองธาตุเสริม
ขอขอบคุณลุงคิมมากครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ott_club หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009 ตอบ: 718
|
ตอบ: 12/03/2010 12:10 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คำพูด: | การเตียมดิน
1...... ใช้แกลบดิบใส่ลงไปในดิน โดยเทแบบปูพรมบนหน้าดิน ให้หนาประมาณ 1 ฟุต |
เนื้อที่ 20 ไร่ คุณต้องซื้อแกลบไม่ต่ำกว่า 100 เที่ยวสิบล้อแน่นอน
แกลบดิบสวยๆ 1 เที่ยวสิบล้อ ราคาใกล้เคียงกับกับขี้ไก่แกลบ 1 เที่ยวสิบล้อ แล้วอย่างไหน
จะดีกว่ากัน
อ๊อดครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 13/03/2010 10:33 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ไม่มีกิจกรรมใดในโลกที่ "ไม่ลงทุน" ประเด็นอยู่ที่ทุนที่ลงไปเป็น "ต้นทุนที่สูญเปล่า" หรือ
ต้นทุนที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทน ระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว ..... เทคนิคต่างๆ ที่
เกี่ยวกับการเกษตรเป็นแบบชั่วครั้งชั่วคราว (แก้ปัญหาเฉพาะหน้า) กับ ยั่งยืน ถาวร มั่นคง ไปนาน
แสนนาน.....
ดิน คือ ที่กินที่อยู่ของพืช.....ดินดี ได้ผลผลิตแล้วกว่าครึ่ง.... ดินดีส่งผลทันทีให้ต้นพืชสมบูรณ์
แข็งแรง ช่วยให้ "ผลผลิตเพิ่ม ต้นทุนลด อนาคตดี"
คำว่า "ยั่งยืน" แปลว่า ดียาว ดีนาน ดีตลอด ยิ่งนานยิ่งดี ..... ในความเป็นจริงของ "เกษตร
ยั่งยืน" ที่มีให้เห็นอยู่ทั่วไป คนส่งเสริม "ยั่งยืน" รวยเอา รวยเอา รวยแล้วรวยอีก เอาอะไรมาส่ง
เสริมเป็นรวยทั้งนั้น ในขณะที่คนรับการส่งเสริม "ล้มทั้งยืน" ยิ่งทำ ยิ่งเป็นหนี้ จับอะไรเป็นขาด
ทุน ขาดทุนแล้วขาดทุนอีก.....ว่าไหม ? เพราะอะไร ?
ลุงทุน เครดิต/ซื้อสด ซื้อปุ๋ย ซื้อสารเคมี ปีละเป็นหมื่นเป็นแสน ไม่เคยนำพา ใครถามก็ว่ามัน
ต้อง "ลงทุน" แล้วที่ลงทุนด้วยเงินที่จ่ายไปนั้น ไม่เคยคิดว่าจะได้ "ทุนคืน" หรือไม่
เกษตรคนบางคนมาแปลก (ปกติวิสัยคนไทย) ปีใดขายผลผลิตได้เงินมาก เพราะราคาตลาดดี คุย
โวทั่วหมู่บ้าน ครั้นมีคนถามว่า "ลงทุน" ไปเท่าไหร่ ? เท่านั้นแหละโกรธตาเขียว ! .... กับบาง
ราย ปีนี้ได้ผลผลิตดี คุยโวว่าเก่ง มีฝีมือ ปีต่อมาได้ผลผลิตไม่ดี กลับบอกว่า "ดวงไม่ดี" แล้ว
ดวงกับฝีมือมันเกี่ยวกันตรงไหน ?
ปรับปรุงบำรุงดินสำปะหลัง
ลงทุนด้วยเงิน : (เนื้อที่ 1 ไร่)
1.... แกลบดิบ (แกลบเปล่าๆ) 1 ตัน ราคา 1,600 บาท อยู่ในเนื้อดินได้นาน 10 ปี เท่ากับปี
ละ 160 บาท (สำปะหลังอายุ 8 เดือน เท่ากับเดือนละ 20 บาท) หรือ 20 ปี เท่ากับปีละ 80
บาท (สำปะหลังอายุ 8 เดือน เท่ากับเดือนละ 10 บาท)
2.... ใส่ยิบซั่ม 1 กส. (25 กก.) เป็นเงิน 100 บาท
3.... ใส่ขี้ไก่อัดเม็ด 1 กส. (25 กก.) เป็นเงิน 290 บาท
ลงทุนด้วยเวลา :
ปลูกพืชไร่ เช่น ถั่วเขียว ใช้เมล็ดพันธุ์ 2 กก./ไร่ (40 บาท) ระยะเวลา 45 วันออกดอกให้ไถ
กลบ ได้เศษซากต้นถั่วเขียว 2-3 ตัน.... ปลูกถั่วเขียวไถกลบ 2 รุ่น ระยะเวลา 3 เดือน ได้เศษ
ซากต้นถั่ว 6-7 ตัน ..... หรือจะปลูกพืชไร่ เช่น ถั่วเขียว/เหลือง/แดง/ดำ/งา/ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์/
ทานตะวัน เอาผลผลิตก่อนแล้วไถกลบเศษซากลงดิน 1-2 รุ่น นอกจากได้อินทรีย์วัตถุบำรุงดิน
แล้วยังมีรายได้เป็นเงินอีกด้วย
ลุงทุนด้วย "เวลา + เงิน" :
ปรับปรุงบำรุงด้วย "แกลบดิบ + ขี้ไก่อัดเม็ด + ยิ้บซั่ม + กระดูกป่น" ด้วยการซื้อจากท้อง
ตลาด ไถกลบบลงดินแล้วปลูกพืชไร่ (เอาผลผลิต เรียกทุนคืน แล้วเอาเศษซากบำรุงดิน หรือ
เอาเศษซากบำรุงดินโดยไม่เอาผลผลิต) ก็จะได้ทั้งตัวปรับปรุงบำรุงดิน (ซื้อ) และตัวปรับปรุง
บำรุงดินจากเศษซากพืช
กินทีละคำ - ทำทีละอย่าง - ย่างทีละก้าว : (วิวัฒน์ ศัลยกำธร)
เนื้อที่ 20 ไร่ (สมมุตินามตามท้องเรื่อง) ทำทีละแปลง แบ่งทำทำทีละโซน .... ปีแรกเริ่มทำ 2
ไร่ ..... ปีรุ่งขึ้นทำแปลงที่ยังไม่ได้ทำ 5 ไร่ ..... ปีที่ 3 ทำแปลงที่ยังไม่ได้ทำอีก 5 ไร่.... ปีที่
4 ทำแปลงส่วนที่เหลือ ระยะเวลาเพียง 4 ปี ก็ได้ครบ 20 ไร่
ทั้งนี้อินทรีย์วัตถุและสารปรับปรุงบำรุงดินที่ใส่ลงไปนั้น ไม่จำเป็นต้องใส่แบบ "ปีต่อปี" หรื่อ "ปี
ละ 1 ครั้ง" หรือใส่ "ทุกปี" ก็หาไม่ จากประสบการณ์ตรงพบว่า ใส่ 1 ครั้งอยู่ได้หลายปีหรือ
หลายรุ่นการผลิต แต่มีข้อแม้ว่า จะต้องไม่ทำลายกระบวนการอินทรีย์ธรรมชาติ...... หรือ
ปีแรกทำ 5 ไร่ แล้วบำรุงตามขั้นอย่างถูกต้องแท้จริงตรงตามความต้องการของสำปะหลัง ได้เงิน
