kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11657
|
ตอบ: 09/07/2018 5:43 pm ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหางานสัญจร... *วัดพยัคฆาราม ศรีประจันต์ สพ. 7 JUL |
|
|
.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร งานสีสันสัญจร....
*วัดพยัคฆาราม ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี 7 JUL
ถือเป็นมิติใหม่แห่งงานส่งเสริมการเกษตร การส่งเสริมแบบนี้เป็นแบบ MOUTH TO MOUTH FACE TO FACE ภาษาไทยแบบแปลไทยเป็นไทย เรียกว่า ใจถึงใจ ประมาณนั้น
การได้พูดคุยกันแบบใจถึงใจ ทำให้บรรยากาศ ความรู้สึก ความตั้งใจ ความคิดใหม่ ความจำได้ ต่อเรื่องราวที่พูดคุยกันดีมากๆ
คำพูดบางคำ จากคนบางคน ในบางโอกาส เราได้ฟังแล้วเอามาปรับใช้ จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ที่เลวร้ายให้กลายเป็นดีได้ (เซอร์ วิลส์ตั้น เชอร์ชิล รัฐบุรุษอังกฤษ)
-------------------------------------------------------------------------------
โปรด .... โปรดเถิดดวงใจ โปรดได้ฟังเพลงนี้ก่อน....
สาระเรื่อง "รูป" กับ "ข้อความ" สอดคล้องกันบ้าง ไม่สอดล้องกันบ้าง ไม่ได้เจตนาหรือเจตนาก็ได้
อย่า SERIOUS .... THANK YOU
1. สีสันสัญจร :
มาทุกต้นเดือน เสาร์แรกของเดือน เหมือน "รอบเดือน" มาตรงเวลา เพราะสุขภาพกาย สุขภาพจิตร ดี....
เสาร์แรก ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี
เสาร์ที่ 2 ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี
เสาร์ที่ 3 ไปที่วัดท่าตำหนัก นครชัยศรี นครปฐม
เสาร์ที่ 4 ไปที่วัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ วงแหวนตะวันตก กทม.
กิจกรรม :
สอน/แจก แคลเซียม โบรอน, กับดักกาวเหนียว, ระบบสปริงเกอร์
สอน/ขาย หม้อปุ๋ยหน้าโซน, REUSE ท่อ พีวีซี.
ถาม/ตอบ ปัญหาเกษตร
--------------------------------------------------------------------------------
2. ทำใช้ ทำขาย ทำแจก :
สมช. อยู่เชียงใหม่ ซื้อส่วนผสมทำแคลเซียม โบรอน เอาไปทำเอง ทำใช้ทำขาย .... สั่งซื้อ ยูเรก้า, ไบโออิ, ไทเป พร้อมใช้ .... สั่งซื้อทาง ปณ. จากชาตรีฯ ได้ไปแล้วเอาไปขายต่อ
แคลเซียม โบรอน .... ลิตรละ 400
ยูเรก้า ................ ลิตรละ 1,400
ไบโออิ ................ ลิตรละ 800
ไทเป ................. ลิตรละ 800
ต้องขายแพง เพราะถ้าขายราคาถูกคนซื้อไม่เชื่อ ไม่ซื้อ ไม่ใช้
เอาวะ ขายสิ่งที่ถูกต้อง ได้เงิน ได้บุญ
โถ.... เกษตรไทย
--------------------------------------------------------------------------------
3.คัมภีร์เกษตร :
หนังสือคือ MEDIA ประเภทคงทนถาวร อยู่ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงตลอดชีวิต เนื้อหาสาระคงที่เคยยังไงก็ยังงั้น
เราว่ามันดีกว่า โซเชียล อินเตอร์เน็ต ซีดี แฟรชไดร์ เพราะนั่นต้องมีเครื่อง ตั้งอยูประจำที่ จะดูทีจะอ่านที ก็ต้องเปิดแล้วสไลด์เลื่อนหาข้อความ .... ผิดกับหนังสือ นั่ง-นอน-เดิน อ่านได้ทั้งนั้น อ่านในบ้าน อ่านในสวนไต้ต้นไม้ ทำได้ทั้งนั้น
ว่ามั้ย หนังสือเนี่ยเปรียบเสมือน คัมภีร์-ตำนาน-ลายแทง ส่งต่อถึงลูกหลานเหลนโหลนได้
ซื้อไปเล่มเดียว ระวังนะ คนยืมแล้วไม่คืน
ก็มี บางคนซื้อไป 2 เล่ม เล่มนึงเอาไว้อ่าน อีกเล่มนึงซื้อทองปิด เก็บไว้บนหิ้งบูชา
---------------------------------------------------------------------------------
4. สมุนไพรสูตรต้ม 3 น้ำ :
ในหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ เขียนไว้แล้ว .... เอางี้ ทำสารสมุนไพรสู้กับหนอน เอาสะเดาก็แล้วกัน
เตรียมน้ำ 1 หม้อ เล็กใหญ่ตามใจชอบ ใส่น้ำเต็ม ยกขึ้นตั้งบนเตา ติดไฟ
เด็ดใบแก่สะเดามา 1 หอบ หอบมือนี่ใหญ่กว่ากำมือนะ ใส่ลงไป กดๆเต็มหม้อ
ติดไฟเริ่มต้ม ร้อนจนเป็นไอกรุ่นๆ เอาไฟออก (เปลืองไฟ) ปล่อยให้เย็น ได้สะเดาต้มน้ำแรก
เย็นแล้วเอาใบสะเดาที่ต้มแล้วออก คั้นเอาน้ำคืนมา
ใส่ใบสะเดาแก่ชุดใหม่ลงไปจนเต็มหม้อ
ติดไฟเริ่มต้มอีก ต้มจนร้อนเป็นไอกรุ่นๆ เอาไฟออก ปล่อยให้เย็น (เปลืองไฟ) ได้สะเดาต้มน้ำ 2
เย็นแล้วเอาใบสะเดาที่ต้มแล้วออก คั้นเอาน้ำคืนมา
ใส่ใบสะเดาแก่ชุดใหม่ลงไปจนเต็มหม้อ
ติดไฟเริ่มต้มอีก ต้มจนร้อนเป็นไอกรุ่นๆ เอาไฟออก ปล่อยให้เย็น (เปลืองไฟ) ได้สะเดาต้มน้ำ 3
น้ำต้มสะเดาน้ำ 3 ตัวยาอะแซดิแร็คติน แรงกว่าสะเดาต้มน้ำเดียว แรงกว่าสะเดาหมักน้ำเปล่า
จากสะเดาอย่างเดียวเดี่ยวๆ จะใส่สมุนไพรอย่างอื่นรวมไปด้วย ต้มพร้อมกัน 3 น้ำไปเลยก็จะได้ตัวยาฆ่าแมลงอย่างอื่นร่วมด้วย อันนี้ถ้าเราจะเรียกวา "สะเดา ซุปเปอร์" ก็ได้นะ
-------------------------------------------------------------------------------
5. ซื้อครึ่ง ทำเองครึ่ง :
วันนี้มาซื้อ ไบโออิ-ไทเป-ยูเรก้า แบบพร้อมใช้แล้วซื้อส่วนผสมไปทำเองด้วย กะว่า ทำเองครึ่งหนึ่ง ซื้อครึ่งหนึ่ง วิธีใช้ก็สลับครั้งกันระหว่างที่ทำเองกับที่ซื้อ
ขอยืนยันว่าได้ผล ที่ทำเองสลับครั้งใช้กับที่ซื้อ ใช้แล้วคุณภาพไม่ต่างกันแต่ต้นทุนต่ำกว่าครึ่งต่อครึ่ง
ที่คุณบอกมาน่ะ ลุงคิมเฉยๆ เพราะตามหลักวิชาการมันต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่ที่สงสัยแล้วก็เป็นห่วงอย่างมากๆ ก็คือ "ข้างบ้าน" นั่นแหละ ไม่รู้เหมือนกันนะ ทำไมเขาถึงได้ยึดติดขนาดนั้น
สมช.คนหนึ่งไปที่ชมรมสาขาบางแพ ซื้อชุดทำแคลเซียม โบรอน ชุดใหญ่ทำได้ครั้งละ 20 ล. ซื้อไป 5 ชุด
ถามว่า : ทำสวนกี่ไร่เนี่ย ?
