-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 23 ก.พ. *ฮอร์โมนธรรมชาติ ฮอร์โมนเขียว
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 24 ก.พ. * ทำจุลินทรีย์ อีแอบ/ธรรมชาติ
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 24 ก.พ. * ทำจุลินทรีย์ อีแอบ/ธรรมชาติ

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11571

ตอบตอบ: 23/02/2022 5:04 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 24 ก.พ. * ทำจุลินทรีย์ อีแอบ/ธรร ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 24 ก.พ.
AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
***********************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า

ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

ผู้สนับสนุนรายการ :
***

งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ..... ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ... ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ... ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม(ขาล่อง) แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ...... ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก
* เดือนที่มี 5 เสาร์ เสาร์ที่ 5 ของเดือน .... ไปวัดทุ่งสะเดา แปลงยาว ฉะเชิงเทรา

** ถึงจุดนี้ เกษตรกรที่ไหนอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด

- งานสีสันสัญจรวันเสาร์ วันที่ 26 ก.พ. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก กาญจนาภิเษก....


* ส.ค.ส. ต้อนรับปีใหม่ ....
ขาย !
..... ซื้อปุ๋ยไซส์ใหญ่ขนาด 5 ล. แถม ไซส์เล็ก 1 ลิตร ...
ขาย ! ....ซื้อหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ 1 เล่ม แถม ไม้ผลแนวหน้า 1 เล่ม....เทศกาลปีใหม่ ของขวัญที่คนรับภูมิใจ ได้ไปแล้วเก็บไว้นาน นานจนชั่วชีวิตก็ว่าได้ นั่นคือ หนังสือ ที่หน้าปกหนังสือเขียนลายเซ็นคนให้ไว้ คนที่ได้รับ ทุกครั้งที่หยิบหนังสือขึ้นมาเห็นลายเซ็นต์ จะยิ้ม ภูมิใจ แน่นอน

โชว์ ! .... หม้อปุ๋ยหน้าโซน
แจก ! .... กับดักแมลงวันทอง
แจก ! .... ปฏิทินรูปพระ ขนาดใหญ่ติดผนัง 6 แผ่น 12 เดือน


*********************************************************
*********************************************************


จาก : (082) 471-98xx
ข้อความ : ขอวิธีทำจุลินทรีย์อีแอบ

จาก : (094) 516-72xx
ข้อความ : ขอวิธีทำจุลินทรีย์ธรรมชาติ

จาก : (067) 617-62xx
ข้อความ : คุณตาผู้พัน ขอข้อมูลเรื่องจุลินทรีย์การเกษตรค่ะ เอาไปเขียนรายงานส่งครูค่ะ
ตอบ : -

เกร็ดความรู้เรื่อง "จุลินทรีย์" เพื่อการเกษตร :

1. จุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิตแต่ไม่ใช่สัตว์หรือพืช เรียกว่า "สัตว์เซลล์เดียว" อาศัยอยู่ในแหล่งที่มีความชื้นตั้งแต่ระดับความชื้น 1-100 เปอร์เซ็นต์ .... องค์การนาซาได้รายงานว่าพบจุลินทรีย์ในก้อนเมฆ และรายการ ทีวี.ดิสคัฟเวอรี่ แชลแนล ได้ให้ข้อมูลว่า ดิน 1 ลบ.ซม.มีจุลินทรีย์อาศัยอยู่ถึง 78 ล้านตัว

2. จุลินทรีย์เพื่อการเกษตร หมายถึง จุลินทรีย์ประเภทมีประโยชน์ต่อพืชและสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรกรรมโดยเฉพาะ

3. จุลินทรีย์เพื่อการเกษตรเกี่ยวกับพืชโดยมีหน้าที่อนุรักษ์ดิน น้ำ สภาพแวดล้อม ผลิตและจัดการธาตุอาหาร กำจัดจุลินทรีย์เชื้อโรคและอื่นๆ ที่เป็นการส่งเสริมให้พืชเจริญเติบโตดี และสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ดีภายใต้ความชื้น 25-50 เปอร์เซ็นต์

4. จุลินทรีย์ขยายพันธุ์โดยการแบ่งตัวเองแบบทวีคูณ เช่น 1 ตัวเมื่อโตเต็มที่จะแบ่งตัวเองออกเป็น 2 ตัว และ 2 ตัวเมื่อโตเต็มที่ก็จะแบ่งตัวเองออกเป็น 4 ตัว หรือจุลินทรีย์ 1 แสนตัวเมื่อโตเต็มที่ต่างก็แบ่งตัวเองกลายเป็น 2 แสนตัว เป็นต้น

