kimzagass หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11706
|
ตอบ: 10/05/2013 9:14 am ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาวิทยุ 10 MAY *ยูคา ดินตาย, มะม่วงขาดทุน |
|
|
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 10 MAY
***********************************************************
สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.1009.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ก่อนเริ่ม
รายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986
***********************************************************
จาก : (089) 738-23xx
ข้อความ : ที่เคยปลูกยูคามานานกว่า 20 ปี อยากเปลี่ยนมาปลูกมันสำปะหลัง มีคนบอกว่าดินที่เคยปลูกยูคามาก่อนจะปลูกอะไรไม่ขึ้น เพราะดินมันตายหมดแล้ว เรื่องนี้เท็จจริงแค่ไหน แก้ ไขได้ไหม ....ขอบคุณครับ จาก ฉะเชิงเทรา
ตอบ :
- ได้ แก้ได้ ดินที่แก้ไม่ได้ คือ ดินติดจำนอง จากเดิมที่ดินไม่ดี พอแก้ให้ดีขึ้นมาได้ คนรับจำนองก็ยึด .... ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่แก้ไม่ได้ จะแก้ที่ต้นเหตุหรือแก้ที่ปลายเหตุล่ะ แก้ที่ปลายเหตุ แก้ได้เป็นครั้งคราว เดี๋ยวก็เกิดอีก เกิดแล้วเกิดเล่า เกิดซ้ำเกิดซาก บางทียิ่งแก้ยิ่งยุ่งเหมือนลิงติดแห .... เมื่อมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ใช้ทั้งวิธี แก้เฉพาะหน้า + แก้ต้นตอ คือ ทั้งกันและแก้ จะดีไหม .... วิเคราะห์ดีๆ ต้นตอที่แท้จริงของปัญหานั้นๆ เกิดจากอะไร
- ยูคาลิปตัสไม่ได้เป็นตัวทำลายดิน ไปกล่าวหาเขา บาป.... เป็นเพราะธรรมชาติของยูคาเขาใช้น้ำมาก ดูดน้ำเก่ง ดูดไปแล้วเอาไปเก็บไว้ในต้นตัวเองจนน้ำหมดไปจากดิน .... พื้นที่ปลูกยูคาหรือปลูกพืชไร่ทั่วๆไป เป็นพื้นที่แห้งแล้ง ไม่มีน้ำ หรือน้ำน้อยเป็นทุนอยู่แล้ว สังเกตุในแปลงยูคาช่วงหน้าแล้งจะไม่มีพืชอะไรขึ้นที่โคนต้นยูคาหรือบริเวณใกล้เคียงเลย ก็เพราะบริเวณนั้นไม่มีน้ำ เนื่องจากถูกต้นยูคาดูดไปจนหมดนั่นเอง สังเกตุต้นยูคาขึ้นริมน้ำที่มีน้ำตลอดปี นอกจากจะโตเร็วกว่าต้นยูคาที่ขึ้นบริเวณแห้งแล้งแล้ว โคนต้นยูคายังไม้อื่นขึ้นได้อีกด้วย ก็แสดงว่า ต้นยูคาไม่ได้ทำลายดิน แต่ทำให้ดินแห้งต่างหาก