มาแล้วทุ่มทุนทำแปลงที่เหลือีกอีก 15 ไร่ แบบ 2 มัวนจบ..... หรือ
ทำแบบ "ซื้อด้วยเวลา" ยอมเสียเวลาสำปะหลังเพียง 3 เดือน ปลูกพืชตระกูลถั่ว (ไม่เอาผล
ผลิต) แล้วไถกลบ หรือยอมเสียเวลาสำปะหลัง 1 ปี ปลูกพืชไร่ (เอาผลผลิต) 1-2 รุ่น แล้วไถ
กลบ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง.....ได้หรือไม่
หมายเหต :
1.... ใส่แกลบดิบลงไปในดิน แกลบดิบอยู่ในเนื้อดินได้นาน 10-20 ปี (แกลบดิบเป็นอินทรีย์
วัตถุที่สายตัวได้ช้าที่สุด / จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
2.... เศษซากพืชตระกูถั่ว หรื่อเศษซากพืชอื่นๆ ให้สารอาหารมหาศาล
3.... เศษซากอินทรีย์วัตถุ และสารปรับปรุงบำรุงดิน นอกจากช่วยให้ดินโปร่ง ร่วน ซุย น้ำและ
อากาศผ่านสะดวก ให้สารอาหาร ให้จุลินทรีย์แล้ว ยังช่วยกักเก็บน้ำไว้ใต้ดินได้เป็นระยะเวลา
นานๆ อีกด้วย
4.... ตัวเลขอัตราใช้อินทรีย์วัตถุและสารปรับปรุงบำรุงดิน (ซื้อ) ดังกล่าว เป็นตัวสำหรับปีการ
ผลิตปีแรก ในปีการผลิตต่อๆ มาสามารถลดลงได้ตามความเหมาะสม ซึ่งหมายถึง ต้นทุนที่ลดลง
นั่นเอง..... ในทางกลับกัน ไม่ซื้อแต่ ทำเอง/จัดหาเอง ต้นทุนก็จะต่ำลงอีก
5.... เทคนิคการใช้ "น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรสำปะหลัง" นอกจากช่วยให้ประสิทธิ
ภาพของอินทรีย์วัตถุและสารปรับปรุงบำรุงดิน ทำให้ดินดีขึ้นแล้ว ยังได้อานิสงไปถึงผลผลิตอีก
ด้วย ก็เหลือทางเลือกใหม่ นั่นคือ "ทำเอง หรือ ซื้อ" เท่านั้น
6.... สำปะหลังชนะเลิศงานประกวด "สำปะหลังโลก" ที่เมืองทองธานี สำปะหลัง 1 กอ. ได้
100 + กก. อันเป็นผลมาจาก "อินทรีย์วัตถุ : ดิน = 1:3" และระบบ "น้ำหยด"
7.... ระหว่าง สำปะหลังแบบเดิมๆ 1 ไร่ ได้ผลผลิต 3 ตัน นั่นคือ 100 ไร่ ได้ผลผลิต 300 ตัน
กับสำปะหลังประณีต 1 ไร่ ได้ผลผลิต 30 ตัน นั่นคือ 10 ไร่ ได้ผลผลิต 300 ตัน
วิเคราะห์ : เนื้อที่ 100 ตัน ลงทุนพื้นที่เท่าไร ? กับเนื้อที่ 10 ไร่ ลงทุนพื้นที่เท่าไร ? ถ้า
เนื้อที่ 100 ไร่ ทำสำปะหลังประณี่ต ควรได้ผลผลิตเท่าไร ?
ผลรับ :
1.... ได้ปัจจัยพื้นฐานเพื่อการเพาะปลูกสำปะหลังที่ดีเยี่ยม ช่วยประหยัด "ต้นทุนปัจจัย" ในการ
บำรุงขั้นต่อไป เช่น น้ำ ปุ๋ย โรค
2.... ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นทั้ง "ปริมาณ" (20-30 ตัน +) และ "คุณภาพ" (เปอร์เซ็นต์แป้ง
30 +) ได้ต้นพันธุ์ดีเพื่อจำหน่าย
3.... ได้อนาคตเกษตรยั่งยืน ยิ่งทำนานยิ่งดี สามารถปรับเปลี่ยนจากสำปะหลังไปสู่พื้ชไร่อื่นตาม
ต้องการได้ทุกพืช และทุกฤดูกาล
ปัญหา :
1.... ใจไม่เอา
2.... ไม่กล้าเปลี่ยน
3.... ไม่กล้าคิดนอกกรอบ
4.... ไม่มีข้อมูลวิชาการ
5.... ฯ ล ฯ
ลุงคิมครับผม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 16/03/2010 9:07 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
supat สาวดอง
เข้าร่วมเมื่อ: 31/08/2009 ตอบ: 27
|
ตอบ: 16/03/2010 8:14 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ผมขอขอบคุณลุงคิมและคุณอ๊อด มากครับที่ให้คำแนะนำ
ผมขอนำข้อความที่แนะนำไปเปรียบเทียบ "ข้อดี และ ข้อเสีย" ก่อน ว่าควรทำแนวทางไหนดี
ขอบคุณครับ
จากSUPAT |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 16/03/2010 1:30 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
สรุปทั้งสิ้นทั้งปวงแล้ว.....
สำปะหลังน่ะ น้ำพอหน้าดินชื้นอย่างเดียวเท่านั้นแหละ แล้วทุกอย่างจะดีเอง
อย่ามุ่งเอาแต่ปริมาณผลผลิต แต่ให้ระวังต้นทุนให้มากๆ
ได้ผลผลิตน้อยแต่ลงทุนน้อย ขายแล้วหักลบค่าใช้จ่ายกับที่ขายได้ เผลอๆ ได้กำไรมากกว่าผล
ผลิตมากๆ ด้วยซ้ำ
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
supat สาวดอง
เข้าร่วมเมื่อ: 31/08/2009 ตอบ: 27
|
ตอบ: 24/09/2010 3:38 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ลุงคิมครับ ... ขอคำแนะนำเพิ่มเติม เรื่องมันสำปะหลัง ครับ
ตั้งแต่เดือน เมษายน ที่ผ่านมา ได้ทำการไถผาน 3 ไป 1 รอบแล้ว และจนถึง
วันนี้ หญ้าขึ้นเต็ม สูงประมาณ 1-2 เมตร แล้วไม่สามารถไถเพื่อจะปลูกมันฯ ได้
เนื่องจากฝนตกตลอด
และช่วงที่ฝนหยุดประมาณ 4-5 วัน ให้รถลงไปไถยังไถไม่ได้เลย เพราะลงไปทีไรติดทุกที ต้องให้รถมาช่วยลากขึ้นมา
แต่ช่วงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมาได้สั่งแกลบขี้ไก่ มา 2 คันรถ 10 ล้อ (รวมแล้วประมาณ 30 ตัน) และได้จ้างคน ทำการหว่านลงบนพื้นไปแล้ว
จึงอยากขอคำแนะนำดังนี้..