5. จุลินทรีย์เพื่อการเกษตรแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ แบคทีเรีย. ไวรัส. ยีสต์. และรา. ซึ่งกลุ่มใหญ่ๆ เหล่านี้แยกออกเป็นประเภทต่างๆ อีกหลายประเภท เช่น

- ประเภทที่มีประโยชน์ (ฝ่ายธรรมะ) มีประสิทธิภาพในการสร้างและส่งเสริมปัจจัยพื้นฐานด้านการเกษตร (ดิน-น้ำ-อุณหภูมิ-สายพันธุ์-โรค) ให้พืชเจริญเติบโต

- ประเภทที่ไม่มีประโยชน์หรือเชื้อโรค (ฝ่ายอธรรม) มีประสิทธิภาพในการทำลายปัจจัยพื้นฐานด้านการเกษตร ทำให้พืชไม่เจริญเติบโตหรือตาย

- ประเภทไม่ต้องการอากาศ ชอบและอยู่ในดินลึกที่อากาศลงไปถึงได้น้อยหรือไม่มีอากาศเลย แต่ยังเป็นจุลินทรีย์ประเภทมีประโยชน์ต่อพืช มีพลังในการย่อยสลายเหนือกว่าจุลินทรีย์ประเภทต้องการอากาศ

- ประเภทต้องการอากาศ ชอบและอยู่บริเวณผิวหน้าดินที่อากาศผ่านหรือถ่ายเทสะดวก
- ประเภทต้องการความชื้นน้อย เจริญเติบโต ขยายพันธุ์ได้ดีภายใต้สภาพความชื้นน้อยๆ หรือแห้งแล้ง
- ประเภทต้องการความชื้นมาก เจริญเติบโตได้ภายใต้สภาพความชื้นที่เหมาะสม เช่น ชื้นพอดี ชื้นแฉะ น้ำขังค้าง

- ประเภทเกิดได้เร็ว เกิดและขยายพันธุ์ได้ในถังหมักหรือสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมภายใน 3-10 วัน
- ประเภทเกิดได้ช้า เกิดและขยายพันธุ์ได้ในถังหมักหรือสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต้องใช้ระยะเวลานานนับเดือนหรือหลายๆ เดือนทั้งจุลินทรีย์ประเภทเกิดได้เร็วและเกิดได้ช้า ถ้าเป็นจุลินทรีย์ฝ่ายธรรมะย่อมมีประโยชน์ต่อพืชเหมือนๆ กันดังนั้นการใช้จุลินทรีย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึงควรใช้ทั้งจุลินทรีย์ประเภทหมักใหม่และหมักนานแล้วร่วมกัน

6. จุลินทรีย์ในปุ๋ยอินทรีย์แห้งที่ได้จากการหมักอินทรีย์วัตถุ (ซากพืชและสัตว์) จะเจริญเติบโต สมบูรณ์ แข็งแรง ขยายพันธุ์ และมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงที่อินทรีย์วัตถุเริ่มสลายตัวและอุณหภูมิในกองเริ่มเย็นลง

7. จุลินทรีย์ในปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ได้จากการหมักอินทรีย์วัตถุ (ซากพืชและสัตว์) จะเจริญเติบโต สมบูรณ์ แข็งแรง ขยายพันธุ์ และมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อกระบวนการหมักหมดฟองใหม่ๆ

8. การใช้จุลินทรีย์เพื่อการเกษตรที่เกี่ยวกับพืชให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควรใช้ "ปุ๋ยอินทรีย์แห้ง" หรือ "ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ" ที่หมักนานข้ามปีแล้วกับที่หมักใช้การได้ใหม่ๆ ผสมกัน 1:1 จะได้ทั้งจุลินทรีย์ประเภทเกิดเร็วและประเภทเกิดช้า

9. อาหารที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ คือ "รำละเอียด" และ "สารรสหวาน" เช่น กากน้ำตาล น้ำตาลในครัว น้ำหวานในเครื่องดื่มต่างๆในอัตราที่เหมาะสม ปริมาณของสารรสหวานมีผลต่อการเจริญพัฒนาของจุลินทรีย์ทั้งสองชนิด กล่าวคือ