- เมื่อธรรมชาติของยูคาเป็นเยี่ยงนี้ หากใครปลูกยูคาแล้วให้น้ำสม่ำเสมอ ให้สารอาหารกลุ่มอินทรีย์สาร (ยิบซั่ม เฟอร์มิซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย ปีละ 2 ครั้ง, ให้น้ำหมักชีวภาพ 3 เดือน/ครั้ง) ต้นยูคาจะโตเร็วกว่าปกติ 3-4 เท่า เลี้ยง 5-10 ปี ต้นโตขนาดคนโอบ เอาไปทำไม้กระดานจะได้มูลค่าสูงกว่าเอาไปทำฟืน .... ไม้กระดานยูคาสีขาว สอาด แปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ ดีไซน์แบบดีๆ อินเตอร์ๆ หน่อย ส่งออก ไร่ละเป็น ล้าน ไหม
พื้นที่ปลูกยาคา ปลูกพืชไร่ทั่วๆไป คนทำนอกจากไม่บำรุงดินแล้วยังทำลายดินอีกด้วย ปุ๋ยอินทรีย์/จุลินทรีย์ ไม่ใส่ แถมอินทรีย์วัตถุ/จุลินทรีย์ ของเดิมตามธรรมชาติที่มีก็เอาออกเสียอีก แถมอัดยาฆ่าหญ้า-สารเคมียาฆ่าแมลง-ไฟเผา-แดดเผา-ปุ๋ยเคมีเหลือตกค้าง ซ้ำแล้วซ้ำอีก รุ่นแล้วรุ่นเล่า นี่แหละ ตัวทำลายดินโดยแท้
- ดินตาย คือ ดินไม่ดี ดินไม่อุดมสมบูรณ์ สาเหตุเพราะเนื้อดิน ไม่มีอินทรีย์วัตถุ และจุลินทรีย์ เมื่อรู้ว่าไม่มีก็ใส่ลงไป เนื้อดินไหนมีอินทรีย์วัตถุน้อยก็ใส่มาก เนื้อดินไหนมีอินทรีย์วัตถุมากก็ใส่น้อย มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการของชนิดพืช .... ที่มาของอินทรีย์วัตถุ คือ ซื้อ/ทำเอง ซื้อครึ่งทำเองครึ่ง หรือ ซื้อด้วยเงิน/ซื้อด้วยเวลา
.... ซื้อด้วยเงิน ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, ขี้วัวขี้ไก่, หว่านทั่วแปลงแล้วไถกลบด้วยรถไถระเบิดดินดาน (ไถสิ่ว/ริปเปอร์) ลงลึกๆ 30-50 ซม.
.... ซื้อด้วยเวลา (เอาเงิน/ไม่เอาเงิน) ปลูกถั่วไร่ (ถั่วเขียว/เหลือง/แดง/ดำ) เก็บเกี่ยวผลผลิตขายเอาเงินแล้วไถกลบเศษซาก กับไม่เอาผลผลิตขาย พอต้นถั่วโตเริ่มออกดอกก็ให้ไถกลบ เอาเศษซากบำรุงดิน วิธีการนี้ ควรปลูกต้นถั่วเพื่อไถกลบเศษซากซัก 2-3 รุ่น ก็จะได้เศษซากพืชปริมาณมหาศาล .... นอกจากนี้ ระหว่างที่ปลูกพืชตระกูลถั่วแล้วมีการใส่ ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์. ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, ขี่วัวขี้ไก่ ลงไปด้วย นอกจากจะได้ผลผลิตจากต้นถั่วแล้ว ยังได้สารอาหารอินทรีย์สต๊อคไว้ในดินอีกด้วย