1. ในกรณีนี้ถ้าต้องการปลูกมันสำปะหลังอีก จะมีวิธีไรบ้างที่จะปลูกได้ หรือควรทำอย่างไร ?
2. ถ้าไม่ปลูกมันสำปะหลัง จะมีพืชชนิดใดที่แทน การปลูกมันสำปะหลังได้ ?
ขอบคุณครับ
จาก SUPAT |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 24/09/2010 5:58 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ที่น่าสงสัย ทำไมคุณจึงไม่รู้ว่า.....
1. การไถ ไม่ใช่วิธีกำจัดหญ้า ตรงกันข้าม กลับเป็นการปรับปรุงดินให้หญ้าเจริญเติบโตดียิ่งขึ้น การที่หญ้าสูงตั้ง 2 ม. คือตัวฟ้อง.....อยากรู้ชื่อหญ้าอะไร
2. ฝนตกชุก ดินอ่อน รถไถหนักๆลงไปก็ติดหล่ม คุณไม่รู้ แล้วคนขับรถไถก็ไม่รู้เลยเหรอ
คิด + จินตนาการ :
ดินตรงนี้ปลูกอะไรก็ได้ แต่มีข้อแม้คุณต้องกำจัดหญ้าให้ร้อยเรียบเสียก่อน คิดดู (เน้นย้ำ...คิด) หญ้าขึ้นหนาแน่นขนาดนี้ ถ้าคุณปลูกสำปะหลังลงไปแล้ว คุณจะเข้าไปกำจัดหญ้าได้ยังไง
ต้นญ้าสูง 2 ม. ถึงแม้ว่าคุณจะปลูกอ้อย หวังให้ใบอ้อยบังแดดหญ้าให้หญ้าตาย แบบนี้ก็คงไม่ไหว (พืชอะไรจะมีใบบังแดดส่องลงพื้นได้ดีเท่าอ้อย) เคยเห็นหญ้าที่เรียกว่า "ต้นอ้อ" ไหม ขนาดต้นอ้อยขึ้นหาแน่นตึ๊บจนแดดส่งลงพื้นล่างไม่ใด้เลย แต่ต้นอ้อยังสูงแซงต้นอ้อย ออกดอกแข่งกับต้นอ้อยได้
ใช้ภูมิปัญญาส่วนตัวกำจัดหญ้าให้ได้ก่อน แล้วค่อยว่ากันใหม่ เรื่องชนิดพืชที่จะปลูกน่ะ ไม่ยากหรอก
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ott_club หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009 ตอบ: 718
|
ตอบ: 24/09/2010 8:43 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
หน้าฝนรถไถย่อมติดหล่มแน่นอน ยิ่งพื้นที่คุณลงผาน 3 ไว้ด้วยยิ่งไปกันใหญ่ ต่อให้สองเพลาโฟว์วิลก็รอดยาก แล้วใครเขาปลูกมันสำปะหลังกันหน้าฝน เพราะปลูกมันหน้าฝนมันจะค่อมแล้งทำให้ผลผลิตไม่ดี
พื้นที่หญ้าท่วม 2 เมตรไม่ต้องตกใจ รถไถลงได้เมื่อไหร่เอาผาน 3 ลุยเลยตากดินสักหน่อย ต่อด้วยผาน 7 แล้วให้รถไถจัดการลากร่องปลูกมัน แค่นี้ก็เรียบร้อย
อะไรจะง่ายเท่าปลูกมันสำปะหลังไม่มีอีกแล้ว _________________ อ๊อด ระยอง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
tooa สาวดอง
เข้าร่วมเมื่อ: 18/08/2010 ตอบ: 44
|
ตอบ: 24/09/2010 9:46 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ott_club บันทึก: |
พื้นที่หญ้าท่วม 2 เมตรไม่ต้องตกใจ รถไถลงได้เมื่อไหร่เอาผาน 3 ลุยเลยตากดินสักหน่อย ต่อด้วยผาน 7 แล้วให้รถไถจัดการลากร่องปลูกมัน แค่นี้ก็เรียบร้อย
อะไรจะง่ายเท่าปลูกมันสำปะหลังไม่มีอีกแล้ว | ก็อย่างที่คุณอ๊อดว่ามา ถูกแล้ว ใจเย็นๆรอฝนทิ้งช่วง หลายๆวันหน่อย รถไถเข้าไถได้อยู่แล้ว .....tooa |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
bombon สาวดอง
เข้าร่วมเมื่อ: 15/07/2009 ตอบ: 68
|
ตอบ: 25/09/2010 9:46 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ผลผลิตทุกชนิด ค่อมแล้งจะไม่ดีครับ
มันจะแกร็น ป้องกันโดยใช้ "อาหารเสริม + สังกะสี" พอกล้อมแกล้มๆ ได้ครับ
(น้ำสำคัญที่สุดครับ ....... เชื่อผม) |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 25/09/2010 10:03 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
bombon บันทึก: | ผลผลิตทุกชนิด ค่อมแล้งจะไม่ดีครับ
มันจะแกร็น ป้องกันโดยใช้ "อาหารเสริม + สังกะสี" พอกล้อมแกล้มๆ ได้ครับ
(น้ำสำคัญที่สุดครับ ....... เชื่อผม) |
เชื่อผม....เชื่อผม.... ไม่ได้ผลขึ้นมาละก็............................มึงตัยยยยยย |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 25/09/2010 10:18 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แนะวิธีปลูกมันสำปะหลังช่วงต้นฤดูฝน
เกษตรกรต้องเตรียมท่อนพันธุ์ให้ดีก่อนที่จะลงมือปลูก ที่สำคัญควรเลือกท่อนพันธุ์ที่ สมบูรณ์ แข็งแรง มีความเหมาะสมทั้งอายุและขนาด คัดเลือกจากแหล่งที่ปราศจากเพลี้ยแป้ง...