- สารรสหวานปริมาณมากเกินจะยับยั้งการเจริญพัฒนาของจุลินทรีย์ทั้งจุลินทรีย์ดีและจุลินทรีย์โทษ
-สารรสหวานปริมาณที่น้อยเกินไปจะยับยั้งการเจริญพัฒนาของจุลินทรีย์ดีและส่งเสริมการเจริญพัฒนาของจุลินทรีย์โทษ

- สารรสหวานปริมาณที่พอดีจะส่งเสริมการเจริญพัฒนาของจุลินทรีย์ดี และยับยั้งการเจริญพัฒนาของจุลินทรีย์โทษ

10. จุลินทรีย์ในถังหมักจะเจริญเติบโต สมบูรณ์ แข็งแรง และขยายพันธุ์ได้ดีมากภายใต้อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส มีอากาศหมุนเวียน มีสารอาหาร และค่ากรด-ด่างที่เหมาะสมสำหรับชนิดของจุลินทรีย์

11. จุลินทรีย์เพื่อการเกษตรที่ดีที่สุด คือ "จุลินทรีย์ธรรมชาติ" หรือ "จุลินทรีย์ประจำถิ่น" ซึ่งมีอยู่ในแปลงเกษตรนั้นๆ เป็นจุลินทรีย์ที่อยู่มานานแล้วและจะคงอยู่ที่นั่นต่อไปตราบเท่าที่สภาพแวดล้อมต่างๆ เหมาะสม

12. ฯลฯ

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=1848




อ้างอิง : หนังสือ "หัวใจเกษตรไท มินิ" (500 หน้า)

เกร็ดความรู้เรื่องจุลินทรีย์ :

จุลินทรีย์เพื่อการเกษตรแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ แบคทีเรีย. ไวรัส. ยีสต์. และรา. ซึ่งกลุ่มใหญ่ๆ เหล่านี้แยกออกเป็นประเภทต่างๆ อีกหลายประเภท เช่น

- ประเภทที่มีประโยชน์ (ฝ่ายธรรมะ) มีประสิทธิภาพในการสร้างและส่งเสริมปัจจัยพื้นฐานด้านการเกษตร (ดิน-น้ำ-อุณหภูมิ-สายพันธุ์-โรค) ให้พืชเจริญเติบโต

- ประเภทที่ไม่มีประโยชน์หรือเชื้อโรค (ฝ่ายอธรรม) มีประสิทธิภาพในการทำลายปัจจัยพื้นฐานด้านการเกษตร ทำให้พืชไม่เจริญเติบโตหรือตาย

- ประเภทไม่ต้องการอากาศ ชอบและอยู่ในดินลึกที่อากาศลงไปถึงได้น้อยหรือไม่มีอากาศเลย แต่ยังเป็นจุลินทรีย์ประเภทมีประโยชน์ต่อพืช มีพลังในการย่อยสลายเหนือกว่าจุลินทรีย์ประเภทต้องการอากาศ

- ประเภทต้องการอากาศ ชอบและอยู่บริเวณผิวหน้าดินที่อากาศผ่านหรือถ่ายเทสะดวก
- ประเภทต้องการความชื้นน้อย เจริญเติบโต ขยายพันธุ์ได้ดีภายใต้สภาพความชื้นน้อยๆ หรือแห้งแล้ง
- ประเภทต้องการความชื้นมาก เจริญเติบโตได้ภายใต้สภาพความชื้นที่เหมาะสม เช่น ชื้นพอดี ชื้นแฉะ น้ำขังค้าง

- ประเภทเกิดได้เร็ว เกิดและขยายพันธุ์ได้ในถังหมักหรือสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมภายใน 3-10 วัน
- ประเภทเกิดได้ช้า เกิดและขยายพันธุ์ได้ในถังหมักหรือสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต้องใช้ระยะเวลานานนับเดือนหรือหลายๆ เดือนทั้งจุลินทรีย์ประเภทเกิดได้เร็วและเกิดได้ช้า ถ้าเป็นจุลินทรีย์ฝ่ายธรรมะย่อมมีประโยชน์ต่อพืชเหมือนๆ กันดังนั้นการใช้จุลินทรีย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึงควรใช้ทั้งจุลินทรีย์ประเภทหมักใหม่และหมักนานแล้วร่วมกัน

การเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์จากป่าธรรมชาติ :
การเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์จากป่าธรรมชาติ ที่มาของจุลินทรีย์ มาจากป่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีระบบนิเวศ สภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศ ใกล้กับแปลงเกษตรของเรา (พื้นที่เดียวกัน) วิธีการเก็บจุลินทรีย์จากป่า โดยเก็บจากหน้าดินที่มีอินทรีย์วัตถุทับถม (บริเวณหน้าดินที่เรียกว่า ดินดี) หรือเก็บดินมาจากหลาย ๆ จุด เช่น จากยอดเขา กลางเขา ตีนเขา ลำธาร โค่นต้นไม้ กอไผ่ โดยเก็บดิน จำนวนรวมกันแล้วประมาณ 1- 2 กก.

วิธีการสังเกตุดินดี มือจับดูนุ่มมือ กลิ่นหอม สีดำ วัสดุเพาะจุลินทรีย์ :
1. ดินดีจากป่า 1 ส่วน
2. รำอ่อน 1 ส่วน
3. กากน้ำตาล 0.5 ส่วน
4. ใบไผ่หรือใบจามจุรีหรือฟางข้าว (อินทรีย์วัตถุที่หาง่ายในท้องถิ่นอะไรก็ได้)
5. น้ำพอประมาณ

วิธีการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ :
ขั้นที่ 1 :
นำรำอ่อนผสมคลุกเคล้าดินป่าที่เก็บมา แล้วน้าไปคลุกกับใบไผ่ หรือ จามจุรีที่เตรียมไว้(ใบไผ่) จากนั้นน้ากากน้ำตาลที่ละลายน้ำรดที่วัสดุเพาะพอหมาดความชื้นประมาณ 40% (ใช้มือกำแล้วบีบ น้ำไจะไม่ไหลออกมา) คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นนำไปบ่มไว้ในกอง หรือ กระสอบป่านทิ้งไว้ประมาณ 5 - 7 วัน แล้วน้าไปเพาะเลี้ยงขั้นที่ 2

2. ขั้นที่ 2 (ขยายปริมาณ) :
วัสดุอุปกรณ์ :

- ถังขนาด 200 ล.
- น้ำ 20 ส่วน (ประมาณ 160 ล.)
- กากน้ำตาล 1 ส่วน (ประมาณ 8 กก.)
- รำอ่อน 1 ส่วน (ประมาณ 8 กก.)
- จุลินทรีย์จากขั้นที่ 1 จำนวนทั้งหมด

วิธีการเพาะเลี้ยงขั้นที่ 2 :
- นำน้ำใส่ถัง จ้านวนประมาณ 160 ล.
- เทกากน้ำตาลลงในน้ำ ผสมละลายให้เข้ากันจนกากน้ำตาลละลายหมด
- นำจุลินทรีย์จากขั้นที่ 1 ที่ห่อด้วยมุ้งเขียวใส่ลงไปในถัง (ห่อเพื่อป้องกันการกระจัดกระจายของวัสดุในถัง)
- หลังจากนั้นโรยรำละเอียด (แกลบมุก) ลงไปในถัง (รำละเอียดจะใช้ หรือไม่ใช้ก็ได้ ถ้าเราใช้จะช่วยให้เชื้อจุลินทรีย์ขยายได้เร็วขึ้นแต่จะเปลืองค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย)

- ปิดฝาถัง ไม่ต้องปิดสนิท
- ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 วัน สังเกตจะมีกลิ่นเปรี้ยว สามารถน้าไปใช้ได้
วิธีการใช้ประโยชน์ นำไปทำปุ๋ยหมัก ใส่ในแปลงพืชผัก นา และใช้แทน อีเอ็ม (EM), พด. และจุลินทรีย์ท้องถิ่น ศูนย์เรียนรู้สถาบันพัฒนาทรัพยากรและเกษตรกรรมยั่งยืนแม่ทา 61 หมู่ที่ 5 บ.ป่านอต ต.แม่ทา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่

วิธีการเก็บตัวอย่างหัวเชื้อจากป่าธรรมชาติ :
1) เก็บตัวอย่างจากโคนไม้ที่ผุพังที่มีเชื้อราสีขาว หรือเชื้อเห็ดหอมดมกลิ่นตัวอย่างเชื้อ จะมีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นของเห็ดโคน