คำตอบ : 2 ไร่เอง
ถามว่า : อืมมม แล้วทำไมซื้อส่วนผสมไปเยอะจัง ?
คำตอบ : อ๋อออ ผมเอาไปทำขายครับ
ถามว่า : ทำขาย....ขายให้ใคร ? ขายที่ไหน ?
คำตอบ : ขายให้แปลงข้างบ้านนั่นแหละครับ เขาใช้แล้วได้ผลเลยยอมรับ
ถามว่า : ขาย....ขายลิตรละเท่าไหร่ ?
คำตอบ : ลิตรละร้อยเดียวครับ
ถามว่า : ยอด....ขายสิ่งที่ถูกต้อง ได้เงินได้บุญ
คำตอบ : ขอบคุณครับ
-------------------------------------------------------------------------------
6. มะขามเทศ :
มะขามเทศ มะขามหวาน เนี่ยโชคดีนะ ผลแก่เก็บเกี่ยวได้ไม่ตรงกับทุเรียน ก็เลยลอยตัวไม่มีคู่แข่ง
บำรุงมะขามเทศ :
....ระยะฝักดาบ ให้จิ๊บเบอเรลลิน ยืดฝักให้ยาวก่อน
.... ระยะฝักขึ้นรูป ให้ยูเรก้า ขยายขนาด-หลุดเมล็ด-สร้างเนื้อ 2 รอบ สลับแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน
.... ระยะก่อนเก็บ ให้ไบโออิ 0-21-74 เร่งหวาน
.... ที่สำคัญของมะขามเทศคือ ก่อนเก็บเกี่ยวถ้างดน้ำเนื้อจะแข็งหยาบเหมือนขนมโก๋ กินไม่อร่อย เพราะฉะนั้นก่อนเก็บเกี่ยวจึงต้องให้น้ำ จะทำให้เนื้อมะขามเทศฉ่ำนุ่ม อร่อย...
สังเกตุมะขามเทศนะ พันธุ์เดียวกันอยู่ในสวนเดียวกันแท้ๆ ต้นที่ใบใหญ่กว่าจะมีผลฝักดีกว่าต้นที่ใบเล็กกว่า เพราะฉะนั้น ขั้นตอนเรียกใบอ่อนฟื้นฟูสภาพต้นเรียกความสมบูรณ์กลับคืนมา ต้องพิถีพิถันหน่อย
--------------------------------------------------------------------------------
7. มะนาวผลแตก :
สาเหตุหลักเพราะขาดแคลเซียม โบรอน. .... สำหรับมะนาวต้องให้ตั้งแต่ระยะลูกเล็ก พอถึงระยะผลใหญ่ก็จะไม่ผลแตก
มะนาวตอบสนองต่อ "สูตรสหประชาชาติ" ดีมากๆ ใช้ต่อเนื่องๆ ซัก 3 ปี ต้นมีความสมบูรณ์สะสมสูง ระยะเวลาในการให้ซัก 20-30 วันต่อครั้ง ให้ 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ มะนาวช่วงถูกขนาดราคาลูกละ 50 ตังค์หน้าสวนยังได้กำไรเลย เพราะต้นทุนต่ำมากๆ นี่ซื้อนะ ถ้าทำเองล่ะ ต้นทุนจะต่ำขนาดไหน
--------------------------------------------------------------------------------
8. มะลิดอกสีม่วง :
สาเหตุหลักเพราะขาดแคลเซียม โบรอน. สำหรับมะลิให้ 1 รอบ สลับกับสหประชาชาติ 2 รอบ ทุกครั้งที่ให้ทางใบ +สารสมุนไพรเข้าไปด้วย
ให้แคลเซียม โบรอน ประจำๆ ก้านดอกจะแข็ง แทงเข็มร้อยมาลัยดี
มะลิคนซื้อไปแล้ว เป็นดอกมะลิเปล่าเอาไปลอยน้ำกิน เป็นดอกในพวงมาลัย คนกินคนใช้ต้องดม ดมด้วยความเคยชิน เคยคิดบ้างไหมว่า สารเคมีในดอกมะลิเข้าสู่ร่างกายคนกินคนดมครั้งละเท่าไหร่ นั่นแหละ "บาป" ทั้งนั้น
สารเคมีในดอกมะลิ คนกินคนใช้ได้ 1 ส่วนใน 10 ส่วน เพราะไม่ได้กินไม่ได้ดมประจำทุกวันๆ
แต่คนปลูกฉีดสารเคมีได้ 9 ส่วนใน 10 ส่วน เพราะได้รับสารพิษทุกวัน (ลงแปลงได้กลิ่น เข้าบ้านได้กลิ่น) สุขภาพร่างกายเสียแล้วยังเป็นหนี้เป็นสินอีก ผลกรรมตกไปถึงลูกหลานด้วย อันนี้เรียว่า "กรรม" ตามสนอง
คนพิการเดินไม่ได้ ทำอาชีพร้อยมาลัย เข็มที่แทงดอกมะลิสะกิดเนื้อที่ปลายนิ้วประจำ ๆๆ ๆๆ สารเคมีเข้าไปสะสมในร่างกายมากๆ ๆๆ สุดท้ายต้องตัดมือทิ้ง....โถ เวรกรรม
--------------------------------------------------------------------------------
9. มะยงชิดเจอฝนดอกร่วง :
มะยงชิด-มะปราง ค่อนข้างอ่อนแอต่อสภาพอากาศ (แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล) ช่วงออกดอกเจอฝนชุก เจออากาศหนาวกว่าปกติ ดอกจะร่วง มาตรการให้ ธาตุรอง-ธาตุเสริม-เอ็นเอเอ. ได้ผลแค่ระดับหนึ่ง คือ ดีกว่าไม่ได้ให้เท่านั้น
เจอแบบนี้ก็ต้องทน เพราะยังไม่มีมนุษย์ที่ไหนเอาชนะธรรมชาติได้
-----------------------------------------------------------------------------
10. เลิกเชื่อสัมภะเวษี ผีจรจัด :
เซลล์ขายปุ๋ย ทั้งปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี ทางดิน ส่งถึงบ้าน ขายเครฯ เกี่ยวข้าวแล้วมาเก็บเงิน ราคาถูกกว่าซื้อจากร้าน
เกี่่ยวข้าวแล้วเปอร์เซ็นต์ "ข้าวลีบ-เมล็ดไม่แกร่ง-ข้าวป่น-ท้องไข่-น้ำหนักไม่ดี" สูงมาก
เปรียบเทียบกับใช้ปุ๋ยลุงคิม ซื้อทุกอย่างราคาถูกกว่า เปอร์เซ็นต์ข้าวดีสูงกว่า
งานนี้ NO COMMENT เพราะไม่อยากซ้ำเติม แต่พูดว่า เมื่อรู้ว่าปุ๋ยสูตรลุงคิมดีกว่า แล้วทำไมไม่ทำเองล่ะ....