นายเฉลิมศักดิ์ ประสิทธิ์สุวรรณ เกษตรจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวถึงการปลูกมันสำปะหลังต้นฤดูฝนนี้ว่า เกษตรกรต้องเตรียมท่อนพันธุ์ให้ดีก่อนที่จะลงมือปลูก ที่สำคัญควรเลือกท่อนพันธุ์ที่ สมบูรณ์ แข็งแรง มีความเหมาะสมทั้งอายุและขนาด คัดเลือกจากแหล่งที่ปราศจากเพลี้ยแป้ง และที่สำคัญยิ่งกว่าอื่นใดเกษตรกรต้องแช่ท่อนพันธุ์ก่อนปลูก ทั้งนี้เพื่อป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้งไม่ให้ระบาดในไร่มันสำปะหลังได้
สำหรับการแช่ท่อนมันพันธุ์นั้นแนะนำให้ใช้สารเคมีสำหรับแช่ท่อนพันธุ์ ได้แก่ ไทอะมิโทแซม 25% ดับเบิ้ลยูจี 4 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อิมิดาคลอพริก 70 % ดับเบิ้ลยูจี 4 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือไดโนทีฟูแรม 10% ดับเบิ้ลยูพี 40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร อย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่มา : ไทยรัฐ
COMMENT :
- ในข่าวนี้ไม่ได้แนะนำวิธีแก้ไข/ป้องกัน "น้ำ" ที่อาจท่วม หรือขังแช่ ซึ่งอาจจะทำให้ต้นสัมปะหลังตายหรือเน่าได้ เพราะธรรมชาติของสัมปะหลังชอบ "ชื้น" แต่ไม่ชอบ "ชุ่ม-โชก-แฉะ-แช่" ..... เพราะฉนั้นต้องระวังเรื่องน้ำมากเกินพอดีไว้ด้วย
- แช่ท่อนพันธุ์ใน "ไคโตซาน" จะได้สาร "ไคติเนส" ช่วยกำจัดเชื้อโรคที่ติดมากับท่อนพันธุ์ได้
- แช่ท่อนพันธุ์ใน "สังกะสี + โบรอน" ช่วยให้ต้นได้สะสมสารอาหารต้องแต่ก่อนเกิด ซึ่งจะส่งผลให้ต้นเมื่อโตขึ้นสมบูรณ์แข็งแรงดี
- การแช่สารเคมี เท่ากับให้ต้นได้กินสารพิษแล้วสะสมไว้ในตัวตั้งแต่ยังไม่เกิด แยกให้ออกระหว่าง "สารพิษ" กับ "สารอาหาร" อย่างไหนมีประโยน์ต่อพืขมากกว่ากัน
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
bombon สาวดอง
เข้าร่วมเมื่อ: 15/07/2009 ตอบ: 68
|
ตอบ: 26/09/2010 5:24 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
kimzagass บันทึก: | bombon บันทึก: | ผลผลิตทุกชนิด ค่อมแล้งจะไม่ดีครับ
มันจะแกร็น ป้องกันโดยใช้ "อาหารเสริม + สังกะสี" พอกล้อมแกล้มๆ ได้ครับ
(น้ำสำคัญที่สุดครับ ....... เชื่อผม) |
เชื่อผม....เชื่อผม.... ไม่ได้ผลขึ้นมาละก็............................มึงตัยยยยยย | ลองมาแล้วครับลุง ..เชื่อผม ๆๆ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 26/09/2010 6:25 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เชื่อก็โง่น่ะซี.....
ถ้าคิดแต่พึ่งธรรมชาติก็คงไปไม่รอด ถึงรอดก็รอดแบบกระท่อนกระแท่น รอดแต่เป็นหนี้เป็นสิน
สำปะหลังอายุตั้งแต่เริ่มปลูกถึงขุดได้ 6-8 เดือน ฝากแปลงรอบแรกได้ 2 เดือน ฝากแปลงรอบ 2 ได้อีก 2 เดือน....เบ็ดเสร็จอายุทั้งสิ้น 1 ปี
เอาแค่อายุ 6 เดือน เริ่มปลูกเดือนไหนถึงจะหนีแล้งพ้น เพราะหน้าฝนจริงๆ มันแต่ 3-4 เดือนเท่านั้น......ยิ่งปลูกอายุ 8 เดือนขุดได้ แล้วมันหนีแล้งพ้นไหม ?
ไม่มีพืชใดในโลกนี้ไม่ต้องการน้ำ สำปะหลังต้องการน้ำพอหน้าดินชื้น....แยกให้ออกระหว่าง ชื้น-ชุ่ม-โชก-แฉะ-แช่.....
สำปะหลังย่านบ้านหนองจาน หัวรำ ท่าหลวง ลพบุรี ติดสปริงเกอร์โอเวอร์เฮดกลางแปลงสำปะหลัง ได้ผลผลิต 15-20 ตัน/ไร่ (สอบถาม "สุริยา (081)649-4440)
สำปะหลังด่านช้าง สุพรรณบุรี ให้น้ำอย่างเดียว โดยไม่ได้ใส่ปุ๋ยแม้แต่แหมะเดียว ได้ 12 ตัน/ไร่ (สอบถาม "สมบัติ" (086)175-3688)
งานประกวดสำปะหลังที่เมืองทองธานี ชนะเลิศสำปะหลัง 1 กอ (เน้นย้ำ....1 กอ หรือ 1 ต้น) ได้ 100 (+) กก. ด้วยระบบน้ำหยด
สำปะหลังนุสติ :
วันนั้น ตาเฒ่าผมสองสี นิราศจากพิจิตร ต้องการพิสูจน์โกหกคำโตสำปะหลัง 15 ตัน/ไร่ ที่ไร่เลิศสรานนท์ บ้านหนองจาน หัวรำ ท่าหลวง ลพบุรี .... โวว่า ตัวเองทำสำปะหลังมาตั้งแต่เกิด เคยได้สูงสุดเพียง 5-6 ตัน/ไร่เท่านั้น
ถึงแปลงสำปะหลังของไร่เลิศสรานนท์ ยอมรับแต่มีข้อแม้....
..... ทำแค่ 10 ไร่ ก็ได้น่ะซี.....ของผมทำตั้ง 100 ไร่....
หมายถึงการให้น้ำสำปะหลังช่วงหน้าแล้งในเนื้อที่ 10 ไร่ ทำได้ แต่ 100 ไร่ทำไม่ได้ เหตุผลเพราะแปลงใหญ่ทำไม่ไหว หรือไม่ก็เพราะน้ำไม่มี
..... คุณสุริยา. เป็นผู้หญิงอายุยังน้อย ไม่กล้าเถียงจึงเงียบ
แง่คิดเรื่องนี้ คือ :
- สำปะหลังคนความคิดแบบเก่า 100 ไร่ เทวดาเลี้ยง ได้ 3 ตัน/ไร่ รวมได้ 300 ตัน
- สำปะหลังคนความคิดแบบใหม่ 10 ไร่ ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น ได้ 30 ตัน/ไร่ รวมได้ 300 ตัน
ปุจฉาวิสัชชนา :
- สำปะหลัง 100 ไร่ ลงทุน (ทุกอย่าง) เท่าไหร่ ?
- สำปะหลัง 10 ไร่ ลงทุน (ทุกอย่าง) เท่าไหร่ ?
- สำปะหลังเทวดาเลี้ยง เปอร์เซ็นต์แป้งเทาไหร่ ?
- สำปะหลัง 10 ไร่ ให้น้ำ ได้แป้ง 30 เปอร์เซ็นต์
กังขา :
.... ทำไมยังคิดอะไรๆ แบบเก่าๆ อยู่.... "คิด-นอก-กรอบ" ไปไหน.....
.... ที่ 100 ไร่ 10 ไร่ ไม่มีน้ำ เป็นที่เปล่าประโยน์ ปลูกไปก็ไม่ได้อะไร....
.... ทำไมไม่คิดไม่วางแผน ไม่ศึกษา ไม่หาประสบการณ์ ไม่สร้างโลกทัศน์ ทำเกษตร 1 ไร่รวย.... ถามจริง ไม่เชื่อเหรอว่าเป็นไปได้....
.... 1 ไร่รวย ปลูกอะไรดีมีให้เลือกถมเถ ถ้าไม่รู้ต้องเรียน-เรียนให้รู้ ถ้าไม่เคยก็ต้องลอง....