2) เก็บตัวอย่างจากบริเวณใบไผ่จากป่าดิบชื้นจากธรรมชาติ จะสังเกตเห็นการผุพัง และการเกิดเชื้อราฝ้าขาวจับผิวไม้ไผ่ จะมีกลิ่นหอม

3) เก็บตัวอย่างจากโคนผิวเนื้อไม้ที่มีไลเคนที่เขียวขึ้น ขูดเอาเฉพาะผิวหน้า จะมีความชื้นสูง และกลิ่นหอมคล้ายเชื้อเห็ด

4) เก็บตัวอย่างจากโคนไม้ใหญ่ที่มีรากฝอย บริเวณพูดอน ขูดเอาผิวดินบริเวณพูดอน จะมีความอุดมสมบูรณ์สูง และมีกลิ่นหอมคล้ายเชื้อเห็ด อุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บตัวอย่างจุลินทรีย์ กล่องพลาสติก ถุงพลาสติก หรืออื่น ๆ

วัสดุการเพาะเลี้ยง (สูตรการทำ) :
1) หัวเชื้อราจากป่าชนิดต่างๆ ประมาณ 1 กก.
2) ร้าละเอียด 0.5 กก.
3) ใบไผ่ที่มีอยู่ในท้องถิ่น 3 กก.
4) กากน้ำตาล 0.5 กก.

วิธีทำจุลินทรีย์แบบแห้ง :
1) น้าหัวเชื้อราจากป่าชนิดต่าง ๆ ประมาณ 1 กก.
2) น้าหัวเชื้อคลุกเคล้ากับใบไม้ไผ่ในท้องถิ่น โรยด้วยรำละเอียด
3) น้ากากน้ำตาลที่ผสมรวมกับน้ำประมาณ 10 ล. ตีกากน้ำตาลร่วมกับน้ำให้เข้า กัน รดลงน้ำบนกองไม้ไผ่
4) ให้กองจุลินทรีย์ชุ่มน้ำพอประมาณอย่าให้เปียกมาก
5) คลุมด้วยกระสอบป่านไว้ประมาณ 3-7 วัน เมื่อเปิดดูจะพบว่าเกิดเชื้อราสีขาว สี เขียว ฯลฯ
การจัดเก็บจุลินทรีย์แบบแห้งสามารถเก็บบรรจุกระสอบป่านไว้ หรือจะเก็บแบบผึ่งลม จะอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน การเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์จากป่าธรรมชาติ

วิธีทำจุลินทรีย์แบบน้ำ :
1) เอาหัวเชื้อจุลินทรีย์แบบแห้งที่เพาะเลี้ยงไว้ประมาณ 1 กก. มาห่อหุ้มด้วยถุง มุ้งเขียว
2) หากมีถังพลาสติกประมาณ 200 ล. ใส่น้ำไปประมาณ 180 ล.
3) น้ากากน้ำตาล 10 ล. เทลงไปในถังใบ้ไม้คนให้กากน้ำตาลกับน้ำให้เข้ากัน
4) ใส่ถุงหัวเชื้อราในข้อ 1 ลงไปในถังกากน้ำตาล
5) ปิดฝาถังด้วยพลาสติกมัดปากหรือฝาพลาสติกก็ได้
6) ประมาณ 3-7 วัน จะเกิดปฏิกิริยาความพุดของการเดินหัวเชื้อ หลังจากนั้นจะค่อยๆ เป็นเชื้อราสีขาว ปกคลุมทั่วทั้งถัง เมื่อเชื้อผ่านไปได้ 7 วัน สามารถนำไปใช้ได้ในการย่อยสลายฟาง

การขยายเชื้อลงปุ๋ยชีวภาพ และใส่พืชผัก ไม้ผลได้โดยตรง ศูนย์เรียนรู้สานสัมพันธ์เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง ตั้งอยู่ เลขที่ 28 หมู่ 4 บ.ดอนแก้ว ต.ดอนแก้ว อ.สารภี จ.เชียงใหม่
http://www3.oae.go.th/rdpcc/images/filesdownload/km/Knowledge/productions/1.pdf

1. จุลินทรีย์ธรรมชาติ :
หลักการและเหตุผล :