--------------------------------------------------------------------------------
11. มะพร้าวส่งกลับ :
ล้งส่งมะพร้าวไปอเมริกาบอกว่า มะพร้าวตีกลับห้ามเข้าอเมริกา (อเมริกานำเข้ามะพร้าวมากกว่าจีน) เพราะมีสารเคมีปนเปื้อนในเนื้อมะพร้าวสูงเกิน สารเคมีชื่ออะไรไม่รู้ รู้แต่เป็นสารเคมีที่ชาวสวนราดลงดิน งานนั้นล้งขาดทุนยับเยิน
อืมมม....ไม่เฉพาะล้งมะพร้าวหรอกนะ ล้งผักก็เคยโดน เข็ด/เลิก ทำธุรกิจส่งออกผักไปหลายราย บางล้งบอกว่าเจ้าของสวนยืนยันๆ ไม่ได้ใช้สารเคมี-ไม่ได้ใช้สารเคมี แต่พอไปถึงต่างประเทศเขาตรวจเจอก็เลยนำเข้าไม่ได้
สารเคมีตัวนี้ให้ทางราก แสดงว่าระบบรากดูดสารตัวนี้เข้าไปในต้นได้ ก็เป็นธรรมดาเพราะรากต้องดูดของเหลวทุกอย่างเข้าสู่ต้นอยู่แล้ว รากเขาคงไม่รู้หรอกนะว่า นี่คือสารอาหาร นั่นคือสารพิษ เอ้า...สารอาหารดูดเข้าต้น ส่วนสารพิษก็บ้วนทิ้ง
ช้างป่าที่กุยบุรี ประจวบฯ กินแตงโมตาย แพทย์ผ่าท้องพิสูจน์เลยรู้ว่าช้างตายเพราะฟูราดานที่ตกค้างในเนื้อแตงโม .... ก็ฟูราดานที่คนปลูกแตงโมใส่ที่หลุมปลูกนั่นไง
มะพร้าว-แตงโม ก็อีหร็อบเดียวกัน
-------------------------------------------------------------------------------
12. พยาบาลทำนาเพื่อพ่อ :
สาวสวยโสดซิง อวบอั้นอั๋นอึ๋ม อายุ 54 หาผู้ชายดวงตกมาเป็นคู่ไม่ได้ วันนี้ลาออกจากพยาบาลมาดูแลพ่อ แม่เสียแล้ว เพราะโสดจึงไม่มีลูกแต่มีหลานคอยรับมรดก
ทำนา 18 ไร่ มาขอคำแนะนำแล้วให้คำแนะนำ ....
1. ทำให้ผลผลิตเพิ่ม ทั้งคุณภาพและปริมาณ.... โดย ทำนาแบบประณีต เปิดโผ (ในหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ) ทำตามนั้นทุกขั้นตอน
2. ทำให้ต้นทุนลด ระยะสั้น/ระยะปานกลาง/ระยะยาว .... โดย เปลี่ยนรายการจ่าย (ปุ๋ย ยา พันธุ์) เป็นทำเอง จ้างแรงงานทำตามเราสั่งเป๊ะๆ รูปแบบทำนา (นาหยอด เปียกสลับแห้ง)
3. ทำให้อนาคตดี .... โดย ได้สเป็คตามที่คนรับซื้อต้องการ แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม (ข้าวกล้อง ข้าวกล้องงอก น้ำมันรำ จมูกข้าวแค็ปซูล ข้าวปลูก บรรจุภัณฑ์ การตลาด คุณภาพ ปชส.)
CASE STUDY & MOTIVATION
* ศึกษาปัญหาแล้วป้องกันก่อน ศึกษาความสำเร็จทีหลัง
* ทำแบบเดิม แบบที่พ่อเคยทำ ทำแล้วคงไม่มีอะไรดีขึ้น
* คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ ระหว่าง ทำตามคนที่ล้มเหลวกับทำตามคนที่สำเร็จ
* ใช้พื้นที่ทำ นาข้าว เสริม/แซม/แทรก พืชอายุสั้น ในนา/บนคันนา
* UPDATE ข้อมูลตลาดรับซื้อ
* UPDATE ข้อมูลเครื่องทุ่นแรง
* สร้างงานให้แรงงานมีงานทำประจำ เพื่อให้มีรายได้เสมอๆ
* การตลาดนำการผลิต
* รวมลุ่มเพื่อนบ้าน กะรวยด้วยกัน
* ใช้สมองแทนกำลัง
*
*
ข้อมูลตรงนี้ วิชาการสูงไปหน่อย คงต้องแปลงภาษาวิชาการให้เป็นภาษาชาวบ้านเอาเองนะ
------------------------------------------------------------------------------
13. ไบโออิ นาข้าว 4 รอบ O.K. :
ได้ยินคุยเรื่องนาข้าว 20 ไร่ แล้วสั่งซื้อไบโออิแกลลอนเดียว .... สงสัยๆ ๆๆ จนต้องถาม
ถามว่า :ได้ยินคุยกันว่าทำนา 20 ไร่
คำตอบ : ครับ
ถามว่า : 20 ไร่.... ซื้อไบโออิ 5 ล.แกลลอนเดียว แสดงว่าที่เหลือทำเองใช่ไหม ?