.... ทำไมจึงยึดติดแต่ "แนวความคิดเก่าๆ" คนรุ่นใหม่ (วัดที่ความคิด ไม่ใช่อายุน้อย) ต้องคิดใหม่ทำใหม่ ทำอย่างเดิมได้น้อยกว่าเดิมแถมขาดทุนมากกว่าเดิม ทำอย่างข้างบ้านก็มีแต่หนี้เหมือนข้างบ้าน
.... ปลูกเพื่อขายต้องพิจารณา "เศรษฐศาสตร์การลงทุน" แล้วจึงตัดสินใจลงมือทำ ปัจจัยการผลิตบางอย่างลงทุนครั้งเดียวใช้งานได้ตลอดชีวิต แบบนี้คิดว่าคุ้มไหม ?
พวกเราระดับเล่นเน็ตเป็น น่าจะคิด ..... :
1. ทำแล้วได้หรือไม่ ..... ได้เท่าไหร่..... ทำอย่างไร ?
2. คิดใหม่ ทำใหม่ .... ทำอย่างเดิม ได้เท่าไหร่ ?
3. ทำอย่างเขา เขาได้เท่าไหร่ ? .... ยังจะทำตามอีกรึ ?
4. คนที่ทำแล้วได้มาก กับ คนที่ทำแล้วได้น้อย....ใคร "รู้จริง" กว่ากัน
5. ทุกปัญหาแก้ได้ ไม่ต้องรอเทวดา ฟ้าดิน โชคชะตา พรหมลิขิต
6. ยาก หรือ ง่าย อยู่ที่ใจ-แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง หมายความว่าไง ?
ลุกขึ้นมา ลุก...ฮึด สู้ เขาทำได้ เราต้องทำได้
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
bombon สาวดอง
เข้าร่วมเมื่อ: 15/07/2009 ตอบ: 68
|
ตอบ: 26/09/2010 7:27 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
bombon บันทึก: | kimzagass บันทึก: | bombon บันทึก: | ผลผลิตทุกชนิด ค่อมแล้งจะไม่ดีครับ
มันจะแกร็น ป้องกันโดยใช้ "อาหารเสริม + สังกะสี" พอกล้อมแกล้มๆ ได้ครับ
(น้ำสำคัญที่สุดครับ ....... เชื่อผม) |
เชื่อผม....เชื่อผม.... ไม่ได้ผลขึ้นมาละก็............................มึงตัยยยยยย | ลองมาแล้วครับลุง ..เชื่อผม ๆๆ |
ค่อมแล้ง ภาษาท้องถิ่น จันทบุรี ระยอง ครับ เขาว่้าค่อมหน้าหนาวครับ
ที่จันทบุรี ปลูกมันตั้งแต่ เมษายน ครับลุง ธันวาคม-มกราคม ก็ขุดกันหมดแล้ว |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 26/09/2010 7:36 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
O.K. นั่นไม่ใช่ประเด็น....
แต่อยากรู้ว่า "ได้" ผลผลิตเท่าไหร่ ? |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
bombon สาวดอง
เข้าร่วมเมื่อ: 15/07/2009 ตอบ: 68
|
ตอบ: 26/09/2010 7:47 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
จากพื้นที่จริง
ดินร่วนปนทราย เทวดาเลี้ยง 3-4 ตัน
ให้น้ำ 5-8 ตัน
ดินแดง (เป็นดินที่ร่วนมาก และมีธาตุอาหารมาก) ปลูกเทวดาเลี้ยง ได้ 10-12 ตัน/ไร่
ให้น้ำ ได้ 15-18 ตัน/ไร่
ดินดำทั่วไป ปลูกเทวดาเลี้ยง 4-5 ตัน/ไร่
ให้น้ำ 8-10 ตัน/ไร่
ดินเหนียวที่นา ปลูกเทวดาเลี้ยง 5-6 ตัน/ไร่
ให้น้ำ ยังไม่เคยมการทดลองครับ
ตรงนี้ คือพื้นที่ที่ผมอยู่นะครับผม ที่อื่นให้ปุ๋ย ยูเรีย ตอนแรกๆๆ และให้ 13-13-21 ตอนหลังเร่งแป้งครับ ส่วนใหญ่แถวที่ผมอยู่จะใช้ลักษณะนี่ครับ
แต่ "ดินแดง ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเลย" |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
catcaty หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 13/08/2010 ตอบ: 525
|
ตอบ: 26/09/2010 8:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แถวบ้านผม อ.สอยดาว 2-3 ปีที่แล้วมา ผลผลิคต่อไร่เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ราว 2-3 ตันต่อไร่เท่านั้นเอง (เทวดาเลี้ยง) ดีแต่ว่าปีที่ผ่านมาราคาดี พี่น้องผมก็เลยพอเอาตัวรอดได้ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 26/09/2010 9:07 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
งานเข้า.....
ลองๆ จินตนาการซิ....
1. ถ้าประเทศไทยมีดินเป็นทรายชายหาด เหมือนอิสราเอลที่ดินเป็นทรายทั้งประเทศน่ะ..... คนไทยจะการเกษตรได้อย่างไร ?
2. จากรูปแบบการทำสำปะหลังที่ทำๆกันอยู่นี้ หากปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็น "อินทรีย์ นำ - เคมี เสริม - ตามความเหมาะสมของสำปะหลัง ณ พื้นที่นั้นๆ" .... จะดีขึ้นไหม ?
3. คิดในแง่ของเศรษฐศาสตร์การลงทุน ถ้า "เพิ่มทุนจากเดิม 25%" แล้วได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 500% หรือ จาก 3 ตัน เพิ่มเป็น 15 ตัน....จะคุ้มกันไหม ?
4. ลดพื้นที่สำปะหลัง แล้วบำรุงสำปะหลังแบบ "ประณีต" ให้ได้สำปะหลังเท่ากับเต็มพื้นที่เดิม จากนั้นเอาพื้นที่ๆเหลือปลูกอย่างอื่น แบบนี้จะเป็นการเพิ่มรายได้ไหม หรือใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดไหม ?
5. ปลูกสำปะหลัง ทำงานทั้งปีได้ขายรอบเดียว เปรียบเทียบกับอย่างอื่นที่ ทำงานทั้งปีได้ขาย 3-4 รอบ อย่างไหนกดีกว่ากัน ?
6. ผลผลิตทางการเกษตรอะไรบ้างที่ ราคาต่อ กก.แพงๆ คนนิยม แล้วทำแบบ "ทำน้อยได้มาก" จะได้ไหม ?
7. ปลูกสำปะหลัง ตลอดอายุตั้งแต่เริ่มปลูกถึงขุด ลงแปลงจริงๆ กี่วัน กับปลูกอย่างอื่นที่ต้องลงแปลงทุกวัน เช้าถึงค่ำ ...... เมื่อลงแปลงสำปะหลังเพียงไม่กี่วันแล้วมีรายได้แค่นั้นก็ถือว่าถูกต้อง กับปลูกพืชที่ต้องลงแปลงทุกวันแต่มีรายได้มากกว่า จะเอาอย่างไหน ..... สรุปก็คือ ทำงานน้อยย่อมได้น้อย ทำงานมากย่อมได้มาก ถูกต้องหรือไม่
8. ทำงานใช้สมองมากกว่ากำลัง กับ ทำงานใช้กำลังมากกว่าสมอง อย่างไหนดีกว่ากัน
ติดเป็น ทำอะไรก็สำเร็จ คิดไม่เป็น ทำอะไรก็ล้มเหลว
ลุงคิมครับผม
ปล.
