ส้มแก้ว
ลักษณะทางธรรมชาติ
* เป็นไม้พุ่มขนาดกลางอายุยืนหลายสิบปี ปลูกได้ทุกภาค ทุกพื้นที่ และมุกฤดูกาล เจริญเติบโตได้ดีในดินดำร่วนมีอินทรีย์วัตถุมากๆ ระบายน้ำดี ไม่ทนต่อสภาพน้ำท่วมขังค้างนาน
* ต้องการแสงแดดรำไรหรือ 50 เปอร์เซ็นต์เหมือนส้มเช้งจึงควรปลูกแซมแทรกในไม้ผลขนาดใหญ่เพื่ออาศัยช่วยบังแดด
* ระบบรากตื้นหากินบริเวณผิวหน้าดิน จึงไม่ควรตัดแต่งรากหรือกระทำการใดๆ ให้กระทบกระเทือนต่อราก วิธีการพูนโคนต้นด้วยอินทรีย์วัตถุเพื่อล่อรากให้ขึ้นมาข้างบนจะช่วยให้ได้รากใหม่ที่ดีขึ้น
* เริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุต้นได้ 2-3 ปีหลังปลูก และจะให้ผลผลิตเต็มที่เมื่ออายุต้นได้ 5-7 ปี
* ปกติจะให้ผลผลิตปีละ 1 รุ่น ออกดอกช่วง พ.ย.-ธ.ค. ผลแก่เก็บเกี่ยวช่วง ต.ค.-พ.ย.ของปีรุ่งขึ้น
* เมื่อผลพัฒนาตั้งแต่ขนาดกลางจนถึงเก็บเกี่ยวให้ แคลเซียม ไนเตรท จี.เกรด (15-0-0) ทางใบ 2-3 รอบ จะช่วยยืดอายุผลให้แก่ช้ากว่าปกติได้ โดยไม่ส่งผลเสียต่อคุณภาพผลแต่อย่างใด
* ต้นที่ได้รับการบำรุงแบบให้มีสารอาหารกินตลอด 24 ชม.ต่อเนื่องหลายๆปีจะออกดอกติดผลตลอดปี หรือทุกครั้งที่แตกใบอ่อนออกมา
* ขนาดผลเล็กกว้าส้มโอแต่โตกว่าส้มเช้ง
* ช่วงผลแก่ตรงกับช่วงอากาศเย็น ผิวเปลือกจะเป็นสีเหลืองทองสวยงามมาก นิยมใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้
* ระยะผลเล็กเท่าขนาดมะนาวให้ เอ็นเอเอ. หรือ จิ๊เบอเรลลิน. อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างเพียง 1 ครั้งจะช่วยลดอาการผลแตกผลร่วงเมื่อผลโตขึ้นได้ดี
* ให้ฮอร์โมนน้ำดำ กับ แคลเซียม โบรอน เดือนละ 1 ครั้ง จะช่วยบำรุงให้ต้นสมบูรณ์ ให้ผลดกคุณภาพดี รสชาติดี สีจัด
* ให้ธาตุรอง/ธาตุเสริม เดือนละ 1 ครั้ง ช่วยบำรุงให้คุณภาพดี กากน้อย รกน้อย เปลือกบาง
* การห่อผลด้วยใบตองแห้ง (กระโปรง) ตั้งแต่ขนาดเท่ามะนาว นอกจากช่วยรักษาสีผิวให้สวยแล้วยังทำให้คุณภาพดีอีกด้วย
* สวนยกร่องน้ำหล่อทำให้ต้นได้รับไนโตรเจนจากน้ำตลอดเวลาจึงทำส้มแก้วออกเปรี้ยวถึงเปี้ยวจัด วิธีแก้ไข คือ ก่อนเก็บเกี่ยว 15-30 วัน ต้องปรับปริมาณน้ำใต้ดินโคนต้นโดยงดน้ำเด็ดขาดพร้อมกับบำรุงเร่งหวานทั้งทางรากและทางใบ
* สวนพื้นราบยกร่องแห้งลาดไหล่เขาที่สามารถควบคุมปริมาณน้ำได้แน่นอน จะให้ได้รสชาติดีมาก
* อายุต้น 2-5 ปีแรกที่เริ่มให้ผลผลิตอาจจะไม่ดีนัก แต่เมื่อต้นอายุมากขึ้หนรือเป็นต้นสาวแล้วจะให้ผลผลิตดี
* ลำต้นเปล้าเดี่ยวๆหรือกิ่งง่ามแรกสูงจากพื้น 50-80 ซม.จะให้ผลผลิตดีกว่าต้นที่ลำเปล้าสั้นหรือกิ่งง่ามแรกอยู่ต่ำ แนะนำให้ตัดแต่งกิ่งจัดรูปทรงพุ่มให้มีลำเปล้าสูงๆตั้งแต่ต้นเริ่มให้ผลผลิตปีแรกๆ รูปทรงต้นก็อยู่อย่างนั้นตลอดไป