คำตอบ : เปล่าครับ ใช้แค่นี้ครับ
ถามว่า : ใช้แค่นี้ 20ไร่ น่ะนะ อืมมม ไม่ใช่อยากขายมากๆหรอกนะ แต่อยากรู้ว่าปุ๋ยแค่นี้พอเหรอ ?
คำตอบ : พอครับ
ถามว่า : ถามหน่อย ทำยังไง ? ใช้ยังไง ?
คำตอบ : ก็ฉีดพ่นทางใบธรรมดาๆ นี่แหละครับ นาผมฉีดแค่ 4 ครั้ง
ถามว่า : 4 ครั้ง แล้วต้นข้าวอยู่ได้เหรอ ?
คำตอบ : อยู่ได้ครับ ระยะกล้าครั้งนึง ออกรวงครั้งนึง พลับพลึงอีก 2 ครั้ง
ถามว่า : 4 ครั้ง เกี่ยวแล้วได้ดีไหม ?
คำตอบ : ดีครับ ดีกว่าแบบเดิมๆที่เคยใส่แต่ ยูเรีย 16-20-0 เดี๋ยวนี้ผมเปลี่ยนมาเป็น 46-0-0 ผสม 16-16-16 ไร่ละ 10 กิโล ละลายกับน้ำหมักระเบิด 30-10-10 สาดทั่วแปลงแล้วตีเทือก ผมทำนาดำ จ้างรถมาดำ พอต้นข้าว 20 วันก็เริ่มให้ไบโออิ
ถามว่า : อืมมม .... ช่ายยยย ....
คำตอบ : ต้นข้าวก็โตดีครับ เกี่ยวแล้ว ข้าวลีบ/ข้าวป่น/ข้าวท้องไข่ น้อยมากๆ ผิดกับเมื่อก่อนที่ใช้ยูเรียลิบลับ
ถามว่า : เอาวะ กูว่าแล้วมั้ยล่ะ ต้นข้าวน่ะไม่เรื่องมากหรอ คนต่างหากที่เรื่องมาก เหลืออยู่แต่ว่า เมื่อไหร่จะทำเองเท่านั้นแหละ
คำตอบ : ซื้อถูกกว่าครับ นาแปลงเล็กๆ ไม่แปลงใหญ่ครับ
------------------------------------------------------------------------------
14. หม้อปุ๋ยหน้าโซน :
หม้อปุ๋ยตัวนี้ สมช.เราทำงานแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยตั้งชื่อว่า "เวนจูรี่" เพราะทำงานแบบสุญญากาศ
ตัวนี้ลุงคิมคิดขึ้นมาเอง จดทะเบียนลิขสิทธิ์ได้เลยแต่ไม่จด ขี้เกียจ ใครอยากจดก็ไปจดซี
อเมริกาทำเกษตรใช้วิธี "ให้ปุ๋ยไปกับระบบน้ำ หรือ ให้ปุ๋ยทางท่อ" มานานกว่า 50-70 ปี ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คนที่ไปเรียนที่อเมริกา เขาไปเรียนอะไรกัน ถึงไม่ได้เรียนเกษตรแต่ก็มีเพื่อนเป็นอเมริกาไม่ใช่เหรอ
เอาเถอะ ถึงไม่ได้ไปเรียนที่อเมริกา แต่อินเตอร์เน็ตอเมริกาในเมืองไทยก็รับได้ไม่ใช่เหรอ ....
สุดท้าย ก็เห็นนะ เคยเจอสื่อสิ่งพิมพ์สาขาเกษตรพูดถึงเรื่องหม้อปุ๋ยหน้าโซน ก็งั้นๆ แหละ COPPY เรื่องของต่างประเทศมาลง ลงแล้วก็จบ ไม่มีการขยายผล เรื่องของเรื่องก็คือ ปฏิเสธเทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรงอย่างหัวเด็ดตีนขาด
ก็เคยเจอนะ รู้จักด้วย เรียนจบ ป.เอก สาขาเกษตร พ่อแม่ทำสวนไม้ผล ติดสปริงเกอร์แค่โคนต้น ส่วนทางใบใช้วิธีลากสายยางฉีดเอา
ที่ RKK แปลงไม้ผลแบ่งเป็นโซน ๆละ 50 ต้น ให้ น้ำ, น้ำ+ปุ๋ย, น้ำ+ยาสมุนไพร, น้ำ+ปุ๋ย+ยาสมุนไพร มีหม้อปุ๋ยประจำหน้าโซน ทำงานให้ทางใบครั้งละ 3-5 นาที ให้ทางรากครั้งละ 5-10 นาที ต่อการทำงาน 1 รอบ
ลองคิดดูซิ ถ้าลากสายยาง 50 ต้น ๆละ 5 นาที ก็ 250 นาที แต่สปริงเกอร์ 50 ต้น ใช้เวลา 5 นาที
250 นาทีไฟฟ้า กับ 5 นาทีไฟฟ้า ต่อ 1 ครั้งทำงาน .... ทำงาน 5ปี 10ปี 20ปี ค่าไฟฟ้าต่างกันเท่าไหร่
ไม่ใช่เท่านี้ ยังเลือกเวลาทำงานได้อีกด้วย
.... ตี.5 ล้างน้ำค้างป้องกัน/กำจัด ราน้ำค้าง ราแป้ง ราสนิม
.... เที่ยง ป้องกัน/กำจัด เพลี้ยไฟ ไรแดง
.... กลางวันฝนตก ฝนหยุดแดดออก (ฝนต่อแดด) ล้างน้ำฝน ป้องกัน/กำจัด แอ็นแทร็คโนส
.... ค่ำ ป้องกันแม่ผีเสื้อเข้าวางไข่ ไข่แมลงฝ่อ ฆ่าหนอนที่ออกหากินลางคืน
นอกนั้น ค่าแรง-ค่าเวลา-ค่าเครดิตความน่าเชื่อถือ-ค่ามะเร็งกินอารมย์-ฯลฯ อีกเท่าไหร่
หม้อปุ๋ยหน้าโซนมีหลาย VIRSION ให้เลือก ก็เลือกเอาตามอัธยาศัย
---------------------------------------------------------------------------------
15. หน่อไม้ไผ่ :
สมช. : ลุง ขอสูตรทำหน่อไม้แจ๊คพ็อตหน่อยซี
ลุงคิม : ขอฟรีเหรอ ?
สมช. : ซื้อก็ได้
ลุงคิม : O.K. สูตรเดียว 500
สมช. : ในหนังสือเหรอ ?