- เมื่อมีอินทรีย์วัตถุแล้วต้องมีจุลินทรีย์ด้วย ระหว่างไถกลบเศษซากพืช หรืออินทรีย์วัตถุต่างๆ ก็ให้ใส่จุลินทรีย์หน่อกล้วยหรือน้ำหมักชีวภาพสูตรไหนก็ได้ ที่มั่นใจว่ามีจุลินทรีย์ อัตรา 2-3 ล./ไร่ แล้วไถคลุกเคล้ากับเนื้อดินดีๆ จากนั้นจุลินทรีย์จะทำหน้าที่ย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้เป็นสารอาหารสำหรับพืช และปรับสภาพโครงสร้างดินให้เอง
คิดจะปลูกสำปะหลัง ทำแบบเดิมๆ ไม่บำรุงดิน ไม่ให้น้ำ ได้แค่ 4-6 ตัน/ไร่ กี่รุ่นๆ ๆๆ ก็มีแต่ขาดทุน ไม่ขาดทุนก็ไม่มีโอกาสรวย 20 ไร่ได้ 80 ตัน แต่ถ้ายอมลงทุนทำดินให้ดี ลงทุนสร้างเครื่องมือให้น้ำ จะได้ 10 ตัน/ไร่ 20 ไร่ได้ 200 ตัน .... ยิ่งปลูกสำปะหลังแบบก้าวหน้า ดินดีอินทรีย์วัตถุถึงๆ ให้น้ำสม่ำเสมอ ให้ปุ๋ยถูกสูตรทั้งทางใบทางราก ลงหลุมละ 2 ต้น จะได้ 20- ตัน/ไร่ 20 ไร่ได้ 200 ตัน แบบนี้รุ่นเดียวก็คุ้มเกินคุ้ม แถมลดต้นทุนรุ่นหน้า รุ่นต่อๆ ไปลง ได้อีกด้วย
- ปลูกสำปะหลังแบบก้าวหน้า คือ ปลูกแบบต้นคู่ แต่ละต้นห่างกัน 1 ศอกแขน วิ่งคู่กัน 2 แถวตามความยาวแปลง เมื่อต้นโตขึ้นให้ตัดกิ่งด้านในของแต่ละคู่ออก เพื่อไม่ให้บังแสงแดดซึ่งกันและกันจนเกินไป เหลือไว้เพียง 2-3 กิ่งด้านนอกก็พอ แบบนี้เนื้อที่เท่าเดิมแต่จำนวนต้นเพิ่มขึ้นเท่าตัว นั่นหมายถึงจำนวนหัวก็ต้องเพิ่มมากขึ้นด้วย จากนั้นก็บำรุงตามความเหมาะสมของสำปะหลัง
- บำรุงสำปะหลัง
.... ทางใบ : น้ำ 200 ล. + ไบโออิ 5-10-40 (200 ซีซี.) + สารสมุนไพร 1 ล. ทุก 15 วัน ฉีดให้เปียกโชก ทั้งไต้ใบบนใบ ทุก 15 วัน
.... ทางราก : ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (2 ล.) + 5-10-40 หรือ 0-0-60 สูตรใดสูตรหนึ่ง 1-2 กก./ไร่/2 เดือน โดยลากสายยางฉีดโคนต้น ฉีดโชกๆให้เหมือนฝนตก
หมายเหตุ :
- ลงทุนติดสปริงเกอร์แบบหัวหมุน พ่นน้ำเหนือยอด แบ่งแปลงเป็นโซนๆ มีหม้อปุ๋ยหน้าโซน อุปกรณ์ทุกชิ้นถอดประกอบได้ ให้ น้ำ/ปุ๋ย/ยา สูตรไหนไปกับระบบน้ำได้ รุ่นเดียวก็ได้ทุนคืน แปลงขนาด 20 ไร่ ใช้เวลาครึ่งวัน ด้วยแรงงานคนเดียว ก่อนขุดสำปะหลังก็ถอดเก็บไว้ใช้รุ่นหน้า รุ่นต่อไปได้
- เลิกคิดติดระบบน้ำหยด เพราะ .....