ทหารนโปเลียน มีกี่ประเภท ? |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 26/09/2010 9:51 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
มันสำปะหลังพันธุ์ใหม่ ปลูกได้ทั้งต้นและปลายฤดูฝน
นายโอภาส บุญเส็ง นักวิชาการเกษตร 8 ว ศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง กรมวิชาการเกษตร เล่าให้ฟังว่า ในปี 2535 ศูนย์วิจัยพืชไร่ระยองได้วิจัยและปรับปรุงพันธุ์มันสำปะหลังเพื่อให้ได้พันธุ์ที่สามารถปลูกได้ทุกแหล่งปลูกมันสำปะหลังของประเทศ และที่สำคัญสามารถปลูกได้ทั้งปลายฤดูฝนและต้นฤดูฝน จนประสบความสำเร็จในปี 2548 ผ่านการรับรองพันธุ์จากคณะกรรมการวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตรให้เป็นพันธุ์รับรองใช้ชื่อว่า "มันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 7
มันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 7 ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างพันธุ์ CMR30-71-25 กับพันธุ์ OMR29-20-118 ลักษณะเด่นของมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 7 ให้ผลผลิตและปริมาณแป้งในหัวสดสูงกว่าพันธุ์ที่เกษตรกรนิยมปลูกทุกพันธุ์ โดยให้
ผลผลิตหัวสด 6.30 ตันต่อไร่
ปริมาณแป้งในหัวสด 27.6 เปอร์เซ็นต์
ผลผลิตแป้ง 1.77 ตันต่อไร่
ผลผลิตมันเส้น 2.43 ตันต่อไร่
เมื่อใช้หัวสดเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลสามารถให้ปริมาณเอทานอล มากกว่า 1,026 ลิตรต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ระยอง 90 ระยอง 5 เกษตรศาสตร์ 50 และระยอง 72 ลักษณะเด่นที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ
ให้ความงอกเร็วมาก ประมาณ 5 วันหลังปลูก ในขณะที่พันธุ์ทั่วไปใช้เวลางอกถึง 14 วันหลังปลูก
มันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 7 สามารถปลูกได้ดีทั้งปลายฤดูฝนและต้นฤดูฝน โดยเฉพาะในช่วงปลายฤดูฝนเนื่องจากให้ความงอกเร็ว ทำให้เจริญเติบโตได้เร็วในช่วง 1-2 เดือนหลังปลูก ซึ่งในขณะนั้นดินยังมีความเปียกชื้นอยู่ และสามารถฟื้นตัวหรือเจริญเติบโตได้เร็วเมื่อได้รับน้ำฝนอีกครั้ง หลังจากผ่านช่วงฤดูแล้งอันยาวนาน จึงเป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับการปลูกปลายฤดูฝนได้ดี นอกจากนี้มันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 7 ยังให้หัวดก ขนาดของหัวใกล้เคียงกัน และไม่มีก้านหัว จึงเหมาะสำหรับการใช้เครื่องขุดในการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง และจากจำนวนลำต้นที่แตกออกจากท่อนปลูกมีมากกว่าพันธุ์รับรองทุกพันธุ์ ทำให้สามารถคลุมวัชพืชในช่วง 3 เดือนหลังปลูกได้ดี เป็นพันธุ์ที่มีทรงต้นดี ไม่แตกกิ่ง ทำให้ลำต้นไม่หักล้ม จึงสะดวกในการดูแลรักษาและเก็บเกี่ยว
เกษตรกรที่สนใจต้องการปลูกมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 7 สามารถติดต่อขอรับท่อนพันธุ์ได้ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง ศูนย์วิจัยพืชไร่นครราชสีมา ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตมหาสารคาม ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชฯ มุกดาหาร ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชฯ เลย ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชฯ ร้อยเอ็ด ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชฯ กาฬสินธุ์ ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชฯ สกลนคร ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชฯ ปราจีนบุรี และศูนย์บริการวิชาการด้านพืชฯ ลพบุรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 0-3868-1514-5 ทุกวันในเวลาราชการ.
พนารัตน์ เสรีทวีกุล
kaewpanya.rmutl.ac.th/2552/index.php?...id...22 -
http://kaewpanya.rmutl.ac.th/2552/index.php?option=com_content&view=article&id=25:2009-07-20-07-49-57&catid=1:2009-07-16-05-16-29&Itemid=22 |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 26/09/2010 10:10 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
การปลูกมันสำปะหลัง 30 ตันต่อไร่ทำได้จริง
การปลูกมัน 30 ตันต่อไร่ตามที่นักวิชาการเกษตรออกมาบอกว่าไม่สามารถทำได้นั้น ทำได้จริงนะครับ เพราะเรื่องบางอย่างก็อาจมีคำว่า "ตามหลักวิชาการแล้วไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว" มีคนไปพิสูจน์แล้วว่าขนาดหัว น้ำหนัก และปริมาณแป้ง ที่ขุดขึ้นมานั้น ได้คุณภาพตรงตามที่โฆษณาไว้ คนที่ไปพิสูจน์มาแล้วคือนายพีระกานต์ แสนชั่ง เจ้าหน้าที่ส่งเสริมเกษตร ของบริษัทสงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด ผู้รับซื้อมันสำปะหลังรายใหญ่ของภาคอีสาน ที่อยู่ใน จ.นครราชสีมา และการประเมินน้ำหนักของมันสำปะหลังที่ขุดได้นั้น ธกส. ชัยภูมิ เป็นผู้ประเมินเอง ล่าสุดที่ขุดขึ้นมานั้น ประเมินน้ำหนักได้ 26 ตัน/ไร่ ครับ ถ้าไม่เชื่อสามารถขอชมวีดีโอตอนขุดได้ที่ นายพีระกานต์ แสนชั่ง 086-7520839, 089-8459838
http://www.phtnet.org/webboard/viewTopic.asp?question_id=42