ลุงคิม : ใช่ ในหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ เล่มนี้นี่แหละ ครบสูตรครบวงจร
สมช. : ซื้อจริงๆ นะลุง
ลุงคิม : อ้าวววว ก็ต้องซื้อน่ะซี ไม่ได้แจกแบบปอเต๊กตึ๊งนะ
สมช. : เอา 2 เล่มเลยลุง ไว้อ่านเล่มนึง กับปิดทองขึ้นหิ้งบูชาอีกเล่มนึง
ลุงคิม : เอาจริงเหรอ... เล่นหน่อไม้จะทำแจ๊คพ็อต อันนี้ควรต้องมีสปริงเกอร์นะ เพราะต้องทำหน้าแล้งให้เป็นหน้าฝนให้ได้ หน่อไม้ทุกชนิดทุกสายพันธุ์พอถึงหน้าฝน มีฝนตกเป็นแทงหน่อทั้งนั้น
เอางี้ สิ้นหน้าฝนเดือนตุลาขึ้นเดือนพฤศจิกา นั่นคือเริ่มหน้าแล้งก็ระดมให้น้ำ วันเว้นวัน วันเว้น 2-3 วัน ทำหน้าแล้งให้เป็นหน้าฝน ประมาณซักเดือนมีนาต่อเมษาก็จะมีหน่อไม้แทงออกมา
สมช. : ปุ๋ยล่ะลุง
ลุงคิม : เอาแค่ระเบิดเถิดเทิง 5-10-40 (1 ล.ต่อไร่) อย่างเดียวเดี่ยวๆ เดือนละครั้ง ไม่ต้อง+ปุ๋ยเพิ่ม
สมช. : ตกลงค่ะลุง
ลุงคิม : อืมมม เรารักหน่อไม้ หน่อไม้รักเราไหม เผื่อเลือกหน่อยก็ดีนะ ลง ข่า-กระชาย แทรกระหว่างไผ่ ทำเป็นแถวเป็นแนว พืชแทรก 2 ตัวนี้ใช้ปุ๋ยสูตรเดียวกันกับไผ่ เหมาะม่อยได้ข่าอ่อนราคาดีละเป็นเรื่อง
สมช. : จริงค่ะลุง
ลุงคิม : พูดว่าจริง ๆๆ น่ะ เอาจริงรึเปล่า
สมช. : เอาจริงซี่ลุง....
-------------------------------------------------------------------------------
16. แคลเซียม โบรอน ใช้เกิน :
สมช. : ลุงคิมครับ ผมขอรายงานผลการใช้แคลเซียม โบรอน. หน่อยครับ
ลุงคิม : เชิญ
สมช. : ผมใช้แคลเซียม โบรอน. ที่ซื้อมาจากตลาดลิตรละ 300 แล้วทดลองใช้ 20 ซีซี.น้ำ 20 ล., 40 ซีซี.น้ำ 20 ล., 80 ซีซี.น้ำ 20 ล. ให้ 2 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน
แล้วมาใช้ของเราที่ทำกับมือบ้าง 20 ซีซี.น้ำ 20 ล., 40 ซีซี.น้ำ 20 ล., 80 ซีซี.น้ำ 20 ล. ให้ 2 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วันเหมือนกัน
ลุงคิม : แล้วผลเป็นไง ?
สมช. : แคลเซียม โบรอน.ที่ซื้อมาเฉย อัตราให้เท่าไหร่ก็เฉย แต่แคลเซียม โบรอน.ที่เราทำเอง ใช้ 20 ซีซี., 40 ซีซี.น้ำ 20 ล. O.K. ครับ แต่ถ้าใช้ 80 ซีซี.น้ำ 20 ล. ฝักแข็งโป๊กเลยครับ
ลุงคิม : ทดสอบกับพืชอะไร ?
สมช. : ถั่วฝักยาวครับ
ลุงคิม : อืมมมม
สมช. : แบบนี้ชัดเลยว่า แคลเซียม โบรอน.ที่ซื้อมา สงสัยจะเป็นแค่น้ำละลายสีน่ะครับ แต่ของเราแน่นอน เพราะให้มากเกินถึงได้เป็นอย่างนี้
ลุงคิม : (พยักหน้า มองหน้า สมช. ที่ร่วมฟังข้างๆ) เพราะฉะนั้น ต้องยึดหลัก "ให้น้อย แต่บ่อยครั้ง" ว่ามั้ย
สมช. : ครับ
ลุงคิม : น่าจะซื้อมาลองหลายๆยี่ห้อ แล้วมาเล่าสู่กันฟัง.... MAKE SURE ดี
สมช. : ครับ
--------------------------------------------------------------------------------
17. โชคอนันต์นอกฤดู :
สมช. : ลุง.... จะทำมาหากินอะไรดีล่ะ
ลุงคิม : ขายผัวกินซิวะ
สมช. : ไม่ได้ ของหายาก มะม่วงโชคอนันต์ นอกฤดู หน้าสวนกิโลละ 3 บาท ไหวเหรอ ?
ลุงคิม : ไหวซี่ เดี๋ยวรัฐบาลก็ช่วย รับซื้อกิโลละ 300
สมช. : (ค้อนแกมหัวเราะ) ลุงก็เรื่อยเปื่อย
ลุงคิม : มึงอย่ามาค้อนกู บอกแล้วไง ผลไม้อะไรออกมาชนกับทุเรียนละก็เสร็จทั้งนั้น
สมช. : นี่นอกฤดูนะลุง
ลุงคิม : เท่านี้ไม่พอหรอก นอกจากนอกฤดูแล้วต้องไม่ชนกับทุเรียนด้วย
สมช. : แล้วจะทำยังไงล่ะ
ลุงคิม : เลิกคบโชคอนันต์ เปลี่ยนมาเป็น มันขุนศรี มันศาลายา เขียวเสวยจรนา ขาวนิยม แล้วก็นอกฤดูด้วย
สมช. : เลิกคบ .... พูดง่ายแต่ทำยาก
ลุงคิม : ยากหรือง่ายอยู่ที่ใจ ใจไม่เอาซะอย่าง อะไรๆก็ยากไปหมดนั่นแหละ
สมช. : โธ่ลุง คนเราจะเก่งไปทุกคนได้ไง ?
ลุงคิม : ไม่มีใครเก่งมาจากท้องพ่อท้องแม่ ออกมาแล้วมาหัดเก่งเอาทั้งนั้น
สมช. : ทำไงล่ะลุง ?
ลุงคิม : บอกแล้วจะเชื่อไหม ?
สมช. : เชื่อ.....
ลุงคิม : เชื่อคนง่ายจัง (วะ) ....