1) น้ำแผ่กระจายไม่กว้างทั่วเขตลงหัว หรือทรงพุ่ม
2) เสียเวลา เพราะต้องคอยคุม ถ้าน้ำมากเกิน สำปะหลังหัวเน่า
3) น้ำหยดไม่เท่ากันทุกหัว บางหัวหยดแรง บางหัวหยดค่อย
4) ปล่อยปุ๋ยไปกับน้ำหยดไม่ได้ เพราะเนื้อปุ๋ยนอนก้นในท่อ
5) ตันง่าย ต้องเดินสำรวจทุกหัว ทุกครั้งที่ใช้งาน
6) มะเร็งกินอารมย์
- ให้น้ำเปล่า หรือ น้ำ + ปุ๋ย + สมุนไพร บ่อยๆ ป้องกันเพลี้ยแป้งสีชมพูได้เป็นอย่างดี เพราะเพลี้ยตัวนี้ไม่ชอบความชื้น
- ได้เปอร์เซ็นต์แป้งสูง
- ได้ต้นขายเป็นต้นพันธุ์ เพราะต้นจะสมบูรณ์มากๆ
บำรุงดินสำหรับสำปะหลังรุ่นหน้า หรือเปลี่ยนใจไปปลูกพืชอื่นได้
-------------------------------------------------------------------------------------
จาก : (080) 839-26xx
ข้อความ : ผู้พันครับ มะม่วงเขียวเสวย น้ำดอกไม้ 20 ไร่ ปีนี้ลงทุนไป 40,000 กว่า ลูกที่ได้มีหลายไซส์ หลายเกรด ปีนี้ได้ผลน้อยกว่าปีก่อนด้วย เพราะตอนเป็นดอกมีฝนตกบ่อย ดอกร่วงมาก ตอนลูกขนาดกลาง โดนพายุพัดลูกร่วงอีก ปีนี้ต้องขายยกสวน ได้ไม่ถึง 30,000 ผมมาคิดดู ทำมะม่วง 5 ปี ได้ 3 ปี ขาดทุน 2 ปี มาตลอด เกษตรแบบนี้มีแต่หนี้กับจนแน่ เลิกคิดเรื่องมะม่วง มาคิดเรื่องผู้พัน ทำยังไงดีครับ .... พิษณุโลก
ตอบ :
- นี่แหละที่เรียกว่า ฝากอนาคต ไว้กับมะม่วงอย่างเดียว ได้คือได้ เสียคือเสีย สังเกตุไหมวันนี้มะม่วงเต็มบ้านเต็มเมือง คนกินสบาย คนทำเป็นยังไง แม้แต่ของลุงคิมเอง ใช่ว่าจะรอด เหลือทิ้งให้ปลาในบ่อกินเป็นว่าเล่น ถ้ายังรักมะม่วงอยู่ทางออกมีทางเดียว คือ ทำ นอกฤดู เท่านั้น .... อันที่จริงคงไม่ใช่แต่มะม่วงหรอกนะ มะอย่างอื่นก็เหมือนกัน ถ้าเป็นผลไม้ปี ออกในฤดูกาล ไม่มีราคาหรอก ต้องทำนอกฤดูเท่านั้น ไม้ผลบางอย่างออกก่อนแค่ 1 เดือน หรือออกหลังแค่ 1 เดือนก็เป็นราคาแล้ว นอกจากนี้ เกรด เอ. จัมโบ้. ก็มีส่วนอย่างมาก ที่บอกว่า ใหญ่กว่าเป็นต่อ นั่นแหละ ถึงออกในฤดูก็ขายง่าย ขายได้ก่อน ยิ่งออกนอกฤดูด้วยแล้วไม่พอขายเลยเชียวแหละ ว่ามั้ย
- เนื้อที่ตั้ง 20 ไร่ถือว่าไม่ใช่น้อย วางแผนใช้พื้นที่ใหม่เถอะ ทำมะม่วงแค่ 10 ไร่ก็พอ ที่เหลือ 10 ไร่ ลงไม้ผลอย่างอื่น ไม่ผลอะไรก็ได้ที่ผลผลิตออกตลาดไม่ตรงกับผลไม้เกรด เอ. อย่างทุเรียน เงาะ มังคุด แม้แต่ทุเรียน เงาะ มังคุด ออกตามฤดูกาลก็มีสิทธิ์ล้นตลาดได้ ต้องทำนอกฤดูอีกนั่นแหละถึงจะรอด .... เลือกไม้ผลอย่างอื่นซัก 2 อย่าง ๆละ 3 ไร่ ปลูกระยะชิด ไร่ละ 200-300-400 ต้นไปเลย ยังเหลือที่อีก 4 ไร่ ก็เลือกปลูกผักอายุยืนนาน เช่น ชะอม ผักหวานบ้าน พริกกะเหรี่ยง มะกรูดตัดใบ .... ว่าแต่ แรงงานมีไหม มีเทคนิคในการบำรุงเลี้ยงไหม
แปลงมะม่วง 10 ไร่ที่ขยักไว้ ช่องว่างระหว่างต้นมะม่วงให้ลงพืชแซม ประเภทต้องการแสงแดดน้อย ข่า พริกกะเหรี่ยง ไม้ดอกอย่างหน้าวัว ก็ได้
-----------------------------------------------------------------------------------------------
จาก : (032) 561-438
ข้อความ : น้อยหน่าเพชรปากช่อง แก่จัดแล้วเก็บมาบ่ม พอเริ่มสุกเพียงเล็กน้อย ที่เปลือกเป็นสีดำ เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร ....