สายพันธุ์
ส้มแก้ว : ทรงผลกลมแป้น ผิวเรียบ สีเหลืองทอง รสหวานอมเปรี้ยว
ส้มจุก : ทรงผลกลมมีจุก ผิวขรุขระเล็กน้อย สีเหลืองสดน้อยกว่าส้มแก้ว รสหวานสนิท
ส้มเกลี้ยง
เป็นไม้เมืองร้อนตระกูลส้มชนิดหนึ่ง มีชื่อสามัญว่า Sweet Orange มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Citrus senesis L. Osbeck เป็นผลไม้ที่ขึ้นได้ดีบริเวณพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่มากนัก[1] ถิ่นกำเนิดเข้าใจว่าอยู่บริเวณทางตอนใต้ของประเทศจีนต่อมาได้แพร่กระจายไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก ทวีปยุโรปและหมู่เกาะอินเดียตะวันตก สำหรับในประเทศไทยเชื่อกันว่าเริ่มนำเข้ามาปลูกในสมัยกรุงศรีอยุธยาหรือสมัยกรุงธนบุรีเพราะประเทศไทยขณะนั้นมีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศจีน โดยเฉพาะทางด้านการค้า ทำให้ คนจีนเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมากและได้ตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยเมื่ออาศัยอยู่ในประเทศไทยในฐานะประชาชนไทยคนหนึ่งที่ไม่ได้ละเลยประเพณีความเชื่อในศาสนาที่ตนเอง นับถือ สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยสิ่งของที่ใช้ประกอบในพิธีกรรมอย่างหนึ่ง คือ ส้ม ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลตรุษจีนหรือสารทจีน เป็นต้น จึงได้มีการนำต้นพันธ์เข้ามาปลูกในประเทศไทย ซึ่งประเทศจีนทางตอนล่างโดยเฉพาะในเขต มณฑลกวางตุ้ง มีลักษณะภูมิอากาศใกล้เคียงกับประเทศไทย สามารถปลูกส้มได้ดีเช่นกัน
การนำส้มเกลี้ยงมาปลูกในอำเภอเถินในระยะแรกเป็นพวกชาวจีนที่ประกอบอาชีพค้าขายแต่ดั้งเดิม ต่อมาประกอบอาชีพทำสวนควบคู่ด้วย ซึ่งส้มเกลี้ยงเป็นผลไม้ประเภทหนึ่งที่นิยมปลูก โดยการนำเอาเมล็ด หรือกิ่งตอนมาจากจังหวัดนครสวรรค์โดยทางเรือ อำเภอเถินในอดีต การติดต่อคมนาคมค่อนข้างลำบากเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบแคบๆ ติดต่อกับภายนอกค่อนข้างลำบากไม่เหมือนปัจจุบัน ผลไม้ต่างถิ่นที่นำมาบริโภคและใช้ในการทำบุญมีน้อย กอปรกับส้มเกลี้ยงเป็นไม้ผลที่ออกดอก ออกผล แต่ละครั้งบ่อยมาก เก็บรักษาไว้ได้นานและให้ผลผลิตช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ทำบุญสลากภัต ในแต่ละหมู่บ้านหรือต่างตำบลในเขตอำเภอเดียวกันมีประเพณีทานสลากภัตไม่พร้อมกัน เมื่อหมู่บ้านใดมีงานบุญดังกล่าว ญาติพี่น้องหรือคนรู้จักคุ้นเคยกันจะช่วยเตรียมข้าวปลาอาหาร เครื่องไทยทานต่างๆ และผลไม้ที่นิยมนำไปร่วมทำบุญคือ ส้มเกลี้ยง เพื่อใส่ในก๋วยสลากที่จะต้องนำไปทำบุญที่วัด ด้วยเหตุผลที่ส้มเกลี้ยงมีขนาดพอดีไม่ใหญ่หรือไม่เล็กเกินไป ไม่ช้ำเสียง่าย จึงเป็นที่นิยมใช้ทำบุญในงานพิธีดังกล่าว จากสาเหตุนี้จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผู้คนอำเภอเถินในอดีตนิยมปลูกส้มเกลี้ยงกันเกือบแทบทุกบ้าน