1. ปรับตารางทำนอกฤดูไหม่ กะให้วันที่โชคอนันต์ออกตลาดไม่ตรงกับทุเรียน
2. เปลี่ยนยอดโชคอนันต์เป็นมันขุนศรี มันศาลายา เขียวเสวยรจนา ขาวนิยม มะม่วงกินดิบ ทำนอกฤดูให้ออกตลาดไม่ตรงกับทุเรียน
3. เปลี่ยนยอดโชคอนันต์เป็น น้ำตาลปากกระบอก พราห์มขายเมีย มะม่วงกินสุก แล้วทำนอกฤดูให้ออกตลาดไม่ตรงกับทุเรียน
สมช. : แล้วเมื่อไหร่จะได้กินล่ะลุง
ลุงคิม : อืมมม ไม่นานหรอกนะ ช่วงแรกๆก็กินโชคอนันต์ไปก่อน อีกซักปีสองปีอ้ัยที่เสียบยอดก็จะออกลูกมาให้เอง แล้วก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ถ้าไม่เริ่มวันนี้โอกาสที่จะได้ของใหม่มันก็ห่างไปเรื่อยๆ วันนี้ยังไม่เป็นโรค ติดบ้าน-ติดเตียง ก็จงทำเถอะ ทำเองหรือจ้างก็ว่าไป
สมช. : เอางั้นนะลุง
ลุงคิม : ไม่รู้ อะไรที่มันไม่ ซูพรีม-พรีเมียม นอกจากไม่มีราคาแล้วยังขายไม่ออกอีกด้วย
สมช. : ใชค่ะลุง
ลุงคิม : ตกลงจะทำยังไง
สมช. : ต้องไปถามที่บ้านก่อนค่ะ
ลุงคิม : ดี อะไรจะเหนือกว่าผัวน่ะไม่มีแล้ว
------------------------------------------------------------------------------
18. ฟักเขียว แซมมะเขือ พริก :
สมช. : ลุง ฟักเขียว มะเขือ พริก ปลูกแซมกันได้ไหม ?...
ลุงคิม : เฮ่ยยยย ไม่ได้ ผู้ใหญ่จับ กำนันด่า
สมช. : (หัวเราะ) แล้ว อบต.ไม่ว่าเหรอ ?
ลุงคิม : (นี่คือผู้ฟังรายการวิทยุชัดเจน เพราะพูดในรายการบ่อยๆ กำนันไม่ว่า อบต.ไม่จับ) ไม่แน่
สมช. : ทำไม เราเก่งเกินเหรอ ?
ลุงคิม : ก็นั่นน่ะซี ทำอะไรนอกตำรา
สมช. : เชอะะะะ ก็เพราะในตำรานั่นแหละ หนี้สินถึงได้เต็มบ้านเต็มเมืองยังงี้ไงล่ะ
ลุงคิม : เอ้า เข้าเรื่อง ปัญหาอยู่ตรงไหน ?
สมช. : อยากถามว่า จะปลูกฟักเขียวบนค้าง แล้วปลูกพริกกับมะเขือไต้ค้าง จะได้ไหม ?
ลุงคิม : โถๆ ๆ ๆ แม่เจ้าประคุณลุนช่อง.... ด้ายยยย เอางี้ ปล่อยให้ฟักเลื้อยไปบนค้างแล้ว ไปเรื่อยๆ แล้วริดใบฟักออกบ้าง ซักใบเว้นใบ หรือใบเว้นสองใบ เพื่อให้มีแสงแดดพอส่องลงมาให้มะเขือกับพริกบ้าง
สมช. : แล้วบำรุงล่ะ ?
ลุงคิม : ตอนนี้บำรุงยังไงอยู่ก่อน ทางใบ ทางราก ?
สมช. : ใช้ปุ๋ยลุง ทุกสูตร ซื้อไปจากลุงชาตรีนี่แหละ
ลุงคิม : วันนี้อายุต้นแค่ไหนแล้ว ?
สมช. : ทุกอย่างเริ่มออกดอกแล้ว
ลุงคิม : เอาละ ทำค้างแล้วอัญเชิญฟักเลื้อยขึ้นค้างไปเลย ส่วนมะเขือกับพริกก็ปล่อยให้อยู่ไต้ค้างนั่นแหละ
สมช. : ได้นะลุง
ลุงคิม : ไม่รู้ อยากรู้แกก็ถามมะเขือถามพริกเอาซี่....เอาน่า ไม่ลองไม่รู้ สงสัยมากๆก็ถามไปที่ เด่น ดอกประดู่
สมช. : ขอบคุณค่ะลุง
------------------------------------------------------------------------------
19. เกษตร ผสม ผเส ปนเป สะเปะสะปะ :
สมช. : (ได้ฟัง สมช.ปรึกษาเรื่อง ฟักแซมมะเขือ พริก มาตลอด ช่วยยืนยัน) ฉันว่าได้นะลุง มะเขือกับพริกอยู่ไต้ค้างฟักเขียว ของฉันก็ทำอยู่
ลุงคิม : งั้นนะ
สมช. : ใช่ลุง ของฉันทำค้างฟัก ค้างถั่วฝักยาว เป็นแบบแผงทางตั้ง แผ่นเดียว เอาไม้ปักเป็นเสา ระยะห่างระหว่างเสา 3 ม. เอาตาข่ายขึงระหว่างเสาสำหรับให้เถาฟัก เถาถั่วเลื้อยขึ้นไป ค้างแบบนี้ไม่มีหลังคา แล้วก็ยาวตามแนวแสงอาทิตย์ มันก็จะไม่ไปบังแสงแดดพืชอื่น
ลุงคิม : (มองหน้า สมช.คนปลูกฟักแซมมะเขือ พริก) แล้วพืชอื่นล่ะ
สมช. : ฉันนะทำเกษตรผสมผสานผสมผเสปนเปสะเปะสะปะ นึกจะปลูกอะไรตรงไหนก็ปลูก ปลูกทุกอย่างที่กินได้
ลุงคิม : อะไรบ้าง บอกชื่อซิ
สมช. : ประเภทเถาเลื้อยมี ฟักเขียว ถั่วฝักยาว ถั่วพู ประเภทต้นมีพริกขี้หนูหอม พริกขี้หนูยอดสน พริกชี้ฟ้าเขียว พริกชี้ฟ้าเหลือง มะเขือเปราะ มะเขือพวง มะเขือยาว ทุกอย่างที่กินได้นั่นแหละลุง
ลุงคิม : เนื้อที่กี่ไร่ ?
สมช. : 3 ไร่เองลุง
ลุงคิม : บำรุงยังไง ?
สมช. : ก็สูตรสหประชาชาติของลุง ซื้อจากลุงชาตรี เดือนครั้ง อย่างละลิตร ยาฆ่าแมลงยาเคมีฉันเลิกใช้มานานแล้ว ใช้สารสะเดา พริกแกง สาบเสือ สบู่ต้น ทุกอย่างที่ขึ้นรอบบ้านนั่นแหละลุง
ลุงคิม : สมุนไพร....อันนี้ต้องฉีดบ่อยๆนะ
สมช. : ทุกวัน วันละครั้ง ไปกับน้ำไปกับปุ๋ย
ลุงคิม : เอาเครื่องมืออะไรฉีดพ่น ?