ตอบ :
- ผลเริ่มสุก เปลือกเป็นสีดำ คือ โรคผลจุด เหมือนมะม่วง เกิดจากเชื้อราที่อาศัยเกาะอยู่บนผิวตั้งแต่ผลยังเป็นผลดิบ จนกระทั่งผลเริ่มสุก เนื้อผลไม้มีรสหวาน เชื้อตัวนี้จะขยายพันธุ์เข้าไปกินเนื้อในผล แก้ไขโดย เก็บผลดิบมาแล้ว แช่ใน น้ำ + ว่านน้ำสด หรือ เหง้าต้นปรือสด โขลกพอแหลก สารออกฤทธิ์ในว่านน้ำหรือต้นปรือจะกำจัดเชื้อตัวนี้ ล้างทำความสอาดผลดีแล้วนำขึ้นผึ่งลม จากนั้นจึงนำไปบ่มตามปกติ เมื่อผลสุกจนถึงสุกงอมก็จะไม่เป็นโรคผลจุด
-------------------------------------------------------------------------------------------
จาก : (089) 190-37xx
ข้อความ : ผู้พันครับ เชียงใหม่ปลูกยางพาราได้ไหม ที่ไหนปลูกบ้าง....ขอบคุณครับ
ตอบ :
- ได้ครับ ถ้ามีน้ำเพียงพอ อย่าลืมว่า ยางพาราภาคใต้ ฝนแปดแดดสี่ ถ้าจะปลูกที่เชียงใหม่ก็ต้อง ฝนแปดแดดสี่ เหมือนกัน ถึงจะเจริญเติบโตดี
- เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ปตท. เคยมีโครงการส่งเสริมปลูกยางพาราที่เชียงราย พะเยา พร้อมทั้งให้เทคโนโลยี ให้ทุนด้วย ถึงวันนี้คาดว่าโครงการนี้ยังคงอยู่ ติดต่อสอบถามที่สถานีพัฒนาที่ดินเชียงราย
----------------------------------------------------------------------------------------
จาก : (089) 043-57xx
ข้อความ : มะม่วงน้ำดอกไม้ ใช้ ไบโออิ ยูเรก้า กับ 21-7-14 ผลรุ่นแรกใหญ่สมใจ แต่ผลรุ่นหลังเร่งโตไม่ขึ้น มีวิธีแก้ไขไหมครับ ขอคำตอบค่ำนี้ เพราะเดือนหน้าปลายเดือนจะเก็บแล้ว ... ขอบคุณครับ
ตอบ :
- เร่งได้ครับ .... เคยให้ทางใบ กี่วัน/ครั้ง, ครั้งละกี่ ซีซี., .... สมมุติ เคยให้ น้ำ 20 ล./ปุ๋ย 20 ซีซี./7-10 วัน/ครั้ง ปรับเป็น น้ำ 20 ล./ปุ๋ย 10 ซีซี./4 วัน/ครั้ง คือ ให้ถี่ขึ้น แต่ปริมาณปุ๋ยที่ต้นได้รับเท่าเดิม .... ทางราก เคยให้ 1 กก./ต้น/เดือน/ครั้ง ปรับเป็นให้ ครึ่ง กก./ต้น/15 วัน/ครั้ง ตามหลักวิชาการแล้ว น่าจะดีขึ้น .... เช้าพรุ่งนี้เริ่มเลย
- แคลเซียม โบรอน ปกติ .... ให้น้ำสม่ำเสมอ ปกติ
-----------------------------------------------------------------------------------------
. |
|