พื้นที่ที่นิยมปลูกเป็นบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำวังอันอุดมสมบูรณ์ อำเภอเถินปรากฏแหล่งที่เคยปลูกและปัจจุบันยังคงปลูก โดยส่วนใหญ่จะเป็นเขตพื้นที่ตำบลที่มีแม่น้ำวังไหลผ่าน ได้แก่ ตำบลเถินบุรี ตำบลล้อมแรด ตำบลแม่ปะ และตำบลแม่ถอด
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ส้มเกลี้ยงเป็นผลไม้ที่มีรสชาติดี มีกลิ่นหอมใช้รับประทานสดๆ หรือทำน้ำส้มคั้นได้ดี ส้มเกลี้ยงมีชิ่อสามัญว่า Sweet Orange มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Citrus senesis L.Osbeck จัดเป็นส้มประเภทเปลือกติดกับเนื้อ ( thigh skin ) ไส้ตรงกลางแน่น ไม่กลวง
ลำต้น
เป็นต้นที่มีลำต้นขนาดปานกลางมีความสูงประมาณ 5 – 7 เมตร แต่ถ้าอยู่ในที่เหมาะสมอาจสูงถึง 10 เมตร ทรงต้นค่อนข้างทึบ ลำต้นและกิ่งก้านแข็งแรง ส่วนมากมีหนามตามลำต้น หนามใหญ่และแข็ง ยิ่งต้นที่เกิดจากเมล็ดจะยิ่งมีหนามมากและยาวเรียวแหลม
ใบ
ค่อนข้างใหญ่ แต่น้อยกว่าส้มโอ มีลักษณะเป็นรูปไข่หรือผลสมอ ยาว 2–3 นิ้วฟุต กว้าง 1–2 นิ้วฟุต ใบแบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนแรกเรียกว่า “แผ่นใบ” ตอนติดกับก้านใบเรียกว่า “หูใบ” ส้มเกลี้ยงเป็นส้มที่มีหูใบเล็กและเรียวแทบมองไม่เห็นเด่นชัด สีของใบด้านบนเขียวเข้มเป็นมัน ด้านล่างเขียวอ่อนขอบใบเรียบ
ดอก
ออกตามปลายกิ่งเล็กๆ เป็นช่อจำนวน 10–20 ดอก บางที่ออกดอกเดียวก็มี เป็นดอกสมบรูณ์เพศ ขนาดปานกลาง กลีบดอกมีสีขาวมี 4–5 กลีบ เมื่อดอกบานมีกลิ่นหอมมาก ฤดูที่ผลิดอกอยู่ระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน และบานใบระหว่างเดือนเมษายน -พฤษภาคม ระยะจากผลิดอกถึงบานประมาณ 30 วัน และระยะจากดอกบานถึงผลแก่ประมาณ 8 เดือน
ผล
ผลส้มเกลี้ยงมีขนาดปานกลางถึงค่อนข้างใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8–10 เซนติเมตร มีลักษณะกลม สูง ไม่แป้น จัดเป็นประเภทผล berry จำพวก hesperidium ผลที่ยังไม่แก่มีสีเขียวเข้ม แต่เมื่อแก่จัดเป็นสีเขียวอมเหลือง ดึงเหลืองมีตุ่มน้ำมันเล็กๆ กระจายรอบผล เปลือกหนาปานกลางประมาณ 0.5 เซนติเมตร มีลักษณะค่อนข้างแข็ง ภายในผลแบ่งเป็นช่องประมาณ 12 ช่อง อัดแน่นด้วยเนื้อซึ่งเป็นส่วนของ endocarp มีลักษณะเรียวยาว สีเหลือง ภายในมีน้ำ มีรสหวานอมเปรี้ยว ตรงกลางมีแกนแข็งสีขาว ปริมาณผลใน 1 ต้น จะมีตั้งแต่ 30–1000 ผล