สมช. : สปริงเกอร์ซี่ลุง ฉันน่ะ ลูกศิษย์ลุงตั้งแต่รุ่นแรกๆเลย
ลุงคิม : ยังงั้นเหรอ .... วันนี้รายได้ตรงนี้ซักเท่าไหร่ ?
สมช. : ทำกันสองคนผัวเมีย ไม่เคยจ้างแรงงาน บางส่วนส่งแม่ค้า บางส่วนเอาไปขายเองที่ตลาดนัดจร รายได้จริงๆ ก็ประมาณ 1,000 ถึง 3,000 ต่อวันแหละลุง
ลุงคิม : ต่อวัน ๆ ๆ ๆ
-------------------------------------------------------------------------------
20. เพลี้ยนาข้าว :
สมช. : ผู้พันครับ เพลี้ยลงนาข้าว เอาอะไรจัดการดีครับ ?
ลุงคิม : เพลี้ย ๆ ๆ .... เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ เพลี้ยกระโดด เพลี้ยกระสอบ .... ตกลงเพลี้ยไหน ?
สมช. : เพลี้ยกระโดดซิครับ เพลี้ยอื่นไม่ลงนาข้าวหรอก
ลุงคิม : แน่ใจ๋ .... เพลี้ยไฟอาจจะลงก็ได้ ส่วนเพลี้ยกระสอบก็มีข่าวอยู่บ่อยๆไม่ใช่เหรอ....
เอาว่า สำหรับนาข้าว เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ชื่อเต็มๆ ไอ้พวกนี้แมลงปากกัดปากดูด ถ้ามันดูดกินสารออกฤทธิ์ประเภทเบื่อเมาเข้าไปมันก็ตาย เรียกว่า ยาน็อค ฆ่าโดยตรง แต่ถ้าเป็นสารสมุนไพรประเภท ยาไล่ ก็ใช้สมุนไพรประเภทกลิ่น....
มาตรการอย่างอื่นก็น่าจะใช้นะ .... บำรุงต้นด้วยแม็กเนเซียม ช่วยให้ผนังเซลล์แข็ง แมลงประเภทปากกัดปากดูดไม่เอาด้วย....
ใช้ กับดักสีเหลือง-กาวเหนียว สำหรับกลางวัน คู่กับใช้ กับดักกาวเหนียวตัวเดิม-หลอดไฟ สำหรับกลางคืน
ติดหลอดไฟในสระน้ำ ล่อเพลี้ยให้ไปเล่นแสงไฟ แล้วตกลงน้ำเป็นอาหารปลาได้ ว่าแต่ว่า ณ วันนี้ เพลี้ยที่ว่าลงหรือยัง ?
สมช. : เริ่มลงแล้วครับ
ลุงคิม : อาจจะช้าไปต๋อยนะ .... มันต้องป้องกันแต่แรก ก่อนที่มันจะมา ศัตรูข้าวมีตั้งหลายตัว ตัวนี้ไม่มาเดี๋ยวตัวนั้นก็มา วันนี้ยังไม่มาก็คือยังไม่มา แต่ถ้ามันมากว่าเราจะรู้ก็สูญเสียข้าวไปแล้ว การเอาสารเคมีไปฉีดพ่นฆ่าเพลี้ยกระโดดได้ก็จริง แต่ต้นข้าวเสียหายไปแล้ว แล้วเราได้อะไร ก็ได้แค่ความสะใจไง สะใจที่ฆ่าเพลี้ยได้
สมช. : (ยิ้มเจื่อนๆ เหมือนเคยได้ยินเรื่องนี้ทางวิทยุ แล้วตอบเสียงแผ่วๆ จนคนข้างๆมองหน้า) ....ครับ
ลุงคิม : วันนี้ลุย เอา สารเคมี + สารสมุนไพร + ไบโออิ จะทำเองหรือซื้อก็เลือกเอา ฉีดพ่นโชกๆ 2 รอบ วันเว้นวัน แล้วค่อยว่ากันใหม่
สมช. : สารเคมีใช้ตัวไหนดีครับ ?
ลุงคิม : อืมมม อันนี้บอกตามตรงนะ ไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ
สมช. 5-10 คน ล้อมฟัง ถาม-ตอบ ปัญหา พลันเกิดอาการร่วมด้วยช่วยกันเป็นจิตรอาสาขึ้นมา
สมช.จิตรอาสา 1. : ขนาดข้าวพันธุ์ต้านทาน ยังทานไม่ไหว สู้เพลี้ยไม่ได้ซักพันธุ์
สมช.จิตรอาสา 2. : อ.ดีพร้อมฯ บอกว่า ให้ซิลิก้า ช่วยทำให้ต้นข้าวแข็ง แมลงกัดฟันหักเลย
สมช.จิตรอาสา 3. : วันนี้กำจัดเพลี้ยกระโดดได้ แล้วเชื่อได้ไงว่าจะไม่มีศัตรูพืชตัวอื่นมาอีก
สมช.จิตรอาสา 4. : ทำนาดำ ดำห่างๆ บำรุงความสมบูรณ์ให้ต้นมีภูมิต้านทานสูงๆ
สมช.จิตรอาสา 5. : เลิกยูเรีย ลดปุ๋ยทางดิน เพิ่มปุ๋ยทางใบ
สมช.จิตรอาสา 6. : ซิลิก้า.ที่ อ.ดีพร้อมบอกก็คือฟาง ไถกลบฟางไง
สมช. : (เหลียวหน้ามอง สมช.จิตรอาสา ทีละคนๆ แล้วรับปากเบา) ครับ ....
-------------------------------------------------------------------------------
21. ไม่มีเน็ต โฆษณาเน็ตยังไง ? :
สมช. : ลุงคะ ที่บ้านไม่มีอินเตอร์เน็ต อยากส่งรูปไปลงเน็ตลุงคิม จะทำยังไง ?
ลุงคิม : อืมมม ใช้มือถือถ่ายรูปเป็นไหม ?
สมช. : ก็ไม่เป็นอีก
ลุงคิม : ลูกทำเป็นไหม ?
สมช. : คงเป็นมั้ง.
ลุงคิม : ไม่ต้องมั้งหรอก เด็กสมัยนี้เก่ง ให้ลูกใช้มือถือถ่ายรูป จัดมุมถ่ายดีๆ แล้วใช้มือถืออันนั้นส่งไปที่มือถือลูกสาวลุงคิม น้ำส้ม (085) 055-7706 เสร็จแล้วลุงคิมจะจัดการในเน็ตเอง
สมช. : ไม่ยากนะลุง
ลุงคิม : บอกแล้วไง อะไรที่ทำเป็นแล้วก็ไม่ยาก แต่ถ้าทำไม่เป็นมันก็ยาก เป็นธรรมดา
---------------------------------------------------------------------------------
22. ระบบกรอง RKK :
สมช. : ลุง กรองสปริงเกอร์ที่ไร่กล้อมแกล้ม ทำยังไงน่ะ ?