www.phtnet.org › |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 26/09/2010 10:13 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
มันสำปะหลังคอนโดคืออะไร
มันสำปะหลังปัจจุบันเราผลิตหรือปลูกได้ประมาณ 10-20 ตันต่อไร่ แต่มันสำปะหลังคอนโดคือวิธีที่จะทำให้ได้ผลผลิตถึง 30 ตันต่อไร่เลยทีเดียว ไม่เกินอาทิตย์หน้าจะมาสาธยายให้ฟัง เพราะผมกำลังจะไปทำข่าว
แบบที่ 1 การปลูกให้ออกหัวแบบคอนโดฯ ใช้ท่อนพันธุ์ส่วนที่เป็นลำต้นตัดแบบโคนตรง ปกติเกษตรกรมักตัดแบบโคนเฉียง 45 องศา โดยเฉือนเอาตาข้างท่อนพันธุ์จากด้านล่างออก 7 ตา เพื่อหวังให้ได้หัวที่เกิดจากฐานรอบโคน 9 หัว และข้างลำต้นที่เฉือนเอาตาออกอีก 7 หัว เรียงเป็นชั้นคล้ายตึกคอนโดมิเนียม
แบบที่ 2 การปลูกให้ออกหัวแบบคอนโดฯ สามเหลี่ยม ใช้ท่อนพันธุ์ส่วนที่เป็นลำต้นที่มีกิ่งสามง่ามแรก (primary branch) ติดอยู่ด้วยปลูก โดยเฉือนเอาตาข้างท่อนพันธุ์จากด้านล่างออก 7 ตา และเฉือนเอาตาข้างส่วนที่เป็นกิ่งออก กิ่งละ 2 ตา เพื่อหวังให้ได้หัวที่เกิดจากตาข้างกิ่งเพิ่มขึ้นอีก 6 หัว เรียงเป็นชั้นคล้ายคอนโดมิเนียม
สามเหลี่ยม
แบบที่ 3 การปลูกให้ออกหัวแบบคอนโดฯ พวงร้อย ใช้ท่อนพันธุ์คล้ายกับการปลูกแบบคอนโดฯ สามเหลี่ยม แต่เป็นลำต้นที่มีกิ่งสามง่ามที่สอง ติดอยู่ด้วยปลูก โดยมีความเชื่อว่าส่วนที่เป็นกิ่งสามง่ามที่สองอยู่ใกล้ยอด เป็นกิ่งที่อ่อนกว่ากิ่งสามง่ามแรกของลำต้นจะเจริญเติบโตได้เร็วและให้ผลผลิตดีกว่า การปลูกทั้งสามแบบใช้ท่อนปลูกยาว 40 เซนติเมตร ปลูกปักตรง โดยให้ส่วนที่เฉือนตาออกทั้งส่วนที่อยู่ด้านข้างลำต้นและกิ่งอยู่ใต้ดิน ของท่อนปลูกมันสำปะหลังจะเกิดขึ้นที่เพอริไซเคิล อยู่บริเวณรอยแผลระหว่างเปลือกกับเนื้อไม้ของท่อนปลูก นอกจากนี้รากฝอยยังเกิดที่ตาของท่อนปลูกอีกด้วย รากฝอยที่เกิดจากรอยแผลที่โคนของท่อนปลูกมีมากกว่า 50 ราก ส่วนรากฝอยที่เกิดจากรอยแผลที่ตามีน้อยมากเมื่อเปรียบกับรอยแผลที่โคนของท่อนปลูกนี่ที่หาข้อมูลมาน่ะครับเดี๋ยวไปดูจริงเป็นไงจะมาแถลงไขอีกที
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=542fe4062bdc805f
guru.google.co.th/guru/thread?tid=542fe4062bdc805f - |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 26/09/2010 10:28 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
มันสำปะหลังระบบน้ำหยด
การเกษตรเรื่องมันสำปะหลังระบบน้ำหยด ที่มา www.เกษตร.com
การเตรียมดิน รองพื้นด้วยแกลบ มูลไก่ 40 กระสอบต่อไร่ (หรือประมาณ 400 กิโลกรัมต่อไร่ ) จากนั้นให้ทำการหว่านปุ๋ยเคมีเสมอ (15-15-15) ประมาณ 25 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วไถกลบด้วยผาล3 และแปรด้วยผาล7 เมื่อเสร็จแล้วให้ทำการวางระบบน้ำหยด โดยวางสายน้ำหยดระยะ 150×40 ซม.
การลงทุนระบบน้ำหยด
อุปกรณ์มีดังนี้ สายน้ำหยด,ท่อพีวีซี,หัวปลาไหล,วาล์วปิด-เปิด,ปั๊มน้ำและไฟฟ้าหรือเครื่องคู โบต้า ต้นทุนในการวางระบบประมาณ 6,000 บาทต่อไร (ไม่รวมปั๊มน้ำ) มีอายุการใช้งาน 3-5 ปี แล้วจึงค่อยเปลี่ยนสายใหม่
ข้อดีของการใช้ระบบน้ำหยด
1. สามารถปลูกมันได้ตลอดทั้งปี
2. ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น
3. ลดต้นทุนการผลิต จากเดิมปลูกปีละ 5-6 ครั้ง จึงได้เก็บเกี่ยวผลผลิต เมื่อใช้ระบบน้ำหยดลดลงมาเหลือ 3 ครั้ง
4. ผลิตมีคุณภาพ ขายได้ราคาดีขึ้น
การเตรียมท่อนพันธุ์
ควรเลือกท่อนพันธุ์ที่มีอายุประมาณ 8-12 เดือน และต้องเป็นท่อนพันธุ์ที่ใหม่และสด มีความสมบูรณ์สูงไม่มีโรคและแมลง ตัดหัวและโคนทิ้งระมาณ 10-20 ซม. จากนั้นตัดท่อนพันธุ์เป็นท่อน ๆ ละ 25 ซม. แล้วจึงนำไปปลูก
การปลูกและดูแลรักษา
วิธีปลูก นำท่อนพันธุ์ที่เตรียมไว้มาปักตั้งตรงลึกไม่เกิน 5 ซม. ไม่ควรปักเฉียงเพราะจะทำให้รากออกข้างเดียว หลังจากนนั้นทำการรดน้ำทันที โดยในช่วงแรก ๆ 2-3 วันค่อยรดหนึ่งครั้ง และในแต่ละครังควรรดน้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง และเมื่อต้นมันสำปะหลังตั้งตัวได้จะให้น้ำทุก ๆ 7 วัน การดูแลรักษา ในช่วงอายุ 1-3 เดือนแรกควรให้ปุ๋ยทางน้ำเสริมด้วย โดยใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 25-5-5 ผสมกับน้ำปล่อยไปตามระบบน้ำหยดเดือนละครั้ง เพื่อช่วยบำรุงต้นและใบ หลังจากอายุได้ประมาณ 4-5 เดือน ให้ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ปริมาณ 25 กิโลกรัมต่อไร่ และเมื่ออายุได้ 6-7 เดือน ให้เปลี่ยนมาเป็นปุ๋ยสูตร 12-4-40 เพื่อช่วยเรื่งหัวเร่งแป้ง
เรื่องปั๊มน้ำขึ้นไปเก็บไว้ในที่สูงแล้วปล่อยลงมา เป็นความคิดสุดยอดนิยมของคนสวนมากๆ โดยไม่มีใครสอน และยังเข้าใจอีกว่ามันประหยัด คุ้มหรือเปล่า จากบทความของ เชาน์ สงวนศักดิ์
การปั๊มส่งน้ำเก็บไว้ที่สูง
เรื่องปั๊มน้ำขึ้นไปเก็บไว้ในที่สูงแล้วปล่อยลงมา เป็นความคิดสุดยอดนิยมของคนสวนมากๆ โดยไม่มีใครสอน และยังเข้าใจอีกว่ามันประหยัด
ปั๊มน้ำขึ้นไปเก็บไว้บนแท็งก์น้ำเหล็กขนาด 20 คิว แล้วปล่อยลงมา น่าจะดี แต่ความจริงค่าแท็งก์น้ำเหล็ก แม้จะไปหาซื้อแท็งก์น้ำเหล็กตามร้านของเก่าก็ยังต้องน้ำมาขัด ล้าง ทำสี และค่าติดตั้งที่สูงเกือบเท่าราคาแท็งก์น้ำเหล็ก เพราะต้องรับน้ำหนักถังและน้ำมากกว่า 25 ตัน และสูงถึง 10 เมตร หัวมินิสปริงเกลอร์จึงจะทำงาน ประมาณราคาน่าจะถึง 200,000 บาท และน้ำในถังจะสามารถให้น้ำต้นไม้ในสวนได้ 3 ไร่เท่านั้น ต้องคอยปั๊มน้ำขึ้นหลายร้อยครั้ง ต้องเสียค่าแรงคนเฝ้าถังน้ำ และปั๊มน้ำตลอดเวลาที่ให้น้ำ