เมล็ด
เมล็ดส้มเกลี้ยงใหญ่กว่าเมล็ดส้มเขียวหวานเล็กน้อย แต่เล็กกว่าส้มโอ เปลือกของเมล็ดย่น สีขาว เมล็ดค่อนข้างแบน
การขยายพันธุ์
การขยายพันธ์ส้มเกลี้ยงมีอยู่ 2 แบบ คือ การขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและกรขยายพันธ์โดยใช้ส่วนอื่นๆ ได้แก่ กิ่ง ยอด ตา โดยวิธีที่แตกต่างกันออกไป เช่น การปักชำ ตอน ติดตา และต่อกิ่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของต้นว่ามีความยากหรือง่ายในการงอกของราก ส้มบางชนิด เช่นมะนาว งอกรากได้ง่ายมักใช้วิธีปักชำ หรือ ตอนกิ่ง เป็นต้น สำหรับการขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ในส้มนั้น ยังนิยมมาตราบจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากพืชตระกูลส้มทุกชนิด มีคุณสมบัติให้ต้นกล้าได้ มากกว่า 1 ต้น ต่อเมล็ดได้โดยมีเปอร์เซ็นต์การกลายพันธุ์น้อย แม้กระนั้นก็ตาม เกษตรกรยังนิยมขยายพันธ์ โดยวิธีการตอน ติดตา และต่อกิ่ง เนื่องจากส้ม จะให้ผลผลิตเร็วกว่ากระเพาะเมล็ด และทรงพุ่มแผ่กว้างทำให้ เก็บผลิตได้สะดวก นอกจากนี้การใช้ต้นต่อที่เหมาะสมจะทำให้ทนต่อโรครากเน่าและโรคโคนเน่า แต่มีข้อเสียบ้างคือ เกิดการแพร่ ระบาดของไวรัสได้ง่าย
การปลูกส้มเกลี้ยงในปัจจุบัน
การปลูกส้มเกลี้ยงในปัจจุบันส่วนใหญ่จะปลูกปะปนกับไม้ผลชนิดอื่นๆหลายๆประเภท เช่นลำไย มะนาว ส้มโอ เป็นต้น การปลูก ปลูกไม่เป็นระเบียบ มีพื้นที่บริเวณใดว่าง ซึ่งอาจจะเกิดจากไม้ผลเดิมตายไป ตัดต้นทิ้งแล้วปลูกไม้ผลต้นใหม่แทนที่เดิม อาจเป็นไม้ผลชนิดเดิม หรือ ชนิดใหม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับว่าขณะนั้นมีกล้าไม้ผลชนิดใดอยู่ที่สามารถปลูกขณะนั้นได้อีกประการหนึ่งคือเพื่อนบ้านหรือสวนที่อยู่ใกล้เคียงขยายผลผลิตชนิดใดได้เงินมากจะปลูกไม้ผลชนิดนั้นๆตาม การขยายพันธุ์ส้มเกลี้ยงส่วนใหญ่ใช้กิ่งตอนโดยตอนจากต้นเดิมที่มีอยู่แล้ว อาจขอตอนกิ่งจากเพื่อนบ้านที่คุ้นเคยกัน หรือลักษณะการตอนกิ่งผ่า คือการแบ่งกิ่งตอนให้เจ้าของสวนครึ่งหนึ่งผู้ตอนกิ่งได้เครื่องหนึ่ง (ลุงจันทร์ ตากัน ผู้ให้ข้อมูล 27 กันยายน 2542)
วิธีการปลูก
เมื่อขุดหลุมปลูกจะใช้หญ้าแห้งหรือใบไม้แห้งรองก้นหลุมปลูกเสร็จจะรดน้ำ ใช้ใบไม้แห้งหรือหญ้าแห้งปกคลุมดินรอบๆต้น มีเกษตรบางรายที่นำหม้อดินเผามาใส่น้ำใช้เศษผ้าวางพาดจากในหม้อให้ชายผ้ายาวจนถึงพื้นดินวางไว้บริเวณใต้ต้น
การดูแลรักษา
