kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 20/04/2010 8:47 pm ชื่อกระทู้: 'หิ่งห้อย' ดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำและสิ่งแวดล้อม |
|
|
'หิ่งห้อย' ดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำและสิ่งแวดล้อม
"หิ่งห้อย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ หิ่งห้อยบก ซึ่งตัวหนอนจะอาศัยอยู่ตามพื้นดินที่มีความชุ่มชื้น
หิ่งห้อยน้ำ ตัวหนอนจะอาศัยอยู่ในน้ำ และกลุ่มสุดท้ายคือ หิ่งห้อยครึ่งน้ำครึ่งบก ตัวหนอน จะอาศัย
ตามริมฝั่งแหล่งน้ำและสามารถอยู่ ใต้น้ำได้ระยะเวลาหนึ่ง เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2539 สมเด็จพระ
นางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชเสาวนีย์แก่องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ให้
ศึกษาความสัมพันธ์ของพรรณไม้ป่ากับหิ่งห้อยให้ได้ทราบครบวงจรชีวิต
ดร.สมยศ ศิลาล้อม นักกีฏวิทยา จากสำนักงานวิจัย องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ได้ให้รายละเอียด
ถึงความสำคัญของหิ่งห้อยไว้อย่างน่าสนใจว่า
หิ่งห้อยถือเป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำ สิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี เนื่องจากตลอดวงจรชีวิตจะต้อง
อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้แหล่งน้ำสะอาดและตามระบบ นิเวศที่มีความสมบูรณ์ เช่น ในพื้นป่า บน
ภูเขาสูง ลำธารหรือตามริมแม่น้ำลำคลองและป่าชายเลนที่ยังไม่ประสบปัญหาด้านมลพิษมาก นัก
ทางด้านสัตววิทยาวงจรชีวิตของหิ่งห้อยจะมี 4 ระยะ คือ ไข่ ตัวหนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย เมื่อ
หิ่งห้อยตัวเต็มวัยได้ผสมพันธุ์แล้ว ตัวเมียจะวางไข่ ไข่ฟักเป็นตัวอ่อน ตัวหนอนจะมีการลอกคราบ
หลายครั้ง เมื่อโตจนถึงระยะสุดท้ายจะหยุดกินอาหารแล้วเข้าดักแด้และลอกคราบ เป็นตัวเต็มวัย
วงจรชีวิตสมบูรณ์จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือนถึง 1 ปีเศษ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ตัวหนอนของหิ่งห้อย
ดำรงชีวิตแบบผู้ล่า กินสัตว์เล็กเป็นอาหาร เช่น หอย ไส้เดือน ตัวอ่อนแมลง
หิ่งห้อยมีอวัยวะผลิตแสงอยู่บริเวณที่ปล้องท้อง ตัวเต็มวัยของเพศเมียจะมีขนาดและจำนวนปล้อง
ผลิตแสงน้อยกว่าเพศผู้ ส่วนใหญ่หิ่งห้อยเพศเมียจะมีปล้องผลิตแสงจำนวน 1 ปล้อง ในขณะที่เพศ
ผู้จะมีจำนวน 2 ปล้อง แสงที่เรืองออกมาจากปล้องท้องของหิ่งห้อยเกิดจากสาร ลูซิเฟอริน
สันดาปกับออกซิเจนที่ได้รับจากการหายใจ หิ่งห้อยจะผลิตแสงได้ทันทีหลังฟักออกจากไข่ ใน
ระยะตัวหนอนและระยะดักแด้แสงที่เรืองออกมาจะทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจาก การถูกล่า ส่วนใน
ระยะตัวเต็มวัยแสงที่หิ่งห้อยกะพริบออกมาเพื่อส่งสัญญาณในการหาคู่ผสม พันธุ์ จากที่ได้กล่าวมา
แล้วในข้างต้นว่า ตัวอ่อนหิ่งห้อยดำรงชีวิตแบบผู้ล่า ในขณะเดียวกันก็เป็นอาหารสัตว์ผู้ล่าชนิดอื่น
ได้เช่นกัน
นับได้ว่าหิ่งห้อยเป็นตัวถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศซึ่งถือได้ว่ามีความ สำคัญมาก เนื่องจากจะ
ทำให้ระบบนิเวศมีความ สมดุลในตัวเอง นอก จากนั้นจากการศึกษา ยังพบว่าหิ่งห้อยเป็น สัตว์ที่มี
ความไวต่อการเปลี่ยนแปลงมาก เมื่อพบว่าแหล่งที่อยู่อาศัยถูกปรับเปลี่ยนหิ่งห้อยจึงปรับตัวไม่ทัน
เป็นที่สังเกตว่าถ้าบริเวณใดมีหิ่งห้อยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากทำให้คาดเดาได้ ว่าพื้นที่นั้นมีความ
สมดุลของระบบนิเวศอยู่นั่นเอง
ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ
ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=347&contentId=44288 |
|