- การที่จะรู้ว่าพื้นดินหรือแหล่งปลูกพืชบริเวณใดมีจุลินทรีย์ประเภทใดได้นั้น สังเกตจากการเจริญเติบโตของต้นพืชที่ขึ้นในบริเวณนั้นหรือใกล้เคียงเป็นหลัก ถ้าต้นพืชเจริญเติบโตดีแสดงว่ามีจุลินทรีย์ประเภทมีประโยชน์ แต่ถ้าต้นพืชไม่เจริญเติบโตแสดงว่ามีจุลินทรีย์ประเภทไม่มีประโยชน์

- ประเภทของจุลินทรีย์ธรรมชาติในแหล่งธรรมชาติ
*** รากหญ้าแฝก หญ้าขน หญ้าประเภทหน้าแล้งตายหน้าฝนฟื้น มีจุลินทรีย์อะโซโตแบ็คเตอร์
*** ปมรากถั่วลิสง มีจุลินทรีย์คีโตเมียม. ไรโซเบียม. ไมโครไรซ่า.
*** รากมะกอกน้ำ มีจุลินทรีย์บาซิลลัส
*** รากกล้วย มีจุลินทรีย์แอ็คติโนมัยซิส
*** รากพืชตระกูลถั่วยืนต้น เช่น สะดา เหลียง มะขามเทศ
*** เศษใบไม้ เศษกิ่งไม้ ผุเปื่อย
*** ดินผิวดินที่ประวัติเคมีมีเห็ดธรรมชาติเกิดประจำ

วิธีขยายเชื้อจุลินทรีย์ธรรมชาติ :
- น้ำ (พีเอช 6.7-7.0) 10 ล.
- กากน้ำตาล 1 ล.
- น้ำมะพร้าว 1 ล.
- วัสดุจุลินทรีย์เริ่มต้นหลายๆอย่าง 1-2 กก.
- คนเคล้าให้เข้ากันดี
- เติมอ๊อกซิเจนตลอด 24 ชม. 7-10 วัน
- ได้ "หัวเชื้อ" พร้อมใช้งาน
- ใช้ "หัวเชื้อ 1 ล./น้ำ 500 ล." (1:500) ราดรดลงดิน หรือบนกองปุ๋ยอินทรีย์

หมายเหตุ :
การนำวัสดุที่เป็นแหล่งจุลินทรีย์ธรรมชาติ หลายๆอย่าง สับเล็ก ใส่ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์หมักในกอง ก็จะทำให้จุลินทรีย์จากแหล่งธรรมชาติที่ใส่ร่วมลงไปนั้นขยายเชื้อเพิ่มปริมาณได้

2. จุลินทรีย์ อีแอบ. :
เตรียมเชื้อจุลินทรีย์เริ่มต้น :

1. ใช้ “ปลาทะเลสดยังมีชีวิตทั้งตัวบดละเอียด 1 กก. + กากน้ำตาล 50 ซีซี. + หัวกระเทียมบดละเอียด 200-300 กรัม.” ผสมนวดให้เข้ากันดี

2. นำเนื้อปลาที่นวดดีแล้วห่อด้วยใบตองหลายๆ ชั้น รัดห่อด้วยเชือกเป็นเปราะๆ เหมือนห่อหมูยอ แล้วเก็บไว้ในตู้กับข้าว ทิ้งไว้ 7-10 วัน ช่วงอุณหภูมิอากาศปกติ หรือ 15-20 วันช่วงอุณหภูมิอากาศเย็น ได้ “ก้อนเชื้อจุลินทรีย์ อีแอบ." เข้มข้น พร้อมนำไปขยายเชื้อ

ขยายเชื้อจุลินทรีย์ :
1. เตรียมน้ำต้มเดือดจัดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ปล่อยทิ้งให้เย็น 10 ล.ในภาชนะที่ไม่ใช่โลหะ สะอาด ใส่กากน้ำตาลลงไป 1 ล. หรืออัตราส่วน 10 : 1 คนให้เข้ากันดี

2. นำก้อนเชื้อจุลินทรีย์ออกมาจากห่อ ใส่ลงไปในน้ำ ขยายเชื้อ คนเคล้าให้เข้ากันดี
3. ใส่ก้อนเชื้อจุลินทรีย์ลงไปแล้วช่วงการหมัก 24-48 ชม.แรกให้ปิดฝาสนิท อย่าให้อากาศเข้าได้ ผ่าน 24-48 ชม.ไปแล้วคลายฝาออกปิดพอหลวม ระวังอย่าให้สิ่งแปลกปลอมตกลงไป ติดปั๊มออกซิเจนเพื่อเติมอากาศให้แก่จุลินทรีย์