จะให้น้ำในช่วงฤดูแล้งมีการขุดเจาะน้ำใต้ดิน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการขุดเจาะบ่อเฉพาะผู้ที่มีฐานะดีมีเงินทุนพอที่จะหาซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวได้และต้องเป็นสวนที่มีไฟฟ้าเข้าถึงส่วนการใส่ปุ๋ยหรือใช้สารกำจัดศัตรูพืชมีการนำมาใช้น้อยมาก การตัดแต่งกิ่งค่อนข้างน้อยเช่นเดียวกัน เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่มักจะเสียดายกิ่งเก็บไว้เพื่อให้ออกดอกผลต่อไป บางรายตัดออกโดย วิธีการตอนกิ่ง เมื่อรากกิ่งตอนแข็งแรงดีแล้วจึงตัด สวนที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำวังจะไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำแต่จะพบบางปีปัญหาในฤดูฝนหากปริมาณฝนมีมากเกินไปน้ำจะท่วม เช่นในปี พ.ศ.2542 ที่ผ่านมาปริมาณน้ำในแม่น้ำวังเพิ่มขึ้นสูงมาก น้ำท่วมสวนส้มของ เกษตรกรถึง 2 ครั้ง ส้มที่มีอายุการปลูกไม่เกิน 3 ปี ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด
การเก็บผลผลิตส่วนใหญ่จะใช้วีการเก็บที่ละลูกโดยใช้บันไดไม้ไผ่พาดกับต้น ส้มเกลี้ยงที่มีอายุมากเกิน 10 ปีและปลูกปะปนกับไม้ผลหลายๆประเภทส่วนใหญ่ลำต้นจะสูงทำให้ยุ่งยากในการเก็บบางรายจึงต้องใช้ไม้สอบมีผู้รับซื้อบางรายกำหนดให้เก็บส้มโดยให้มีก้านกับผล เกษตรกรจึงจำเป็นต้องหากรรไกรตัดกิ่งทุกครั้งบันไดไม้ไผ่ที่มี 2 ขาก็ใช้ลำบาก จึงต้องเปลี่ยนเป็นบันได 4 ขา ที่ทำจากโลหะแทน
การจำหน่ายผลผลิตโดยจำหน่ายเป็นกิโลกรัมประมารกิโลกรัมละ 4–5 บาท ในช่วงไม่มีเทศกาลแต่ถ้าหากก่อนถึง เทศกาลวันตรุษจีน วันเสารทจีน ประมาณหนึ่งอาทิตย์ หรือในช่วงเข้าพรรามีงานทำบุญสลากภัต จะจำหน่ายได้ราคาประมาณกิโลกรัมละ 7–10 บาทซึ่งราคายังขึ้นกับคุณภาพของส้มเกลี้ยงด้วย เช่น ผิวสวยแก่กำลังดี รสหวาน จะได้ราคาดี
การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ของรัฐน้อย ไม่มีเจ้าหน้าที่มาแนะนำหรือให้การช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกส้มเกลี้ยง ส่วนใหญ่จะให้การสนับสนุนการปลูกพืชไร่ เช่น ถั่วเหลือง งา เป็นต้น อำเภอเถินเคยจัดงานของดีเมืองเถินขึ้นในปี พ.ศ.2537 เพื่อเน้นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การปลูกส้มเกลี้ยงซึ่งได้รับความสนใจจากคนในท้องถิ่นพอควรหลักจากนั้นกิจกรรมดังกล่าวได้ล้มเลิกไป โดยทั่วไปแล้วสภาพการปลูกส้มเกลี้ยงในปัจจุบันลดปริมาณการปลูกลงเรื่อยๆซึ่งเป็นเพราะมีปัจจัยหลายประการที่มีอิทธิพลต่อปริมาณการปลูกแต่อย่างไรก็ตามส้มเกลี้ยงก็ยังคงเป็นผลไม้ประจำท้องถิ่นที่คนส่วนใหญ่บอกได้ว่าเป็นผลไม้ที่มาจากอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.