ลุงคิม : อยากรู้ไปทำไม จะทำขายเหรอ ?
สมช. : ทำใช้นี่แหละ ตอนนี้ปั๊มพังไป 2 ตัวแล้ว มันดูดผักปอดเข้าไปทั้งกอเลย
ลุงคิม : อื้อฮือ อาการหนักน่ะเนี่ย สปริงเกอร์ไร่กล้อมแกล้ม ที่ปั๊ม อย่างมากก็แค่เศษหญ้าแห้งเข้าไปขวางลิ้นเชควาวล์ในกะโหลก เราก็ปล่อยน้ำจากถังปุ๋ยที่ปั๊มให้ย้อนกลับไปที่กะโหลกก็ล้างเศษหญ้าแห้งนี้ออกได้ กับที่หัวสปริงเกอร์ ตัวหัวสปริงเกอร์ไม่มีปัญหา แต่ที่หม้อปุ๋ยเคยมีจิ้งจก จิ้งจกเป็นๆทั้งตัวเข้าไปในหม้อปุ๋ยแล้วออกไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ยาก แค่เปิดช่องระบายน้ำออกจากก้นหม้อปุ๋ย จิ้งจกก็ออกมาเอง ...
กรณีของคุณ ปัญหาที่ปั๊ม หรือที่หัวสปริงเกอร์ล่ะ ?
สมช. : ทั้งสองอย่างเลยลุง
ลุงคิม : ก็ป้องกันอย่าให้ไอ้ตัวที่ทำให้ตันเข้าไปซี่
สมช. : รู้แล้ว แล้วทำยังไงล่ะลุง
ลุงคิม : ที่ปั๊ม ในน้ำมีหัวกะโหลกไหม ?
สมช. : มี
ลุงคิม : วิธีวางท่อ ทำแบบขึงหัวขึงท้ายไหม ?
สมช. : ขึง ก็ไปดูที่ไร่กล้อมแกล้ม แล้วทำตามนั้นเป๊ะเลย
ลุงคิม : อืมมม เอาละ ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ใช่มีให้กลุ้ม....
เอาที่ปั๊มก่อนนะ ในน้ำมีกะโหลก ใช้เข่งพลาสติกใหญ่ๆ ยิ่งใหญ่ยิ่งดี หุ้มด้วยตาข่ายไนล่อน 1 หรือ 2 ชั้น สวมหัวกะโลกไว้ ผูกรัดให้แน่น มั่นคง กับมีไม้ลอยน้ำคอยกั้นกันผักปอดให้ออกห่างจากกะโหลก ห่างมากๆ ยิ่งมากยิ่งดี เท่าที่แหล่งน้ำบ้านเราจะทำได้ อันนี้ป้องกันเศษซากผักปอดเข้ากะโหลกโดยเฉพาะ
คราวนี้ไปที่หัวสปริงเกอร์ ต้องเริ่มจากระบบวางท่อก่อน วางท่อแบบขึงหัวขึงท้าย การวางท่อแบบนี้ชาวสวนบอกว่าเปลือง แต่ไม่รู้หรอกว่ามันทำให้น้ำไหลแรงขึ้นเท่าตัว น้ำออกหัวสปริงเกอร์เท่ากันทุกหัวตั้งแต่หัวแรกยันหัวท้าย ไม่ใช่หัวแรกแรง หัวกลางออกกลาง หัวท้ายออกค่อย ระบบน้ำไหลวนทั่วทั้งโซน ล้างท่อได้ ปล่อยปุ๋ย-ปล่อยยา ไปทางสปริงเกอร์ได้
สมช. : วางท่อแบบน้ำวน มันช่วยล้างท่อได้ยังไงคะลุง?
ลุงคิม : ล้างได้ พอเราเปิดวาวล์ น้ำออกที่หัวสปริงเกอร์แล้ว ให้ถอดเสาท่อตั้งที่ติดหัวสปริงเกอร์ อันไหนก็ได้ในโซน น้ำจากปั๊มจะดันออกที่โคนเสาตั้งตรงนั้น พุ่งกระจายเลย น้ำแรงมากเท่าที่ปั๊มมีกำลัง
นี่คือผลจากการวางท่อแบบขึงหัวขึงท้าย น้ำในโซนทั้งโซนมันจึงวนมาออกตรงนี้จุดเดียว
สังเกตน้ำที่ออกมา ถ้ามีสิ่งสกปรกภายในท่อ น้ำที่ออกมาจะขุ่น ขุ่นครั่ก ขุ่นมากหรือน้อยก็ว่าไป ปล่อยให้น้ำพุ่งพ่นออกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำนั้นใส ใสแจ๋วก็แสดงว่าสิ่งสกปรกในท่อออกมาหมดแล้ว
จากนั้นก็ให้สวมเสาท่อตั้งติดหัวสปริงเกอร์เข้าที่เดิม น้ำที่ออกหัวสปริงเกอร์ที่ลดลงก็จะแรงเหมือนเดิม
สมช. : ไม่ยากนี่ลุง
ลุงคิม : อะไรที่ทำเป็นจะไม่ยาก แต่อะไรที่ทำไม่เป็นมันก็ยากเป็นธรรมดา...
------------------------------------------------------------------------------
23. นักทำลายวัตถุระเบิด :
รู้ว่าเป็น ตชด. ไม่ถามชื่อ ไม่ถามยศ ไม่ถามหน่วย ไม่ถามโทร. แต่คุยกันรู้เรื่องถูกคอ เพราะ....
เขาคือ EOD (EXPLOSIVE ORDNDNCE DISPOSAL) หน่วยทำลายวัตถุระเบิด
ทำเนียบหน่วย (EOD) ในประเทศไทย :
http://hdothailand.blogspot.com/p/1.html
8 หลักสูตรรบพิเศษ
http://www.mayahol.com/8-หลักสูตรรบพิเศษ-4-เหล่าท/
ลุงคิม : คุณมาซื้อปุ๋ย คุณทำเกษตรอะไร ?
EOD : ผมไม่ได้ทำหรอกครับ ผมมาซื้อไปให้พี่ชายน่ะครับ
ลุงคิม : ได้ผลเหรอ ?
EOD : ยืนยันครับ ใช้มา 3 ปี ต้นทุนต่ำ ผลผลิต ปริมาณ-คุณภาพ O.K. ครับ
-----------------------------------------------------------------------------
.
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 03/09/2018 11:41 am, แก้ไขทั้งหมด 30 ครั้ง |
|