4. ตรวจสอบประจำวันด้วยการสังเกตฟองที่เกิดขึ้นในถังขยายเชื้อ ถ้ามีฟองผุดขึ้นมามากแสดงว่ามีจุลินทรีย์จำนวนมาก สมบูรณ์ และแข็งแรง แต่ถ้ามีฟองผุดขึ้นมาน้อยแสดงว่ามีจุลินทรีย์น้อยให้ใส่เพิ่ม “ก้อนเชื้อจุลินทรีย์” พร้อมกับเติมกากน้ำตาลอีก อัตรา ¼ ของที่ใส่ครั้งแรกกับน้ำมะพร้าวอ่อนเล็กน้อยลงไป คนเคล้าให้เข้ากันดีอีกครั้งแล้วหมักขยายเชื้อต่อไป

- หลังจากหมดฟองแล้วได้ “หัวเชื้อจุลินทรีย์ อีแอบ.เข้มข้น” ให้นำออกใช้ทันทีในวันรุ่งขึ้น
- ขั้นตอนการหมัก การตรวจสอบ และการนำออกไปใช้ ให้ปฏิบัติเหมือนขยายเชื้อจุลินทรีย์ประจำถิ่น

หมายเหตุ :
- ไม่ควรเก็บจุลินทรีย์ที่ขยายเชื้อจนเจริญดีแล้วไว้ในน้ำขยายเชื้อนานเกินไป เพราะจะทำให้จุลินทรีย์กลุ่มแรก (จุลินทรีย์ที่ต้องการ) ซึ่งเกิดก่อนต้องตายแล้วเกิดจุลินทรีย์กลุ่มใหม่ (ไม่รู้จัก) ขึ้นมาแทน ทั้งนี้จุลินทรีย์เพื่อการเกษตรส่วนใหญ่ต้องการความชื้นเพียง 30-70 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

- การควบคุมอุณหภูมิในถังขยายเชื้อหรือถังหมักให้อยู่ที่ 40 องศา ซี. อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้จุลินทรีย์เจริญและขยายพันธุ์ได้เร็วขึ้น

* ดร.สุริยา ศาสนรักกิจ. ตรวจสอบจุลินทรีย์ อีเอ็ม. ว่ามีจุลินทรีย์กลุ่มไหนบ้าง จากนั้นพยายามคัดสรรสารพัดวัสดุเพื่อนำมา เพาะ/ขยายเชื้อ จนกระทั่งพบว่าปลาทะเล. ทำให้ได้จุลินทรีย์กลุ่มเดียวกันกับ อีเอ็ม. ทันทีที่พบถึงกับอุทานว่า "แอบ" อยู่นี่เอง และนี่คือที่มาของชื่อว่า "อีแอบ" ที่ลุงคิมตั้งให้เอง

3. จุลินทรีย์ อีแอบ. ซุปเปอร์ :
เตรียมเชื้อเริ่มต้น :

ใช้ “ก้อนเชื้อจุลินทรีย์ อีแอบ.เข้มข้น” หมักนานจนพร้อมใช้งานแล้ว

การขยายเชื้อและวิธีใช้ :
- เตรียมน้ำขยายเชื้อเหมือนเดิม
- ใส่ “ก้อนเชื้อจุลินทรีย์ อีแอบ.เข้มข้น + จุลินทรีย์ท้องตลาดหรือจุลินทรีย์อื่นๆ” ลงในถังขยายเชื้อ คนเคล้าให้เข้ากันดี

- กรรมวิธีการหมักขยายเชื้อเหมือนการทำจุลินทรีย์ อีแอบ.ทุกประการ

หมายเหตุ :
- จุลินทรีย์ท้องตลาดได้แก่ ยาคูลท์ โยเกิร์ต และร้านขายสินค้าเกษตรทั่วไป
- จุลินทรีย์อื่นๆ หมายถึง พด. จุลินทรีย์หน่อกล้วย. จุลินทรีย์ประจำถิ่น. ฯลฯ ที่พร้อมใช้งานดีแล้ว ซึ่งจะทำให้ใน อีแอบ. มีจุลินทรีย์กลุ่มอื่นเพิ่มขึ้น

--------------------------------------------------------------------------------


.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©