ปั๊มน้ำขึ้นไปบนยอดเขาไปสร้างสระคอนกรีตที่ผูกเหล็ก เทปูนแข็งแรงมองดูก็น่าจะมาตรฐานดี (สำหรับคนมีตังค์) แต่การสร้างบ่อเก็บน้ำที่เป็นคอนกรีตมีราคาสูงมากกว่าความคิดของชาวสวนมาก ถ้าบ่อกว้าง 1 ไร่ ลึก 5 เมตร จะเก็บน้ำได้ประมาณ 5,000 คิว เท่ากับน้ำหนักน้ำ 5,000 ตัน จะต้งอผูกเหล็กสองชั้น เทคานรับน้ำหนักน้ำ พื้นบ่อหนาพอจะรับน้ำหนักได้ถึง 8,000 ตัน ถ้าบ่อราว แม้แต่ครึ่งเซนติเมตร น้ำก็จะรั่วหายหมด ค่าก่อสร้างทั้งหมดน่าจะห้าแสนขึ้นไป มันเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
ทำบ่อดินไว้บนเขา กว้าง 2 ไร่ เป็นดินแข็งน้ำซึมได้น้อย ไม่ต้องใช้ปูนใช้เหล็ก เสียค่าขุดอย่างเดียว การสร้างบ่อดินไว้บนยอดเขา ขนาดประมาณ 2 ไร่ ลึก 6 เมตร ค่าขุด ค่ารถย้ายดินจากบ่อ ประมาณ 100,000 บาท ถูกกว่าถังเหล็กและบ่อปูน น่าจะดีแต่ความจริง น้ำที่ปั๊มขึ้นไปบนยอดเขา จะเสียค่าน้ำมันหรือไฟฟ้าไปประมาณ คิวละ 1 บาท น้ำจะถูกแดดและลมทำให้น้ำระเหยไปในอากาศ และซึมลงไปในดิน ขนาดบ่อ 2 ไร่ จะหายไป 2,000 คิวต่อวัน เท่ากับเราเสียเงินไปวันละ 2,000 บาท
ในมุมมองของผมเห็นว่าเรามีวิธีหลีกเลี่ยงได้ เราไม่สร้างแทงก็น้ำเหล็ก บ่อคอนกรีต บ่อดิน ที่บนยอดเขาเลยครับ เราเอาเงินที่จะเสียค่าสร้างสัก 20% มาซื้อปั๊มอย่างดี และออกแบบ วางท่อที่ถูกต้องก็ไม่ต้องเสียเงินมากมายก็ใช้ไ้ด้แล้วครับ
ข้อดีในการออกแบบท่อน้ำที่ถูกต้องจะประหยัดพลังงานไปได้มาก เช่น ถ้าต้นไม้อยู่ห่างจากน้ำ 10 เมตร แต่เราต้องปั๊มน้ำขึ้นไปบนยอดเขาไกลถึง 300 เมตรแล้วปล่อยน้ำลงมา กับการที่เรามีท่อแยกส่งน้ำจากปั๊มน้ำไป 10 เมตร ถึงต้อนไม้จะลดค่าพลังงานไปได้ทุกครั้งที่เรารดน้ำต้นไม้ และข้อสำคัญ คือเราจะไม่เสียน้ำจากการระเหย การซึมลงดิน การรั่วจากรอยแตกของสระคอนกรีตวันละ 2,000 บาท
โดย เชาว์ สงวนศักดิ์ จากหนังสือเครื่องปั๊มน้ำที่ชาวสวนควรรู้
http://irrigation-dripper.com/index.php?option=com_content&view=article&id=12:2009-07-18-02-52-01&catid=3:2009-01-05-11-58-21&Itemid=4
rrigation-dripper.com/index.php?option=com... - |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11625
|
ตอบ: 26/09/2010 10:34 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ประกวดหัวมันสำปะหลังยักษ์
ในงานประชุมมันสำปะหลังนางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรม การค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า เพื่อโชว์ศักยภาพการผลิตมันสำปะหลังของเกษตรกรไทย พร้อมแสดงศักยภาพของไทยในฐานะที่เป็นผู้นำการพัฒนาพันธุ์ รวมถึงการเพาะปลูกและการค้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของโลก กรมการค้าต่างประเทศจึงได้จัดประกวดหัวมันสำปะหลังสด/ เกษตรกรดีเด่น เพื่อนำมาแสดงภายในงานประชุมมันสำปะหลังนานาชาติ หรือ World Tapioca Conference 2009 ที่จะจัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ระหว่างวันที่ 15-16 มกราคม 2552 นี้ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นไฮไลต์หนึ่งที่จะช่วยสร้างสีสันให้งานดูคึกคักมากขึ้น การประกวดจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. การประกวดมันสำปะหลังหัวใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเกษตรกรที่สนใจสามารถส่งหัว มันสำปะหลังสดเข้าประกวดได้ไม่จำกัดจำนวนต้น ไม่จำกัดสายพันธุ์และระยะเวลาในการปลูก และ แต่ละต้น (กอ) ต้องมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 80 กิโลกรัม
2.การประกวดเกษตรกรดีเด่น จะพิจารณาคัดเลือกจากบัญชีรายชื่อของมูลนิธิกองทุนมัน สำปะหลังที่ได้คัดเลือกไว้แล้วเมื่อปี 2549-2550 และได้รับการรับรองจากจังหวัด โดยใช้หลักเกณฑ์การเพิ่มปริมาณผลผลิต การบริหารจัดการไร่ การ บำเพ็ญประโยชน์ การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ฯลฯ เป็นตัวชี้วัดในการตัดสินให้คะแนนเพื่อมอบรางวัล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักมาตรฐานสินค้านำเข้าส่งออก กรมการค้าต่างประเทศ โทรศัพท์ 0-2547-4747 สายด่วน กรมการค้าต่างประเทศ 1385 ในเวลาราชการ.
ข่าว : เดลินิวส์
http://news.212cafe.com/news34431.html
news.212cafe.com/news34431.html - |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
bombon สาวดอง
เข้าร่วมเมื่อ: 15/07/2009 ตอบ: 68
|
ตอบ: 27/09/2010 12:44 am ชื่อกระทู้: |
|
|
catcaty บันทึก: | แถวบ้านผม อ.สอยดาว 2-3 ปีที่แล้วมา ผลผลิคต่อไร่เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ราว 2-3 ตันต่อไร่เท่านั้นเอง (เทวดาเลี้ยง) ดีแต่ว่าปีที่ผ่านมาราคาดี พี่น้องผมก็เลยพอเอาตัวรอดได้ |
ขอบอกนะครับ ยาคุมหญ้า ไดยู... ห้ามใช้เด็ดขาด
เมื่อก่อนใช้ติดต่อกัน 3 ปี มันเหลือ 2 ตัน/ไร่ ต้นงี้ แค่เอว เลิกใช้มานานแล้ว
และก็เลิกปลูกแล้วเหมือนกัน แล้วจะเอาภาพที่สวนมาให้ดู |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|